เผยโฉมหน้าที่มาของบทเพลง “โอปป้าจงเจริญ” ที่ทำให้คนไทยทั่วประเทศ คลิกแชร์และร้องตามด้วยความมันในอารมณ์ เปลี่ยนความขื่นขมขุ่นขึ้งให้กลายเป็นความฮา นี่คือผลงานของคนดนตรีที่เรียกตัวเองว่า “มาเฟียเรคคอร์ด” ซึ่งเคยโด่งดังมาจากเพลงล้อเลียนยอดฮิตอย่าง "ผีกาก้า"
เอเชียนเกมส์ครั้งที่ 17 ณ เมืองอินชอน “ประเทศเกาหลีใต้” เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วทวีป ถึงความไม่ชอบมาพากลของเจ้าภาพ และกำลังจะเป็นที่กล่าวขานอีกหนึ่งความทรงจำของมหกรรมกีฬาของชนชาวเอเชีย
และในขณะเดียวกัน ณ ประเทศไทย เสียงเพลง “โอปป้าจงเจริญ” ถูกเผยแพร่ออกไป จนเป็นเสียงฮือบนโลกสังคมออนไลน์ และเสียงฮาให้ตลกขบขัน จนกลายเป็นที่โจษจันและสะใจให้กับแฟนกีฬาชาวไทยทั้งขาจรและขาประจำ ให้ขำเล็กๆ ไปจนถึง ฮาใหญ่ๆ ได้อารมณ์ดีกันไป
โดยผู้อยู่เบื้องหลังบทเพลงนี้ ก็คือ “มาเฟียเร็คคอร์ด” ซึ่งหากเอ่ยชื่อนี้ให้บรรดานักฟังเพลง คงต้องร้องอ๋อ กันแน่นอน เพราะเขาผู้นี้คือเจ้าของบทเพลง 'ผีกาก้า' ที่เคยเกรียวกราวจนถึงขั้นได้ทำอัลบัมส่วนตัว เมื่อเกือบสิบปีก่อน และอีกหลากบทเพลงล้อเลียนบนโลกออนไลน์ เขาคือต้นแบบเจ้าแรกๆ แห่งเพลงล้อเลียนจิกกัดที่ทำให้ใครต่อใครได้เจริญรอยตามในเวลาต่อมา
ซึ่งเราก็ไม่รอช้า รีบชิงตัว “ซัง” เจ้าของโปรเจกต์นี้ ผู้คงสถานะครีเอทีฟรายการดนตรีรายการหนึ่ง มาพูดคุยกันถึงปรากฎการณ์นี้กัน ซึ่งเขาเองยังแอบเปรยๆ ให้เราฟังด้วยว่า
“หากมีเหตุการณ์ไม่ชอบมาพากล เตรียมตัวเจอเขาผ่านบทเพลงอีกแน่ !!!”
ทำไมต้องเป็น “โอปป้าจงเจริญ”
มันเหมือนกับว่า เวลาเราเจออะไรที่ทำให้ไม่พอใจ หรือว่าหลายๆ คนไม่พอใจ เราอยากจะทำให้คนได้ระบาย และตัวเราเองก็ได้ระบายด้วย ก็หงุดหงิดกับผลหลายๆ อย่าง คือไม่ใช่แค่ของคนไทยนะครับ ประเทศอื่นๆ ที่โดน เค้าก็หนักกว่าเรานะ ก็เลยทำซะหน่อย เปลี่ยนความรู้สึกจากคนที่กำลังแค้นๆ โกรธๆ โดดไปกลายเป็นฮา
เพลงนี้ หากนับตั้งแต่แต่งเพลง อัดเสียงร้อง และทำคลิปเอ็มวี ใช้ประมาณ 3 ชั่วโมง ถือว่ามันฉุกละหุกมาก ตอนแรกกะจะไม่ทำแล้ว เพราะช่วงนี้งานผมค่อนข้างวุ่น จริงๆ มันก็เหลือประมาณ 3-4 ชั่วโมง แทนที่ผมจะพัก ผมก็ทำซะหน่อย ก็ทำจนเสร็จ
ผลตอบรับหลังจากที่เพลงปล่อยออกไป
ก็ยังรู้สึกเหมือนเดิม คือตื่นเต้นครับ ผลตอบรับดีกว่าเพลงที่ผ่านมา อาจจะเป็นเพราะเมื่อก่อนตอนที่ทำเพลงแรกๆ ยูทิวป์ยังไม่ค่อยกระจายขนาดนี้ เพราะว่ายอดตอนนี้ไปเกือบ7 แสนแล้ว จากที่เคยทำมา วันนึงขึ้นแสนก็ถือว่าเยอะแล้ว
แสดงว่า ถ้ามีเหตุการณ์อะไรไม่ชอบมาพากล น่าจะได้เจอเพลงของ มาเฟียเร็คคอร์ด แน่นอน
ส่วนใหญ่ก็มองเรื่องเหตุการณ์ข่าวสารทั่วไปครับ มันก็ต้องมีประเด็นเล่น แต่ก็ไม่ถึงว่ารับใช้สังคม เอาเป็นว่าพยายามทำให้สังคมมีเรื่องฮาๆ เปลี่ยนจากความเครียด อารมณ์ที่ขุ่นเคืองไม่พอใจ ให้กลายเป็นเรื่องตลก มันเหมือนมีคนด่าแทน คือเพลงที่ทำมาบางทีพูดแทนใจให้กับคนที่ไม่พอใจอยู่ พอมีคนด่าแทน คนฟังก็จะสบายใจขึ้น จะว่าเป็นจุดประสงค์หลักก็ใช่ เพราะตอนที่เพลงผีกาก้าออกมา ช่วงนั้นการเมืองก็แรงเหมือนกัน พอมีเพลงนี้ออกมา การเมืองมันเบาลงทันทีเลย เพราะคนมัวแต่มาฮาเพลง มันเหมือนรวมจิตใจคนทั้งชาติ (หัวเราะ) เบรกเรื่องทะเลาะกันเอง มาด่าเกาหลีก่อน ก็อยากให้คนไทยรักกันครับ (หัวเราะ)
แล้วเรื่องลิขสิทธิ์นี่ มีการโดนเล่นงานบ้างไหม
ตอนนี้ทางยูทิวป์แชนแนลจะเปิดรับเพลงแนวล้อเลียน เพลงแปลง หรือเพลงคัฟเวอร์ แล้วถ้าเกิดเพลงนั้นมีลิขสิทธิ์ เขาจะมีช่องของค่ายนั้น สมมติว่าหากเราทำเพลงลงยูทิวป์แล้วได้ค่าโฆษณา ทางยูทิวป์ก็จะแบ่งค่าโฆษณาบางส่วนให้กับเจ้าของเพลง แต่ว่าค่ายนั้นต้องมีช่องในยูทิวป์ด้วย ถือว่าวินวินทั้งคู่ แต่ว่ารายได้ที่ได้มา มันก็ได้ไม่เท่าไหร่หรอกครับ ได้มาแค่หลัก 10 ดอลลาร์เอง (หัวเราะ) ก็ไม่รู้จะแบ่งยังไง คือเรียกว่าเป็นงานอดิเรกมากกว่า
คิดจะกลับมาทำอัลบั้มอีกครั้งหรือเปล่า
ผมไม่ได้คิดว่าจะเอาเพลงพวกนี้ไปทำอัลบัมขายหรอกฮะ แค่ทำเอาฮามากกว่า ถ้าจะทำก็จะไปทำของตัวเองดีกว่า แต่ก็ไม่ได้คิดว่าหาค่ายอะไรยังไง เพราะเดี๋ยวนี้มันก็มีช่องของยูทิวป์ เราก็สามารถอัพเพลง แล้วก็สามารถทำใน itune ได้ เพราะเราคิดว่า ถึงเข้าค่ายไป ยอดขายเพลงก็อย่างที่รู้กัน มีใครซื้อเพลงบ้างครับ (หัวเราะ) และอีกอย่าง วงของผม (วง ๔ ยอดกุมาร) แต่ละคนก็มีงานมีการทำด้วย กว่าจะมาทำเพลงที ก็ใช้เวลานาน เรียกว่าทำเอารายสะดวกดีกว่า
ภาพประกอบ : facebook : Mafiarecord
เอเชียนเกมส์ครั้งที่ 17 ณ เมืองอินชอน “ประเทศเกาหลีใต้” เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วทวีป ถึงความไม่ชอบมาพากลของเจ้าภาพ และกำลังจะเป็นที่กล่าวขานอีกหนึ่งความทรงจำของมหกรรมกีฬาของชนชาวเอเชีย
และในขณะเดียวกัน ณ ประเทศไทย เสียงเพลง “โอปป้าจงเจริญ” ถูกเผยแพร่ออกไป จนเป็นเสียงฮือบนโลกสังคมออนไลน์ และเสียงฮาให้ตลกขบขัน จนกลายเป็นที่โจษจันและสะใจให้กับแฟนกีฬาชาวไทยทั้งขาจรและขาประจำ ให้ขำเล็กๆ ไปจนถึง ฮาใหญ่ๆ ได้อารมณ์ดีกันไป
โดยผู้อยู่เบื้องหลังบทเพลงนี้ ก็คือ “มาเฟียเร็คคอร์ด” ซึ่งหากเอ่ยชื่อนี้ให้บรรดานักฟังเพลง คงต้องร้องอ๋อ กันแน่นอน เพราะเขาผู้นี้คือเจ้าของบทเพลง 'ผีกาก้า' ที่เคยเกรียวกราวจนถึงขั้นได้ทำอัลบัมส่วนตัว เมื่อเกือบสิบปีก่อน และอีกหลากบทเพลงล้อเลียนบนโลกออนไลน์ เขาคือต้นแบบเจ้าแรกๆ แห่งเพลงล้อเลียนจิกกัดที่ทำให้ใครต่อใครได้เจริญรอยตามในเวลาต่อมา
ซึ่งเราก็ไม่รอช้า รีบชิงตัว “ซัง” เจ้าของโปรเจกต์นี้ ผู้คงสถานะครีเอทีฟรายการดนตรีรายการหนึ่ง มาพูดคุยกันถึงปรากฎการณ์นี้กัน ซึ่งเขาเองยังแอบเปรยๆ ให้เราฟังด้วยว่า
“หากมีเหตุการณ์ไม่ชอบมาพากล เตรียมตัวเจอเขาผ่านบทเพลงอีกแน่ !!!”
ทำไมต้องเป็น “โอปป้าจงเจริญ”
มันเหมือนกับว่า เวลาเราเจออะไรที่ทำให้ไม่พอใจ หรือว่าหลายๆ คนไม่พอใจ เราอยากจะทำให้คนได้ระบาย และตัวเราเองก็ได้ระบายด้วย ก็หงุดหงิดกับผลหลายๆ อย่าง คือไม่ใช่แค่ของคนไทยนะครับ ประเทศอื่นๆ ที่โดน เค้าก็หนักกว่าเรานะ ก็เลยทำซะหน่อย เปลี่ยนความรู้สึกจากคนที่กำลังแค้นๆ โกรธๆ โดดไปกลายเป็นฮา
เพลงนี้ หากนับตั้งแต่แต่งเพลง อัดเสียงร้อง และทำคลิปเอ็มวี ใช้ประมาณ 3 ชั่วโมง ถือว่ามันฉุกละหุกมาก ตอนแรกกะจะไม่ทำแล้ว เพราะช่วงนี้งานผมค่อนข้างวุ่น จริงๆ มันก็เหลือประมาณ 3-4 ชั่วโมง แทนที่ผมจะพัก ผมก็ทำซะหน่อย ก็ทำจนเสร็จ
ผลตอบรับหลังจากที่เพลงปล่อยออกไป
ก็ยังรู้สึกเหมือนเดิม คือตื่นเต้นครับ ผลตอบรับดีกว่าเพลงที่ผ่านมา อาจจะเป็นเพราะเมื่อก่อนตอนที่ทำเพลงแรกๆ ยูทิวป์ยังไม่ค่อยกระจายขนาดนี้ เพราะว่ายอดตอนนี้ไปเกือบ7 แสนแล้ว จากที่เคยทำมา วันนึงขึ้นแสนก็ถือว่าเยอะแล้ว
แสดงว่า ถ้ามีเหตุการณ์อะไรไม่ชอบมาพากล น่าจะได้เจอเพลงของ มาเฟียเร็คคอร์ด แน่นอน
ส่วนใหญ่ก็มองเรื่องเหตุการณ์ข่าวสารทั่วไปครับ มันก็ต้องมีประเด็นเล่น แต่ก็ไม่ถึงว่ารับใช้สังคม เอาเป็นว่าพยายามทำให้สังคมมีเรื่องฮาๆ เปลี่ยนจากความเครียด อารมณ์ที่ขุ่นเคืองไม่พอใจ ให้กลายเป็นเรื่องตลก มันเหมือนมีคนด่าแทน คือเพลงที่ทำมาบางทีพูดแทนใจให้กับคนที่ไม่พอใจอยู่ พอมีคนด่าแทน คนฟังก็จะสบายใจขึ้น จะว่าเป็นจุดประสงค์หลักก็ใช่ เพราะตอนที่เพลงผีกาก้าออกมา ช่วงนั้นการเมืองก็แรงเหมือนกัน พอมีเพลงนี้ออกมา การเมืองมันเบาลงทันทีเลย เพราะคนมัวแต่มาฮาเพลง มันเหมือนรวมจิตใจคนทั้งชาติ (หัวเราะ) เบรกเรื่องทะเลาะกันเอง มาด่าเกาหลีก่อน ก็อยากให้คนไทยรักกันครับ (หัวเราะ)
แล้วเรื่องลิขสิทธิ์นี่ มีการโดนเล่นงานบ้างไหม
ตอนนี้ทางยูทิวป์แชนแนลจะเปิดรับเพลงแนวล้อเลียน เพลงแปลง หรือเพลงคัฟเวอร์ แล้วถ้าเกิดเพลงนั้นมีลิขสิทธิ์ เขาจะมีช่องของค่ายนั้น สมมติว่าหากเราทำเพลงลงยูทิวป์แล้วได้ค่าโฆษณา ทางยูทิวป์ก็จะแบ่งค่าโฆษณาบางส่วนให้กับเจ้าของเพลง แต่ว่าค่ายนั้นต้องมีช่องในยูทิวป์ด้วย ถือว่าวินวินทั้งคู่ แต่ว่ารายได้ที่ได้มา มันก็ได้ไม่เท่าไหร่หรอกครับ ได้มาแค่หลัก 10 ดอลลาร์เอง (หัวเราะ) ก็ไม่รู้จะแบ่งยังไง คือเรียกว่าเป็นงานอดิเรกมากกว่า
คิดจะกลับมาทำอัลบั้มอีกครั้งหรือเปล่า
ผมไม่ได้คิดว่าจะเอาเพลงพวกนี้ไปทำอัลบัมขายหรอกฮะ แค่ทำเอาฮามากกว่า ถ้าจะทำก็จะไปทำของตัวเองดีกว่า แต่ก็ไม่ได้คิดว่าหาค่ายอะไรยังไง เพราะเดี๋ยวนี้มันก็มีช่องของยูทิวป์ เราก็สามารถอัพเพลง แล้วก็สามารถทำใน itune ได้ เพราะเราคิดว่า ถึงเข้าค่ายไป ยอดขายเพลงก็อย่างที่รู้กัน มีใครซื้อเพลงบ้างครับ (หัวเราะ) และอีกอย่าง วงของผม (วง ๔ ยอดกุมาร) แต่ละคนก็มีงานมีการทำด้วย กว่าจะมาทำเพลงที ก็ใช้เวลานาน เรียกว่าทำเอารายสะดวกดีกว่า
ภาพประกอบ : facebook : Mafiarecord
