xs
xsm
sm
md
lg

‘เซ็กซ์ออนไลน์’ คลิกเดียวก็เสียวได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เมื่อก่อนหนุ่มสาวจะหาคู่หรือเพื่อนรู้ใจก็ต้องเขียนจดหมายไปหา‘ลุงหนวด’ ให้ช่วยลงประกาศหาคู่ผ่านทางหน้าหนังสือพิมพ์ จากนั้นก็ต้องทำความรู้จักคุ้นเคยกันผ่านทางจดหมายหลายสิบฉบับ ดังนั้นกว่าจะได้นัดเจอกันก็กินเวลาแรมเดือนแรมปี แต่ปัจจุบันนี้ในยุคเทคโนโลยีไร้สายการหาเพื่อนคุย หาเพื่อนใจ หรือแม้แต่หาเพื่อนนอน กลับทำได้ง่ายดายแค่ปลายนิ้วสัมผัส เพราะเพียงแค่โพสข้อความผ่านเว็บไซต์ก็สามารถหาคู่นอนได้ชั่วข้ามคืน ฉะนั้นวิธีนี้จึงกลายเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่น วัยทำงาน ชนิดที่เรียกได้ว่ามีการประกาศตัวกันอย่างโจ่งแจ้งโจ๋งครึ่มเลยทีเดียว

สร้างสัมพันธ์ชั่วข้ามคืน

ขั้นตอนการสร้างสัมพันธ์ผ่านเว็บไซต์นั้นเริ่มจากการโพสอีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์ พร้อมทั้งข้อความเชิญชวนลงตามเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งที่นิยมกันมากได้แก่ เว็บไซต์ที่เกี่ยวกับเซ็กซ์ , เว็บฯหาคู่ , เว็บฯเฉพาะกลุ่ม เช่น เว็บฯเกย์ เว็บฯทอม-ดี้ รวมทั้งเว็บบอร์ดต่างๆ โดยเฉพาะเว็บที่เจาะกลุ่มวัยรุ่น

สำหรับข้อความที่โพสกันนั้นมีตั้งแต่ข้อความพื้นๆ อย่าง โสด เหงา หาคนรู้ใจ ไม่ผูกมัด , เกย์รับ อยู่กรุงเทพฯ , หนุ่มน่ารัก หาคนอุปการะ , สาวเหงาใจ อยากได้คู่นอนที่ไม่เรื่องมาก , อยากลองจังเลย ,รับสาวจัดจ้านมาเซ็กซ์โฟน เราอ่ะเซ็กซ์โฟนตัวพ่อ ไปจนถึงข้อความล่อแหลม โจ๋งครึ่ม เช่น มีประสบการณ์ สวิงกิ้ง รับรองจะติดใจ , ต้องการเพื่อนร่วมเตียง อดมานาน , สูง 169 หนัก 75 ลีลาพอใช้ , อยากหาสาวมาเล่นเสียว , ไม่ลองกันหน่อยหรือ มีสามีแล้วแต่สามีไม่ค่อยอยู่ และบางข้อความก็ไม่สามารถนำมาออกอากาศได้ หลังจากโพสข้อความทิ้งไว้แล้วก็รอเวลาที่หนุ่มสาวใจถึงจะต่อสายหรืออีเมลติดต่อเข้ามา เมื่อมีการพูดคุยและรู้สึกว่าพอใจกันในระดับหนึ่งก็จะนัดเจอกันเพื่อศึกษาและสร้างสัมพันธ์กันต่อไป ซึ่งหากได้เจอกันแล้วไม่ถูกใจก็ยุติความสัมพันธ์ไว้แค่นั้น แต่ถ้าถูกอกถูกใจและมีเป้าหมายตรงกันก็มักจะนัดหมายไป‘กระชับสัมพันธ์’กันในขั้นต่อๆไป

‘วี’ หนุ่มนักธุรกิจซึ่งลงโพสหาเพื่อนใจทางอินเตอร์เนต เล่าถึงประสบการณ์ในการหาเพื่อนออนไลน์ ว่า “ ตอนที่โพสเบอร์โทร.ไว้นี่ ไม่มีสาวๆโทร.มาเลยนะ แต่ตอนที่ลงอีเมลไว้นี่มีผู้หญิงเมลกลับมาเหมือนกัน ส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษา ก็คุยกันเรื่องทั่วๆไป แต่มีหลายรายที่อีเมลมาขอยืมเงิน ตอนนี้เดือดร้อน ให้โอนเงินให้หน่อย ทั้งๆที่ไม่ได้รู้จักกันเลย ผมก็ไม่ได้โอนให้หรอกเพราะพวกนี้คงเป็นมิจฉาชีพมากกว่า ผมว่าการหาเพื่อนหรือหาคู่ทางอินเทอร์เนตเนี่ยมันน้อยมากนะที่จะประสบความสำเร็จ ”

หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่แห่ใช้บริการ

ด้าน ‘ภูมิ’ หนุ่มหาดใหญ่ที่เคยโพสหาคู่นอนในอินเทอร์เน็ต บอกเล่าถึงประสบการณ์ที่ผ่านมา ว่า “ หลังจากที่ลงโพสหาคู่นอนเนี่ยยังไม่มีสาวๆโทร.มาเลย มีแต่ผู้ชายโทร.มาถามว่าสำเร็จไหม ได้เพื่อนนอนบ้างหรือเปล่า (หัวเราะ) แต่เมื่อก่อนนี้ผมเคยโพสแบบหาเพื่อนคุย ก็มีสาวๆโทร.มาบ้างเหมือนกันนะ แต่ไม่ถึงขั้นนัดเจอกัน แต่แปลกนะส่วนใหญ่จะเป็นเซ็กซ์โฟน คือที่ผ่านมาเนี่ยมีเซ็กซ์โฟนเข้ามาประมาณ 5 ราย ตอนแรกก็คุยธรรมดา สักพักเขาก็จะถามว่าคุณทำอะไรอยู่ ฉันนอนอยู่บนเตียง ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า...... อะไรประมาณนี้

ผมคิดว่าโพสสนุกๆ แต่ถ้าได้จริงๆก็ดีนะ (หัวเราะ) คือผมโพสในเว็บวัยรุ่นทั่วๆไป แต่มันจะมีเว็บไซต์ที่เปิดขึ้นมาเพื่อหาคู่นอนโดยเฉพาะ ซึ่งคนที่จะเข้าไปโพสข้อความต้องเสียค่าสมาชิกประมาณ 1,000 บาท นอกจากนั้นใน hi5 ก็มีแก๊งหาคู่นอนเหมือนกันนะ ผมว่าตอนนี้สังคมมันฟรีเซ็กส์ไปแล้ว อย่างเราทำงานแล้ว คิดว่าเราดูแลตัวเองได้ ตรงไหนที่เสียงเราก็ไม่เข้าไป ”

ขณะที่ ‘เอ็ม’ นักเรียน ม.6 ซึ่งโพสข้อความอย่างเปิดเผยว่าต้องการหาคู่เกย์ บอกว่า “ จากที่โพสไว้ก็มีทั้งผู้หญิงและผู้ชายโทร.เข้ามา คือผู้หญิงบางคนเขาก็อยากมีแฟนเป็นเกย์ (หัวเราะ) แต่ถ้าเป็นผู้ชายก็จะโทร.มาจีบตรงๆเลย มีทั้งที่เรียนอยู่ ม.ปลาย เรียนมหาวิทยาลัย เด็กช่างกล แล้วก็คนที่ทำงานแล้ว ส่วนใหญ่ก็นัดเจอกัน ไปกินข้าว ดูหนัง บางคนก็เลี้ยงข้าว ซื้อข้าวของให้ คือถ้าเป็นพวกเสื้อผ้าราคา 300-400 บาท นี่ผมรับได้ แต่ถ้ามากเกินไปก็ไม่เอา อย่างมีพี่ผู้ชายคนหนึ่งเขาทำงานแล้วเขาก็ถามว่าอยากได้โทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ไหม แต่ผมไม่เอา เกรงใจเขา แต่ก็มีเหมือนกันที่เสนอจะส่งเสียเลี้ยงดู ชวนไปอยู่ด้วย แต่ผมไม่ไปหรอก ผมว่าดูแล้วไม่น่าไว้วางใจนะ

ที่คบเป็นแฟนก็มีบ้าง บางคนคบกันแค่ 2-3 สัปดาห์ก็เลิกกันไป แฟนที่คบอยู่ปัจจุบันก็รู้จักกันผ่านเว็บไซต์เหมือนกัน เขาเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี 2 ผมคิดว่าที่มีเกย์เข้าไปโพสหาคู่ในตามเว็บไซต์เยอะเพราะว่าเขาไม่สามารถแสดงออกในที่สาธารณะได้ อย่างผมถ้าอยู่ที่บ้านหรือโรงเรียนผมก็ทำตัวเป็นผู้ชายปกติ เวลาโพสในเว็บฯก็ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร นอกจากเว็บฯเกย์ซึ่งเราเปิดเผยได้เต็มที่เพราะตรงนี้คือสังคมของเรา”

สาวซ่าส์ โพสหาเพื่อนนอน

หลายคนอาจจะคิดว่าคนที่โพสหาคู่นอนน่าจะมีแต่ผู้ชายเท่านั้น แต่จริงๆแล้วสาวมั่นสาวซ่าที่เข้าไปโพสหาเพื่อนนอนก็มีอยู่เหมือนกันแม้จะค่อนข้างน้อย และหลายคนยืนยันว่าถูกกลั่นแก้งก็ตาม

สาวเฉี่ยวเปรี้ยวซ่า ผิดกับภาพลักษณ์แม่ค้าขนมหวานอย่าง ‘ปู’ ที่เคยลงโพสหาคู่นอนผ่านเว็บไซต์ เปิดเผยกับเราแบบถึงพริกถึงขิง ว่า “ พอโพสหาคู่นอนตามเว็บไซต์ก็มีผู้ชายโทร.เข้ามาเยอะมาก... ช่วงที่ลงโพสใหม่ๆจะมีโทร.เข้ามาสัปดาห์ละ 20 กว่าคน ช่วงหลังๆก็ตกประมาณสัปดาห์ละ 5 คน ก็มีที่ไปเจอแล้วถูกใจ ไปมีอะไรกันประมาณ 2- 3 คนนะ คนที่คบกันนานที่สุดก็ 4-5 เดือน เขาอยู่ต่างจังหวัด บางที่เขาก็มาหาเรา บางที่ปูก็ไปหาเขา แต่ไม่ได้มีเซ็กส์กันทุกครั้งนะ ตอนหลังภรรยาเขาโทร.มาระรานก็เลยบอกให้เขากลับไปหาเมียเถอะ แล้วอีกอย่างปูก็มีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว แต่ไม่ค่อยได้เจอกันเพราะปูอยู่กรุงเทพฯ เขาอยู่ต่างหวังหวัด ส่วนคนที่ 2 ที่รู้จักกันผ่านอินเทอร์เน็ตมีอะไรกันสัก 3-4 ครั้งก็เลิกไปเพราะเขาชอบขอเงิน ส่วนอีกคนหนึ่งเจอกันแค่หนเดียว ก็ถูกใจนะ คนนี้เขาหล่อ แต่เขามีเจ๊เลี้ยงอยู่แล้ว เขาบอกว่าตอนนี้กำลังระหองระแหงกับเจ๊อยู่ แต่ปูมองว่าเขาน่าจะกำลังจะชวดจากเจ๊เลยจะมาเกาะเราก็เลยไม่เอาดีกว่า แค่ออกค่าโรงแรมหลายๆครั้งก็แย่แล้ว คือรุ่นนี้แล้ว ผู้หญิงเป็นฝ่ายออกค่าโรงแรมเองแล้ว(หัวเราะ) ก็เหมือนเราซื้อความสุขให้ตัวเอง

แต่ผู้ชายที่โทร.เข้ามา ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะไปนอนกับเขาทุกคนนะ ถูกใจถึงจะไป บางคนตามมาถึงที่ร้านปูเลย แต่หน้าตาแย่ปูก็ไม่เอา เขาบอกว่าเขาให้เงินนะ ปูก็ย้อนไปว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิงขายตัวนะ แล้วเชื่อไหมผู้ชายที่โพสหาคู่นอนเนี่ยไม่ได้แปลว่าเขาจะจ่ายค่าข้าว-ค่าโรงแรมให้ผู้หญิงเหมือนกันหมดทุกคนนะ บางคนพอเจอกันปุ๊บเขาบอกปูเลยว่าหารค่าโรงแรมกันนะ ปูเลยบอกว่าถ้าอย่างงั้นคุณกลับไปช่วยตัวเองที่บ้านดีกว่า (หัวเราะร่วน) คือมานอนกับเราเงินก็ไม่เสียนะ จะให้เราช่วยออกค่าโรงแรมอีก มีมาแปลกๆเยอะ มีอยู่รายหนึ่งแก่แล้วแต่มีเมียสาว ตัวเองหมดสภาพแล้วจะให้เราพาผู้ชายไปคนหนึ่ง ไปสวิงกิ้งกับเมียเขา ส่วนเขาจะนั่งดู ปูก็ปฏิเสธไป บางทีภรรยาก็เป็นฝ่ายโทร.มาขอให้ปูไปนอนกับสามีเขา คือเขากลัวสามีจะไปมีเมียน้อยเลยพยายามหาสาวๆไปให้ เพราะคิดว่ามีอะไรแบบชั่วครั้งชั่วคราวและอยู่ในสายตาเขาดีกว่า แต่แนวนี้ปูไม่โอเค

ผู้ชายที่เข้ามานี่หลากหลายมาก ส่วนใหญ่จะเป็นพวกพนักงานบริษัท ก่อนนัดเจอกันปูจะคุยกับเขาชัดเจนเลยว่ามีอะไรกันแล้วก็จบ ไม่สานต่อนะ แล้วถ้าปูอยากเจอ ปูจะเป็นคนโทร.ไปนัดเอง ปูก็ไม่ใช่คนสวยนะ แค่ขาวๆ หมวยๆ ออกจะอ้วนด้วยซ้ำ แต่ปูจะมีแฟนตลอด เมื่อก่อนปูคบทีละหลายคน แต่ตอนนี้คบอยู่แค่คนเดียว คบหลายคนเปลืองค่าข้าวค่าโรงแรม (หัวเราะขำ) แล้วปูมีคติประจำใจว่าต่อให้เป็นแค่คู่นอนก็จะไม่ยุ่งกับคนที่มีครอบครัวแล้ว คือเราไม่อยากทำให้ครอบครัวเขาแตกแยก มันบาป ”

แต่ในกรณีของ ‘นุ่น’ สาวสุราษฎร์ซึ่งโพสข้อความในเว็บไซต์ไว้ว่า “อยากมีประสบการณ์แบบผู้หญิงกับผู้หญิง” นั้น เธอบอกกับเราว่าสามีเป็นคนโพสข้อความดังกล่าวให้เพราะต้องการสร้างความแปลกใหม่ให้ชีวิตคู่

“ เรา 2 คนจะค่อนข้างเปิดกว้างเรื่องเซ็กซ์ มีอะไรก็คุยกันตรงๆเลย คือแฟนนุ่นเขาเป็นคนที่มีจินตนาการทางเพศสูง เขาอยากได้ความตื่นเต้น ก็อยากให้นุ่นมีอะไรกับผู้หญิงด้วยกัน โดยมีเขานั่งดูอยู่ด้วย นุ่นก็โอเคเพราะมองว่าผู้หญิงกับผู้หญิงไม่มีอะไรเสียหาย เขาก็เลยเข้าไปโพสข้อความในเว็บฯ แต่ก็ยังไม่มีผู้หญิงคนไหนโทร.มานะ มีแต่ผู้ชายโทร.มาว่าเขากับภรรยาต้องการคู่สวิงกิ้ง แต่เราไม่เอาด้วยเพราะเราไม่ใช่แนวนั้น

นุ่นกับแฟนอยู่ด้วยกันมา 4 ปี ก็เข้าใจว่าผู้ชายต้องมีเบื่อ ก็อยากได้อะไรที่ตื่นเต้นบ้าง ตอนแรกเราก็รับไม่ได้ แต่คิดว่าให้ผู้ชายอิ่มในบ้านดีกว่าเพราะถ้าปล่อยให้ไปมีอะไรนอกบ้านปัญหามันตามมาเยอะ เราเป็นคู่ชีวิตกันแล้วอะไรที่ทำให้เขามีความสุขได้เราก็ยินดี คิดว่าความเข้าใจความต้องการของกันและกันมันทำให้ชีวิตคู่ยั่งยืนนะ ”

หาคู่นอน ไม่อยู่ในสมองของทอม-ดี้

ทั้งนี้พบว่าผู้ที่โพสข้อความในลักษณะหาคู่นอนตามเว็บไซต์ต่างๆนั้นส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายและกลุ่มเกย์ ขณะที่ผู้หญิงเข้ามาโพสค่อนข้างน้อย และที่น่าสนใจคือในกลุ่มทอม-ดี้กลับไม่พบว่ามีการโพสข้อความในลักษณะนี้เลย แม้จะเว็บไซต์เฉพาะกลุ่มของทอม-ดี้ก็ตาม

‘เหน่ง’ ทอมขี้เหงาจากปราจีนบุรี บอกว่าเธอเคยมีแฟนสาวที่รู้จักกันผ่านเว็บไซต์ แต่เพิ่งเลิกรากันไปเมื่อไม่นานมานี้

“ คือก่อนหน้านี้เหน่งก็มีเป็นแฟนผู้หญิงที่รู้จักกันตามปกติ ก็คบกันมา 5 ปีแต่เลิกกันไป เหน่งก็เลยลองมาโพสหาแฟนในเว็บไซต์ ก็มีสาวโทร.มา จากนั้นเราก็โทร.คุยกันทุกวัน คุยกันแบบแฟน คุยกันอยู่ปีหนึ่งเต็มๆ แต่ว่าไม่มีโอกาสได้เจอกัน มาเจอกันครั้งเดียวเมื่อต้นปีนี้ จากนั้นเขาก็ไม่รับโทรศัพท์เหน่งอีกเลย บอกว่าอยากจะมีแฟนเป็นผู้ชาย แต่เหน่งคิดว่าอาจจะเป็นแค่ข้ออ้างก็ได้ เราคงไม่ใช่สเป็กเขามากกว่า ที่ผ่านมาผู้หญิงที่รู้จักกันผ่านเว็บฯก็มีหลายแบบ บางคนอกหักจากแฟนก็เลยหาเพื่อนคุยแก้เหงา บางคนโทร.มาขอเงินก็มี แต่เพื่อนเหน่งที่เป็นทอมเหมือนกันเขาได้แฟนจากเว็บไซต์และคบกันยาวนานก็มีหลายคู่นะ ส่วนเรื่องโพสหาคู่นอนนี่คิดว่ากลุ่มทอม-ดี้ หรือเลส (เลสเบี้ยน-ผู้หญิงที่มีบุคลิกเป็นผู้หญิง และชอบผู้หญิงที่มีบุคลิกเป็นผู้หญิงเหมือนกัน)ไม่มีนะ ส่วนใหญ่จะโพสหาเพื่อน หาแฟนมากกว่า คือเรื่องแบบนี้มันไม่ใช่ว่าใครก็ได้ ไม่รู้จัก แล้วจะมานอนด้วยกัน ”

อย่างไรก็ดี จากการสอบถามบรรดาผู้ที่โพสข้อความในลักษณะหาคู่นอนนั้นปรากฏว่าหากเป็นคนที่โพสข้อความเป็นผู้ชายจะมีผู้หญิงโทร.ติดต่อเข้ามาน้อยมาก ในขณะที่หากผู้โพสเป็นผู้หญิงกลับมีหนุ่มๆติดต่อกลับมาไม่ขาดสายเลยทีเดียว ทั้งนี้อาจเป็นเพราะผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่นิยมมีเซ็กซ์กับคนแปลกหน้า และมองว่าเป็นเรื่องที่เสี่ยงต่อความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ส่วนกลุ่มชายรักชายนั้นการโพสหาคู่นอนดูจะเป็นเรื่องปกติและเป็นที่นิยมพอสมควร ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะการที่เป็นคนเพศเดียวกันทำให้พวกเขาไม่รู้สึกกังวลเรื่องความปลอดภัย และที่สำคัญคนกลุ่มนี้ไม่สามารถหาคู่รักและคู่นอนได้ในสังคมทั่วไป การเข้าไปโพสหาคู่ทางเว็บไซต์เกย์หรือเว็บบอร์ดทั่วไปจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจทางหนึ่ง

‘เซ็กซ์โฟน’ เซ็กซ์ผ่านเสียง

การโพสหาเพื่อนผ่านเว็บไซต์เพื่อหาความแปลกใหม่ในเรื่องเซ็กส์นั้นอาจไม่จำเป็นต้องไปมีเพศสัมพันธ์กันจริงๆ เพราะมีไม่น้อยที่เพียงแต่ต้องการคนมาเล่นเซ็กส์โฟนด้วยเท่านั้น โดยคนกลุ่มนี้มองว่าเซ็กส์โฟนเป็นเซ็กส์รูปแบบหนึ่งที่ปลอดภัยและไม่สร้างปัญหาตามมาทั้งแก่ตนเองและคู่สนทนา

‘หนุ่ย’ หนุ่มใหญ่วัย 43 ปี ซึ่งมีประสบการณ์การเซ็กซ์โฟนอย่างโชกโชน พูดถึงเหตุผลในการเล่นเซ็กซ์โฟนของเขาว่า “ แต่ก่อนเรื่องเซ็กซ์นี่ผมโชกโชนมาก เคยสวิ้งกิ้งมาก่อน แต่เดี๋ยวนี้เลิกหมดแล้ว คือเรามีครอบครัวแล้ว การจะไปมีอะไรนอกบ้านกับใครนั้นมันอาจจะสร้างปัญหาตามมาได้ แต่ผมเป็นคนที่มีความต้องการทางเพศสูงเลยคิดว่าเซ็กซ์โฟนน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด คือเราช่วยตัวเองขณะเซ็กซ์โฟนมันก็ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ต่างคนต่างมีความสุข พอวางสายก็จบกันไป

จากที่ลงโพสหาเพื่อนเซ็กซ์โฟนไว้ก็มีสาวๆโทร.มาพอสมควร ส่วนใหญ่จะคุยกันตอนดึกๆ บางคนเขากำลังมีอะไรกับแฟนอยู่ก็โทร.มาโฟนกันเรา ภรรยาผมก็รู้นะว่าผมชอบเซ็กซ์โฟน เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเราไม่ได้ไปเหลวไหลนอกบ้าน บางทีตอนผมกำลังโทร.เขาก็นอนหลับอยู่ข้างๆนั่นแหล่ะ (หัวเราะขำ)”

สวิงกิ้ง เร้าใจในแบบเซ็กส์หมู่

สัมพันธ์เซ็กซ์รูปแบบหนึ่งที่กำลังฮืฮฮาและแพร่ระบาดอย่างหนักอยู่ในขณะนี้ก็คือการมีเซ็กซ์หมู่ที่เรียกกันว่า‘สวิงกิ้ง’ โดยมีการลงโฆษณาตามเว็บไซต์ต่างๆอย่างโจ่งแจ้ง ซึ่งนอกจากลงในเว็บไซต์และเว็บบอร์ดที่เกี่ยวกับเซ็กซ์และการหาคู่แล้ว ยังมีการเปิดเว็บไซต์สวิงกิ้งโดยเฉพาะอีกจำนวนไม่น้อย โดยนอกจากจะทำกันเป็นธุรกิจแล้วยังมีการจัดกันเองในหมู่หญิงชายที่หลงใหลการมีเพศสัมพันธ์พร้อมกันหลายๆคน ซึ่งแหล่งที่นิยมจัดปาร์ตี้สวิงกิ้งมักเป็นโรงแรมขนาด 2-3 ดาว ที่อยู่ในแถบชานเมือง รีสอร์ทในต่างจังหวัด หรือห้องพักส่วนตัวประเภทคอมโดมิเนียม

‘โรจน์’ ชายหนุ่มซึ่งมีประสบการณ์ในการจัดปาร์ตี้สวิงกิ้งมาอย่างโชกโชน เปิดเผยถึงกิจกรรมสัมพันธ์เซ็กซ์ในลักษณะนี้ ว่า “ การจัดสวิงกิ้งจะมี 2 แบบ คือแบบที่จัดกันเองและที่ทำเป็นธุรกิจ โดยแบบที่จัดกันเองอย่างที่ผมทำอยู่นี่ค่าร่วมกิจกรรมจะถูกกว่า โดยถ้าเป็นคู่สามี-ภรรยา ค่าร่วมงานคู่ละ 500 บาท ถ้าเป็นชายเดี่ยว คือมาคนเดียว ไม่มีภรรยาหรือสาวๆมาด้วย คนละ 1,500-2,000 บาท แต่หากเป็นหญิงเดี่ยว คือผู้หญิงที่ไม่ได้มีแฟนหรือคู่สามีมาด้วยจะไม่เสียค่าบริการ ทั้งนี้เพราะคนที่มาร่วมกิจกรรมส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายที่ต้องการเข้ามามีเซ็กซ์กับสาวๆ แต่จะไม่เอาแฟนของตัวเองมาด้วย ผู้หญิงจึงมีความสำคัญต่องานนี้มาก เราเลยต้องการดึงสาวๆเข้ามาร่วมงานมากขึ้นเพื่อให้สัดส่วนระหว่างผู้หญิงกับผู้ชายไม่ต่างกันมากนัก

ส่วนปาร์ตี้สวิงกิ้งที่ทำเป็นธุรกิจนั้น ถ้าเป็นคู่สามีภรรยา ค่าบริการอยู่ที่คู่ละ 1,000 บาท ถ้าเป็นชายเดี่ยว อยู่ที่ หัวละ 2,000-3,000 บาท แต่หากเป็นสวิงกิ้งสำหรับลูกค้าฝรั่งค่าบริการจะสูงขึ้น อยู่ที่ 3,000-7,000 บาทต่อหัว โดยค่าบริการดังกล่าวรวมค่าอาหาร เครื่องดื่ม และค่าโรงแรมไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งหากเป็นสวิงกิ้งที่ทำเป็นธุรกิจทางผู้จัดเขาก็จะจัดหาหญิงบริการไว้ให้เพื่อตอบสนองความต้องของหนุ่มๆที่ชอบเซ็กส์หมู่ ซึ่งหญิงบริการพวกนี้เขาก็จะได้ค่าตัวครั้งละ 1,000-1,500 บาท

ปกติการจัดสวิงกิ้งแต่ละครั้งก็จะมีผู้ชายมากกว่าผู้หญิง แต่คนจัดจะต้องกำหนดสัดส่วนจำนวนคนไม่ให้ต่างกันมาก อย่างที่ผมจัดจะให้มีชายเดี่ยวไม่เกิน 10 คน คู่สามี-ภรรยา 5-6 คู่ ส่วนหญิงเดี่ยวไม่จำกัด แต่ส่วนใหญ่ผู้หญิงมากันน้อย ประมาณ 3-4 คน แต่ผู้หญิงที่มาร่วมงานเนี่ยเขาจะร่วมมีเซ็กซ์ด้วยหรือไม่ก็ได้ จะแค่นั่งดูเฉยๆก็ได้ เราไม่บังคับเพราะเราถือว่าทุกคนมาด้วยความสมัครใจ ไม่ใช่ธุรกิจ และถ้าหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วมีเงินเหลือผมก็จะให้พวกหญิงเดี่ยวที่มาร่วมเอาไปแบ่งกันเพราะถือว่าเขาช่วยให้งานมีสีสัน แต่ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจหรือไม่ ข้อสำคัญของการสวิงกิ้งก็คือมีกฎว่าต้องใส่ถุงยางทุกครั้ง เพื่อป้องกันโรคที่ติดต่อ”

โรจน์ เล่าถึงที่มาในการเป็นตัวตั้งตัวตีในการจัดปาร์ตี้สวิงกิ้งของเขาว่า “เดิมผมเคยไปร่วมปาร์ตี้สวิงมาก่อน แต่ส่วนใหญ่เขาจะเลิกกันประมาณ ตี 2 ตี 3 คือมีเซ็กซ์จบก็เลิก แต่หลายๆคนยังอยากสังสรรค์กันต่อก็เลยคิดกันว่าถ้างั้นเรามาจัดปาร์ตี้กันเองดีกว่า ก็จัดกันทุกเสาร์ ผมจัดมาได้หลายเดือนแล้ว แต่ผมลงโพสตามเว็บฯด้วยเพราะถ้าจัดเฉพาะในกลุ่มเพื่อน เจอแต่หน้าเดิมๆ มันก็น่าเบื่อ คือคนที่ชอบสวิงกิ้งเนี่ยเป็นพวกที่ชอบมีเซ็กซ์แบบตื่นเต้น ชอบหาความแปลกใหม่ บางคนมาร่วมปาร์ตี้กับเราเพราะชอบมีสัมพันธ์กับภรรยาคนอื่น คือมันทำให้เขารู้สึกตื่นเต้น ดังนั้นแต่ละงานเขาก็จะมีลูกเล่นต่างๆ เช่น ให้เล่นเกมปิดตา จัดเป็นปาร์ตี้บิกินีหรือซีทรู คือใส่บิกินีหรือชุดซีทรู ประเภทผ้าตาข่าย หรือผ้าบางๆโดยไม่ใส่ชั้นในตั้งแต่เริ่มงานเลย

เท่าที่รู้ปัจจุบันมีปาร์ตี้สวิงกิ้งที่ทำกันเป็นธุรกิจ เฉพาะในเขตกรุงเทพฯประมาณ 10-11 ราย แต่ที่จัดปาร์ตี้ในกลุ่มเพื่อนๆกันเองนี่ก็เยอะนะ บางคนสงสัยว่าแล้วไม่กลัวตำรวจจับหรือ อันนี้เราก็ต้องเลือกสถานที่ ส่วนใหญ่ก็จะต้องรู้จักกับเจ้าของโรงแรม เขาก็จะช่วยเป็นหูเป็นตาให้เรา บางทีเขาก็ช่วยเคลียร์กับตำรวจให้ อย่างช่วงนี้ตำรวจจะบอกมาเลยว่าให้เพลาๆหน่อย แล้วนายเขาก็เพิ่งย้ายมาได้ไม่นาน เขาก็ต้องทำผลงาน คือผมว่าเรื่องนี้มันเป็นความสุขส่วนตัว ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร แต่วัฒนธรรมไทยอาจจะไม่ยอมรับ อย่างสามี-ภรรยาเขาไปปาร์ตี้สวิงกิ้ง ต่างคนต่างมีความสุขมันก็ไม่มีปัญหา ในขณะที่ถ้าสามีเจ้าชู้หรือไปมีเมียน้อยมันก็ทำให้เกิดปัญหาครอบครัว”

ด้าน ‘หนุ่ย’ หนุ่มใหญ่ที่เคยร่วมปาร์ตี้สวิงกิ้ง บอกเล่าถึงประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นว่า “ ผมเคยอยู่ ‘ชมรมไทยเพลบอย’ ซึ่งเป็นชมรมสวิงกิ้งในสมัยก่อน คนที่เป็นสมาชิกก็จะทิ้งเบอร์โทร.ไว้ พอมีคนที่สนใจโทร.ติดต่อมาก็นัดกันไปจัดปาร์ตี้กัน มีคนมาร่วมเยอะ..หลายรูปแบบ หลายสาขาอาชีพ มีครั้งหนึ่งมีผู้หญิงติดต่อมา พอไปเจอกันปรากฏว่าผู้หญิงเขามาคนเดียว นัดผู้ชาย 5 คน คือผู้หญิงนี่อายุ 40 กว่าแล้ว เป็นระดับผู้จัดการบริษัทแล้วนะ พวกดารายังมีเลย ที่ผมเจอนี่เป็นดาราสาวจากค่ายที่ผลิตละครทีวี เป็นค่ายใหญ่ในวงการเลยแหล่ะ ก็มาสวิงกัน 3 คน ชาย 1 หญิง 2

ระดับนายพลก็มีนะ ผมเจออยู่ครั้งหนึ่งฝ่ายสามีซึ่งเป็นนายพล เขาโทร.มานัดให้ไปเจอที่บ้านเขา พอไปถึงเขาก็จะให้ผมมีอะไรกับภรรยาเขา ซึ่งภรรยาเขาสวยมาก เป็นทหารเหมือนกันเป็นระดับพันตรีแล้ว แต่ปัญหาคือภรรยาเขาไม่รู้เรื่องมาก่อน เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวคุยกับภรรยาก่อน ผมเห็นท่าไม่ดีเลยขอลากลับ เท่านั้นแหล่ะ นายพลควักปืนขึ้นมาวางบนโต๊ะเลย เขาก็ขู่ว่าถ้าไม่ตามใจเขา เขาจะยิงผม แล้วให้การกับตำรวจว่าผมบุกรุกบ้านเขา ผมเลยต้องยอม ผมก็มีอะไรกับภรรยาเขาโดยที่มีนายพลคอยแอบดู ต้องใช้คำว่าแอบดูเลยนะ เพราะเขาลงไปนั่งแอบๆดูอยู่ข้างเตียง (หัวเราะ) มันก็เป็นประสบการณ์ที่แปลกๆดี แต่เดี๋ยวนี้ผมเลิกหมดแล้วนะ เหลือแค่เซ็กซ์โฟนอย่างเดียว(หัวเราะ) ถึงเรื่องพวกนี้ผมจะโชกโชนขนาดไหนแต่เวลาที่ผมมีอะไรนอกบ้านทุกครั้งผมจะใส่ถุงยางนะ เพื่อความปลอดภัย”

นวดอโรมา หลากลีลาเซ็กซ์

นอกจากการมีเซ็กซ์หมู่ที่เรียกกันว่า ‘สวิงกิ้ง’ แล้ว ปัจจุบันยังมีบริการเซ็กซ์ในรูปแบบใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ นั่นคือ ‘การนวดอโรมากระตุ้นอารมณ์’ ซึ่งเป็นบริการนวดให้แก่สุภาพสตรีทุกวัย โดยชายหนุ่มหุ่นดีที่การันตีทั้งฝีมือนวดและฝีมือ‘นาบ’ ผู้ที่ให้บริการดังกล่าวนั้นไม่ได้ดำเนินการในรูปของสถานประกอบการแต่เป็นการให้บริการเป็นการส่วนตัว โดยชายหนุ่มที่ให้บริการนวดมักทำธุรกิจเพียงคนเดียว หรืออาจมีมือนวดที่รู้จักมักคุ้นกันมาร่วมงานด้วยอีก 3-4 คน การโฆษณาก็ใช้วิธีโพสหาลูกค้าผ่านเว็บไซต์ต่างๆ และโทร.นัดหมายกัน ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นบริการนวดนอกสถานที่

‘เอ’ หนุ่มมาดเข้มซึ่งให้บริการบริการนวดอโรมาฯ อธิบายถึงบริการนวดในลักษณะนี้ว่า
“หลักๆก็เป็นการนวดผ่อนคลายด้วยน้ำมันหอมแบบอโรมา แต่รูปแบบจะขึ้นอยู่กับลูกค้าว่าต้องการแบบไหน จะนวดอย่างเดียว หรือนวดและมีเซ็กซ์ด้วยก็ได้ ส่วนเซ็กซ์จะเป็นแบบไหนก็แล้วแต่ลูกค้าอีกเหมือนกัน บางคนหลังจากนวดเสร็จก็มีเซ็กซ์กับหมอนวด , บางคนอาจมีแฟนอยู่ด้วย พอนวดแล้วมีอารมณ์ก็มีอะไรกับแฟน หรืออยากจะมีอะไรกัน 3 คนก็ได้ , จะนวดแต่ผู้หญิงหรือนวดคู่ของคุณด้วยก็ได้ และคู่ของคุณจะเป็นผู้ชาย ผู้หญิง ทอม-ดี้ ได้หมด

ส่วนค่าบริการจะเริ่มต้นที่ 500 บาทต่อคน สำหรับบริการนวด ส่วนบริการอื่นๆหลังจากนั้นก็แล้วแต่จะให้ครับ ที่ผ่านมาผู้หญิงที่มานวดก็มีตั้งแต่อายุ 20 ไปจนถึง 50 เลย แต่ทีเยอะที่สุดจะเป็นสาวออฟฟิศช่วงอายุประมาณ 20 กว่าๆถึง 30 กว่าๆ ปัจจุบันการให้บริการนวดในลักษณะนี้มีเยอะมาก...คนที่ให้บริการส่วนใหญ่ก็ทำแบบส่วนตัวคนเดียว”

ด้าน ‘บอย’ หนุ่มใหญ่ที่ให้บริการนวดอโรมาฯ อีกรายหนึ่ง บอกว่า “ การนวดลักษณะนี้ลูกค้าจะนวดโดยไม่สวมเสื้อผ้า ซึ่งบริการนวดของผมนั้นจะใช้เวลานวด 2 ชั่วโมง โดยนวด 3 จุดใหญ่ๆด้วยกัน คือครึ่งชั่วโมงแรกเป็นการนวดด้านหลัง อีกครึ่งชั่วโมงต่อมาเป็นการนวดด้านหน้า และอีก 1 ชั่วโมงที่เหลือเป็นการนวดบริเวณเฉพาะจุดตามแต่ลูกค้าต้องการ เช่น ไหล่ ขา หน้าอก หรือจุดสงวน หลังจากนวดแล้วถ้าลูกค้าต้องการมีเซ็กซ์ด้วยเราก็มีบริการให้ ลูกค้าต้องการเซ็กซ์แบบไหนเราทำได้หมด จะออรัลเซ็กส์ , สวิงกิ้ง หรือใช้อุปกรณ์เซ็กซ์ทอย เช่น ดีลโด้ (อวัยวะเพศชายเทียม) เราก็มีให้ แต่หากเป็นอปุกรณ์แบบแปลกๆที่ต้องจัดหาเพิ่มเติมก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น สำหรับค่าบริการนั้นเราคิดตามเวลาที่ให้บริการ ชั่วโมงละ 500 บาท

หมอนวดชายเรามีให้เลือก 2-3 คน หรือหากต้องการหมอนวดหญิงด้วยเราก็หาให้ได้แต่ต้องนัดล่วงหน้า คือหมอนวดหญิงนี่ไม่ได้มาจากหญิงบริการหรือหมอนวดตามสถานบันเทิงนะ แต่มาจากพนักงานนวดตามสปาที่ต้องการหารายได้เสริมและสามารถให้บริการแบบเดียวกับหมอนวดชาย คือเรามีหมอนวดในสังกัดไม่เยอะเพราะเราเน้นว่าต้องมีฝีมือในการนวดด้วย ไม่ใช่แค่รูปร่างหน้าตาดี มีเซ็กซ์กับลูกค้าได้เท่านั้น ก็มีหนุ่มๆ อายุ 26-27 มาสมัครหลายรายนะแต่พอบอกว่าให้ไปเรียนนวดมาก่อนก็หายไปเลย

บอยยังเล่าถึงประสบการณ์การนวดอโรมาที่เขาพบเจอในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ว่า “ จริงๆแล้วผมให้บริการนวดแบบนี้มา 3 ปีแล้วนะ ตั้งแต่ยังไม่ค่อยมีใครทำกันเลย จนตอนนี้มีโฆษณาโพสตามเว็บไซต์เต็มไปหมด คือตอนนั้นผมทำงานบริษัทคอมพิวเตอร์แล้วก็รับนวดเป็นไซด์ไลน์ แต่ตอนหลังลูกค้าเยอะเลยลาออกมานวดเต็มตัว บางคนสงสัยว่าไม่กลัวเอดส์หรือ โดยส่วนตัวก็ไม่กลัวนะเพราะส่วนใหญ่เราจะใส่ถุงยาง นอกจากลูกค้าประจำที่เชื่อใจกันเท่านั้นถึงจะไม่ใส่ ที่ผ่านมามีลูกค้าทุกรูปแบบ ทั้งผู้หญิง ,ทอม-ดี้ , คู่สามี-ภรรยา ผู้หญิงที่มานวดส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มีครอบครัวแล้ว หรือเคยเสียตัวมาแล้ว

ผมเจอแบบแปลกๆเยอะ ผู้ชายบางคนอยากให้เมียมีความสุขก็พามานวด ส่วนตัวเองก็นั่งดู ผู้หญิงบางคนก็ชอบให้ทำออรัลเซ็กซ์อย่างเดียว มีอยู่ครั้งหนึ่งผู้หญิงมากัน 3 คน มาให้ผมนวดพร้อมกัน แล้วก็รุมผมคนเดียว ที่แปลกสุดก็เป็นเคสที่ผู้หญิงอายุประมาณ 25 หนีแฟนมานวด แต่เขาอยากได้หมอนวด 3 คน ให้ผู้ชาย 3 คน รุมเขาคนเดียว”

แพทย์ติง เซ็กส์ออนไลน์เสี่ยงภัยเอดส์

กล่าวได้ว่าในปัจจุบันสัมพันธ์เซ็กซ์ที่เกิดจากสื่อออนไลน์ได้ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆจนหลายฝ่ายวิตกว่าอาจส่งผลกระทบต่อสังคม ทั้งในแง่วัฒนธรรมและศีลธรรมที่เสื่อมทรามลง รวมทั้งยังนำไปสู่ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะโรคเอดส์อีกด้วย

ทั้งนี้ รายงานจากกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าปัจจุบันการติดเชื้อเอดส์ในเยาวชนเพิ่มขึ้นทุกปี จากสถิติพบว่าในประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่(ทุกเพศ ทุกวัย) 35 คนต่อวัน และในปี 2552 นี้คาดว่าไทยจะมีผู้ติดเชื้อเอดส์ และผู้ป่วยกว่า 1,100,000 คน เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 10,000 คน โดยส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่ติดจากสามีหรือคู่รัก รองลงมาคือชายมีเพศสัมพันธ์กับชาย และชายที่ติดจากหญิงบริการ

ด้าน นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ สูตินารีแพทย์ และพิธีกรรายการชูรักชูรส แสดงทัศนะถึงเรื่องดังกล่าว ว่า “ การแสวงหาความแปลกใหม่ในเพศรสเป็นสิ่งที่เกิดจากสัญชาติญาณพื้นฐานของมนุษย์ที่มักชอบความแปลกใหม่ ยกตัวอย่าง คนทั่วไปมักชอบซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆ ซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ ซึ่งเรื่องเซ็กซ์ก็เป็นความแปลกใหม่อย่างหนึ่งเหมือกัน แต่อย่างไรก็ตาม การจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเราต้องคำนึงถึงคุณธรรม ศีลธรรม และวัฒนธรรมประเพณีด้วย ไม่ใช่ทำตามความชอบอย่างเดียว ไม่อย่างนั้นจะก่อให้เกิดปัญหาสังคมตามมาได้ ที่สำคัญคือมนุษย์เราต้องมีความยับยั้งชั่งใจ มีความอดทนอดกลั้นต่อสิ่งเย้ายวนต่างๆ หากสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่เกินเลยกว่ามาตรฐานทางสังคม

ต้องบอกว่าพื้นฐานคอรบครัวและสิ่งแวดล้อมทางสังคมก็มีส่วนหล่อหลอมให้คนมีพฤติกรรมทางเพศที่แตกต่างกัน จะเห็นได้ว่าคนกลุ่มที่มีกิจกรรมทางเพศไปในทางสุ่มเสี่ยง ไม่ว่าการหลับนอนกับคนแปลกหน้า สวิงกิ้ง หรือการมั่วเซ็กซ์ มักเป็นคนที่เกิดในเจเนอเรชั่น X และเจเนอเรชั่น Y

คือคนไทยในปัจจุบันแบ่งออกได้เป็น 3 ยุค คือ ยุคเบบี้บูมเมอร์ คือคนที่เกิดหลังยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันเป็นกลุ่มที่อายุ 50 ปีขึ้นไป เป็นคนที่เกิดมาท่ามกลางความแร้นแค้น พ่อแม่เลี้ยงดูมาด้วยความยากลำบาก หลักสูตรการเรียนการสอนในยุคนั้นจะมุ่งเน้นในเรื่องศีลธรรม ข้อสอบส่วนใหญ่เป็นแบบอัตนัยคือให้อธิบายเหตุผล ดังนั้นคนกลุ่มนี้จึงมีความอดทนอดกลั้น มีเหตุมีผล มีคุณธรรม จริยธรรม และความกตัญญูสูง ให้ความสำคัญกับเรื่องความซื่อสัตย์

ถัดมาคือยุคเจเนอเรชั่น X เป็นกลุ่มที่อายุ 25-50 ปี คนยุคนี้เติบโตขึ้นมาท่ามกลางการฟูมฟักของพ่อแม่ซึ่งไม่อยากให้ลูกลำบาก หลักสูตรการเรียนการสอนเป็นแบบปรนัย คือเป็นข้อสอบที่ให้เลือกข้อที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว คนกลุ่มนี้จึงคิดว่าสิ่งที่ฉันทำเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ไม่สามารถประนีประนอมได้ และสุดท้ายคือยุคเจเนอเรชั่น Y เป็นกลุ่มที่อายุ 12- 24 ปี เป็นยุคที่เกิดมาท่ามกลางความสับสน คิดว่าของใหม่ดีกว่าของเก่า มีอะไรก็ต้องมีอีกสิ่งหนึ่งสำรองไว้เสมอ หลักสูตรการเรียนการสอนไม่มีเรื่องศีลธรรม แต่มีวิชาเพศศึกษาเข้ามาแทนที่ ดังนั้นเด็กในยุคนี้จึงอยากได้อะไรใหม่ๆอยู่เสมอ และต้องมีของสำรองอีกชิ้นหนึ่งด้วย เช่น มีมือถือก็ต้องมี 2 เครื่อง

ดังนั้นจึงจะเห็นได้ว่าปัจจุบันความยับยั้งชั่งใจของเยาวชน วัยรุ่น วัยทำงาน ไปจนถึงวัยกลาง(คนที่อยู่ในช่วงอายุ 12-50 ปี) ที่มีต่อเรื่องเซ็กซ์จึงมีน้อยมาก มองในเรื่องของความถูกใจมากกว่าความถูกต้องหรือจริยธรรม จึงนำไปสู่การแสวงหาความแปลกใหม่ในเพศรสโดยไม่คำนึงถึงศีลธรรมอันดีงาม”

นพ.พันธ์ศักดิ์ ยังแสดงความวิตกถึงปัญหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่จะตามมาจากการแสวงหาความแปลกใหม่ในเรื่องเซ็กซ์ ว่า “ การมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าเพื่อสร้างความตื่นเต้นแปลกใหม่ในเพศรส ไม่ว่าจะเป็นการหาเพื่อนนอน การสวิงกิ้ง หรือเซ็กซ์อโรมา (การมีเซ็กซ์กับพนักงานนวด หลังจากถูกกระตุ้นอารมณ์ด้วยการนวด) ล้วนเสี่ยงต่อการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นโรคเอดส์ โรคซิฟิลิส โรคตกขาว และโรคมะเร็งปากมดลูก เพราะแม้จะมีการใส่ถุงยางอนามัยก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถป้องกันโรคต่างๆได้ 100% ทั้งนี้เพราะระหว่างที่มีความสัมพันธ์อาจเกิดปัญหาถุงยางรั่วหรือฉีกขาด อีกทั้งการดื่มเหล้า-เบียร์ในงานปาร์ตี้สวิงกิ้ง หรือดื่มเพื่อกระชับสัมพันธ์ก่อนมีเซ็กซ์ ก็มักทำให้การใส่ถุงยางไม่สมบูรณ์ และมีจำนวนไม่น้อยที่ขาดสติเกินกว่าจะใส่ถุงยางก่อนมีเพศสัมพันธ์

เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าคนที่เรารู้จักเขาชั่วข้ามคืนนั้นไม่ได้กำลังเป็นเอดส์ อีกทั้งการที่เขามีพฤติกรรมส่ำส่อนทางเพศก็แปลว่าเขามีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคนี้ ความตื่นเต้นชั่วครั้งชั่วคราวถ้าต้องแลกกับความทุกข์ทรมานทั้งชีวิตผมว่าก็คงไม่คุ้มกัน ดังนั้นรู้จักยับยั้งชั่งใจและมีเพศสัมพันธ์เฉพาะกับคู่ของคุณจะดีกว่า”

* * * * * * * * * * *

เรื่อง – จินดาวรรณ สิ่งคงสิน







กำลังโหลดความคิดเห็น