“คู่นี้น่ารักจัง”
“ชอบอ่ะ น่ารัก ดูแล้วยิ้มตลอด”
“น่ารักมากๆ ฉันยิ้มได้เพราะเธอ”
“ดูเกิน 10 รอบ ชอบม๊ากกกก”
และประโยคอื่นๆ ที่บรรดาแฟนเพจเฟซบุ๊ก “มินิอาย ตันจัง” จะสรรหามาชื่นชม

“มินิอาย ตันจัง” คือชื่อเพจที่มีผู้คลิกไลค์อย่างรวดเร็ว นับจำนวนก็เกือบสองแสนคนภายในระยะวลาไม่กี่เดือน ซึ่งวัตถุประสงค์ของเพจนี้สร้างขึ้นมาเพื่อความบันเทิง ด้วยการอัดคลิปวีดิโอสไตล์ขำขันผ่านตัวตนของ “อาย” สาวอีสานผู้รุ่มรวยอารมณ์ขัน และ “ต้า” หนุ่มคู่ชีวิตสุดเลิฟที่เข้าขากันดี๊ดี ชนิดที่ว่า เมียว่ายังไง ข้าว่ายังงั้น เพราะเกือบจะทุกคลิป ต้ามักจะรับบทเป็นชายหนุ่มผู้เกรงใจภรรยา อย่างคาถาบูชาเมีย เขาก็ท่องมาแล้ว
ไม่เพียงแค่ในคลิปวีดิโอ หากแต่ชีวิตจริงของทั้งคู่ก็เรียกได้ว่าเป็นคู่รักที่น่าอิจฉาไม่น้อย ความสนุกสนานผสานอารมณ์มุ้งมิ้ง ทำให้เขาทั้งสองเป็นคู่รักที่ตอนนี้เรียกได้ว่า “ลงตัวที่สุด” ซึ่งแว่วมาว่า นอกจากแฟนคลับในประเทศไทยแล้ว พวกเขายังมีแฟนคลับอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศลาวอีกด้วย
เอาล่ะ ไม่ว่าจะด้วยคอนเซปต์ที่แสนจะขบขัน ภาษาสำเนียงอีสานที่ดูเป็นกันเอ๊งกันเอง มุขตลกที่ตรงกับชีวิตคู่ของใครต่อใครหรืออะไรก็ตามแต่ที่ทำให้หลายคนชื่นชอบ เราก็ไม่อาจรู้ได้แน่ชัด แต่สิ่งหนึ่งที่รู้อย่างถ่องแท้ นั่นก็คือ ทั้งคู่มีคนที่ชื่นชอบและคอยติดตามมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น อย่างต่อเนื่อง และคุณก็อาจจะเป็นหนึ่งในจำนวนนั้น...

• เล่าให้ฟังหน่อยว่า ทำไมถึงคิดที่จะอัดคลิปวีดิโอคู่รักขึ้นมา
อาย : มันเริ่มมาตั้งแต่ตอนที่อายเรียนจบใหม่ๆ แล้วล่ะค่ะ ไม่มีอะไรทำ อยู่บ้านแล้วเหงา ก็เลยเริ่มอัดคลิป พออัดแล้วมีเพื่อนๆ มาคอมเมนท์ บอก “เอาอีกๆ ตลกดี คลายเครียดดี” อายก็เลยเริ่มรู้สึกสนุกและทำมาเรื่อยๆ ช่วงหลังๆ มา จะเน้นเป็นภาษาอีสานค่ะ เพราะอายเป็นคนอุดรธานี ส่วนใหญ่จะพูดอีสาน 80 เปอร์เซ็นต์ต่อวันเลย
จริงๆ อายก็อัดทุกแนวนะคะ ขึ้นอยู่กับว่าช่วงเวลานั้นว่านึกอะไรออก ก็จะอัดตอนนั้นเลยค่ะ แต่ส่วนมาก อายจะอยู่กับต้า เลยทำเป็นคลิปคู่กับต้าเยอะค่ะ เรื่องส่วนใหญ่ที่ทำขึ้น มีอิทธิพลที่มาจากเรื่องจริงของชีวิตคู่ เกิดขึ้นในชีวิตตัวเอง แบบเกิดขึ้นแล้วมันนึกขำ เอ้ย มันได้ว่ะต้า เอามุขนี้ แล้วก็อัดเลยตอนนั้น
• แล้วทำไม อาย-ต้า ถึงเป็นคู่รักที่เรียกได้ว่ามีคนติดตามเยอะถึงเพียงนี้ มองว่าอะไรที่ทำให้คนส่วนใหญ่ชื่นชอบในคู่เรากัน
อาย : สงสัยเป็นคู่เพี้ยนค่ะ ทำอะไรที่แบบไม่เหมือนชาวบ้านเขา อายจะเป็นผู้หญิงหลุดๆ ส่วนต้าก็ชอบตามใจตลอด แต่ที่คนส่วนใหญ่ชอบ น่าจะเป็นเพราะคลิปที่เราทำออกมามากกว่าค่ะ เหมือนดูแล้วตรงกับชีวิต ทำงานเครียดๆ กลับมาดูคลิปแล้วขำ หายเครียด หายเหนื่อยไปชั่วขณะ จุดประสงค์คืออยากให้ทุกคนผ่อนคลายค่ะ (ยิ้ม)
• ได้ข่าวว่าทั้งคู่แต่งงานกันแล้ว ชีวิตคู่เป็นอย่างไรบ้าง
อาย : พึ่งแต่งเมื่อต้นปีเองค่ะ ส่วนหลังแต่งงาน ก็เรื่อยๆ นะคะ ไม่มีอะไรเลย เหมือนตอนที่เป็นแฟนกัน ไม่มีอะไรเปลี่ยน ยกเว้นแค่ได้นอนบ้านเดียวกัน เจอหน้ากัน ทำอาหารให้แฟนกิน นอกนั้นเหมือนตอนเป็นแฟนกันหมดเลย (หัวเราะ)
ต้า : ก็มีความสุขดีครับ (ยิ้ม)
• ย้อนเล่าเรื่องความรักของทั้งคู่ให้ฟังหน่อย ประทับใจอะไรในตัวกันและกัน
อาย : ก่อนแต่งงาน เราคบกันมาหกปี เป็นแฟนกันมาตั้งแต่ ม.5 แต่เชื่อไหมคะ จริงๆ เรารู้จักกันมานานมากแล้ว ตอนนั้นอยู่ ป.1 อายกับต้าเรียนห้องเดียวกัน แต่ไม่เคยคุยกันเลย พอขึ้น ป.2 อายก็ย้ายห้องและไม่เคยเจอกันอีกเลย จนกระทั่งเรียน ม.5 เขาก็มาจีบค่ะ ภูมิใจนำเสนอมาก (หัวเราะร่วน) จากนั้นเราก็คบกันมาเรื่อยๆ พอเรียนจบต่างคนต่างมีงานทำ เลยปรึกษาพ่อกับแม่ว่าเราอยากแต่งงานกันนะ พ่อกับแม่เขาก็เลยจัดให้เลยสมใจ (ยิ้ม)
ส่วนเรื่องประทับใจอายประทับใจในตัวต้าอยู่ 2 เรื่องค่ะ เรื่องแรกคือตอนเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี 1 ต้าเขาชอบขับมอเตอร์ไซค์ แล้วมันจะมีทริปขับมอเตอร์ไซค์จากมหาสารคาม-ไปเชียงราย ต้ากับอายก็ไป ซึ่งมันโหดมาก นอนข้างรางรถไฟ นอนสถานีตำรวจ แต่คือตลอดทางจะมีภูเขา ต้าจะดูแลอายดีมากๆ จะคอยเอามือมาจับประคองตลอด เพราะกลัวเราตก (อายเหนื่อยมาก หลับอยู่ข้างหลังเลย) ขนาดอายนั่ง อายยังเหนื่อยเลย คิดดูว่าต้าเป็นคนขับจะเหนื่อยขนาดไหน เลยประทับใจในตัวเขามากๆ แต่ตอนนี้ พูดด็พูดเถอะค่ะว่า ให้นั่งมอเตอร์ไชค์ไปไหนนานๆ แบบนั้น ไม่เอาอีกแล้ว เข็ดมาก (หัวเราะ)
อีกเรื่อง เป็นตอนที่เขาขออายแต่งงาน คืออายชอบดูรายการเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานแล้วชอบมาบ่นว่า เนี่ย ชีวิตนี้จะได้สัมผัสอารมณ์แบบนี้กับเขาบ้างไหมนะ คงไม่มีหรอกชีวิตเรา ทำใจดีกว่า เฮ้อ บ่นเกือบทุกวัน (หัวเราะ) จนวันครบรอบ 6 ปี เขาก็มาทำเซอร์ไพรส์ แบบ...เฮ้ย ทำให้แล้ว รักมากนะ อิอิ พูดไม่ออกเลยค่ะ ดูจากคลิปเอาเองแล้วกันนะคะ (ยิ้ม)
ต้า : สิ่งที่ผมประทับใจในตัวอายมากคือ ตอนนั้นเรียนอยู่ ม.5 อายซื้อรองเท้าคู่แรกให้ซึ่งรองเท้ามันราคาคู่ละพันกว่าบาท เป็นราคาที่แพงมาก อายเขาก็หาเงินจากการขายขนมพวกลูกอม ท๊อฟฟี่ สองสามบาทให้กับเพื่อนที่โรงเรียน ขายขนมจนซื้อรองเท้าคู่ละพันกว่าบาทให้เราได้ มันทำให้เห็นว่าอายมีความพยายามและใส่ใจ ซึ่งจะมีสักกี่คนที่ทำแบบนี้ให้แฟนในช่วง ม.ปลาย นี่แหละครับเรื่องประทับใจ ทุกวันนี้ รองเท้าคู่นี้ก็ยังอยู่ ยังไม่ทิ้งเลยครับ (ยิ้ม)
คลิปประกอบ
• จากในคลิปวีดิโอที่ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตคู่ มุมหนึ่งก็ดูตรงกับชีวิตคู่ของใครหลายๆ แต่มุมหนึ่งก็ดูมุ้งมิ้งน่ารัก แล้วกับชีวิตจริงเป็นอย่างไรกัน
อาย : มันมุ้งมิ้งไหมไม่รู้เลยนะ แต่คือทุกวันก็เป็นแบบในคลิปเลยค่ะ เสนอความเป็นจริงมาให้ได้ดู (หัวเราะ) ที่บ้านจะมีเสียงหัวเราะทุกวัน ไม่ค่อยเครียด เลยดูมุ้งมิ้งหรือเปล่า อันนี้ไม่แน่ใจ (หัวเราะ)
• เห็นแต่ละคลิปที่อัดมาสามีมีความเกรงใจภรรยาอยู่พอสมควรจนหลายคนที่ได้ดูคลิปต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "ต้า" เป็นคนเกรงกลัวภรรยา (เกียร์มัว) นี่จริงหรือไม่ช่วยชี้แจงแถลงไขด่วน
ต้า : (หัวเราะร่วน) มันก็ต้องมีบ้างนะครับ เอาจริงๆ นะ ผมก็เกรงใจภรรยามากจริงๆ นั่นแหละไม่รู้เพราะอะไร แต่จะนึกถึงเวลาเขาเหนื่อยหรือทำอะไรดีๆ เพื่อผม เขาจะไม่เคยบ่นหรือท้อเลย ผ่านอุปสรรคทั้งเรื่องดีและไม่ดีมาด้วยกัน ก็พอสมควรแล้ว เขาก็ยังอยู่ข้างผมตลอด
• แล้วแบบนี้มีวิธีการดูแลกันและกันจนทำให้หลายคนอิจฉาแบบนี้อย่างไรบ้าง
อาย : จริงๆ คู่เราก็เหมือนทุกคู่นะคะ มีโกรธกัน งอนกันแทบทุกวัน แต่เราจะมีกฎอยู่ข้อหนึ่งว่าทะเลาะกัน โกรธกัน น้อยใจกัน ห้ามตั้งสเตตัสหรือโพสหน้าเฟซบุ๊กเด็ดขาด ให้โพสแต่เรื่องที่มีความสุข ความสนุกเท่านั้น แค่นี้เลยง่ายๆ หลายคนจึงเห็นแต่ความสุข ความมุ้งมิ้งของเรามากกว่าความทุกข์
• วิธีรักษาความสัมพันธ์ของสามีภรรยาวัยรุ่น
อาย : จะคิดตลอดว่าต้องไม่เครียดค่ะ คนเราจะตายวันไหนก็ไม่รู้ จะโกรธกันไปทำไม เอาเวลาโกรธกันมามีความสุขด้วยกันดีกว่า อย่าทำให้เสียเวลาไปเปล่าๆ เลย เวลามันผ่านไปไวมากจริงๆ นะ แป๊บเดียวก็จะปีใหม่อีกแล้ว อายก็ไม่รู้จะมีชีวิตไปถึงเมื่อไหร่ ดูแลใส่ใจกัน ให้ความสำคัญกันทุกวันก็พอ ไม่นานก็ตายจากกันแล้ว ชาติหน้าจะเจอกันไหมก็ไม่รู้
ต้า : ผมจะคิดเสมอว่าวันนี้จะทำอะไรให้อายได้หัวเราะและมีความสุขได้มากที่สุด เวลาโกรธหรือโมโห เราจะเป็นคนเดินออกจากนั้นเลย (ไม่สู้) แล้วก็ต้องไปง้อให้เร็วที่สุด (หัวเราะ) อ่อ แต่มีเรื่องหนึ่งที่ทำให้ผมและอายมีความสุขพร้อมกันนั่นก็คือการทำบุญ คู่เราจะต้องไปวัดอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง การทำบุญมันเป็นการพักผ่อนจิตใจและทำให้เราใจเย็นลง (ยิ้ม)
• เหมือนว่าความตลกขบขันจะเป็นจุดขายของทั้งสองคน เรียกได้ว่าทั้งคู่เป็นคู่รักอารมณ์ดีหรือไม่อย่างไร
อาย : จุดขายของเราทั้งสองคนอยู่ที่การเป็นคนอารมณ์ดีค่ะ มดเดินผ่านเรายังหัวเราะได้เลย มันตลกของมันเอง มันเป็นธรรมชาติของเรา (หัวเราะ)
• เท่าที่สังเกต เห็นว่าหลายคนชื่นชมและชื่นชอบคู่ของคุณมากๆ รู้สึกยังไงบ้างเหมือนเรียกได้ว่าคุณมีแฟนคลับเลยหรือเปล่า
อาย : ฮู้ยยย... รู้สึกดีมาก (ลากเสียงยาว) จากคนไม่เคยมีคนรู้จัก มีคนรู้จักเยอะมาก แล้วเขาชอบเราด้วยนะ ไม่ได้เกลียดเรา พูดตามตรงเลยว่าเกิดมา ไปไหนมาไหน ไม่เคยมีคนมาขอถ่ายรูปมาก่อน แต่วันนี้มีแล้ว ภูมิใจจนหน้าบานเป็นกระด้งแล้ว (หัวเราะ) อย่างหลานอายเองอายุประมาณสามขวบ ดูคลิปคาถาบูชาเมีย จนทุกวันนี้ ท่องได้แล้วค่ะ บอกได้เลยว่าอายฟินหลายเด้อ (หัวเราะ)
อายคิดว่าสิ่งที่เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ได้รับจากอายและต้า มันคือรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ แง่คิดในการใช้ชีวิต ชีวิตคู่ ส่วนใหญ่เขาก็ชอบกันนะคะ ตรงชีวิตเขาเป๊ะบ้าง หายเครียดบ้าง โกรธกับแฟนอยู่หายโกรธกันบ้าง และมีอีกหลายอย่างเลยค่ะ ส่วนใหญ่จะมีคนบอกว่าเขาอิจฉาอาย เพราะได้ผู้ชายแบบต้าเป็นแฟน บางคนก็สงสารต้า แต่ไม่มีใครสงสารอายเลย...อายออกจะน่าสงสาร (หัวเราะ)

• แน่นอนว่ามีคนรักก็ย่อมมีคนเห็นต่าง มีคนเข้ามาแอนตี้บ้างไหม
อาย : มีบ้างค่ะ แต่เราก็มองผ่านๆ ไป ไม่ใส่ใจ เอามาใส่ใจก็หนักใจ ปล่อยเขาไปค่ะ สิทธิของเขา เราก็ทำหน้าที่ของเรา ทำเพื่อคนที่รักเราดีกว่า ไม่สนใจคนที่เขาเกลียดหรอก เราไม่สนใจสักพัก เขาก็หายไปเอง อายไม่ตอบโต้ เพราะคุณแม่ขอร้อง (หัวเราะ) แต่อายคิดว่าก็จะยังอัดคลิปแบบนี้ไปเรื่อยๆ ถึงต่อให้ไม่มีคนดูก็จะอัด (หัวเราะ) เพราะว่าชอบเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว
• คิดว่าเราเป็นคู่รักเน็ตไอดอลหรือเปล่า หรือมีคนนิยามหรือเรียกเราเช่นนั้นหรือไม่
อาย : เน็ตไอดอลคืออะไรอ่ะ (หัวเราะ) อายไม่ขอรับนะคำนี้ ต่อให้มีคนบอกว่าเราเป็นก็เหอะ เพราะจะเป็นไอดอลของใคร เราต้องเป็นคนดี ให้เขาเลียนแบบแต่สิ่งที่ดีๆ อายยังเป็นตัวอย่างที่ดีร้อยเปอร์เซนต์ไม่ได้ พยามก็ไม่ไหว มันฝืน ขอเป็นตัวของตัวเองดีกว่า อายต้าก็เป็นอายต้านี่แหละ ไม่เป็นหรอกเน็ตไอดอล ขอเป็นที่รักของหลายๆ คนก็พอแล้ว (หัวเราะ)
• มีมุมมองยังไงบ้างเกี่ยวกับคู่รักวัยรุ่นหรือสามีภรรยาละอ่อน
อาย : อายมองว่าคนเรารักกันควรแนะนำสิ่งดีๆ ให้กัน ทำแต่สิ่งดีๆ ให้กัน รักกันต้องช่วยกัน ดูแลกันและกัน แต่รักกันยังไง ก็อย่าลืมพระสององค์ที่บ้าน ห้ามติดแฟนจนลืมพ่อลืมแม่เด็ดขาด
ต้า : ผมมองว่าการจะรักกันต้องดูแลเอาใจใส่กัน ไม่จี้จุด หรือทำร้ายจิตใจอีกฝ่าย อีกอย่างอายจะสอนผมทุกวันว่าห้ามลืมพ่อลืมแม่เด็ดขาด เพราะถ้าไม่มีพ่อกับแม่ก็จะไม่มีเรา ถ้าลืมท่าน ทำอะไรก็ไม่เจริญ ผมเลยอยากบอกเหมือนอายเลยครับว่า ถ้ามีความรักยังไง พ่อกับแม่ก็ห้ามลืมเป็นอันขาด
• สุดท้าย เราตั้งเป้าหมายไว้กับความรัก และกับสิ่งที่ทำไว้ว่าอย่างไรบ้าง
อาย : คู่เราเป็นเหมือนพ่อกับแม่ค่ะ เพราะว่าถึงจะทะเลาะกัน งอนกัน หรือโกรธกัน แต่ก็ไม่มีวันไหนที่ไม่รักกันเลย ขอเรื่อยๆ ไปจนแก่ได้ไหม ไม่คาดไม่หวัง ไม่ทุกข์ แต่ขอมีตัวเล็กๆ สัก 2 คนมาเพิ่มสีสันให้ชีวิตดีกว่า
ต้า : เป้าหมายก็คือได้รักอายทุกๆ วัน กวนอายให้โมโหนิดหน่อยให้พอมีรอยยิ้ม ชีวิตก็มีความสุขแล้วครับ

คลิปวีดิโอของ อาย-ต้า
“เคล็ดลับวิธีดูแลความรักแบบวัยรุ่น” จากอาย-ต้า
เรื่อง : วรัญญา งามขำ
ภาพ : Facebook มินิอาย ตันจัง
“ชอบอ่ะ น่ารัก ดูแล้วยิ้มตลอด”
“น่ารักมากๆ ฉันยิ้มได้เพราะเธอ”
“ดูเกิน 10 รอบ ชอบม๊ากกกก”
และประโยคอื่นๆ ที่บรรดาแฟนเพจเฟซบุ๊ก “มินิอาย ตันจัง” จะสรรหามาชื่นชม
“มินิอาย ตันจัง” คือชื่อเพจที่มีผู้คลิกไลค์อย่างรวดเร็ว นับจำนวนก็เกือบสองแสนคนภายในระยะวลาไม่กี่เดือน ซึ่งวัตถุประสงค์ของเพจนี้สร้างขึ้นมาเพื่อความบันเทิง ด้วยการอัดคลิปวีดิโอสไตล์ขำขันผ่านตัวตนของ “อาย” สาวอีสานผู้รุ่มรวยอารมณ์ขัน และ “ต้า” หนุ่มคู่ชีวิตสุดเลิฟที่เข้าขากันดี๊ดี ชนิดที่ว่า เมียว่ายังไง ข้าว่ายังงั้น เพราะเกือบจะทุกคลิป ต้ามักจะรับบทเป็นชายหนุ่มผู้เกรงใจภรรยา อย่างคาถาบูชาเมีย เขาก็ท่องมาแล้ว
ไม่เพียงแค่ในคลิปวีดิโอ หากแต่ชีวิตจริงของทั้งคู่ก็เรียกได้ว่าเป็นคู่รักที่น่าอิจฉาไม่น้อย ความสนุกสนานผสานอารมณ์มุ้งมิ้ง ทำให้เขาทั้งสองเป็นคู่รักที่ตอนนี้เรียกได้ว่า “ลงตัวที่สุด” ซึ่งแว่วมาว่า นอกจากแฟนคลับในประเทศไทยแล้ว พวกเขายังมีแฟนคลับอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศลาวอีกด้วย
เอาล่ะ ไม่ว่าจะด้วยคอนเซปต์ที่แสนจะขบขัน ภาษาสำเนียงอีสานที่ดูเป็นกันเอ๊งกันเอง มุขตลกที่ตรงกับชีวิตคู่ของใครต่อใครหรืออะไรก็ตามแต่ที่ทำให้หลายคนชื่นชอบ เราก็ไม่อาจรู้ได้แน่ชัด แต่สิ่งหนึ่งที่รู้อย่างถ่องแท้ นั่นก็คือ ทั้งคู่มีคนที่ชื่นชอบและคอยติดตามมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น อย่างต่อเนื่อง และคุณก็อาจจะเป็นหนึ่งในจำนวนนั้น...
• เล่าให้ฟังหน่อยว่า ทำไมถึงคิดที่จะอัดคลิปวีดิโอคู่รักขึ้นมา
อาย : มันเริ่มมาตั้งแต่ตอนที่อายเรียนจบใหม่ๆ แล้วล่ะค่ะ ไม่มีอะไรทำ อยู่บ้านแล้วเหงา ก็เลยเริ่มอัดคลิป พออัดแล้วมีเพื่อนๆ มาคอมเมนท์ บอก “เอาอีกๆ ตลกดี คลายเครียดดี” อายก็เลยเริ่มรู้สึกสนุกและทำมาเรื่อยๆ ช่วงหลังๆ มา จะเน้นเป็นภาษาอีสานค่ะ เพราะอายเป็นคนอุดรธานี ส่วนใหญ่จะพูดอีสาน 80 เปอร์เซ็นต์ต่อวันเลย
จริงๆ อายก็อัดทุกแนวนะคะ ขึ้นอยู่กับว่าช่วงเวลานั้นว่านึกอะไรออก ก็จะอัดตอนนั้นเลยค่ะ แต่ส่วนมาก อายจะอยู่กับต้า เลยทำเป็นคลิปคู่กับต้าเยอะค่ะ เรื่องส่วนใหญ่ที่ทำขึ้น มีอิทธิพลที่มาจากเรื่องจริงของชีวิตคู่ เกิดขึ้นในชีวิตตัวเอง แบบเกิดขึ้นแล้วมันนึกขำ เอ้ย มันได้ว่ะต้า เอามุขนี้ แล้วก็อัดเลยตอนนั้น
• แล้วทำไม อาย-ต้า ถึงเป็นคู่รักที่เรียกได้ว่ามีคนติดตามเยอะถึงเพียงนี้ มองว่าอะไรที่ทำให้คนส่วนใหญ่ชื่นชอบในคู่เรากัน
อาย : สงสัยเป็นคู่เพี้ยนค่ะ ทำอะไรที่แบบไม่เหมือนชาวบ้านเขา อายจะเป็นผู้หญิงหลุดๆ ส่วนต้าก็ชอบตามใจตลอด แต่ที่คนส่วนใหญ่ชอบ น่าจะเป็นเพราะคลิปที่เราทำออกมามากกว่าค่ะ เหมือนดูแล้วตรงกับชีวิต ทำงานเครียดๆ กลับมาดูคลิปแล้วขำ หายเครียด หายเหนื่อยไปชั่วขณะ จุดประสงค์คืออยากให้ทุกคนผ่อนคลายค่ะ (ยิ้ม)
• ได้ข่าวว่าทั้งคู่แต่งงานกันแล้ว ชีวิตคู่เป็นอย่างไรบ้าง
อาย : พึ่งแต่งเมื่อต้นปีเองค่ะ ส่วนหลังแต่งงาน ก็เรื่อยๆ นะคะ ไม่มีอะไรเลย เหมือนตอนที่เป็นแฟนกัน ไม่มีอะไรเปลี่ยน ยกเว้นแค่ได้นอนบ้านเดียวกัน เจอหน้ากัน ทำอาหารให้แฟนกิน นอกนั้นเหมือนตอนเป็นแฟนกันหมดเลย (หัวเราะ)
ต้า : ก็มีความสุขดีครับ (ยิ้ม)
• ย้อนเล่าเรื่องความรักของทั้งคู่ให้ฟังหน่อย ประทับใจอะไรในตัวกันและกัน
อาย : ก่อนแต่งงาน เราคบกันมาหกปี เป็นแฟนกันมาตั้งแต่ ม.5 แต่เชื่อไหมคะ จริงๆ เรารู้จักกันมานานมากแล้ว ตอนนั้นอยู่ ป.1 อายกับต้าเรียนห้องเดียวกัน แต่ไม่เคยคุยกันเลย พอขึ้น ป.2 อายก็ย้ายห้องและไม่เคยเจอกันอีกเลย จนกระทั่งเรียน ม.5 เขาก็มาจีบค่ะ ภูมิใจนำเสนอมาก (หัวเราะร่วน) จากนั้นเราก็คบกันมาเรื่อยๆ พอเรียนจบต่างคนต่างมีงานทำ เลยปรึกษาพ่อกับแม่ว่าเราอยากแต่งงานกันนะ พ่อกับแม่เขาก็เลยจัดให้เลยสมใจ (ยิ้ม)
ส่วนเรื่องประทับใจอายประทับใจในตัวต้าอยู่ 2 เรื่องค่ะ เรื่องแรกคือตอนเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี 1 ต้าเขาชอบขับมอเตอร์ไซค์ แล้วมันจะมีทริปขับมอเตอร์ไซค์จากมหาสารคาม-ไปเชียงราย ต้ากับอายก็ไป ซึ่งมันโหดมาก นอนข้างรางรถไฟ นอนสถานีตำรวจ แต่คือตลอดทางจะมีภูเขา ต้าจะดูแลอายดีมากๆ จะคอยเอามือมาจับประคองตลอด เพราะกลัวเราตก (อายเหนื่อยมาก หลับอยู่ข้างหลังเลย) ขนาดอายนั่ง อายยังเหนื่อยเลย คิดดูว่าต้าเป็นคนขับจะเหนื่อยขนาดไหน เลยประทับใจในตัวเขามากๆ แต่ตอนนี้ พูดด็พูดเถอะค่ะว่า ให้นั่งมอเตอร์ไชค์ไปไหนนานๆ แบบนั้น ไม่เอาอีกแล้ว เข็ดมาก (หัวเราะ)
อีกเรื่อง เป็นตอนที่เขาขออายแต่งงาน คืออายชอบดูรายการเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานแล้วชอบมาบ่นว่า เนี่ย ชีวิตนี้จะได้สัมผัสอารมณ์แบบนี้กับเขาบ้างไหมนะ คงไม่มีหรอกชีวิตเรา ทำใจดีกว่า เฮ้อ บ่นเกือบทุกวัน (หัวเราะ) จนวันครบรอบ 6 ปี เขาก็มาทำเซอร์ไพรส์ แบบ...เฮ้ย ทำให้แล้ว รักมากนะ อิอิ พูดไม่ออกเลยค่ะ ดูจากคลิปเอาเองแล้วกันนะคะ (ยิ้ม)
ต้า : สิ่งที่ผมประทับใจในตัวอายมากคือ ตอนนั้นเรียนอยู่ ม.5 อายซื้อรองเท้าคู่แรกให้ซึ่งรองเท้ามันราคาคู่ละพันกว่าบาท เป็นราคาที่แพงมาก อายเขาก็หาเงินจากการขายขนมพวกลูกอม ท๊อฟฟี่ สองสามบาทให้กับเพื่อนที่โรงเรียน ขายขนมจนซื้อรองเท้าคู่ละพันกว่าบาทให้เราได้ มันทำให้เห็นว่าอายมีความพยายามและใส่ใจ ซึ่งจะมีสักกี่คนที่ทำแบบนี้ให้แฟนในช่วง ม.ปลาย นี่แหละครับเรื่องประทับใจ ทุกวันนี้ รองเท้าคู่นี้ก็ยังอยู่ ยังไม่ทิ้งเลยครับ (ยิ้ม)
คลิปประกอบ
• จากในคลิปวีดิโอที่ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตคู่ มุมหนึ่งก็ดูตรงกับชีวิตคู่ของใครหลายๆ แต่มุมหนึ่งก็ดูมุ้งมิ้งน่ารัก แล้วกับชีวิตจริงเป็นอย่างไรกัน
อาย : มันมุ้งมิ้งไหมไม่รู้เลยนะ แต่คือทุกวันก็เป็นแบบในคลิปเลยค่ะ เสนอความเป็นจริงมาให้ได้ดู (หัวเราะ) ที่บ้านจะมีเสียงหัวเราะทุกวัน ไม่ค่อยเครียด เลยดูมุ้งมิ้งหรือเปล่า อันนี้ไม่แน่ใจ (หัวเราะ)
• เห็นแต่ละคลิปที่อัดมาสามีมีความเกรงใจภรรยาอยู่พอสมควรจนหลายคนที่ได้ดูคลิปต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "ต้า" เป็นคนเกรงกลัวภรรยา (เกียร์มัว) นี่จริงหรือไม่ช่วยชี้แจงแถลงไขด่วน
ต้า : (หัวเราะร่วน) มันก็ต้องมีบ้างนะครับ เอาจริงๆ นะ ผมก็เกรงใจภรรยามากจริงๆ นั่นแหละไม่รู้เพราะอะไร แต่จะนึกถึงเวลาเขาเหนื่อยหรือทำอะไรดีๆ เพื่อผม เขาจะไม่เคยบ่นหรือท้อเลย ผ่านอุปสรรคทั้งเรื่องดีและไม่ดีมาด้วยกัน ก็พอสมควรแล้ว เขาก็ยังอยู่ข้างผมตลอด
• แล้วแบบนี้มีวิธีการดูแลกันและกันจนทำให้หลายคนอิจฉาแบบนี้อย่างไรบ้าง
อาย : จริงๆ คู่เราก็เหมือนทุกคู่นะคะ มีโกรธกัน งอนกันแทบทุกวัน แต่เราจะมีกฎอยู่ข้อหนึ่งว่าทะเลาะกัน โกรธกัน น้อยใจกัน ห้ามตั้งสเตตัสหรือโพสหน้าเฟซบุ๊กเด็ดขาด ให้โพสแต่เรื่องที่มีความสุข ความสนุกเท่านั้น แค่นี้เลยง่ายๆ หลายคนจึงเห็นแต่ความสุข ความมุ้งมิ้งของเรามากกว่าความทุกข์
• วิธีรักษาความสัมพันธ์ของสามีภรรยาวัยรุ่น
อาย : จะคิดตลอดว่าต้องไม่เครียดค่ะ คนเราจะตายวันไหนก็ไม่รู้ จะโกรธกันไปทำไม เอาเวลาโกรธกันมามีความสุขด้วยกันดีกว่า อย่าทำให้เสียเวลาไปเปล่าๆ เลย เวลามันผ่านไปไวมากจริงๆ นะ แป๊บเดียวก็จะปีใหม่อีกแล้ว อายก็ไม่รู้จะมีชีวิตไปถึงเมื่อไหร่ ดูแลใส่ใจกัน ให้ความสำคัญกันทุกวันก็พอ ไม่นานก็ตายจากกันแล้ว ชาติหน้าจะเจอกันไหมก็ไม่รู้
ต้า : ผมจะคิดเสมอว่าวันนี้จะทำอะไรให้อายได้หัวเราะและมีความสุขได้มากที่สุด เวลาโกรธหรือโมโห เราจะเป็นคนเดินออกจากนั้นเลย (ไม่สู้) แล้วก็ต้องไปง้อให้เร็วที่สุด (หัวเราะ) อ่อ แต่มีเรื่องหนึ่งที่ทำให้ผมและอายมีความสุขพร้อมกันนั่นก็คือการทำบุญ คู่เราจะต้องไปวัดอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง การทำบุญมันเป็นการพักผ่อนจิตใจและทำให้เราใจเย็นลง (ยิ้ม)
• เหมือนว่าความตลกขบขันจะเป็นจุดขายของทั้งสองคน เรียกได้ว่าทั้งคู่เป็นคู่รักอารมณ์ดีหรือไม่อย่างไร
อาย : จุดขายของเราทั้งสองคนอยู่ที่การเป็นคนอารมณ์ดีค่ะ มดเดินผ่านเรายังหัวเราะได้เลย มันตลกของมันเอง มันเป็นธรรมชาติของเรา (หัวเราะ)
• เท่าที่สังเกต เห็นว่าหลายคนชื่นชมและชื่นชอบคู่ของคุณมากๆ รู้สึกยังไงบ้างเหมือนเรียกได้ว่าคุณมีแฟนคลับเลยหรือเปล่า
อาย : ฮู้ยยย... รู้สึกดีมาก (ลากเสียงยาว) จากคนไม่เคยมีคนรู้จัก มีคนรู้จักเยอะมาก แล้วเขาชอบเราด้วยนะ ไม่ได้เกลียดเรา พูดตามตรงเลยว่าเกิดมา ไปไหนมาไหน ไม่เคยมีคนมาขอถ่ายรูปมาก่อน แต่วันนี้มีแล้ว ภูมิใจจนหน้าบานเป็นกระด้งแล้ว (หัวเราะ) อย่างหลานอายเองอายุประมาณสามขวบ ดูคลิปคาถาบูชาเมีย จนทุกวันนี้ ท่องได้แล้วค่ะ บอกได้เลยว่าอายฟินหลายเด้อ (หัวเราะ)
อายคิดว่าสิ่งที่เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ได้รับจากอายและต้า มันคือรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ แง่คิดในการใช้ชีวิต ชีวิตคู่ ส่วนใหญ่เขาก็ชอบกันนะคะ ตรงชีวิตเขาเป๊ะบ้าง หายเครียดบ้าง โกรธกับแฟนอยู่หายโกรธกันบ้าง และมีอีกหลายอย่างเลยค่ะ ส่วนใหญ่จะมีคนบอกว่าเขาอิจฉาอาย เพราะได้ผู้ชายแบบต้าเป็นแฟน บางคนก็สงสารต้า แต่ไม่มีใครสงสารอายเลย...อายออกจะน่าสงสาร (หัวเราะ)
• แน่นอนว่ามีคนรักก็ย่อมมีคนเห็นต่าง มีคนเข้ามาแอนตี้บ้างไหม
อาย : มีบ้างค่ะ แต่เราก็มองผ่านๆ ไป ไม่ใส่ใจ เอามาใส่ใจก็หนักใจ ปล่อยเขาไปค่ะ สิทธิของเขา เราก็ทำหน้าที่ของเรา ทำเพื่อคนที่รักเราดีกว่า ไม่สนใจคนที่เขาเกลียดหรอก เราไม่สนใจสักพัก เขาก็หายไปเอง อายไม่ตอบโต้ เพราะคุณแม่ขอร้อง (หัวเราะ) แต่อายคิดว่าก็จะยังอัดคลิปแบบนี้ไปเรื่อยๆ ถึงต่อให้ไม่มีคนดูก็จะอัด (หัวเราะ) เพราะว่าชอบเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว
• คิดว่าเราเป็นคู่รักเน็ตไอดอลหรือเปล่า หรือมีคนนิยามหรือเรียกเราเช่นนั้นหรือไม่
อาย : เน็ตไอดอลคืออะไรอ่ะ (หัวเราะ) อายไม่ขอรับนะคำนี้ ต่อให้มีคนบอกว่าเราเป็นก็เหอะ เพราะจะเป็นไอดอลของใคร เราต้องเป็นคนดี ให้เขาเลียนแบบแต่สิ่งที่ดีๆ อายยังเป็นตัวอย่างที่ดีร้อยเปอร์เซนต์ไม่ได้ พยามก็ไม่ไหว มันฝืน ขอเป็นตัวของตัวเองดีกว่า อายต้าก็เป็นอายต้านี่แหละ ไม่เป็นหรอกเน็ตไอดอล ขอเป็นที่รักของหลายๆ คนก็พอแล้ว (หัวเราะ)
• มีมุมมองยังไงบ้างเกี่ยวกับคู่รักวัยรุ่นหรือสามีภรรยาละอ่อน
อาย : อายมองว่าคนเรารักกันควรแนะนำสิ่งดีๆ ให้กัน ทำแต่สิ่งดีๆ ให้กัน รักกันต้องช่วยกัน ดูแลกันและกัน แต่รักกันยังไง ก็อย่าลืมพระสององค์ที่บ้าน ห้ามติดแฟนจนลืมพ่อลืมแม่เด็ดขาด
ต้า : ผมมองว่าการจะรักกันต้องดูแลเอาใจใส่กัน ไม่จี้จุด หรือทำร้ายจิตใจอีกฝ่าย อีกอย่างอายจะสอนผมทุกวันว่าห้ามลืมพ่อลืมแม่เด็ดขาด เพราะถ้าไม่มีพ่อกับแม่ก็จะไม่มีเรา ถ้าลืมท่าน ทำอะไรก็ไม่เจริญ ผมเลยอยากบอกเหมือนอายเลยครับว่า ถ้ามีความรักยังไง พ่อกับแม่ก็ห้ามลืมเป็นอันขาด
• สุดท้าย เราตั้งเป้าหมายไว้กับความรัก และกับสิ่งที่ทำไว้ว่าอย่างไรบ้าง
อาย : คู่เราเป็นเหมือนพ่อกับแม่ค่ะ เพราะว่าถึงจะทะเลาะกัน งอนกัน หรือโกรธกัน แต่ก็ไม่มีวันไหนที่ไม่รักกันเลย ขอเรื่อยๆ ไปจนแก่ได้ไหม ไม่คาดไม่หวัง ไม่ทุกข์ แต่ขอมีตัวเล็กๆ สัก 2 คนมาเพิ่มสีสันให้ชีวิตดีกว่า
ต้า : เป้าหมายก็คือได้รักอายทุกๆ วัน กวนอายให้โมโหนิดหน่อยให้พอมีรอยยิ้ม ชีวิตก็มีความสุขแล้วครับ
คลิปวีดิโอของ อาย-ต้า
“เคล็ดลับวิธีดูแลความรักแบบวัยรุ่น” จากอาย-ต้า
เรื่อง : วรัญญา งามขำ
ภาพ : Facebook มินิอาย ตันจัง