ความเชื่อ เป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของมนุษย์ โดยยอมรับสิ่งหนึ่งสิ่งใดว่าเป็นความจริง และเชื่อถือว่ามีอำนาจบันดาลทุกข์สุขต่อการดำรงชีวิตได้ โดยไม่ต้องการพิสูจน์ว่าสิ่งนั้นเป็นความจริงตามเหตุผลหรือหลักวิทยาศาสตร์หรือไม่
ความเชื่อของคนไทยโบราณ มีความพิเศษที่แฝงความห่วงใยไว้ด้วย อยากให้ผู้คนประพฤติแต่สิ่งดีงาม มีความปลอดภัย แต่จะไม่ตักเตือนสั่งสอนโดยตรง มักใช้กุศโลบายอ้างสิ่งที่มีอิทธิพลเหนือธรรมชาติซึ่งผู้คนในยุคนั้นเคารพยำเกรง ทำให้คำตักเตือนนั้นได้รับความเชื่อถือ และสืบต่อๆกันมา
แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีคำเตือนไว้ว่า ไม่ควรเชื่อตามความเชื่อเหล่านั้นอย่างงมงายโดยไม่ไตร่ตรอง จึงมีคำเตือนไว้ว่า “เชื่อบุราณจะบานบุรี เชื่อมั่งไม่เชื่อมั่งก็จะดี”
ส่วนหนึ่งของความเชื่อเหล่านั้น อย่างเช่น...
จิ้งจกร้องทักต้องหยุด ทั้งนี้เพราะเสียงร้อง จุ๊..จุ๊.. ของจิ้งจกนั้น เหมือนเสียงทักท้วงของผู้ใหญ่ ฉะนั้นเมื่อเวลาพูดหรือทำอะไร เมื่อจิ้งจกร้องจึงเหมือนมีเสียงทักท้วง คนโบราณให้หยุดและใคร่ครวญดูอีกครั้ง ว่าสิ่งที่กำลังพูดกำลังทำนั้นเป็นสิ่งที่ควรหรือไม่
ขี่หมาฟ้าผ่า เด็กซนเมื่อเห็นหมาก็อยากเล่นด้วย บางครั้งก็คึกคะนองถึงขั้นกระโดดขึ้นขี่หลัง แต่หมาไม่คุ้นกับการถูกขี่ จึงหงุดหงิดรำคาญหรืออาจเจ็บ ผู้ใหญ่เกรงว่าลูกหลานจะถูกหมากัด แต่ถ้าห้ามตรงๆว่า “อย่าไปขี่ มันจะกัดเอา” เด็กดื้อก็อาจไม่เชื่อ เลยใช้กุศโลบายบอกว่า “ขี่หมาฟ้าจะผ่า” ให้ดูน่ากลัวกว่า
นกแสก ทูตมรณะ นกแสกเป็นนกที่หากินในเวลากลางคืน มีเสียงที่แหวกความมืดมาไม่น่าฟัง อีกทั้งหน้าตายังเหมือนผีมากกว่านก คนโบราณจึงมีความเชื่อว่า ถ้านกแสกมาจับหลังคา หรือร้องเมื่อบินผ่าน จะมีคนในบ้านนั้นเจ็บป่วยหรือตายในเร็ววัน
นกขี้รดหัว จะมีเคราะห์ ไม่ว่าจะรดตอนไหนก็ถือว่าเคราะห์ร้ายทั้งนั้น ถ้ารดตอนกำลังจะออกจากบ้าน โบราณให้หยุดเดินทางทันที หรือเลื่อนกำหนดไปในวันอื่น เพราะจะมีอันตรายรออยู่ข้างหน้า แต่ที่แน่ๆ ไม่ว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ควรกลับเข้าบ้าน ไปล้างหัวเสียก่อน
เมื่อตัวเหี้ยเข้าบ้าน ให้ทักทายด้วยคำไพเราะ คนโบราณเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องอัปมงคลเสียทีเดียวเมื่อตัวเหี้ยเข้าบ้าน อาจพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส กลายเป็นเรื่องมงคลขึ้นได้ โดยอย่าไปด่า อย่าไปไล่ ให้พูดต้อนรับเขาด้วยคำไพเพราะที่เป็นมงคล เช่นเรียกว่า “ตัวเงินตัวทอง” ก็จะนำเงินทองมาให้
พุธห้ามตัด พฤหัสห้ามถอน เพราะถือกันว่าวันพุธเป็นวันแตกหน่อเจริญเติบโต ตัดผมวันพุธจะทำให้ หัวกุดท้ายเน่า ปัญญาทึบ และยังห้ามตัดต้นไม้ด้วย จึงให้วันพุธเป็นวันหยุดงานของช่างตัดผม ไม่หยุดวันอาทิตย์เหมือนอาชีพอื่น ส่วนวันพฤหัสเป็นวันที่อุดมสมบูรณ์ มีความมั่นคง มั่งคั่ง จึงห้ามถอนต้นไม้ ถอนเสาเรือน รวมทั้งถอนหนวดถอนเคราด้วย
อย่าปลูกบ้านวันเสาร์ เผาผีวันศุกร์ โกนจุกวันอังคาร แต่งงานวันพุธ เพราะจะประสบทุกข์ต่างๆ เนื่องจากวันเสาร์มีดาวเสาร์ซึ่งเป็นดาวแห่งบาปเคราะห์ครอบงำ โหรสมัยโบราณจะไม่ให้ฤกษ์งานมงคลในวันเสาร์ เช่น ยกเสาเอก ขึ้นบ้านใหม่ วันศุกร์เป็นวันแห่งโชคลาภ ความสุข ความรื่นเริง จึงไม่ควรทำเรื่องโศกเศร้า กล่าวกันว่า "เผาผีวันศุกร์ จะให้ทุกข์แก่คนยัง” วันอังคารเป็นวันที่ให้โทษรองจากวันเสาร์ อาจจะทำให้เลือดตกยางออกได้ ส่วนวันพุธโหรเรียกว่า “พุธเรรวน” จะทำให้ชีวิตคู่ไม่มั่นคง เลิกร้างกันได้
หวีหักขณะสางผมให้โยนทิ้ง อย่าได้นำมาใช้ต่อเป็นอันขาด ความเชื่อนี้มาจากที่สัปเหร่อหวีผมให้ศพ เมื่อหวีเสร็จก็หักหวีทิ้ง ไม่ให้ใครเอาไปใช้อีก
ผึ้งทำรังที่บ้านถือว่านำโชคมาให้ ผึ้งเป็นสัตว์ที่มีคุณค่าและขยันขันแข็งในการทำมาหากิน มีระเบียบวินัยดี หากมาทำรังที่บ้านจึงถือว่านำสิ่งดีมาให้ ห้ามไปไล่หรือไปรบกวนอย่างเด็ดขาด จะทำให้กลับกลายเป็นโชคร้าย มีเคราะห์หนักได้ ซึ่งก็น่าเชื่อ เพราะถ้าไปไล่หรือทำให้ผึ้งแตกรัง ผึ้งทั้งฝูงก็จะรุมชกเอา
มือชนกันขณะกินข้าว จะมีคนมาหา การรับประทานอาหารของคนไทยสมัยก่อนนั้น จะล้อมวงพร้อมหน้ากันทั้งครอบครัว จากนั้นอาหารที่เหลือจึงไปถึงบ่าวไพร่ ด้วยวิธีนี้ การจราจรเหนือจานกับข้าวอาจจะสับสนขึ้นได้ คนโบราณเชื่อกันว่า ถ้ามือชนกันขณะเอื้อมตักอาหาร จะมีแขกมาเยือน ให้เตรียมตัวต้อนรับได้เลย
อย่าเคาะจานขณะกินข้าว การรับประทานอาหารโดยใช้ช้อนกระทบจานจนเกิดเสียงดัง เป็นมารยาทที่ไม่ดีงาม โดยเฉพาะมารยาทไทยที่ห้ามไม่ให้กินมูมมาม กินคำโต ครั้นจะสอนจะสั่งบางคนก็หัวรั้นไม่เชื่อฟัง จึงใช้กุศโลบายบอกว่า การให้ช้อนกระทบจานมีเสียงดังเหมือนเคาะขณะรับประทานอาหารนั้น เป็นการเรียกวิญญาณที่เร่ร่อนให้มาร่วมกินด้วย
อย่าเอายักษ์มาปั้นหน้าอยู่ในบ้าน คือเอารูปวาดหรือรูปปั้นยักษ์มาเป็นเครื่องประดับบ้าน จะทำให้คนในบ้านปั้นหน้ายักษ์เข้าหากัน ทะเลาะเบาะแว้งจนบ้านไม่มีความสงบสุข ควรหารูปที่สวยงามมาติด จะทำให้จิตใจชื่นบาน โดยเฉพาะ “รูปที่มีอยู่ทุกบ้าน” จะทำให้มีกำลังใจประกอบแต่กรรมดี ขยันอดทน สละความสุขเพื่อประเทศชาติและประชาชน ตามรอยบาทของบุคคลในรูป
ร้องเพลงในครัวจะได้ผัวแก่ การทำครัวโดยเฉพาะอาหารไทยซึ่งเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ แม่ครัวจะต้องใช้มีสมาธิในการทำ ถ้าร้องเพลงขณะทำกับข้าวไปด้วย นอกจากน้ำลายจะกระเซ็นลงไปในอาหารแล้ว ยังอาจทำให้อาหารไหม้ หรือลืมว่าใส่น้ำปลาน้ำตาลลงไปแล้วหรือยัง ห้ามเฉยๆก็จะไม่ฟัง แต่ถ้าบอกว่าจะได้ผัวแก่ จะทำให้แม่ครัวสาวโสดปิดปากสนิท ถึงไม่โสดก็ไม่กล้าร้องเหมือนกัน
ผ้าเช็ดหน้า เป็นลางร้ายของการพราก คนโบราณห้ามไว้ว่า อย่าให้ของขวัญคนรักหรือเพื่อนเป็นผ้าเช็ดหน้า ถือกันว่าเป็นลางไม่ดี จะทำให้ต้องพลัดพรากจากกัน ทั้งนี้ก็เพราะผ้าเช็ดหน้าถูกใช้เป็นผ้าซับน้ำตาอยู่เป็นประจำ ให้ผ้าเช็ดหน้าจึงเหมือนให้เตรียมเช็ดน้ำตา
กระจกขุ่นมัวจะทำให้ชีวิตขุ่นหมอง คนโบราณเตือนไว้ว่า ถ้าปล่อยให้กระจกในบ้านขุ่นมัว จะทำให้ดวงชะตาของคนที่อยู่ในบ้านหม่นหมองไปด้วย เพราะกระจกเป็นสิ่งที่ทุกคนในบ้านต้องส่องดูหน้าทุกเช้า ถ้ากระจกขุ่นมัว ก็จะเห็นหน้าของตัวขุ่นหมอง ทำให้จิตใจห่อเหี่ยว ขาดพลังในการประกอบการงาน
ถ้าเจอเงินเหรียญตกอยู่ ให้หยิบโยนข้ามหัว โบราณถือว่า ถ้าเจอเงินเหรียญตกอยู่ ถ้าเก็บไว้จะทำให้ขัดลาภก้อนใหญ่ที่อยู่ข้างหน้า ให้หยิบขึ้นมาแล้วโยนข้ามหัวไปข้างหลัง จะพบลาภก้อนใหญ่กว่าที่รออยู่ (แต่ถ้าโดนหัวคนที่เดินตามหลังมา ลาภใหญ่อาจมาเร็วกว่าที่คาดก็ได้)
บริจาคโลงศพให้คนอนาถา เสริมชะตาให้ไร้เคราะห์ ศพอนาถาไร้ญาติขาดมิตร ไม่มีแม้แต่โลงใส่ศพ นับว่าเป็นเรื่องน่าสังเวชอย่างมากของมนุษย์ที่จะต้องลาโลกไปอย่างขัดสนสุดๆ จนไม่เหลือสิ่งสำคัญอย่างสุดท้าย การมีคนบริจาคโลงใส่ศพให้ จึงถือเป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ เสริมชะตาแก่ผู้บริจาคให้พ้นทุกข์และเคราะห์
หญิงมีครรภ์ไปงานศพ วิญญาณจะเข้าท้องได้ คนมีครรภ์โดยเฉพาะครรภ์แก่ จะต้องทำให้จิตใจผ่องใส เห็นแต่ภาพงดงามเจริญหูเจริญตา เพื่อส่งผลไปถึงลูกในท้อง แต่งานศพเต็มไปด้วยภาพเศร้าหมอง ทำให้จิตใจห่อเหี่ยว คนมีครรภ์จึงไม่ควรเข้าไปในบรรยากาศเช่นนั้น โบราณท่านจึงห้ามไว้ แต่บอกให้น่ากลัวว่าวิญญาณจะถือโอกาสเข้าท้องหาทางเกิด แต่ก็บอกเคล็ดสำหรับคนจำเป็นจะต้องไปไว้ว่า ให้เอาเข็มกลัดกลัดชายกระโปรงไว้ กันวิญญาณรอดเข้าไป
ห้ามทักเด็กทารกว่าน่ารักน่าเอ็นดู แม้ความจริงจะเป็นเช่นนั้นก็ตาม เพราะจะทำให้ผีวิญญาณร้ายเกิดอิจฉา และพรากเด็กนั้นไป คนรุ่นใหม่คงจะงง เมื่อได้ฟังคนรุ่นเก่าทักเด็กที่น่ารักด้วยความเอ็นดูว่า “อุ๊ย น่าเกลียดน่าชังจังเลย”
ขึ้นลงบันไดอย่าได้ก้าวข้ามขั้น จะทำมาหากินลำบาก บางคนใจร้อนโดดขึ้นลงทีละ ๒ ขั้น ๓ ขั้น ปู่ย่าตายายกลัวว่าลูกหลานจะคอหักตาย จึงเตือนให้ขึ้นลงทีละขั้น ไม่เช่นนั้นจะพบกับความยากลำบากในการทำมาหากิน ทั้งยังเป็นคติเตือนใจด้วยว่า ทำอะไรให้ค่อยเป็นค่อยไป หากใจร้อนทำเกินความสามารถ ก็อาจหัวทิ่มเหมือนตกบันไดได้
กินข้าวเหลือในจาน แม่โพสพจะร้องไห้ ควรคดมาแต่พอดี หรือจะเติมอีกก็ได้ แต่การคดมามากแล้วกินไม่หมดต้องทิ้งไป เป็นการกินทิ้งกินขว้าง ไม่มัธยัสถ์ ไม่เห็นคุณค่าของข้าว โบราณท่านจึงห้ามไว้ ว่าจะทำให้แม่โพสพร้องไห้
ใช้เท้าชี้ จะทำให้เท้าด้วน เรื่องนี้คนไทยถือกันมาก แม้ในวันนี้ก็ยังยึดถือตามที่ปู่ย่าตายายสอนมา ถ้าเห็นใครใช้เท้าชี้ ให้เชื่อได้เลยว่าไม่ใช่คนไทยแน่ เพราะเป็นมารยาททรามสุดๆ
ชี้นิ้วไปที่พระ นิ้วจะด้วน แม้ใช้มือชี้ ใช้นิ้วชี้ชี้อย่างถูกต้องก็เถอะ ต้องระวังให้ถูกกาลเทศะว่าสมควรจะชี้หรือไม่ เช่นชี้หน้าคน หรือชี้ไปที่สิ่งเคารพ เช่นพระสงฆ์ พระพุทธรูป ถือเป็นการกระทำที่ไม่บังควร เป็นกิริยาที่แสดงความไม่เคารพ
ถ้าพูดว่าฉิบหาย ก็จะฉิบหายตามคำพูด คำว่าฉิบหาย ถือว่าเป็นคำไม่สุภาพ และยังเป็นคำที่ใช้แช่งกัน แต่ก็เป็นคำสบถที่หลุดออกมาจากปากบางคนบ่อยๆ โบราณจึงว่า ใครหลุดคำนี้ออกมา ก็เหมือนกับแช่งตัวเอง
ของกินที่ตกพื้น ผีและวิญญาณเอาไปกินแล้ว อย่าเก็บมากินอีกเป็นอันขาด หรือผีที่หิวโหยอาจจะปัดให้ของนั้นตกพื้นเพื่อจะเอาไปกิน ฉะนั้นอย่าไปแย่งผีกิน ทั้งนี้ก็เพราะของที่ตกพื้นย่อมสกปรก เป็นสาเหตุให้เกิดโรคได้
หญิงมีครรภ์ไฟฟังสวดญัตติ จะคลอดลูกไม่ออก หญิงมีครรภ์ไปนั่งพับเพียบนานๆ จะมีอันตรายกับเด็กในท้องได้ โบราณจึงห้ามไว้ และเอาคำว่า “ญัตติ” ซึ่งออกเสียงเป็น “ยัด” มาทำให้เกิดภาพพจน์ว่าจะคลอดลูกไม่ออก ทุกวันนี้ก่อนที่จะเริ่มสวดญัตติ ยังต้องประกาศให้คนท้องออกจากโบสถ์ก่อน
พริกเข้าตา เอาน้ำรดหัวแม่ตีนจะหายแสบ ดูจะไม่เกี่ยวกันเลยระหว่างตากับตีน แต่โบราณท่านบอกไว้อย่างนี้ คงจะเป็นเพราะหากพริกกระเด็นเข้าตาเวลาตำ แล้วเอาน้ำรดหัวแม่เท้า น้ำตาที่เอ่ออยู่ก็จะไหลออกตอนก้มหน้า ล้างเอาความแสบร้อนของพริกออกไปด้วย
นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของความเชื่อที่มีมาแต่โบราณ ซึ่งบรรพบุรุษของเราได้ใช้กุศโลบายซ่อนความห่วงใยไว้ และที่มารยาทไทยเรามีความงดงามในวันนี้ แตกต่างไปจากคนต่างชาติทั้งหลาย ก็เพราะท่านใช้กุศโลบายสั่งสอนมาแบบนี้ นับเป็นสิ่งดีงามในความเป็นไทยของเรา