สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วย พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ไปทรงเยี่ยมและพระราชทานความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอุทกภัย ณ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ด้วยทรงห่วงใยในความทุกข์ยาก และเป็นขวัญกำลังใจ ในการดำเนินชีวิตเพื่อต่อสู้กับปัญหา และอุปสรรค
วันนี้ 26 ต.ค.เวลา 14.25 น.สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ไปทรงเยี่ยมและพระราชทานความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอุทกภัยบริเวณปั๊ม ปตท.สี่แยกบางพลู อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี โดยทรงฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ และการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จังหวัดนนทบุรี มีพื้นที่ประสบภัย 6 อำเภอ รวม 50 ตำบล 361 หมู่บ้าน 32 ชุมชน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 623,789 คน มีผู้เสียชีวิตจากไฟฟ้าช็อต 3 ราย และจมน้ำ 3 ราย พื้นที่การเกษตร สิ่งสาธารณประโยชน์ โรงงานอุตสาหกรรม โรงเรียน มัสยิด และโรงพยาบาลได้รับความเสียหาย
ในการนี้ ทอดพระเนตรศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม โดยมีเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจบางบัวทองไปตั้งจุดรับแจ้งเหตุชั่วคราว เพื่อช่วยเหลืออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประสบภัย โอกาสนี้ ทรงเยี่ยมครัวพระราชทาน โครงการสายใยรักแห่งครอบครัว ในพระราชูปถัมภ์ ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้งเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม เพื่อประกอบอาหารวันละ 2 พันกล่อง แก่ผู้ประสบอุทกภัย และเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร โดยพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ และผู้ที่มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคผ่านกองทุน พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เพื่อผู้ประสบภัยพิบัติ พร้อมกับทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พระราชทาน ที่ไปให้บริการรักษาผู้ประสบภัย มีผู้มารับบริการกว่า 200 คน นอกจากนี้ ยังจัดโครงการสายใยรักแห่งครอบครัวสู่แม่-ลูก เพื่อผู้ประสบภัย โดยมีทีมแพทย์ไปให้คำปรึกษาเกี่ยวกับแม่และเด็ก รวมทั้งจัดมุมกิจกรรมสำหรับเด็กเล็ก และจัดโครงการสายใยรักแห่งครอบครัวสู่สัตว์ เพื่อผู้ประสบภัย โดยทีมแพทย์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ไปรักษาสัตว์เลี้ยงที่เจ็บป่วย พร้อมทั้งแจกจ่ายอาหารเม็ด สำหรับสุนัขและแมว
จากนั้นพระราชทานถุงยังชีพพระราชทานและเสื้อชูชีพ แก่ผู้แทนชุมชนในอำเภอบางบัวทอง จำนวน 800 ถุง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ด้วยทรงห่วงใยในความทุกข์ยาก และเป็นขวัญกำลังใจ ในการดำเนินชีวิตเพื่อต่อสู้กับปัญหา และอุปสรรค
โดยอำเภอบางบัวทองมีน้ำท่วมขังระดับสูง ทางอำเภอได้จัดพื้นที่รองรับผู้อพยพไว้ 188 จุด แต่ประชาชนบางส่วนไม่ยอมอพยพเนื่องจากห่วงทรัพย์สิน ซึ่งทางราชการจำเป็นต้องดูแล แต่ขาดรถยนต์ขนาดสูงเพื่อนำอาหารและน้ำไปแจกจ่าย
ต่อจากนั้น ประทับรถยนต์พระที่นั่ง จีเอ็มซี ไปยังร้านนายฮ้อปูดอง โดยใช้เส้นทางถนนบางกรวย-ไทรน้อย ซึ่งมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ปัจจุบันมีรถทหารให้บริการประชาชนไปยังตลาดบางบัวทอง และข้ามสะพานบางบัวทองไปต่อเรือ โดยประชาชนบางส่วนอาศัยอยู่ในบ้านเพื่อเฝ้าระวังทรัพย์สิน และยังพบจระเข้ ซึ่งสามารถจับได้จำนวนหนึ่ง
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงร้านนายฮ้อปูดอง ประทับเรือยนต์พระที่นั่งไปยังวัดละหาร ระหว่างทางทอดพระเนตรสภาพน้ำ ที่ยังคงท่วมสูง ปิดเส้นทางการจราจรทั้ง 2 ฝั่ง ของถนนเทศบาลบางบัวทอง ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการสัญจร โดยประชาชนที่ทราบข่าวการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย ได้เฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ ทรงโบกพระหัตถ์ทักทายราษฎรที่ร่วมกันเปล่งเสียงถวายพระพร โดยทรงผ่านสถานที่สำคัญที่ถูกน้ำท่วม อาทิ เทศบาลเมืองบางบัวทอง และวัดเล่งเน่ยยี่ 2 รวมถึงวัดละหาร ซึ่งเมื่อต้นเดือนตุลาคมระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และคืนวันที่ 17 ตุลาคม คันกั้นน้ำที่วัดพังทลาย เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปซ่อมแซมจนใช้การได้ แต่ต่อมาคันกั้นน้ำเกิดพังซ้ำ รวมถึงบริเวณใต้สะพานคลองพระพิมลราชา น้ำดันพื้นถนนระเบิดขึ้นมา และจุดคันกั้นน้ำหลังเทศบาลพังทลาย ทำให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่อำเภอบางบัวทอง ซึ่งเป็นพื้นที่หน้าด่านและประสบอุทกภัยหนักที่สุด เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงวัดละหาร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธชินาภากร พระประธานประจำศาลาการเปรียญ และถวายถุงยังชีพ เสื้อชูชีพ และสุขากระดาษ แด่พระราชนันทมุนี สำรวย อาภากโร เจ้าอาวาสและรองเจ้าคณะจังหวัด รวมถึงพระภิกษุสงฆ์ แล้วทรงซักถามถึงสถานการณ์ ซึ่งปูชนียวัตถุและเสนาสนะ ถูกน้ำท่วมเสียหาย มีพระภิกษุและสามเณร จำพรรษากว่า 70 รูป สภาพความเป็นอยู่ยากลำบาก ไม่สามารถออกบิณฑบาตได้ โอกาสนี้ พระราชทานถุงยังชีพแก่ราษฎรที่มาพักที่โรงเรียนเทศบาลวัดละหาร พร้อมทั้งมีพระราชดำรัสให้กำลังใจ โดยทรงให้ร่วมมือช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพื่อดำเนินชีวิตต่อไป หลังจากโชคดีรอดชีวิตมาได้ บริเวณศาลาการเปรียญยังตั้งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พระราชทานให้บริการตรวจรักษาพระภิกษุอาพาธที่ส่วนใหญ่ป่วยเป็นโรคเรื้อรังที่ต้องได้รับยาอย่างต่อเนื่อง และราษฎรป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ ปวดเมื่อย และเครียด
จากนั้น ประทับเรือยนต์พระที่นั่งไปทรงเยี่ยมราษฎร ที่อาศัยอยู่รวมกัน 12 คน บนชั้น 2 ต้องนอนตามระเบียงบ้าน มีความลำบากเรื่องอาหาร น้ำดื่ม และสุขา โอกาสนี้ ทรงซักถามถึงสภาพความเป็นอยู่ พร้อมพระราชทานถุงยังชีพ ถุงเยี่ยมเด็กเล็ก เสื้อชูชีพ สุขากระดาษ และอาหารกล่อง เช่นเดียวกับบ้านหลังที่ 2 เป็นบ้านผู้สูงอายุ อาศัยรวมกัน 8 คน โดยประกอบอาชีพขายของชำ เครื่องสังฆทาน และทำขนมขายในตลาดบางบัวทอง แต่ปัจจุบันขาดรายได้ พร้อมกันนี้ทรงเยี่ยมบ้านหลังที่ 3 โดยได้พระราชทานถุงยังชีพ เสื้อชูชีพ สุขากระดาษ และอาหารกล่อง พร้อมทรงซักถามถึงความเดือดร้อน อำเภอบางบัวทอง มีราษฎรได้รับความเดือดร้อน 94,478 ครัวเรือน เกือบ 2 แสนคน พื้นที่นา พืชสวน และไม้ผล เสียหาย ปัจจุบันผู้ประสบอุทกภัยส่วนหนึ่งได้ย้ายไปอยู่กับญาติ และอยู่ในที่ทำงาน อีกส่วนย้ายไปยังจุดอพยพ ที่เหลือยังคงอยู่ที่เดิม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปแจกจ่ายถุงยังชีพ อาหาร และน้ำดื่ม ในระหว่างเส้นทางได้พระราชทานอาหารกล่องแก่ผู้ประสบอุทกภัย ที่บริเวณปากทางเข้าวัดละหาร, หน้าปั้มซัสโก้ (Susco) และป้ายรถเมล์หน้าโครงการส่งน้ำพระยาบันลือ โดยมีผู้แทนชุมชนเข้ารับพระราชทานอาหารเพื่อนำไปแจกจ่ายเพื่อนบ้าน พร้อมกับ ทรงโบกพระหัตถ์ทักทายราษฎรที่เฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จตลอดเส้นทาง และเมื่อทรงทราบว่าราษฎรขาดเสื้อชูชีพ จึงได้พระราชทานเสื้อชูชีพที่ประดิษฐ์ขึ้นจากพลาสติก และขวดน้ำ ทั้งยังทรงให้ตำรวจน้ำนำราษฎรที่ไม่มีทั้งเรือและเสื้อชูชีพไปส่งยังที่ปลอดภัย ซึ่งผู้มีจิตศรัทธาสามารถบริจาคเงินสมทบทุนกองทุน พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เพื่อผู้ประสบภัยพิบัติ รวมถึงรับบริจาคเสื้อชูชีพ เรือท้องแบน ยา และอาหารสัตว์