ทร.ปล่อยคาราวานถุงยังชีพกว่า 6,000 ชุด ช่วยผู้ประสบอุทกภัยเกาะเกร็ด เร่งระดมเรือมาช่วยผันน้ำตามจุดสำคัญ พร้อมส่งกำลังพลสร้างพนังกั้นน้ำที่ศาลายาและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด รอ รบ.สรุปผลการจัดขบวนเรือพยุหยาตราฯ เผยมีการตรวจมวลน้ำเป็นประจำ ระดับน้ำต้องไม่เกิน 4,000 ลบ.ม./วินาที จึงจัดขบวนเรือได้
วันนี้ (14 ต.ค.) พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานส่งคาราวานทัพเรือช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ไปแจกจ่ายให้ประชาชนที่ประสบอุทกภัยในจังหวัดนนทบุรี และพระนครศรีอยุธยา โดยคาราวานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยดังกล่าว เป็นความร่วมมือระหว่างกองทัพเรือ บริษัทเอกชน ดารา นักแสดง กับองค์กรต่างๆ ซึ่งได้รวบรวมสิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภคและถุงยังชีพกว่า 6,000 ชุด ส่งไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย โดยใช้เรือของกรมการขนส่งทหารเรือลำเลียงสิ่งของ โดยจุดแรกจะเดินทางช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่เกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
สำหรับการวางกำลังในจุดสำคัญในพื้นที่คลองลัดโพธิ์และสะพานพุทธ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า จะเพิ่มเรือช่วยผันน้ำ พร้อมขอความร่วมมือภาคเอกชนระดมเรือมาช่วยผันน้ำด้วย ส่วนในวันที่ 16 ต.ค.จะมีการจัดเรือลงไปผันน้ำประมาณ 1,000 ลำนั้น ตอนนี้กองทัพเรือกับรัฐบาลเชิญชวนเรือต่างๆ มาเข้าร่วม ซึ่งได้เรือมากพอสมควร อย่างไรก็ตาม กองทัพเรือยังได้ส่งกำลังพลประมาณ 300 คนไปสร้างพนังกั้นน้ำที่ศาลายา พร้อมทั้งเฝ้าระวังไม่ให้พนังกั้นน้ำพังลงมา
นอกจากนี้ พล.ณ.อ.สุรศักดิ์กล่าวอีกว่า กรมอู่ทหารเรือมีการต่อแพ 300 แพส่งที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ในขณะเดียวกันก็มีการต่อเพิ่มเพื่อรองรับพื้นที่ที่ใกล้เคียงกองทัพเรือ เช่น ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จ.ปทุมธานี สำหรับในส่วนของกรมอุทกศาสตร์ ได้ติดตามความแตกต่างของระดับน้ำมาโดยตลอดโดยเฉพาะในช่วงที่มีน้ำทะเลหนุน ซึ่งจะมีปัญหาของการไหลเวียนของน้ำจากภาคเหนือทำได้ช้าลง
ส่วนการจัดขบวนเรือพยุหยาตราชลมารค ในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ ต้องรอการประชุมและประสานกับรัฐบาลอีกครั้ง โดยกองทัพเรือจะติดตามกระแสน้ำว่าจะกระทบต่อการจัดขบวนเรือหรือไม่ ซึ่งมีการประเมินว่าไม่ควรเกิน 4,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยขณะนี้อยู่ในระดับ 3,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สำหรับการใช้เรือตรวจมวลน้ำนั้น ปกติกรมอุทกศาสตร์ทำเป็นประจำอยู่แล้ว โดยมีเรือประจำที่ดำเนินการเรื่องนี้อยู่ ร่วมถึงผลกระทบที่เกิดจากความเร็วและสูงของกระแสน้ำที่จะส่งผลกระทบ และถ้าหากมวลน้ำมีมากเราสามารถแจ้งเตือนประชาชนใน กทม.ได้ทันท่วงที อย่างไรก็ตาม ประชาชนอย่าตื่นตระหนกและเตรียมตัวเองให้พร้อม ขอให้ติดตามข่าวสารทางภาครัฐบาล ส่วนพื้นที่โรงพยาบาลศิริราชนั้น กำลังพลที่อยู่ประจำได้ประสานกับสำหนักงานระบายน้ำของ กทม.ดูแลเรื่องนี้อย่างเต็มกำลัง