ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เตือน 7 จังหวัดระวังน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม พร้อมประสานเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง ติดตามข้อมูลหวังช่วยเหลือชาวบ้านทันที ขณะที่ "ในหลวง" พระราชทานสิ่งของให้ราษฏรที่ประสบปัญหาน้ำท่วมจังหวัดชัยนาท โดยสถานการณ์น้ำยังทรง ส่วนพื้นที่ริมฝั่งเจ้าพระยายังหนัก
วันนี้(1 ต.ค.) ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) รายงานว่า ในวันที่ 1-3 ต.ค.นี้ จะยังคงมีน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมขังอยู่ โดยเฉพาะพื้นที่ อ.สันกำแพง อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน และ อาจเกิดดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะ อ.เมืองเชียงราย อ.แม่จัน จ.เชียงราย อ.ปง อ.เชียงคำ จ.พะเยา อ.ท่าวังผา อ.เมืองน่าน จ.น่าน อ.สังคม จ.หนองคาย และ อ.คุระบุรี อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา จึงขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เฝ้าระวัง และติดตามข้อมูลจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติต่อไป
ขณะเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยในความเดือดร้อนของราษฎรที่ประสบอุทกภัย ในการนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้นายประวิทย์ หาญณรงค์ รองประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์และคณะ นำสิ่งของพระราชทาน จำนวน 2,000 ชุด มามอบให้กับราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยในพื้นที่ตำบลเสือโฮก ณ บริเวณริมถนนพหลโยธิน หมายเลข 1 (ชัยนาท-ตาคลี) อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท เพื่อบำรุงขวัญกำลังใจ และช่วยเหลือบรรเทาทุกข์แก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัย
ด้านสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดชัยนาทขณะนี้ มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทุกอำเภอ ในทั้งหมด 8 อำเภอ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 25,391 ครัวเรือน 72,602 คน โดยสถานการณ์โดยรวมยังอยู่ในสภาวะทรงตัว และรุนแรงอยู่เฉพาะพื้นที่อำเภอริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชัยนาท อำเภอมโนรมย์ อำเภอวัดสิงห์ และอำเภอสรรพยา ในส่วนของพื้นที่ตำบลเสือโฮก อำเภอเมืองชัยนาท และตำบลตลุก อำเภอสรรพยา ยังคงได้รับผลกระทบจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่สูงขึ้น เอ่อล้นแนวคันคลองชลประทาน และพนังกั้นน้ำที่พังบริเวณตำบลธรรมมามูล เข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรเสียหายเป็นจำนวนมาก คาดต้องใช้ระยะเวลากว่าที่ปริมาณน้ำจะลดลง