เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลแพรกษา และจากพื้นที่ใกล้เคียงระดมฉีดน้ำต่อเนื่องดับเพลิงที่ลุกไหม้บ่อขยะแพรกษา 8 จ.สมุทรปราการ เป็นวันที่ 2 ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงอพยพไปอยู่ด้านนอกของพื้นที่แล้วหลังทนกลิ่นเหม็นจากควันบ่อขยะไม่ไหว
วันนี้ (17 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลแพรกษาและจากพื้นที่ไกล้เคียงระดมฉีดน้ำดับเพลิงที่ลุกไหม้บ่อขยะแพรกษา 8 จ.สมุทรปราการ เป็นวันที่ 2 เพื่อป้องกันบ้านเรือนใกล้บริเวณบ่อขยะ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ฉีดน้ำเพื่อดับเพลิงนั้น ทำให้เกิดกลุ่มควันสีขาวลอยกระจายออกมาจนทั่วบริเวณ และกระจายตัวเป็นวงกว้างกว่า 5 ตารางกิโลเมตร จากบ่อขยะ ส่งผลให้ผู้ใช้รถที่สัญจรผ่านจุดดังกล่าวต้องใช้ความระมัดระวัง และทำให้การจราจรติดขัด รวมถึงยังส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว โดยเฉพาะจุดที่ใกล้กับบ่อขยะ ส่วนชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงปิดบ้านแล้วอพยพไปอยู่ด้านนอก เนื่องจากได้รับผลกระทบของควันจากบ่อขยะ
ขณะที่ นายไพรินทร์ นิ่มเจริญ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า ความคืบหน้ากรณีเพลิงไหม้บ่อขยะ พื้นที่กว่า 100 ไร่ ใน ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 มี.ค.2557) จนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่ยังคงระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงอย่างต่อเนื่อง และสามารถควบคุมเพลิงที่ลุกลามออกไปราว 50 ไร่ ให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้ว แต่ยังมีเพลิงลุกไหม้ในบางจุด ต้องใช้รถขุดตักขนาดเล็กเข้าไปตักขยะที่ยังมีไฟคุกรุ่นขึ้นมาฉีดน้ำเพื่อดับ ซึ่งตลอดคืนที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งทำงานกันอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำระยะไกลจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 2 เครื่อง มาสนับสนุนการดับเพลิงของเจ้าหน้าที่ ซึ่งสามารถฉีดได้เป็นวงกว้าง และมีระยะ 3 กิโลเมตร รวมถึง ยังสามารถส่งต่อน้ำไปยังรถดับเพลิงอีกด้วย ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ด้านนายคณิต เอี่ยมระหงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบเมื่อวานนี้เริ่มการอพยพออกแล้ว นอกจากนี้ ยังได้เชิญเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้ามาดูแลในเรื่องสุขภาพและจิตใจ ในส่วนเจ้าของบ่อขยะเอง ทราบว่าได้รับผิดชอบด้วยการช่วยเหลือเรื่องค่าอาหารและเครื่องใช้ให้กับผู้อพยพ เบื้องต้น พบว่าบ่อขยะดังกล่าวเป็นบ่อขยะเก่าที่เคยระงับการใช้งานไปแล้ว แต่ยังมีการลักลอบนำขยะเข้ามาทิ้ง ดังนั้น จึงจะให้ทาง อบต.แพรกษา เจ้าของพื้นที่เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนผู้อพยพที่ต้องการแจ้งความ ก็สามารถทำได้ ทางจังหวัดเองก็จะรวบรวมรายชื่อผู้เดือดร้อนเพื่อทำการช่วยเหลือต่อไป
หน่วยตรวจสอบอุบัติภัยสารเคมีกรมควบคุมมลพิษ ได้นำเครื่องมือมาวัดค่ามลพิษทางอากาศมาตรวจที่กองขยะดังกล่าว พบว่ามีสารพิษต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ กลุ่มสารอินทรีย์ระเหยง่าย และสารไดออกซินและฟิวแรน ซึ่งทั้ง 2 เป็นกลุ่มสารก่อมะเร็ง ขณะเดียวกันผลการวัดค่า CO2 พบว่ามีค่ามาก กว่า 177 ppm ซึ่งเกินกว่ามาตรฐานกำหนด และค่าตรวจ สารอินทรีย์ระเหย จากกรมโรงงานอุตสาหกรรมมี 0.7 ppm
