นายก อบจ.ปทุมธานี เผยคันดินกั้นน้ำคลอง 5 แตกยาวกว่า 100 เมตร ยังกู้ไม่ได้ ชี้ดินเปื่อยมาก ไม่กล้านำเครื่องมือหนักเข้าไปหวั่นพังทั้งหมด
วันนี้ (19 ต.ค.) นายชาญ พวงเพ็ชร์ นายก อบจ.ปทุมธานี เปิดเผยผ่านรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ถึงสถานการณ์คันกันน้ำที่คลองระพีพัฒน์ คลอง 3 คลอง 4 คลอง 5 และคลอง 6 ที่คันดินพังตั้งแต่เมื่อวานนี้ (18 ต.ค.) ว่า ที่คลอง 4 คันกั้นน้ำพังประมาณ 15 เมตร แต่ซ่อมแซมป้องกันกันไปได้ส่วนหนึ่ง เหลืออีกประมาณ 10 กว่าเมตร แต่ช่วงเช้านี้ไม่แน่ใจว่าจะทะลุอีกหรือไม่ เพราะเมื่อคืนทำไม่เสร็จ แต่ในส่วนคลอง 5 คลอง ตอนนี้พังไป 100 กว่าเมตรแล้ว เพราะมันเป็นดินที่เปื่อยมาก เป็นคันกั้นดินสูงร่วม 2 เมตรที่พังทลายลงมา เครื่องมือหนักเข้าไม่ได้ ถ้าขนของหนักเข้าไปกลัวจะลงมาทั้งหมด แต่ถ้าไม่ปิดเลยก็เสียหายมาก ก็ต้องเสี่ยงดู แต่ไม่รับประกัน
นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า ขณะที่น้ำในคลองระพีพัฒน์สูงมาก แต่เมื่อคืนนี้น้ำแรงมาก ต้องเอาคนออกมาก่อน เพราะในช่วงเย็นมีคนติดมาก แต่ช่วงกลางคืน 60-70 คนไม่ยอมออก แต่พอน้ำมันแรงมาก ก็ยอมออกตอนนี้เอาออกมาหมดแล้ว ตอนนี้นำไปพักอยู่ที่โรงเรียนทีปังกรที่คลอง 5 จุดนี้น้ำก็จะลงมาที่ธัญบุรี และเข้ามาช่วงรังสิต ตอนนี้หมู่บ้าน รัตนโกสินทร์ 200 ปี น้ำก็เต็มไปหมดแล้ว นอกจากนี้ ตอนนี้เริ่มกังวลน้ำจากวังน้อยที่จะเข้ามา อย่างไรก็ตาม ตอนนี้หน้าเซียร์รังสิตท่วมแล้ว ถนนคลองหนึ่ง คลองสอง ของคลองหลวงก็ท่วมหมดแล้ว
นายชาญกล่าวว่า เมื่อวานนี้ (18 ต.ค.) ได้ไปช่วยที่ลาดหลุมแล้วและสามโคกก็นำคนออกมาได้เยอะ ทางด้านตะวันตกก็นำคนออกมาได้เยอะแล้ว ที่สามโคกนำออกมาได้ 100% แล้วที่อ.เมืองเหลือที่ศูนย์อุตสาหกรรมบางกระดีที่ยังอยู่
ตชด.เร่งอพยพคนคลอง 5
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ต.ค.) พ.ต.ท.รังสิมันต์ สงเคราะห์ธรรม รองผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ตชด.50 นายได้เข้าไปอพยพชาวบ้านในหมู่ที่ 16 ต.คลอง 5 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ภายหลังจากเมื่อช่วงเย็นและค่ำวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา แนวกั้นน้ำคลองระพีพัฒน์ระหว่างคลอง 5-6 แตก ระยะทางกว่า 100 เมตร
ทั้งนี้ มีรายงานว่ากำลังเจ้าหน้าที่ ตชด.ได้เข้าไปเพื่ออพยพประชาชนที่จะเดินทางออกมาจากหมู่ 16 ใน ต.คลอง 5 หลังจากที่น้ำไหลเข้าท่วมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการอพยพออกมาแล้วได้กว่า 90 คน โดยมีประชาชนอีกจำนวน 11 คน ที่แจ้งความประสงค์จะออกมา แต่เจ้าหน้าที่ ไม่สามารถเดินทางเข้าไปถึงจุดดังกล่าวได้ เพราะกระแสน้ำไหลแรงมาก เนื่องจากคันกั้นน้ำคลองระพีพัฒน์ ได้ขยายความกว้างออกไปเรื่อยๆ จนขณะนี้มีระยะทางประมาณ 100 เมตรแล้ว ทำให้น้ำได้ไหลเข้าท่วมมีระดับสูงประมาณ 2 เมตร อีกทั้งพื้นที่ดังกล่าวยังขาดเครื่องจักรขนาดใหญ่ และกำลังเจ้าหน้าที่ ที่คอยอพยพประชาชนและซ่อมแซมคันกั้นน้ำที่พัง
แจ้งหมู่บ้านไวท์เฮ้าส์อพยพ น้ำสูง 3.40 ม.
นายพิเชษฐ์ หาญจางสิทธิ์ สจ.อ.คลองหลวง เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ล่าสุด ที่ชุมชนหมู่บ้านไวท์เฮ้าส์ ระดับน้ำนอกคันกั้นน้ำของหมู่บ้านเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ อยู่ที่ประมาณ 3.40 เมตรแล้ว ซึ่งถือว่าเข้าระดับอันตราย คันดินอาจะพังลงมาเวลาใดก็ได้ ทางตนเองจึงเสนอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าว เก็บข้าวของที่จำเป็นเตรียมตัวอพยพออกจากพื้นที่ ภายใน 1-2 ชม.นี้ แต่อย่างไรก็ตาม ต้องรอให้นายอำเภอออกคำสั่งอพยพอย่างเป็นทางการอีกครั้งก่อน
ล่าสุด นายผล ดำธรรม นายอำเภอคลองหลวง จ.ปทุมธานี เปิดเผยว่า เข้าตรวจสอบพื้นที่แล้ว ซึ่งจากการประเมิน ต้องอพยพประชาชนออกจากพื้นที่โดยด่วน เพราะน้ำสูงมาก โดยในชุมชนแห่งนี้ มีประชากรประมาณ 1,000 ครัวเรือน ซึ่งคาดว่าจะอพยพไปสนามบินดอนเมือง ในขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกับหน่วยเหนือในการนำรถมารับประชาชนอยู่
ย้ายนักโทษหญิง 500 คน
พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ภายหลังระดับน้ำในพื้นที่ จ.ปทุมธานีเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้จำเป็นต้องอพยพผู้ต้องขังในทัณฑสถานบำบัดพิเศษหญิงปทุมธานี ซึ่งระดับน้ำสูง 1.5 เมตร จึงสั่งอพยพผู้ต้องขัง 500 คน ยังเหลือผู้ต้องขังหญิงอีก 900 คน ที่จะเร่งกระจายไปควบคุมยังเรือนจำอื่นในวันที่ 19 ตุลาคมนี้ ทั้งนี้ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษปทุมธานีและเรือนจำอื่นยังสามารถรับมือสถานการณ์น้ำได้ โดยทัณฑสถานบำบัดพิเศษปทุมธานีสามารถรับมือสถานการณ์น้ำได้ในระดับสูงถึง 2.5 เมตร โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งก่อกระสอบทรายเพื่อป้องกันน้ำท่วมแล้ว
