"สงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์" ปธ.เครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติฯ เตรียมนำตัวแทนครูผู้เสียหายหอบหลักฐานร้องดีเอสไอ ตรวจสอบโครงการประกันเงินกู้ ช.พ.ค. หลังบังคับทำประกันวงเงินสินเชื่อ แต่กลับเป็นประกันอุบัติเหตุ เผยมีผู้ร่วมโครงการกว่า 1.5 แสนราย วงเงินกว่า 4,000 ล้าน
จากกรณีครู อาจารย์ พนักงานองค์การของรัฐ เจ้าหน้าที่รัฐ และบุคลากรทางการศึกษาได้เข้าร่วมโครงการกู้เงินโครงการช่วยเหลือเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.)จากธนาคารในการกำกับของรัฐและบริษัทประกันภัยในการกำกับของรัฐที่ได้ปล่อยสินเชื่อการกู้เงินโดยบังคับให้ทำประกันวงเงินสินเชื่อเป็นเวลา 9-10 ปี โดยหักเงินจากยอดกู้คราวเดียวหลักแสนบาท พร้อมคิดดอกเบี้ย แต่กลับไม่ได้ให้กรมธรรม์ประภัยแก่ครูผู้เอาประกันภัย ต่อมาพบว่าประกันดังกล่าวไม่ใช่ประกันสินเชื่อกลับเป็นเพียงประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ
วันนี้ (13พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันศุกร์ที่ 15 พ.ค.นี้ นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะนำตัวแทนครูผู้เสียหายกว่า 20 ราย พร้อมหลักฐานการกู้ยืมเงิน เข้าร้องทุกข์ ต่อ นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เพื่อให้ดีเอสไอตรวจสอบการกระทำของกลุ่มบุคคลที่มีความเกี่ยวพันในการโฆษณา ปกปิดข้อความจริงที่ควรบอกแจ้งให้ทราบแก่ประชาชน ซึ่งทำให้ครูทั่วประเทศหลงเชื่อเกี่ยวกับเรื่องประกันภัยว่าเป็นประกันวงเงินสินเชื่อ จึงได้จ่ายเงินค่าเบี้ยประกันภัยในอัตราสูง ล่วงหน้าเป็นเวลา 9-10 ปี ต่อมาผู้เสียหายทราบความจริงจากเลขาธิการคปพ.ว่าผู้รับประกันภัย ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยในการกำกับของรัฐได้ร่วมกับแบงก์ในการกำกับของรัฐด้วยการปกปิดความจริงว่า การทำประกันดังกล่าวเป็นการประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ มิใช่เป็นการประกันวงเงินสินเชื่อดังที่โฆษณา อวดอ้างแก่ประชาชน ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อทั่วราชอาณาจักร โดย หากพบว่ามีการกระทำความผิดขอให้ดีเอสไอพิจารณาดำเนินคดีอาญาและติดตามนำทรัพย์คืนผู้เสียหายต่อไป เบื้องต้นมีผู้กู้เงินในโครงการดังกล่าวประมาณ1.5แสนราย มูลค่าความเสียหายกว่า4,000ล้านบาททั่วประเทศ
จากกรณีครู อาจารย์ พนักงานองค์การของรัฐ เจ้าหน้าที่รัฐ และบุคลากรทางการศึกษาได้เข้าร่วมโครงการกู้เงินโครงการช่วยเหลือเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.)จากธนาคารในการกำกับของรัฐและบริษัทประกันภัยในการกำกับของรัฐที่ได้ปล่อยสินเชื่อการกู้เงินโดยบังคับให้ทำประกันวงเงินสินเชื่อเป็นเวลา 9-10 ปี โดยหักเงินจากยอดกู้คราวเดียวหลักแสนบาท พร้อมคิดดอกเบี้ย แต่กลับไม่ได้ให้กรมธรรม์ประภัยแก่ครูผู้เอาประกันภัย ต่อมาพบว่าประกันดังกล่าวไม่ใช่ประกันสินเชื่อกลับเป็นเพียงประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ
วันนี้ (13พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันศุกร์ที่ 15 พ.ค.นี้ นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะนำตัวแทนครูผู้เสียหายกว่า 20 ราย พร้อมหลักฐานการกู้ยืมเงิน เข้าร้องทุกข์ ต่อ นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เพื่อให้ดีเอสไอตรวจสอบการกระทำของกลุ่มบุคคลที่มีความเกี่ยวพันในการโฆษณา ปกปิดข้อความจริงที่ควรบอกแจ้งให้ทราบแก่ประชาชน ซึ่งทำให้ครูทั่วประเทศหลงเชื่อเกี่ยวกับเรื่องประกันภัยว่าเป็นประกันวงเงินสินเชื่อ จึงได้จ่ายเงินค่าเบี้ยประกันภัยในอัตราสูง ล่วงหน้าเป็นเวลา 9-10 ปี ต่อมาผู้เสียหายทราบความจริงจากเลขาธิการคปพ.ว่าผู้รับประกันภัย ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยในการกำกับของรัฐได้ร่วมกับแบงก์ในการกำกับของรัฐด้วยการปกปิดความจริงว่า การทำประกันดังกล่าวเป็นการประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ มิใช่เป็นการประกันวงเงินสินเชื่อดังที่โฆษณา อวดอ้างแก่ประชาชน ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อทั่วราชอาณาจักร โดย หากพบว่ามีการกระทำความผิดขอให้ดีเอสไอพิจารณาดำเนินคดีอาญาและติดตามนำทรัพย์คืนผู้เสียหายต่อไป เบื้องต้นมีผู้กู้เงินในโครงการดังกล่าวประมาณ1.5แสนราย มูลค่าความเสียหายกว่า4,000ล้านบาททั่วประเทศ