เผยภาพ “วีระ” หลังได้รับอิสรภาพ ระบุขณะนี้พักอยู่ที่สถานทูตไทย ขอขอบคุณทุกกำลังใจ ด้าน “พนิช” โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความยินดี
วานนี้ (1 ก.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. นางพิศอำไพ สมความคิด ภรรยา นายวีระ สมความคิด ได้เดินทางไปยังกรุงพนมเปญเพื่อรับสามีกลับประเทศไทย ภายหลังจากที่รัฐบาลกัมพูชาแถลงข่าวปล่อยตัวนายวีระ โดยจะเดินทางกลับประเทศไทยด้วยเที่ยวบิน PG932 สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 11.25 น. วันพรุ่งนี้ (2 ก.ค.)
ทั้งนี้ นางพิศอำไพ โพสต์ความเคลื่อนไหวผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก "Veera Somkwamkid" มาโดยตลอด และล่าสุด เมื่อเวลา 24.13 น. ได้มีการโพสต์ภาพ นายวีระ ภายหลังจากที่ได้รับอิสรภาพ พร้อมกับข้อความที่เป็นคำพูดของ นายวีระ ว่า “ขณะนี้ผมพักอยู่ที่สถานทูตไทย ขอบคุณทุกกำลังใจ พรุ่งนี้พบกันที่เมืองไทยครับ”
ทางด้าน นายพนิช วิกิตเศรษฐ อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ และเป็นหนึ่งในเจ็ดคนไทยที่ถูกเจ้าหน้าที่กัมพูชาจับกุมในครั้งนั้นด้วย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก “Panich Vitkitsreth (พนิช วิกิตเศรษฐ์)” ว่า หลังจากได้ทราบข่าวเมื่อประมาณทุ่มกว่าๆ ถึงการปล่อยตัวคุณวีระ สมความคิด ผมรู้สึกยินดีและดีใจกับครอบครัวคุณวีระเป็นอย่างยิ่ง และต้องขอขอบคุณทุกๆ คนที่มีส่วนช่วยเหลือคุณวีระ ให้ได้รับอิสรภาพในครั้งนี้
คืบหน้าความเคลื่อนไหวทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก นายนภพัฒน์จักษ์ อัตตนนท์ ผู้ประกาศข่าวซึ่งเดินทางไปรับนายวีระพร้อมกับนางพิศอำไพ ได้เล่าเหตุการณ์ผ่านเฟซบุ๊ก “Noppatjak Attanon" ยืนยันว่า เมื่อเวลา 23.30 น. นางพิศอำไพได้เจอนายวีระแล้ว โดยทันทีที่ทั้งสองคนได้เห็นหน้ากันครั้งแรกก็ต่างเข้าสวมกอดกันอย่างอบอุ่น พี่ขวัญ (นางพิศอำไพ) น้ำตาไหลออกมาทันทีที่ได้เห็นหน้าคุณวีระ เพราะนี่คือการได้พบกับสามีนอกเรือนจำเปรยซอว์เป็นครั้งแรกในรอบสามปีครึ่ง ซึ่งการได้พบนอกเรือนจำแบบนี้ก็เหมือนคำยืนยันว่าคุณวีระได้รับอิสรภาพแล้ว
ระหว่างการเดินทางมาพี่ขวัญเล่าให้ฟังว่าบินมาหาคุณวีระสัปดาห์ละครั้ง ผมนั่งคำนวณดูสามปีครึ่งก็ร่วมๆ 170 ครั้ง พี่ขวัญบอกว่าพาสปอร์ตหมดไปแล้วหนึ่งเล่ม นี่ถ้ายังไม่ได้รับการปล่อยตัวก็คงหมดเล่มที่สอง
ตอนก่อนที่พี่ขวัญจะได้เจอคุณวีระก็ยังบอกว่ามั่นใจแค่ 80% ว่าพี่วีระจะได้รับการปล่อยตัวจริงๆ เพราะที่ผ่านมาผิดหวังมาโดยตลอด เอาจริงๆ ในใจพี่ขวัญก็คงจะสบายใจไปมากแล้ว แต่เผื่อใจไว้บ้างกันผิดหวัง ซึ่งสุดท้ายทั้งสองคนก็ได้พบกันจริงๆ และค่ำคืนนี้ก็เป็นครั้งแรกในรอบสามปีครึ่งที่ได้อยู่ด้วยกัน