“สุขุมพันธุ์” ยืนยันสถานการณ์น้ำยังไม่วิกฤต แต่ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด ส่วนน้ำทะลักเข้าคลองประชาอยู่นอกพื้นที่กทม. แต่สำนักระบายน้ำเปิดประตูระบายน้ำออกบ้างแล้ว พร้อมกำชับทุกหน่วยงานดูแลหน้าที่ของตนเอง ก่อนวอนรัฐช่วยดูแล 3 จุดอ่อนนอกพื้นที่ดูแล ทั้งหลักหก ปทุมฯ-พื้นที่คลองประชา-ถนนพหลโยธินข้ามคลองรังสิต
วันนี้ (20 ต.ค.) ที่ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม กรุงเทพมหานคร ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมใน กทม.ล่าสุดว่า สถานการณ์น้ำทั่วไปในวันนี้ยืนยันว่ายังไม่ถึงขั้นวิกฤต แต่ต้องเฝ้าระวังอย่าใกล้ชิด ขณะนี้ระบบป้องกันน้ำของ กทม.ยังไม่มีปัญหา โดยมีปัญหาที่เกิดเฉพาะสาเหตุในบางพื้นที่ เช่น บริเวณท่าพระจันทร์มีน้ำซึมออกมาเนื่องจากไม่มีเขื่อนถาวร ประกอบกับเครื่องสูบน้ำเสีย รวมทั้งคันกั้นน้ำที่ซอยจรัญสนิทวงศ์ 74/1
ขณะที่บริเวณที่น้ำล้นจากคลองประปา เป็นน้ำล้นจากคลองรังสิต-ประยูรศักดิ์ ล้นเข้ามายังคลองประปา ซึ่งอยู่ในความดูแลของการประปานครหลวง กทม.ทำได้เพียงในส่วนที่ทำได้เท่านั้น ซึ่งทางสำนักงานการระบายน้ำได้สนับสนุนเปิดประตูระบายน้ำของการประปานครหลวง รวมทั้งเร่งสูบน้ำจากประตูระบายน้ำคลองสามเสน เพื่อลดปริมาณน้ำในคลองประปา โดยระบายน้ำจากเหนือไปใต้ ซึ่งขณะนี้ระดับความสูงของคลองสามเสนอยู่ที่ 30 ซม. ต่ำกว่าตลิ่ง 1.50 เมตร โดย กทม.จะติดตามควบคุมปริมาณน้ำในคลองสามเสนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผลกระทบที่เขตดอนเมืองและเขตหลักสี่ กทม.ได้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว
“ยืนยันว่าสถานการณ์ยังเหมือนเมื่อวานนี้ ระบบการป้องกันน้ำท่วมของ กทม.ยังไม่มีปัญหา ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเฉพาะเรื่องเฉพาะพื้นที่ เฉพาะสาเหตุ กทม.เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดต่อไป แต่ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นวิกฤตและยังไม่ถึงขั้นที่ต้องมีมาตรการอื่นๆ นอกเหนือจากเดิม ผมไม่ขออะไรมาก แค่อยากให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติหน้าที่ที่รับผิดชอบ ดูแลพื้นที่ของตัวเอง” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าว
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้กทม.จะเฝ้าระวังต่อไปเนื่องจากได้มีการประเมินว่าน้ำเหนือจะถึงคลองรังสิตคืนนี้ และจะมีผลกระทบต่อ กทม.ในวันพรุ่งนี้ ตนไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก อย่างไรก็ตาม กทม.ยังไม่มีการประกาศเขตเฝ้าระวังเพิ่มเติมจาก 7 เขต ทั้งนี้ ขอให้รัฐบาลดูแลจุดอ่อน 3 แห่ง เพราะอยู่นอกเขตและอำนาจหน้าที่ของ กทม. ได้แก่ ต.หลักหก จ.ปทุมธานี, พื้นที่ของการประปานครหลวง และถนนพหลโยธินข้ามคลองรังสิต กทม.จะทำทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อป้องกันน้ำท่วม
อย่างไรก็ตาม ในโดยวันนี้ กทม.จะลำเลียงเรือไปยังสำนักเขต 5 เขต ได้แก่ สายไหม คลองสามวา มีนบุรี หนองจอก และลาดกระบัง โดยเป็นเรือจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) 27 ลำ และเรือบริจาค 10 ลำ ซึ่ง กทม.จะหาเรือเพิ่มเพราะกระบวนการจัดซื้อเรือนั้นต้องใช้ระยะเวลา จึงขอให้ประชาชนที่มีความต้องการบริจาคหรือให้ยืม ติดต่อมายัง กทม.ได้ทันที ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ 1,000 นายมาเสริมกำลังช่วย กทม. ซึ่งทาง กทม.จะมอบหมายภารกิจต่อไป
ขณะที่ศูนย์พักพิงตอนนี้มีผู้เข้ามาอาศัยแล้ว 220 คน ในพื้นที่ 7 เขต ได้แก่ ลาดกระบัง 85 คน ดุสิต 79 คน สายไหม 24 คน บางกะปิ 15 คน คลองสาม 10 คน บางคอแหลม 5 คน และบางซื่อ 2 คน คาดว่าในไม่กี่วันปริมาณผู้จะมาเข้าพักจะเพิ่มเป็นหลักพัน ซึ่งตนได้สั่งให้เตรียมความพร้อมทั้งที่นอน หมอน มุ้ง รวมทั้งบุคลากรดูแล อย่างไรก็ตาม กทม.มีมาตรการรองรับปริมาณน้ำที่อาจจะไหลเข้าสู่ กทม.ทุกพื้นที่ แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ เพราะยังไม่มีแนวคันกั้นน้ำจุดไหนพัง นอกจากนี้ กทม.ก็มีวิธีการรวมทั้งเครื่องมือและอุปกรณ์ติดตามดูแลคลองประปาด้วย อย่างไรก็ตาม ตนรู้สึกกังวล แต่สถานการณ์ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นวิกฤต ส่วนปริมาณน้ำในคลองมหาสวัสดิ์อยู่ที่ 1.97 เมตร ซึ่งมากกว่าวานนี้เพียง 2 เซนติเมตร ขณะที่น้ำทะเลหนุนสูงสุดวันนี้อยู่ที่ 0.98 เมตร ส่วนระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่ปากคลองตลาด 2.13 เมตร ปริมาณน้ำไหลผ่าน อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา 3,604 ลุกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนคลองต่างๆ ในพื้นที่ กทม.อยู่ในสภาวะปกติ