พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะผู้บริหารสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เฝ้าฯ กราบบังคมทูลรายงานผลการดำเนินงานของสถาบันฯ และรับพระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับการดำเนินงานของสถาบันฯ เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาช่วยเหลือราษฎรต่อไป
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พระราชทานพระราชดำรัส ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เวลา 17.58 น.วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯออก ณ ห้องประชุม สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายสุเมธ ตันติเวชกุล ประธานกรรมการกิตติมศักดิ์ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ และการเกษตร นำคณะผู้บริหารสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ และการเกษตร องค์การมหาชน กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโยลี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทกราบบังคมทูลรายงานผลการดำเนินงานของสถาบัน และรับพระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับการดำเนินงานของสถาบัน
ในปีนี้ ราษฎรได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยอย่างหนักในหลายพื้นที่ เนื่องจากฝนที่มาเร็วกว่าปกติ ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา และตกต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำหลายแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนใกล้เต็มความจุ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยราษฎรที่กำลังประสบภัยดังกล่าว จึงพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ผู้บริหารสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ และการเกษตรและผู้เกี่ยวข้อง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับพระราชทานพระราชดำริ เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาช่วยเหลือราษฎรต่อไป พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำริด้านงานวิจัย ระบบโทรมาตร และแบบจำลองลมให้สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ และการเกษตร องค์การมหาชน กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้พัฒนาเทคโนโลยีโทรมาตรตรวจวัดระดับน้ำในแม่น้ำด้วยคลื่นเรดาร์ พร้อมกันนี้ สถาบันได้ร่วมมือกับกรมอุตุนิยมวิทยา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการจัดทำแบบจำลองลม และแบบจำลองสภาพอากาศ ที่สามารถคาดการณ์ลม และสภาพอากาศล่วงหน้าได้ 7 วัน เพื่อส่งข้อมูลให้แก่หน่วยงานต่างๆ นำไปใช้ในการป้องกัน และบรรเทาปัญหาอุทกภัย ติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์
การนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชดำรัสเกี่ยวกับประโยชน์ของเศรษฐกิจพอเพียง “... แบบจริงจัง แต่ว่า ที่ย้ำว่ามีประโยชน์ เพราะว่า โดยมาก เศรษฐกิจพอเพียงนี้ ก็มาเป็นแบบเล่นๆ แบบเล่นๆ เกินไป เป็นการ คำว่า เศรษฐกิจ และก็พอเพียง ก็บางทีไม่ค่อยเข้าใจ ว่า พอเพียงอะไร แต่ตามความคิดของตัว พอเพียงก็แปลว่า ทำอะไร ไม่ฟุ่มเฟือย ไม่ฟุ้งซ่าน และทำให้ได้ผล พอดีผู้ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญจะต้องพยายามที่จะอธิบายว่า เป็นเศรษฐกิจ และความพอเพียง ก็คือ ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่ทำอะไรให้มันเกินไป พอทำอะไรให้ เมื่อทำแล้วได้ผล ในการทำ และถ้าได้ผลก็หมายความว่า ประหยัด สำหรับชาวบ้าน คนที่ที่ทำเศรษฐกิจนี้เอง สำหรับผู้ที่เป็นนักทฤษฎีหรือผู้ที่เป็นผู้เจรจาก็ต้องหาเหตุผลของเศรษฐกิจพอเพียง ถ้าหาเหตุผลได้ก็เชื่อว่าเหตุผลนี้ก็จะได้ประโยชน์ เมื่อได้ประโยชน์ชาวบ้านในประเทศก็จะได้ประโยชน์ เมื่อได้ประโยชน์แล้วเขาจะมีความร่ำรวยขึ้นโดยที่ไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย ถ้าทำได้แล้วจะเป็นการช่วยประเทศชาติให้อยู่ได้ ถ้าไม่เอาใจใส่ในความคิดเหล่านี้ ก็งานทั้งหลายที่เราทำก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย”