xs
xsm
sm
md
lg

ยามเฝ้าแผ่นดิน : อัด “หมัก” ไม่หยุดลามปาม “ป๋า” - แนะ คมช.แจ้งจับ พปช.ปลอมเอกสารลับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ยามเฝ้าแผ่นดิน” ตำหนิ “สมัคร” จงใจยั่งยุลามปาม “ป๋าเปรม” ไม่หยุด น่าสงสัยมีจุดประสงค์มากกว่านั้นหรือไม่ พร้อมเชื่อ “ประชัย” ฝ่าด่านมรสุมได้แน่ ชี้ทางสว่าง คมช.อยากหลุดบ่วง “เอกสารลับ” ต้องไปแจ้งความเอาผิด พปช.ฐานปลอมแปลงเอกสาร และยื่น กกต.ให้ยุบพรรคฐานทำผิด กม.เลือกตั้ง

สโรชา - สวัสดีค่ะคุณผู้ชม ขอต้อนรับเข้าสู่รายการ “ยามเฝ้าแผ่นดิน” วันที่ 3 ธันวาคม 2550 วันนี้เข้ารายการแปลกซักเล็กน้อย สะดุดเล็กน้อย

คำนูณ - คือพอ พอ

สโรชา - พิธีกรไม่ทราบ

คำนูณ - พอเพลงจบจะยกมือ ปึ้งๆ ขึ้นมา สนับสนุนโดย

สโรชา - เลยงงเล็กน้อย

คำนูณ - เพราะฉะนั้นเพื่อแก้ปัญหาความงงนะครับ ต่อไปทุกเบรกต้องมีให้ครบ

สโรชา - ควรจะมีให้ครบ สปอนเซอร์

คำนูณ - อย่าซ้ำนะ

สโรชา - มีมาเรื่อยๆ แปลกหน้ามา ดีค่ะ เงินจะได้ไหลมาเทมา มีข่าวประชาสัมพันธ์เล็กน้อยก่อนไปเข้าข่าว พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ และคณะกรรมการสมาคมศิษย์เก่าอัญสัมชัญ ลำปาง เชิญศิษย์เก่าอัญสัมชัญ ลำปาง ไปร่วมงานสังสรรค์เปิดโลกทัศน์อัญสัมชัญ ลำปาง กึ่งศตวรรษ วันที่ 7 ธันวาคม เวลา 18.00 น.ที่ห้องพินทอง อาคารฐานเศรษฐกิจ ถนนวิภาวดีรังสิต สามารถซื้อบัตรหน้างานได้ในราคา 500 บาท ก็เรียนให้ทราบกัน เมื่อวานนี้เป็นวันที่หลายฝ่ายติดตามและชมการถ่ายทอดสดในช่วงเย็น สำหรับพิธีการ พระราชพิธีสวนสนาม และได้ฟังกระแสพระราชดำรัสขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีหลายตอนที่พระองค์ท่านตรัสและมีการนำมาตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เช้าวันนี้ บางช่วงบางตอนที่พระองค์ท่านตรัสมีดังนี้ "สถานการณ์บ้านเมืองเราในทุกวันนี้ เป็นที่ทราบแก่ใจเราทุกคนอยู่สืบแล้วว่าไม่น่าไว้วางใจ พูดได้ว่าหากคนไทยขาดความสำนึกในชาติ ขาดความสามัคคีก็อาจประสบเคราะห์กรรมกันทั้งชาติ" ในช่วงอื่นๆ ก็มี พระองค์ท่านทรงตรัสว่า "จึงขอให้ทหารทุกคน และชาวไทยทุกคนทุกหมู่ทุกเหล่า" ได้พิจารณาตัดสินใจว่าประเทศชาติของเรานั้นสำคัญ ควรที่เราจะรักษาไว้ยั่งยืนต่อไป หรือไม่" มีหลายฝ่ายคะที่ออกมาน้อมรับ กระแสพระราชดำรัสของพระองค์ท่าน พรรคการเมืองหลายต่อหลายพรรคก็น้อมรับ ทหาร ผบ.ทบ. ก็ออกมาน้อมรับนะคะ มีบางส่วนที่นักข่าวไปสัมภาษณ์ โดยเฉพาะหัวหน้าพรรคการเมืองไม่ว่าจะเป็น คุณอภิสิทธิ์ หรือว่าอีกหลายๆ ท่าน ที่ออกมาน้อมรับแต่ว่ามีอยู่ท่านหนึ่ง หัวหน้าพรรคพลังประชาชน คุณสมัคร สุนทรเวช นักข่าวไปถามนะคะว่า พระองค์ท่านตรัสเมื่อวานนี้ ทางพรรคพลังประชาชนได้นำไป น้อมรับพิจารณาอย่างไร คุณสมัคร บอกว่าอย่างนี้ค่ะ "พระราชดำรัสของในหลวงอยู่เหนือเกล้าฯ อยู่ในใจไทยทุกคน แต่คนที่อยู่ใกล้ชิดมาพูดจากระแทกแดกดัน ตอนที่เขาจะเลือกตั้ง ผมก็ต้องไปกระแทกแดกดันกลับ ขณะผมยังไม่ได้เอ่ยชื่อ คนที่สงขลาก็ แหม เข้าใจเหลือเกินออกมาพูดกันยกใหญ่ ตัวเองจะยกย่องสรรเสริญก็ยกย่องไป แต่คนที่เขาไม่ยกย่องเป็นคนเลวหรือ ผมเป็นคนอย่างนี้ไม่ใช่คนดัดจริตดีดดิ้ง" นี่คือคำสัมภาษณ์ของคุณสมัคร วันนี้คุณสมัครไปหาเสียงที่ เขตสายไหมนะคะ ไปเปิดศูนย์ประสานงานพรรคที่เขตนั้น แล้วก็ไปปราศัยย่อย พูดช่วยผู้สมัครในเขต 5 ด้วย และก็มีบางช่วงบางตอน คุณสมัครบอกว่าเวลานี้บ้านเมืองเกิดความประหลาด กำหนดให้พรรคนั้น พรรคนี้ได้เป็นรัฐบาลรวมถึงมีการกำหนด ว่าคนนั้นคนนี้จะเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ได้บริหารบ้านเมืองมาดีๆ แต่มีคนกลุ่มหนึ่งอิจฉา ไม่มีน้ำอดน้ำทน ไม่ชอบอดีตนายกก็ก่อการยึดอำนาจอย่างไม่มีเหตุผล ตัวคนที่อิจฉาไม่เก่งจริงเลยใช้คนอื่น ปลุกระดมตามข้างถนน จนเกิดการยึดอำนาจขึ้น และนำเอาสถาบันพระมหากษัตริย์มาเหยียบย่ำพรรคการเมือง นี่คือสิ่งที่คุณสมัครพูด ในวันนี้แค่บางช่วงนะคะ ยังมีช่วงอื่นๆ ที่ค่อนข้างจะล่อแหลมพอสมควร แต่ก็อันนี้แหละเป็นส่วนสำคัญ

คำนูณ - ก็ต้องถือว่าคุณสมัคร นั้นพุ่งเป้าโจมตีไปที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ

ปานเทพ - จริงๆ ต้องถือว่า 2 วัน ติดต่อกันนะครับ แล้วก่อนหน้านี้ก็มีเป็นระยะๆ แต่ว่าช่วงนี้ถี่หน่อยโดยเฉพาะหลังจากที่ พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ได้อันเชิญกระแสพระราชดำรัสในเรื่องของการที่ อย่าให้คนไม่ดีมาปกครองบ้านเมืองนะครับ ก็เป็นสิ่งที่ทำให้หลายๆ คนนั้นต้องรับฟังนะครับ แต่ก็ทำให้คุณสมัคร สุนทรเวช จะมองลักษณะที่ ต่อต้าน พล.อ.เปรม อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยนานแล้ว ตั้งแต่สมัยที่อยู่ ททบ.5

คำนูณ - ถ้าโดยความที่เป็นคุณสมัคร สุนทรเวช ก็ไม่แปลก เพราะว่าพูดมาต่อเนื่อง ตั้งแต่ก่อนรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 แล้ว ตั้งแต่จัดรายการอยู่กับ อ.ดุสิต ศิริวรรณ ทางช่อง 5 คงจะจำกันได้ แล้วก็ เป็นที่ทราบกันดี คุณสมัคร สุนทรเวช นั้น ท่านก็มีอคติต่อ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ตั้งแต่สมัยที่ พล.อ.เปรม นั้นเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วก็ พรรคประชากรไทยของคุณสมัคร สุนทรเวช ได้เป็นรัฐบาลอยู่ไม่นาน ผมเข้าใจว่า 1-2 ปี แต่ว่าในช่วง 8 ปีของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ท่านใช้บริการของพรรคประชาธิปัตย์ เกือบจะเรียกว่าตลอดทั้ง 8 ปี คุณสมัครก็เลยค่อนข้างจะ จะเรียกว่ามีอคติ หรือมีความไม่พอใจ หรือมีความปักใจเชื่อว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ท่านสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด แล้วในคอนเซ็ปต์ความคิดของคุณสมัครก็ดี ของอดีตพรรคไทยรักไทยในขณะนั้นก็ดี มองว่า กระแสการโค่นล้มคุณทักษิณ ชินวัตร รัฐบาลคุณทักษิณ ชินวัตรนั้น เบื้องหลังคือ พรรคประชาธิปัตย์ และต่อเนื่องมาถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ และเชื่อมโยงมาถึงเหตุการณ์ตอนนี้ว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ยังคงมีบารมี มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง และเป็นมือที่มองไม่เห็น ที่พยายามจะจัดตั้งรัฐบาลผสม โดยมีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกน ไม่ว่าพรรคพลังประชาชนจะได้รับเลือกเข้ามามากกว่าหรือน้อยกว่าพรรคประชาธิปัตย์ก็ตาม อันนี้ก็คือประเด็นที่ทางฝ่ายนี้เขาพูดจาโดยเปิดเผยอย่างต่อเนื่อง อันนี้คือสิ่งที่เขาพูดจาโดยเปิดเผย แต่เขาไม่ใส่ใจรับฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าการพูดจาแบบนี้มันไม่เหมาะสม จริงอยู่ครับ องคมนตรี ประธานองคมนตรีนั้นเป็นบุคคลธรรมดาไม่ใช่เจ้า ไม่ใช่ขุนนางอะไร ใครจะพูดจาอะไรก็พูดได้ แต่พูดกันตรงๆ ก็คือ โดยความบริสุทธิ์ โดยความเหมาะสมแล้ว น่าจะให้เกียรติในฐานะที่ท่านเป็นประธานองคมนตรี เพราะว่าการพูดจาไปมันค่อนข้างก้ำกึ่ง หรือค่อนข้างหมิ่นเหม่ที่คนจะตีความได้ว่า ที่คุณพูดแบบนี้คุณมีเจตนาที่นอกเหนือจากนี้ไปหรือเปล่า เราจะเห็นได้ว่า เรื่องนี้เราวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอด แล้วเราก็ต่อสู้ปกป้อง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ มาโดยตลอด ไม่ใช่เพราะปกป้อง พล.อ.เปรม แต่ว่าเพราะเห็นท่านทำหน้าที่ประธานองคมนตรี คือพูดจาไปแบบนี้ ก็เชื่อมโยงให้เห็นว่า กลุ่ม นปก.ในอดีตก็ดี เขามีแนวความคิดอย่างไร หรือบุคคลกลุ่มหนึ่งที่มาประกอบส่วนเป็นอดีตพรรคไทยรักไทย เขามีแนวความคิดเป็นอย่างไร อดีตความเป็นมาเขาเป็นอย่างไร เขามีความเชื่อมั่นว่า ระบอบการปกครองบ้านเมืองที่ถูกที่ควรในมุมมองของพวกเราควรจะเป็นอย่างไร ซึ่งเขาเป็นคนที่มีที่มาที่แตกต่างจากคุณสมัคร สุนทรเวช คุณสมัคร สุนทรเวช น่าจะลดอัตตา ลดอคติ แล้วก็ทำจิตให้ว่าง ลองดูว่าสิ่งต่างๆ นั้นมันมีความเป็นมาอย่างต่อเนื่องประการใด ก็คงพูดได้แค่นี้

สโรชา - วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ ถึงแม้ว่าคุณสมัครพูดในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชาชน แต่ไม่ได้หมายความว่า เป็นการพูดในฐานะตัวแทนพรรคพลังประชาชนซะทีเดียว เพราะว่า ในขณะเดียวกันที่คุณสมัครไปหาเสียงที่เขตสายไหม ก็มีการให้สัมภาษณ์ทีมนโยบายของพรรค คุณปลอดประสพ สุรัสวดี ในฐานะที่เป็นผู้สมัคร ส.ส.แบบสัดส่วน ด้วย และเป็นหนึ่งในทีมนโยบายของพรรค ก็ออกมาแถลงว่า ช่วงเช้าวันนี้พรรคพลังประชาชนมีการประชุมกัน และมีมติว่า พรรคจะน้อมรับพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ขอให้ทุกคนรู้รักสามัคคี ลดอคติ ไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม เพราะฉะนั้นก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เราเห็นความแตกระหว่าง คุณสมัคร สุนทรเวช และพรรคพลังประชาชน ที่สำคัญก็คือว่า คุณปลอดประสพ พูดต่อว่าในช่วงนี้การหาเสียงคงจะเบาลง เพราะว่าต้องการให้ทุกคนนั้น หันไปตั้งอกตั้งใจและก็ติดตามให้ความสนใจ งานเฉลิมฉลองมากกว่า เพราะฉะนั้นก็จะเห็นว่าช่วงนี้ พรรคพลังประชาชนคงจะทำการหาเสียงแบบเบาๆ มากกว่าการที่จะทำอะไรให้เอิกเกริก ที่แน่ๆ ถามต่อว่า คุณสมัคร สุนทรเวช, คุณเฉลิม อยู่บำรุง นั้นจะดำเนินตามมตินี้หรือเปล่า ที่จะหาเสียงแบบเบาลงนี้ คุณปลอดประสพ บอกว่าขอจับตาดูก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และหากพบว่าบุคคลใดในพรรคไม่ปฎิบัติ ตนก็จะเข้าไปสะกิดแบบถึงตัวเหมือนกันนะคะ

ปานเทพ - พูดถึงกระแสพระราชดำรัส แน่นอนว่าไม่มีใครควรจะนำมาวิจารณ์ หรือวิเคราะห์ต่อ เพราะว่ากระแสพระราชดำรัสนั้นมีความครบถ้วนบริบูรณ์ ที่ประชาชนชาวไทยทุกคน จนถึงนักการเมืองทุกคนต้องน้อมเกล้า ใส่เกล้า ใส่กระหม่อมนะครับ แต่ว่าเวลานักการเมืองเขาหยิบยก อันเชิญกระแสพระราชดำรัสว่ามาน้อม ใส่เกล้า ใส่กระหม่อม ผมอยากใส่ให้ครบครับ คือการที่บอกว่าต้องมีความสามัคคี และลดอคติ อาจจะยังไม่ครบ ที่จริงยังมีอีกหลายคำที่มีคุณค่า ที่หลายคนต้องคิด ไม่ว่าจะเป็นจิตสำนึกต่อบ้านเมือง ความซื่อสัตย์สุจริตนะครับ รวมไปจนถึงในเรื่องของการที่จะต้องทำทุกวิถีทาง ที่จะทำให้บ้านเมืองนั้นเกิดความสามัคคีจนถึงที่สุดนะครับ ก็คิดว่าส่วนใดส่วนหนึ่ง คงจะไม่ได้ แต่ว่าทุกส่วนมีส่วนที่สำคัญ

คำนูณ - คืออย่าเลือกหยิบมาใช้ เฉพาะที่ตรงใจตัว หรือว่าอย่าเลือกใช้ขาดหรือเกิน แต่ว่ายกมาก็ให้ครบถ้วนใจความไปเลย อย่างที่ผ่านมาเราก็พูดเรื่องกระแสพระราชดำรัสองค์ต่างๆ กันมาพอสังเขปนะครับ คือผมก็ไม่เห็นด้วยนะที่จะไม่ให้พูดถึง เพราะว่าถ้าไม่พูดถึงเราจะน้อมมาใส่เกล้าหรือ

สโรชา - ใช่, จะเข้าใจกันว่าอย่างไร

คำนูณ - แต่ก็คือให้ครบถ้วน แล้วก็คือเราอย่าไปแปลเข้าข้างตัว และอะไรที่มันเป็นนามธรรม ผมว่าก็ขึ้นอยู่กับปัญญาของผู้ฟัง ที่จะไตร่ตรองจากสถานการณ์ของบ้านเมือง และก็วิเคราะห์วิจารณ์กันเอง อย่างกรณี คุณสมัคร วันนี้ก็พูดดีก็คือว่า ไม่ควรที่จะไปขยายความ แต่ว่าคุณสมัครแกไปพูดนั้น แกไม่ยอมเลิกพูด เรื่องเหตุของการปฎิวัติสักทีหนึ่ง แล้วแกก็พูดซ้ำพูดซากอยู่ตรงนั้น แกอาจจะมีความฝังใจซึ่งมันไม่เป็นผลดีเลย ผมเชื่อว่าคนในพรรคพลังประชาชนเอง บางส่วนเขาก็คงไม่ค่อยสบายใจกับท่าทีของหัวหน้าพรรคของเขาอย่างนี้นัก

สโรชา - คือคุณสมัครก็ยอมรับเองนะคะ ช่วงนี้เวลาหาเสียง เวลาปราศัยไม่ได้พูดถึงนโยบายพรรคนะคะ คือจะพูดแต่เรื่องของการปฎิวัติ ทำไมถึงไม่ควรปฎิวัติ ก่อนที่จะปฎิวัตินั้น บ้านเมืองเป็นอย่างไร อย่างนี้มากกว่าและตัวแกเองก็ยอมรับว่าเป็นอย่างนี้จริงๆ

คำนูณ - และสื่อก็จะคอยจับจ้องแกแหละ

ปานเทพ - ครับ, เป็นกระแสข่าวครับ

คำนูณ - ใช่, ทั้งๆ ที่พรรคพลังประชาชนเขาก็มีสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นของดีนะครับ อย่างกรณีหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ คุณมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ และมีคนวิจารณ์ว่า แหม! มันเป็นนักการตลาดเกินไป แต่ว่าเราเห็นลีลาคุณมิ่งขวัญแล้ว เราก็ต้องยอมรับระดับหนึ่งนะ ลีลาแกก็สุดยอดก็คือว่า โอ้โห! สามารถสร้างสรรค์อะไร ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็อีกเรื่องหนึ่งนะครับ แต่ว่าพอกระแสของหัวหน้าพรรคพูดอย่างนี้ มันก็ทำให้ไปกลบกระแสอื่น ของพลังประชาชนไปหมดเลย หรือว่ามันเหมือนคล้ายๆ กับพลังประชาชนเขาต้องการยั่วยุหรือเปล่า

ปานเทพ - จะพูดว่าอย่างนี้ดีกว่า ผมมองว่าพลังประชาชนตอนนี้ เอาการเมืองและเชื่อว่าคนจะเลือกพรรคพลังประชาชน เพราะเหตุผลทางการเมือง มากกว่าเหตุผลทางด้านนโยบาย หรือเศรษฐกิจ แต่ถามจริงๆ นะครับ วันนี้นโยบายแต่ละพรรค ที่นำมาเสนอนั้น ผมว่าหลายคนจำไม่ได้นะ

สโรชา - ถูกคะ

ปานเทพ - เพราะว่าทุกคนเริ่มมีความรู้สึกว่าประชานิยมนั้น หรือว่าการนำเสนอทางเลือก ที่ว่าถึงตัวประชาชนได้ประโยชน์โดยตรง มันเป็นความรู้สึกที่ทุกคน ทุกพรรค ทำคล้ายกันไปหมดแล้ว

สโรชา - อืม ทุกพรรคมี

ปานเทพ - จนทำให้หลายๆ คนรู้สึกว่า เรื่องของการ ลด แลก แจก แถม เป็นเรื่องปกติที่ทุกพรรคการเมืองต้องมี พรรคพลังประชาชนก็เลยดูเหมือนว่า จะเน้นหนักในเรื่องของการเมืองเป็นหลัก การให้เอาชนะทางความคิด ทางการเมือง ว่าการเมืองในระบอบปกตินี้ ถูกต้องแล้ว ที่อยู่กับคุณทักษิณ นั้นเป็นปกติทุกอย่าง ไม่มีอะไรผิดปกติซักอย่างเลย ที่น่าเสียดายก็คือ คุณสมัคร สุนทรเวช ไม่ยอมรับความจริงในบางเรื่อง

สโรชา - เรื่องอะไรคะ

ปานเทพ - เรื่องของการที่การทุจริต และการคอรัปชั่นเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางจริงหรือไม่ ในรัฐบาลชุดที่แล้วนะครับ และจริงหรือไม่ ที่การแทรกแซงองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญนี้ เกิดขึ้นจริงหรือเปล่า เกิดการขัดขวางการตรวจสอบมากมาย จริงหรือไม่ ส.ว. หรือสมาชิกวุฒิสภา ถูกแทรกแซงมีการจ่ายเงินเดือนเหล่านี้ จริงหรือไม่นะครับ รวมถึงในเรื่องของการแทรกแซง และการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพ การเสนอข่าวสารของสื่อสารมวลชน จริงหรือไม่ มากมายนะครับ ไม่พูดถึงเลยนะครับ

สโรชา - คุณสมัครก็จะพูดถึงแต่ว่า เป็นเรื่องที่คุณทักษิณ ต้องกลับมาสู้คดีในชั้นศาล ซึ่งก็พูดชัดเจนนะคะ ว่าถ้าเกิดพลังประชาชนได้จัดตั้งรัฐบาลจริงๆ รอให้มีสภาให้เรียบร้อยก่อน รอให้ทุกอย่างเงียบก่อน และคุณทักษิณได้กลับแน่

ปานเทพ - ครับ, ผมก็คิดว่าตรงใจ คตส. นะ และก็ตรงใจหลายหน่วยงาน ที่กำลังรอคุณทักษิณกลับมา

คำนูณ - ตรงใจพวกเราด้วย

ปานเทพ - ครับ, เราก็อยากให้คุณทักษิณกลับมา และก็พิสูจน์ไปตามกระบวนการยุติธรรม ที่ควรจะต้องเป็นนะครับ

สโรชา - คะ, วันนี้ข่าวใหญ่อีกข่าวหนึ่งแน่นอน คุณผู้ชมก็คงจะได้ติดตามชมไปแล้ว ข่าวของ คุณ ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ หัวหน้าพรรคมัชฉิมาธิปไตยนะคะ ที่วันนี้ศาลอาญาได้พิพากษาในคดีปั่นหุ้น พิพากษาให้คุณประชัย เลี่ยวไพรัตน์ และคุณเชียรช่วง กัลยาณมิตร นั้นต้องติดคุก 3 ปี และก็ปรับอีกคนละ 6,900 ล้านบาท ตรงนี้ก็มีการเสนอข่าวกันไป ทั้งช่วงบ่ายที่ผ่านมา แต่ที่สำคัญก็คือว่าในช่วงบ่ายๆ แก่ๆ เช่นเดียวกัน คุณประชัย เลี่ยวไพรัตน์ และคุณเชียรช่วง กัลยาณมิตร นั้นได้ประกันตัวออกมาแล้วนะคะ โดยศาลได้วิเคราะห์หลักทรัพย์ และเหตุผลแล้วได้อนุญาตให้ประกันตัวทั้ง 2 คน ตีราคาประกันคนละ 3 แสนบาท คุณประชัย ก็บอกว่าจะสู้คดีต่ออย่างแน่นอน ยังมั่นใจในกระบวนการยุติธรรมอยู่ และก็จะยื่นต่อศาลอุทธรณ์ และก็ศาลฎีกาต่อไป จนกว่าจะสิ้นสุดคดีนะคะ คุณประชัยบอกว่าทั้งหมดนี้ อยู่ที่ดุลพินิจของศาล แต่โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่าพวกที่มารับใช้ประชาชน มักโดนอย่างนี้เพราะอำนาจเก่ายังมีให้เห็นอยู่มากนะคะ บอกว่าเป็นแรงเสียดทานทางการเมือง ทำให้ต้องโดนผลกระทบมากขนาดนี้ แต่ยังไงก็ยังคงเดินสู้ต่อ เดินหน้าต่อไปในการเลือกตั้งด้วย ซึ่งก็ทำให้หลายฝ่ายออกมา ถกเถียงกันในเรื่องของคุณสมบัติในฐานะผู้สมัคร ส.ส.ว่าต้องคดีอย่างนี้แล้ว มีคำพิพากษาแล้ว คุณประชัยสามารถเดินหน้าทางการเมืองได้หรือไม่ ซึ่งมีการพูดถึงเหตุผล คุณคมสันต์ โพธิ์คง เป็นอดีตรองเลขานุการคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ บอกว่า คุณประชัยต้องคำพิพากษาของศาล ถ้าหากว่าไม่ได้ประกันตัว หรือประกันตัวและต้องติดคุกถึง 1 วัน ก็ถือว่าขาดคุณสมบัติ แต่ขณะนี้คือประกันตัวออกมาแล้ว ไม่จำเป็นต้องติดคุก เพราะฉะนั้นศาลไม่จำเป็นต้องออกหมายขัง จึงถือว่ายังไม่ขาดคุณสมบัติในการสมัคร แต่หากว่าเป็น ส.ส.ไปแล้วและมีการพิพากษาให้ถึงที่สุดและถูกจำคุก ตรงนั้นแหละจะขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส.

คำนูณ - คือ ก็ไม่ต้องเป็น อ.คมสันต์ โพธิ์คง หรือ อ.ศรีราชา เจริญพาณิชย์ ซึ่งผมเข้าใจว่านักข่าวคงไปสัมภาษณ์ที่รัฐสภา เพราะวันนี้ท่านไปประชุมกรรมาธิการ ผมก็เจอท่านทั้ง 2 คน คือถ้าอ่านรัฐธรรมนูญดูก็ชัดเจน คือ รัฐธรรมนูญมาตรา 96 บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คือ อนุ 1 ก็ว่าไป อนุ 2 ก็ว่าไป อนุ 3 ก็ว่าไป อนุ 4 ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล คุณประชัยต้องคำพิพากษาให้จำคุกจริงแต่ว่าไม่ได้ถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล ประเด็นคุณสมบัติการสมัคร ส.ส.ก็ตกไป ก็คือว่า อย่างไรก็มีคุณสมบัติสมัครแน่ จะให้ใครตีความอย่างไรประเด็นนี้ก็ชัดเจน แต่ว่าประเด็นที่เขาพูดกันต่อไป ซึ่งเป็นสเต็ปต่อไป สมมุติว่าได้รับเลือกเป็น ส.ส. แล้วพรรคมัชฌิมาธิปไตยได้เป็นหนึ่งในแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หรืออาจจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว คุณประชัยจะมีสิทธิเป็นรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีไหม

ปานเทพ - ได้ไหมครับ

คำนูณ - อันนี้ต้องวิเคราะห์กัน จะไปอยู่ที่มาตรา 170 รัฐมนตรีต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้ อนุ 1 ว่าไป อนุ 2 อนุ 3 อนุ 4 ประเด็นที่ต้องพิจารณาคือ อนุ 5 ไม่เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึง 5 ปีก่อนได้รับแต่งตั้ง เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ ไม่เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุก อันนี้จะมีผู้คนมีความเห็นออกเป็น 2 ทาง ทางหนึ่งก็คือว่า มันต้องคำพิพากษาถึงที่สุด ถ้าอยู่ระหว่างการอุทธรณ์ การฎีกา การต่อสู้คดี ก็ไม่น่าจะเข้ากับมาตรานี้ แต่ว่าอีกส่วนหนึ่งก็เห็นอีกทางหนึ่ง ซึ่งผมว่าในเรื่องนี้คงไม่จำเป็นต้องพูดถึงขั้นนั้น เอาเป็นว่าในชั้น ส.ส. คุณประชัยมีคุณสมบัติครบถ้วนบริบูรณ์

ปานเทพ - ที่จะสมัครได้ เทียบกับคนก่อนหน้านี้ คุณจตุพร พรหมพันธุ์ เป็นอย่างไรคุณคำนูณ

คำนูณ - คุณจตุพรเขาถูกศาลมีหมายขัง แต่ว่าศาลยังไม่ได้ตัดสิน ยังไม่มีคำพิพากษา

ปานเทพ - ต้องถือว่ายังไม่มีคำพิพากษา

คำนูณ - แต่กรณีคุณประชัย ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้วก็ศาลท่านไม่รอลงอาญาด้วย เพียงแต่คุณประชัยได้รับการประกันตัวมาระหว่างการอุทธรณ์ โดยปกติคดีประเภทนี้อุทธรณ์ ฎีกา ผมว่าคงอีกหลายปี

ปานเทพ - กว่าจะถึงขั้นสูงสุดจนถึงพิพากษาจนถึงที่สุดไม่ว่าจะอุทธรณ์หรือว่าฎีกา

คำนูณ - เป็นปีๆ แต่ว่าในชั้นเรื่อง ส.ส.ไม่มีประเด็นให้ต้องถกเถียงกันเลย เพราะฉะนั้นท่านใดที่ต้องการเลือกคุณประชัย เลี่ยวไพรัตน์ บัญชีรายชื่อของพรรคมัชฌิมาธิปไตย ในกลุ่ม 6 เบอร์อะไรผมไม่จำเป็นต้องพูด ก็คือเลือกได้

ปานเทพ - ยังเลือกได้

คำนูณ - เลือกได้โดยไม่ต้องกลัวเสียของ

ปานเทพ - ไม่ต้องสงสัย

คำนูณ - ไม่ต้องสงสัยว่าจะขาดคุณสมบัติ เดี๋ยวเราเลือกไปแล้วจะเสียของหรือเปล่า เพราะเดี๋ยวบางทีมันมีวิชามารนะของคู่ต่อสู้ เวลาเขาไปหาเสียงในพื้นที่บอก

ปานเทพ - เลือกไปเสียของ

คำนูณ - เลือกไปเสียของ

ปานเทพ - ผิดกฎหมาย อย่างนี้ก็มีนะครับ

คำนูณ - อย่างไรเขาก็ไม่ได้เป็น ส.ส.ขาดคุณสมบัติ หรืออะไรทำนองนี้ ก็คือว่าเลือกไปได้เลยครับ

สโรชา - เรื่องนี้ต้องระวังนะ เพราะเชื่อว่าคงจะต้องมีแน่ๆ มีไม่ใบปลิวก็

คำนูณ - คือถ้าใครอย่าเลือกเบอร์ 15 คุณประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ก็เลือกไป ถ้าไม่อยากเลือกเพราะไม่ชอบ หรือชอบคนอื่นมากกว่า ก็แล้วแต่ท่านตัดสินใจ แต่ว่า

ปานเทพ - ยังเลือกได้

คำนูณ - อย่าไปตกหลุมคนมาปล่อยข่าวว่า

สโรชา - ขาดคุณสมบัติแล้ว

คำนูณ - เลือกไป พวกมัชฌิมาเลือกไปก็ไม่ได้อะไร ไม่เกี่ยว เพราะผมเชื่อว่า คนที่ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านฝนมาอย่างคุณประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ผ่านอุปสรรคกวากหนามมาทุกสิ่ง ทุกประการ ผมคิดว่าอุปสรรคแค่นี้มันเหมือนเป็นเบ้าหลอมที่จะพิสูจน์ความเป็นนักสู้ในอีกขั้นหนึ่งของคุณประชัย เลี่ยวไพรัตน์

ปานเทพ - จะว่าไปก็คือ จังหวะของคุณประชัยที่มีข่าวสารมาหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นกระแสในพรรค

สโรชา - เรายังคุยกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วอยู่เลย

ปานเทพ - ใช่ มาจนถึงวันนี้ยังถือว่าเป็นกระแสที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่ถาโถมเข้าสู่ชีวิตคุณประชัยเยอะมากนะ ก็ต้องบอกว่า จังหวะแบบนี้ถ้าเป็นจังหวะปกติคงไม่เป็นไรคุณประชัยก็สู้กับการขึ้นศาลต่อสู้ทางคดีความเยอะมากอยู่แล้ว

สโรชา - คือสู้เป็นปกติอยู่แล้วค่ะ

ปานเทพ - เยอะมากหลายคดีอยู่แล้ว แต่บังเอิญคดีนี้มามีคำพิพากษาในช่วงศาลชั้นต้น ก็เลยต้องพูดได้คำเดียวว่าเป็นจังหวะที่ทำ ต้องพูดได้ว่าเป็นจังหวะที่ต้องแสดงความเห็นใจคุณประชัยจริงๆ เนื่องจากเป็นจังหวะที่อยู่ช่วงเลือกตั้งพอดีด้วย

คำนูณ - คือ เราพูดเรื่องนี้ ผมเองอยากจะพูดมากกว่านี้แต่ต้องระมัดระวัง คือในประเด็นสำคัญ คุณประชัยพูดถูกแล้วว่า ก็จะต้องต่อสู้คดีถึงที่สุด และหวังในความปรานีของศาลตามขั้นตอนกันไป ไม่ต้องวิพากษ์วิจารณ์กันว่า เหตุ รูปการณ์แห่งคดีนั้นเป็นอย่างไร เพราะถ้าเราจะเล่ามันก็คงมีความละเอียดละออพิศดาร แต่ว่าประการหนึ่งต้องเข้าใจว่า ในช่วงที่คดีนี้ถูกหยิบยกขึ้นมา แน่นอนไม่ใช่ช่วงที่คุณประชัยตั้งพรรคมัชฌิมาธิปไตย ไม่ใช่ช่วงคุณประชัยจะเข้าสู่การเมือง แต่ว่าต้องยอมรับว่า ตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา คุณประชัยเป็นนักสู้ที่ปกป้องธุรกิจของตัวเองจากการพยายามเข้ามาครอบงำ พยายามเข้ามายึดกิจการของตัวเองไปโดยรูปการณ์ต่างๆ จากกลุ่มต่างๆ ชนิดที่เรียกว่า ถึงลูกถึงคน และชนิดที่เรียกว่า

ปานเทพ - โหดเหี้ยม

คำนูณ - ไม่ยอมแพ้ เพราะฉะนั้น ที่สำคัญคือเป็นการสู้กับอำนาจรัฐ

ปานเทพ - ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ

คำนูณ - ในแต่ละยุคแต่ละสมัยด้วย ก็คือตั้งแต่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ มาจนรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ตั้งแต่แบงก์กรุงเทพ มาจนในที่สุดก็เป็น ปตท. เป็นกระทรวงการคลัง คุณประชัยเคยหมดความหวังกับรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ในยุคนั้น ซึ่งอาจจะไม่ใช่ทุกคน เคยมีความหวังกับคุณทักษิณ ชินวัตร

ปานเทพ - ก็ต้องผิดหวังอีก

คำนูณ - ก็ต้องผิดหวังไป ก็ดูเหมือนว่าจะมีความหวังขึ้นมานิดหนึ่ง แต่ว่าพอรัฐบาลคุณทักษิณ ชินวัตร นั้นส่งคนเข้าไปดูแล พอเห็นตัวเลข เห็นศักยภาพของกลุ่มทีพีไอ ของคุณประชัย ประกอบกับโลกยุคใหม่ กิจการพลังงานที่คุณประชัยลงทุนไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งใครจะมาลงทุนตอนนี้มันต้องใช้เงินอีกมหาศาล ก็อาจจะเกิดมีความอยากได้ใครดี หรือมองเห็นช่องทางต่อไปขึ้นมา พอคุณประชัยสู้กับอำนาจรัฐขนาดนี้แล้ว เพราะฉะนั้น แรงถั่งโถมที่จะมาจากทุกทางมันจะมีมาก คงจะจำกันได้ คุณแอ้มก็เคยเจอมาว่า เรื่องการฟ้องคดีความก็เป็นเหตุหนึ่งของการต่อสู้เพื่อหยุดยั้งคุณไง คุณจะสยบไหม คุณสนธิ ลิ้มทองกุล จะสยบไหม คุณแอ้มจะสยบไหม คุณประชัยเจอคดีที่มีโทษอย่างนี้จะสยบไหม อันนี้เป็นเรื่องที่เกิดจากอำนาจรัฐที่นำคดีขึ้นมาในแต่ละยุคแต่ละสมัย ซึ่งถ้าเราจะพูดกันเราต้องยอมรับว่า ผมจะไม่พูดหรอกว่าใครผิดใครถูก ต้องถือตามคำพิพากษาของศาล

ปานเทพ - ว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม

คำนูณ - แม้ว่าจะยังไม่ถึงที่สุด แต่ถ้าพูดจาแบบชาวบ้าน ในประเทศนี้มันมีการปั่นหุ้นแค่ 1-2 รายหรืออย่างไร ไอ้หุ้นที่เกี่ยวกับนักการเมืองต่างๆ เราเคยได้ยินกันมามากมายมหาศาล

ปานเทพ - ซึ่งมีชื่อคนนั้น คนนี้เข้าไปปั่นข่าว

คำนูณ - หุ้นที่เกี่ยวกับรัฐมนตรี แม้กระทั่งหุ้นที่เกี่ยวกับนายกรัฐมนตรี หรือว่า พูดกันตรงๆ คนที่เป็นนายกรัฐมนตรีใช่ไหม

สโรชา - แก๊งปั่นหุ้นที่ไปนั่งอยู่หน้า

คำนูณ - ออกข่าวรายวันถึงเรื่องนโยบายต่างๆ ของรัฐ และมีส่วนทำให้หุ้นของบางบริษัทมีมูลค่าสูงขึ้นไป

ปานเทพ - หรือกรณีอย่าง ปตท.จำได้ไหม ก็เหมือนกันที่ราคาขึ้นไปสูงอย่างต่อเนื่องโดยที่ไม่มีใครรู้มาก่อนล่วงหน้าว่าจะมีการลงทุนอะไรเพิ่มเติม

สโรชา - แอ้มเคยได้ยินข่าว

คำนูณ - คือที่ผมพูดผมไม่ได้หมายความว่า เฮ้ยคุณประชัยแก่ปั่นหุ้นแล้วคนอื่นปั่นแล้วไม่โดน ไม่ใช่

สโรชา - ไม่ใช่ ไม่ใช่ คนละกรณีกัน

คำนูณ - ผมไม่พูดในคดีของคุณประชัย

ปานเทพ - พูดถึงกรณีมากมายมาก

คำนูณ - ผมอยากจะบอกว่า เราเคารพในคำพิพากษาของศาล แต่เราเชื่อว่าการนำคดีของคุณประชัยมาสู่ศาล มันเป็นการต่อสู้เพื่อหยุดคุณประชัย จากการต่อสู้ชนิดที่เรียกว่า กัดไม่ปล่อย และทำทุกวิถีทาง แต่ก็อย่างที่ ท่านผู้ชมต้องนึกแหละว่า ข่าวเรื่องการปั่นหุ้นมันมากมายก่ายกองเหลือเกิน

สโรชา - ได้ยินถึงขั้นว่า แก๊งบางแก๊งไปนั่งอยู่หน้าห้องรัฐมนตรีบางคนด้วยซ้ำไป

ปานเทพ - คุณแอ้มนี่รู้ดีใหญ่เลย

สโรชา - ก็ได้ยินมาอย่างนั้น

คำนูณ - คุณประชัย ก็เพิ่งถูกคุณทักษิณ ชินวัตร ฟ้องเรียกค่าเสียหายถึงพันล้าน ก็ระดับเดียวกับคุณแอ้มเหมือนกัน

สโรชา - ก็หลักๆ เดียวกัน

คำนูณ - คุณประชัยเป็นพี่ใช่ไหม คุณแอ้มแค่ 500

สโรชา - คุณประชัยเป็นพี่ ของแอ้มแค่ 500 แต่โดนล่าสุดนี่ 2 พันแสดงว่า

คำนูณ - คือเราก็ได้แต่เห็นใจ ผมไม่พูดว่าสงสารแล้วกัน เพราะว่าคนอย่างคุณประชัยคงจะ

ปานเทพ - ไม่ต้องการคำสงสาร

คำนูณ - ไม่ต้องการให้ใครมาสงสาร แต่ว่าเราเข้าใจ แล้วเราก็เชื่อมั่นว่า เมื่อคุณประชัยตัดสินใจเข้าสู่สนามทางการเมือง อันนี้เป็นเพียงอุปสรรค ขวากหนามจำนวนหนึ่งที่ทุกคนจะต้องเจอ ผมเชื่อว่าจะต้องมีมาอีก มันเป็นเรื่องที่ทดสอบจิตใจ

ปานเทพ - แต่คุณประชัยโดนทดสอบมากหน่อยในรอบหลายปีที่ผ่านมา ไม่รู้กี่เรื่องต่อกี่เรื่องแล้ว

คำนูณ - เฉพาะตั้งแต่ตั้งพรรคการเมืองก็โดนทดสอบ รู้สึกว่าบางวันก็ข้อสอบหลายข้อ หลายวิชา แต่ผมเชื่อว่าเรื่องนี้คงจะเป็นเรื่องเล็กสำหรับลูกผู้ชายหัวใจสู้อย่างคุณประชัย เลี่ยวไพรัตน์

สโรชา - เดี๋ยวเราพักกันสักครู่นะคะ กลับมามีเรื่องต้องคุยกัน เรื่องเอกสารลับ มีความคืบหน้าบ้างคงจะได้เห็นผลกันอีกไม่กี่วันข้างหน้า เรื่องราวอื่นๆ ที่ต้องติดตามกันหลายเรื่องทีเดียว สักครู่เดียวกลับมาค่ะ

***รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่สอง

คำนูณ - ยังไม่ชินใช่ไหมครับ

สโรชา - ยังไม่ชินคะ เกิดการกระตุกเล็กน้อยนะคะ แต่ว่ามาคุยกันต่อถึงเรื่องเอกสารลับ วันนี้มีความคืบหน้าจาก กกต. นะคะ ว่า กกต. นั้นมีมติที่จะเชิญ พล.อ.อ. ชลิต พุกผาสุข ในฐานะที่เป็นผู้รักษาการตำแหน่งประธาน คมช. เข้ามาชี้แจงเพิ่มเติมนะคะในวันพรุ่งนี้ นอกจากนี้ยังมีการขอให้ผู้รักษาการประธาน คมช. ให้นำเอกสารตัวจริงมาแสดงหลักฐานต่อ กกต. ด้วย และก็พร้อมกับตอบคำถามเพิ่มเติมที่ กกต. ยังคงคลางแคลงใจในบางส่วนอยู่นะคะ กกต. บอกว่าน่าจะได้ข้อสรุปในเรื่องนี้ ในวันที่ 11 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ ข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์เช้าวันนี้ สร้างกระแสค่อนข้างรุนแรงคะ ในเรื่องของคณะกรรมการตรวจสอบเอกสารลับ ว่าคณะกรรมการ 7 ท่านนั้น มีบางท่านหรือว่ามีหลายท่านที่สามารถเชื่อมโยง กลับไปถึงอดีต กกต. "สามหนา ห้าห่วง" ได้นะคะ เพราะฉะนั้นก็มีการวิพากษ์วิจารณ์ กันอย่างต่อเนื่อง ถึงความเป็นกลางของคณะกรรมการชุดนี้ ประธาน กกต. คุณอภิชาติ สุขัคคานนท์ บอกว่าเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่จะต้องพิจารณา เป็นเรื่องที่จะต้องนำมาคิดว่าบรรดา คณะกรรมการแต่ละท่านนี้ มีความเกี่ยวเนื่องกับ กกต. ชุดเก่าอย่างไร ที่แน่ๆ ก็คือไม่ใช่ทุกท่านนะคะ ไม่ใช่ทั้ง 7 คน ที่มีความเชื่อมโยงกัน แต่ที่แน่ๆ ก็คงต้องยืนยันถึงความอิสระ ในการวินิจฉัยของ กกต. เอง ว่าถึงแม้คณะกรรมการจะสรุปผลมาดังนี้ ไม่ได้หมายความว่า กกต. ชุดใหญ่ จะต้องสรุปผลเป็นอย่างเดียวกันนะคะ ก็คือตอนนี้กำลังสอบสวนเพิ่มเติมอยู่ที่แน่ๆ พรุ่งนี้ก็คงจะเห็น พล.อ.อ. ชลิต พุกผาสุข มาชี้แจงเพิ่มเติมด้วย

ปานเทพ - ไม่เห็นนะครับ ผมได้ตรวจสอบข่าวแล้ว ปรากฎว่า พล.อ.อ. ชลิต พุกผาสุข ตัดสินใจไม่ไปให้การในวันพรุ่งนี้ และก็อาจจะเลื่อน และก็อาจจะไม่ได้ไปเอง สาเหตุก็เพราะว่าครั้งนี้ ต้องถือว่าอดีตประธาน คมช. คือ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน นะครับ ส่วนท่าน พล.อ.อ. ชลิต พุกผาสุข เป็นเพียงแค่รองประธาน คมช. ที่รักษาการประธาน คมช. ณ เวลานี้ ที่สำคัญก็คือว่า พล.อ.อ. ชลิต พุกผาสุข ไม่ปรากฎลายเซ็น แม้แต่ลายเซ็นเดียวในเอกสาร ตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบ ในเอกสารชิ้นที่ว่าเป็นเอกสารลับนี้เลย ไม่มีส่วนรับรู้อะไรเลย แต่ผมเชื่อว่า กกต. เที่ยวนี้เชิญท่านประธานรักษาการประธาน คมช. ก็ด้วยเหตุว่าเป็นในฐานะ ประธานของนิติบุคคลที่ชื่อว่า คมช. ที่ก่อตั้งขึ้นมาครั้งนี้นะครับ มีข้อสังเกตุว่า เรื่องนี้มีเรื่องที่ต้องวินิจฉัยอยู่อย่างน้อย 3 ประเด็น

สโรชา - มีเรื่องอะไรบ้างคะ

ปานเทพ - อันที่หนึ่ง ก็คือว่าฝั่ง คมช. นั้น วางตัวเป็นกลางทางเมืองจริงหรือไม่ สอง และถ้าไม่วางตัวเป็นกลางทางเมืองทำได้หรือไม่ แต่อันที่สาม ที่ยังไม่มีการพูดคุยในวันนี้เลยก็คือว่า เอกสารที่เสนอมาทั้ง 2 ฝั่งนี้ ฝั่งไหนจริง ฝั่งไหนเท็จ ซึ่งต้องพิสูจน์ครับ และโดยที่มีคนตั้งข้อสังเกตุว่าทำไม อนุกรรมการของ กกต. ที่ตั้งขึ้นมานี้ ไม่มีใครพิสูจน์เรื่องนี้เลย และก็ปล่อยทิ้งไว้เฉยๆ ทั้งๆ ที่เป็นสาระสำคัญที่จะพิสูจน์ได้ว่า เป็นกลางทางการเมืองได้หรือไม่ด้วย แล้วก็มีอำนาจที่จะเป็นกลางหรือไม่ด้วย จะเอียงข้างได้หรือไม่ด้วย แต่ที่สำคัญเอกสารนั้น เป็นสาระสำคัญ ถ้าไม่เหมือนกันแล้วนั้น ชิ้นหนึ่งมีคำว่า พรรคพลังประชาชน อีกชิ้นหนึ่งไม่มี มันต้องมีชิ้นหนึ่งผิด

สโรชา - คะ

ปานเทพ - นะครับ และก็ถือว่าเป็นสาระสำคัญด้วย ทีนี้การเชิญประธาน คมช. เข้ามาเลยเท่ากับยอมรับในฐานะนิติบุคคลว่า เอกสารชิ้นนี้ที่ คมช. ยื่นนั้นเหมือนกันหรือไม่ และเป็นการรับรองโดย คมช. โดยตรง ถ้าไม่เหมือนกันแล้ว ต้องมีฝั่งไหน ฝั่งหนึ่งผิด และต้องมีโทษทางอาญา

สโรชา - อย่างนี้ พล.อ.อ. ชลิต พุกผาสุข ไม่ไปด้วยตนเอง จะมีการส่งเอกสารตัวจริงไปให้ กกต. ดูหรือเปล่า

ปานเทพ - ผมว่าต้องมีครับ ไม่มีไม่ได้และก็คงต้องไปพิสูจน์กันว่า เอกสารใครจริง เอกสารใครปลอม และก็ย้ำว่าโทษทางอาญาก็จะมี โทษอันที่หนึ่งว่า ถ้ามีฝั่งไหน ฝั่งหนึ่งปลอมแปลงเอกสาร ก็จะมีโทษการปลอมแปลงเอกสาร มีโทษทางอาญานะครับ อันที่สอง ก็คือผิด พ.ร.บ. ว่าด้วยการเลือกตั้งที่ นำเอกสารอันเป็นเท็จทำให้เกิดความเข้าใจผิด ต่อคะแนนเสียงต่อพรรคการเมืองเหล่านั้น

คำนูณ - ผมว่าอย่างนี้นะครับ ผมฟันธงตรงๆ เลย คือวันก่อนที่ คมช. มีหนังสือถึง กกต. นั้นชัดเจนอยู่แล้ว และผมชอบมากเลยที่ลงนามโดย พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม นะครับ ผมไม่ได้ติดหนังสือนั้นมา และก็ไม่ได้มีข่าวชิ้นนั้นมา แต่ใจความคงไม่ผิดเพี้ยนหรอก ก็คือคล้ายๆ ว่าเป็นภารกิจของ คมช. ที่เกี่ยวกับความมั่นคงนะครับ และก็เป็นเรื่องก่อนมีกฎหมายเลือกตั้ง ก่อนมีพระราชกฤษฎีกา และก็บอกว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคง เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสาเหตุ 4 ประการ ของการรัฐประหาร และก็ปรากฎหลักฐานที่ชัดเจนว่า ทางเอกสารที่ทางพรรคพลังประชาชนมาแสดงนั้น มีการแต่งเติมข้อความไม่เหมือนกัน ที่ผิดไปจากเดิม และก็มีความเชื่อมโยงระหว่างพรรคพลังประชาชน กับอดีตพรรคไทยรักไทย หลายกรณีด้วยกันนะครับ ผมว่านะทาง คมช. อย่านิ่งเฉย พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อย่านิ่งเฉย

ปานเทพ - ทำอย่างไรต่อครับ

คำนูณ - ประการแรกนะครับ พรุ่งนี้เข้าแจ้งความคดีอาญา กับพรรคพลังประชาชน หรือคุณสมัคร สุนทรเวช หรือทั้ง 2 กรณีเลย ร้องทุกข์ว่าทางพรรคพลังประชาชน หรือคุณสมัคร สุนทรเวช นั้นปลอมแปลงเอกสาร หรือใช้เอกสารปลอมชัดเจนไปเลย

ปานเทพ - เอาแจ้งความไปเลย

คำนูณ - ครับ, ให้ดำเนินคดีไปเลยนะครับ จะได้ชัดเจนไปเลย อันนี้ผมว่าสำคัญที่สุด แล้วก็ กกต. นะครับ ต้องดำเนินการต่อเนื่องว่า เรื่องอาญาก็เรื่องหนึ่งนะ แต่เรื่องตามกฎหมายเลือกตั้งนี้ คุณให้ใบแดงได้ทั้งพรรคเลย คุณตัดสินไปเลย

ปานเทพ - เอาให้ชัดๆ เลย แต่ไม่ใช่มาเรื่องนี้คลุมเครืออยู่ และก็ไม่วินิจฉัยสักทีว่าใครผิด ใครถูก

คำนูณ - คือๆ ผมว่ามันตลกนะ คืออะไร คมช. เคยเป็นองค์กรที่ยิ่งใหญ่นะครับ เคยเป็นคณะรัฐประหาร เคยเป็น คปค. แล้ววันนี้กลายเป็นจำเลยของสังคม ทำไม พล.อ.อ. ชลิต พุกผาสุข ต้องถูกเรียกไปสอบสวน เหมือนเป็นจำเลยนะ นักข่าวถาม พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ว่าท่านจะพิจารณาตัวเองลาออกหรือเปล่า ท่านก็ต้องตอบ 2-3 วัน ว่าผมไม่ผิด ผมไม่ได้ทำอะไรผิด ผมจะทำงานต่อไปจนกว่าท่านนายกจะให้ออกอะไรแบบนี้ เฮ้ยคนเคยยิ่งใหญ่ปฎิวัติมา ประธาน คปค. อดีตประธาน คมช. แล้ววันนี้เหมือนเป็นคนที่ต้องมาตอบคำถาม

ปานเทพ - กลายเป็นจากเสือกลายเป็นลูกแมวอย่างนั้นเลยครับ

คำนูณ - ทำไม คมช. หรือ อดีต คมช.ไม่ยืนหยัดเลยว่า สิ่งที่ทำไปมันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะว่าพวกกระผมด้วยกระผมปฎิวัติมาด้วยสาเหตุ ตามแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ฉบับที่ 2 ฉบับที่ 3 ฉบับที่ 4 และมันมีพฤติกรรมทางการเมือง ที่เกี่ยวข้องกับ 1-2-3-4 ปรากฎหลักฐานอย่างนี้ อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทยมาถ่ายรูปคู่กับผู้สมัคร มีการนำเทปอดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย มาอยู่บนเวที

ปานเทพ - มีเทปคุณทักษิณสนับสนุนพรรคพลังประชาชนอย่างชัดเจน

คำนูณ - มีการประกาศว่าเมื่อวัน....เวลา....น. ว่าถ้าได้กลับมาเป็นรัฐบาลจะออกกฎหมายนิรโทษกรรม จะเอาเรื่องบุคคลต่างๆ ร้อยคนก็ว่ากันไป จะช่วยคุณทักษิณ เอาหลักฐานที่ผมเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นสันติบาลหรือว่าหน่วยข่าวต่างๆ เขาต้องบันทึกอยู่แล้วนะ คุณก็เอามาชี้แจงนี่มันเป็นเหตุความมั่นคงของชาติ ซึ่ง คมช. ซึ่งเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 49 และ ตามรัฐธรรมนูญ 50 ก็ได้รับรองความถูกต้องเอาไว้ จะต้องปฎิบัติการต่อเนื่องในฐานะผู้รักษาความมั่นคงของชาติ คือมีหน้าที่ครับ และเอกสารที่ทำเป็นเรื่องการกฎหมายเลือกตั้ง ก่อนมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง แล้วคือเป็นเอกสารที่ไม่ได้ระบุ เจาะจงถึงพรรคการเมืองที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง

ปานเทพ - โดยที่อีกฝั่งหนึ่งนั้น มีเอกสารที่ไม่เหมือนกับเอกสารทางราชการที่มีอยู่

คำนูณ - ซึ่งเป็นเอกสารปลอม

ปานเทพ - หรือเป็นการปลอมเอกสาร

สโรชา - หรือมีการดัดแปลง

คำนูณ - ก็ยืดอกออกมาพูดอย่างนี้ให้มันตรงไปตรงมาสมเป็นชายชาติทหารทุกคนไปเลยซิ แล้วก็เรียกร้องให้ กกต.เดินหน้าไป 1.ไปแจ้งความคดีอาญา 2. เดินหน้าไป กกต. ไม่ใช่ในฐานะไปแก้ข้อกล่าวหา

ปานเทพ - ไปบอกให้เขายุบพรรคซะ

คำนูณ - แต่ไปบอกว่า เฮ้ย

สโรชา - มันมีการปลอมแปลงเอกสารนะ

คำนูณ - ทำอย่างนี้มันทำลายความมั่นคง ผิดกฎหมายเลือกตั้งมาตรานี้ ขอให้ กกต.ดำเนินการพิจารณา

ปานเทพ - ก็เสนอไปซิ

สโรชา - เป็นฝ่ายรุกซะบ้าง

คำนูณ - ใช่

ปานเทพ - ดำเนินการตามกฎหมายไง ถ้าเชื่ออย่างนั้นจริงๆ

สโรชา - 1 ปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรุกเลย เขาจะมารุกตอนนี้เนี่ยนะ

ปานเทพ - ถ้าเชื่ออย่างนั้นจริงๆ ว่าเอกสารของเขาเท็จ สิ่งที่ตัวเองทำถูกต้องแล้ว ถ้าเชื่ออย่างนั้นจริงๆ ต้องดำเนินคดีความทางอาญาก็ไปแจ้งความตำรวจ ทางกฎหมายเลือกตั้ง ต้องไปเสนอให้ กกต.ดำเนินคดีความ

คำนูณ - คือทหารต้องมีความ

ปานเทพ - องอาจ

คำนูณ - สมาร์ท ไม่ใช่ ผมไม่ผิด ผมไม่ออก ผมต้องทำงานต่อไป

สโรชา - พาดหัว เกาะเก้าอี้แน่น ไม่ควรนะ

คำนูณ - ก็เดินไป กกต.เลย แต่ไม่ใช่ไปให้ปากคำ แต่ไปกล่าวโทษ

ปานเทพ - ไปกล่าวโทษ ไปร้องทุกข์

คำนูณ - ในเมื่อคุณทำหนังสือชี้แจงไป กกต.อย่างนั้นแล้ว ซึ่งเป็นการชี้แจงที่ถูกต้อง แต่นอกจากชี้แจงอย่างเดียว

ปานเทพ - ไม่พอหรอกครับ

คำนูณ - ไม่พอหรอกครับ ไปกล่าวโทษเลย เพราะที่คุณเขียนมาอย่างนั้นซึ่งต้องเป็นเรื่องจริง คุณก็กล่าวโทษต่อ กกต.เลย ตามกฎหมายเลือกตั้ง แล้วคุณก็ไปกล่าวโทษที่กองปราบฯ หรือที่ไหนก็ได้ตามกฎหมายอาญา

ปานเทพ - ไปแจ้งความเลย

คำนูณ - ไปแจ้งความเลย จบ

ปานเทพ - ให้คุณสมัคร สุนทรเวช ไป

คำนูณ - พูดก็พูดเถอะ

สโรชา - เป็นฝ่ายแจ้งข้อกล่าวหาบ้าง

คำนูณ - ผมอ่านใจคุณสมัคร สุนทรเวช ก็กลัว ก็เกร็งเหมือนกัน

ปานเทพ - ก็กลัวเหมือนกัน ดูคำสัมภาษณ์เมื่อ 2-3 วันที่ออกมา

สโรชา - ไม่อย่างนั้นจะออกมาบอกหรอว่า ไม่มีการฟ้องร้องต่อหรอก แค่นี้แหละ

ปานเทพ - ผมไม่พูดแล้วครับ ผมไม่เอาเรื่องแล้วแหละ แค่นี้แหละ คือจริงๆ ก็คงรู้และก็หวั่นอยู่เหมือนกันว่า โทษทางอาญามีอยู่ เพราะว่าถ้าเอกสารไม่ปลอม ก็มีอีกข้อหาหนึ่งที่สุ่มเสี่ยงอยู่ก็คือ การนำเอกสารลับทางราชการมาเปิดเผย โดนอีก 2 กรณี เพราะฉะนั้นแล้วก็ถือว่ามีความเสี่ยงอยู่เยอะมาก เลยพูดมาในทำนองแบบนั้นหรือไม่ เช่นเดียวกับคุณยงยุทธ ติยะไพรัช มีเอกสารลับอีกฉบับก็ไม่อยากพูดถึงแล้ว

คำนูณ - ผมก็ไม่ทราบว่า คมช.ดูอยู่หรือเปล่า หรือผู้ใหญ่ใน คมช.ดูอยู่หรือเปล่า แต่ฝากคนที่ดูช่วยไปบอกด้วยว่า คือในจดหมาย พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ที่ลงนามไปถึง กกต.

สโรชา - ถูกทางแล้ว

คำนูณ - ถูกแล้ว เดินตามนั้นต่อไป เนื้อความในนั้น คุณรู้อย่างนี้แล้วคุณอยู่เฉยไม่ได้ คุณต้องเดินหน้าไป 2 ที่ คือ 1. แจ้งความคดีอาญา 2. แจ้ง กกต.ว่ามีการกระทำที่ผิดกฎหมายเลือกตั้งมาตราสำคัญเสียด้วย กกต.จะได้ดำเนินการต่อไป ไม่ใช่

ปานเทพ - รอกันไปรอกันมา

คำนูณ - รอกันไปรอกันมา จากกรรมการสอบสวนมาเป็น กกต.แล้ว กกต.เชิญประธาน คมช.มาให้ปากคำเหมือนกับเป็นจำเลย

ปานเทพ - อีกสักคนหนึ่งแล้วกันคุณคำนูณ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ดูท่านพยายามจะถอยออกมาจากปัญหานี้ แต่ท่านลืมไปข้อหนึ่ง คือถ้าเรื่องนี้ผิด ฝ่าย คมช.ผิด ท่านก็มีส่วนผิดด้วย เพราะลายเซ็นหนึ่งคนที่เซ็นขึ้นไปมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ด้วย หนีไม่พ้น เพราะฉะนั้นแล้วจะมากระแสแบบ ไม่ต้องไปเกี่ยวข้อง ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยว ผมว่าไม่ถูก อาจจะไม่ถูกต้อง ก็อะไรที่คิดว่าทำถูกต้องก็เดินหน้าต่อไป อย่างนั้นจะดีกว่า

คำนูณ - คือบางทีคนเรามันต้องสวมวิญญาณที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงสถานการณ์ ความนุ่มนวล ความสุภาพนั้นรักษาไว้ไม่เป็นไร พล.อ.อนุพงษ์ ไม่จำเป็นต้องเหมือน พล.อ.สพรั่ง แต่เนื้อหาผมว่าต้องยืนหยัด เพราะไม่อย่างนั้นคนจะพูดได้ว่า นี่หรอทหารไทยยุคนี้ ทำไม อย่าพูดเลย

สโรชา - อ่อน อ่อน

ปานเทพ - หน่อมแน้มอย่างนี้

คำนูณ - ผมไม่พูด ผมไม่พูด

สโรชา - ก็หวังว่านะ หวังว่าน่าจะทำ เอ๊ะถ้าเกิดเขาโทรมาบอก คุณคำนูณเข้ามาคุยหน่อยซิ เดี๋ยวจะปรึกษาเรื่องนี้หน่อย

คำนูณ - ไม่ต้องทำอะไรเลยครับ

ปานเทพ - แจ้งความ

สโรชา - สั้นๆ ง่ายๆ

คำนูณ - จดหมายที่ชี้แจงไปถึง กกต.นั้นน่ะถูกแล้ว แต่มันชี้แจงเฉยๆ ไม่ได้ครับ คือเรามั่นใจ ถ้าเราไม่มั่นใจเราไม่เซ็นชื่อไปอย่างนั้นหรอก ถึง กกต.

ปานเทพ - เป็นทางการแล้วนี่

คำนูณ - เราต้องดำเนินการ 2 ทาง คือ 1. แจ้งร้องทุกข์ต่อ กกต.เลย อย่าให้นาย ชื่อ ชนาพัทธ์ หรือนายอะไรต่ออะไรดำเนินการ ซึ่งเขาช่วย คุณดำเนินการไปเองเลย เพราะวันที่คุณตัดสินใจทำหนังสือถึงประธาน กกต.

ปานเทพ - คุณต้องรุกแล้วนะ

คำนูณ - คุณรุกแล้ว แต่คุณต้องรุกต่อเนื่อง คือแจ้ง กกต.ว่ามีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งมาตราสำคัญเกิดขึ้น อีกทางหนึ่งร้องทุกข์กล่าวโทษเป็นคดีอาญาเลย ปลอมแปลงเอกสาร หรือเผยแพร่เอกสารลับ หรืออะไรก็สุดแท้แต่จะว่ากันไป จะแจ้งใครก็ว่ากันไป และจากนั้นคุณจะเป็นฝ่ายรุก

ปานเทพ - เพราะถ้าไม่ทำนะคุณคำนูณ คนจะกล่าวหาหรือสงสัยได้ว่า สิ่งที่เสนอไป หรือร้องทุกข์ผ่าน กกต.ด้วยกฎหมายชี้แจง เป็นสิ่งที่มีน้ำหนักน้อยไปหรือเปล่า

คำนูณ - และในทางการเมือง ในทางการข่าว คุณเสียรายวัน

ปานเทพ - เสีย เสียทุกวัน แต่ตราบใดที่คุณตัดสินใจว่าสิ่งที่ทำนั้นถูกต้องจริงๆ เชื่อจริงๆ

สโรชา - เดินหน้าหรอ

ปานเทพ - ต้องเดินหน้าจริงๆ สมมุติถ้ามันไม่จริงก็ต้องเดินหน้าให้มันเหมือนจริง

คำนูณ - ผมไม่ได้

ปานเทพ - ในการแจ้งความ ถ้าคิดจะเล่นละคร แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงอยู่แล้วต้องทำจริงๆ ไม่อย่างนั้นคนจะต้องสงสัยอยู่ดี

คำนูณ - เหมือนวันนี้ ผมเห็น พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ให้สัมภาษณ์พิเศษในมติชน ที่บอก การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการเลือกตั้งที่ซื้อเสียงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ อะไรต่อมิอะไรไป เฮ้ยถ้าเห็นอย่างนี้แล้วปล่อยไม่ได้ ท่านต้องใช้ทุกวิธีการที่อำนาจท่านจะมี ทั้งที่บอกเราได้และบอกเราไม่ได้ แต่ถูกต้องตามกฎหมาย ดำเนินการเพื่อยับยั้งไม่ให้มีการกระทำเช่นว่านั้น

ปานเทพ - อำนาจเงินของฝ่ายการเมืองมีโอกาสที่จะหยุดยั้งด้วยเพียงอำนาจรัฐนะคุณแอ้ม คุณคำนูณ เพราะฉะนั้นไม่เลือกใช้อำนาจรัฐ แล้วพูดไปเฉยๆ อย่างนี้มันแก้ปัญหาไม่ได้หรอก

สโรชา - ตอนนี้เขาอยู่ในอำนาจ เขาใช้ทั้งเงิน เขาใช้ทั้งอำนาจรัฐ เขาใช้สารพัดที่จะใช้เลยนะ

คำนูณ - คือเขาเป็นมาก

ปานเทพ - เขาเป็นกว่ากันเยอะ

สโรชา - แต่ในทางตรงกันข้ามเมื่อสลับบทบาทแล้ว

คำนูณ - ยังมีเวลาครับยังมีเวลา

สโรชา - มีผู้ชมโทรมาหลายสาย บอกว่า เริ่มมีการซื้อเสียงกันแล้ว 50 บาทบ้าง 100 บาทบ้าง 200 บาทบ้าง ราคาไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ มีถึงขั้นบางคนโทรมาบอกเราว่า โอนเข้าแบงก์กันเรียบร้อยแล้วช่วงนี้แม้ว่าวันเลือกตั้งจะห่างออกไปอีกสัก 20 วันก็ตาม วันนี้ก็เริ่มกันแล้ว มีตามข่าว อายกันไปทั่วโลกเลยสำหรับการแจกยาไวอากร้า ที่ปทุมธานี มีรายงานข่าวมาจนกระทั่ง AFP เอาไปรายงานข่าวว่า คนไทยเขาซื้อเสียงกันไม่ได้ใช้เงินแล้วนะ เขาใช้ไวอากร้า แค่ 1-2 เม็ดเท่านั้นเองก็สามารถซื้อเสียงได้แล้ว

คำนูณ - คือแจ้งเราก็ได้อยู่ เราไม่ว่าอะไรหรอก แต่ต้องแจ้ง กกต. และวิธีการแจ้งเดี๋ยวนี้ก็ง่าย ถ้าเปิดเว็บไซต์ของ คุณเปิด google แล้วพิมพ์คำว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง เขาจะขึ้นเว็บไซต์มาคุณก็คลิกเข้าไป แล้วในเว็บของ กกต.เขาจะมีระบุ จะแจ้งอย่างไร คุณก็ต้องแจ้งไป เพราะฉะนั้นบางทีแจ้งเรามา เราพูดออกไปเราก็ไม่รู้ว่า เรื่องราวความเป็นมามันเป็นอย่างไร

สโรชา - หรือมีการดำเนินการต่อหรือเปล่า ถ้าแจ้งไปเป็นกิจลักษณะ อย่างเป็นทางการ เขาจะมีเจ้าหน้าที่รับเรื่องต่อ สั้นๆ ก่อนจะหมดเวลา เหลือแค่ 3 นาที เอง เมื่อวานนี้ วันนี้จริงๆ แล้วมีการตีข่าวเรื่องของการสัมภาษณ์ของคุณรสนา โตสิตระกูล สหพันธ์องค์กรผู้บริโภค ก็หลายฉบับอยู่เหมือนกัน เกี่ยวกับการกล่าวหารัฐมนตรีพลังงาน เกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อนในการถือหุ้นกิจการพลังงานหลายต่อหลายแห่ง วันนี้คุณปิยสวัสดิ์ได้ออกมาชี้แจงว่า ตั้งแต่เข้าไปรับตำแหน่ง วันที่ 9 ตุลาคม 2549 ได้ดำเนินการตามกฎกติกาของ ป.ป.ช. และได้ดำเนินการขายหุ้นในส่วนต่างๆ ออกไปอย่างต่อเนื่อง ล็อตแรก วันที่ 19 ตุลาคม 49 มีทั้ง ปตท. ปตท.สผ. ผาแดงอินดัสทรี ปูนซิเมนต์ไทย และล็อตที่ 2 วันที่ 25 ตุลาคม 49 มีกลุ่มแบงก์ต่างๆ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และไทยธนาคาร ท้ายสุดแจ้งไปที่ ป.ป.ช.แล้วเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2550 ซึ่งอาจจะเป็นข้อมูลที่ยังไม่ได้มีการอัพเดทจากทางสื่อ เพราะแจ้งไปทาง ป.ป.ช.แล้วยังไม่ได้มีการเปิดเผย ยังเป็นข้อมูลเก่าที่แจ้งไปตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม 49 อยู่ ถือว่าตอนนั้นมีการถือหุ้นจริง แต่ว่าดำเนินการทยอยขายออกไปหมดแล้ว

คำนูณ - พรุ่งนี้กับวันที่ 5 รายการยามเฝ้าแผ่นดินจะงด พรุ่งนี้คงจะเป็นช่วงที่ถ่ายทอดเทปกระแสพระราชดำรัสจากทีวีพลู ซึ่งน่าจะเริ่มตั้งแต่ 2 ทุ่ม ก็ตามประเพณีปฏิบัติที่เป็นมาทุกปี ส่วนวันที่ 5 ธันวาคมนั้นก็เป็นวันมหามงคล

ปานเทพ - มีรายการพิเศษ

คำนูณ - มีรายการพิเศษครับ พวกเราจะกลับมาพบกันอีกทีก็วันพฤหัสบดีที่ 6

สโรชา - กลับมาพบกันในวันนี้ สำหรับวันนี้เราทั้ง 3 คน ลาคุณผู้ชมไปเพียงเท่านี้ค่ะ สวัสดีค่ะ/ครับ

คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป
รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่ 1

( 56 k ) | ( 256 K )



คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป
รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่ 2

( 56 k ) | ( 256 K )


กำลังโหลดความคิดเห็น