xs
xsm
sm
md
lg

คำต่อคำ“สนธิ”แฉอันตราย“เจบีซี”ไทย-เขมร จวก“มาร์ค”ปล่อยผ่านสภาเท่ากับขายชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สนธิ”ย้ำหากบันทึกการประชุมเจบีซีไทย-กัมพูชาผ่านรัฐสภา 2 พ.ย.ไทยเสียดินแดนแน่นอน “มาร์ค-กษิต”ส.ส.-ส.ว.ที่ลงมติจะได้ชื่อเป็นคนขายชาติ แฉพฤติกรรม “วศิน”ประธานเจบีซีฝ่ายไทยเข้าข้างเขมร ยอมทำหลักเขตใหม่ช่วงช่องบก-สะงำ ทั้งที่ไทย-ฝรั่งเศสตกลงกันได้แล้ว แถมไม่โต้แย้งเขมรกล่าวหาไทยรุกดินแดนในที่ประชุมเจบีซี จวก “มาร์ค”โกหก เคยรับปากพันธมิตรฯ 7-8 ส.ค.กลับทำเฉย ปล่อยบันทึกเจบีซีเข้าสภา ปลุกพี่น้องพันธมิตรฯ แสดงพลังหน้าสภาแต่เช้า

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ "เมื่องไทยรายสัปดาห์" 

รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ออกอากาศทาง เอเอสทีวี ทุกวันศุกร์ ช่วงเวลา 20.30-22.30 น. วันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม 2553 ช่วงที่ 1 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ดำเนินรายการ

สวัสดีครับท่านผู้ชมที่อยู่ทางบ้าน และพ่อแม่พี่น้องที่ติดตามรายการเมืองไทยรายสัปดาห์เป็นประจำทุกๆ วันศุกร์นะครับ วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ.2553 วันนี้จะมีอยู่ 2 ช่วง ช่วงนี้ผมจะออกมาพูดเพียงคนเดียวในเรื่องราวที่เรียกว่าวิกฤตของประเทศไทยเลย วิกฤตครั้งนี้เป็นวิกฤตที่ร้ายแรงมาก หากพวกเราไม่เข้าใจในเรื่องราวต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น ในวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ.2553 ที่รัฐสภาไทย เราจะต้องสูญเสียดินแดนไทยอย่างแน่นอนที่สุด และเราก็จะสูญเสียดินแดนไทยภายใต้รัฐบาลชุดพรรคประชาธิปัตย์

พรรคประชาธิปัตย์นั้นทำให้เราสูญเสียทรัพย์สมบัติของแผ่นดินในยุคปี 2540 ด้วยการเชิญชวนให้ฝรั่งต่างชาติมาซื้อกิจการไทยไปแล้วมาข่มเหงคนไทย

ก่อนหน้านั้น พรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นตัวกลางในการเปิดบีไอบีเอฟ ก่อให้เกิดเหตุวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 และวันนี้ พรรคประชาธิปัตย์ กำลังจะเป็นพรรคที่ทำให้ประเทศไทยสูญเสียดินแดน ทำไมผมกล้าพูดเช่นนี้ ประเดี๋ยวผมจะเอาข้อมูลและหลักฐานให้ดู และเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก ใครก็ตามฟังเรื่องนี้ให้ดีๆ ไม่ว่าจะเป็น ส.ส. หรือว่าวุฒิสมาชิก อยากจะให้ตั้งใจฟังเรื่องนี้ให้ดีๆ แล้วท่านจะเห็นว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของใครทั้งสิ้น ไม่ใช่เรื่องของผม ไม่ใช่เรื่องของ นปช. นปก. พรรคเพื่อไทย แต่เป็นเรื่องของชาติบ้านเมือง เมื่อเป็นเรื่องของชาติบ้านเมืองแล้วเราต้องตั้งสติให้ดี แล้วเราต้องแสดงความกล้าหาญที่จะต้องกล้าตัดสินใจ

ท่านผู้ชมครับ นักการเมืองนั้นเป็นตัวแทนของประชาชน ในคำจำกัดความ และคำนิยาม แต่บ่อยครั้งนักการเมืองไม่ได้ทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอธิปไตยของชาติ หลายๆ ครั้งนักการเมืองนั้นตระบัดสัตย์ โกหกประชาชน เพียงเพื่อให้ตัวเองนั้นไม่ต้องตัดสินใจ

วันนี้ผมกำลังจะพูดถึงเรื่องกรณีที่วันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ จะมีการลงมติที่รัฐสภา ในเรื่องของการเอากรอบข้อตกลงวาระครั้งที่ 1 ของการประชุมเจบีซี เข้ามาในสภา

เจบีซี คืออะไร ท่านผู้ชมตามผมมา ท่านผู้ชมที่เคยดูรายการเรื่องเขาพระวิหารนั้นย่อมจำได้ ผมทวนความจำสั้นๆ ปี 2543 ได้มีข้อตกลงระหว่างไทย-กัมพูชา ที่ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่าเอ็มโอยู 2543 ซึ่งรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เป็นคนเซ็นกับเขมร ในการเซ็นครั้งนั้นมีข้อบกพร่อง ข้อผิดพลาด ซึ่งคนทำ จะเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม คือข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ และขณะนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร เป็นผู้ที่รับผิดชอบกระทรวงการต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกรมสนธิสัญญา

ข้อตกลงครั้งนั้น เป็นข้อตกลงของการที่จะให้ 2 ประเทศเข้ามาพิจารณาในเรื่องของการปักปันเขตแดน ปัญหาพรมแดนประเทศไทยนั้น มีพรมแดนติดกับพม่าทางตะวันตก ทางตะวันออกและขึ้นไปทางตะวันออกเฉียงเหนือเราติดกับเขมร ทางใต้เราติดกับมาเลเซีย

ปัญหาทางพรมแดนไม่ใช่เป็นปัญหาใหญ่ หากเรารู้จักรักษาผลประโยชน์ของชาติ หลายต่อหลายครั้ง ปัญหาพรมแดนนั้นเป็นปัญหาซึ่งตกลงกันไม่ได้ เพราะต่างฝ่ายต่างยึดถือพรมแดนที่ตัวเองเชื่อว่าเป็นของตัวเองนั้นอย่างหนักแน่น และไม่ยอมเปลี่ยนแปลง แต่การตกลงกันไม่ได้นั้น ไม่ใช่ว่าจะต้องก่อให้เกิดสงครามตลอดเวลา เพียงแต่ว่าการตกลงกันไม่ได้นั้น หากฝ่ายไทยยืนยันที่จะรักษาอธิปไตยของชาติเอาไว้ และยืนยันในการที่จะปกป้องสิทธิอันที่จะพึงมีขึ้นมาตามลักษณะของข้อเท็จจริง ทั้งข้อเท็จจริงทางภูมิศาสตร์ และข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ จะเถียงกันอีก 10 ปี 20 ปี 50 ปี 100 ปีก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ทำไมพรมแดนตรงเขาพระวิหารจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ที่พรมแดนตรงเขาพระวิหารเป็นเรื่องที่สำคัญ ก็เพราะว่า ได้มีการบิดเบือนข้อเท็จจริง

ที่สำคัญที่สุดพ่อแม่พี่น้องครับ คนที่ไม่กล้าเอาความจริงมาพูด แล้วก็หลอกประชาชนคนไทย หลอกประเทศชาติมาตลอดเวลาคือ กระทรวงการต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรมสนธิสัญญา โดยพื้นฐานแล้ว รัฐบาลชุดพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลข้าราชการ อะไรๆ ก็ไม่กล้าตัดสินใจ ก็บอกว่านี่เป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศเขา เพราะฉะนั้นแล้ว กระทรวงการต่างประเทศก็ต้องทำไปในกรอบความคิดของข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศนั้น มีความกลัว และหากการเมืองไม่ได้สั่ง ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศจะทำไปในความเชื่อของตัวเอง ทั้งๆ ที่จะเป็นการสูญเสียผลประโยชน์ของชาติ บนพื้นฐานของความเท็จ

ท่านผู้ชมครับ ผมย้ำอีกครั้งนะครับ กระทรวงการต่างประเทศจะเสนอข้อเสนอต่างๆ เพื่อที่ให้ตัวเองนั้นพ้นผิด หรือไม่ให้ตัวเองนั้นจะต้องมีความลำบากใจ

ประเทศไทยนั้นสูญเสียเขาพระวิหาร ได้สูญเสียปราสาทพระวิหาร ให้กับเขมร ตามมติของศาลโลก เมื่อปี 2505 จุดนั้นก็เลยทำให้กระทรวงการต่างประเทศกลายเป็นกระทรวงที่ขี้ขลาดตาขาว เอาตัวรอด ไม่กล้าพอที่จะลุกขึ้นมาปกป้องประเทศชาติ ยิ่งอยู่ภายใต้การบริหารของรัฐบาลชุดพรรคประชาธิปัตย์ทุกๆ ครั้ง ก็จะเจอลักษณะของการที่ปล่อยให้ข้าราชการทำงานแล้วไม่เข้าไปแทรกแซง เหมือนคำพูดหลายๆ คำพูดที่นายกฯ อภิสิทธิ์เคยพูดอยู่ตลอดเวลา อย่างเช่น เรื่องนี้เป็นเรื่องของกระทรวงนั้นผมไม่เกี่ยว คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะไม่ยอมเกี่ยวพันกับเรื่องอะไรทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม จะเกี่ยวพันอยู่อย่างเดียวเท่านั้นเองก็คือ ขอให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป

พี่น้องครับตามผมมา เมื่อเอ็มโอยู 2543 ถูกเซ็นขึ้นมา เซ็นขึ้นมาบนพื้นฐานที่กระทรวงการต่างประเทศไม่ได้พูดความจริง และไม่กล้ายืนอยู่บนความจริง เผอิญในเอ็มโอยู 2543 นั้น ได้มีข้อตกลงว่าจะพิจารณาเรื่องพรมแดนอยู่บน 2 พื้นฐาน พื้นฐานแรกก็คือว่า เขมรต้องการใช้อัตราส่วน 1:200,000 แต่ไทยเรานั้นมีอยู่ข้อหนึ่งบอกว่า ให้ใช้ยึดหลักสันปันน้ำ แต่ 2 ตัวนี้ได้ถูกแปรเปลี่ยน แปรธาตุมา โดยที่แปรธาตุมาสู่ทีโออาร์ 2546 นั่นคือยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รัฐบาลชุดพรรคประชาธิปัตย์ โดยอดีตนายกรัฐมนตรี คุณชวน หลีกภัย อาจจะเซ็นไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ที่จะยอมรับเอ็มโอยู 2543 โดยเชื่อคำพูดของกระทรวงการต่างประเทศ ที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร เป็นผู้ที่บริหารจัดการในขณะนั้น ก็เลยทำให้เซ็นไปโดยที่ไม่ได้คิด แต่เมื่อต่อมาแล้วนายทักษิณ ชินวัตร ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ใช้ประโยชน์จากเอ็มโอยู 2543 มาร่างข้อตกลงทีโออาร์ 2546 โดยอิงเอ็มโอยู 2543 เอาไว้

ทีโออาร์ 2546 นั้น เป็นแผนแม่บทที่จะดำเนินการต่อไปเป็นขั้นตอนว่าจะต้องทำอะไรบ้าง แล้วทีโออาร์ 2546 นั้น เป็นข้อตกลงส่วนตัวระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับนายฮุน เซน เพราะว่ามีผลประโยชน์ทางทะเลที่ทั้งสองฝ่ายนั้นจะเอามาแบ่งกัน แต่ว่าจะต้องเริ่มจากทีโออาร์ 2546 ก่อน

เพราะฉะนั้นแล้วทำไมผมถึงบอกว่ากระทรวงการต่างประเทศโกหก ขี้ขลาดตาขาว มีแนวโน้มส่อไปในทางขายชาติ พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ใช้วุฒิภาวะของการเป็นรัฐบาล ไม่ได้ใช้ความกล้าหาญของการเป็นผู้นำประเทศ ไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนไหนก็ตาม จนกระทั่งมาถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ได้ใช้ความกล้าหาญที่ตัดสินใจจะแก้ไขปัญหานี้ให้เข้าใจ ให้ถูกต้องและให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ MOU 2543 ต่อมาเป็นทีโออาร์ 2546 และต่อมาก็มีการตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างไทยกับกัมพูชา เพื่อที่จะพิจารณาในการปักหลักเขตแดน

พี่น้องครับ จำนะครับ ประเทศสองประเทศ อยู่ร่วมกันมาเป็นร้อยปีพันปี จนกระทั่งก้าวหน้าเจริญมาจนถึงปัจจุบัน เขตแดนที่เคยปักเอาไว้ในอดีตนั้น เสาอาจจะหายไป การเหลื่อมซึ่งกันและกันอาจจะเกิดขึ้น ประชาชนข้ามไปข้ามมาจนกระทั่งบางครั้งดูไม่ออกว่าหมู่บ้านนี้เป็นของเราหรือของเขา เรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะไทยเขมร เกิดขึ้นกับไทยกับลาว เกิดขึ้นกับไทยกับมาเลเซีย และเกิดขึ้นในบางส่วนกับไทยพม่า ไม่ใช่เป็นเรื่องใหม่ แต่เรื่องที่เจ็บปวดหัวใจทุกวันนี้ก็เพราะว่ามันมีหลักฐานที่พิสูจน์ชัดเจน ว่าการปักหลักเขตแดนในครั้งนี้ ได้เริ่มการตัดสินใจปักหลักเขตแดนบนพื้นที่ที่เป็นที่ยอมรับแล้วระหว่างเรากับฝรั่งเศส เรียบร้อยแล้วว่านี่เป็นข้อตกลงว่าเป็นพื้นที่ของไทย ไม่ต้องปักหลักเขตแดน แต่ว่าในการที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอเรื่องขึ้นมา แล้วรัฐบาลทุกชุดรวมถึงชุด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลับไปยอมรับข้อเสนอของกระทรวงการต่างประเทศ ที่ประธานฝ่ายเจบีซีฝ่ายไทยนั้นคือ นายวศิน ธีรเวชญาณ ซึ่งผมคิดว่าคนๆ นี้เป็นคนที่ส่อเจตนาในกรณีที่มีโอกาสทำให้ไทยสูญเสียดินแดน ผมอยากให้พี่น้องคนไทยจำชื่อคนนี้ไว้ให้ดี นายวศิน ธีรเวชญาณ คนๆ นี้เป็นคนที่น่ากลัวมาก ผมจะชี้ให้ดูเพราะอะไร

ตามผมมาดูที่แผนที่สักนิดหนึ่ง พี่น้องครับ แผนที่นี้เป็นแผนที่ จาก จ.อุบลราชธานี มาจนถึงศรีสะเกษ ช่วงตรงนี้ที่ผมถืออยู่ ที่มีเลข 1 พี่น้อง ย้อนมาจน จ.อุบลราชธานี ตอนที่ 6 ตอนที่ 7 ตอนที่ 6 กับตอนที่ 7 ตรงนี้ โดยธรรมชาติแล้ว เส้นเขตแดนของประเทศระหว่างไทยกับกัมพูชาแบ่งออกเป็น 2 ประเภท พี่น้องต้องจำไว้ ประเภทแรกคือว่า เส้นเขตแดนตามธรรมชาติ ซึ่งสยาม-ฝรั่งเศส สมัยก่อนประเทศไทยชื่อ สยาม ได้ตกลงกัน ทั้งฝรั่งเศสและเราได้ตกลงกัน และเดินทางสำรวจตลอดเลย ปักปันเสร็จเมื่อ 103 ปีที่แล้ว ว่าให้ใช้สันปันน้ำ ให้ใช้สันปันน้ำเป็นหลักโดยไม่ต้องมีการทำเส้นเขตแดน ซึ่งได้แก่บริเวณ ช่วงนี้แหละที่เขาเรียกบริเวณ ระวางดงรัก ซึ่งระวางนี้ได้รวมถึงปราสาทพระวิหารด้วย ทำไมเขาถึงตกลงกันได้ง่าย ที่เขาตกลงกันได้ง่ายเพราะนี่เป็นพื้นที่ทางธรรมชาติ คือเป็นหน้าผาหมดเลย เมื่อเป็นหน้าผาแล้วอยู่ฝั่งไทยก็ไม่ต้องปักเขตแดน เขาบอกว่านี่แหละคือของไทย ตามหลักสันปันน้ำ ด้วยเหตุนี้หลังจากที่เห็นแล้ว ไทยกับฝรั่งเศสก็เริ่มปักเขตแดนตั้งแต่เลข 1 ปักมาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงสุดท้าย 73 เขตแดน 73 หลัก ทำไมเขาไม่เริ่มตรงนี้ล่ะพี่น้อง ที่เขาไม่เริ่มตรงนี้เพราะว่าทั้งฝรั่งเศสและทั้งไทยนั้นยอมรับเป็นอย่างดี ว่าตรงนี้คือที่ของไทย เพราะเรายึดหลักสันปันน้ำ แล้วมันเป็นพื้นที่ทางธรรมชาติ ข้างบนเป็นภูเขา ข้างล่างเป็นภูผา เป็นหน้าผา ข้างล่างนี่เป็นหุบเขาลงไป เพราะฉะนั้นฝรั่งเศสก็บอกว่า เอาล่ะ อันนี้เป็นที่ของ you เป็นที่ของ you เพราะว่าธรรมชาติมันชัดเจนแล้ว ไม่ต้องปัก เรามาเริ่มปักกันตรงนี้ 73 เอาล่ะ ทำไมถึงมีปัญหา ที่มีปัญหาก็เพราะว่ากระทรวงการต่างประเทศ และนายกรัฐมนตรี ซึ่งแต่ละยุคแต่ละสมัย ไม่เคยกำหนดลงไป หรือแจ้งลงไป หรือสั่งลงไป ยอมตามกระทรวงการต่างประเทศตลอดเวลาว่า การปักหลักเขตแดนเจรจากันใหม่นั้น ต้องเริ่มจากตรงนี้ แต่ดันมาเริ่มจากตรงแถวๆ นี้ มาเริ่มตรงนี้ได้อย่างไร ก็ในเมื่อมันตกลงกันไว้เรียบร้อยแล้วว่านี่คือที่ของไทย และนี่คือสิ่งซึ่งเจบีซี ที่นายวศิน ธีรเวชญาณ เสนอเข้ามา แล้วนายกรัฐมนตรีก็เห็นด้วยที่จะเอาเข้าสภา นายกรัฐมนตรีต้องสั่งว่า หลักเจบีซีที่คุณเสนอเข้ามานั้น ถ้าคุณเริ่มตรงนี้ผมเห็นด้วย แต่ถ้าคุณมาเริ่มจากตรงนี้ผมไม่เห็นด้วย นี่ยังไม่พูดถึงข้อบกพร่องของเอ็มโอยู 2543 ที่เดี๋ยวผมจะพูดต่อไป เพราะฉะนั้นพี่น้องจะเห็นได้ชัด

ทบทวนกันใหม่นะพี่น้อง 103 ปีที่แล้ว ไทยกับฝรั่งเศสเดินสำรวจตรงนี้ มาจนถึงตรงนี้ แล้วก็บอกว่าตรงนี้ยึดหลักสันปันน้ำ เพราะมันเป็นหน้าผา เมื่อเป็นหน้าผาแล้ว หน้าผานี่มันอยู่ในประเทศไทย ก็ต้องเป็นของไทยหมด ก็เริ่มปักเขตแดนที่ 1 ตรงนี้ ไล่ลงมาเรื่อยๆ ไล่ลงมาจนกระทั่งถึงหมุดที่ 73 ที่ จ.ตราด เพราะฉะนั้นแล้วหลักฐานตรงนี้เป็นหลักฐานข้อเท็จจริงที่กระทรวงการต่างประเทศก็รู้ ใครๆ ก็รู้ คำถามก็คือว่า ทำไมกระทรวงการต่างประเทศถึงไม่ยึดถือตรงนี้ แล้วเอาตรงนี้เป็นข้ออ้างในการที่จะเจรจาปักเขตแดน ว่าถ้าจะปักเขตแดนมาเจรจาใหม่ว่าใครล้ำใคร ต้องเริ่มที่ตรงนี้ แต่ดันยอมให้เขมรมาเริ่มตรงนี้ได้ โดยกระทรวงการต่างประเทศไม่ค้าน ถ้าอย่างนั้นคนที่ประชุมกับเขมรในเรื่องปักเขตแดน พูดได้หรือไม่ว่าเจตนาที่จะขายชาติขายแผ่นดิน และถ้านายกรัฐมนตรีเห็นด้วยกับวิธีการนี้ เท่ากับนายกรัฐมนตรีและพรรคประชาธิปัตย์มีส่วนร่วมในการขายชาติขายแผ่นดินเช่นกัน พูดได้หรือไม่ ผมอยากจะถาม

นายสนธิ ลิ้มทองกุล ลูกเจ๊กลูกจีน ไม่ได้มีตำแหน่งแห่งที่ ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้เกี่ยวข้ออะไรประชาชนอีกมากหลายก็ไม่ได้เกี่ยวข้ออะไรทำมาหากิน เสียภาษีตามปกติ แต่เรารับไม่ได้กับการที่ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศบางคนบางกลุ่ม รวมทั้งนักการเมืองงี่เง่า โง่ ตระบัดสัตย์ ไม่รู้ว่าไปตกลงอะไรกับเขมรเพื่อแลกสิ่งพวกนี้ แล้วให้ยอมรับให้วาระที่ 1 ของเจบีซี จะเข้าสภาในวันที่ 2 นี้เพื่อให้รับรอง

พี่น้องครับตามผมมา นี่คือแผนที่ 2 พี่น้องคงจำแผนที่นี้ได้ เส้นสีแดงนี้ก็คือเส้นสันปันน้ำที่อยู่บนหน้าผาที่ฝรั่งเศสกับไทยตกลงกัน ตกลงกันมา 103 ปีแล้ว มีหลักฐานมาแล้ว แต่เผอิญปี 2505 วันที่ 15 มิถุนายน ศาลโลก ซึ่งฝรั่งเศสมีอิทธิพลอยู่ในศาลโลกบิดเบือนข้อเท็จจริงมายกประสาทเขาพระวิหารตรงนี้ให้เขมรเฉพาะตัวปราสาท พื้นที่รอบๆด้านไม่กล้าตัดสินเพราะข้อเท็จจริง คือว่าเป็นของไทย แต่เนื่องจากการเมืองไทยบังคับ การเมืองโลกบังคับให้ฝรั่งเศสใช้อิทธิพลในศาลโลก อเมริกาก็ใช้ศาลโลก เพราะตอนนั้นอเมริกาต้องการให้เขมรเข้ามาร่วมสงครามในเวียดนาม สนับสนุนอเมริกา เลิกเป็นกลาง ก็เลยจะเอาใจเจ้าสีหนุ ฉะนั้นแล้วอเมริกา ฝรั่งเศส ซึ่งมีองค์ผู้พิพากษาอยู่ในศาลโลกก็เลยพิพากษาให้ปราสาทอยู่ ซึ่งอยู่บนพื้นดินไทยให้เป็นของเขมร แต่พื้นที่รอบนอกไม่พิพากษาว่าเป็นของเขมร แสดงว่ายังเป็นของไทยอยู่ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มาก แต่ไม่เป็นไร เราก็เลยทำรั้วแนวกั้น รั้วสำหรับปฏิบัติการของทหารไทย ซึ่งไม่ใช่เขตแดน เป็นแนวกั้นรั้วของไทย เขตแดนที่เรายึดถือก็ยังอยู่ตรงนี้อยู่เหมือนเดิม เห็นหรือยังพี่น้อง

เอาล่ะพี่น้องเข้าใจตรงนี้แล้วนะครับ มาดูภาพใหม่ เอ็มโอยู 2543 ที่เซ็นมา โดยพรรคประชาธิปัตย์เป็นคนเซ็น แล้วต่อลงมาด้วยทักษิณ ชินวัตร สืบทอดเจตนารมณ์อันอาจจะบริสุทธิ์ของพรรคประชาธิปัตย์ แล้วก็บิดเบือนข้อเท็จจริง ก็เลยทำให้มีเส้นเขตแดนใหม่เกิดขึ้นตรงนี้ สีน้ำเงิน คือแนวเขตแดนตามที่ กพช.ยึดถือ

เอ๊ะ พี่น้อง ที่ของเราตั้งแต่แรก หลักฐานก็มีมา 103 ปีแล้ว ว่าเขายอมรับตรงนี้ แล้วจู่ๆ มาถูกตัดแบ่งไปอย่างนี้ ด้วยเอ็มโอยู 2543 พี่น้องว่าอันนี้เป็นความผิดของใคร ต้องของกระทรวงการต่างประเทศ ขายชาติ ขายชาติ จะเป็นใครก็ตามที่เกี่ยวข้อง แล้วนายวศิน ธีรเวชญาณ ซึ่งเป็นประธานเจบีซี อดีตเป็นอธิบดีกรมสนธิสัญญา ไม่มีสติปัญญาจะรู้เลยหรือว่า 103 ปีที่แล้ว ไทยกับฝรั่งเศสตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่าตรงนี้เป็นของไทยหมด แล้วเวลาเจรจาเจบีซี ทำไมเสือกให้เขาลากเส้นตรงนี้ไปได้ ขายชาติหรือเปล่า คนพวกนี้ประหารชีวิต 7 ชั่วโคตร ยังไม่สาสม ความรู้ความสามารถก็มี ประวัติศาสตร์ก็มี แล้วทำไมเวลาประชุมเจบีซีถึงไม่ยืนยันตรงนี้ ทำไมไม่ประชุมเจบีซี บอกว่าปักหลักเขตแดนมาเริ่มกันตรงนี้ใหม่ เพราะตรงนี้พวก you และบรรพบุรุษ you ที่เคยครองประเทศ you คือฝรั่งเศส ตกลงกับ i มาเรียบร้อยแล้วว่านี่เป็นของ i ต้องเริ่มตรงนี้ไปเรื่อยๆๆๆ ทำไมกระทรวงการต่างประเทศถึงไม่พูดเรื่องนี้ ทำไมเก็บซุกเอาไว้ที่ไหน และกระทรวงการต่างประเทศเวลาประชุมเจบีซีทีไร เขมรก็กล่าวหาทหารไทยว่าทหารไทยรุกที่ ทหารไทยรุกที่ ทำไมเจบีซี คุณวศิน ทำไมคุณและลูกน้องคุณไม่ค้านในที่ประชุมเจบีซีให้เป็นหลักฐานว่า ทหารไทยไม่ได้รุกที่ ที่ตรงนี้เป็นที่ของคนไทย คุณตอบผมซิ นายกฯ อภิสิทธิ์ คุณรู้บ้างรึเปล่า เห็นหรือยังพี่น้อง

ต่อเนื่องมาเป็นแผนที่แผ่นที่ 3 พอแผนที่แผ่นที่ 3 มา เมื่อคุณไม่ยืนยันสันปันน้ำ ซึ่งฝรั่งเศสกับสยามได้ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว มีหลักฐานหมด เมื่อคุณไม่ยืนยัน เขมรมันก็เลยใช้แผนที่ 1: 200,000 ตามเอ็มโอยู 2543 ก็ในเมื่อ เอ็มโอยู 2543 เปิดโอกาสให้เรายึดหลักสันปันน้ำ เราก็ต้องยึดหลักสันปันน้ำ เอาตรงนี้ส่วนหลักสันปันน้ำไปจนถึงตรงนี้เป็นหลักสันปันน้ำที่เรายืนยันเลยว่าเป็นของเรา จากตรงนี้ไปอาจจะมีเหลื่อมล้ำตรงไหนบ้างนั่นค่อยมาคุยกัน มาปักเขตแดนกันใหม่ เอ๊ะนี่ใครขายชาติกัน ไปตำหนิเขมรได้อย่างไร เขมรก็ต้องสู้เพื่อให้ได้สิ่งที่ไม่ใช่ของมันเอาคืนมา โกง ก็ต้องยอมทำ แต่ที่เลวที่สุดคือคนของเรา และที่เลวกว่านั้นคือ นักการเมืองไปสมรู้ร่วมคิด ไม่กล้าตัดสินใจ ถ้าผมเป็นนายกฯ อภิสิทธิ์ ผมจะต้องบอกนายวศิน บอกกระทรวงการต่างประเทศ ว่าคุณเจรจาเจบีซี เจรจาอย่างไรก็ได้ แต่คุณต้องเริ่มจากตรงนี้ไม่ใช่ตรงนี้ ไม่ใช่ตรงนี้ เพราะตรงนี้เป็นของไทย แต่นายกฯ อภิสิทธิ์ ไม่กล้า เรื่องนี้เป็นเรื่องกระทรวงการต่างประเทศ แล้วคุณเป็นนายกฯ ทำไม คุณเป็นนายกฯ เพื่อลอยหน้าลอยตาแสดงความหล่อของคุณเท่านั้นเองรึไง ชาติบ้านเมืองจะฉิบหาย จะสูญเสียดินแดนอยู่แล้ว คุณก็บอกไม่ใช่เรื่องของคุณ พี่น้องเริ่มเข้าใจหรือยัง

เพราะฉะนั้นวาระที่ 1 ของเจบีซีที่จะเข้าสภา จะเกี่ยวพันกับเรื่องนี้หมด ถ้าเราไปรับรองมัน เท่ากับเรารับรองว่าที่เคยเป็นพื้นที่ของเราตามหลักสันปันน้ำ ที่เรากับฝรั่งเศสตกลงกันนั้น เป็นของเขมรหมด ทั้งหมดพี่น้องดูให้ดีๆ ทั้งหมดเมื่อมันเป็นเช่นนี้แล้วพี่น้องดูนะ จากตรงนี้มาช่องบกมาเรื่อยๆ มาจนถึงปราสาทเขาพระวิหาร ตรงนี้เป็นที่ที่ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว เมื่อ 103 ปีที่แล้ว หลักฐานก็มีแล้วว่าเป็นของเรา ฝรั่งเศสก็ยอมรับ แต่วันนี้กระทรวงการต่างประเทศและเจบีซี ที่นายวศิน ธีรเวชญาณ พี่น้องจำชื่อ นามสกุลนี้ไว้ให้แม่นๆ ว่าไอ้หมอนี่คือตัวการในฐานะเป็นประธานเจบีซี ไม่ได้สู้เรื่องนี้ ไมได้คัดค้านเขมร เวลาเขมรกล่าวหาทหารไทยรุกดินแดน ว่าทหารไทยไม่ได้รุกดินแดน ทหารไทยอยู่ในที่ที่เป็นของคนไทย ช่วยเขมรมาตลอด

ตรงนี้ถ้า 1 ต่อ 200,000 ปั้บเนี้ย เราจะเสียพื้นที่ทันทีเลย 4.6 ตารางกิโลเมตร ถ้าใช้ 1 ต่อ 200,000 ทั้งหมดเลย เราเสียพื้นที่ทั้งหมด 80,000 กว่าไร่ เกือบแสนไร่ สนุกนักเหรอ อย่างน้อยเราใช้พื้นที่ของสันปันน้ำ และนายกรัฐมนตรีก็ยืนยันตลอดเวลาว่าพื้นที่ของสันปันน้ำ ถ้าเป็นพื้นที่สันปันน้ำยึดสันปันน้ำเป็นหลัก ถ้านายกฯ ยืนยันยึดสันปันน้ำเป็นหลัก แล้วนายกฯไม่ตระบัดสัตย์ แล้วทำตามคำพูดที่ตัวเองพูด นายกฯ ต้องเรียกประธานเจบีซี และกระทรวงการต่างประเทศ บอกว่า ประเทศไทยยึดหลักสันปันน้ำหลักฐานมีอยู่แล้ว ว่าไทยกับฝรั่งเศสตกลงกันแล้วว่าที่นี้เป็นพื้นที่ของไทยเด็ดขาดตามหลักสันปันน้ำ ถ้าจะปักหลักเขตแดนใหม่ต้องเริ่มจากตรงนี้ ทำไมนายกฯ ถึงยอมให้เขามาเริ่มปักเขตแดนแถวๆนี้ นายกฯมีส่วนร่วมหรือเปล่าในการเข้าสู่กระบวนการขายชาติโดยไม่ได้ตั้งใจ พี่น้องเข้าใจหรือยัง

พี่น้องครับ เส้นเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ประเภทแรกคือเส้นเขตแดนธรรมชาติที่ผมอธิบายให้ฟังนี่คือเส้นเขตแดนธรรมชาติ พื้นที่หน้าผา ที่เอาใครมาดูก็บอกว่านี่ของไทยแน่นอน อันที่ 2 คือเส้นเขตแดนที่ไม่ชัดเจนทางธรรมชาติ เมื่อมันไม่ชัดเจนตามธรรมชาติ มันเป็นพื้นที่ราบสยามกับฝรั่งเศสจึงใช้วิธีทำหลักเขตแดน ก็คือนี่ไงเล่าพี่น้องหลักเขตแดน ซึ่งหลักเขตแดนมนุษย์สร้างขึ้นมาเป็นเสาคอนกรีตเล็กๆ แน่นอนว่าย่อมมีโอกาสถูกเคลื่อนคล้ายถูกทำลายสูญหาย

ส่วนนี้มีอยู่ 73 หลักเขตแดน ที่เจบีซีต้องคุย คือคุย 73 ตัวนี้ ไมได้ทะลึ่งมายกดินแดินให้เขาไป คุณขายชาติหรือเปล่า และนายกฯอภิสิทธิ์ มีส่วนร่วมในการขายชาตินี้ด้วยหรือเปล่า ในการผลักดันให้เจบีซีเข้าสภา

พี่น้องครับ ผมพูดแล้วผมช้ำใจพี่น้อง ช้ำใจมากๆ มีแต่ผม และพี่น้องหลายๆคนที่รักชาติ รักบ้านเมืองแค่นี้เหรอที่สนใจ เดี๋ยวผมจะทวนความจำนะครับแต่ก่อนอื่นจะบอกถึงอันตรายของการที่เจบีซีจะเข้าไปในสภา

เจบีซีนั้นมีการประชุมไป 3 ครั้ง และจะเอาผลบันทึกการประชุม 3 ครั้งนั้นไปขอมติรัฐสภา ถ้าเรามีเจบีซี แล้วสภารับรอง เราจะมีอันตรายอยู่ 4 ข้อ ข้อแรก คื ถ้าเรารับรองนั้นเป็นชัยชนะของเขมร เป็นการพ่ายแพ้ของประเทศไทยที่ถูกรับรองโดยรัฐสภาไทย ข้อแรก ท่าน ส.ส.ผู้ทรงเกียรติ ท่าน ส.ว.ผู้ทรงเกียรติ ในภาพพจน์ที่ท่านมีต่อสังคมไทยนั้น ที่ผมคิดอยู่ ไม่ดีหรอก แต่ท่านกลับตัวสักนิดได้ไหม ในการประชุมวันที่ 2 นี้ ไม่ว่าท่านจะเป็นพรรคเพื่อไทย หรือพรรคร่วมรัฐบาล หรือพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พี่น้องประชาชนที่อยู่ทางใต้ เราสู้กันเรื่องนี้มาตั้งนานแล้ว เราสู้เพื่อความถูกต้อง เราสู้เพื่อชาติบ้านเมือง เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

พี่น้องบอก ส.ส.ในจังหวัดพี่น้องหน่อยสิ ว่านายกฯ อภิสิทธิ์ผิด ไปเชื่อกระทรวงการต่างประเทศ อันจะเป็นผลทำให้ไทยต้องสูญเสียดินแดน วันนี้คุณอภิสิทธิ์อาจจะมาเถียงว่ายังไม่ได้เสียอะไรทั้งสิ้น แต่ว่าวันหนึ่งจะต้องเสีย เพราะผลจากการที่เข้าไปรับรองในรัฐสภา เรื่องที่ 2 ในบันทึกผลการประชุมของเจบีซี มีข้อความการปราศรัย การพูดจาของนายวา คิมฮง ซึ่งเป็นประธานฝ่ายกัมพูชา ให้การเป็นเท็จ ว่าทหารไทยได้รุกล้ำดินแดนและอธิปไตยกัมพูชาในบริเวณเขาพระวิหาร ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาเมือนควาย เท่ากับว่าเมืองคนไทย ประเทศไทย เป็นฝ่ายผิดเงื่อนไขเอ็มโอยู 2543 โดยที่ประธานฝ่ายไทย คือนายวศิน ธีรเวชญาณ ไม่เคยมีบันทึกการปราศรัยในการประชุมโต้แย้งเลย นอกจากไม่โต้แย้งแล้วยังทะลึ่งปราศรัยบอกจะร่วมมือในการสำรวจและจัดทำหลักเกณฑ์เขตแดนโดยเร็ว คุณเป็นคนไทยหรือเปล่า คุณวศิน เขามากล่าวหาว่าทหารไทยรุกล้ำดินแดนอธิปไตยไทย รุกล้ำที่ไหน คุณก็รู้ ว่าที่เขากล่าวหานี่ เขาหาว่าทหารไทยรุกล้ำในที่นี้ ก็ทหารไทยมันอยู่ที่นี้มาตั้งนานแล้ว แล้วที่นี้เป็นที่ของคนไทย ตามข้อตกลงระหว่างไทยกับฝรั่งเศสเมื่อ 103 ปีที่แล้ว ทำไมคุณไม่ใช้สมองคุณ สติปัญญาคุณ ยกมือขึ้นมาแล้วก็ Excuse me, Mr.Chairman. ที่คุณพูดน่ะผิด เพราะว่าบริเวณนี้เป็นบริเวณของไทย ตามหลักฐานเมื่อ 103 ปีที่แล้ว ที่ฝรั่งเศสซึ่งเป็นเจ้าอาณานิคม เจ้านายเก่าของคุณนี่ล่ะ ตกลงกับเราไว้แล้วว่าเป็นของเรา แล้วคุณจะมาว่าประเทศไทยรุกล้ำได้อย่างไร แล้วทำไมคุณถึงไม่พูด นายวศิน ทำไมคุณถึงไม่พูด นอกจากไม่พูดแล้ว ยังทะลึ่ง แล้วเสือกบอกว่าจะให้ความร่วมมือในการปักเขตแดน คุณรับเงินเขมรมาหรือเปล่า ผมถามจริงๆ

แล้วบันทึกการปราศรัยอันเป็นเท็จอันนี้ กำลังจะถูกยกระดับให้มีการรับรองโดยสมาชิกรัฐสภาไทย แล้วนี่คือชัยชนะที่เขมรจะเอาไปอ้างกับนานาชาติทั่วโลก และทำให้ประเทศไทยหมดเงื่อนไขในการต่อสู้กับนานาชาติ นายกฯ อภิสิทธิ์ คุณเข้าใจเรื่องนี้หรือเปล่า หรือคุณบ้าฝรั่ง คุณบ้าฝรั่งจนกระทั่งคุณลืมกำพืดคนไทย คุณบ้าไปจนกระทั่งคุณไม่รู้ว่าผลที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่เข้าวันที่ 2 นี้ ถ้าสภารับรองมันคืออะไร

แล้วกษิต ภิรมย์ ผมผิดหวังในตัวคุณมาก เพราะว่าวันนี้คุณไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากมาปกป้องข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะซึ่งคุณอดีตเป็นข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ผมจำเป็นต้องพูดเรื่องนี้กับคุณ

ข้อที่ 3 ภัยอันที่ 3 ในการร่างข้อตกลงชั่วคราวในบริเวณเขาพระวิหาร ที่จัดทำขึ้นโดยเจบีซีทั้ง 2 ฝ่าย ที่กำลังจะขอมติเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาไทยนั้น ปรากฏชัดเจน ในการที่จะให้ไทยและกัมพูชายืนยันตามเอ็มโอยู 2543 ที่รัฐบาลชุดพรรคประชาธิปัตย์เป็นคนเซ็น และทีโออาร์ 2506 ที่นายทักษิณเป็นคนเซ็น เท่ากับอะไรพี่น้อง เท่ากับว่า ถ้าเรารับรองโดยรัฐสภา เจบีซีครั้งนี้ เท่ากับเราไปรับรองการใช้แผนที่ 1:200,000 ทันที ถ้าเรารับรองการใช้แผนที่ 1:200,000 ทันที สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือว่า ทันทีเลย พื้นที่ 1:200,000 ที่สีแดงๆ นี่เป็นของเขมรหมด เป็นของเขมรหมด 100,000 ไร่

พวกคุณขายชาติกันพอหรือยัง เมื่อไรจะหยุดเสียที หรือว่ามีแต่คนบ้าอย่างผม แล้วก็ประชาชนพันธมิตรฯ หลายคน หลายกลุ่ม ที่เขาไม่เห็นด้วย การเป็นนักการเมืองนั้นต้องปกป้องผลประโยชน์ของชาติ ซึ่งคุณไม่เคยปกป้องอยู่แล้วเพราะคุณโกงกินตลอดเวลา แต่อย่างน้อยที่สุด ดินแดนไทย คุณจะยอมให้ดินแดนไทยต้องเสียดินแดนในรัชกาลที่ 9 รึไง แล้วเสียดินแดนไม่ใช่เสียโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เสียเพราะว่าคุณโง่และคุณสมรู้ร่วมคิดกับเขา ทั้งๆ ที่หลักฐานมีอยู่แล้วว่าเราเป็นเจ้าของ แต่คุณก็ไม่ทำ คุณเอาเจบีซีเข้าสภา เข้าเพื่ออะไร เข้าเพื่ออะไรคุณตอบผมซิ เพื่ออะไร

ข้อที่ 4 ในร่างข้อตกลงชั่วคราวบริเวณเขาพระวิหาร ซึ่งจัดทำโดยเจบีซี ซึ่งนายวศิน ธีรเวชญาณ เป็นประธานฝ่ายไทย ยังมีระบุขอที่เห็นชอบในที่ประชุมว่าให้ทหารทั้ง 2 ฝ่ายถอนตัวออกมา ฟังดูดี แล้วชุมชนชาวกัมพูชา ทั้งวัด ทั้งตลาด ทั้งถนนที่มีอยู่รอบบริเวณเขาพระวิหาร ทำไมไม่ถอนล่ะ ก็แสดงว่าข้อตกลงกัมพูชา อันนี้รัฐบาลไทยให้การรับรอง คือชัยชนะกัมพูชา เท่ากับว่า กัมพูชายึดแผนที่ 1:200,000 อย่างเดียว และชุมชนของกัมพูชาจะขยายและเพิ่มสิ่งปลูกสร้างอย่างไม่มีกำหนด ทหารไทยจะไม่มีสิทธิ์ใช้กำลังในการผลักดันออกไป พื้นที่ทั้งหมดของเขาพระวิหารและพื้นที่โดยรอบ ในฐานะเป็นมรดกโลกกัมพูชาจะสมบูรณ์มากขึ้น เพราะเข้าสู่เงื่อนไขความสงบเรียบร้อยและไม่เป็นอันตรายต่อใคร ทำให้คณะบริหารพื้นที่มรดกโลก 6 ชาติ เข้าไปยึดพื้นที่จัดการได้ทันที การถอนทหารไทยเท่ากับมัดมือมัดเท้าทหารไทย โดยปล่อยให้กัมพูชายึดครองทั้งในทางพฤตินัย และขึ้นทะเบียนมรดกโลกและบริหารโดยนานาชาติโดยสมบูรณ์

พี่น้องครับ รัฐบาลชุดนี้ตระบัดสัตย์ต่อตัวแทนภาคประชาชน และนักวิชาการ จงใจปล่อยให้วาระที่ประชุมเข้าที่ประชุมรัฐสภา วิธีเข้าประชุมคือว่า เขาเอาวิปไปสั่ง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ให้อภิปราย เพื่อให้เรื่องของเจบีซีนั้นขึ้นมาในที่ประชุมได้โดยเร็ว เร่งรัดล่วงหน้า 2 วาระ ให้ ส.ส.รัฐบาลงดอภิปราย เพื่อให้วาระนี้เข้าประชุมสภาให้ได้ พอถึงวาระนี้ คุณกษิต ภิรมย์ คนที่เราเคยภูมิใจ กลายเป็นคนที่เสนอให้ประชุมลับ ถ้าไม่ใช่คุณคำนูณ สิทธิสมาน และ ส.ว.ไพบูลย์ นิติตะวัน ต่อรองว่า ถ้าไม่ยอมเปิดประชุมเปิดเผยแล้ว ผมจะต้องขอนับองค์ประชุม เพราะองค์ประชุมไม่ครบอยู่แล้ว ในที่สุดเขาถึงยอมประชุมโดยเปิดเผย ประธานรัฐสภา นายชัย ชิดชอบ คนบุรีรัมย์ ก็เร่งรัดการอภิปรายคุณคำนูณให้จบเร็วที่สุด

ข้อที่ 2 พี่น้อง รัฐบาลชุดนี้ฉวยโอกาสน้ำท่วมที่ประชาชนเดือดร้อน นำเรื่องขายชาติและฟอกผิดตัวเองเข้าสู่ความเห็นชอบต่อสภา ข้อที่ 3 สมรู้ร่วมคิดกับกัมพูชาขายชาติไทย โดยพี่น้อง วันที่ 26 ที่เอาเข้าสภา โฆษกรัฐบาลกัมพูชา ประกาศชัดเจนวันที่ 26 วันนั้นที่เข้าสภา วันที่ 26 ระบุให้ชัดเจนว่า นายฮุน เซน นั้นจะไม่เอาเรื่องของไทย-กัมพูชา เข้าหารือกับนายบัน คี มุน พี่น้องครับ โฆษกรัฐบาลกัมพูชาพูดอย่างไรรู้ไหม เพราะว่าฝ่ายไทยรับปากว่า รัฐสภาไทยจะผ่านบันทึกการประชุมเจบีซี ใครไปตกลงขายชาติล่วงหน้า ทำไมโฆษกรัฐบาลกัมพูชาถึงรู้ว่ารัฐสภาไทยจะผ่านบันทึกการประชุมเจบีซี แล้วพูดอย่างหน้าด้านเลยนะ พูดเลยว่า รัฐบาลไทยรับปาก รัฐบาลไทยใครรับปาก คุณกษิต ภิรมย์ คุณไปรับปากรึเปล่า อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คุณไปรับปากรึเปล่า ก็แสดงว่าการเข้าสภา เมื่อวันที่ 26 คุณแอบจับมือกับเขมร ใช้ช่วงจังหวะเวลาน้ำท่วม ประชาชนเดือดร้อน ไม่มีใครสนใจเอาเรื่องนี้เข้า เผอิญยังมีคนที่รักชาติรักแผ่นดินที่ติดตามเรื่องนี้อยู่ พี่น้องเห็นรึยัง เดี๋ยวจะหาว่าผมพูดด่าไม่มีหลักไม่มีฐาน พี่น้องมาดู นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พูดแต่ละครั้ง พี่น้องครับ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พูดบอกว่า พรุ่งนี้เราจะเริ่มปกป้องอธิปไตยและแผ่นดินของไทยเราด้วยกัน หมายความว่าอย่างไร วันที่ 8 เป็นวันที่นายอภิสิทธิ์ และคณะ จะไปร่วมประชุมกับภาคประชาชน และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่เวทีที่สนามกีฬาไทย-ดินแดน จำได้ไหมที่ถ่ายทอดสดช่อง 11 บ่ายโมง 45 นายอภิสิทธิ์ มีรายละเอียดพูดอย่างนี้

ผมเอาเฉพาะจุดที่สำคัญ เราไม่ได้คิดต่างกัน หมายความว่า นายอภิสิทธิ์ เเละภาคประชาชน คือพวกผม และไม่ได้มีเจตนาที่ต่างกัน รัฐบาลชุดนี้ไม่มีผลพวงอื่นใดนอกจากผลประโยชน์ของชาติ ถ้าผลประโยชน์ของชาติ 1.คุณต้องไม่เอาเจบีซีเข้าสภาวันนี้ คุณเอาเจบีซีเข้าสภาครั้งนี้คุณเอาเข้าโดยที่ข้อเท็จจริงของคุณ ไม่มีส่วนนี้เลยแม้แต่นิดเดียวเรื่องสันปันน้ำ เท่ากับคุณยอมให้เขาปักเขตแดนตั้งแต่ตรงนี้ไป เท่ากับคุณทำลายหลักสันปันน้ำ และคุณไม่คัดค้านข้อกล่าวหา นายวาคิม ฮง ตำหนิประเทศไทยในที่ประชุมเจบีซี ว่าทหารไทยรุกล้ำเข้าไปในดินแดนของเขา ซึ่งคุณก็รู้ว่าเป็นดินแดนของเรา เพราะเป็นเขตสันปันน้ำ

สันปันน้ำที่คุณอภิสิทธิ์อ้างตลอดเวลาว่าผมยึดถือสันปันน้ำ แล้วคุณยึดถือหรือเปล่า คุณปล่อยให้ประธานเจบีซีเขมรว่าประเทศไทย ว่าทหารไทยเข้าปยึดพื้นที่ ซึ่งเป็นพื้นที่ของไทยอยู่ในบริเวณสันปันน้ำที่คุณชอบอ้างตลอดเวลาให้ยึดสันปันน้ำ แต่คุณยังยอมให้รายงานเจบีซีตัวนี้เข้าสภา แสดงว่าคุณโกหกซิ คุณยึดสันปันน้ำ คุณโกหกพวกผมใช่ไหม แล้วคุณเอาหน้าหล่อๆ คำพูดคำจาเก่งในการโต้วาทีมาหลอกชาวบ้านต่อหรือไม่

คุณอภิสิทธิ์ คุณพูดต่อนะ วันที่ 8 สิงหา และผมยืนยันว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะเอาประเทศไทยแลกกับผลประโยชน์ถ้าเป็นเช่นนั้น ไม่ใช่แค่ว่าไม่ควรเป็นนายกฯ แต่ผมไม่ควรอยู่ในแผ่นดินนี้ด้วยซ้ำ แล้วคุณตอบได้ไงเรื่องนี้ เจบีซีต้องเริ่มปักเขตแดนตรงนี้ไม่ใช่มาเริ่มปักตรงนี้ คุณพูดต่อว่า และขอยืนยันว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชัวะ ในวันที่เป็นผู้นำฝ่ายค้านเคยอภิปรายไว้อย่างไร จุดยืนวันนี้ของอภิสิทธิ์ในฐานะนายกรัฐมนตรียังเหมือนเดิมทุกประการ เหมือนเดิมที่ไหนคุณอภิสิทธิ์ ไม่เหมือนเลย คุณเจ้าเล่ห์เพทุบายอย่างมากมาย คุณอาศัยเกาะกระแส รวมไปจนถึงแม่ยกโง่ๆ ของคุณอีกเยอะ ที่หลงใหลในความหล่อเหลาของคุณ แต่ไม่ได้สนใจเลยเรื่องชาติบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ชาติบ้านเมืองจะฉิบหายอย่างไรไม่เป็นไร ขอให้อภิสิทธิ์ทำไปเถอะ ทำอย่างไรก็ไม่ผิด อภิสิทธิ์ถูกเสมอ เพราะอภิสิทธิ์หล่อ เพราะอภิสิทธิ์พูดเก่ง เมืองไทยที่มันไปไหนไม่รอด เพราะมีคนอย่างนี้เยอะ อามะภันเต

เอาล่ะ คุณอภิสิทธิ์พูดต่อ อย่าให้มีการเปลี่ยนแปลง หมายความว่า อย่ามีกลุ่มหนึ่งฝ่ายใดเข้าไปรุกล้ำเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ เอาเรื่องสันปันน้ำหน่อยแล้วกัน ไปดูคำพูดที่คุณอภิสิทธิ์เคยพูดเรื่องสันปันน้ำสิ มีวิดีโอคลิปชัดเจน

(VTR)

คุณอภิสิทธิ์ครับ คุณจำได้ไหมคุณพูดไว้ว่าต้องยึดสันปันน้ำ ถ้าคุณยึดสันปันน้ำแล้วทำไมเจบีซีที่คุณจะเอาเข้าสภามันถึงจะมาเริ่มตรงนี้ได้ ตรงนี้ แถวๆ นี้ ถ้าคุณยึดสันปันน้ำต้องเริ่มตรงนี้ซิ คุณโกหกใครอยู่ แล้วไม่สำคัญอะไรนะคุณอภิสิทธิ์ คุณพูดว่าจะใช้ได้ต้องตกลงทำหลักเขตแดนโดยยึดหลักสันปันน้ำก่อน ความหมายคือ เมื่อหลักสันปันน้ำ ตรงนี้เป็นของเราแล้ว เริ่มจากตรงนี้ไปมันเลอะเลือนก็ให้ยึดหลักสันปันน้ำตรงนี้เป็นของเราแล้วมาเริ่มที่นี่ แล้วเจบีซีซึ่งคุณจะเอาเข้าสภาวันที่ 2 เขาทำตามที่คุณพูดรึเปล่า หรือคุณสมรู้ร่วมคิดกับเขา

เอาละที่สำคัญพี่น้อง คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พูดอย่างไรรู้ไหม ตัวแทนภาคีเขาพูดว่า "เมื่อเรายึดสันปันน้ำ เอ็มโอยู แต่จากข้อเท็จจริงในพื้นที่มีทหารและประชาชนชาวกัมพูชาเข้ามาสร้างหมู่บ้าน วัด ตัดถนนเข้ามาอยู่ในดินแดนไทย จะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร และดำเนินการเมื่อไหร่" คุณอภิสิทธิ์คุณพูดว่าอย่างไรรู้ไหม เอามีคลิปเปิดให้ดู

(VTR)

คุณอภิสิทธิ์ครับ คุณพูดวันนั้น 7 สิงหาคม 2553 นี่ 3 เดือน 90 วันเข้าไปแล้ว ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีการผลักดันอะไรทั้งสิ้น มีแต่วาทะที่สวยหรู มีแต่การพลิกลิ้น สร้างความสวยงามในคำพูด ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีเลย เหมือนผมโดนยิงมา เกือบ 2 ปีแล้ว ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีการทำงานต่อ ยังอยู่เหมือนเดิม

คุณอภิสิทธิ์ครับ ก่อนที่ผมจะเข้ารายการนี้ผมพูดกับพรรคพวก ทานข้าวไปด้วยกัน ผมบอกว่า รัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายกฯ อภิสิทธิ์ เหมือนแมงมุม สร้างใยขึ้นมา สร้างภาพตัวเอง พอใยมันเริ่มขาดรุ่งริ่งก็เริ่มกระโดดไปสร้างใยต่อจนกระทั่งใยตอนนี้เต็มไปหมดเลย คือการสร้างภาพ แล้ววันนี้ใยมันเริ่มมัดตัวท่านนายกฯ แล้ว คุณอภิสิทธิ์ต้องเข้าใจอย่างนะว่า คุณเป็นนักการเมืองที่คนไทยชอบ เพราะว่าคนไทยไม่น้อยเลยที่ปัญญายังไม่ถึง

ผมไปพูดที่ลอสแองเจลิสมา คนไทยที่นั่นไม่ชอบคุณเยอะมาก เพราะคนไทยที่นั่นมีตัวอย่างให้เห็น เขามีปัญญา เขาได้เห็นผู้นำต่างชาติ เขาเห็นความกล้าหาญในการตัดสินใจ การที่คุณพูดออกมาว่า เขมรรุกล้ำแล้วผิดเงื่อนไขเอ็มโอยู 2543 ทำไมคุณไม่ยกเลิกเอ็มโอยู 2543 ล่ะ คุณก็มาอ้างเอ็มโอยู 2543 มันมีข้อดีข้อโน้นข้อนี้ ผมจะบอกให้รู้ ที่คุณไม่ยกเลิกก็เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นคนเซ็นเอ็มโอยู 2543 ใช่ไหม วันนี้พรรคการเมืองเพื่อปกป้องพรรคแต่พร้อมจะเสียดินแดนไทยไปเพื่อไม่ให้พรรคเสียชื่อ ผมจะพูดอะไรอย่าง และผมจะทำนายอะไรอย่าง เหตุการณ์อันนี้ถ้าคุณยังปล่อยให้เจบีซีเดินหน้าต่อไป เข้ารัฐสภา ผ่านวาระในวันที่ 2 แล้ว ผลอันนี้ในอนาคตไทยต้องเสียดินแดนแน่นอน และเมื่อไทยเสียดินแดนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคุณอภิสิทธิ์, นายกษิต ภิรมย์ คณะรัฐมนตรี ตลอดจน ส.ส. และ ส.ว.ที่ลงมติเห็นชอบเจบีซี จะต้องเข้าข่ายในกรณีขายชาติขายแผ่นดิน รวมทั้งข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ เช่น นายวศิน ธีรเวชญาณ ผมทำนายไว้เดี๋ยวนี้และไม่ผิดด้วย

ภาคประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เห็นคุณตั้งใจทำงาน เข้าไปนั่งคุยกับคุณ แต่คุณแปลเจตนารมณ์ผิด ว่าเราไม่กล้าสู้คุณ ไม่จริง วันที่ 2 นี้ เราจะไปที่รัฐสภา เราจะทำถูกกฎหมายทุกอย่าง และเราจะไม่ลืม ผมจะบอกพ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวไทย ถ้าน้ำท่วมมาไม่ได้ไม่ต้องมาดูแลบ้าน แต่ถ้าคิดว่าครั้งหนึ่งในชีวิตต้องการที่จะแสดงออกเพื่อปกป้องแผ่นดินไทยจากนักการเมืองที่ไม่ยอมปกป้อง แล้วเอาประชาชนอย่างพวกเราเข้าไปปกป้อง มารวมตัวกันที่หน้ารัฐสภา วันที่ 2 แต่เช้าเลย เพราะเขาจะเอาวาระเจบีซีเข้าเป็นวาระแรก เราไม่ไปปิดทางเข้าออกเขา เขาอยากเข้าออกแต่เราต้องการให้เขาเห็น ว่ามีคนไม่เห็นด้วย เขาดูถูดพวกเราว่า เราไม่มีน้ำยา

ปัญหาไม่ใช่เราไม่มีน้ำยา ปัญหาคือเราเป็นคนมีเหตุผล เห็นเขาตั้งใจทำงานเราก็พร้อมที่จะหาทางออกให้เขา แต่การที่เขาเอาเจบีซีเข้าสภา แสดงว่าเขาตระบัดสัตย์ เพราะเนื้อหาเจบีซีนั้นเป็นเนื้อหาที่มันตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาพูดหมด ที่คุณพูดเอาไว้ไง ว่าคุณยึดถือสันปันน้ำ และวันนี้เจบีซีมายึดถือสันปันน้ำหรือเปล่าล่ะ

กระทรวงการต่างประเทศมันเป็นหนึ่งกระทรวงภายใต้รัฐบาล คุณสั่งไม่ได้เชียวหรือ คุณอภิสิทธ์ คุณกษิต ภิรมย์ คุณบอกเขาไมได้เหรอว่าผมไม่เอาแบบนี้ คุณดูรายละเอียดเจบีซีซิคุณต้องรู้ คุณต้องอ่านรายละเอียด แล้วคุณต้องบอกว่า อ้าวทำไมคุณไปให้นายวาคิม ฮง มันว่าทหารไทยว่ามารุกล้ำเขตแดนนี้ นี่เป็นเขตแดนของไทย ทำไมคุณกษิต ไม่ยอมบอกคุณวศิน ต้องคัดค้านเรื่องนี้ ว่าไม่ใช่ คุณปล่อยเลยตามเลย เพราะคุณเป็นคนไม่กล้าตัดสินใจอะไรทั้งสิ้น คุณต้องการลอยตัวอยู่เหนือปัญหา ถึงชาติบ้านเมืองจะเสียดินแดนไปก็ช่างมัน เพราะมันไม่ได้เสียตอนนี้ แต่จะเสียตอนหน้า คุณอยู่ที่ไหน คุณอาจจะไม่ได้อยู่ในเมืองไทยแล้วก็ได้ ผมเสียดาย ผมเสียใจ ผมสนับสนุนคุณมาตลอดด้วยความสัตย์จริง หลายต่อหลายอย่าง ผมเห็นว่าควรให้โอกาสคุณ เกือบสองปีที่ผมอยู่เฉยๆ เพราะผมคิดว่าให้คุณทำ ทั้งๆที่หลายต่อหลายครั้งผมไม่สบายใจและผมหงุดหงิดในความเป็นคุณ คุณเลิกทำตัวเป็นผู้ดีอังกฤษเสียทีได้แล้ว คุณลงมาเท้าติดดินนิดหนึ่ง เลิกได้ไหมไอ้ประเภทที่ไปสร้างภาพนั่งบนเรือท้องแบน และมีคนเดินลุยน้ำครึ่งตัว แล้วลากเรือคุณก็ใส่เสื้อชูชีพ แต่เวลาคุณนั่งเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาไม่เห็นคุณใส่ชูชีพเลย เลิกได้ไหมเวลาที่คุณไปดูเขาน้ำท่วมแล้วคุณเลิกเลี้ยงปลา เลิกสร้างภาพได้แล้ว ทำงานจริงๆ ซักที อย่างน้อยก็เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพื่อแผ่นดินไทย

พี่น้องครับ วันที่ 2 ที่จะถึงนี้ เป็นวันสำคัญของพวกเรา พี่น้องที่ต้องการจะบริจาคเพื่อช่วยในการร่วมชุมนุม ปกป้องดินแดนอธิปไตยไทย บริจาคมาได้ที่มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ประเดี๋ยวจะมีขึ้น เข้าสู่กองทุนทวงเขาพระวิหารคืน หรือส่งเงินบริจาคไปที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ตู้ ปณ.100 ได้ทันที

พี่น้องครับ ท่าน ส.ส. ท่าน ส.ว. วันที่ 2 คือวันประวัติศาสตร์ ท่านจะลงไปในประวัติศาสตร์ในฐานะมีส่วนร่วมในการขายชาติ หรือท่านจะลงไปในประวัติศาสตร์ในฐานะที่ท่านคัดค้านวาระขายชาติเช่นนี้ อย่าไปสนใจว่าท่านเป็นเพื่อไทย หรือเป็นใคร เพราะท่านลงคะแนนเสียงวันที่ 2 นั้น จะจารึกเป็นหลักฐานในประวัติศาสตร์ถึงชั่วลูกชั่วหลาน ที่เขาสามารถที่จะไล่เลียงมาได้ 200 กว่าเสียงนี้ 100 กว่าเสียงนี้ เห็นด้วยกับการขายชาติ ที่เหลือไม่เห็นด้วย พี่น้องประชาชนที่อยู่จังหวัดต่างๆ ที่มี ส.ส. ส.ว. รีบแจ้งให้พวกเขาทราบว่าพี่น้องประชาชนไม่เห็นด้วยกับการรับรองวาระเจบีซี

พี่น้องครับ ถึงเวลาแล้วที่เราต้องร่วมมือกันช่วยกันทำงาน เวรกรรมประเทศไทย เราร่วมกันไล่คุณทักษิณโกงชาติ ที่มีพฤติกรรมโกงชาติโกงบ้านโกงเมืองออกจากประเทศไทย วันนี้เราต้องมาสู้เพื่อปกป้องดินแดนไทย ไม่ใช่หน้าที่พวกเรา แต่เราต้องทำ

พี่น้องครับ ผมขอจบเรื่องเพียงแค่นี้ พี่น้องอย่าลืมวันที่ 2 เขาบอกว่าเราไม่มีน้ำยา ไม่มีพลัง ทั้งๆ ที่เขาเหยียบศพพวกเราขึ้นมามีอำนาจ เขาแจ้งข้อหาผู้ก่อการร้ายพวกเราเพื่อยุติไม่ให้พวกเรา หรือไม่ให้พวกผม ไม่ให้ พล.ต.จำลอง ไม่ให้คุณพิภพ ธงไชย ได้ลุกขึ้นมาสู้ เขาเข้าใจผิด เขาเข้าใจพวกเราผิดมาก เลือดรักชาติพวกเราไม่มีวันที่จะจาง ไปตามมายาของความอยากมีอำนาจ ความอยากเป็นนายกรัฐมนตรี พักกันสักครู่ครับ เดี๋ยวเรากลับเข้ามาสู่รายการตามปกติครับ

(VTR)








กำลังโหลดความคิดเห็น