เมื่อวานนี้ (13 ก.พ.) ในเว็บไซต์พันทิป เจ้าของนามแฝง "ฮั้วหัวโต" ได้โพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับการพาครอบครัวคนไทยแอบลักลอบขึ้นขบวนรถไฟจากสถานียุฟุอิน (Yufuin) ถึงสถานีฟุกุโอกะ (Fukuoka) โดยขบวนรถไฟ ยุฟุอิน โน โมริ (Yufuin No Mori) ซึ่งเป็นขบวนรถไฟที่ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้นถึงจะขึ้นได้ แม้จะมีบัตร JR Pass ก็ตาม
ในคราวแรก เจ้าของกระทู้ได้ถามเจ้าหน้าที่ประจำสถานียุฟุอิน เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าขึ้นขบวนรถไฟยุฟุอิน โน โมริไม่ได้ถ้าไม่ได้จองไว้ล่วงหน้า แม้ว่าจะมีรถบัสจากเมืองยุฟุอินไปฟุกุโอกะ แต่เห็นว่าตั๋วรถบัสราคาแพงมาก และใช้เวลาเดินทางนาน จึงตัดสินใจแอบขึ้นรถไฟ โดยวางแผนให้พ่อกับน้องไปเข็นกระเป๋าสัมภาระขนาดใหญ่ 2 ใบจากล็อกเกอร์ฝากกระเป๋า ส่วนตนและมารดายืนดูลาดเลาบริเวณสถานีรถไฟ
เป็นที่น่าสังเกตว่า มีพนักงานตรวจตั๋ว 2 คนยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าชานชาลา โดยชานชาลาด้านหน้าจะเดินทางไปเมืองฟุกุโอกะ ในขณะที่ชานชาลาหลังเดินทางไปเมือง โออิตะ (Oita) มีคนหลายคนเดินผ่านพนักงานตรวจเพื่อไปขึ้นขบวนที่ว่าหลายคนเดินเข้า หลายคนเดินออกจากชานชาลา พนักงานตรวจตั๋ว ตรวจดูแต่คนที่เดินออกเท่านั้น
เจ้าของกระทู้กับแม่ได้ออกไปก่อน หลังจากนั้นสักพักน้องชายและพ่อก็เข็นกระเป๋าออกมาแล้วไปวางไว้ตรงมุมอับของชานชาลา ทำเนียนไปยืนแอบบริเวณสะพานข้ามระหว่างชานชาลา เวลาคนเดินผ่านก็ทำทีเป็นถ่ายรูปรถไฟ ไม่เดินข้ามออกจากชานชาลา เมื่อรถไฟยุฟุอิน โน โมริมาถึง พวกเราก็ไปต่อแถวรอขึ้น วางแผนกันว่า ถ้าเข้าไปได้ให้ต่างคนต่างไปหาที่ว่างยืนในขบวนรถไฟ ถ้าโดนจับได้ ให้บอกว่ารอเพื่อนอยู่ ถ้าเขาหาเจอไม่ครบทุกคนก็อย่าลง เผื่อเขาเตะลงกลางทาง จะได้ไม่คลาดกัน
หลังจากที่ขบวนรถไฟออกจากสถานียุฟุอินแล้ว เจ้าของกระทู้กับแม่เดินไปยืนที่ขบวนอาหาร โดยที่พนักงานตรวจตั๋วเดินผ่านไปโดยไม่ได้ขอตรวจอะไร จากนั้นประมาณ 30 นาที ผู้โดยสารนั่งประจำที่กันหมดแล้ว เหลือที่นั่ง 2 ที่ด้านหลังสุดไม่มีคนนั่ง จึงไปนั่งเล่น 1 ชั่วโมงต่อมาก็มีพนักงานตรวจตั๋วเดินมาอีกรอบ จึงทำเนียนเอาบัตร JR Passให้ดู แต่เจ้าหน้าที่ขอดูบัตรจอง เมื่อถามว่าไม่มีตั๋ว จึงเชิญให้ไปนั่งที่ตู้อาหาร แต่ไม่ให้นั่งที่เก้าอี้เพราะเป็นสิทธิของคนที่จองล่วงหน้าเท่านั้น
หลังกระทู้ได้ตั้งขึ้น สมาชิกพันทิปจำนวนมากต่างพากันออกมาตำหนิพฤติกรรมดังกล่าวว่า นอกจากทำผิดแล้ว ยังโพสต์กระทู้เพื่อเข้าข้างตัวเองอีก แตกต่างจากคนญี่ปุ่นถ้าถูกจับว่าผิดกฏจะเกิดความละอายใจ นอกจากนี้ยังเห็นว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดี ไม่ควรทำตาม ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้เป็นการสร้างความเสื่อมเสียให้กับคนไทยในสายตาคนญี่ปุ่น ซึ่งยังมีคนไทยจำนวนมากที่ทำผิดกฎของญี่ปุ่น
ล่าสุด เจ้าของกระทู้ได้ชี้แจง ขอโทษที่ทำผิดกฏระเบียบของรถไฟที่ญี่ปุ่น และอาจส่งผลให้คนไทยโดนมองไม่ดี ยอมรับว่าการแอบขึ้นรถไฟขบวนนั้นไปโดยไม่ได้จองนั้นผิดจริง ตอนนั้นคิดแค่ว่าหนาวไม่ไหวแล้ว ขอแค่ได้ขึ้นรถไฟไปยืนอย่างเดียวก็ยังดี โดนไล่ค่อยว่ากัน หรือคิดเข้าข้างตัวเองว่าคนอื่นทำได้เราก็ทำได้ ไม่ได้คิดให้รอบคอบว่าอาจจะมีคนเห็นว่าทำได้แล้วทำเพิ่มอีกเรื่อยๆ หรือว่าทำให้เสียชื่อเสียงของประเทศ
นอกจากนี้ยังแจ้งไปยังแอดมินของเว็บไซต์พันทิปเพื่อขอลบกระทู้อีกด้วย
สำหรับเนื้อหาจากในกระทู้ก่อนที่จะแจ้งลบมีดังนี้
แชร์ประสบการ์ณ แอบขึ้นรถไฟ Yufuin No Mori
วันที่ 2 มกราคม 2557
ท่ามกลางหิมะตก และลมแรง
เสื้อผ้าที่เตรียมมาสำหรับอุณหภูมิ 10กว่าองศาไม่สามารถต้านทานความหนาวได้อีกต่อไป
รองเท้าผ้าใบและถุงเท้าที่เปียกโชกของฉัน พลอยทำให้เท้าฉันชาขนาดที่ถุงร้อนแปะเท้าก็ช่วยไม่ได้
แม่ ฉัน และน้องชายกำลังเดินไปตามถนนใหญ่ สวนกับรถที่วิ่งไปมา
เพื่อตามหาพ่อที่พลัดหลงกันหน้า Lawson
ป่าป๊า!! ป่าป๊า!!!
หลังจากที่เดินหากันอยู่นาน สุดท้ายเราก็เจอพ่อจนได้
พ่อตะโกนเรียกพวกเราพร้อมโบกมือให้จากบริเวณถนนคนเดิน
พวกเรารวมตัวกันแล้วรีบแวะหาร้านหลบหนาว
ฉันและน้องโดนเอ็ดที่ไม่ดูพ่อให้ดี
แต่ก็นั่นแหละ เค้กสักก้อนสองก้อนก็ทำให้ทุกคนอารมณ์ดีขึ้นได้
หันไปดูเวลา ยิ้มแล้ว
เราพลาดรถไฟ Yufu 4ที่จะเดินทางกลับไป Fukuoka ตอน 14.13 และ 14.16
รอบต่อไปมี YuFu No Mori ตอน 15.48
แต่ถึงเราจะมีบัตร JR Pass ก็ตามที YuFu No Mori ก็เป็นรถไฟที่ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้นถึงจะขึ้นได้
หลายวันก่อนที่ฉันไปจอง มันก็เต็มหมดแล้ว...
ขบวนถัดไปที่ขึ้นได้โดยไม่ต้องจองคือ YuFu 6 ตอน 18.43
อีกราว 3 ชั่วโมงกว่าถึงจะได้ขึ้นรถไฟ...
พวกเราเดินทางไปที่ชานชาลาเพื่อถามความเป็นไปได้ที่จะขอเกาะ YuFu No Mori กลับไป Fukuoka
แต่เจ้าหน้าที่ก็ยืนกราน นอนกรานว่าเราขึ้นไม่ได้ถ้าไม่ได้จองไว้ล่วงหน้า
หลังจากเดินคอตกออกมาจากเจ้าหน้าที่ JR
ฉันก็เดินไปถาม Tourist Information เผื่อจะมีทางอื่นที่จะไป Fukuoka โดยที่ไม่ต้องรอถึง 3 ขั่วโมงกว่า!
เจ้าหน้าที่ยิ้มรับแล้วบอกฉันว่ามีรถบัสที่เดินทางจาก YuFuin ไป Fukuoka ด้วย
แต่ต้องเดินไปถามเอง ที่ตึกข้างหน้านั้น
ด้วยความตื่นเต้น พวกเรารีบเดินออกไปถามราคาและตารางรถบัส
ในอาคารมีคนญี่ปุ่นอยู่เต็มไปหมด พวกนักท่องเที่ยวคงเดินทางด้วย JR Pass กันอยู่แล้ว มีแต่คนพื้นถิ่นที่จะใช้รถบัส
หลังจากยืนคิวสักพักก็ถึงตาพวกเรา หลังจากถามราคาและเวลาโดยสารแล้วปรากฎว่า
ตั๋วรถบัสราคาแพงมาก!!! และใช้เวลาเดินทางนาน ขนาดที่ไปถึงพร้อมกับรถไฟขบวน YuFu 6 เลยทีเดียว!
(ที่ว่าราคาแพง คือจำราคาเป๊ะไม่ได้ แต่ณ ตอนนั้น คิดราคากับค่า JR Pass ที่จ่ายไปแล้ว ยังไงก็ไม่คุ้ม)
พวกเราสุมหัวคุยกันว่าจะเอายังไงดี
แม่กลัวการนั่งรถบัสในวันที่หิมะตก
พวกเราเห็นด้วยว่ามันดูน่ากลัวกว่าขึ้นรถไฟจริงๆ
ฉันมองดูนาฬิกาอีกครั้ง อีกเกือบครึ่งชั่วโมง Yufuin No Mori ก็จะมาเทียบท่า
และอีก 3 ชั่วโมงกว่า YuFu 6 จะมา
เอาวะ! ด้านได้อายอด
เรามาแอบขึ้นรถไฟกันเถอะ!!!
การแอบขึ้นรถไฟครั้งนี้ต้องทำกันอย่างแนบเนียนที่สุด
พ่อกับน้องรับหน้าที่ไปเข็นกระเป๋าสำภาระขนาดใหญ่ 2 ใบจากล็อกเกอร์ฝากกระเป๋า
ฉันกับแม่ยืนดูลาดเลาบริเวณสถานีรถไฟ
ฉันถอดรองเท้าและถุงเท้าที่เปียกชุ่มออกแล้วนั่งลงบนขอบหน้าต่างของห้องรับรองเพื่อลาดตระเวน
มีพนักงานตรวจตั๋ว 2 คนยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าชานชาลา
ชานชาลาด้านหน้าจะเดินทางไปเมือง Fukuoka ในขณะที่ชานชาลาหลังเดินทางไปเมือง Oita
มีคนหลายคนเดินผ่านพนักงานตรวจเพื่อไปขึ้นขบวนที่ว่า
หลายคนเดินเข้า หลายคนเดินออกจากชานชาลา
พนักงานตรวจตั๋ว ตรวจดูแต่คนที่เดินออกเท่านั้น
???
เหลือเวลาอีก 15 นาทีก่อนรถไฟ YuFu No Mori จะมา
จังหวะที่ผู้คนพรั่งพรูออกจากรถไฟและเดินเข้ามาที่สถานี
เจ้าหน้าที่กำลังตรวจตั๋วคนออกอย่างขะมักเขม้น ส่วนคนเดินเข้าก็เดินเข้าไปลอยๆ
ฉันกับแม่ออกไปก่อน หลังจากนั้นสักพักน้องชายและพ่อก็เข็นกระเป๋าออกมาแล้วไปวางไว้ตรงมุมอับของชานชาลา
ฉัน พ่อ และน้องทำเนียนไปยืนแอบบริเวณสะพานข้ามระหว่างชานชาลา
เวลาคนเดินผ่านก็ทำทีเป็นถ่ายรูปรถไฟ ไม่เดินข้ามออกจากชานชาลาเสียที
ท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บ เท้าของฉันชาไปหมด
มันทำให้การรอคอยรถไฟเพียง 10 นาที นานราวไม่มีที่สิ้นสุด
เมื่อรถไฟ YuFuin No Mori มาถึง
พวกเราก็ไปต่อแถวรอขึ้น
อา....อากาศอันอบอุ่นข้างในขบวนรถไฟ
พวกเราวางแผนกันว่า ถ้าเข้าไปได้ให้ต่างคนต่างไปหาที่ว่างยืนในขบวนรถไฟ
ถ้าโดนจับได้ ให้บอกว่ารอเพื่อนอยู่ ถ้าเขาหาเจอไม่ครบทุกคนก็อย่าลง
เผื่อเขาเตะลงกลางทาง เราจะได้ไม่คลาดกัน
ฉันกับแม่เดินไปยืนที่ขบวนอาหาร
โบกี้ถัดไปคือขบวนนั่งกิน ยืนกินอาหารพร้อมกระจกให้ชมวิวนอกขบวนรถไฟ
มีคนนั่งอยู่ก่อนแล้วเต็มบริเวณให้นั่ง ฉันกับแม่จึงยืนอยู่ที่โต๊ะยืน
พนักงานตรวจตั๋วเดินผ่านเราไปโดยไม่ได้ขอตรวจอะไร
ความหิวและความรู้สึกผิดที่แอบขึ้นรถไฟทำให้ฉันสั่งเบนโตะจากตู้อาหารมากินด้วย
หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง
ผู้โดยสารนั่งประจำที่กันหมดแล้ว เหลือที่นั่ง 2 ที่ด้านหลังสุดที่ดูไม่มีเจ้าของ
บางทีอาจจะจองไว้แต่ตกรถไฟก็เป็นได้
ฉันกับแม่จังไปนั่งเล่น
นั่งเพลินๆไปเป็นชั่วโมงก็มีพนักงานตรวจตั๋วเดินมาอีกรอบ
พวกเราทำเนียนเอาบัตร JR Passให้ดู แต่เจ้าหน้าที่ขอดูบัตรจอง
พนักงานถามว่าไม่มีตั๋วใช่ไหม? ไม่มีก็ให้ไปนั่งที่ตู้อาหาร
แต่ไม่ให้นั่งที่เก้าอี้เพราะเป็นสิทธิของคนที่จองล่วงหน้าเท่านั้น
หลังโดนไล่ให้มานั่งที่ตู้อาหาร คราวนี้พวกเราก็สังเกตได้ว่า
ทุกคนที่นั่งอยู่ก็คือคนเดิมที่นั่งมาตั้งแต่ขบวนออกมาจาก YuFuin
พอตามหาพ่อกับน้อง ก็พบว่านั่งอยู่ตรงเก้าอี้ไม้ริมทางเดินใกล้ที่วางสำภาระ (ไม่ใช่เก้าอี้โดยสาร)
พอโดนตรวจตั๋วน้องก็ยื่น JR Pass ให้ดูเจ้าหน้าที่ก็ไม่ว่าอะไร
กระจ่างเลยจ้า!
ไม่มีบัตรขึ้นขบวนได้ แต่ไม่ให้นั่งเก้าอี้โดยสารจ้า
คิดว่าที่เจ้าหน้าที่ JR บอกว่าไม่ได้จองขึ้น Yufuin No Mori ไม่ได้
เพราะกลัวว่าคนไม่ได้จองจะขึ้นไปเยอะเกินแล้วเบียดเบียนหรือไปขโมยเก้าอี้คนจองล่ะมั้ง
เห้อ รู้แบบนี้ค่อยขึ้นรถไฟแบบสบายใจหน่อย
แล้วฉันจะวางแผนการแอบขึ้นรถไฟทำไมเนี่ย
ห้าห้าห้า
ป.ล.
แต่ถ้าไม่จำเป็นจริงๆก็ขึ้นขบวนที่ไม่ต้องจอง หรือจองล่วงหน้ามากๆก่อนขึ้น Yufuin No Mori เถอะ
เพื่อความสบายใจในการเดินทาง กับเก้าอี้นุ่มๆสบายๆด้วย
ป.ล.2
ถึงพยากรณ์อากาศจะบอกว่าหิมะไม่ตก แต่ไปช่วงปีใหม่ก็อย่าได้ชะล่าใจ
ควรใส่รองเท้ากันน้ำไป ไม่งั้นเย็นจนเท้าชา ฮ่องกงฟุตจะมานะเออ
ป.ล.3
ฉันเพิ่งตั้งเพจเฟซชุคขึ้นมาเพื่อเก็บเรื่องราวของความคิดและความทรงจำต่างๆ
ยีงมีอีกหลายๆเรื่องในการเดินทาง และความคิดที่กำลังทยอยๆเขียนอยู่
ถ้าชอบก็เข้าไปกดไลค์กันได้นะ
https://www.facebook.com/whatifIlive
อนึ่ง ASTVผู้จัดการได้รับคำบอกเล่าจากคนที่เคยเดินทางไปญี่ปุ่น ตั้งข้อสังเกตถึงกรณีดังกล่าว ว่า สถานียุฟุอินเป็นสถานีเล็กๆ การตรวจตั๋วโดยสารไม่ค่อยเข้มงวด คนญี่ปุ่นเขาถือว่าทุกคนซื่อสัตย์ต่อตัวเอง ส่วนที่ยื่น JR Pass ให้แล้วคนตรวจตั๋วไม่ว่าอะไร อาจเป็นเพราะเป็นคนต่างชาติด้วย เขาคงนึกว่าคงไม่รู้เรื่อง เพราะ JR Pass เหมือนการจ่ายเหมา แต่ไม่ได้หมายความว่าจะขึ้นรถอะไรก็ได้ เพราะ JR Pass ต้องเอาไปออกตั๋วอีกที