แรงงานต่างด้าวกว่า 200 คน ร้องรัฐขยายเวลาการพิสูจน์สัญชาติ จากเดิมกำหนดไว้ 28 ก.พ. 53 หลังพบแรงงานพม่าถูกหักค่าหัวคิวจำนวนเงินที่สูง จนไม่สามารถเดินทางกลับมาในไทยได้อีก ซ้ำยังไม่ได้รับความปลอดภัย ด้วยสาเหตุทางการเมือง พร้อมเผยแรงงานต่างด้าวในไทยส่วนใหญ่อยู่ กทม. รองลงมา จ.สมุทรสาคร
วันนี้ (20 ธ.ค.) นางสาววิไลวรรณ แซ่เตีย ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย นำขบวนผู้ใช้แรงงานชางต่างชาติ อาทิ พม่า ลาว กัมพูชา กว่า 200 คน เดินขบวนเนื่องในวันแรงงานข้ามชาติสากล 18 ธันวาคม เริ่มเดินตั้งแต่บริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร ถึงคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ทั้งนี้ ยังออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลดูแลแรงงานให้รับสิทธิ์อย่างเป็นธรรม พร้อมขยายระยะเวลาการพิสูจน์สัญชาติของแรงงานข้ามชาติ ซึ่งเดิมกำหนดให้แล้วเสร็จในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2553 ว่า เนื่องจากการที่จะให้แรงงานต่างชาติไปทำการพิสูจน์สัญชาติ พบว่าจะทำให้ถูกหักค่าคิวและถูกเรียกเก็บเงินเป็นจำนวนมาก เช่น แรงงานชาวพม่าที่พบว่าส่วนใหญ่เป็นชนกลุ่มน้อยไม่ได้รับสัญชาติเมื่อกลับไปพม่าอาจไม่ได้รับความปลอดภัย ด้วยสาเหตุทางการเมือง และยังถูกเก็บเงินจำนวนมากจนไม่สามารถเดินทางกลับมาในไทยได้อีก ทำให้ไทยขาดแรงงานซึ่งส่วนใหญ่มักจะทำในอาชีพที่มีความเสี่ยงต่อชีวิตและไม่ปลอดภัยต่อสุขภาวะ เช่น อาชีพประมง ก่อสร้าง รวมถึงภาคการเกษตร
นางสาววิไลวรรณ กล่าวอีกว่า จากข้อมูลที่ได้รับพบว่าค่าใช้จ่ายพิสูจน์สัญชาติด้วยการทำวีซ่าปกติอยู่ที่ประมาณ 2,000 บาท แต่เมื่อผ่านขั้นตอนจากนายหน้าที่จะคอยอำนวยความสะดวกทำให้มีค่าใช้จ่ายที่จะต้องเสียเพิ่มสูงถึง 10,000 บาท จึงขอให้รัฐบาลดูแลในเรื่องนี้ด้วยการให้มีการพิสูจน์สัญชาติเพิ่มในประเทศไทย และจากข้อมูลของกระทรวงมหาดไทย ของสำนักงานบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง สำรวจแรงงานข้ามชาติและผู้ติดตามทั้ง พม่า ลาว และกัมพูชา เมื่อ 24 มีนาคม 2552 มีแรงงานในประเทศไทยทั้งหมด 1,656,144 โดยอยู่ที่ กรุงเทพฯ มากที่สุด รองลงมาคือ จังหวัดสมุทรสาคร
ชาย-หญิงแรงงาน 3 คนนี้ กำลังจับเข็มนาฬิกาแห่งโอกาสใหม่ ให้มาอยู่ตรงฝั่งสีเขียว ดังที่พวกเขาตั้งใจอยากให้เกิดขึ้น เพราะหมายถึงชีวิตของแรงงานข้ามชาติที่ต้องการโอกาสความมั่นคง ปลอดภัย การอยู่อย่างไม่ถูกเอาเปรียบ และเป็นธรรม
วันนี้ (20 ธ.ค.) นางสาววิไลวรรณ แซ่เตีย ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย นำขบวนผู้ใช้แรงงานชางต่างชาติ อาทิ พม่า ลาว กัมพูชา กว่า 200 คน เดินขบวนเนื่องในวันแรงงานข้ามชาติสากล 18 ธันวาคม เริ่มเดินตั้งแต่บริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร ถึงคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ทั้งนี้ ยังออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลดูแลแรงงานให้รับสิทธิ์อย่างเป็นธรรม พร้อมขยายระยะเวลาการพิสูจน์สัญชาติของแรงงานข้ามชาติ ซึ่งเดิมกำหนดให้แล้วเสร็จในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2553 ว่า เนื่องจากการที่จะให้แรงงานต่างชาติไปทำการพิสูจน์สัญชาติ พบว่าจะทำให้ถูกหักค่าคิวและถูกเรียกเก็บเงินเป็นจำนวนมาก เช่น แรงงานชาวพม่าที่พบว่าส่วนใหญ่เป็นชนกลุ่มน้อยไม่ได้รับสัญชาติเมื่อกลับไปพม่าอาจไม่ได้รับความปลอดภัย ด้วยสาเหตุทางการเมือง และยังถูกเก็บเงินจำนวนมากจนไม่สามารถเดินทางกลับมาในไทยได้อีก ทำให้ไทยขาดแรงงานซึ่งส่วนใหญ่มักจะทำในอาชีพที่มีความเสี่ยงต่อชีวิตและไม่ปลอดภัยต่อสุขภาวะ เช่น อาชีพประมง ก่อสร้าง รวมถึงภาคการเกษตร
นางสาววิไลวรรณ กล่าวอีกว่า จากข้อมูลที่ได้รับพบว่าค่าใช้จ่ายพิสูจน์สัญชาติด้วยการทำวีซ่าปกติอยู่ที่ประมาณ 2,000 บาท แต่เมื่อผ่านขั้นตอนจากนายหน้าที่จะคอยอำนวยความสะดวกทำให้มีค่าใช้จ่ายที่จะต้องเสียเพิ่มสูงถึง 10,000 บาท จึงขอให้รัฐบาลดูแลในเรื่องนี้ด้วยการให้มีการพิสูจน์สัญชาติเพิ่มในประเทศไทย และจากข้อมูลของกระทรวงมหาดไทย ของสำนักงานบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง สำรวจแรงงานข้ามชาติและผู้ติดตามทั้ง พม่า ลาว และกัมพูชา เมื่อ 24 มีนาคม 2552 มีแรงงานในประเทศไทยทั้งหมด 1,656,144 โดยอยู่ที่ กรุงเทพฯ มากที่สุด รองลงมาคือ จังหวัดสมุทรสาคร
ชาย-หญิงแรงงาน 3 คนนี้ กำลังจับเข็มนาฬิกาแห่งโอกาสใหม่ ให้มาอยู่ตรงฝั่งสีเขียว ดังที่พวกเขาตั้งใจอยากให้เกิดขึ้น เพราะหมายถึงชีวิตของแรงงานข้ามชาติที่ต้องการโอกาสความมั่นคง ปลอดภัย การอยู่อย่างไม่ถูกเอาเปรียบ และเป็นธรรม
