สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายภัตตาหารแด่พระพิธีธรรมที่สวดพระอภิธรรมพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ
วันนี้ (13 ม.ค.) เมื่อเวลา 06.57 น.สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อทรงประกอบพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล ในการพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และถวายภัตตาหารเช้าแด่จำนวนพระสงฆ์ 8 รูป จากวัดสุทัศนเทพวราราม และวัดประยูรวงศาวาส ท่ามกลางประชาชนรอรับเสด็จฯ จำนวนมาก
ต่อมาเมื่อเวลา 10.59 น.สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อทรงประกอบพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และถวายภัตตาหารเพล
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม ประจำทั้งกลางวันและกลางคืน และรับพระราชทานฉันเช้า 8 รูป ฉันเพล 8 รูป กำหนด 100 วัน
ซึ่งในแต่ละวันจะมีพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมและประโคมย่ำยามทุก 3 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 06.00-24.00 น.สำหรับยอดของผู้ที่ขึ้นกราบถวายสักการะพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม ถึงเมื่อวานนี้ (12 ม.ค.) รวมทั้งสิ้น 52,892 คน ขณะที่ยอดเงินที่ประชาชนร่วมถวาย ทั้งสิ้น 4,804,322.25 บาท
ขณะที่บรรยายการถวายสักการะพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทางสำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระศพ ตั้งแต่เวลา 08.00 น.เศษ โดยมีประชาชนทุกหมู่เหล่าหลั่งไหลเดินทางมาถวายสักการะพระศพกันอย่างเนืองแน่น ไม่ขาดสาย จนเจ้าหน้าที่ต้องมีการปรับทางเข้า-ออก โดยให้ประชาชนสามารถเข้ามาภายในพระบรมมหาราชวัง ทางประตูวิมานเทเวศร์ แทนประตูวิเศษไชยศรี เป็นการชั่วคราว จากนั้นให้ต่อแถวบริเวณสนามหญ้าหน้าศาลาสหทัยสมาคม โดยจัดเป็นกลุ่มๆ ละ 100 คน แล้วทยอยเข้าถวายสักการะพระศพได้ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่เดินทางมาเป็นหมู่คณะ มีการแขวนป้ายชื่อและสัญลักษณ์ เพื่อป้องกันการพลัดหลงเนื่องจากมีประชาชนหลั่งไหลมากันเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ทางสำนักพระราชวังยังได้จัดหน่วยแพทย์-พยาบาล ตามจุดต่างๆ เพื่อคอยปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้แก่ประชาชนด้วย
วันนี้ (13 ม.ค.) เมื่อเวลา 06.57 น.สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อทรงประกอบพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล ในการพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และถวายภัตตาหารเช้าแด่จำนวนพระสงฆ์ 8 รูป จากวัดสุทัศนเทพวราราม และวัดประยูรวงศาวาส ท่ามกลางประชาชนรอรับเสด็จฯ จำนวนมาก
ต่อมาเมื่อเวลา 10.59 น.สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อทรงประกอบพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และถวายภัตตาหารเพล
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม ประจำทั้งกลางวันและกลางคืน และรับพระราชทานฉันเช้า 8 รูป ฉันเพล 8 รูป กำหนด 100 วัน
ซึ่งในแต่ละวันจะมีพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมและประโคมย่ำยามทุก 3 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 06.00-24.00 น.สำหรับยอดของผู้ที่ขึ้นกราบถวายสักการะพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม ถึงเมื่อวานนี้ (12 ม.ค.) รวมทั้งสิ้น 52,892 คน ขณะที่ยอดเงินที่ประชาชนร่วมถวาย ทั้งสิ้น 4,804,322.25 บาท
ขณะที่บรรยายการถวายสักการะพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทางสำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระศพ ตั้งแต่เวลา 08.00 น.เศษ โดยมีประชาชนทุกหมู่เหล่าหลั่งไหลเดินทางมาถวายสักการะพระศพกันอย่างเนืองแน่น ไม่ขาดสาย จนเจ้าหน้าที่ต้องมีการปรับทางเข้า-ออก โดยให้ประชาชนสามารถเข้ามาภายในพระบรมมหาราชวัง ทางประตูวิมานเทเวศร์ แทนประตูวิเศษไชยศรี เป็นการชั่วคราว จากนั้นให้ต่อแถวบริเวณสนามหญ้าหน้าศาลาสหทัยสมาคม โดยจัดเป็นกลุ่มๆ ละ 100 คน แล้วทยอยเข้าถวายสักการะพระศพได้ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่เดินทางมาเป็นหมู่คณะ มีการแขวนป้ายชื่อและสัญลักษณ์ เพื่อป้องกันการพลัดหลงเนื่องจากมีประชาชนหลั่งไหลมากันเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ทางสำนักพระราชวังยังได้จัดหน่วยแพทย์-พยาบาล ตามจุดต่างๆ เพื่อคอยปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้แก่ประชาชนด้วย