xs
xsm
sm
md
lg

ยามเฝ้าแผ่นดิน : เย้ย พปช.สมแล้วได้เบอร์โหล - “สนธิ” ขอขมา ปชช.บวชอย่างน้อย 1 เดือน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ยามเฝ้าแผ่นดิน” ร่วมปลื้มปีติในหลวงเสด็จออกจาก รพ.ศิริราช กลับพระตำหนักจิตรลดาฯ เย้ย พปช.ได้เบอร์ 12 สมแล้ว เพราะเป็น “พรรคโหล” เผย “หนูนา” แจง “พ่อเติ้ง” ไปอังกฤษเพื่อชอปปิ้งจริง ปัดดอดพบ “แม้ว” ด้าน “สนธิ” ขอขมาประชาชนผ่านจอเอเอสทีวี ลาบวช 1 เดือน เข้าหาความสงบ

คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ ยามเฝ้าแผ่นดิน โดย  คำนูณ สิทธิสมาน, ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และสโรชา พรอุดมศักดิ์

สโรชา - สวัสดีค่ะคุณผู้ชม ขอต้อนรับเข้าสู่รายการยามเฝ้าแผ่นดิน วันพุธที่ 7 พฤศจิกายน 2550 วันนี้ต้องเรียนตามตรงเลยนะคะว่าเป็นการอัดเทปล่วงหน้า แต่เราอัดเทปกันเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะออกอากาศจริง วันนี้สาเหตุที่ต้องอัดเทปนั้นเดี๋ยวคงจะได้พูดคุยกันในช่วงหลัง แต่ก่อนอื่นคงต้องพูดคุยกันในเรื่องความปลื้มปีติที่เกิดขึ้นในเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

คำนูณ - ผมยังไม่ได้สวัสดีท่านผู้ชมเลย

สโรชา - ทั้ง 2 ท่าน สบายดีนะคะไม่เจอกัน 1 สัปดาห์เต็มๆ

ปานเทพ - คุณสโรชาหายไปไหนมาครับ

สโรชา - แอบไปเที่ยว

ปานเทพ - ครบรอบวันแต่งงานของคุณสโรชา 1 ปี

สโรชา - พยายามไปเจอคนบางคนแต่เผอิญไม่เจอ อุตส่าห์ไปเดินแฮรอตวันอาทิตย์ ก็ยังไม่เจอ

ปานเทพ - ตามล่าคุณทักษิณ

สโรชา - ก็ไม่เจอ แต่วันนี้อยากจะให้คุณผู้ชมบางท่านที่อาจจะอยู่ในออฟฟิศ อยู่ในสำนักงานทั้งวัน อาจจะไม่มีโทรทัศน์ได้รับชมการถ่ายทอดสดการเสด็จพระราชดำเนินกลับวังจิตรลดารโหฐาน เพราะวันนี้เราอยากจะนำเสนอภาพกันอีกครั้งหนึ่ง เพราะว่าผู้ชมบางคนที่ยังไม่ได้รับชมความปลื้มปีติที่เกิดขึ้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเสด็จพระราชดำเนินกลับพระตำหนัก

คำนูณ - ก็อยากให้ชื่นชมพระบารมีและก็ปลาบปลื้ม ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในวันนี้ วันนี้มีเหตุการณ์ที่ประจวบเหมาะเกิดขึ้นพร้อมกันหลายอย่าง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือภาพนี้นะครับ ผมว่าประชาชนชาวไทยทั่วประเทศเห็นแล้วมันโล่ง มันโปร่งสบายใจนะครับ และก็ขอเรียนว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปสีชมพูจะเป็นสีฮิต นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ปานเทพ - หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงฉลองพระองค์ด้วยสูทสีชมพูสด เสื้อเชิ้ตของในก็สีชมพู เนคไทก็สีชมพูด้วย

สโรชา - เนคไทก็สีชมพู ไปดู วันนี้ผู้จัดการออนไลน์เขานำเสนอข่าว

คำนูณ - วันนี้ผมไปที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีสมาชิก สนช.หลายคนใส่ชุดพระราชทานสีชมพู ท่านหนึ่งก็ พล.ร.ท.พะจุณณ์ ตามประทีป อีกท่านหนึ่งที่เห็นๆ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ท่านบอกว่า อินเทรนด์ ก็สอบถามประวัติศาสตร์ความเป็นมาได้ความมาว่า สีชมพูเป็นสีที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงออกแบบ ทรงเป็นแนวคิดของพระองค์ สำหรับวันเฉลิมพระชนมพรรษาปีนี้

ปานเทพ - ที่ครบ 80 พรรษา

คำนูณ - เพราะว่า วันที่ 5 ธันวาคมปีนี้ ถ้าดูปฏิทินแล้วจะตรงกับวันอังคาร สีประจำวันอังคารก็คือ สีชมพู นอกจากนั้น สีชมพู วันอังคาร ยังเสมือนเป็นสีประจำพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

ปานเทพ - ด้วย เขาบอกว่าหลังจากนี้เสื้อสีเหลืองจะยังคงมีต่อไป แต่เขาจะนิยมใส่วันจันทร์

สโรชา - ส่วนวันอังคารก็นิยมใส่สีชมพู

ปานเทพ - เนื่องจากสีวันจันทร์คือวันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในวันจันทร์ วันอังคารจะสีชมพู เหมือนกับเป็นนัดหมายที่เกิดขึ้น

คำนูณ - ต่อไปนี้คือ วันจันทร์สีเหลือง วันอังคารก็สีชมพู

ปานเทพ - เพิ่มขึ้นมาอีก 1 สี

คำนูณ - ส่วนวันพุธจะไปสีเขียวหรือไม่โปรดติดตามตอนต่อไป

สโรชา - ตามโหราศาสตร์ไทยเขาบอกว่า สีแห่งความเป็นสิริมงคลของผู้เกิดปีเถาะ คือสีชมพู ปีกระต่าย ส่งเสริมสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์ ตอนนี้พ่อค้าแม่ค้าที่โบ๊เบ๊บอกว่า สีชมพูขายดีมาก ต้องสั่งกันมาล็อตใหญ่เพราะว่ากำลังจะได้รับความนิยมอย่างสูง

คำนูณ - อันนี้เป็นรุ่นใหม่ของยามเฝ้าแผ่นดิน

สโรชา - จะเป็นสีชมพู

คำนูณ - สีชมพูแล้วมีขลิบขาวเหลือง จะเป็นชมพูแบบ

สโรชา - หวานๆ หน่อย

คำนูณ - เรียกไม่ถูกเหมือนกัน

ปานเทพ - ชมพู้ ชมพู

คำนูณ - คุณปานเทพไม่ใส่เพราะว่าไซต์คุณปานเทพกับคุณแอ้มยังไม่มา คุณปานเทพได้สีม่วงไป จะใส่มาวันนี้ก็กระไรอยู่

ปานเทพ - วันนี้เป็นภาพที่หลายคนประทับใจมาก ไม่ว่าจะเป็นฉลองพระองค์สีชมพูที่สดใส

คำนูณ - มันขับเปล่ง เหมือนแบบ ถ้าเป็นคนเพิ่งฟื้นไข้ เพิ่งหายป่วยแล้ว คุณแอ้มคิดดูซิ ถ้าเป็นญาติผู้ใหญ่เราใส่สีชมพู เป็นอะไรที่ชื่นใจ

สโรชา - ชื่นใจ

ปานเทพ - ภาพที่ 2 ที่หลายคนสังเกตเห็นคือ พสกนิกรที่เฝ้ารอรับเสด็จฯ

คำนูณ - แน่นขนัดตั้งแต่

ปานเทพ - ต่างโห่ร้องและแน่นขนัด และส่งเสียงอย่างกึกก้อง

คำนูณ - ศิริราช และตลอดเส้นทาง

ปานเทพ - บางคนร้องไห้ออกมาด้วยความปลื้มปีติที่พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินกลับจากโรงพยาบาลศิริราชแล้ว

สโรชา - บังเอิญวันนี้แอ้มเดินทางมาที่ออฟฟิศมาในช่วง 11.00 น.กว่าๆ วิ่งเส้นถนนพิษณุโลกผ่านหน้าทำเนียบ ปรากฏว่า บังเอิญว่าเขากั้นรถตรงแยกที่ตัดกับถนนราชดำเนินนอกพอดี เชื่อไหมคะว่า รถที่ถูกกั้นไว้ ประชาชนที่นั่งรออยู่ในรถ พอทราบว่าเป็นการกั้นเพื่อขบวนเสด็จฯ ของพระองค์ ทุกๆ พระองค์ ก็ลงจากรถเพื่อไปยืนรับเสด็จตรงริมถนน และพยายามไปชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด

คำนูณ - เป็นภาพที่ไม่เห็นบ่อยนัก

ปานเทพ - พระบรมฉายาลักษณ์ถูกนำมาอยู่เหนือศีรษะพสกนิกรชาวไทย ด้วยความเทิดทูน และความจงรักภักดีอย่างสูงสุด ที่โรงพยาบาลศิริราชหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเสด็จพระราชดำเนินลงมาจากโรงพยาบาลศิริราชจากชั้นบนลงมา รอยยิ้มและความปลื้มปีติ น้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความรู้สึกโล่งและสบายใจ เสียงเปล่งร้อง "ทรงพระเจริญ" กึกก้องทั้งโรงพยาบาลนะครับ และก็เพลงสดุดีมหาราชาก็เป็นเพลงที่ร้องเพื่อเทิดพระเกียรติ์กันอย่างต่อเนื่องในโรงพยาบาลศิริราชนะครับ ก็ถือว่าเป็นภาพที่มีความสำคัญมาก หาไม่ได้จริงๆ สำหรับชาวโลกเลยนะ

คำนูณ - ขบวนรถพระที่นั่งแล่นช้าๆ นะครับ ให้ประชาชนชื่นชมบารมีออกจากโรงพยาบาลศิริราช ก็ไปตามถนนอรุณอัมรินทร์ เข้าทางสะพานพระราม 8 แล้วก็เลี้ยวซ้ายเข้า ถ.ราชดำเนินนอก

ปานเทพ - เมื่อวานนี้เรายังเพิ่งพูดกันอยู่เลยว่าขบวนพระยุหยาตราที่มีความงดงามมาก เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานะครับ ถือว่าเป็นความเชื่อของคนไทยว่าขบวนนั้นจะเป็นขบวนที่ไปถวายพระพรให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรนะครับ ให้เสด็จกลับจากโรงพยาบาลได้เร็วๆ ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ สัปดาห์นี้ก็เกิดขึ้นจริงๆ นะ

จินดารัตน์ - เมื่อคืนนี้หลังจากที่สำนักพระราชวังได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 26 ตามรายงานข่าวประชาชน พสกนิกรจำนวนมากได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลศิริราชในทันทีเมื่อคืนนี้ ประมาณ 03.00 น. นี่แน่นจนไม่มีที่อีกแล้วตั้งแต่ 03.00 น. ของเมื่อคืนนี้นะคะ ผู้คนก็ไปรอเพื่อจะชมพระบารมีส่งเสด็จพระองค์ท่าน หลังจากที่ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว

ปานเทพ - ภาพที่ 2 คือ ทรงลุกขึ้นและก็เสด็จพระราชดำเนินด้วยเท้าในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แม้ว่าจะทรงใช้อุปกรณ์ในการช่วยพระองค์อยู่ ถือว่าเป็นภาพที่เรามีความสบายใจขึ้นไปอีก คือทรงลุกแล้วก็เดินด้วยพระองค์เอง

คำนูณ - คือตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่พระองค์เข้าประทับในโรงพยาบาล ประชาชนก็ติดตามข่าวด้วยความเป็นห่วง ก็จะมีเพียงแถลงการณ์จากสำนักพระราชวัง ที่บ่งบอกพระอาการและก็ทุกคนก็ไปเฝ้าอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราชนะครับ แต่ว่าในใจของทุกคนก็ล้วนแต่ไม่สบายใจ จนกระทั่งวันนี้แหละครับ ภาพที่อย่างน้อยพระองค์ก็ทรงประทับยืนได้อย่างมั่นคงระหว่างเสด็จพระราชดำเนิน ก็ทรงใช้เครื่องช่วยเดิน และพระองค์ก็ยังทรงฉายพระรูปอยู่เป็นปกติ

ปานเทพ - ฉายพระรูปพสกนิกรของพระองค์ ต้องถือว่าเป็นภาพที่ เมื่อเช้าทุกคนนั่งอยู่หน้าจอทีวีปลาบปลื้ม และพระองค์ทรงเห็นพสกนิกรมาเยอะขนาดนี้ ก็เป็นบำรุงพระราชหฤทัย

คำนูณ - พระองค์นั้นคือศูนย์กลางของทุกสิ่ง ทุกอย่างของประเทศนี้ ของแผ่นดินนี้นะครับ

ปานเทพ - ยังไงก็เป็นภาพที่ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์อีกภาพหนึ่งสำหรับปีนี้ เลยก็ว่าได้

คำนูณ - โดยบังเอิญ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2550 ซึ่งก็เป็นวันสมัครรับเลือกตั้งวันแรก สำหรับ ส.ส. ประเภทบัญชีรายชื่อนะครับ เกิดขึ้นในวันเดียวกัน

ปานเทพ - เป็นเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นพร้อมกัน เหตุการณ์แรกที่ทุกคนมีความสบายใจในระดับที่สบายใจมาก ก็คือเรื่องตอนเช้าที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินกลับจากโรงพยาบาลศิริราช

คำนูณ - ก็ประมาณซัก 11.00 น. ช่วงเช้า

ปานเทพ - ช่วงเช้าเหมือนกันก็เกิดเหตุที่เรียกว่า เป็นที่น่าสนใจของประชาชนจำนวนมาก

สโรชา - เป็นจุดเริ่มต้นที่เรียกได้ว่าเป็นบรรยากาศหาเสียง

คำนูณ - ถ้าคนไทยจะเชื่อว่าการเลือกตั้งมันจะช่วยให้อะไรดีขึ้น วันนี้แหละ เอาละมีการเลือกตั้งแน่แล้วหละ

ปานเทพ - เป็นการเปิดรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบระบบสัดส่วน

สโรชา - ไปกันทุกพรรคการเมืองใหญ่ จริงๆ แล้ววันนี้เป็นวันแรกแต่จะเปิดถึงวันที่ 1 และคงจะมีพรรคอื่นๆ ทยอยมาสมัครกัน แต่วันนี้แน่นอนว่าบรรยากาศคึกคักอย่างที่เราเห็นกันทุกๆ ครั้งที่มีการเลือกตั้ง ก็คือ จะทยอยกันมาตั้งแต่เช้าตรู่ มากันตั้งแต่ 6 โมง 7 โมงไล่กันมาเลย จนกระทั่ง 8 โมงครึ่งที่มีการจับสลากเบอร์กัน มีบรรยากาศที่ค่อนข้างคึกคัก เขาบอกว่าขบวนที่ใหญ่ที่สุดและดูอลังการ และเสียงดังที่สุดคงจะเป็นของมัชฌิมาธิปไตย

ปานเทพ - อย่างนั้นเลยหรือครับ

สโรชา - ที่มีทั้งเชิดสิงโต มีการโห่ร้อง เรียกว่ามาแบบ

ปานเทพ - ครบเครื่อง แน่นเลย เดินมาเป็นขบวน นี่ถือว่าไม่ธรรมดาสำหรับคุณประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ที่ในทางกฎหมายถือว่ายังไม่ใช่หัวหน้าพรรค

คำนูณ - ถ้าจะพูดถึงการจับเบอร์มันก็แปลก ก็คือ เขาจะมีการจับ 2 รอบ รอบแรกประธาน กกต.จะเป็นผู้จับลำดับของพรรคที่จะขึ้นไปจับสลาก ปรากฏว่าเบอร์สุดท้าย หรือจะพูดว่า 2 เบอร์สุดท้ายที่ทุกคนหมายปอง คือ 2 ลำดับสุดท้ายที่คนจะขึ้นไปจับ คือเบอร์ 1 กับเบอร์ 9

ปานเทพ - สังเกตดีๆ นะครับ คุณสมัคร สุนทรเวช นั่งคู่คุณเสนาะ เทียนทอง คุณสมัคร สุนทรเวช เป็นผู้ที่จับเบอร์คนแรก พรรคพลังประชาชน แล้วคุณเสนาะ เทียนทอง เป็นผู้ที่จะจับเบอร์คนสุดท้ายของทุกพรรคการเมือง แล้วมีลูกเล่นเหลือเบอร์สุดท้ายแล้ว คุณเสนาะยังต้องไปคนซะหน่อย

สโรชา - ฮือฮา

ปานเทพ - ไม่ใช่ฮือฮาธรรมดา มีมุกนะครับ เปิดมา

คำนูณ - เอ๊ะมันอ่านยังไง

ปานเทพ - จะ 6 หรือ 9

คำนูณ - คือรู้อยู่แล้วว่า 9 แน่ ไม่ต้องจับก็เป็น 9

ปานเทพ - ที่น่าอัศจรรย์อีก บังเอิญเลข 9

คำนูณ - เป็นเลขประจำรัชกาล

ปานเทพ - เป็นเลขประจำรัชกาล ในวันนี้ด้วยที่หลายคนมีความปลื้มปีติด้วย

คำนูณ - แล้วก็พรรคประชาราช วันนี้จะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ แต่จุดเริ่มต้นของการก่อตั้ง คำว่า ประชา กับ ราช ก็มีความหมาย แล้วก็คุณเสนาะ เทียนทอง เป็นผู้ลุกขึ้นมาสู้กับระบอบทักษิณในประเด็นพระราชอำนาจที่ชัดเจนคนแรก

ปานเทพ - เป็นนักการเมืองในระบบคนแรกๆ เลยก็ว่าได้

คำนูณ - ในขณะที่พรรคเพื่อแผ่นดินก็ไม่เลว ได้จับรองสุดท้าย ก็คืออยู่ที่ว่าจะได้เบอร์ 1 หรือ เบอร์ 9

สโรชา - ซึ่งดีทั้งคู่ ในความเชื่อ

คำนูณ - ก็ได้เบอร์ 1

สโรชา - หมายเลข 1 คือพรรคเพื่อแผ่นดิน หมายเลข 2 พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา 3 พรรคเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย 4 พรรคประชาธิปัตย์ จริงแล้วพรรคประชาธิปัตย์คือ เบอร์เดียวกับการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เบอร์ 4 เหมือนกัน

คำนูณ - ไหนๆ ก็ได้เบอร์ดีแล้วประพฤติตัวให้ดีด้วย

ปานเทพ - เอาให้ครบเลยไหมครับ เอาพรรคสำคัญๆ พรรคประชาธิปัตย์ได้เบอร์ 4

คำนูณ - ถือว่าดี คือว่า ถ้าคิดตามหลักภาษาจีน ถือว่าได้เลขตัวเดียวดี

สโรชา - ง่าย หาเสียงง่ายกว่า

คำนูณ - คือเป็นพรรคใหญ่ได้เลขตัวเดียว

สโรชา - หมายเลข 5

ปานเทพ - หมายเลข 5 พรรคพลังเกษตรกร หมายเลข 6 พรรครักเมืองไทย หมายเลข 7 พรรคแรงงาน หมายเลข 8 พรรคเกษตรกรไทย หมายเลข 9 พรรคประชาราช หมายเลข 10 พรรคนิติศาสตร์ไทย หมายเลข 11 พรรคพัฒนาประชาธิปไตย หมายเลข 12 พรรคพลังประชาชน หมายเลข 13 พรรคชาติไทย หมายเลข 14 พรรคดำรงไทย หมายเลข 15 พรรคมัชฌิมาธิปไตย หมายเลข 16 พรรคชาติสามัคคี หมายเลข 17 พรรคความหวังใหม่ และหมายเลข 18 พรรคประชากรไทย

สโรชา - ทั้งหมด 18 พรรคที่ไปจดในช่วงเช้าวันนี้

ปานเทพ - คุณสมัคร สุนทรเวช ในฐานะคนแรกที่ได้จับสลากว่าจะได้เลขอะไรสำหรับ ส.ส.ระบบสัดส่วน คุณสมัครจับได้เบอร์ 12 เขาบอกว่า แหม คือไม่ได้เลขเดี่ยวมันน่าเสียดาย เพราะว่าพรรคไทยรักไทยก่อนหน้านี้ได้เลขเดี่ยวเวลาจับสลากเลือกตั้ง ยังเป็นที่จดจำได้ง่าย

คำนูณ - ได้จับคนแรกถือว่าเสียเปรียบ

ปานเทพ - เสียเปรียบ

สโรชา - มันเยอะ

คำนูณ - มันเยอะ แต่ว่าพวกที่ได้จับหลังๆ แล้วยังไม่ได้เลขตัวเดียวเลขสวยๆ อาจจะผิดหวังนิดหน่อย คุณบรรหาร ศิลปอาชา ท่านก็คงผิดหวัง

ปานเทพ - แต่ได้หมายเลข 13

คำนูณ - คือท่านจับ คล้ายๆ กับรุ่นหลังแล้ว อีก 3-4 คน

ปานเทพ - มีลุ้นเลขเดี่ยว

สโรชา - แต่ว่าไปได้เลข 13 เข้า

ปานเทพ - สังเกตดู กองเชียร์พรรคชาติไทยพอได้เลข 13 ขึ้นป้ายเร็วมาก

สโรชา - คงมีมาแล้ว เตรียมมาแล้วแปะทันทีเลย 13

คำนูณ - เขาทำเป็นระบบดิจิตอล

ปานเทพ - พร้อมเลือก พร้อมกด พร้อมเปลี่ยนได้

สโรชา - ไฮโซมาก

ปานเทพ - เป็นบรรยากาศเชียร์ที่มัน

สโรชา - แน่นอน หลังจากการจับสลากก็มีการสัมภาษณ์บรรดาหัวหน้าพรรคว่า รู้สึกอย่างไรกับเลขที่ได้กับเบอร์ที่ได้ คุณบรรหารบอกว่า ไม่เป็นไร ใครว่าอันลัคกี้ไม่จริง ผมว่านี่แหละ ลัคกี้นัมเบอร์ของจริงเลย เลข 13

คำนูณ - พูดถึงคุณบรรหาร ศิลปอาชา ซักนิดหนึ่ง อันนี้บังเอิญ เปิดเผยคงไม่ผิดอะไรนะครับ บังเอิญคุณหนูนา คุณกัญจนา ศิลปอาชา โทรศัพท์มาหาผม เขาบอกว่า อยากจะเล่าอะไรให้คุณคำนูณฟัง แต่ว่าไม่ประสงค์ให้ไปถ่ายทอดต่อ ไม่จำเป็น ผมเห็นว่า ในเมื่อเป็นข้อมูล ก็อยากจะเล่าให้ฟัง คือว่า เรื่องไปอังกฤษของคุณบรรหาร ศิลปอาชา กับครอบครัว ถูกค่อนขอดกระแนะกระแหนว่าไปเจอคุณทักษิณบ้าง พอบอกว่าไปเพียง 2 วัน หลายคนก็บ่นว่าไม่เชื่อ

สโรชา - เป็นไปได้อย่างไร

คำนูณ - ไปทำไมไป 2 วัน ใครที่ไหนจะไปเที่ยวแค่ 2 วัน บอกไปช็อปปิ้งที่อังกฤษหลายคนจะบอกว่า อังกฤษมันมีอะไรให้ช็อปปิ้ง คุณนาบอกว่า ครอบครัวท่านจะไปกันอย่างนี้แหละ คุณบรรหารไปต่างประเทศ ให้ไปเช็คพาสปอร์ต เช็คไฟล์เครื่องบินได้เลย ไม่เคยไปเกิน 6 วัน รวมเวลาเดินทางด้วย สมมุติว่าไปอังกฤษไป 6 วัน คุณแอ้มก็ไปบ่อยเพิ่งกลับมา ควรจะคาดคิดได้ว่าอยู่อังกฤษอย่างมาก็ 3 คืน เพราะว่าคุณบรรหารเป็นคนที่คิดถึงบ้าน แล้วคิดถึงงาน นี่คำจากคุณนา ไปครั้งล่าสุดที่เป็นประเด็น ไป 26 กันยายน กลับ 1 ตุลาคม ไปน้อยมา แล้วไปกัน 4 คน คุณบรรหาร คุณหญิงแจ่มใส คุณนา แล้วก็น้องสาวคุณนา คุณท็อปไม่ได้ไปเพราะเขามีครอบครัว และไปอังกฤษแต่ละทีก็ไปซื้อของ ไปรับประทานอาหาร แล้วก็เช่าวิดีโอมาดูที่บ้าน

สโรชา - เช่าวิดีโอมาดูที่บ้าน บ้านที่อังกฤษหรอคะ

คำนูณ - ครับ หรือที่ที่พัก ผมก็ปากหนักไปไม่ได้ถาม อยู่ที่กรุงเทพฯ ทำไมไม่ดูวิดีโอ เป็นไลฟ์สไตล์ของท่านก็แล้วกัน

สโรชา - คือเป็นการพักผ่อน

คำนูณ - แล้วบอกว่าไปเจอคนไทย ผมจำไม่ได้ว่าเจอใครบ้าง เจอ 2 คนโดยบังเอิญ คนหนึ่งคือ คุณพงส์ สารสิน คือเป็นธรรมดา คุณปานเทพ คุณแอ้ม ถ้าไปอังกฤษ ไปลอนดอน ถ้าไปทานอาหารร้านอาหารดังๆ

ปานเทพ - จะมีโอกาสเจอ

คำนูณ - มีโอกาสเจอคนไทยประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป

สโรชา - ไปด้วยความสงสัย เรียนตามตรง ไปด้วยความสงสัย คือร้านอาหารที่เขาบอกว่าเป็ดอร่อยที่สุดในโลก

คำนูณ - ย่านเบย์วอเตอร์

สโรชา - นั่นละคะ ลงจากสถานีเบย์วอเตอร์เลยร้านโฟร์ซีซั่น ก็ไปด้วยความสงสัยว่า อร่อยขนาดนั้นเลยหรือ

ปานเทพ - แล้วอร่อยไหม

สโรชา - แต่ว่าคนไทยครึ่งร้าน

คำนูณ - ครึ่งร้าน

สโรชา - นั่งอยู่ประมาณสัก 10 โต๊ะ คนไทยประมาณ 4-5 โต๊ะ

ปานเทพ - เพราะฉะนั้นจะบอกว่า คนนั้นมาเจอคนนี้ในร้านนี้

สโรชา - เป็นเรื่องบังเอิญมาก

คำนูณ - คุณกาญจนาบอกว่า ไปเที่ยวนี้คุณพ่อไปเจอคน 2 คนโดยบังเอิญไม่ได้นัดหมายมาก่อน คนหนึ่งคือ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ คนที่ 2 คือ คุณพงส์ สารสิน คุณนายังบอกเลยว่ายังบ่นกับคุณพ่อเลยว่า แหม่โชคดีนะเจอ 2 คนนี้ หวังว่าจะไปเจอพี่เหลี่ยมนะ ไม่งั้นถูกนินทาตายเลย ก็ยังไม่วายถูกนินทา อันนี้ก็เล่าให้ฟังแต่ว่าถ้าคนที่ไปลอนดอน อังกฤษ จะเข้าไปนั่งร้านโฟร์ซีซั่น หรือว่าอีกร้านหนึ่งที่เขาว่าอร่อยกว่าแต่ว่าไม่ดังเท่า คนที่ชอบความสงบหน่อยจะไปแต่ว่าคนไทยเยอะ คือเราเขาไปจะได้ยินเสียงคนไทย และคนไทยที่ไปแน่นอนจะต้องไม่ใช่ผม คุณปานเทพ จะต้องเป็นคนมีสตางค์ต้องเป็นระดับคนชั้นนำทางสังคม ไม่ก็ต้องข้าราชการระดับสูง นายทหารระดับสูง นักธุรกิจ และคนเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็จะรู้จักมักคุ้นกัน

สโรชา - ก็เพิ่งไปทราบด้วยตัวเองมันบังเอิญได้จริงๆ

คำนูณ - อ้าวเนี้ยก็เป็นคนชั้นนำแล้วละซิ ไปกินเป็ดโฟร์ซีซั่นได้

ปานเทพ - เป็นแล้ว

คำนูณ - มื้อนั้นเท่าไหร่ บอกท่านผู้ชมด้วย

สโรชา - ก็ไม่แพงอย่างที่เราคิด ทานเป็ดตัวหนึ่ง 18 ปอนด์ ก็ประมาณ 1200 กว่าบาท โดยประมาณ

ปานเทพ - ใครจ่ายนะ

สโรชา - สามีๆ

ปานเทพ - นิดหนึ่งนะครับ จะบอกว่าเรื่องของโชคลาง ความเชื่อนั้นมีความสำคัญนะ นอกจากพรรคประชาราชดูจะถูกใจนะ ดีใจมีกำลังใจขึ้น พรรคเพื่อแผ่นดินที่ดูหลังๆ มาแรงก็ดูดีใจ แต่ว่าพรรคพลังประชาชน เลข 12 นี้

คำนูณ - มันเอาไปเทียบกับใครไม่ได้เลย คุณบรรหาร ที่ได้เบอร์ 13 ยังบอกลักกี้นัมเบอร์ อะไรแบบนี้ยังพูดได้นะ

ปานเทพ - 12 ต้องบอกเป็นเบอร์โหลๆ

คำนูณ - พวกเบอร์ 11 นะครับ เขาก็ยังหนึ่ง สองตัว

สโรชา - ก็ชู 11 ประมาณนี้ แต่ 12 ไม่รู้จะชูท่าไหน ต้องบอกว่าโหลเลย

ปานเทพ - คือยังไงก็ยังนึกไม่ออกว่าจะชูยังไง

สโรชา - ก็คุณสมัคร เขาก็พูดเอง เขาบอกว่าคือนักข่าวคงไปถามทำนองนี้ละคะ ผิดหวังไหมได้เลข 12

คำนูณ - มันก็อย่างนี้แหละคุณ เอามิ่งขวัญ แสงสุวรรณ มาโฆษณาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ มันก็โหลๆ พรรคโหลๆ

สโรชา - ใช่ไหมคะ ก็เรียบร้อยโรงเรียนจีนไป เพราะว่าก็กลายเป็นพรรคโหลเรียบร้อยแล้ว แล้วก็คือหัวหน้าพรรคก็พูดเองเต็มปากเต็มคำว่า ใครอยากจะเลือกพรรคพลังประชาชน ก็จำไว้แค่ว่าเป็นพรรคโหลนะคะ ก็จำง่ายดีเขาว่าอย่างนั้น.

คำนูณ - ท่านผู้ชมก็นึกเอาแล้วกัน ว่าอยากจะใส่เสื้อประเภท พูดไม่ได้เดี๋ยว กกต. จับ

ปานเทพ - แต่ว่าพรรคมัชฉิมาธิปไตย ตอนนี้คุณประชัย เลี่ยวไพรัช ยังไม่ใช่หัวหน้าพรรค คุณประชัย เลี่ยวไพรัช นั้นถือว่าเป็นที่รับมอบหมายจากหัวหน้าพรรคให้ขึ้นมาทำหน้าที่จับสลาก เพราะว่าในทางกฎหมายถือว่าการคัดสรรการประชุมใหญ่ ของหัวหน้าพรรคยังไม่เสร็จสิ้น

คำนูณ - คือวันที่ไปประชุมเลือกหัวหน้าพรรค ตามกฎหมายใหม่ต้องเป็นการประชุมลับ แต่กฎหมายเก่าต้องประชุมเปิดเผย ที่นี้คือก็ไปจัดการประชุมในวันที่เหมือนกับว่าเป็นประชุมสมัชชาใหญ่ที่จะเปิดตัวใหญ่ มัชฉิมาธิปไตย การรวมกันหรือการแยกกันครั้งล่าสุด ว่ากันว่าอย่างนั้นนะ คือนักข่าวก็เต็มทีนี้เขาจะปิดห้องประชุมลับกัน อันนี้ผมแอบได้ยินมานะ คือนักข่าวก็ไม่ยอม เฮ้ยคุณมีลับลม คมในอะไรจะบอกนักข่าวมารออยู่ตั้งเยอะ อะไรต่อมิอะไร ถ้าไม่ให้เข้าเดี๋ยวกลับเลยนะ ทางเจ้าที่พรรคก็เลยยอมปล่อยให้สื่อเข้ามาประชุมด้วย เขาไปร่วมสังเกตการณ์มันก็เลยไม่เป็นการประชุมลับ กกต. เขาก็บอกว่าเขาไม่รับรองการประชุมครั้งนั้น

ปานเทพ - ไม่รับรองก็ถือว่า คุณประชัย ไม่ใช่หัวหน้าพรรค

คำนูณ - ก็คือหัวหน้าพรรคก็ยังคงเป็นพรรคมัชฉิมาเก่า

ปานเทพ - แล้วรู้สึกจะลาออกด้วย รู้สึกจะมีอุปสรรคเหมือนกัน แต่ก็เกิดเหตุบังเอิญตรงที่ว่าบางทีเนื่องจาก คุณประชัย ไม่ใช่หัวหน้าพรรคเพราะฉะนั้นการสมัครวันนี้เป็น ส.ส. หัวหน้าพรรคต้องเซ็นรับรอง ซึ่งไม่ใช่คุณประชัย แล้วก็เกิดการแก้กลางครัน แก้กันที่นั่นซึ่งคุณประชัย ไม่ใช่หัวหน้าพรรคที่จะเป็นคนเซ็น

คำนูณ - ความซวยก็ไปตกอยู่กับพี่เรา เพื่อนเราหลายคน คุณการุณ ใสงาม ถูกเด้งไป เด้งมาเป็นลูกบอล จากบุรีรัมย์มากรุงเทพฯ เอากลับบุรีรัมย์อีก

ปานเทพ - ระบบสัดส่วนจากที่เดิมวางไว้ที่พิมพ์มาแล้วเป็นเบอร์ 1 ก็ตกหล่นกลายเป็นเบอร์ 2 ถัดไป เพราะหัวหน้าพรรคไม่ใช่ คุณประชัย เลี่ยวไพรัช

คำนูณ - ก็อาจจะเป็นเบอร์ที่อยู่ในโซนไม่ปลอดภัย เบอร์หนึ่งก็ถือว่ามีโอกาสค่อนข้างสูง แต่ลงมาเบอร์สองนี้ลำบากขึ้น

สโรชา - ไหนๆ พูดถึงคนรู้จักเมื่อวานนี้ เห็นบอกคุณคำนูณ ฝัน เลยมีคนฝากมาถามว่ามีฝันต่อไหม เมื่อคืนฝันต่อหรือเปล่า

คำนูณ - วันนี้อัดเทปเลยเหนื่อยมาก ไม่ฝันแล้วเอาเรื่องจริงเลย

ปานเทพ - เรื่องจริงว่าอย่างไร

คำนูณ - คือเจอคุณประพันธ์ คูณมี ที่ประชุม สนช. ผมก็ถามเขาว่าที่ผมฝันไปแล้วผมมาเล่านี้ มันเป็นอย่างไร ก็บอกว่าเพื่อนฝันถูกแล้วก็หลังจากเมื่อคืนนี้จะเป็นเหตุที่เรา มาเล่าความฝันด้วยหรือเปล่าไม่รู้ ก็โทรศัพท์กันครึกครื้น ทั้งคุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน, คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ใครต่อใครก็โทรไปบอกให้คุณประพันธ์ คูณมี ใจเย็นๆ แต่การตัดสินใจล่าสุดของคุณประพันธ์ คูณมี ก็คือถ้าไม่ได้ลงเขตบางซื่อก็ไม่ลง เพราะว่าถึงแม้ว่าจะมีคำอธิบายว่าเขตบางกะปิ มีนบุรี หนองจอก ที่ถูกไปลงนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว เป็นเขตเมืองแล้ว ไม่ใช่ชนบทแล้ว แล้วก็ทาง ส.ก. ส.ข. ของพรรคก็พร้อมจะช่วยเหลือกันเต็มที่ คุณประพันธ์ ก็บอกว่าไม่ได้ติดใจอะไรเลย เรื่อง ส.ก. ส.ข. ทีมงานของพรรคทุกคนน่ารักมาก แล้วเขาก็ดีใจทีได้คุณประพันธ์ ไปนะครับ แต่ติดใจที่คุณประพันธ์ เองลงเขตบางซื่อมาเก่าแก่ ก็คืออย่างน้อยครั้งที่แล้ว

ปานเทพ - แล้วก็มีฐานเสียงของตัวเองอยู่

คำนูณ - คะแนนก็ถือว่าอยู่ในขั้นดี และที่สำคัญเขตบางซื่อคราวนี้มันรวมกับ คือเที่ยวที่แล้วที่ลงคือเป็นเขตเดียว คนเดียว แต่เที่ยวนี้บางซื่อมารวมกับเขตอื่น ซึ่งทำให้บางซื่อเป็นเขตเกรดเอ

ปานเทพ - ที่มีโอกาสได้ อย่างน้อยไม่ใช่ที่ 1 ก็ที่ 2 ที่ 3 มีโอกาส

คำนูณ - คุณประพันธ์ ก็เลยไม่เข้าใจและก็คือก่อนหน้านี้ตัวเองก็เคยมีความเชื่อว่า จะต้องเป็นตัวยืนในเขตบางซื่อมาโดยตลอดนะครับ แต่สุดท้ายก็ถูกเบียดโดยคนรุ่นใหม่ หน้าใหม่ ที่เพิ่งลงสมัครครั้งแรกเพียงแต่ว่าอาจจะดูหนุ่มกว่า และก็นามสกุลเพราะกว่าอะไรอย่างนี้ ก็คือหน้าใหม่ทั้ง 3 คน เพราะฉะนั้นถ้าจะพูดถึงเรื่องของศักดิ์ศรีมาเกี่ยวข้อง ก็ต้องถือว่ามีด้วย

ปานเทพ - คล้ายๆ กับว่าประชาธิปัตย์ กำลังคิดในเชิงว่าถ้าเป็นเขตชั้นในของเมือง ต้องเป็นคนที่หน้าใหม่ เหมือนใส การศึกษาดี หน้าตาดี หนุ่มๆ 30-40 ปี ประมาณแบบนี้ใช่ไหมครับ

คำนูณ - ก็มีการต่อรอง

สโรชา - ทำไมคุณบรู๊ค ถึงไปลงหนองจอกละคะ

ปานเทพ - ก็เขาคิดอีกแบบไง นั่นคนละพรรคไง

คำนูณ - ก็คือมีการต่อรองถ้าอย่างนั้นคุณประพันธ์ ก็ไปลงเขตบางกะปิ แต่ว่ากลับมาเป็นหัวหน้าทีมได้ไหม คือเดิมเขาให้คุณกุ๊ก นาตยา แดงบุหงา หัวหน้าทีมหญิง ลำดับ 2 ก็คือ คุณสำราญ คุณประพันธ์เป็นอันดับ 3 ซึ่งโดยธรรมชาตินั้นตกคือคนเวลาเขาเลือก เขาก็จะแบ่งคือเอาหนึ่ง สอง หนึ่งของอันโน้น หนึ่ง สอง ของอันนี้

ปานเทพ - แต่ถ้าแข็งแรงมากๆ เขาก็มักจะใช้ 1 กับ 3 คอยหนีบคนที่ 2 ให้ขึ้นไปก็มีนะครับ

คำนูณ - แล้วถ้าเกิด 3 คน ในทีมเกิดเวลานาทีท้ายๆ ขึ้นมาจำเป็นจะต้องยิงเน้น แบบว่าถ้ายิงกระจายทั้ง 3 เป้าหมายอาจจะพลาดกันหมด ก็อาจจะหาเสียงแบบเน้นขอให้ได้เพียงบางคน มันก็จะเป็นปัญหา ซึ่งที่จริงนี่คือข้อเสียของการสมัครแบบ 3 คน บางทีในทีมเดียวกันยังมีชิงกันเอง ขัดแย้งกันเอง คุณประพันธ์บอกว่า ไม่เอา

สโรชา - คือไม่เอาถ้าไม่ได้ลงบางซื่อ

คำนูณ - ขอยืนว่าถ้าไม่ได้ลงบางซื่อเที่ยวนี้ก็ขอไม่ลง แต่จะเป็นเด็กดีของพรรคตลอดไป ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้น ไม่ออกมาแถลงข่าวแบบ อ.เกรียงศักดิ์ เจริญวงษ์ศักดิ์ อะไรทั้งสิ้น คือเป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็ยังเป็นพรรคประชาธิปัตย์อยู่ เพียงแต่ว่ามันไม่สะดวก จะทำหน้าที่ สนช.ต่อไป ก็ยังมีเวลาจนกว่าจะถึงวันสมัคร ส.ส.เขต

ปานเทพ - ช่วงนี้จะเป็นเวลาของทุกพรรคการเมืองที่จะไปหายุทธวิธีการนำเสนอตัวเลขให้คนจำง่าย

คำนูณ - ถ้าถามว่า ทำไมคุณสำราญ รอดเพชร ไม่มีปัญหา ต้องตอบว่า คุณสำราญ รอดเพชร ถ้าตัดสินใจลงพรรคประชาธิปัตย์ แน่ชัดว่าต้องลง ส.ส.เขต แน่ชัดว่าถูกวางตัวไว้อยู่เขตบางกะปิ มีนบุรี หนองจอก เพราะบ้านคุณสำราญอยู่แถวนั้น แล้วถูกวางไว้ให้ลงคู่กับคุณนาตยา แดงบุหงา แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าลำดับ 3 อีกคนเป็นใคร ในขณะที่คุณประพันธ์เชื่อว่าแกจะได้รับคัดเลือกให้ลงบางซื่อมาโดยตลอด แต่เมื่อพลิกอย่างนี้แล้ว ต้องเข้าใจว่าเขตมีนบุรี หนองจอก บางกะปิ เป็นเขตแข็งที่สุดของพลังประชาชน

ปานเทพ - โดยเฉพาะฐานเสียงของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อยู่แถวนั้น

คำนูณ - คือตอนนี้คุณมงคล กิมสูญจันทร์ เขาก็มีฐานของเขา คุณวิชาญ เขาก็มีฐานของเขา คุณหญิงสุดารัตน์ต้องเดินให้คุณบรู๊คเต็มที่

ปานเทพ - คุณบรู๊คซึ่งเป็นดาราก็มีคนรู้จักอยู่แล้ว

คำนูณ - แต่สถานการณ์อาจจะพลิกผัน เพราะไม่รู้ในที่สุดแล้วคุณหญิงสุดารัตน์กับพลังประชาชน

ปานเทพ - จะยังคงเกาะกลุ่มกันอยู่หรือเปล่า

สโรชา - จะยังคงเหนียวแน่นไหม พี่สำราญขาบ้านแอ้มอยู่มีนบุรีค่ะ แต่พูดมากไม่ได้เดี๋ยว กกต.ว่า

คำนูณ - ต้องระวังๆ

สโรชา - ต้องระวังไว้ ต้องระวังไว้ ความเคลื่อนไหวทางด้านการเลือกตั้งอีกท่านหนึ่งที่คงจะต้องทำหน้าที่ สนช.ต่อไป และไม่ได้มาลงรับสมัครเลือกตั้งในครั้งนี้ก็คงเป็น พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน เพราะวันนี้ออกมาแถลงข่าวชัดเจนนะคะว่า เนื่องจากว่าด้านกระทรวงกลาโหมนั้นอนุมัติใบลาออกล่าช้า เพิ่งมีผลเมื่อคืนนี้ คืนวันที่ 6 พฤศจิกายน เพราะฉะนั้นวันนี้เลยส่งผลให้ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบสัดส่วนได้อย่างที่ตั้งใจไว้ ในส่วนของพรรครวมใจไทยฯ

ปานเทพ - และ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน ประกาศชัดเจนว่า จะไม่ลงสมัครเลือกตั้งในระบบเขต

สโรชา - คือบอกไม่ถนัดอยู่แล้ว

ปานเทพ - แต่ผมฝันอีกเหมือนกัน

สโรชา - ทำไมเป็นคนช่างฝันกันจังเลยสองคนนี้

ปานเทพ - ฝันว่า พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน จะไปลงสมัครชิงผู้ว่าฯ กทม.ในปีหน้า ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในเดือนกรกฎาคม ปีหน้า ฝันว่าอย่างนั้นนะครับ

สโรชา - แล้วคุณอภิรักษ์ไม่ลงต่อแล้วหรอ

ปานเทพ - อันนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง

คำนูณ - คุณอภิรักษ์ก็ลงในส่วนของคุณอภิรักษ์

สโรชา - ก็สู้กันไป

คำนูณ - คนก็ลงเป็นสิบ

ปานเทพ - ต้องไปดูกัน

คำนูณ - คุณชูวิทย์ ก็หนึ่งแล้ว

ปานเทพ - หนึ่งแล้วคุณชูวิทย์ คุณนิติภูมิอีกคน แล้วก็คุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน และคนอื่นๆ อีกมากมาย

สโรชา - นี่คือฝันไปอีกท่านหนึ่งที่จะลง คือไม่ลงครั้งนี้แน่นๆ 23 ธันวาฯ จะไม่เห็นชื่อ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ ลงสัดส่วนไม่ได้แล้ว ส่วนเขตนี่ไม่ถนัด ในส่วนของการสอบวินัย พล.ร.อ.บรรณวิทย์ บอกว่า ก็ทำงานด้วยความซื่อสัตย์มาโดยตลอด และอยู่ในตำแหน่งสำคัญๆ มาก็หลายตำแหน่ง เพราะฉะนั้นตรงนี้คงจะเป็นสิ่งที่ชี้วัดได้ว่าการทำงานที่ผ่านมาเป็นอย่างไร แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้คือ ทำหน้าที่ สนช.ต่อไปจนกว่าจะครบวาระ แล้วค่อยว่ากันไปหลังจากนั้น เดี๋ยวเราพักกันสักครู่นะคะ กลับมาเรามีภาพสำคัญๆ มาให้คุณผู้ชมได้รับชมกัน สักครู่เดียวค่ะ

(ช่วงที่ 2)

สโรชา - กลับเข้าสู่รายการยามเฝ้าแผ่นดิน วันนี้วันที่ 7 พฤศจิกายน เป็นวันก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน และเป็นวันเกิดของยามใหญ่ สนธิ ลิ้มทองกุล บรรยากาศที่สำนักงานผู้จัดการ ที่บ้านพระอาทิตย์ วันนี้คึกคัก มีหลายท่านที่เดินทางมาอวยพรคุณสนธิ มีแฟนๆ ของผู้จัดการรายวัน ก็มาอวยพรทีมงาน บก.ผู้จัดการรายวันด้วย

ปานเทพ - อยากจะบอกว่า ไม่ใช่วันคล้ายวันเกิดปกติธรรมดาเพียงอย่างเดียว แต่เป็นวันคล้ายวันเกิดของผู้ชายคนหนึ่งที่อายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ถือว่าเป็น ถ้าเทียบกับวัยของข้าราชการคือ ข้าราชการที่เกษียณอายุแล้ว ช่วงชีวิตของคุณสนธิก็ 60 ปีในปีนี้ ถือว่าเป็นปีที่ได้ผ่านอะไรมาเยอะ คุณสนธิเคยพูดบนเวทีพันธมิตรฯ อยู่เสมอว่า จะ 60 ปี ทำทั้งความดีมาก็ไม่น้อย ทำความชั่วมาก็ไม่น้อยเช่นกัน ยังจำได้ว่า คุณสนธิเคยพูดว่า ขอใช้ระยะเวลาที่เหลือในชีวิต ขอขมาประชาชนทั้งหมดไม่ว่าความผิดอะไรก็ตามในช่วงชีวิตที่ผ่านมา และขอทำความดีให้กับแผ่นดิน และขอให้เชื่อมั่นว่าสามารถนำพาประชาชนไปต่อสู้กับระบอบทักษิณ

คำนูณ - ฟังเสียงคุณสนธิพูด

ปานเทพ - มีเสียงสัก 3 ส่วนที่จะให้คุณผู้ชมดูว่า คุณสนธิพูดอะไรกันบ้าง ทั้งในส่วนของพนักงานเอเอสทีวี ของผู้จัดการรายวัน แล้วก็กลุ่มที่สนิทกับคุณสนธิ

สโรชา - เดอะแก๊ง

ปานเทพ - เจอกันเป็นประจำ คุณคำนูณ คุณพจน์ สมุทวณิช ผมเอง คุณสุวิทย์ นิลาวรรณ คุณปัจพัฒน์ หลายคน เราไปฟังกันหน่อย คุณสนธิมีความคิดอย่างไรกับคนที่ทำงานร่วมกัน

(VTR)

ปานเทพ - เป็นภาพโดยรวม คุณสนธิเน้นเรื่องธรรมอยู่กับพวกเราเป็นประจำ

คำนูณ - วันนี้เทศน์หลายกัณฑ์ เสียดายที่ภาพไม่สามารถจับได้ ผมเห็นตั้งแต่ตอนเช้าที่คณะผู้จัดการรายวันเข้าไปอวยพร คุณสนธิก็ให้โอวาทนาน แต่เที่ยวนี้จะมีเรื่องธรรมะเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

ปานเทพ - คุณสนธิจะเน้นในเรื่องของธรรม ธรรมที่ว่านี้คือ ปฏิจสมุปบาท เมื่อสิ่งนี้มีสิ่งนี้จึงมี สิ่งนั้นเกิดสิ่งนั้นจึงเกิด สิ่งนี้ดับไปสิ่งนั้นจึงดับไป ทุกอย่างมีเหตุและปัจจัย จึงเป็นตรรกะ มองป่าทั้งป่าในการวิเคราะห์ข่าวสารเพื่อประชาชนเกิดประโยชน์สูงสุด เป็นธรรมที่

คำนูณ - มองภาพรวมออก

ปานเทพ - เพื่อให้ทีมงานได้ระลึกอยู่เสมอถึงการใช้ธรรมในเรื่องเหล่านี้ มีอีกภาพหนึ่งเป็นภาพที่เราเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว คุณแอ้ม เป็นภาพที่คุณ นอกจากวันคล้ายวันเกิดที่ดูเหมือนว่าไม่ใช่วันเกิดธรรมดา นอกจากวันคล้ายวันเกิดที่ครบรอบ 60 ปี แล้วยังเป็นวันคล้ายวันเกิดที่พูดถึงเรื่องธรรมเยอะหน่อย เพราะว่าจะเป็นวันที่คุณสนธิตัดสินใจ

คำนูณ - ลาบวช

ปานเทพ - ลาบวช ลาเพื่อไปอุปสมบท คุณสนธิเลยมีของฝากถึงท่านผู้ชมทุกท่าน ที่เรานัดกันไว้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ประมาณ 6 นาที

คำนูณ - อัดเทปไว้ตั้งแต่เมื่อวาน

ปานเทพ - อัดเทปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เพราะฉะนั้นเชิญรับชมจากคำพูดของคุณสนธิถึงท่านผู้ชมทุกท่าน

สนธิ - "สวัสดีครับท่านผู้ชมครับ วันนี้เป็นวันพุธที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ.2550 วันนี้เป็นวันเกิดของผม ครบรอบ 60 ปี 5 รอบ ท่านผู้ชมที่ชมรายการยามเฝ้าแผ่นดินอยู่ ทั้งในประเทศไทยที่ผ่านเคเบิลท้องถิ่น หรือท่านผู้ชมที่มีจานรับสัญญาณดาวเทียมของท่านเอง ท่านผู้ชมที่ชมรายการนี้อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา หรือท่านผู้ชมที่ชมรายการนี้ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตทั่วโลก ตลอดจนท่านผู้ฟังที่ฟังรายการนี้อยู่โดยผ่านคลื่นวิทยุต่างๆ วันนี้ผมมีเรื่องที่จะมาพูดสั้นๆ กับท่านผู้ชม ท่านผู้ฟัง และพ่อแม่พี่น้องทั้งหลาย ผมเงียบหายไป 2 อาทิตย์กว่าๆ เพราะว่าผมเตรียมตัวบวช

"ผมได้เตรียมตัวบวชมาเป็นระยะเวลา 2-3 ปีแล้ว โดยที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ผม องค์หลวงพ่อญาท่าน ซึ่งท่านเคยเป็นองค์อุปัชฌาย์ให้ผมสมัยที่ผมบวชเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ที่วัดป่าแห่งหนึ่งใน จ.หนองบัวลำภู ผมเคยรับปาก กล่าวสัจจะวาจากับท่านว่าผมจะบวชอีกครั้งหนึ่ง ท่านก็อนุโมทนาให้ และในการบวชครั้งนี้นั้นเป็นการอนุโมทนาที่ผมต้องทำตามสัจจะวาจาที่ผมได้พูดกับองค์พ่อแม่ครูบาอาจารย์ หลวงพ่อญาท่านก่อนที่ท่านจะมรณภาพไปเมื่อสัก 1-2 ปีที่แล้วนั้น ก่อนที่ท่านจะสิ้นลมหายใจ ท่านก็พูดกับผมว่า อย่าลืมคำมั่นสัญญา สัจจะวาจาว่าจะบวช

"ผมเองนั้นตั้งใจจะบวชให้ท่าน และบวชให้กับหลายๆ อย่างในชีวิต แต่เผอิญภารกิจที่จะต้องลุกขึ้นมาต่อสู้ เรียกร้องสิ่งที่ถูกต้องในสังคมนั้นได้เกิดขึ้นในปี ปลายปี 2548 ต่อ 2549 ก็ได้แต่เลื่อนเวลามาตลอด จนกระทั่งมาถึงเมื่อเร็วๆ นี้ ผมคิดว่า ภารกิจที่ผมได้ทำมาให้กับชาติบ้านเมืองนั้นมีความจำเป็นที่จะต้องพักลงบ้าง ผมเลยตัดสินใจที่จะบวช วันพรุ่งนี้เป็นวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2550 ผมจะเริ่มเข้าสู่อุโบสถเพื่อขอบรรพชาเป็นพระภิกษุสงฆ์ ผมตั้งใจจะบวชเป็นระยะเวลาอย่างน้อยที่สุด 1 เดือน และในระยะเวลา 1 เดือน หรือเกินกว่า 1 เดือนนั้น ผมตั้งใจที่จะปฏิบัติธรรม และเข้มงวดกับตัวเองให้มากที่สุด กลับคืนไปสู่สภาพที่จะต้องรู้จักตัวเอง แล้วก็เรียนรู้สัจธรรมในชีวิต

"พูดง่ายๆ ว่า กลับไปเติมพลังเพื่อให้มีสติมากขึ้นจะได้สร้างปัญญา เพื่อเอาปัญญานั้นมารับใช้สังคมต่อไป การบวชครั้งนี้ของผมนั้น ผมจะบวชเพื่อที่จะรู้จักตัวเอง รู้จักสิ่งที่ตัวเองทำ แล้วลองทบทวนดูว่าใน 2-3 หรือ 1-2 ปีที่ผ่านมานั้น สิ่งที่ตัวเองทำนั้นมีข้อผิดพลาดอันใดบ้าง ด้วยเหตุอันนี้ผมเลยขอเวลาของคุณคำนูณ คุณปานเทพ คุณแอน จินดารัตน์ หรือคุณสโรชา พรอุดมศักดิ์ เพื่อที่จะมาขอขมากับท่านผู้ชมเอเอสทีวี และพี่น้องประชาชนที่ติดตามชมรายการนี้อยู่ วันนี้ผมขอขมาท่านผู้ชมอย่างเป็นทางการ

"กระผมนายสนธิ ลิ้มทองกุล จะเข้าพิธีอุปสมบทในพระพุทธศาสนาในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2550 เพื่อเป็นการถวายพระราชกุศลให้กับองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณบิดา มารดา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และครูบาอาจารย์ ตลอดจนพี่น้องประชาชนที่ให้การสนับสนุนในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา สิ่งใดที่กระผมได้ล่วงเกินต่อท่านทั้งหลาย ด้วยกายกรรม 3 วจีกรรม 4 มโนกรรม 3 ที่กระผมได้พลาดพลั้งต่อหน้าก็ดี ลับหลังก็ดี มีเจตนาก็ดี ไม่มีเจตนาก็ดี ระลึกได้ก็ได้ ระลึกไม่ได้ก็ดี กระผมขอขมา ขออภัยต่อท่านทั้งหลาย ในขณะเดียวกัน ผู้ที่มุ่งร้าย ผู้ที่ปองร้าย และผู้ที่ปรารถนาร้ายต่อกระผม ด้วยกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ทั้งที่มีเจตนาก็ดี หรือไม่มีเจตนาก็ดี กระผมขอให้อภัยและอโหสิกรรมต่อท่านทั้งหลายเหล่านั้นด้วยเช่นกัน ขอให้ท่านทั้งหลายได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้า ณ โอกาสนี้ด้วยเทอญ"

ปานเทพ - เป็นการเตรียมที่เตรียมด้วยความตั้งใจของคุณสนธิจริงๆ เดิมทีไม่คิดออกอากาศอีกเลยจนบวช หายไปเลย แต่ว่านึกถึงประชาชน นึกถึงคนชมเอเอสทีวี

คำนูณ - ก็บอกกล่าวกันซะหน่อย แล้วก็ ทีแรกคิดว่า พิธีบวชจะมีขึ้นใกล้ๆ แต่ว่าเมื่อเกิดปัญหา เกิดความไม่สงบขึ้นมา ก็คือเพื่อให้บรรลุประสงค์ความสงบนั้นจึงไม่ได้บอกว่า

ปานเทพ - ที่ไหน

คำนูณ - จะบวชที่ไหน แต่คนส่วนใหญ่จะรู้

ปานเทพ - แต่ว่า ภาพที่หลายคนไม่รู้ว่าเราอะไรกันอย่างไร อยากจะบอกว่า ณ ชั่วโมงนี้คุณสนธิปลงผมหมดแล้ว

คำนูณ - คือ เวลา 19.00 น. วันที่ 7 พฤศจิกายน เมื่อสักครู่มานี้เอง ไปดูภาพ เกือบจะสด

ปานเทพ - ห่างจากเราประมาณ 1 ชั่วโมง

คำนูณ - นี่คือที่บ้านพระอาทิตย์

ปานเทพ - คุณสนธิแต่งชุดสีขาวเพื่อบวชนาคก่อน ปลงผมที่บ้านพระอาทิตย์ ที่จริงคุณสนธิตัดผมสั้นอยู่แล้ว

คำนูณ - จะปลงผมแล้วเดินทาง

ปานเทพ - เดินทางไปต่างจังหวัด

คำนูณ - คืนวันนี้ คืนวันที่ 7 พฤศจิกายน 2550 แล้วก็ไปบวชในเวลาเช้าวันที่ 8 พฤศจิกายน 2550

ปานเทพ - ซึ่งพวกเราจะไปกันด้วย ดังนั้นรายการนี้จึงเป็นเทปที่อัดไว้ล่วงหน้าประมาณ 1 ชั่วโมง มีเพื่อนฝูง มิตรสหาย

คำนูณ - อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์

ปานเทพ - ก็ปลงผม

คำนูณ - เราไม่มีโอกาสร่วมพิธี เราจำเป็นต้องมาอัดเทปเพราะเดี๋ยวจะมีคิวอัดรายการคนในข่าวต่อ เพราะว่าพวกเราอยากจะไปร่วมงานบุญในวันพรุ่งนี้ ก็เสียดาย ทีแรกตั้งใจว่าจะอยู่ร่วมพิธีก่อนแล้วข้ามมาอัดเทป แล้วขึ้นรถไปเลย

ปานเทพ - อ.ภูวดล ทรงประเสริฐ มาร่วมพิธี

คำนูณ - ข้างหลัง คุณปัจพัฒน์ คุณดีน เป็น รปภ.มาตั้งแต่ยุคพันธมิตรฯ

ปานเทพ - คนที่สะพายเป้ข้างหลัง

คำนูณ - คุณวริษฐ์ ลิ้มทองกุล

สโรชา - คุณจิตตนาถ ด้วย

ปานเทพ - ภรรยาคุณสนธิด้วยนะครับ

สโรชา - อ.จันทร์ทิพย์ ลิ้มทองกุล

ปานเทพ - ทั้งลูกชายทั้งภรรยามาครบ ก็เตรียมปลงผมครับ คุณผู้ชมครับนำภาพนี้เมื่อกี้เมื่อไม่กี้ ชม.

คำนูณ - คนถือใบบัวนั่งคือ คุณจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ลูกชายนะครับ เสื้อเหลืองคือ อ.สุวัจน์ ทองธนากุล ประธานสภาการหนังสือพิมพ์ และก็บรรณาธิการบริหารผู้จัดการรายสัปดาห์

ปานเทพ - ก็ผมว่าเป็นภาพที่ ผมเพิ่งเห็นนะครับ เห็นพร้อมคุณผู้ชมก็ยังรู้สึกปลาบปลื้มไปด้วย เราไม่ได้มีโอกาสเห็นเพราะว่าจัดรายการก่อน

คำนูณ - จำได้ไหมครับคุณผู้ชม นี่คือสระน้ำเล็กๆ กลางบ้านพระอาทิตย์ที่สร้างความประทับใจให้เราวันก่อนที่คุณสนธิ จะออกไปชุมนุมวันที่ 4 คืนวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2549 จัดเวทีลานประชาชน

สโรชา - และก็ได้ลาพนักงาน แต่ได้ถ่ายทอดในช่วงของเมืองไทยรายสัปดาห์ฯ

คำนูณ - ก็วันนั้นวันศุกร์

ปานเทพ - แล้วภาพที่เราเห็น เราทั้ง 3 ท่านเห็นพร้อมคุณผู้ชม คุณสนธิ ปลงผมที่บ้านพระอาทิตย์เพื่อเตรียมอุปสมบทในเช้าวันรุ่งขึ้นนะครับ ก็เป็นเจตนารมณ์ที่คุณสนธิ ได้พูดไปหมดแล้วทั้งการอโหสิกรรม ทั้งการให้อภัย เพื่อเตรียมใจที่จะบวช 1 เดือนนะครับคุณผู้ชมจะไม่ได้เห็นภาพของคุณสนธิ มาออกรายการ ASTV แล้วเราจะมีภาพมาฝากเรื่อยๆ นะครับ

คำนูณ - ก็สดๆ จริงๆ พูดไม่ออก เสียดายที่ไม่ได้อยู่ด้วย

สโรชา - เราคงจะมีภาพงานอุปสมบทมาฝากคุณผู้ชมด้วย

ปานเทพ - แต่ว่าจะเป็นช่วงเวลาใด เราคงจะจัดเวลาให้เหมาะสมเพราะว่าต้องดูสถานการณ์ ดูแรงสถานการณ์รอบข้างเป็นอย่างไร

คำนูณ - แต่ในคืนวันพรุ่งนี้ก็จะเป็นเทปอีกวันใช่ไหมคุณปานเทพ เพราะเราคงจะไม่อยู่

ปานเทพ - นี่ครับ หลังจากใช้เวลาปลงผม ในระยะเวลาหนึ่งแล้ว ทุกคนได้มีโอกาสปลงผม ใบบัวใบนั้นก็เป็นผมของคุณสนธิ นี่ละครับคุณผู้ชมครับได้เห็นพร้อมกันคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ปลงผมทั้งหมดและคิ้วด้วย

คำนูณ - พระนี่ก็เป็นศิษย์ญานุศิษย์ของหลวงตา มหาบัว ญาณสัมปันโนนะครับ

ปานเทพ - ทางทีมงานก็จะพยายามเก็บภาพคุณสนธิ ระหว่างปฏิบัติธรรมเท่าที่ทำได้

คำนูณ - ไม่รับปากร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ว่าในพิธีอุปสมบท อาจจะได้เห็นภาพกันวันศุกร์

สโรชา - จะพยายามคะ อย่างที่เรียนว่าจะต้องดูความเหมาะสมของบรรยากาศด้วย หมดเวลาแล้วคะคุณผู้ชมสำหรับยามเฝ้าแผ่นดิน อย่างที่เรียนวันพรุ่งนี้เราลาคุณผู้ชม 1 วัน เป็นเทปบันทึกภาพเรากลับมาพบกันอีกทีอาจจะวันศุกร์ หรือไม่ก็วันจันทร์ไปเลยนะคะ

คำนูณ - ถ้าสดๆ จริงๆ คงจะวันจันทร์

สโรชา - วันจันทร์นะคะ งั้นลาคุณผู้ชมไปเพียงเท่านี้ สวัสดีคะ/สวัสดีครับ

คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป
รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่ 1

( 56 k ) | ( 256 K )



คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป
รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่ 2

( 56 k ) | ( 256 K )

ประชาชนเฝ้ารอรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกจากโรงพยาบาลศิริราชฯ

กำลังโหลดความคิดเห็น