ร้องสื่อตีแผ่คนโกง หลอกประชาชนซื้อรถ-ร่วมลงทุนเสียหายรวมกว่าร้อยล้านบาท เผยมีเงื่อนงำคนชุดกากีหนุนหลัง ส่งผลคดีไม่คืบ
วันนี้ (20 พ.ค.) ที่บ้านพระอาทิตย์ เวลา 13.30 น. นายวุฒิชัย ไชยนิมิตกุล อายุ 30 ปี ได้เดินทางมาร้องเรียนต่อเอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ กรณีที่ น.ส.วาณี วีรศักดิ์ธารา อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 1104 ตรอกวาณิช 2 แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กทม. ได้ฉ้อโกงเงินสดจำนวน 570,000 บาท จากการซื้อรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าแจ๊สและได้เดินทางไปแจ้งความกับสน.ห้วยขวางแล้ว เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่คดียังไม่คืบหน้าแต่อย่างใด
นายวุฒิชัย กล่าวว่า เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาได้ทราบข้อมูลมากจากเพื่อนว่า น.ส.วาณี สามารถขายรถให้กับผู้ที่สนใจได้ในราคาถูกกว่าโชว์รูมรถ พร้อมทั้งมีโปรโมชั่นเสริมและมีของแถมอีกมากมาย ซึ่งเพื่อนคนที่แนะนำมาเขาก็ซื้อรถกับน.ส.วาณีเช่นกันและก็ได้รถมาจริง โดยน.ส.วาณี อ้างว่าที่สามารถซื้อรถได้ในราคาถูกนั้น เพราะรู้จักกับโชว์รูมรถหลายแห่งจึงทำให้สามารถขายได้ถูก ทำให้เราเชื่อใจ และตกลงซื้อรถโตโยต้าวีออส เมื่อเดือนธันวาคมปี 2553 ที่ผ่านมา ในราคา 6แสน 3หมื่น 9พันบาท มีประกันชั้น1 แต่ก็ได้มีการลดราคาให้อีก 6 หมื่นบาท ดังนั้นจึงซื้อมาในราคา 5 แสน 7 หมื่นบาท ซึ่งก็ได้รถมาจริง และเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ก็อยากจะได้รถฮอนด้าแจ๊สอีกหนึ่งคันจึงติดต่อขอซื้ออีกครั้งใน 5 แสน 7หมื่นบาท และได้โอนเงินไปก่อนเหมือนกับครั้งแรกแต่คราวนี้ก็ไม่ได้รถแล้ว
นายวุฒิชัย กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ตนยังโดนโกงเรื่องเช็คอีกด้วย เรื่องเกิดขึ้นประมาณเดือนธันวาคมที่ผ่านมาโดย น.ส.วาณีได้ชวนตนลงทุนเกี่ยวกับเรื่องรถ ซึ่งตนก็ร่วมลงทุนเช่นกัน คือ สมมติว่าถ้าลงทุน 1ล้าน 4 แสนบาทจะได้กำไร1แสนหรือ 1.5 แสนบาท รวมมูลค่าในการลงทุนประมาณ 10 ล้านบาท แต่เมื่อถึงเวลาดีลเช็คก็ปิดบัญชีหนี ไม่สามารถติดต่อได้ เมื่อรู้ว่าโดนโกงแน่แล้ว จึงเดินทางไปที่บ้านของน.ส.วาณีโดยที่บ้านจะเปิดร้ายขายอะไหล่รถยนต์ด้วย ปรากฎว่ามีเจ้าทุกข์ที่โดนเหมือนกับเรายืนรออยู่ประมาณ 20 กว่าคน จึงรู้ว่าเรื่องทั้งหมดเหล่านี้เป็นการจัดฉากขึ้นมาเพื่อหลอกลวงฉ้อโกงผู้อื่น
"เมื่อไปถึงบ้านก็ปิดไม่มีคนอยู่ และจากการพูดคุยกับผู้ที่ประสบเหตุการณ์เดียวกันต่างก็บอกว่าโดนคล้ายๆ กันไม่ว่าจะหลอกให้ซื้อรถในราคาที่ถูก หลอกให้ลงทุนเกี่ยวกับรถ ซึ่งทุกคนต่างก็ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจแล้วแต่ก็ยังไม่ได้รับการดำเนินการแต่อย่างใด โดนมีผู้เสียหายคนหนึ่งเล่าว่า น.ส.วาณี มีตำรวจชั้นผู้ใหญ่หนุนหลัง และตำรวจคนนั้นก็ปิดเรื่องเพื่อไม่ให้เป็นข่าวหรือให้ดำเนินคดี เมื่อเป็นเช่นนี้ตนเองจึงเดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจห้วยขวาง ข้อหาฉ้อโกงเพื่อให้ดำเนินคดีอีกราย ถ้าให้รวมมูลค่าที่ตนเองโดนโกงทั้งจากเรื่องรถและร่วมลงทุนก็ประมาณ 10 กว่าล้านบาท แต่ถ้ารวมกับผู้เสียหายรายอื่นก็เป็นหลักร้อยล้านบาทซึ่งถือว่าเป็นมูลค่ามหาศาล และถึงแม้ตอนนี้คดีจะยังไม่คืบหน้าแต่ตนคิดว่าเมื่อได้ออกมาเปิดเผยโดยให้สื่อเป็นตัวกลางในการตีแผ่แก่สังคมภายนอกให้รับทราบก็อาจจะช่วยให้ผู้ฉ้อโกงได้ยำเกรง และช่วยเตือนประชาชนให้เกิดความระมัดระวังก่อนไม่ไปหลงเชื่อผู้อื่นได้ง่ายๆ" นายวุฒิชัย กล่าว