ไฟไหม้ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ รัชดาภิเษก ต้นเพลิงเกิดที่ชั้น 10 ใช้รถกระเช้าควบคุมเพลิงได้ในวงจำกัด เร่งระบายควัน ผู้บริหารยันเอกสารที่ถูกเผาไม่เกี่ยวกับคดียักยอกเงิน สจล. อีกด้าน อปพร. เขตหลักสี่ขึ้นไปบนอาคารชุดแรกหายตัวไป พบร่างอีกครั้งตีสี่เศษเสียชีวิต
วันนี้ (7 ก.พ.) เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. รายงานข่าวแจ้งว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ สี่แยกรัชโยธิน เลขที่ 9 ถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขตจตุจักร กรุงเทพฯ โดยจุดดังกล่าวต้นเพลิงอยู่ที่บริเวณชั้น 10 อาคาร A ซึ่งเป็นห้องเก็บเอกสาร ในห้องทำงานฝ่ายบริหารความเสี่ยงของธนาคาร (Risk Management) เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากสถานีดับเพลิงสุทธิสาร ได้ส่งชุดผจญเพลิงเข้าไปภายในอาคารแล้ว
23.50 น. รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากสถานีดับเพลิงสุทธิสาร ลาดยาว บางเขน และ จตุจักร จัดชุดดับเพลิง 3 ชุด เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังติดตั้งรถกระเช้า ขณะที่แสงเพลิงขยายบริเวณกว้างขึ้น มีเสียงระเบิดของกระจกเป็นระยะ และมีกระจกร่วงลงมาบริเวณพื้นล่าง
ต่อมาเวลา 23.45 น. ชุดเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ถอนกำลังออกจากอาคาร เพื่อตัดสินใจใช้น้ำดับเพลิงจากภายนอกควบคุมเพลิงโดยใช้รถกระเช้าลำเลียง หลังสามารถเดินไปถึงบริเวณหน้าห้องต้นเพลิง แต่กลุ่มควันสีดำหนาแน่นทำให้การเข้าไปด้านในเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากขาดอากาศหายใจ
กระทั่งเวลา 00.00 น. (8 ก.พ.) กระเช้าดับเพลิงความสูง 90 ฟุต ได้ฉีดน้ำเข้าไปถึงจุดต้นเพลิงในตัวอาคาร ทำให้แสงเพลิงลดลง กระทั่งเพลิงสงบลง เหลือเพียงกลุ่มควันจำนวนมาก
00.10 น. การดับเพลิงใช้รถกระเช้าอย่างเดียว รถน้ำได้ฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าไปในตัวอาคาร สามารถควบคุมเพลิงได้ในวงจำกัด แต่เนื่องจากรถดับเพลิงคันแรกน้ำหมด แสงเพลิงจึงกลับมาอีกครั้งในจุดต้นเพลิง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ทำการเปลี่ยนรถดับเพลิงคันใหม่ต่อเข้ากับรถกระเช้า
รายงานข่าวแจ้งว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้เดินทางมายังอาคารไทยพาณิชย์ ปาร์ค พลาซ่า ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ล่าสุดด้วยตัวเอง ขณะที่ นายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุด้วย โดยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่ทำข่าว ยืนยันว่าจุดที่เกิดเพลิงไหม้เป็นห้องเก็บเอกสาร แต่ไม่มีเอกสารสำคัญ อีกทั้งหากเอกสารเกิดเพลิงไหม้ก็ไม่มีปัญหา เนื่องจากเอกสารทุกชุดมีสำเนาหลายชุด และจัดเก็บในหลายสถานที่ อย่างไรก็ตาม วันจันทร์ที่ 9 พ.ย. ธนาคารจะเปิดทำการตามปกติให้ได้ ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ยังไม่ทราบ
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีการตั้งข้อสังเกตในสื่อสังคมออนไลน์ว่าอาจเกี่ยวข้องกับเอกสารการยังกยอกเงิน 1.6 พันล้านบาทของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ และผู้บริหาร สจล. ได้ประกาศยุติการทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารก่อนหน้านี้ และปิดบัญชีธนาคารที่เปิดกับสาขาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง 3 บัญชี มูลค่ารวม 52 ล้านบาท แต่จากการยืนยันของนายวิชิตนั้นระบุว่า จุดที่เกิดเพลิงไหม้นั้นจัดเก็บเอกสารทั่วไป ส่วนเอกสารสำคัญ เช่น เอกสารที่เกี่ยวข้องกับคดียักยอกเงิน สจล. อยู่ในห้อง Strong Room และมีสำเนา
ด้านทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ทวีตข้อความระบุว่า ตามที่ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ชั้น 10 ของ SCB สนญ. เมื่อ 7 ก.พ. (22.00 น.) ขณะนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ได้เข้าควบคุมสถานการณ์แล้ว ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ หากมีความคืบหน้าจะได้แจ้งให้ทราบต่อไป ขณะที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย แจ้งยกเลิกการจัดงาน "รวมพล (ครอบครัว) หมู่โลหิตหายาก" 8 ก.พ. ณ หอประชุมมหิศร SCB สนญ. สอบถามเพิ่งเติมได้ที่หมายเลข 022564300
สำหรับโครงการไทยพาณิชย์ ปาร์ค พลาซ่า เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2539 ใช้เป็นสำนักงานใหญ่ของธนาคาร แทนที่ทำการเดิม ถนนเพชรบุรี บริเวณแยกถนนชิดลม (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสาขาสำนักชิดลม) แบ่งออกเป็น 3 อาคาร ได้แก่ อาคารสำนักงานใหญ่ ใช้เป็นที่ตั้งของกลุ่มธุรกิจและกลุ่มสนับสนุนต่างๆ ของธนาคาร ความสูง 37 ชั้น อาคารอีสท์ ความสูง 22 ชั้น และอาคารเวสต์ ความสูง 22 ชั้น เป็นพื้นที่สำนักงานให้เช่า โดยบริเวณชั้นล่างยังเป็นพื้นที่เช่าประกอบกิจการร้านอาหาร สินค้าและบริการต่างๆ
00.20 น. รายงานข่าวแจ้งว่า แสงเพลิงได้กลับมาอีกครั้งบริเวณจุดเกิดเหตุเดิม ชั้น 10 ของอาคาร โดยยังไม่ลุกลามไปยังส่วนอื่น ขณะที่รถกระเช้าได้ลดตัวลงมาเนื่องจากฉีดน้ำได้ไม่เต็มที่ ซึ่งจะหาจุดที่สามารถฉีดน้ำใกล้กับต้นเพลิงอีกครั้ง ส่วนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเหลือในตัวอาคารอีก 2 ชุด จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงระบุว่าภายในห้องจุดเกิดเหตุยังมีเพลิงลุกลามอย่างรุนแรงต่อเนื่อง
01.20 น. แสงเพลิงลุกลามทะลุมาที่ด้านหลังของอาคาร ลุกลามขึ้นไปยังชั้น 11 พร้อมกับเสียงกระจกระเบิด รถกระเช้า 1 คันได้ฉีดน้ำแรงดันสูง แต่มาไม่ถึงด้านหลัง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทยอยลงมาแล้ว อุปสรรคสำคัญคือกลุ่มควัน ทำให้เจ้าหน้าที่เข้าไปไม่ถึงจุดเกิดเหตุ รวมทั้งอาคารดังกล่าวใช้ระบบคีย์การ์ดของแต่ละห้องทำงาน จึงทำได้เพียงแค่ควบคุมเพลิงไม่ให้ลามไปที่ชั้นอื่น
01.40 น. บริเวณฝั่งด้านหน้าอาคาร เพลิงได้สงบลงแล้ว ยังคงเหลือด้านหลังอาคารที่ยังมีเพลิงไหม้ลุกลามเป็นวงกว้าง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้จัดทีมระบายควันและเก็บรายละเอียดทั้งหมด โดยแบ่งออกเป็น 7 ชุด อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิทยุกรุงเทพชาลีแจ้งว่า มีอาสาสมัคร อปพร. เขตหลักสี่ รหัส 4433 หายไป 1 นาย หลังจากเข้าไปดับเพลิงชุดเเรก เบื้องต้นจัดชุดเข้าไปค้นหา 10 นาย
02.30 น. รายงานแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่อยู่บนรถกระเช้าซึ่งใช้พาเจ้าหน้าที่เข้าในห้องที่เกิดเหตุแจ้งว่า สปริงเกอร์ในห้องเกิดเหตุยังทำงานให้น้ำต่อเนื่อง แนวทางการปฏิบัติ เจ้าหน้าที่จะใช้น้ำสองหัวฉีด โดยหัวฉีดแรกใช้ควบคุมเพลิง ส่วนหัวฉีดที่ 2 ใช้ควบคุมควัน บนรถกระเช้าสนธิกำลังเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครเข้าห้องที่เกิดเหตุ ส่วนเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติในตัวอาคารจัดกำลัง เดินเท้าขึ้นทางบันไดเข้าชั้นที่ 10 ส่วนชุดปฏิบัติในตัวอาคารชุดแรกที่ขึ้นไปก่อนหน้านี้ ระบุว่าพบกล่องกระดาษเอกสารจำนวนมาก กองสูงระดับเอว ไหม้ไฟอยู่ด้านหลังตัวอาคาร
02.50 น. พ.ต.อ.พิชัย เกรียงวัฒนศิริ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ จส. 100 ระบุว่า ชุดผจญเพลิงสามารถเดินขึ้นไปยังห้องต้นเพลิงบริเวณชั้น 10 ของอาคารได้แล้ว สามารถควบคุมเพลิงได้ส่วนหนึ่ง แต่พบว่ากลุ่มควันสีขาวสะสมในตัวอาคารยังหนาแน่น โดยคาดว่าหากความร้อนไม่สูงมาก จะประสานกับฝ่ายอาคารเพื่อเปิดระบบอัดอากาศ ส่วนแสงเพลิงที่เกิดขึ้นนั้นมีลักษณะลุกขึ้นมาแล้วก็ดับ โดยไม่ได้ลุกลามเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าใช้เวลาประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง จึงสงบ
อีกด้านหนึ่ง มีรายงานว่า รถน้ำจากสถานีดับเพลิงคลองเตย และชุดปฏิบัติในตัวอาคาร ใช้น้ำฉีดหล่อเลี้ยงจนแสงเพลิงด้านหลังอาคารชั้น 10 หมดไป เหลือเพียงกลุ่มควัน โดยเวลานี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและอาสาสมัครจะผลัดเปลี่ยนกำลังชุดปฏิบัติในตัวอาคารเป็นช่วงๆ อย่างไรก็ตาม จากกรณีที่อาสาสมัคร อปพร. เขตหลักสี่ รหัส 4433 หายไป 1 นาย หลังจากเข้าไปดับเพลิงชุดเเรก รายงานข่าวแจ้งว่าอาสาสมัครคนดังกล่าวมีชื่อว่า ตั้ม ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ขณะนี้ยังหาตัวไม่พบ
03.30 น. สถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงที่อยู่ในอาคารสำนักงานใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ เร่งนำเอาควันสีขาวจากตัวอาคารออกมาให้ได้เร็วที่สุด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผจญเพลิงสามารถเข้าไปด้านในอาคารเพื่อกำจัดวัสดุที่ติดไฟ และตรวจสอบความเสียหายภายในอาคารได้ ขณะที่นายตั้ม ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง เจ้าหน้าที่ อปพร. ของเขตหลักสี่ ซึ่งขึ้นไปปฏิบัติหน้าที่ผจญเพลิงตั้งแต่แรก ยังสูญหายอยู่ โดยเจ้าหน้าที่พบเพียงแค่ไฟฉายและหมวกวางกองอยู่ที่บริเวณชั้น 10 ส่วนรถจักรยานยนต์จอดอยู่ที่หน้าอาคาร เจ้าหน้าที่สามารถขึ้นไปเพียงแค่ 30 นาที โดยใช้ออกซิเจนช่วยในการหายใจ เนื่องจากมีกลุ่มควันจำนวนมาก โดยมีการสับเปลี่ยนกำลังชุดเจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงอย่างต่อเนื่อง
รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิง อปพร. เขตหลักสี่ ได้สูญหายไปขณะปฏิบัติหน้าที่ ทราบชื่อภายหลังคือ นายเดชา หรือ ตั้ม ด้วงชนะ อายุ 31 ปี ทำหน้าที่ระงับภัยและเจ้าหน้าที่วิทยุ ของ อปพร. สำนักงานเขตหลักสี่
04.25 น. มีรายงานเพิ่มเติมว่า แสงเพลิงได้ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง บริเวณตัวอาคารด้านขวา เมื่อเวลา 03.53 น. เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้เร่งจัดรถกระเช้าเข้าไปดำเนินการฉีดควบคุมเพลิง ขณะที่ความคืบหน้ากรณีที่ นายเดชา หรือ ตั้ม ด้วงชนะ อายุ 31 ปี เจ้าหน้าที่ อปพร. สำนักงานเขตหลักสี่ หายตัวไปในช่วงควบคุมเพลิงร่วมกับทีมควบคุมเพลิงชุดแรก เจ้าหน้าที่ได้พบตัวนายเดชาแล้วเมื่อเวลา 04.18 น. ซึ่งอยู่บนชั้น 10 ของอาคาร กำลังให้ความช่วยเหลือ
04.35 น. สถานีวิทยุ จส.100 รายงานว่า ผกก.สน.พหลโยธิน ระบุว่าเจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงพบนายเดชา เจ้าหน้าที่ อปพร. ที่ขึ้นไปช่วยดับเพลิงบนชั้น 10 แล้ว บนชั้น 10 ของอาคาร ขณะนี้นำตัวส่งโรงพยาบาล โดยไม่ยืนยันว่ามีสัญญาณชีพหรือไม่
04.48 น. รายงานข่าวแจ้งว่า นายเดชา เจ้าหน้าที่ อปพร. เขตหลักสี่ที่หายตัวไประหว่างควบคุมเพลิงชุดแรก และได้พบร่างอีกครั้งบนชั้น 10 ซึ่งเป็นชั้นที่เกิดเพลิงไหม้ พบว่าเสียชีวิตแล้ว
อนึ่ง เวลา 09.00 น. กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, เจ้าหน้าที่วิศวกรโยธา สำนักงานเขตจตุจักร และเจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้นัดหมายตรวจอาคารในจุดเกิดเหตุไฟไหม้เพื่อหาสาเหตุร่วมกัน
ภาพจากทวิตเตอร์ @js100radio
ภาพจากเฟซบุ๊ก @คุณปิ๊ก นายผ้าบาง
ภาพจากทวิตเตอร์ @สวพ.FM91