“สมเด็จพระเทพฯ” ทรงพระราชทานถุงยังชีพแก่ผู้อพยพ ใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านในศูนย์อพยพฯ ต่างทยอยกลับไปสำรวจบ้าน ขณะที่ตลาดสดในเมืองคึกคักมากขึ้น ผวจ.ศรีสะเกษ แจ้งผู้อพยพมีมากกว่า 16,000 คน พร้อมสั่งการ จนท.ลาดตระเวน ดูแลทรัพย์สินชาวบ้าน ด่านอรัญประเทศเปิดตามปกติ
วันนี้ (8 ก.พ.) ที่ศูนย์อพยพชั่วคราวที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายสำเริง เอี่ยมสะอาด รองราชเลขาธิการในพระองค์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นำผ้าห่มกันหนาว สิ่งของพระราชทานมอบให้กับประชาชนที่เดือดร้อนจากเหตุการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งวันนี้เข้าสู่วันที่ 5 แล้ว ผ่าน นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการ จ.ศรีสะเกษ โดยพระองค์ทรงห่วงใยราษฎรที่เดือดร้อน พร้อมกำชับให้จังหวัดดูแลอย่างเต็มที่
ขณะที่ชาวบ้านส่วนใหญ่เริ่มกลับบ้านเพื่อไปสำรวจความเสียหายของทรัพย์สินแล้ว มีเพียงเด็กและคนชราเท่านั้น ที่ยังอยู่ในศูนย์อพยพ สำหรับเด็กๆ วันนี้ ยิ้มแย้มแจ่มใส โดยเหล่ากาชาด จ.ศรีสะเกษมอบนมผง ของเล่นให้กับเด็กๆ ทุกคน ซึ่งตอนนี้มีจำนวนมาก เนื่องจากโรงเรียนยังปิดอย่างไม่มีกำหนด ด้านหน่วยบัญชาการทหารพัฒนาได้เริ่มผลิตน้ำดื่มแจกจ่ายให้กับประชาชน รวมทั้งเตรียมรถกู้ภัยไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉินหากเกิดขึ้นในพื้นที่
ส่วนที่ตลาดสดตัวเมืองกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ บรรยากาศเริ่มคึกคัก มีชาวบ้านออกมาจับจ่ายซื้อสินค้าเพิ่มมากขึ้นจากเมื่อวานนี้ หลังร้านค้าส่วนใหญ่ปิดชั่วคราว เนื่องจากไม่มั่นใจกับสถานการณ์การปะทะกันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา
ทั้งนี้ ผู้ค้ายอมรับว่า แม้จะมีชาวบ้านมาซื้อสินค้า แต่ยังไม่มากนัก ขณะที่ชาวศรีสะเกษยังคงติดตามข่าวสารการสู้รบตลอดเวลา พร้อมยืนยันว่า จะไม่อพยพออกจากพื้นที่ เพราะพื้นที่ด้านในตัวอำเภอไม่ได้อยู่ในวิถีกระสุน
ด้าน นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการ จ.ศรีสะเกษ ยืนยันว่า สถานการณ์รอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ยังไม่มีรายงานการปะทะของกองกำลังทั้งสองฝ่าย และไม่มีสถานการณ์ผิดปกติเกิดขึ้น สำหรับผู้อพยพนั้นมีเพิ่มขึ้นเป็น 16,000 คน ใน 40 ศูนย์ทั่วจังหวัด พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ปกครองสนธิกำลัง เป็นชุดลาดตระเวนหมู่บ้านในช่วงกลางคืน เพื่อรักษาทรัพย์สินของชาวบ้าน
นอกจากนี้ ยังกำชับกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ให้ตรวจสอบสถานการณ์ในหมู่บ้าน หากมีเหตุผิดปกติให้แจ้งทางอำเภอ เพื่อทำการช่วยเหลือทันที พร้อมกันนี้ จะแจ้งข้อมูลต่อคณะมนตรีความมั่นคง กรณีที่กัมพูชาทำร้ายมุ่งเป้าที่พลเรือน โดยเชื่อว่า ข้อมูลที่เกิดขึ้นน่าจะชี้แจงได้ว่า กัมพูชากำลังละเมิดสิทธิมนุษยชนของไทย
ขณะที่ นายแพทย์ สุวรรณชัย วัฒนยิ่งเจริญชัย รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ได้กำชับไปยังโรงพยาบาลตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประสานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และ อสม.ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ร่วมกันจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ เร่งออกตรวจรักษา และคัดกรองผู้ป่วยด้วยโรคติดต่อทางเดินอาหารและทางเดินหายใจ เน้นการตรวจหาเชื้อมาลาเรีย หลังพบว่า จ.ศรีสะเกษ เป็น 1 ใน 10 จังหวัดของไทย ที่พบโรคมาลาเรียระบาด และมีเชื้อดื้อยา
ทั้งนี้ เหตุปะทะกันระหว่างรัฐบาลไทยและกัมพูชา ในพื้นที่ตะเข็บชายแดน ทำให้ชาวบ้านต้องอพยพออกจากบ้านเรือนมาอยู่รวมกันจำนวนมาก ยิ่งเป็นปัจจัยเร่งให้โรคติดต่อต่างๆ กระจายได้ง่าย ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนรักษาสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด ดื่มน้ำสะอาด และอาหารสุกใหม่ พยายามรักษาความอบอุ่นของร่างกาย หากเครื่องกันหนาวไม่เพียงพอ สามารถจุดไฟผิงได้ แต่ห้ามจุดในที่อับ เพราะควันจะทำให้ขาดอากาศหายใจจนเสียชีวิตได้
ด้านสถานการณ์ที่ จ.สุรินทร์ นายเสริม ไชยณรงค์ ผู้ว่าราชการ จ.สุรินทร์ กล่าวว่า จากสถานการณ์เกิดเหตุปะทะกันบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ตามหมู่บ้านแนวชายแดน ในพื้นที่ อ.บัวเชด กาบเชิง และพนมดงรัก ที่ยังตื่นตระหนกกับเหตุการณ์สู้รบที่เกิดขึ้นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ทุกอำเภอตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนอย่างเต็มที่ พร้อมติดตามสถานการณ์ และเตรียมแผนการช่วยเหลืออพยพประชาชน หากเกิดสถานการณ์รุนแรงขึ้นในพื้นที่ จะต้องพร้อมอพยพประชาชนไปอยู่ในที่ปลอดภัยทันที
ส่วน นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดลงพื้นที่ร่วมประชุมผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ในพื้นที่ชายแดนด้าน จ.สุรินทร์ ณ ห้องประชุม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ด้วย
ด้าน ด่านอรัญประเทศ เจ้าหน้าที่กองร้อย 1206 หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 12 ยังเปิดประตูจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ในเวลา 07.00 น. ตามปกติ แม้ว่าสถานการณ์ชายแดนด้าน จ.ศรีสะเกษ ยังไม่ค่อยสงบ
ทั้งนี้ บรรยากาศก่อนเปิดด่าน พ่อค้าแม่ค้า และแรงงานชาวกัมพูชา ต่างเดินทางไปรอข้ามแดนบริเวณฝั่งปอยเปตอย่างหนาแน่น เพื่อจะเข้ามาเปิดร้านค้าในตลาดโรงเกลือที่มีกว่า 2,000 ร้าน ซึ่งสถิติของด่านตรวจคนเข้าเมืองที่อรัญประเทศ พบว่า แต่ละวันจะมีชาวกัมพูชาเดินทางเข้ามาในตลาดโรงเกลือเฉลี่ยวันละประมาณ 7,000 คนด้วยกัน
ขณะที่ประชาชนชาวกัมพูชาจำนวนมาก ต่างต้องอพยพออกจากบ้านเรือนไปอยู่ที่ศูนย์อพยพของกัมพูชาเช่นกัน โดยมีเจ้าหน้าที่นำอุปกรณ์ยังชีพมาให้ความช่วยเหลือ