ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - สะพัด! ใช้อำนาจ รบ.รักษาการ ชงวาระจรแต่งตั้งโยกย้าย ขรก. ซี 11 โยก “กิตติพงษ์ กิตยารักษ์” มือปฏิรูป พ้นปลัดยุติธรรม นั่งที่ปรึกษานายกฯ (ตำแหน่งถวิล-ภราดร) หลังอยู่ครบวาระ 4 ปี ต่ออายุมาแล้ว 2 ครั้ง สะพัด “ธงทอง” เสียบแทน ส่วน “ภราดร” ได้ดี ได้นั่งปลัด สปน. เผยใช้ระเบียบแบบ “สมัยแม้ว” ช่วงโยก “สมชาย-จารุพงศ์”
มีกระแสข่าวว่า ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม วันนี้ (6 พ.ค.) การประชุมคณะรัฐมนตรีในช่วงบ่าย นายชัยเกษม นิติสิริ ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จะเสนอวาระจรแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 11 ตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ เนื่องจาก นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ดำรงตำแหน่งครบวาระ 4 ปี และมีการต่ออายุมาแล้ว 2 ครั้ง จึงเสนอแต่งตั้งบุคคลอื่นขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน คือ นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยนายกิตติพงษ์ จะถูกโยกย้ายให้ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ แทน พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ที่ปรึกษานายกฯคนปัจจุบัน ส่วน พล.ท.ภราดร ก็จะมาดำรงตำแหน่งปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี แทนนายธงทอง
ก่อนหน้านี้ นายกิตติพงษ์ ได้ทำหนังสือถึงนายชัยเกษม เพื่อแสดงความประสงค์ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ ดังกล่าว พร้อมทั้งระบุว่าไม่ขอรับตำแหน่งปลัดฯ อีกทั้งก่อนหน้าที่นายกิตติพงษ์ จะครบวาระก็ได้บอกกล่าวทางวาจากับนายชัยเกษม ว่าไม่อยากไปรับตำแหน่งปลัดฯ หรืองานบริหาร เนื่องจากมีภารกิจต้องการดำเนินงานในด้านอื่นๆ ขณะที่ พล.ท.ภราดร ก็พร้อมทำหน้าที่ใดก็ได้ที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายให้
ทั้งนี้ กระแสข่าวรัฐบาลเตรียมโอนย้าย นายกิตติพงษ์ มีขึ้นภายหลังนายกิตติพงษ์ เขียนข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวหลายครั้ง ค่อนข้างออกห่างรัฐบาล รวมทั้งไม่เดินทางมาประชุมร่วมกับรัฐบาลในหลายครั้งๆ วาระ ครม. นี้ จึงถูกมองว่าเป็นความพยายามสกัดกั้นนายกิตติพงษ์ ที่เป็นพลังหลักในการผลักดันการปฏิรูปทางการเมืองในสังคมไทย โดยอ้างว่าดำรงตำแหน่งมาครบ 6 ปี
จากการตรวจสอบพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2550 พบว่า ปกติแล้วข้าราชการระดับบริหาร เช่น ปลัดกระทรวง หรือ อธิบดี มีข้อกำหนดกฎเกณฑ์กติกาว่าให้ดำรงตำแหน่งใดๆ ติดต่อกันไม่เกิน 4 ปีแต่อาจจะขยายเวลาให้ได้คราวละ 1 ปี ไม่เกิน 2 ครั้ง โดยในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรณีนายกิตติพงษ์ ได้รับการต่ออายุ 1 ครั้ง เหมือนช่วงนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ได้รับการต่ออายุราชการเพื่อทำงานกับรัฐบาลชุดนีเช่นกัน ซึ่งการย้ายที่จะเกิดขึ้นจึงไม่มีอะไรน่าแปลกใจหากเป็นการโยกย้ายที่ปราศจากอคติเคลือบแฝง
ในอดีตเคยมีตัวอย่างมาแล้วเมื่อคราวรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นั่งอยู่ในตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม ถึง 7 ปี เมื่อถึงเวลาต้องย้ายก็ย้ายไปเป็นปลัดกระทรวงแรงงาน สลับกับ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ช่วงนั้นที่ประชุม ครม. เห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เสนอเรื่องการสับเปลี่ยนหน้าที่ ย้าย หรือโอนนักบริหารผู้ดำรงตำแหน่งระดับ 11 หรือดำรงตำแหน่งครบ 4 ปี หมุนเวียนไปตำแหน่งอื่นและขอให้ขยายเวลาต่อไปได้ครั้งละไม่เกิน 1 ปี จำนวนไม่เกิน 2 ครั้ง
โดยกระทรวงยุติธรรมได้รับการพิจารณาให้ต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของนายสมชาย ครั้งละ 1 ปี แล้วไปจำนวน 2 ครั้ง โดยเห็นว่านายสมชาย ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรมครบกำหนดตามระยะเวลาดังกล่าวแล้ว จึงสมควรโอน นายสมชาย ไปดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงแรงงาน เนื่องจากเคยรับผิดชอบงานในกระทรวงยุติธรรม ซึ่งมีศาลแรงงานอยู่ในสังกัด และปัจจุบันกระทรวงแรงงานมีความจำเป็นต้องพัฒนากฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบเป็นจำนวนมาก จึงเห็นสมควรให้นายสมชาย ไปดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงแรงงาน
ขณะเดียวกัน ก็ขอรับโอนนายจารุพงศ์ มาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม เนื่องจากนายจารุพงศ์ สำเร็จการศึกษาด้านกฎหมาย และเคยเป็นพนักงานฝ่ายปกครองตำรวจ ซึ่งมีอำนาจสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ทั้งยังมีประสบการณ์ในการบริหารราชการแผ่นดินในหลายตำแหน่งมาก่อน
ตอนนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นการสลับตัวกัน ด้วยเหตุผลว่า นายสมชาย รับราชการในตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรมครบ 4 ปี และต่ออายุได้ 2 ครั้ง ตามกฎระเบียบ ก.พ. ไม่เช่นนั้นจะต้องมาขอยกเลิกมติ ครม. เพื่อให้ดำรงตำแหน่งต่อไป ดังนั้นทุกคนจึงมีความเห็นว่า เมื่อครบกำหนดแล้วต้องหาตำแหน่งที่เหมาะสมให้ เนื่องจากไม่ได้มีความผิดใดๆ ผลงานก็ดี จึงดูว่าจะแลกกันตรงไหนเห็นว่าปลัดกระทรวงแรงงานก็จบกฎหมาย และเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายมาก่อนในฐานะเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่มีอำนาจจับกุมตามกฎหมายในสมัยก่อน จึงคิดว่าให้ไปอยู่กระทรวงยุติธรรมได้ ต้องสลับเปลี่ยน เพราะกฎหมายไปล็อกว่าเป็นตำแหน่งได้ 4 ปี และต่อได้ไม่เกิน 2 ครั้ง และก็ต่อไป 2 ครั้งแล้วเลยต้องเปลี่ยน
ต่อข้อถามว่า จะให้นายสมชาย ไปดำรงตำแหน่งนานหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ ตอบว่า “ไหนฮะ ก็เกษียณ 49 เอ๊ย! 50 จำไม่ได้แล้ว น้องเขยเกษียณเมื่อไหร่วะ” เมื่อถามอีกว่า งานในกระทรวงยุติธรรม จะทำอย่างไรเพราะยังมีหน่วยงานใหม่เกิดขึ้นอีกมาก พ.ต.ท.ทักษิณ ตอบว่า ก็จะให้ทำอย่างไร เพราะความจริงที่ดีที่สุดคือต่ออายุ แต่ถ้าต่อก็จะถูกวิจารณ์ไปอีกแบบหนึ่ง สลับกันก็ถูกวิจารณ์ไปอีกแบบหนึ่ง หากต่ออายุก็เกินเลยที่เราเคยต่อกัน 2 ครั้ง เพราะนี่ต่อมาครบแล้ว ผู้สื่อข่าวถามจะกระทบต่อขวัญและกำลังใจของข้าราชการกระทรวงแรงงาน พ.ต.ท.ทักษิณ ตอบว่า “ก็ไม่รู้จะเอาอย่างไรดี เอ้า..ถ้าไม่แฮปปี้ก็ย้ายกลับ”
ดังนั้น เรื่องนี้กระทรวงยุติธรรมจึงเห็นว่า เพราะฉะนั้นตำแหน่งใหม่ของ นายกิตติพงษ์ ควรที่จะมีลักษณะเดียวกับ นายสมชาย ในอดีต เช่น อาจจะสลับกับนายธงทอง ก็น่าจะได้ เพราะ นายธงทอง ก็เคยนั่งเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม แทนที่จะรองรับ นายกิตติพงษ์ ไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ ตำแหน่งของพลโท ภราดร ในปัจจุบัน
เรื่องนี้อาจจะถูกมองว่าเป็นการใช้อำนาจรองรับพรรคพวกตัวเอง หรือเป็นการปรับเปลี่ยนที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ แต่อาจจะไม่ถึงกลับบิดเบือนอำนาจอย่างกรณีย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการ สมช.