xs
xsm
sm
md
lg

คำต่อคำ“สนธิ”ซัด “ฮุนเซน”ทรราชหุ่นเชิด-แฉแถลงด่าเพราะแค้น ปชช.ไทยบีบเลิก เอ็มโอยู.43

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สนธิ”ย้อนความหลัง แฉกำพืด“ฮุนเซน” เคยบอกจะเป็นมิตรที่ดีที่สุดของไทย แต่ 21 ปีผ่านไป พิสูจน์ชัด “คดในข้องอในกระดูก” หลงตัวเอง คิดว่าเป็นเจ้าของประเทศเขมรคนเดียว ซ้ำไม่สำนึกบุญคุณกษัตริย์ไทย ชำแหละแถลงการณ์สำนักนายกฯ เขมร ปั้นเรื่องเท็จ ยกยอฮุนเซนเลิศลอยทั้งที่ตังจริงคือ ฆาตกรทรราชหุ่นเชิดเวียดนามขายชาติเขมร แฉแค้นประชาชนไทยกดดัน“มาร์ค”เลิกเอ็มโอยู.43 จึงเซ็นปลดทักษิณ สร้างภาพปรองดอง แล้วด่า “สนธิ” โยนผิดให้ภาค ปชช.เป็นตัวปัญหา

 คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "เมืองไทยรายสัปดาห์" 


รายการ “เมืองไทยรายสัปดาห์”ออกอากาศทาง เอเอสทีวี ทุกวันศุกร์ ช่วงเวลา 20.30-22.30 น. วันที่ 27 สิงหาคม 2553 ช่วงแรก นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ดำเนินรายการ


สนธิ - สวัสดีครับท่านผู้ชมครับ กลับมาพบกับรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ประจำวันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ.2553 นะครับ วันนี้ผมขอฉายเดี่ยวในตอนต้น แล้วพอจบเรื่องของท่านอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน แล้ว เราค่อยกลับไปเจอพิธีกรคู่ ก็คือคุณสโรชา พรอุดมศักดิ์ คุณแอ้ม และคุณเก๋ อุษณีย์ เอกอุษณีย์ และเราจะมีแขกรับเชิญมาอีกท่านหนึ่ง ก็คือ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ครับ

วันนี้จำเป็นจะต้องออกฉายเดี่ยวก็เพราะว่าผมมีเรื่องที่ผมจะต้องเตือนใจท่านอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน แล้วก็กล่าวข้อเท็จจริงให้ท่านทราบว่า ท่านจะบิดเบือนข้อเท็จจริงกับประเทศไทยเพื่อจะโจมตีรัฐบาลไทย โดยที่ท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ หรือรัฐบาลชุดนี้ไม่ตอบโต้อะไรท่าน หรือตอบโต้ไม่เป็นนั้น ก็เป็นเรื่องที่ท่านทำไป แต่ท่านมาโจมตีภาคประชาชน ซึ่งต่อสู้เรื่องที่ท่านมาหมุบหมิบเอาดินแดน โดยใช้แผนที่ 1:200,000 อันนี้เรายอมให้ไม่ได้ และผมมีความจำเป็นที่จะต้องอ้างเรื่องราวเก่าๆ กับท่านฮุน เซนหน่อยนะครับ วันนี้ผมก็เลยถือโอกาสจะพูดจาผ่านไปยังท่านผู้ชมทางบ้าน ตลอดจนถึงท่าน อัครมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน ซึ่งก็เป็นตำแหน่งซึ่งค่อนข้างจะตลกโปกฮาพอสมควร ฮุนเซนก็ฮุนเซน ทำไมต้องเป็นอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน มีความรู้สึกว่า การตั้งสมเด็จในประเทศของฮุน เซนนั้นช่างตั้งง่ายเหลือเกิน ใครมีอำนาจก็ได้รับการแต่งตั้งทันที ท่านผู้ชมครับ แล้วคุณฮุน เซน ผมจะย้อนบันทึกกลับไปสักนิดหนึ่ง เมื่อประมาณปี 2532 ถ้าคุณยังจำได้นะครับ 2532 นั้น คุณได้เดินทางมาเยือนประเทศไทย แล้วในการมาเยือนประเทศไทยครั้งนั้น ผมได้มีโอกาสไปต้อนรับคุณนะครับ คุณยังจำภาพนี้ได้หรือเปล่า ตอนนั้นคุณยังเป็นนายฮุน เซน ผู้นำชาวกัมพูชาที่มีความน่ารักพอสมควรนะครับ ไม่ใช่เป็นคนก้าวร้าว ยะโสโอหัง หยิ่ง ขนพอง วันนั้นผมต้อนรับคุณแล้วก็มีการสัมภาษณ์พิเศษคุณ โดยเอาหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายสัปดาห์เป็นคนที่สัมภาษณ์พิเศษคุณในเรื่องราวต่างๆ คุณฮุน เซน ถ้าคุณยังจำได้คุณก็ต้องรู้ว่าผมเคยไปเขมรนะครับ ไปเจอคุณเมื่อประมาณปี พ.ศ.2530 หรือ 31 ผมไปกับคุณวัชระ เวทยะธีรางค์ หรือว่ามีฉายานามปากกาว่า คุณยอดธง ทับทิวไม้

เรื่องการเดินทางไปเขมรนั้นเอาไว้ผมค่อยเล่าทีหลังดีกว่า เอาเป็นว่าวันนั้นที่ผมเจอคุณ ถ้าผมจำไม่ผิด พาคุณไปช็อปปิ้ง พาภรรยาคุณไปช็อปปิ้ง คุณเดินแถวเซ็นทรัลพลาซ่าด้วยความตื่นตาตื่นใจ แล้วยังมีการซื้อนาฬิกา ซึ่งยุคนั้นสมัยนั้นพวกคุณเป็นคนซึ่งชอบนาฬิกาเรือนทอง ประเภทที่ดูลึกๆ มีมิติลึก อย่างเช่น ราโด้เรือนทอง ผมยังจำได้ แล้วก็พาคุณไปทานกาแฟที่โรงแรมแลนด์มาร์ค แล้วก็นั่งสนทนากัน ถ้าคุณจำได้ คุณก็ต้องรู้ว่า ในยุคนั้นที่คุณมาแล้วผมไปสัมภาษณ์คุณนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็น ครั้งหนึ่งเคยเป็นคู่อาฆาตคุณ แล้วตอนหลังมาเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการช่วงชิงดินแดนของไทยไปนั้น ยังเป็นแค่ประธานกรรมการบริษัทชินวัตร คอมพิวเตอร์ มีหน้าที่วิ่งเต้นขายสัมปทาน วิ่งเต้นสัมปทานคอมพิวเตอร์ ประมูลงานคอมพิวเตอร์ตามหน่วยงานราชการต่างๆ อยู่ ส่วนคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งคุณเที่ยวก่นด่าเขา พูดจาว่าเขาเป็นเรื่องๆ ไป สมัยนั้นเพิ่งได้ปริญญาโทเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด หลังจากเรียนจบปริญญาโทก็มาเป็นอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในปีเดียวกัน

วันนั้นคุณได้อนุญาตให้หนังสือพิมพ์ผู้จัดการเปิดสำนักงานที่พนมเปญ และคุณก็ต้องถือเป็นหนังสือพิมพ์ไทยฉบับแรกที่เปิดสำนักงานที่กรุงพนมเปญ

ที่สำคัญคือ ผมจำได้ในคำให้สัมภาษณ์คุณ คุณพูดอยู่ ผมไม่ต้องลงรายละเอียดหรอกครับ คุณพยายามที่จะดึงให้คนไทยไปลงทุนกับเขมร กัมพูชา และคุณก็ยืนยันให้ความคุ้มครองป้องกัน แต่ผมอยากเอาคำพูดที่คุณให้สัมภาษณ์ไว้ มาเตือนสติคุณนิดนึง และให้พี่น้องประชาชนชาวไทยได้จดจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกลิ่วล้อของคุณ ซึ่งมันไม่ต่างอะไรจากลิ่วล้อนักการเมืองในเมืองไทยทุกวันนี้ คือเชลียร์นายเก่งมากนะครับ คุณพูดกับประชาชนในสถานการณ์ คนไทยในสถานการณ์ขณะนั้น คุณบอกว่า นี่คือคำพูดคุณนะครับ

ครั้งนี้ คงเหมือนครั้งก่อนๆ หาหนทางที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนคนไทยกับประชาชนกัมพูชา ฟื้นฟูให้เร็วที่สุด นี่เป็นผลประโยชน์ของประชาชนทั้ง 2 ชาติ เป็นผลประโยชน์ของประชาชนในภูมิภาคนี้ และพวกเราเชื่อว่าความปรารถนาของประชาชนชาวไทยก็เช่นเดียวกันกับประเทศกัมพูชา เพราะว่าถึงเวลาแล้วสำหรับการเสริมสร้างความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ และพวกเราประชาชนกัมพูชา

คุณฮุน เซน ครับ ประโยคต่อไปนี้คุณพูดและมีหลักฐานอยู่ ผมไม่ทราบว่าคุณจำได้หรือเปล่า หรือว่าคุณสักจะพูดแต่ประโยคนี้เหมือนพระยาละแวกในอดีตที่เคยพูด คุณพูดบอกว่า ประชาชนกัมพูชาเป็นมิตรที่ซื่อสัตย์ที่สุดของประชาชนคนไทย เป็นมิตรที่ซื่อสัตย์ที่สุด วันนี้ผลของการเป็นมิตรที่ซื่อสัตย์มันพิสูจน์ชัดแล้วว่าจริงๆ คุณไม่ได้ซื่อสัตย์กับประชาชนคนไทยหรอก คุณคดในข้องอในกระดูก คุณรู้หรือเปล่าทำไมถึงเป็นอย่างนี้ เพราะคุณเปลี่ยนไป คุณเปลี่ยนไป คุณเปลี่ยนไปจากปี 2532 ซึ่งคุณเพิ่งจะขึ้นมามีอำนาจ เป็นคนที่เรียบร้อย ผมยังจำได้ผมไปที่พนมเปญครั้งนั้นผมยังไปเจอท่านเตีย บัญห์ แล้วท่านผู้ว่าแบงก์ชาติของคุณ ชื่อท่านจา เรียง อยู่บ้านไม้หลังเก่าๆ อยู่หลังหนึ่ง พวกคุณยุคนั้นยังใส่รองเท้าแตะกันอยู่เลย ผมไม่อยากจะเล่าว่าผมบินไปยังไงบ้าง นั่งเครื่องบินสายการบินกัมพูชาซึ่งใช้เครื่องบินรัสเซีย แล้วคนขับเครื่องบินเป็นคนรัสเซีย ลำบากยากเย็นยังไงผมก็ต้องไปตอนนั้น เพราะว่าผมต้องการจะบุกเข้าไปในพนมเปญ เพื่อให้เห็นว่านักหนังสือพิมพ์ไทยนั้นเข้าไปพนมเปญในระหว่างที่สงครามกลางเมืองยังไม่จบดี หรือร้อยเปอร์เซ็นต์ คุณเพียงแค่ควบคุมกรุงพนมเปญได้เท่านั้น เขตรอบนอกพนมเปญคุณยังต้องต่อสู้กับพวกเขมรแดงอยู่ แต่ผมต้องไป ผมไปทำไมคุณฮุน เซน ผมไปเพราะว่าผมต้องการที่จะให้ชาวโลกและคนไทยรู้ว่าพนมเปญ หรือเขมรนั้น กัมพูชากำลังเริ่มที่จะกลับมาฟื้นคืนชีพอีกครั้งหนึ่ง เอาชีวิตผมเข้าไปเสี่ยง เพียงเพื่อให้ชาวบ้านเขามีความไว้ใจในตัวคุณ นะครับ

ไม่เป็นไร ความหลังอันนั้นคุณจำไม่ได้ผมก็ไม่ว่าอะไรทั้งสิ้น ผมจำได้แม้กระทั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแถลงข่าวของคุณ นายเขียว กันนาฤทธิ์ ผมก็จำได้ ก็มาต้อนรับผมในช่วงนั้น เพราะฉะนั้นแล้วผมไปประเทศคุณเมื่อ 21 ปีที่แล้ว 21 ปีผ่านมา คุณได้เปลี่ยนไปหมดแล้ว คุณเปลี่ยนไปในรูปไหน คุณเปลี่ยนไปในรูปลักษณะของคนบ้าอำนาจ คุณหลงตัวเองอย่างมากๆ คุณเพิ่งให้สัมภาษณ์เมื่อเร็วๆ นี้เอง ผมอ่านคำให้สัมภาษณ์แล้วผมยังสงสัยว่าหลุดออกจากปากคุณได้อย่างไร คุณบอกว่า คุณยังจะอยู่เป็นนายกรัฐมนตรีที่กัมพูชาต่ออีก 45 ปี ปีนี้คุณ 54 ปี คุณบอกอีก 45 ปี คุณอยู่จน 99 ถ้าคุณไม่ตายไปซะก่อน คำพูดของคุณคำนี้มันสะท้อนถึงความหลงตัวเอง ความมีอัตตา คุณต้องรู้ว่า วันนี้กัมพูชาและตัวคุณเปลี่ยนไปหมดแล้ว คุณแค้นผม คุณแค้นภาคประชาชน คุณไม่ได้แค้นรัฐบาลอภิสิทธิ์หรอก เพราะคุณรู้ว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์อยู่ในอุ้งมือคุณ คุณปั่นหัวรัฐบาลอภิสิทธิ์ยังไงรัฐบาลอภิสิทธิ์ก็ต้องเล่นตามเกมที่คุณปั่นหัว แต่คุณแค้นพวกผม ภาคประชาชน ซึ่งไม่ยอมรัฐบาลอภิสิทธิ์ ลุกขึ้นมาต่อสู้ดิ้นรนจนกระทั่งประชาชนยอมรับว่า MOU 2543 นั้นมันอัปยศ และคุณก็รู้ว่า MOU 2543 มันอัปยศ ถ้าหากรัฐบาลถูกกดดันให้ยกเลิก คุณจะแพ้เกมเรื่องปราสาทเขาพระวิหารทันทีเลย คุณกลัวตรงนี้มากใช่ไม่ใช่ เพราะฉะนั้นเมื่อคุณกลัวตรงนี้มาก เมื่อเห็นว่าภาคประชาชนลุกขึ้นมาได้แล้ว คุณก็ใช้วิชามารของคุณในการออกแถลงการณ์ของสำนักนายกฯ มันเคยมีที่ไหนในโลกนี้ ที่สำนักนายกรัฐมนตรีประเทศหนึ่งออกแถลงการณ์แล้วมาด่าคนออกรายการทีวีคนหนึ่ง ซึ่งกำลังสู้อยู่บนพื้นฐานของความจริง แล้วสู้อยู่ด้วยเหตุด้วยผล ไม่ได้สู้ด้วยอารมณ์ และแถลงการณ์คุณ ซึ่งประเดี๋ยวผมจะฉีกคุณเป็นข้อๆ คุณด่าผมมา 5 ข้อ ไม่เป็นไรเรื่องเล็ก คุณด่าผมมากกว่านี้ผมก็ไม่ว่า ขอให้ผมยกเลิก MOU 2543 ได้ ถึงผมตายไปมันก็คุ้ม เพราะว่าภาคประชาชนเป็นคนซึ่งต้องออกมาต่อสู้ในสิ่งที่ถูกต้อง คุณไม่มีวันเข้าใจภาคประชาชนหรอก เพราะว่ารัฐบาลคุณ ประเทศคุณไม่มีภาคประชาชน มันมีแต่คุณ ครอบครัวคุณ แล้วก็บรรดานักธุรกิจที่แวดล้อมคุณ แล้วแสวงหาผลประโยชน์จากคุณ คุณไม่ได้สนใจหรอกภาคประชาชน เพราะฉะนั้นแล้ว พี่น้องที่กำลังชมรายการนี้อยู่ ต้องรู้ว่า แถลงการณ์ครั้งนี้ที่ออกมา ผมถือว่า เป็นเกียรติกับผมอย่างยิ่ง เป็นเกียรติจริงๆ อย่างน้อยที่สุด มันพิสูจน์ชัดว่า สิ่งที่เราสู้ออกมาตลอดเวลา สู้จนกระทั่งรัฐบาล คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องยอมรับ ต้องยอมเปิดเวทีให้ภาคประชาชนแสดงออก และในที่สุด ยอมที่จะมานั่งคุยกัน ว่า เราจะแก้ปัญหา MOU 2543 ได้ยังไง หรือแก้ปัญหาที่ดินที่เรากำลังจะสูญเสียให้กับเขาพระวิหาร ให้กับเขมรได้อย่างไร ผมคิดว่า นี่เป็นชัยชนะของภาคประชาชน ซึ่งจะต้องภูมิใจ

ทีนี้ เรามาวิพากษ์วิจารณ์นัยของแถลงการณ์กันนิดนึง นัยของแถลงการณ์มีอยู่ 2-3 นัย เมื่อภาคประชาชนประเทศไทยลุกขึ้นมาเข้มแข็ง ต่อสู้ เรียกร้องสิ่งที่ถูกต้องที่รัฐบาลควรจะทำต่อกัมพูชา ในกรณี MOU2543 กัมพูชา รัฐบาลกัมพูชาโดยนายฮุน เซน กับคนบางคนในรัฐบาลไทย เลยต้องสร้างฉากละครเพื่อเตรียมปรองดองเพื่อกลบปัญหา

พี่น้องครับ พี่น้องสังเกตหรือเปล่า ว่าทันทีที่เขาต้องการจะปรองดอง เสนอปรองดองแล้วออกมาด่าผม เขาบอกว่า เขาได้เซ็นให้คุณทักษิณออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาแล้ว พี่น้องอย่าไปหลงกลนี้ เขาเซ็นตั้งเขาก็เซ็นได้ เขาเซ็นออกเขาก็เซ็นได้ คำถามมีว่า ทำไมคุณตั้งทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาตั้งแต่แรก คุณก็รู้อยู่แล้วว่า ทักษิณ ชินวัตร เป็นศัตรูของราชอาณาจักรไทย คุณก็รู้อยู่แล้วว่า ทักษิณ ชินวัตร มีเจตนาโค่นล้มรัฐบาล คุณก็รู้อยู่แล้วว่า ทักษิณ ชินวัตร ถูกหมายจับ ผิด ศาลพิพากษา แล้ว ก็คือเป็นนักโทษ คุณก็ยังทะลึ่งไปตั้งเขาเป็นที่ปรึกษา ที่คุณตั้งเขาเป็นที่ปรึกษา เพราะคุณต้องการเอาทักษิณ ชินวัตร มาเป็นเครื่องต่อรองกับประเทศไทย หรือมากดดันประเทศไทย เพราะฉะนั้น คุณผิดตั้งแต่ต้นแล้ว ข้อที่ 1

ข้อที่ 2 จู่ๆ คุณมาเซ็นให้ทักษิณ ออกมันไม่มีความหมายหรอก เพราะคุณไปตั้งแต่แรก โดยที่คุณรู้ว่าคุณไม่ควรตั้ง คุณก็ตั้ง เพราะฉะนั้น คุณผิดตั้งแต่ต้นแล้ว คุณจะเซ็นให้ออกหรือไล่ออก หรือเชิญออก มันไม่มีความหมายแม้แต่นิดเดียว ข้อที่ 2 พี่น้องสังเกตไหม ว่าทันทีที่เสนอว่าแผนปรองดอง ประเทศไทยรีบส่งทูตกลับไปทันที ผมยังคิดตลอดเวลา ท่านนายกฯ จะรีบส่งทูตกลับไปทำไม การที่เขาปลดนายทักษิณ ชินวัตร ออกจากที่ปรึกษา เขาก็ยังไม่ได้แก้ปัญหาซึ่งเขาทำกับประเทศไทย ประเทศไทยถูกเขากระทำอะไรบ้าง เขาให้ที่พักพิงกับพวกผู้ก่อการร้าย เช่น นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง นายจักรภพ เพ็ญแข ตลอดคนที่โดนหมายจับของรัฐบาลไทย พึ่งพิงอยู่ในเขมรทั้งสิ้น ถ้าเขาส่งตัวนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง มา นายจักรภพ มา หรือคนซึ่งหนีคดีจากไทยไปอยู่กัมพูชา ส่งกลับมาให้ประเทศไทย ตรงนั้นเราค่อยส่งทูตกลับไปก็ได้ แต่เรารีบส่งทันทีเลย เสมือนกับว่าเตรียมพร้อมจะปรองดองกันแล้ว ทำไมส่ง แล้วก็ส่งทูตคนนี้ ท่านมีชื่อมาก ยืนข้างเขมรตลอดเวลา เวลามีความขัดแย้งกับเขมร ทูตคนนี้จะเข้าข้าง เขมรตลอดเวลา ผมฝากเรื่องนี้ให้ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกษิตด้วย ทันที ปลดทักษิณออกจากที่ปรึกษา นอกจากปลดทักษิณออกจากที่ปรึกษาแล้วยังไม่พอ ส่งทูตกลับไป เขาส่งทูตกลับมาทันที

ฉากที่ 3 ฮุน เซน ตอบโต้ สนธิทันทีว่าเป็นตัวปัญหา จะทำให้รัฐบาลไทย-กัมพูชาแตกแยก เห็นหรือยังพี่น้อง เห็นหรือยังว่า เป็นเกมซึ่งเขาเล่น แล้วที่สำคัญคือ คนในรัฐบาลชุดนี้ บางคนรู้เห็นเป็นใจในการเล่นเกมนี้ด้วย ทำไมเขาทำเช่นนี้ เพราะเขาไม่ต้องการให้มีการยกเลิก MOU2543 ทำไม เพราะเขมรเสียประโยชน์ ส่วนฝ่ายไทยไม่ต้องการยกเลิกเพราะอะไร เพราะไม่ต้องการรัฐบาล ชุดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ชุดพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่ต้องการให้ตัวเองเสียหน้าว่าได้มีการยกเลิก MOU 2543 อยากจะคง 2543 เอาไว้ เขมรก็อยากจะคง 2543 เอาไว้ เขมรคงไว้ 2543 เอาไว้เพราะว่าตัวเองได้ประโยชน์ แต่รัฐบาลชุดนี้อยากจะคง 2543 เอาไว้ เพราะว่าตัวเองจะได้ไม่เสียหน้า เหตุผลก็เพราะว่าโดนภาคประชาชนรุกจนกระทั่งต้องมีคำตอบต่อภาคประชาชน เพราะการซึ่งหลุดปากออกมาว่าจะใช้วิถีทางทางการเมืองและทางทหารผลักดันให้พวกเขมรนั้น พวกทหารเขมร ชุมชนชาวเขมร ออกไปจากพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร เป็นการรับปากออกมาแล้วแต่ไม่อยากทำ อยากจะนั่งอยู่เฉยๆ เพราะฉะนั้นแล้ว ไม่อยากจะทำอะไร เพราะผู้นำไทยอ่อนแอ ต้องการหนีปัญหาและต้องการถ่วงเวลาให้มากที่สุด กัมพูชาก็ต้องการให้เหตุการณ์สงบ เพราะว่าไม่สงบไม่ได้ เพราะว่าถ้าภาคประชาชนผลักดันรัฐบาล รัฐบาลถูกผลักดันมากก็จำเป็นต้องประกาศ ก็เพราะว่าคุณอภิสิทธิ์พูดตลอดเวลาว่ายังคงยึดหลักสันปันน้ำอยู่ เมื่อยังคงยึดหลักสันปันน้ำอยู่ ก็แสดงว่าพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ที่เขมรส่งคนเข้ามาอยู่นั้น เขมรรุกดินแดนไทย เขมรก็รู้ ฮุน เซน ก็รู้ ด้วยเหตุนี้เราถึงเรียกร้องให้กยกเลิก MOU 2543 กัมพูชาต้องการให้เหตุการณ์สงบ เพื่อที่จะได้บริหารจัดการพื้นที่ปราสาทเขาพระวิหารให้เป็นมรดกโลกต่อไป ส่วนไทยก็ต้องการสงบ เพราะนายกฯ ไม่ต้องการทำอะไรเพิ่มเติม อยากจะอยู่เฉยๆ อย่างนี้ ถึงแม้จะรับปากกับประชาชน ก็จะอยู่เฉยๆ อย่างนี้ ตามนิสัยของนายกฯ ของเรา เพราะฉะนั้นฉากนี้ก็เลยต้องโยนความผิดมาให้ภาคประชาชนเป็นผู้ร้าย และกลบเกลื่อนไม่ให้ประชาชนคนไทยสนใจปัญหาที่ยังคงอยู่เหมือนเดิม คือแผนที่ 1:200,000 ที่จัดทำโดยฝรั่งเศสเพียงอย่างเดียว ก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม การรุกล้ำดินแดนไทยก็ยังคงอยู่เหมือนเดิมทุกประการ และต้องการปรามไม่ให้อภิสิทธิ์คล้อยไปทางผมและภาคประชาชน เพราะกลัวว่าไทยจะผลักดันกัมพูชา จึงฉลาดแบบหมาจิ้งจอก ยกทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดว่าอภิสิทธิ์กับผมสมรู้ร่วมคิดแบ่งงานกันทำ เพราะนายฮุน เซน นั้นรู้จุดอ่อนของคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพราะคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นคนที่ถนอมตัว กลัวว่าคนเขาจะมาว่ามาคบกับพันธมิตรฯ เพราะฉะนั้นยิ่งจี้จุดว่ากำลังวางแผนร่วมกับพันธมิตรฯ ก็เป็นการทำลายความเป็นเอกภาพในประเทศ เพื่อกัมพูชาจะได้ใช้แผนที่ 1:200,000 ขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกและรุกล้ำและยึดครองดินแดนไทยต่อไป พี่น้องเห็นหรือยังครับ นี่คือนัยของแถลงการณ์

ก่อนที่ผมจะไปพูดถึงวิพากษ์เนื้อหาของแถลงการณ์ฮุน เซน ผมอยากจะเล่าให้นายฮุน เซน ฟังสักนิดหนึ่งนะครับ ศุกร์ที่แล้วผมเล่าถึงพระราชกรณียกิจ พระเมตตาที่องค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระองค์ทรงมีต่อพี่น้องประชาชนของคุณ คุณฮุน เซน ผมไม่ต้องเอามาซ้ำ แต่ผมจะเพิ่มเติมอะไรให้คุณดูสักนิดหนึ่ง คุณรู้ไหมว่า สมเด็จพระเทพรัตน์ฯ วันซึ่งเสด็จแม่ ก็คือสมเด็จพระนางเจ้าฯ บอกให้สมเด็จพระเทพฯ นั้นลงมาช่วยประชาชนชาวเขมร คือประชาชนของคุณนั่นล่ะคุณฮุน เซน ที่ไม่มีข้าวกิน ที่กำลังลำบาก มีโรคภัยไข้เจ็บ เด็กตัวเล็กๆ ผอม หัวโต เห็นแต่กระดูกเหมือนลูกนก ในพระราชบันทึกส่วนพระองค์ของสมเด็จพระเทพฯ พระองค์ท่านได้เขียนไว้อย่างนี้ "ข้าพเจ้าเอาหนังสือนั้นถวายสมเด็จแม่ทอดพระเนตร ขณะนั้นเป็นวันศุกร์ เราอยู่กันที่หัวหิน ท่านว่าจะรีบเสด็จฯ ไปทอดพระเนตรเพื่อพระราชทานความช่วยเหลือ" สมเด็จพระนางเจ้าฯ จะรีบเสด็จฯ ไป "พอดีวันเสาร์ข้าพเจ้า"คือสมเด็จพระเทพฯ"ติดงานที่กรุงเทพฯ เลื่อนงานไม่ทันแล้ว จึงตามเสด็จฯ ไม่ได้ ในวันเสาร์ขณะที่อยู่กรุงเทพฯ ข้าพเจ้าได้รับข่าววิทยุจากตราดว่า เหตุการณ์ที่นั่นร้ายแรงจริงๆ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะเสด็จพระราชดำเนินกลับหัวหิน แต่ทิ้งท่านผู้หญิงสุประภาดา กับคณะไว้จัดการให้เรียบร้อย และมีสิ่งที่ต้องการให้ข้าพเจ้าจัดการส่งไปโดยด่วน ได้แก่ เกลือไอโอดีน นมผง ข้าวสาร เสื้อผ้า พลาสติก เครื่องปั่นไฟ ข้าพเจ้าดำเนินการทันที วันรุ่งขึ้น คือวันอาทิตย์ เหตุการณ์ยังคงดำเนินต่อไปอย่างเคร่งเครียด การสั่งการทุกอย่างเป็นไปอย่างรวดเร็วมาก ข้าพเจ้าและผู้อื่นที่ร่วมมือกัน ต้องทำบันทึกพระราชเสาวนีย์ และดำเนินการอย่างเร่งด่วน เริ่มด้วยการทำธงกาชาดใหญ่"

ท่านผู้ชมครับ คุณฮุน เซน คุณรู้ไหมว่าสมเด็จฯ เป็นห่วงประชาชนชาวเขมรขนาดไหน พระองค์ท่านมีพระราชดำริว่า"ต้องมีธงกาชาดขนาดใหญ่ๆ ปักเอาไว้ในดินแดนที่เป็นผู้ลี้ภัยเข้ามา เพื่อป้องกันไม่ให้ฝ่ายที่ปฏิบัติการทางสงครามนั้นยิงปืนเข้ามาทางนี้ เพราะว่าธงกาชาดเป็นธงที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ว่าดินแดนนี้เป็นกลาง ไม่เข้าข้างใคร พระองค์ท่าน สมเด็จแม่รับสั่งว่า ต้องให้เห็นแต่ไกลว่าเขตของกาชาดอยู่ตรงนี้จะได้ปลอดภัยขึ้น วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ ติดต่อใครก็ยาก จะส่งขอให้ทันทีก็ต้องรีบหา อย่างเช่นธง ข้าพเจ้าให้คนไปซื้อผ้าขาว ผ้าแดงในตลาด ไม่รู้จะให้ใครเย็บ จึงต้องถีบจักรยานไปหาครูโรงเรียนไกลกังวลที่คุ้นเคยกัน บ้านเขาอยู่หน้าวัง เขารับตัดเสื้อ และข้าพเจ้าเป็นลูกมือสอยให้เขาด้วย ติดต่อใครในกรุงเทพฯ ก็หากันยากเพราะเป็นวันหยุด ก็ได้แต่คุณหมอเกษตร เลขาธิการสภากาชาด คนเดียว"

คุณฮุน เซน คุณเห็นหรือยัง ท่านผู้ชม สมเด็จพระเทพฯ ทำตามพระราชดำริขององค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ หาผ้ามาทำธงกาชาด ลงมือเย็บด้วยตัวพระองค์เอง เพื่อไปช่วยคนเขมร คุณฮุน เซน เพื่อไปช่วยคนของพวกคุณ นะครับ เพราะฉะนั้นแล้ว พระเมตตาขนาดไหน แล้วผมจะบอกให้ เดิมทีสมเด็จพระนางเจ้าฯ นั้น ถูกทหารและตำรวจจัดฉาก คือทหารและตำรวจเป็นห่วง ไม่อยากให้พระองค์ท่านนั้นบินไปที่ๆ เขมรอยู่ตรงริมทะเล ซึ่งมีทั้งกลิ่นอุจจาระ กลิ่นปัสสาวะ ทุกสิ่งทุกอย่าง เหม็นคลุ้งไปหมด เขาก็เลยเอาประชาชนที่ยังพอเดินได้มารอรับเสด็จ พอพระองค์ท่านลงมาถึง พระองค์ท่านก็บอก เอ้า ไม่ได้เป็นอย่างที่รายงานมานี่ พาฉันไปที่ๆ เขาลำบากจริงๆ เขาก็เลยต้องเอาเฮลิคอปเตอร์พาพระองค์ท่านลงไป พระองค์ท่านถึงต้องเดินลงไปท่ามกลางสิ่งปฏิกูลทั้งหลาย พระองค์ท่านไม่ได้แสดงความรังเกียจใจเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะฉะนั้นแล้ว พระองค์ท่านมีคำพูดออกมาคำหนึ่งเกี่ยวกับเด็กของเขมร คุณฮุน เซน ฟังเอาไว้

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับสั่งว่า ผอมหนังหุ้มกระดูกเหมือนอย่างกับลูกนก ผอมเหมือนลูกนก สมเด็จพระนางเจ้าฯ ยังสอนให้คนชงนมให้ข้าราชบริพารดูเป็นตัวอย่าง รับสั่งว่า คนที่ขาดอาหารถ้าชงนมให้กินเหมือนกับคนปกติทั่วไป ท้องจะเสีย หรือเป็นอันตรายกับชีวิตได้ ต้องให้ชงนมชนิดที่เจือจางที่สุด ป้อนทีละน้อยให้สภาพร่างกายเขาเคยชินก่อนแล้วจึงค่อยๆ เพิ่มนมให้เข้มข้นขึ้นจนกระทั่งเหมือนกับคนปกติภายหลัง" คุณฮุน เซน คุณเห็นหรือยัง พระองค์ท่านยังมีพระราชดำรัสอีก บอกว่า "ด้วยมนุษยธรรมนั้นเราต้องช่วย เมืองไทยเราเองเป็นเมืองพุทธศาสนา" พระเมตตาพระองค์ท่านนั้นยิ่งใหญ่เหลือจะพรรณนาได้เหลือเกิน เพราะยังส่งสิ่งของช่วยเหลือชาวเขมรไปอีกไม่ได้ขาด

คุณฮุน เซนครับ มันยังมีอีกเยอะที่แสดงให้เห็นว่า พระบรมวงศานุวงศ์ สถาบันกษัตริย์ของเรานั้น ตลอดจนคนไทยนั้นมีจิตใจที่เอื้ออาทรต่อพวกคุณ ในยามซึ่งพวกคุณบ้านแตกสาแหรกขาด ที่หลบฝนที่หลบแดดก็ไม่มี อาหารการกินก็ไม่มี เด็กไม่ได้ทานอาหารมามาก ผอมอย่างกับลูกนก คุณฮุน เซน คุณลองให้ลูกน้องคุณแปลตรงนี้เป็นไทยนะ ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ ซึ่งเป็นรองราชเลขาธิการขององค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ให้สัมภาษณ์ว่ายังไงรู้ไหม ให้สัมภาษณ์เรื่องสะเทือนใจ "ครอบครัวเขมรบ้านแตกสาแหรกขาด โชคดีที่ได้มาเจอกันในไทย ท่านเล่าให้ฟังว่า ท่านได้ประสบเหตุครั้งหนึ่งซึ่งท่านไม่เคยลืมเลือนเลย แล้วเป็นเหตุการณ์ที่ซาบซึ้งตรึงใจมากเหลือเกิน วันหนึ่ง มีแม่ลูกอ่อนอุ้มลูกมาเพื่อมาป้อนนมในแคมป์ ในแคมป์ผู้ลี้ภัยก็จะมีนมชงให้ เด็กคนไหนที่มีแม่ เราให้อุ้มลูกเข้ามาแล้วเอานมของแคมป์ป้อน พอแม่ลูกอ่อนอุ้มลูกเข้ามาในพื้นที่ที่เราเลี้ยงเด็กกำพร้าที่โตหน่อย เขาก็ร้องว่า นั่นลูกของเขา ลูกของเขาเป็นลูกคนโต แม่เห็นลูกลูกเห็นแม่ก็ร้องไห้วิ่งเข้ามากอดกัน ก็คือมีเด็กโตคนหนึ่งที่อยู่ในแคมป์อยู่แล้ว เห็นแม่อุ้มน้องเข้ามาก็บอก แม่ แม่ แม่ แม่เห็นก็บอก ลูกของเรา ลูกของเรา ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์เลยจับทั้งแม่ทั้งลูกมานั่งไล่เรียงว่าเป็นอย่างไรบ้าง ได้ความอย่างไร"

ท่านผู้ชมครับ คุณฮุน เซน คุณฟังให้ดี ถ้าจิตใจคุณยังเป็นมนุษย์ ยังรู้จักคำว่า กตัญญูรู้คุณคน คุณฟังให้ดีๆ เขาก็เล่าให้ฟังบอกว่า ตอนที่เขาเดินทางมาถึงเมืองไทยนั้นอาหารมีน้อย มีจำกัด น้ำท่ามีน้อย ลูกมี 2 คน มีคนโต คนเล็ก คนเล็กเพิ่งคลอดเลยต้องอุ้ม คนโตพอเดินได้ เขาบอกว่า ทั้งอาหารและน้ำที่มีอยู่เลี้ยงลูกได้เพียงคนเดียว เขาจึงต้องตัดใจว่าจะทิ้งคนโต หรือคนเล็กดี แม่ต้องตัดใจทิ้งลูก เพราะอาหารมีเลี้ยงได้คนเดียว คิดอยู่นานจะทิ้งคนไหนดี ตอนแรกคิดว่าคนโตมีความรู้สึก มีชีวิตจิตใจ แล้วทิ้งไปจะเป็นอย่างไร ส่วนคนเล็กมีความรู้สึกว่า ถ้าทิ้งไปเด็กยังเล็กมาก ไร้เดียงสา ยังช่วยตัวเองไม่ได้ ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ทิ้งคนเล็กจะดีไหม ทิ้งคนเล็กก็ต้องอดตาย ถ้าทิ้งคนโตก็อาจไม่อดตาย คิดไปคิดมา คิดไปก็ร้องไห้ไป เพราะจำเป็นต้องตัดใจทิ้งลูก ในที่สุดบอกว่า ถ้าทิ้งคนเล็ก คนเล็กตายแน่ เพราะฉะนั้น เลยตัดสินใจเลือกลูกคนเล็กไว้ ส่วนคนโตปล่อยตามยถากรรม ถ้ามีบุญดีก็รอด ถ้ามีกรรมก็ตาย ในที่สุด ก็มีบุญ เพราะเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร แม่และลูกมาได้เจอกันในแคมป์ ระหว่างลูกคนโตหลับ ก็แอบอุ้มลูกคนเล็กแล้วเดินหนีมา เมื่อผ่านแดนออกมา เขาก็เสียอกเสียใจร้องไห้จนถึงทุกวันนี้ เพราะคิดลูกคนโตที่ทิ้งไว้ เมื่อได้กลับมาเจอกันที่แคมป์แห่งนี้อีก ก็เป็นอะไรที่เหมือนได้เกิดใหม่ ซาบซึ้งตรึงใจเหลือเกิน

คุณฮุน เซน ครับ ลำพังแค่บุญคุณแค่นี้ ที่ประเทศไทยทำให้คุณ ถ้าคุณคิดไม่ออก คิดไม่เป็น คุณก็ไม่ใช่มนุษย์ คุณไม่ต้องมาว่าผมไม่ใช่มนุษย์หรอก ผมกตัญญูรู้คุณคน แต่เผอิญชีวิตนี้ผมไม่เคยพึ่งเขมร คนไทยไม่เคยพึ่งกัมพูชา นอกจากคนชั่วที่หนีจากแผ่นดินไทยไปพึ่งคุณ และคุณก็พร้อมรับคนชั่วๆ ของคนไทยเข้าไปสั่งสม เพราะดินแดนของคุณมีแต่ความชั่วๆ ทั้งนั้น คุณจาบจ้วง คุณโกรธใช่ไหมที่ผมพูดเรื่องว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราชนั้น ตัดคอพญาละแวกเอาเลือดล้างเท้า คุณเลยพูดบอกว่า สมัยรัฐบาลของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชนั้น คุณอ้างว่า สมเด็จพระนเรศวรได้ร้องขอความช่วยเหลือจากกษัตริย์กัมพูชาระหว่างที่สยามมีราชการสงครามกับพม่า หลังจากสยามเติบโตเข้มแข็งขึ้น สยามลืมว่าใครเป็นผู้มีบุญคุณ และประพฤติตัวคล้ายจระเข้ในนิทานพื้นบ้านกัมพูชา เหมือนนิทานชาวนากับงูเห่า ซึ่งถูกไฟเผาไหม้เกือบถึงแก่ความตาย และได้กราบกรานขอร้องชาวนาช่วยชีวิตและส่งไปยังบึงน้ำ ในการสนองคุณชาวนา จระเข้ยืนยันจะกินชาวนา โดยอ้างเหตผลว่า มัดมันแน่นเกินไประหว่างหามมันไปส่งที่บึง นี่เป็นวิถีซึ่งสยามประพฤติ วิถีซึ่งสยามยึดดินแดนของกัมพูชา เช่น จ.สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี

คุณฮุน เซน นั่นคือประวัติศาสตร์ด้านคุณ แต่ประวัติศาสตร์ด้านไทยซึ่งมีการบันทึกลงในพงศาวดารมากกว่าของคุณ ซึ่งมาจากปากต่อปาก

คุณจำได้หรือเปล่า พ.ศ.2113 440 ปีที่แล้ว สมัยรัชกาลสมเด็จพระมหาธรรมราชา พระยาละแวก เจ้าเมืองเขมร ยกกองทัพมาที่อยุธยา มาสู้กับกองทัพอยุธยา สู้ไม่ได้ แพ้ หนีไป อีก 5 ปีต่อมา 2118 พระยาละแวกยกทัพเรือมาที่อยุธยาอีก สู้อยุธยาไม่ได้อีก ยกกองทัพกลับไป แล้วคุณรู้หรือเปล่า ที่คุณยกพระยาละแวก ต้นตระกูลของคุณ ยกทัพมา ยกมาทำไม ยกมาปล้นสะดม คุณฮุน เซน พระยาละแวกคุณน่ะคือโจร มาปล้นคนไทย 2121 สามปีให้หลัง พระยาละแวกตีเมืองเพชรบุรีไม่ได้ ยกกองทัพกลับไป เพราะอยุธยาช่วยไว้ได้ 3 ปีหลังจากนั้น 2124 อยุธยาติดพันรบกับกบฏ พระยาละแวกก็เลยชิงยกกองทัพเรือมา ยกทหารมาประมาณ 70,000 คน มายึด จ.เพชรบุรี แต่หลังจากสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ขึ้นครองราชย์

2136 อีก 12 ปีให้หลัง สมเด็จพระนเรศวรฯ พิจารณานิสัย สันดานของต้นตระกูลคุณแล้ว เจ็บช้ำพระทัย จึงยกกองทัพไปตีเขมร จับครอบครัวเอาไว้แล้วมาไว้ที่อยุธยา มีบันทึกว่าตัดคอล้างพระบาท เพราะชอบฉกฉวยโอกาสขณะที่อยุธยาตีติดทัพที่อื่น แต่พระองค์ท่านยังมีพระเมตตา ให้โอกาสลูกชายคนโตของพระยาละแวก กลับไปปกครองเขมรต่อ แล้วให้ระบุว่า จะต้องไม่เป็นกบฏต่ออยุธยา และต้องเป็นเมืองขึ้นของสยามต่อไป เมื่อลูกชายพระยาละแวกยอมที่จะเป็นเมืองขึ้นของสยาม เขมรเป็นเมืองขึ้นของสยาม คุณฮุน เซน เพราะฉะนั้นเมื่อสยามรบกับใคร สยามก็สามารถจะสั่งให้เขมรยกกองทัพเข้าไปร่วมได้ เพราะว่าคุณเป็นเมืองขึ้นของสยาม ถ้าคุณไม่เข้าใจประวัติศาสตร์ตรงนี้ คุณเข้าใจเสียใหม่นะครับ คุณไปอ่านประวัติศาสตร์พงศาวดารของคนสเปนที่ไม่เคยรู้เบื้องหน้าเบื้องหลัง ว่าทำไมลูกชายพระยาละแวกถึงต้องยกทัพไปตามที่อยุธยาต้องการ ที่ต้องยกทัพไปตามที่อยุธยาต้องการก็เพราะว่าเป็นเมืองขึ้นของเขา เป็นเมืองขึ้นของคนไทย แล้วสันดานเดิมก็ไม่เปลี่ยน พอสมเด็จพระนเรศวรฯ สิ้นพระชนม์ ลูกชายพระยาละแวกก็ประกาศอิสรภาพ และเป็นกบฏ ไม่ขึ้นกับอยุธยา แล้วกลับมาตีอยุธยาอีก คุณเข้าใจผิด คุณไปอ่านใหม่ได้นะครับ

พี่น้องครับ นายฮุน เซน ด่าผมหลายประการ ประการที่สำคัญก็คือเรื่องราวของการที่บอกว่าผม ข้อที่ 1 เขาบอกว่า ตัวเขา สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน เป็นที่น่ายกย่อง เป็นที่รักอย่างสุดซึ้ง และเป็นที่เคารพของประชาชนกัมพูชา ขึ้นสู่อำนาจในฐานะผู้นำรัฐบาล ผ่านการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม โดยการลงคะแนนเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ และโดยการลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ของสมาชิกพรรคประชาชนกัมพูชา ท่านผู้ชมครับ และคุณฮุน เซน ครับ เรามาย้อนประวัติศาสตร์กลับไปนิดหนึ่ง ประมาณ 2540 ตอนนั้นมีการเลือกตั้ง ท่านผู้ชมทราบใช่ไหม คุณฮุน เซน คุณก็ทราบใช่ไหม พรรคฟุนซินเป็ก ของเจ้านโรดมรณฤทธิ์ เลือกตั้งได้ 52 เสียง พรรคของคุณคือพรรคประชาชนกัมพูชา เลือกตั้งได้ 49 หรือ 51 เสียง น้อยกว่าพรรคฟุนซินเป็ก ถ้าคุณยึดถือหลักประชาธิปไตย คุณต้องให้เจ้านโรดมรณฤทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ปรากฏไม่ใช่ คุณเอาทหาร คุณเอาตำรวจ ซึ่งอยู่ในมือคุณ ยึดอำนาจเลย ก่อกวน ขว้างระเบิด แล้วบังคับให้สหประชาชาติและโลกตะวันตก บีบไปว่าต้องมีนายกรัฐมนตรี 2 คน คนที่ 1 คือเจ้ารณฤทธิ์ คนที่ 2 คือคุณ แล้วหลังจากนั้นคุณก็ใช้วิชามารของคุณ ซื้อตัวคนของเจ้ารณฤทธิ์ ซื้อตัวทหาร และคุณก็ยึดอำนาจ สร้างเหตุการณ์บอกว่าเจ้ารณฤทธิ์นั้นจะปฏิวัติคุณ แล้วคุณก็ยึดอำนาจมาตลอด จนกระทั่งมาจนถึงวันนี้

คุณฮุน เซน ประวัติศาสตร์ตรงนี้ มันจะไปตรงกับที่คุณบอกว่า เป็นที่น่ายกย่องและเป็นที่รักอย่างสุดซึ้ง และเป็นที่เคารพของประชาชนกัมพูชา ก็เข้าใจได้ว่า เป็นที่รักอย่างสุดซึ้งของเครือญาติคุณ เพราะทุกวันนี้คนที่มีอำนาจ ร่ำรวย โกงกิน ก็คือเครือญาติคุณ เป็นที่เคารพของประชาชนกัมพูชา ก็คือคนใกล้ชิดคุณนั่นเอง ที่ได้ผลประโยชน์จากคุณ ขึ้นมาสู่อำนาจในฐานะผู้นำรัฐบาล ผ่านการเลือกตั้งโดยบริสุทธิ์ยุติธรรม จริงๆ นะ คุณฮุน เซน คุณนี่นิสัยคล้ายๆ ทักษิณ ชินวัตร ผมยังสงสัยอยู่ว่าทักษิณ ชินวัตร ต้องเลียนแบบวิธีการของคุณอย่างแน่นอน เพราะการที่คุณมีพรรคการเมืองของคุณตอนนั้น แล้วคุณค่อยๆ ซื้อคนของเจ้ารณฤทธิ์ออกมาทีละแก๊งๆ มันเหมือนกับคุณทักษิณ ซื้อพรรคการเมืองของ พล.อ.ชวลิต แล้วมารวมกัน เอามารวมกันๆ เพราะฉะนั้นแล้ว คุณเป็นประเทศเดียวที่ไล่ฆ่าฝ่ายค้านเป็นจำนวนมาก ใช้อิทธิพลทหารข่มขู่ ทุจริตการเลือกตั้ง จริงๆ แล้วคุณคือนักเผด็จการที่โหดเหี้ยมอำมหิต ถ้าจะเรียกคุณเหมือนที่คุณด่าผม คุณคือ ฆาตกรทรราชย์หุ่นเชิดเวียดนามขายชาติเขมร

วันนี้คุณไม่เห็นพูดเลยคุณฮุน เซน นายสม รังสี เขาประท้วงคุณ ว่าคุณสมรู้ร่วมคิดกับเวียดนามในการเวียดนามนั้นมาปักเขตแดนตรง จ.สวายเรียง ทางตะวันออกติดกับเวียดนาม ปักเข้ามากินพื้นที่ของคนเขมร ชาวนาเขมรซึ่งทำนามาตั้งแต่สมัยทวด สมัยปู่ สมัยพ่อแม่เขา จู่ๆ หายไป 12 ไร่ คนนั้นหายไป 20 ไร่ คนนี้หายไป 50 ไร่ เรื่องนี้คุณไม่เคยพูดเลยฮุน เซน ทำไมคุณไม่พูดล่ะ เวลาเวียดนามมารุกที่คุณคุณไม่พูด เพราะทำไม เพราะเวียดนามคือเจ้านายคุณใช่ไหมคุณถึงไม่พูด

คุณนี่โชคดี คุณมาเจอนายกรัฐมนตรีที่ถนอมตัวเอง อย่างเช่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แล้วคุณโชคดีที่มาเจออดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งสมรู้ร่วมคิดกับคุณ และคุณโชคดีที่มาเจอสมัคร สุนทรเวช ซึ่งเป็นลูกไล่ ลูกน้องของทักษิณ ชินวัตร และคุณนี่ก็โชคดีที่มาเจอ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่เป็นน้องเมีย ที่แต่งงานกับน้องสาวของทักษิณ ชินวัตร แล้วในที่สุดคุณก็โชคดีอีกที่เจอ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งเอาแต่ประท้วงคุณ ประท้วงคุณ ประท้วงคุณ คุณนี่โชคดีจริงๆ คนอย่างคุณต้องเจอนายกรัฐมนตรีที่มีความกล้าหาญและพร้อมที่จะบอกคุณ บอกว่าตัวปราสาทเป็นของคุณ พื้นที่รอบปราสาทเป็นของไทย ให้เวลาไม่เกิน 7 วันขนคนออกไป ไม่อย่างนั้นแล้วจะรุกกระชับพื้นที่ขอพื้นที่คืน คุณนี่โชคดี

ข้อที่ 2. คุณอ้างบอก คุณเป็นรัฐบุรุษได้รับการยอมรับจากนานาชาติ เป็นผู้รักในสันติภาพและสร้างสันติภาพ โอ๊ย คุณโม้แหลกรานเลย คุณใช้วิธียกย่องตัวเอง บีบตัวเองแต่งตั้งให้คุณเป็นสมเด็จ คุณผูกขาดอำนาจรัฐ คุณฮุน เซน คุณไม่ได้เล่าให้ ในแถลงการณ์คุณไม่ได้เล่าให้ประชาชนไทยฟังเลยว่า ธนาคารโลกเขายกเลิกโครงการคุณ ระงับโครงการคุณ 13 โครงการ เพราะธนาคารโลกเขาบอกว่า คุณคอร์รัปชั่น แล้วเงินทองที่คุณคอร์รัปชั่นธนาคารโลกขอคืน และคุณรู้ไหมว่า คุณ พูดยังไงกับธนาคารโลก พี่น้องที่ฟังรายการนี้ นายฮุน เซน พูดยังไงกับธนาคารโลก พี่น้องฟัง

เขาบอกว่า กล่าวเมื่อวันพุธที่ 22 มิถุนายน 2549 4 ปีที่แล้ว เขาพูดว่า เป็นการตอบโต้เรียกร้องให้ธนาคารโลก คือเขาบอกว่า ถ้าเขาจะทำตามธนาคารโลกนั้น คืนเงินให้ ต้องให้ธนาคารโลกเปิดเผยตัวผู้ที่ให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการทุจริต ก่อนที่รัฐบาลจะสามารถดำเนินการอะไรกับเจ้าหน้าที่ทุจริต และคืนเงินช่วยเหลือจากธนาคารโลก ใครเขาจะเปิดเผยคุณได้ คุณจะได้จับเขาไปฆ่า ตามนิสัยเดิมๆ คุณ

สมเด็จฮุน เซน ข้อที่ 3 เป็นนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เป็นพุทธศาสนิกชนผู้ยึดหลักไม่นิยมความรุนแรง เป็นผู้นำการจัดเทศกาลประเพณีทางศาสนา ให้ความใส่ใจต่อนักบวชสูงอายุทั่วประเทศ และไอ้วันเกลียดชังประเทศไทย เทศกาลเพี้ยนๆ ของคุณ ที่ตัวเองเป็นคนสนับสนุนให้เอ็นจีโอของประเทศคุณจัดขึ้น แปลว่าอะไร คุณเคยไล่ฆ่านักการเมืองฝ่ายค้าน และคุณก็รู้ใช่ไหมว่าประเทศคุณคอร์รัปชั่นแหลกลาน ประเทศคุณคือดินแดนของยาเสพติด นักธุรกิจของคุณ ฟอกเงินด้วยการสร้างโรงแรมด้วยเงินสด เงินสดมาจากไหนถ้าไม่ใช่ค้ายาเสพติด คุณมีบ่อนการพนันซึ่งคุณให้ทุนจากประเทศไทย พวกนายทุนชั่วๆ ไปเปิดตามชายแดนเบ็ดเสร็จรวมแล้วประมาณ 30 เจ้า

คุณกล้าพูดเหรอว่า คุณไม่ได้ค่าต๋งจากค่าบ่อน เดือนหนึ่งคุณต้องมี 20-30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปีหนึ่ง 300 กว่าล้าน กี่ปีมาแล้วที่คุณสะสมเงิน ผมจะบอกให้คุณ เผลอๆ คุณเงินไม่ได้น้อยกว่านายทักษิณ ชินวัตร นี่ทำให้คุณหลงตัว คุณหลงตัวเอง คุณมีอัตตาสูง คุณนึกว่าคุณเป็นเจ้าของกัมพูชา คุณไม่ได้ทำเพื่อส่วนรวม ถ้าคุณมีจิตรับใช้สาธารณะ คนกัมพูชา คุณต้องทำเพื่อส่วนรวม ถ้าคุณทำเพื่อส่วนรวม การกระทำเพื่อส่วนรวมคุณจะสะท้อนออกมาในรูปแบบจริยธรรม และคุณธรรม ซึ่งจะสะท้อนออกมาในการติดต่อกับต่างชาติ รวมทั้งประเทศไทยด้วย คนอย่างคุณถ้ามีคุณธรรม คุณจะไม่เที่ยวไปด่า คุณรู้หรือเปล่าว่าคุณด่าประเทศไทยยังไงบ้าง คุณด่าประเทศไทยเละเทะ คุณจำไม่ได้เหรอ เพียงปีกว่าๆ คุณเพิ่งด่า คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อย่างเสียผู้เสียคน เวลาเสื้อแดงเอาอึไปขว้างคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คุณก็ด่าว่า อึมีราคา คุณด่าคุณอภิสิทธิ์หน้าด้าน คุณหน้าด้านมาแย่งอำนาจเขาไป คือสรุปง่ายๆ คุณนี่มาเสือกเรื่องภายในของประเทศไทย คุณเข้ามาก้าวก่ายเรื่องภายในของประเทศไทยทุกเรื่อง เพราะว่าคุณสมรู้ร่วมคิดกับทักษิณ ชินวัตร แล้ววันนี้คุณเริ่มเห็นว่า ทักษิณ ชินวัตรกำลังจะแพ้ คุณเริ่มเห็นว่าภาคประชาชนคนไทย ซึ่งไม่ใช่ภาคประชาชนของคุณที่คุณปั่นหัวได้ มากดดันนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทำให้ประเด็นของ MOU 2543 นั้นร้อนแรงขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อร้อนแรงขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งแล้ว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เริ่มแสดงอาการให้คุณเห็นว่า อาจจะต้องถูกกดดันให้ตัดสินใจทำอย่างใดอย่างหนึ่ง คุณถึงมาเล่นวิชามารอย่างนี้ ออกแถลงการณ์ปลดนายทักษิณจากที่ปรึกษา สวนทางส่งทูตไปมา คุณอาจจะยกหูคุยกัน รีบส่งทูตมาแล้วกันนะแล้วเดี๋ยวผมจะด่านายสนธิ เพื่อที่จะแยกภาคประชาชนออก ให้รู้ว่า คนซึ่งสร้างความร้าวฉานระหว่างไทย-กัมพูชา คือ นายสนธิและภาคประชาชน อ๋อมันต้องถูกใจคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และลูกน้องเขาบางคนแน่นอน เพราะรัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลชุดที่ไม่อยากจะทำอะไรทั้งสิ้นในเรื่องนี้ เพราะทำไปตัวเองก็เสียหน้า ไม่ทำก็ถูกกดดัน เพราะฉะนั้นเลยยืมมือเขมรมา

ท่านผู้ชมครับ วันนี้ช่วงแรกก็คือช่วงของการ อย่าเรียกว่าผมตอบโต้นายฮุน เซนเลย ผมเอานายฮุน เซนให้รับทราบข้อมูลข้อเท็จจริง ถ้าคุณถูกประชาชนรักมาก คุณเมตตาประชาชนคุณ คุณช่วยมาเอาขอทานที่มาจากกัมพูชากลับไปอยู่บ้านคุณทั้งหมดได้ไหม ส่งเครื่องบินมาซิ เรียกกลับไปเลย บอกว่า พนมเปญบ้านเราดีกว่า กัมพูชาบ้านเราดีกว่า กลับไปเดี๋ยวจะให้เงินใช้ อย่ามาขอทานเลยเสียชื่อคนกัมพูชา อ้าวก็คุณมีเมตตาสูงนี่ ประชาชนรักคุณ คุณสำนึกในหลักพุทธศาสนา ไปเลย อย่ามาทิ้งคนพวกนี้ไว้ที่นี่ เอาไปดูแลพวกเขาซะ

พี่น้องครับเดี๋ยวพักกันสักครู่นะครับ เดี๋ยวกลับมาช่วงที่ 2 ของรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ นะครับ








กำลังโหลดความคิดเห็น