ปทุมธานี ระทม ตลาดรังสิตน้ำท่วมเต็มพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 1 เมตร ปชช.ในอำเภอต่างๆ เร่งอพยพพร้อมสัตว์เลี้ยง-ของมีค่า ทุกข์ซ้ำ พบแก๊งมิจฉาชีพตระเวนลักทรัพย์ ด้าน ถ.รังสิต-ปทุมธานี และพหลโยธิน น้ำท่วมสูงสัญจรไม่ได้ แนะใช้เส้นรังสิต-นครนายก ส่วนนิคมฯ บางกะดี จนท.เร่งช่วยพนักงานออกมาได้ทั้งหมดแล้ว หลังน้ำท่วมสูงอย่างรวดเร็ว เชื่อบางจุดสูงกว่า 4 เมตร
สถานการณ์น้ำท่วมตามจุดต่างๆ ของ จ.ปทุมธานี วันนี้ (21 ต.ค.) ค่อนข้างวิกฤต โดยบรรยากาศบริเวณตลาดรังสิต อ.ธัญบุรี น้ำได้ทะลักท่วมเต็มพื้นที่แล้ว โดยบริเวณที่มีพื้นที่ต่ำระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ซึ่งความเป็นอยู่ของชาวบ้านบริเวณดังกล่าวเป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องใช้เรือในการสัญจรไปมา ขณะที่ชาวบ้านอีกส่วนหนึ่งที่ไม่มีเรือ ก็ต้องลุยน้ำเข้า-ออกชุมชน ทั้งนี้ ได้มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งนำจอบและพลั่วออกมาพังคันดินที่เทศบาลทำไว้ โดยเชื่อว่าหากนำคันดินออก จะสามารถระบายน้ำออกจากชุมชนได้
ขณะเดียวกัน จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาฯ ทราบว่า ขณะนี้น้ำได้เข้าท่วมสถานีตำรวจแล้ว โดยระดับน้ำอยู่ที่ประมาณ 80 เซนติเมตร ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบางนายไม่สามารถเข้าไปปฏิบัติราชการได้ ส่วนห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต และ เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ ยังคงปิดให้บริการติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เนื่องจากบริเวณโดยรอบถูกน้ำท่วมสูงถึง 60 เซนติเมตร
ด้าน อ.เมือง อ.สามโคก อ.ลาดหลุมแก้ว และในบางตำบล ของ อ.คลองหลวง (บางตำบล) อ.ธัญบุรี อ.หนองเสือ และ อ.ลำลูกกา ชาวบ้านยังทยอยนำสัตว์เลี้ยงและทรัพย์สินมีค่า อพยพออกจากที่พักซึ่งถูกน้ำท่วมสูง ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านต่างต้องพยายามพึ่งตนเองให้มากที่สุด เพราะน้ำได้ขยายวงกว้างเข้าท่วมทุกพื้นที่ ตามถนนเส้นทางหลักถูกตัดขาดจนเกือบหมด รถไม่สามารถวิ่งผ่านได้ ความช่วยเหลือจากทางราชการจึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งชาวบ้านหลายคนต้องอพยพมาอาศัยนอนบนเกาะกลางถนน และนำรถมาจอดตามสะพาน หรือบนที่สูง นอกจากนี้ ยังพบว่ามีแก๊งมิจฉาชีพที่ออกตระเวนงัดรถที่จอดอยู่ตามที่ต่างๆ เพื่อลักทรัพย์ บางรายถูกขโมยรถ จยย.หรือบางรายที่ทิ้งบ้านมา ก็ถูกคนร้ายงัดบ้านรื้อค้นทรัพย์สินอีกด้วย
ขณะที่ ถนนรังสิต-ปทุมธานี ตั้งแต่ในเขต ต.บางพูน ต.บางพูด ต.สวนพริกไทย และ ต.บ้านกลาง ใน อ.เมืองปทุมธานี ต้องจมอยู่ใต้น้ำลึก 1-2 เมตร หลังน้ำจากคลองเปรมประชากรไหลทะลักเข้าท่วมตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (20 ต.ค.) โดยเฉพาะถนนตั้งแต่รังสิตไปจนถึง ต.บ้านกลาง ไม่สามารถใช้สัญจรได้ เนื่องจากน้ำท่วมสูง เช่นเดียวกับบ้านเรือนใน 4 ตำบลถูกน้ำท่วมสูง 2-3 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่อย่างโกลาหล เนื่องจากระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ ถ.พหลโยธิน ตั้งแต่รังสิตจนถึงแยกเชียงราก ระดับน้ำท่วมสูงจนเส้นทางคู่ขนานไม่สามารถใช้การได้แล้วทั้งหมด นอกจากนี้ น้ำยังได้ไหลเข้าท่วมช่องทางด่วนที่ต่อเนื่องจากรังสิตมาถึงมหาวิทยาลัยกรุงเทพ การสัญจรติดขัด ขณะที่นักศึกษาที่อยู่ตามหอพักและชาวบ้านรีบอพยพและย้ายทรัพย์สินบางส่วนมาอยู่บริเวณเกาะกลางถนน หลังถูกน้ำจากคลองเปรมประชากรไหลทะลักเข้าท่วมเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ประชาชนใน จ.ปทุมธานี ที่ต้องการอพยพไปยังต่างจังหวัดสามารถใช้ ถ.รังสิต-นครนายก ได้เพียงเส้นทางเดียว ส่วนผู้ที่เดินทางจากกรุงเทพมหานครไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้เลี่ยงพื้นที่รังสิตทั้งหมด โดยสามารถใช้เส้นทางรามอินทรา ขึ้นมอเตอร์เวย์ ไปลงที่ อ.ธัญบุรี จากนั้นให้วิ่งไปยัง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เพื่อเดินทางยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือแทน
สำหรับสถานการณ์น้ำที่นิคมอุตสาหกรรมบางกะดี พนักงานต่างพากันอพยพออกมายืนรอรถที่ผ่านไป-มา เพื่อขออาศัยเดินทางออกมาด้านนอก หลังจากช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาปริมาณน้ำได้ล้นทะลักแนวคันกั้นน้ำคลองประปาด้านหลังนิคมฯ จึงทำให้ปริมาณน้ำภายในนิคมฯ เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว วัดได้ประมาณ 1 เซนติเมตรต่อนาที ทั้งนี้ ยังมีพนักงานติดอยู่ตามโรงงานต่างๆ นับร้อยคน เจ้าหน้าที่ต้องใช้เรือยางและโฟมเร่งดำเนินการช่วยเหลือออกมาอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าระดับน้ำภายในนิคมฯ ขณะนี้สูงเกิน 2 เมตรอย่างแน่นอน ซึ่งระดับน้ำที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้รถยนต์ของทหารที่จะเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ด้านในนิคมฯ ไม่สามารถเข้าไปได้
ต่อมา เจ้าหน้าที่พยายามใช้เรือเข้าช่วยเหลือคนงานที่ติดภายในสวนอุตสาหกรรมบางกะดี แข่งกับเวลาที่ปริมาณน้ำจากคลองประปาทะลักเข้าท่วมสวนอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว โดยระดับน้ำเพิ่มขึ้น 10 เซนติเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้บางจุดที่ต่ำ มีระดับน้ำสูงกว่า 4 เมตร ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้น ภายในนิคมฯ มีโรงงานสร้างใหม่กำลังจะเปิดของบริษัท อาซาฮี ผู้ผลิตเครื่องมือทางการแพทย์ ได้รับความเสียหายจำนวนมาก อาจกระทบต่อการขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์บางชนิดได้ เครื่องจักรต่างๆ ของบริษัท โซนี่ โตชิบา กูลิโกะ ดาโกพีซีดี มีเจ้าของโรงงานเฝ้าติดตามความเสียหาย
นอกจากนี้ ยังมีเสาไฟฟ้าแรงสูง 7 ต้น ล้มจากกระแสความแรงของน้ำตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา สวนอุตสาหกรรมได้ปั่นกระแสไฟฟ้าและน้ำประปาสำรองแล้ว คาดว่า มูลค่าความเสียหายล่าสุดสูงกว่า 35,000 ล้านบาทแล้ว และต้องใช้เวลาฟื้นฟูหลังน้ำลดกว่า 3 เดือน ส่วนบริเวณรอบนอก เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งอพยพประชาชนออกจากหมู่บ้านต่างๆ มาอยู่ในที่ปลอดภัย
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ทำการช่วยเหลือพนักงานของโรงงานต่างๆ ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางกะดีที่ติดค้างอยู่ภายในโรงงานนานกว่าครึ่งวัน ออกมาได้หมดแล้ว โดยพนักงานที่ออกมาต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่คาดคิดถึงปริมาณน้ำที่จะขึ้นสูงได้ขนาดนี้ และน้ำมาเร็วมากจนไม่สามารถตั้งตัวได้ทัน และจากการสอบถามพนักงานบางส่วนยังไม่ทราบว่าจะอพยพไปอยู่ที่ไหน เนื่องจากที่ ต.บางกะดี ไม่มีจุดพักพิงให้แก่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน และบางส่วนเลือกที่จะกลับภูมิลำเนาเดิม