“เบตเตอร์”อ้างหลักฐานชัดเหตุให้ศาลยกคำร้องปิดบ่อขยะชั่วคราว ลั่นจ่อฟ้องกลับกลุ่มผู้ร้อง อ้างทำชื่อเสียงเสียหายส่งผลกระทบต่อธุรกิจซึ่งอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ย้ำบริษัทไม่เคยสร้างมลพิษให้พื้นที่
นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลปกครองกลางพิจารณายกคำร้องคุ้มครองชั่วคราว คดีที่กลุ่มผู้ฟ้องร้องรวม 6 คน ต้องการให้ปิดบ่อขยะจนกว่าจะมีคำพิพากษา โดยอ้างว่าบริษัทประกอบกิจการอันก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ ว่า บริษัทได้มีหลักฐานและเอกสารแสดงต่อศาลในทุกๆ ด้าน ทั้งขั้นตอนการปฏิบัติงาน และการกำกับดูแลและป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตามที่ได้ระบุไว้ใน EIA นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานยืนยันถึงผลการตรวจวิเคราะห์ของทางราชการหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ ที่ยืนยันว่ายังไม่สามารถสรุปได้ว่า สภาวะเจ็บป่วยของประชาชนมีสาเหตุมาจากการได้รับกลิ่นไอระเหยของสารเคมีจากบริษัท แต่เกิดจากพยาธิสภาพของผู้ป่วยเอง ขณะที่ด้านการตรวจสอบสภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษก็มีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแต่อย่างใด และยังไม่พบสาร VOCs ตามที่ผู้ฟ้องคดีกล่าวอ้าง รวมทั้งเรื่องของสภาพดิน ตะกอนดิน และน้ำผิวดิน ที่ศาลปกครองกลางได้เคยมีคำวินิจฉัยยกฟ้องแล้วว่า ยังขาดความเชื่อมโยง และการวิเคราะห์หาสาเหตุของการแพร่กระจายที่จะบอกได้ว่าเกิดจากการประกอบการของบริษัท
ส่วนกรณีการตั้งคำถามว่า เหตุใดผลของคดีจึงออกมาไม่เหมือนกับคดีของอุตสาหกรรมมาบตาพุดนั้น นายสุวัฒน์ ชี้แจงว่า ได้มีการชี้แจงและแสดงหลักฐานข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทุกด้านต่อศาลอย่างละเอียด ว่าเราเป็นโรงงานไม่ได้เป็นผู้สร้างมลพิษด้านสิ่งแวดล้อม จึงไม่ได้ก่อให้เกิดความเดือนร้อนและผลต่อสุขภาพของประชาชนตามที่ผู้ฟ้องคดีกล่าวอ้าง รวมทั้งการปฏิบัติหน้าที่ของภาครัฐที่ดำเนินการตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในกฎหมายนับตั้งแต่การเริ่มสร้างโรงงาน การกำกับดูแล และการตรวจสอบโรงงานที่ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่องมาโดยตลอด
ด้าน นาย ธีรพล สังสกฤษ ทนายความบริษัทเบตเตอร์ ฯ เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการฟ้องเรียกค่าเสียหายกับกลุ่มผู้ฟ้องคดีทั้ง 6 คน เนื่องจากบริษัทเบตเตอร์เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ชื่อเสียงและความเชื่อมั่นของธุรกิจย่อมเป็นที่จับตามองของคู่ค้าและนักลงทุน ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก
นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลปกครองกลางพิจารณายกคำร้องคุ้มครองชั่วคราว คดีที่กลุ่มผู้ฟ้องร้องรวม 6 คน ต้องการให้ปิดบ่อขยะจนกว่าจะมีคำพิพากษา โดยอ้างว่าบริษัทประกอบกิจการอันก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ ว่า บริษัทได้มีหลักฐานและเอกสารแสดงต่อศาลในทุกๆ ด้าน ทั้งขั้นตอนการปฏิบัติงาน และการกำกับดูแลและป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตามที่ได้ระบุไว้ใน EIA นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานยืนยันถึงผลการตรวจวิเคราะห์ของทางราชการหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ ที่ยืนยันว่ายังไม่สามารถสรุปได้ว่า สภาวะเจ็บป่วยของประชาชนมีสาเหตุมาจากการได้รับกลิ่นไอระเหยของสารเคมีจากบริษัท แต่เกิดจากพยาธิสภาพของผู้ป่วยเอง ขณะที่ด้านการตรวจสอบสภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษก็มีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแต่อย่างใด และยังไม่พบสาร VOCs ตามที่ผู้ฟ้องคดีกล่าวอ้าง รวมทั้งเรื่องของสภาพดิน ตะกอนดิน และน้ำผิวดิน ที่ศาลปกครองกลางได้เคยมีคำวินิจฉัยยกฟ้องแล้วว่า ยังขาดความเชื่อมโยง และการวิเคราะห์หาสาเหตุของการแพร่กระจายที่จะบอกได้ว่าเกิดจากการประกอบการของบริษัท
ส่วนกรณีการตั้งคำถามว่า เหตุใดผลของคดีจึงออกมาไม่เหมือนกับคดีของอุตสาหกรรมมาบตาพุดนั้น นายสุวัฒน์ ชี้แจงว่า ได้มีการชี้แจงและแสดงหลักฐานข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทุกด้านต่อศาลอย่างละเอียด ว่าเราเป็นโรงงานไม่ได้เป็นผู้สร้างมลพิษด้านสิ่งแวดล้อม จึงไม่ได้ก่อให้เกิดความเดือนร้อนและผลต่อสุขภาพของประชาชนตามที่ผู้ฟ้องคดีกล่าวอ้าง รวมทั้งการปฏิบัติหน้าที่ของภาครัฐที่ดำเนินการตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในกฎหมายนับตั้งแต่การเริ่มสร้างโรงงาน การกำกับดูแล และการตรวจสอบโรงงานที่ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่องมาโดยตลอด
ด้าน นาย ธีรพล สังสกฤษ ทนายความบริษัทเบตเตอร์ ฯ เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการฟ้องเรียกค่าเสียหายกับกลุ่มผู้ฟ้องคดีทั้ง 6 คน เนื่องจากบริษัทเบตเตอร์เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ชื่อเสียงและความเชื่อมั่นของธุรกิจย่อมเป็นที่จับตามองของคู่ค้าและนักลงทุน ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก
