ผู้ว่าฯ ปทุมฯ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 300 นาย กู้คันกั้นน้ำ เผยหน้าวัดหงษ์กู้ได้แล้ว เร่งแก้จุดอื่นต่อ รับไม่หนักใจ เชื่อแก้ปัญหาได้ภายในวันนี้ ขณะที่ธรรมศาสตร์ มั่นใจน้ำจากเชียงรากน้อยไม่กระทบศูนย์พักพิง เตรียมยิม 2 ชั้นรองรับ รอประชุมประเมินสถานการณ์ร่วมผู้ว่าอีกครั้งเที่ยงนี้
วันนี้ (11 ต.ค.) นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “เช้าข่าวข้น” ถึงสถานการณ์แนวกั้นน้ำใน จ.ปทุมธานี ที่พังไป 3 จุด ตั้งแต่เมื่อช่วงหัวค่ำคืนที่ผ่านมา ว่า แนวคันกั้นบริเวณวัดหงษ์ อ.เมือง จ.ปทุมธานี นั้นแก้สถานการณ์อุดรอยรั่วได้แล้ว แต่น้ำยังท่วมเต็มวัดต้องสูบออกต่อไป ส่วนพนังกั้นน้ำอีก 2 จุด คือ ที่วัดป่าฝ้าย และแนวกั้นน้ำวัดปทุมทอง อ.สามโคก ยังกู้ไม่ได้ แต่ไม่หนักใจ มั่นใจจะแก้ได้ภายในวันนี้
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย รายงานสถานการณ์การกู้คันกั้นน้ำบริเวณ อ.สามโคก ว่าการดำเนินการเป็นไปอย่างล่าช้าเพราะขาดแคลนอุปกรณ์ในการเก็บกู้ ทำให้ต้องชะลอไปก่อน แต่เจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังกว่า 300 นาย พยายามนำกระสอบทรายมาวางไว้ป้องกันน้ำไม่ให้ไหลเข้ามามาก ส่วนชาวบ้านที่อยู่บริเวณใกล้เคียงคันกั้นน้ำที่พังนั้นได้อพยพไปอยู่กันบนถนนปทุมเสนา แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยังปักหลักอยู่ในบ้านชั้นสอง เพราะเชื่อว่าเจ้าหน้าที่จะแก้ไขและซ่อมแซมคันกั้นน้ำได้ อย่างไรก็ตาม นายก อบจ.สามโคกยืนยันว่าหากปริมาณน้ำไม่สูงไปกว่านี้อยู่ระดับน้ำที่สูงไม่เกิน 20 ซม.ก็สามารถรับมือได้ แต่หากถึง 30-40 ซม.คงต้านไว้ไม่อยู่
ทั้งนี้ มีความเป็นห่วงว่าหากไม่สามารถกู้คันกั้นน้ำในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีได้ น้ำอาจจะเข้าท่วมพื้นที่คลองหลวง ปทุมธานี ตลาดไทย และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ซึ่งได้เปิดเป็นพื้นที่อพยพสำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบเช่นกัน
ขณะเดียวกัน ทางด้าน อ.ปริญญา เทวานฤมิตร รองอธิบการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ในมหาวิทยาลัยว่า ขณะนี้ภายในพื้นที่ธรรมศาสตร์ รังสิต น้ำไม่ท่วม ซึ่งน้ำที่ท่วมถนนเชียงรากน้อยท่วมมาจากน้ำฝน ซึ่งในเที่ยงวันนี้คงประชุมร่วมกับทางผู้ว่าฯ กทม.เพื่อประเมินสถานการณ์อีกครั้งว่าจะรับมือไหวหรือไม่ ทั้งนี้ ทางอธิการบดีฯได้สั่งให้ย้ายของขึ้นชั้นสองแล้ว ส่วนศูนย์อพยพนั้น ได้เตรียมยิมนิเซียมอีกทีซึ่งมี 2 ชั้นเอาไว้รองรับแล้ว รองรับ ซึ่งขณะนี้มีผู้ประสบอุทกภัยประมาณ 1,000 คน