“ยามเฝ้าแผ่นดิน” ระบุ “หลานกร” เข้าพรรคชาติไทย ถือเป็นชัยชนะของ “บรรหาร” ที่ยังรักษาพรรคไว้ได้อย่างมั่นคง จนคนในกลุ่มซอยราชครูที่เคยตีตัวออกห่างต้องกลับมาซบ ชี้ พปช.อ้างผลสำรวจได้ 250 ส.ส.หวังข่มขวัญคู่ต่อสู้ หากผลเลือกตั้งจริงได้ไม่ถึง จะเป็นข้ออ้างโดนกลั่นแกล้ง โต้ “นพดล” ยันพันธมิตรฯ ไม่เคยกลัวทักษิณ
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ ยามเฝ้าแผ่นดิน โดย คำนูณ สิทธิสมาน, ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ ช่วงที่ 1
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ ยามเฝ้าแผ่นดิน โดย คำนูณ สิทธิสมาน, ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ ช่วงที่ 2
จินดารัตน์ - สวัสดีคะ คุณผู้ชมคะรายการยามเฝ้าแผ่นดินคะพบกับคุณคำนูณ สิทธิสมาน คุณปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และ ดิฉันจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ คะ เมื่อเวลา 18.34 น.สำนัก พระราชวัง ได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 20 การถวายการรักษาพระอาการปวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวใจความว่า
วันนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รายงานว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงบริหารพระวรกายเพื่อเพิ่มพละกำลัง และพระอาการทั่วไปดี
จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
สำนักพระราชวัง
1 พฤศจิกายน 2550
และในขณะเดียวกันนะคะ .สำนักพระราชวังก็ได้ออก
แถลงการณ์เรื่องเรื่องสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระประชวร ฉบับที่ 8 ความว่า
วันนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ รายงานว่า พระอาการโดยทั่วไปคงที่ เริ่มเสวยพระกระยาหารได้บ้าง คณะแพทย์จะยังคงถวายอาหารเสริมทางหลอดพระโลหิตร่วมกับพระโอสถรักษา และถวายการรักษาทางกายภาพบำบัดต่อไป
จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
สำนักพระราชวัง
1 พฤศจิกายน 2550
ตอนนี้อากาศเริ่มเย็นลงแล้ว คุณผู้ชมคะ 2 วันมานี้อาจจะได้สัมผัสอากาศหนาวได้ชนิดที่เรียกว่าคนกรุงไม่รู้ว่าจะหนาวอย่างนี้ หรือว่าจะหนาวมากกว่านี้ได้กี่วัน ตอนนี้คุณคำนูณ คุณปานเทพ ได้ไปเดินตลาดบ้างไหมคะ เห็นไหมคะว่าเขาเอาเสื้อกันหนาวมาขายกันแล้ว เพราะข่าวว่าปีนี้จะหนาวกว่าปีที่แล้วด้วย
คำนูณ - เห็นบอกว่าจะหนาวในรอบ 30 ปี
ปานเทพ - ทำให้นึกถึงตอนที่ผมยังตัวเล็กๆอยู่ ตอนนั้นคุณคำนูณ คงเป็นวัยรุ่น
คำนูณ - ก็มีสัก 4 - 5 ปี มานี้ จำได้ไหมมีอยู่ปีที่หนาวอยู่ 3 - 4 วัน
ปานเทพ - จำได้ว่าตอนเด็กๆใส่เสื้อหนาวไปโรงเรียน ฤดูหนาวมาแล้ว ใส่แขนยาว เสื้อหนาว เดี๋ยวนี้ไม่ได้เห็นนานมากแล้ว
จินดารัตน์ - เราไม่ได้ใส่เสื้อหนาวอย่างจริงจังมาสัก 10 ปี ได้แล้วมั้งคุณปานเทพ คือพอหนาวทีสัก 3 - 4 ปี ที่แล้วก็ดีใจ ตอนนี้รายงานสภาพอากาศนิดนึงให้ระมัดระวังสุขภาพกันหน่อย อากาศเปลี่ยนแบบนี้โดยเฉพาะเด็กๆ จะไม่สบายกันได้ง่ายๆ ตอนนี้ภาคเหนืออุณหภูมิลดลง 2 - 3 องศา ส่วนกรุงเทพฯ ลดลงไป 1 - 2 องศา แล้ว ต่ำสุดอยู่ที่ 21 องศา สูงสุด 33 องศา ภาคเหนือจะต่ำสุดอยู่ที่ 16 องศา สูงสุดอยู่ที่ 33 องศา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนนี้มีฝนด้วย อุณหภูมิจะลดลง 3 - 5 องศา ส่วนภาคตะวันออก ภาคใต้ ก็มีฝนตกหนักเป็นบางแห่ง โดยเฉพาะชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ต้องระมัดระวังกันนิดนึง แต่ว่าอุณหภูมิโดยปกติแล้ว ก็ยังอากาศดีอยู่
จินดารัตน์ - ภาคใต้อากาศเย็นลงนิดหน่อย ต้องระมัดระวังดูแลเรื่องสุขภาพกันด้วยค่ะ วันนี้เราจะเริ่มกันด้วย จะเรียกได้ว่าระหว่างพรรคชาติไทย กับประชาราช เรียกว่าอะไรกันดีค่ะวันนี้ คนหนึ่งเดินออกจากพรรคประชาราช เดินไปชาติไทย อีกคนเดินออกชาติไทยไปพรรคประชาราช ถ้าคุณผู้ชมติดตามข่าววันนี้บางคนอาจจะนั่งเอามือเท้าคาง เอากันให้เสร็จเสร็จเมื่อไหร่แล้วบอกด้วย ปรากฏว่าวันนี้ คุณกร ทัพพะรังสี ย้ายจากประชาราช ไปซบอกชาติไทย ก็พูดเปรยๆเล่นกันกับคุณบรรหาร ศิลปอาชา ที่เคยเรียกกันคุณหูว่าคุณอา พรรคชาติไทยออกมาต้อนรับคุณกร ทั้งคณะ มีป้ายด้วย บอกว่า พรรคชาติไทยขอต้อนรับ ท่านกร ทัพพะรังสี คืนสู่เย้า แล้วคุณกร พูดสั้นๆกับผู้สื่อข่าวว่า บ้านหลังนี้ผมคุ้นมากเลย หนีไปเที่ยวหลายปี ขอกลับบ้านก็แล้วกันนะ ชื่นมื่นกันอีกครั้งนึง
ปานเทพ - ถือว่าเป็นการต้อนรับอย่างให้เกียรติอย่างยิ่งเลยนะครับ
คำนูณ - ก็ต้องถือว่าเป็นชัยชนะของลูกผู้ชายชื่อบรรหาร ศิลปอาชา ที่บอกว่าเป็นชัยชนะ ควรเข้าใจว่า คุณกร ทัพพะรังสี ก็เป็นเครือญาติ เป็นหลานของ จะพูดว่าเจ้าของพรรคก็พูดลำบาก เอาเป็นว่า หลานของผู้ก่อตั้งพรรค พรรคชาติไทยก็เริ่มมาจากตระกูลอดิเรกสาร กับตระกูลชุณหะวัณ ซึ่งเป็นเครือญาติกัน ซอยราชครู อันที่จริงกลุ่มซอยราชครู ในยุค จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ตั้งแต่ปี 2501 เป็นต้นมา ก็เหมือนกับพ้นวงโคจรอำนาจไป เฉพาะ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ
คำนูณ - ซึ่งสมัยนั้นเป็น พล.ต.ชาติชาย ชุณหะวัณ ภาษาทางการเมืองก็เหมือนกับถูกเนรเทศส่งไปเป็นเอกอัครราชทูตที่อาร์เจนตินา เพราะว่ากลุ่มซอยราชครู คือเชื้อสายกลุ่มจอมพลผิน ชุณหะวัณ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ ซึ่งเนกลุ่มจอมพล ป. พิบูลสงครา เมื่อจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ มำปฏิวัติขึ้นมาศูนย์อำนาจมันเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ เพราะฉะนั้นทาง พล.ต.ประมาณ อดิเรกสาร ยุคนั้น ก่อนจะเป็น พล.ต.อ.ประมาณ ท่านก็มาทำธุรกิจ ทำโรงงานทอผ้า แต่ว่าก็ขาดออกจากวงการเมืองวงราชการ กลุ่มซอยราชครูกลับมาสู่อำนาจอีกครั้งก็หลังยุคเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 มาร่วมกันก่อตั้งพรรคชาติไทย 3 แกนนำหลักที่เป็นผู้ใหญ่ในยุคนั้นก็คือ พ.ต.ประมาณ อดิเอกสาร ถือว่าสูงวัยสุด พ.ต.ชาติชาย ชุณหะวัณ นะครับ และก็ พ.ต.ศิริ สิริโยธิน นะครับ และก็ พ.ต.ศิริ สิริโยธิน ท่านก็ถึงแก่กรรมไปก่อนนะครับ
คำนูณ -คุณบรรหาร ศิลปอาชา นี้ต้องถือว่าละอ่อนทางการเมืองก็คือเป็นพ่อค้า เป็นนักธุรกิจที่เข้ามาสู่วงโคจรทางการเมืองครั้งแรกด้วยการเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ยุค 2516-2517 จากนั้นก็มาร่วมก่อตั้งพรรคชาติไทยด้วยนะครับ แต่ว่าก็ต้องบอกว่าโดยศักดิ์โดยศรีแล้วก็ถือว่าไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของซอยราชครู แต่ว่าอาศัยความบากบั่นการทำงานหนักและก็ใจถึง ทำเต็มที่แหละทุกทางก็ไต่เต้าในพรรคมาเรื่อยๆ จนกระทั่งได้ขึ้นเป็นเลขาธิการพรรค แต่ว่ามันก็จะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เกิดการปืนเกลียวกันนะครับ ระหว่างสายซอยราชครู กับคุณบรรหาร สาย พ.ต.ประมาณ อดิเรกสาร ในยุคนั้นก็คือเป็นประเด็นที่อยากจะพูดโยง หรืออาจจะพูดคุยในวันนี้ก็ได้ที่คุณบรรหาร ศิลปอาชา ปฎิเสธไปลอนดอนจริงแต่ไม่ได้ไปตกลงอะไรกับคุณทักษิณ ชินวัตร และคุณบรรหาร ก็หลุดประโยคออกมาประโยคหนึ่ง ซึ่งเป็นประโยคที่ใหญ่หลวงมากและก็อาจจะเป็นทิศทางทางการเมือง ที่คุณบรรหาร อาจจะจงใจพูดออกมาให้สังคมคิดหรือเปล่า
ปานเทพ - แต่ว่าคุณบรรหาร ก็ไม่ได้ระบุชัดเจนแต่ว่าคุณคำนูณทราบมาแล้วใช่ไหมครับ
คำนูณ - ก็คือว่าคนอย่างท่านนั้นใช้คำว่าไม่ทรยศ หรือไม่ทำให้ผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือกันมา 30 กว่าปีนั้นเสียใจกันหรอกอะไรทำนองนี้
ปานเทพ - ซึ่งมีคนถามกันมาว่าผู้ใหญ่คนนั้นคือใคร
คำนูณ - ซึ่งผมก็ไม่ทราบนะครับ แต่ว่าประเด็นความขัดแย้งในพรรคชาติไทยระหว่าง พ.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร ซึ่งก็รวมไปถึง คุณปองพล อดิเรกสาร ด้วยกับคุณบรรหาร ศิลปอาชา นั้นก็คือการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคชาติไทยจาก พ.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร เป็น พ.อ. ชาติชาย ชุณหะวัณ ในประมาณปี 2528-2529 ผมไม่แน่ใจ เพราะว่ามีการประเมินทิศทาง ทางการเมืองในขณะนั้นแตกต่างกัน
คำนูณ - คุณประมาณ อดิเรกสาร นั้นต้องการต่อสู้ทางการเมืองอย่างชนิดที่เรียกว่าถ้าชนะก็เป็นรัฐบาล ไม่จำเป็นต้องสนับสนุนคนกลางอย่าง พ.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ให้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ว่าทาง พ.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ กับ คุณบรรหาร ศิลปอาชานั้น โดยเฉพาะคุณบรรหาร ศิลปอาชา จะมีความเห็นอีกอย่างหนึ่งและเห็นว่าความอยู่รอดของพรรคชาติไทยในขณะนั้น สถานะบ้านเมืองในขณะนั้นพรรคชาติไทยควรจะเข้าร่วมรัฐบาลซึ่งมี พ.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งไม่มีพรรคการเมืองสังกัดเป็นนายกรัฐมนตรี
คำนูณ - จำได้นะครับว่าในการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2526 นั้นพรรคชาติไทยนั้นมาในเสียงค่อนข้างมากทีเดียว ไม่ได้คิดจะคุยเรื่องนี้กันเลยทีเดียว เลยไม่ได้หยิบข้อมูลติดมือมาแต่ว่าเรียกง่ายๆ ว่าเสียงข้างมากและก็ไปเป็นพันธมิตรกับพรรคก้าวหน้ากับ คุณอุทัย พิมใจชน หลังเลือกตั้งปี 2526 และก็เป็นผลให้คุณอุทัย พิมม์ใจชน นั้นเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ในขณะนั้น พ.ต.ประมาณ อดิเรกสาร นั้นเป็นนายกรัฐมนตรีเห็นๆ นะครับ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เป็นเพราะว่าพรรคประชาธิปัตย์ก็เปลี่ยนใจที่จะไม่สนับสนุน
ปานเทพ - ไปรวมตัวกับพรรคอื่นๆ
คำนูณ - ก็ไปรวมกันและก็สนับสนุน พ.อ.เปรม ติณสูลานนท์ กลับขึ้นมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งหนึ่งเป็นการเลือกตั้งครั้งแรก หลังรัฐธรรมนูญปี 2521 นะครับ หลังจาก พ.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ปี 2522 - 2523 นะครับตอนนั้นก็เป็นข่าวใหญ่มาก นั่นแหละครับนั่นก็คือความปืนเกลียวระหว่างสายราชครู โดยเฉพาะทางฝากอดิเรกสาร กับ คุณบรรหาร ศิลปอาชา แต่สุดท้ายแล้วก็ดูเหมือนว่า คุณบรรหาร ศิลปอาชา ก็ยุดกุมการบริหารพรรคถึงแม้ว่า พ.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ จะยังคงเป็นหัวหน้าพรรคอยู่ แต่ในชั้นหลังจากเกิดการรัฐประหาร พ.ศ. 2534 ขึ้นมา เมื่อ พล.อ.ชาติชาย ท่านไปอังกฤษกลับมาท่านก็ต้องการที่จะสร้างขั้วของตัวเองขึ้นมาใหม่ ซึ่งในขณะนั้นมันมีการแบ่งเป็นพรรคเทพ พรรคมาร พ.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ท่านต้องการจะสลัดออกจากทั้ง 2 ขั้วนี้ ท่านก็เลยก่อตั้งพรรคชาติพัฒนาขึ้นมา ท่านเป็นคนเดินออกจากพรรคชาติไทย
ปานเทพ - จำได้ว่าตอนนั้นคุณบรรหาร ศิลปอาชา ยังคงมีความเชื่อมั่นเสมอว่ายังไง พ.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ กลับมาต้องเป็นหัวหน้าพรรคชาติไทยเหมือนเดิม คือเชื่อมั่นถึงขนาดไปรับ แต่สุดท้ายก็ พ.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ท่านก็ทิ้งพรรคไป
คำนูณ - ตั้งเป็นพรรคชาติพัฒนา คือหวังจะเป็นขั้วใหญ่แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ก็ได้ประมาณซัก 50 กว่าเสียง
ปานเทพ - และก็ไปร่วมมือกับ คุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ คุณกร ทัพรังสี ที่พรรคชาติพัฒนาก็คุณบรรหาร ก็ทำพรรคชาติไทยมาเรื่อยลงไปเล็ก แล้วก็ขึ้นไประดับกลางๆ 20-30-40
คำนูณ - หลายคนก็คิดว่าจะไปรอด พรรคชาติไทยที่ก่อตั้งมาจากคุณศิริ สิริโยธิน, ชาติชาย ชุณหะวัณ, ประมาณ อดิเรกสาร มาตกอยู่ในมือของบรรหาร ศิลปอาชา จากสุพรรณบุรีจะไปรอดไหม ก็ผมว่าคุณบรรหาร ก็กัดฟันมาโดยตลอด และในยุคคุณทักษิณ ชินวัตร ก็ต้องบอกเลยว่ามันมีแรงเย้ายวนเหลือเกินที่จะทำให้คุณบรรหาร ถอดใจทิ้งพรรค หรือจะพูดให้มันตรงไปตรงมาก็ต้องเรียกว่าเซ๊งพรรค
ปานเทพ - โดยเฉพาะกรณีของพรรคความหวังใหม่
คำนูณ - พรรคเสรีธรรม คุณพินิจ
ปานเทพ - คุณพินิจ นี้ก็ยังไม่เท่าไหร่เพราะถือว่าจำนวน ส.ส. ไม่มีในตอนนั้นมายุบรวมกับพรรคไทยรักไทย แต่ว่าพรรคความหวังใหม่จะเป็นตัวแปรที่สำคัญ ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นที่เป็นพรรคขนาดเดียวกันกับพรรคชาติไทย ตัดสินใจไปรวมทุกคนเห็นว่ารวมแล้วก็เกิดอาการไหลเพราะว่าพอเกิดหนึ่ง แล้วก็เกิดลามเป็นโนบีโน่ตาม ผมจะได้ว่า พ.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เคยบอกว่าเป็นพรรคจุดสำคัญ ถ้ารวมแล้วจะเกิดการรวมต่อแน่นอน แต่พรรคชาติไทยนี้ยืนหยัดตลอด
คำนูณ - ถ้าพรรคชาติพัฒนานี้ก็ต้องพูดวันนี้ที่ผมบอกว่าเป็นชัยชนะของคุณบรรหาร ศิลปอาชา ไม่ได้เจตนาจะหยามหมิ่นแคลงใครทั้งนั้น ทั้งสิ้น แต่ว่าประวัติศาสตร์ก็ต้องย้อนกลับไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น คุณกร ทัพรังสี ที่ควรจะอยู่กับพรรคชาติไทย ก็ไม่เป็นไร แต่อยู่พรรคชาติพัฒนาก็ถือว่าไม่เป็นไร ก็ยังถือว่าเป็นชาติราชครูอยู่นะครับ แต่ว่าจำได้ไหมกระบวนการที่คุณทักษิณ จะดูดพรรคชาติพัฒนาเข้ามานี้สาหัสกันเลยทีเดียว แล้วคนที่ทิ้งมาก่อนก็คือ คุณกร ทัพรังสี นี้แหละนะครับ คุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ จำได้ไหมอยู่กับหมา
ปานเทพ - และก็ถึงกับครวญบ้านหลังรั่ว พ่อก็ไม่อยู่ พี่ก็ไปแล้ว
คำนูณ - คือทั้งๆ ที่ คุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ชั่วๆ ดีๆ ก็ไม่ใช่เชื้อสายซอยราชครู แต่ว่าก็เป็นคนที่ คุณชาติชาย ชุณหะวัณ ฝากผีฝากไข้ไว้แหละ แต่สุดท้าย คุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อยู่ได้เกือบปีก็ทานไม่ไหวเพราะว่าตัวเองก็อาจจะมีแผลพอสมควร ก็เลยชาติพัฒนาก็ยอมยุบยกเลิก ก็ไปรวมกับพรรคไทยรักไทย คุณบรรหาร เรียกว่าเลือดไหลไม่หยุด แล้วก็อาศัยลูกล่อ ลูกชน จำได้ไหมพาลูกท๊อปไปหาคุณทักษิณ ชินวัตร ก็เลี้ยงตัวมา ซดหูฉลามบ้าง อะไรต่อมิอะไรบ้าง ก็ประคองตัวมาประคองตัวยากนะ ไม่ใช่ธรรมดานะ
ปานเทพ - เป็นเครื่องพิสูจน์ไงว่า ในสถานการณ์ที่พรรคการเมืองทุกพรรค แห่แหนกับไปรวมถูกดูดไปรวมหมด คุณบรรหาร ศิลปอาชา หลายคนบอกว่าจะทานต่อไปได้อย่างไร โดยเฉพาะการเลือกตั้งในช่วงครั้งที่ 2 สมัยพรรคไทยรักไทย หลายคนเชื่อว่าพรรคชาติไทยไม่น่าจะอยู่ได้เลย เพราะกระแสแรงมากในทุกมิติเลย ถึงขนาดเรียกว่า คุณบรรหารเองยังอึดอัดเลย โดนดูดก็ไม่น้อยนะครับ คุณเนวิน ยังไปเลยนะครับ กลุ่มคุณสนธยา คุณปลื้ม ก็ไปอีก ถือว่าเสียสูญ เสียกำลัง หลักสำคัญไปเยอะมาก
จินดารัตน์ - คือว่าถ้าเป็นคนป่วย ดิฉันว่าถึงขั้นโคม่าเลยนะคะ แต่ท่านก็ยังอยู่ของท่านได้
คำนูณ - แต่ก็ต้องถือว่าที่ผมเห็นคุณกร กลับมานี้ถือเป็นชัยชนะนะ ลูกผู้ชายคนหนึ่งก้าวเข้าสู่วงการเมือง จากที่เรียกว่าไม่ใช่เกิดจากครรภ์มารดา ก็คาบช้อนเงิน ช้อนทองออกมา หรือว่าเป็นสายเลือดชนชั้นนำ ซึ่งแตกต่างจากทางคุณบรรหาร ศิลปอาชา คุณบรรหารนี้จะแตกต่างจาก พ.อ.ชาติชาย แตกต่างจาก พ.ต.อ.ประมาณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแตกต่างจาก คุณกร ทัพรังสี นะครับ คือคนทางฝากนี้คือเหมือนกับอยู่ในวงอำนาจรัฐมาโดยตลอดในยุคโน้นนะ เป็นชนชั้นปกครองโดยสายเลือดเลยนะ คุณกร หรือ อ.โต้ง ก็ต้องถือว่าเขาเกิดมาเป็นสายเลือดชนชั้นปกครองเลย คือเขาเกิดมาสตางค์ก็มี การศึกษาก็มาก สิ่งแวดล้อมก็ดี เครือข่าย บริวาร ชนชั้นปกครองมากมาย แต่คุณบรรหาร นั้นเสื่อผืน หมอนใบ บากบั่น ทำธุรกิจเป็นพ่อค้า เดินขึ้นหน่วยราชการ ประมูลถนน ดูแลอะไรต่อมิอะไร
จินดารัตน์ - เริ่มต้นมาจากหนึ่งสมอง สองมือจริงๆ
คำนูณ - ใช่ๆ คือสมัยนี้บอกว่า คุณบรรหาร สุพรรณบุรีนะครับ ยุคนู้นคิดดู 30 กว่าปีก่อน นักการเมืองจากบ้านนอก หรือพ่อค้าจากบ้านนอกอยู่จากท้องถิ่นของตัวเอง กัดฟันบำรุงท้องถิ่นของตัวเอง สร้างเนื้อ สร้างตัวขึ้นมาจนกระทั่งท่านมีวันนี้
ปานเทพ - จนเป็นนายกรัฐมนตรี
คำนูณ - จนวันนี้มีคุณกร มาเรียกว่าคุณอา ผมถือว่าเป็นชัยชนะ ไม่ใช่ชัยชนะที่จะไปหยามเหยียดใคร มันเป็นความปลาบปลื้มของคนคนหนึ่งนะ
ปานเทพ - สำหรับคุณกร ทัพพะรังสี ก็ได้ออกจากชาติไทยไปอยู่ชาติพัฒนา ได้เรียนรู้บทเรียนที่เจ็บปวดในทางการเมืองหลายบริบทมาก
คำนูณ - คุณกร แกก็เจ็บมาเรื่อยแหละ แต่แก็ยิ้ม ไปเรื่อยๆ ป๋าเหนาะก็ชูเป็นนายกฯ อยู่
ปานเทพ - สุดท้ายก็กลับมาที่พรรคชาติไทย แล้วอยากจะบอกว่า การเคลื่อนตัวของคุณบรรหาร น่าจับตาไม่แพ้พรรคเพื่อแผ่นดินเลย เพียงแต่ว่ามีหลักยืนที่มั่นคง และดูแน่วแน่มากกว่าอีกหลายๆพรรคการเมืองที่ปรากฏอยู่ตอนนี้
คำนูณ - อยากจะบอกว่าคุณบรรหาร ศิลปอาชา ก่อนหน้าปี 2538 ไม่เคยมีใครคิดว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ผู้คนก็อาจจะมองอย่างเหยียดๆ
ปานเทพ - นักการเมืองท้องถิ่น
คำนูณ - แต่สุดท้ายคุณบรรหาร ก็เป็นนายกรัฐมนตรี แถมมีอยู่ช่วงเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เซ็นชื่อในแบงก์ด้วย
ปานเทพ - แล้วเป็นรัฐมนตรีกระทรวงการคลังที่แทบไม่ได้ทำความเสียหายให้กับบ้านเมืองเทียบกับรัฐมนตรีคลังที่บอกว่าเป็นมืออาชีพ นักการเงิน การธนาคาร ด้วยซ้ำไป
คำนูณ - ที่สำคัญก็คือว่า เป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่เลวที่สุดคนหนึ่ง คือเราอย่าเอาความเป็นนักการเมืองมาวัดกัน ถ้าเอาความเป็นนักการเมืองมาวัดกันทุกคนก็มีดี ไม่ดี แล้วมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองอะไรที่สุดแท้แต่จะหยิบยกมาพูด แต่ว่าเพราะคุณบรรหาร ถูกผู้คนปรามาสไม้ว่า หน้าอย่างนี้เหรอจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี หรือว่า อย่างนี้ต่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้เรื่อง สิ่งที่คุณบรรหาร ทำก็คือว่า คุณบรรหารมีที่ปรึกษาที่ไม่เลวจำนวนหนึ่ง ในยุคนั้นก็ท่านอาจารย์สุรเกียรติ์ เสถียรไทย และที่ติดมาจนถึงยุคปัจจุบันคือ อ.วีรศักดิ์ โคว้สุรัตน์ แล้วก็เป็นคนที่ถือว่าตัวเองอาจจะไม่ได้เกิดมาเป็นชนชั้นปกครอง ไม่ได้เรียนหนังสือสูงมาเป็นอ้อนแต่ออก จึงรับฟังความเห็นของปราชญ์ ของนักวิชาการ
ปานเทพ - จะว่าไปก็เป็นพรรคการเมืองที่เปิดกว้างให้กับบุคคลหลายคนที่มีศักยภาพ ทั้งความคิดความอ่าน และคนรุ่นใหม่ๆ หลายคนเข้ามาอยู่ที่นี่
คำนูณ - สิ่งสำคัญประการหนึ่ง ถ้าทุกคนไม่ลืมก็คือว่า คุณบรรหาร โตขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีในช่วงปี 2537 ที่มีการตั้งคณะกรรมการพัฒนาประชาธิปไตย คพป. ท่านอาจารย์หมอประเวศ วะสี เป็นประธาน อ.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นเลขานุการ และทำข้อเสนอการปฏิรูปการเมืองขึ้นมาชุดหนึ่ง อันเกิดเนื่องมาจากวิกฤตการณ์ เรืออากาศตรีฉลาด วรฉัตร ในช่วงปี 2537 คุณบรรหาร ในการหาเสียงเลือกตั้งปี 2538 นั้น ได้ออกสัญญาต่อประชาชนว่า ถ้าผมได้เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น จะดำเนินการปฏิรูปการเมืองตามแนวทาง คพป.
คำนูณ - เมื่อท่านได้เป็นนายกฯ แม้ไม่ใช่จะไม่ตามแนวทาง คปพ.ตรง โดยการตั้งน้องชายของท่าน อ.ชุมพล ศิลปอาชา เป็นประธานคณะกรรมการปฏิรูปการเมือง แต่สุดท้ายก็คลุกกันไปมา ในที่สุดมันก็ออกมาเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 211 เปิดให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ เป็นที่มาของรัฐธรรมนูญปี 2540 อันนี้ก็ต้องบันทึกไว้ว่าเป็นเพราะคุณบรรหาร มีความรู้สึกว่า คุณบรรหาร จะเอาตัวไปเปรียบกับหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ในตอนนั้น สู้ไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง คุณบรรหาร สู้โดยการสัญญากับพี่น้องประชาชน แล้วก็ทำตามสัญญาตามสมควรในระดับหนึ่ง เพราะฉะนั้นเวลาใครพูดว่า คุณบรรหารจ ะเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง อย่าไปประมาท
ปานเทพ - ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้
จินดารัตน์ - บางคนเห็นภาพวันนี้แล้ว บางคนถึงกับบอกว่านี่แหละเก๋าเกมจริงๆ
คำนูณ - คือนักการเมืองก็มีดี มีไม่ดี สุดแท้แต่มุมมองจะวิพากษ์วิจารณ์กันไป เราก็ไม่ได้เห็นด้วยกับคุณบรรหาร ศิลปอาชา ในทุกอย่าง คุณบรรหาร ฟังเราดูแล้วก็หนาวๆร้อนๆ ไม่รู้จะว่าอะไร แต่ก็ต้องถือว่าการเป็นนักการเมืองโดยเฉพาะผ่านยุคคุณทักษิณ ชินวัตร มาได้ มันต้องเลี้ยงตัวให้ได้ดุลพอ
สมควรนะ 1.ต้องให้คุณทักษิณ ไม่เห็นว่าเป็นศัตรู 2.จะทำอย่างไรไม่ให้เขาดูดเข้าไป จะอยู่อย่างไร รัฐบาลก็ไม่ได้ร่วม สตางค์ก็ต้องหาเอง
ปานเทพ - แล้วภาพที่เคยติดว่า หลายคนมองว่าคุณบรรหารเป็นหลงจู๊ และก็เป็นคนที่ล้วงลูก แต่พอมาถึงสมัยคุณทักษิณ แล้วคนเลิกพูดเลย เพราะคุณทักษิณ ล้วงลึกกว่า ยิ่งกว่าทุกเครือข่าย ที่จริงมีคุณทักษิณ ก็ทำให้มีการเปรียบเทียบหลายยุคหลายสมัย หลายนายกรัฐมนตรี ว่าสิ่งที่เราเห็นยังน้อยเกินไป
คำนูณ - คนหนึ่งที่คุณบรรหาร สามารถดึงเข้าไปใช้งานได้ อย่างชนิดที่เหนียวแน่น ก็คือ อ.เสรี วงศ์มณฑา ทีนี้จะหาว่าพูดถึงคุณบรรหาร ศิลปอาชา มากไป ก็อยากจะพูดเพื่อจะนำไปสู่พรรคประชาธิปัตย์ด้วย คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สั้นๆ และกัน อยากให้ศึกษาบทเรียนของกรณีที่คุณบรรหาร ศิลปอาชา ประกาศในช่วงหาเสียงเลือกตั้งปี 2538 ผมว่า คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับพรรคประชาธิปัตย์ น่าจะหาจุดพลิกให้กับตัวเอง กับพรรคประชาธิปัตย์ได้ในระดับนั้น คือผมยังนึกไม่ออกเลยว่าคุณจะสัญญาอะไรกับประชาชน แต่ว่าคุณจะต้องประกาศอะไรที่เป็นคำใหญ่ ท่ามกลางที่ผู้คนเขาไม่ได้ปรามาสนะ แต่เขาก็ยังมีความรู้สึกว่ายังไม่เด่นเท่าไหร่
ปานเทพ - คือความรู้สึกเหมือนว่ายังไม่กล้าได้กล้าเสียกับบางเรื่อง มันเป็นการเปลี่ยนประเทศ หรือว่าเปลี่ยนวิธีคิดการมองใหม่ สำหรับการเห็นอนาคตของประเทศไทย
จินดารัตน์ - ถ้าจะบอกว่าประชาธิปัตย์ อ่านใจคนไม่ออกก็ไม่น่าจะใช่อย่างนั้นใช่มั้ยค่ะคุณคำนูณ เพียงแต่ไม่กล้าที่จะสัญญาหรือเปล่า
คำนูณ - คือความเป็นมวยใหญ่นะครับ ต้องระวังตัว ต้องกาดสูง เพราะว่าเดี๋ยวชกวืดวาดไปมันจะล้มเอา
จินดารัตน์ - ถ้ากาดสูงมากๆ เดี๋ยวจะปิดตาตัวเอง มองอะไรไม่เห็น
คำนูณ - คืออยากให้หาจุดคลิก เหมือนที่ครั้งคุณบรรหาร ท่านประกาศเมื่อปี 2538 ว่า ถ้าพี่นอ้งประชาชนเลือกผม ผมจะดำเนินการปฏิรูปการเมืองตามแนวทาง คพป. คุณอภิสิทธิ์จะประกาศอย่างไร จะหาจุดคลิกอย่างไร
ปานเทพ - หรือเหมือนไทยรักไทย คุณทักษิณ ที่ประกาศว่า ผมจะทำ 1 ,2 ,3 ,4 ,5 ชัดๆจนเกิดการลงคะแนนครั้งใหญ่
คำนูณ - คือช่วยให้บรรยากาศทางการเมืองตอนนี้มันดูมีอะไรที่ใหม่ น่าที่จะเป็นความหวัง
ปานเทพ - หลังๆ เรียนตามตรง ฟังดูแล้วมันเริ่มซ้ำๆกัน
คำนูณ - คือทุกวันนี้เราเห็นแต่ว่าหลานเข้าบ้านอา อาออกจากบ้านน้า น้ามาจากบ้านพ่อ พ่อไม่เอาลูก แต่เราไม่เห็นพรรคการเมืองประกาศนโยบายที่มันปิ๊ง จับต้องได้ เป็นรูปธรรม เช่น ถ้าผมเป็นรัฐบาลห้างค้าปลีกต่างชาติจะต้องหยุดขยายสาขา อะไรทำนองนี้
จินดารัตน์ - แค่นี้แหละ ง่ายๆคือพูดให้คนรู้สึกว่ามันใช่ แต่วันนี้ยังไม่มี ดูอีกฝั่งหนึ่งหน่อยดีไหมค่ะ หลังจากคุณกร จากบ้านประชาราชมาชาติไทย ปรากฏว่า จากชาติไทยก็มีไปบ้านประชาราชเหมือนกัน ตอนเช้าคุณกร มาบ้านชาติไทย ตอนบ่ายคุณชูวิทย์ ไปทานข้าวกับคุณเสนาะ ที่บ้านพัก คุยกันนานกว่า 2 ชั่วโมงปรากฏว่า ก็ออกมาพูดว่ามาวันนี้มาบ้านป๋าเหนาะ อบอุ่นกว่าที่อื่น ห้องน้ำโถส้วมก็สูงดี นั่งแล้วรู้สึกสบายไม่เหมือนที่อื่น โถส้วมมันนั่งมันเตี้ย มันนั่งไม่ค่อยสบาย เนี่ยแหละคุณชูวิทย์ ปรากฏว่าคุณฉลอง เรี่ยวแรง มอบดาบน้ำพี้ให้กับคุณชูวิทย์
ปานเทพ - แล้วสไตล์คุณชูวิทย์ ตอ้งทำหน้าอย่างนี้
คำนูณ - ไม่รู้ผมรู้สึกผิดเปล่านะ ผมว่าน่าเบื่อแล้วละ คือมันไม่ใช่ คุณถือค้อนครั้งแรกก็ดูเท่ห์นะ แล้วต่อไปคุณจะถืออะไร คุณทำหน้าตาอย่างนี้ตลอดเลย แล้วจุดขายคุณชูวิทย์เมื่อก่อนคือสู้กับตำรวจ แต่ว่าแกสู้กับตำรวจก็ไม่ใช่ว่าตัวแกสะอาดบริสุทธิ์นะ มันก็มีประเด็นที่ต้องอภิปรายอยู่เยอะ แล้วก็คือ แกเข้าสู่วงการเมืองแต่ก็เข้าได้ไม่เต็มที่ มาจนถึงตอนนี้
ผมไม่เห็นเลยว่าแกมีจุดอะไรที่เป็นจุดขาย
ปานเทพ - ในเชิงความคิด นอกจากการตลาด
คำนูณ - ความดัง ก็คือการชิงพื้นที่ข่าว ทะเลาะกับตำรวจเพราะต้องปกป้องตัวเอง
จินดารัตน์ - พูดง่ายๆ คือความบ้าระห่ำ
ปานเทพ - แต่ว่าทางความคิดถึงการมองประเทศยังไม่เห็น
จินดารัตน์ - นักข่าวไปถามคุณบรรหาร คุณบรรหารเลี่ยงไม่ตอบ ไม่แสดงความคิดเห็น เป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ไปถามคุณสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล เขาบอกว่า ปล่อยมันไปอย่าให้ราคามัน แกพูดอย่างนี้จริงๆคุณผู้ชม
คำนูณ - แกพูดว่าบ้านนี้โถส้วมสูง ไม่เหมือนบางบ้านโถส้วมเตี้ย นั่งแล้วมันไม่สบาย มันไม่ใช่ แล้วคุณบรรหารเตี้ยมันผิดตรงไหนละ ให้เตี้ยกว่านี้แต่นำพาความสุข และความเจริญ และความเสมอภาคทางเศรษฐกิจไปสู่พี่น้องประชาชนชาวไทย เขาก็สามารถจะเป็นผู้นำที่ดีได้
ปานเทพ - ผมจะบอกให้คุณชูวิทย์ พลาดโอกาสสำคัญก็คือว่า ตอนที่ตัวเองมีบทบาทสำคัญในฐานะชิงพื้นที่ข่าว และสร้างกระแสด้วยการทำท่าต่างๆมากมาย ทำได้ในช่วงระยะเวลหนึ่ง แต่พอบ้านเมืองเกิดวิกฤต และผ่านมาได้ ผมคิดว่าบริบททางการเมืองต้องเปลี่ยนแล้ว มันต้องแสวงหาจุดยืนที่ทำให้รู้ว่าตัวเองหลังจากที่ประสบความสำเร็จให้คนรู้จักแล้วอะไรคือเป้าหมายของตัวเองในทางการเมือง
จินดารัตน์ - ก็ตอนนี้แหล่งข่าวในพรรคชาติไทยเองก็บอกว่า คุณบรรหารก็พยายามติดต่อโทรศัพท์ด้วยตัวเอง โทรไปหาคุณเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เชิญชวนให้มาร่วมงานทางการเมืองกัน แต่ว่าอย่างไรก็คงต้องรอดูคำตอบจากคุณเสนาะอีกครั้ง และที่บอกว่าจะมีเซอร์ไพรส์ มีการเปิดตัวผู้สมัครในวันที่ 5 ก็คือ คุณหมอเปรมศักดิ์ เพียยุระ ลา
สิกขาจะมาอยู่ที่ชาติไทย ลงสมัครที่ จ.ขอนแก่น
ปานเทพ - คุณบรรหาร มีหลายคนเข้าไปพรรคชาติไทยมากขึ้น
จินดารัตน์ - วันนี้คุณบรรหารดิฉันอยากรู้จริง กลางคืนคุณบรรหารนอนหลับ แล้วจะแอบยิ้งบ้างหรือเปล่า
คำนูณ - คงจะยิ้มไม่ค่อยออกมากนักนะ คือการเมืองไทยถ้าจะเริ่มเด่นขึ้นมา มันจะเป็นเป้า คือ ชาติไทยตอนนี้ชักจะไม่ใช่พรรคขนาดกลาง 40 - 50 คนละ แต่ว่าเป็นพรรคที่ประมาทไม่ได้ หวังได้ไกล จะเห็นได้ชัดเลยว่า คุณจะต้องมีผลกระทบ กระทบแรกที่เห็นนะ เจอข่าวลือว่าไปหาคุณทักษิณ อันนี้ดอกแรก ดอกสำคัญ ก็คือว่า ผลจากการที่ตัวเองโดดเด่นไง ถ้ายิ่งป๋าเหนาะเข้าอีกคน ก็เปลี่ยนขั้วเลย ผมเชื่อว่ามังกรการเมืองอย่างคุณบรรหาร เนี่ยจะเริ่มรู้สึกว่า อาทิตย์หน้าไม่น่าจะเป็นข่าวของพรรคชาติไทยละ ปล่อยให้ไปดังที่พรรคอื่นบ้าง เพื่อเปลี่ยนพื้นที่ข่าวใหม่
จินดารัตน์ - เดี๋ยวพรรคอื่นนะค่ะ มีทั้งพรรคพลังประชาชน วันนี้เปิดตัวผู้สมัครเดี๋ยวเรากลับมาดูความเคลื่อนไหวต่างๆ รวมไปถึงเรื่องของ กกต.เรื่องของการเลือกตั้งที่บอกว่าตอนนี้ชาวบ้านอีกกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ ยังไม่รู้ว่าเลือกตั้งวันไหน สักครู่ค่ะ
***ยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่สอง
จินดารัตน์ - ในส่วนของพรรคพลังประชาชนวันนี้ มีการประชุมเตรียมความพร้อมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ใน กทม. ทั้ง 12 เขต ของพรรค ที่ทำการพรรคพลังประชาชน ปรากฏว่า เปิดตัว ส.ส.ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.หน้าใกม่อีก 14 คน ก็มีชื่อคุ้นๆ กันหลายคน เช่น คุณวิทยา พุกกะมาน อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศภูฏาน ซึ่งจะลงสมัคร ส.ส.เขต 1 คู่กับคุณลีลาวดี วัชโรบล ส่วนที่เหลือก็ขยับขึ้นมาจาก ส.ก. อย่างคุณวิกรานต์ ศุภมงคล ซึ่งเป็นหลาน คุณกันตธีร์ ศุภมงคล คุณเฉลิมชัย มหากิจศิริ ลงเขต 3 คุณกวี ณ ลำปาง คุณการุณ โหสกุล คุณภักดีหาญ หิมะทองคำ ดารานะค่ะ คุณไพโรจน์ อิสระเสรีพงศ์ คุณจรัญ มะลุลีม ปรากฏว่าในที่ประชุมวันนี้ ได้มีการแจกคู่มือ
คำนูณ - จรัล มะลุลีม ลงพลังประชาชนเหรอ
จินดารัตน์ - ใช่ค่ะ ผมเห็นมีชื่อสามารถ มะลุลีม ลงประชาธิปัตย์
ปานเทพ - แข่งกันเอง
จินดารัตน์ - วันนี้ทางพรรคทำคู่มือระเบียบการการปรนะพฤติตัวปฏิบัติ ข้อห้ามต่างๆในการเลือกตั้ง และก็ผู้สมัครของพรรค ที่ประชุมกำชับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หลายครั้งว่า ห้ามว่าที่ผู้สมัครไปเปิดงานทอดกฐิน ผ้าป่า เด็ดขาด เพราะว่าอตนนี้เป็นช่วงหลังออกพรรษา และกรุงเทพฯ มีวัดเยอะ ถ้าจะไปร่วมงานไปได้ แต่ต้องไม่ไปเป็นประธานงานนั้นๆเด็ดขาด และปรากฏว่าเรื่องของรายชื่อผู้สมัครที่บอกว่าไม่มีชื่อของคุณเนติภูมิ นวรัตน์ ตกลงมี ดิฉันเห็นแล้ว ลงของกทม.เดี๋ยวจะตรวจสอบดูอีกทีว่าเป็นเขตไหน แต่เป็นที่แน่ๆว่าลงเขตเขตหนึ่งใน กทม.แน่ๆ ส่วนคุณวัน คุณดวง อยู่บำรุง บุตรชายของคุณเฉลิม อยู่บำรุง นั้น วันนี้แหล่งข่าวของพรรคพลังประชาชนบอกว่า วางตัวเอาไว้ให้ลงในระบบสัดส่วนของพรรคใน กทม. แล้วลำดับไหนคือไม่สำคัญ เอาเป็นว่าลำดับที่ได้แน่ๆ เพราะว่า กทม.เขาทำโพลออกมา ว่า เขาจะได้ระบบสัดส่วนสักประมาณ 15 - 18 คน อย่างไรก็ได้
คำนูณ - สัดส่วนมันมี 10 คน ไม่เข้าใจ
จินดารัตน์ - นี่แหละค่ะ ผลออกมาพรรคจะได้ ส.ส.กทม. 15 - 18 คน
ปานเทพ - คงหมายถึง ส.ส.เขตได้ประมาณ 15 - 18 คน ในกทม. ก็คิดสัดส่วนแล้วคงจะมี ส.ส.สัดส่วนมีระดับหนึ่งที่เทียบสัดส่วนตาม ส.ส.ในกรุงเทพฯ มากกว่า
จินดารัตน์ - นั่นหมายถึงว่า คงจะแยกกันซึ่งไม่เกี่ยวกับที่คุณวัน กับคุณดวง
ปานเทพ - มีคนตั้งข้อสังเกตว่า คะแนนเสียง 250 ที่นั่ง ของพรรคพลังประชาชน ว่าากันว่า จะเป็นไปได้หรือไม่ว่า ผลสำรวจมันจะพอดี 250 พอดีจริงเหรอ จนถึงการตั้งรัฐบาลเพียงพรรคเดียว หรือว่าเพียงต้องการทำให้เกิดกระแสและเกิดความหวาดกลัวในวงการราชการ เพราะมีคนมองว่าคล้ายกับว่าวันนี้ระบบราชการ กกต. จะต้องมีความเข้มแข็งตรวจสอบทุกพรรค แต่ทุกคนก็ไม่มั่นใจว่าครจะมาเป็นรัฐบาล ถ้าทุกอย่างไม่มีความชัดเจน ประกาศโพลออกมาก่อนว่า ตัวเองสำรวจมาได้เท่านี้ เป็นการข่มขวัญคู่แข่ง ประเด็นรองนะครับ แต่ประเด็นหลักผมว่าเป็นการสยบการเคลื่อนไหวของข้าราชการในการตรวจสอบหรือการจัดการเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นจะต้องจับตาดูว่าจริงๆจะได้เท่าไหร่
คำนูณ - คือการประกาศว่าจะได้เท่านั้นเท่านี้ก็ประกาศมากไว้ก่อน โดยเฉพาะพรรคอย่างพลังประชาชนที่ต้องถือว่าเป็นพรรคที่ปฏิปักษ์กับอำนาจรัฐปัจจุบัน สมมุติได้น้อยกว่าก็โวยเลย แกล้งเนี่ย พล.อ.สนธิ ประธานคณะกรรมการ ครส.ทำไม่ถูก เสียงหายไปเยอะ ดูเอกสารลับซิ วางตัวไม่เป็นกลาง
ปานเทพ - มันน่าแปลกตรงที่คล้ายสภาพคล่องทางการเมืองหลายๆพรรคไม่เป็นอย่างที่คิด เขาบอกว่าคล้ายๆเดิมทีมีพรรคหลายขั้ว เขาเชื่อว่ามีเงินสะพัดช่วงนี้มาก ถ้าเทียบกับการเลือกตั้งสัก 2 - 3 ปีก่อนหน้านี้ เชื่อว่าเป็นช่วงที่มีเงินสะพัดไหลไปทั่วตามจำนวน ส.ส.แต่จริงๆแล้วไม่เป็นอย่างนั้น ไม่แม้กระทั้งพรรคพลังประชาชนที่เป็นพรรคใหญ่ก็ไม่ได้อุ่นหนาฝาคลั่ง ในแง่ของงบประมาณในการใช้หาเสียงซักเท่าไหร่ ถ้าเทียบกับเมื่อก่อนๆ นะครับ
จินดารัตน์ - ไม่ก็แอบได้ยินมานะคะ บอกว่าสมาชิกพลังประชาชนผู้ใหญ่ในพรรคบอกว่า ไม่ได้มีเงินถุง เงินถังเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ ใช้กันประหยัดๆ หน่อย
ปานเทพ - พรรคเพื่อแผ่นดินก็ไม่เยอะ ประชาธิปัตย์ก็คงเส้นคงวา ใช้น้อยเท่าไหร่ก็น้อยเท่านั้น ดูเหมือนว่าสภาพคล่องจริงๆ ไม่ค่อยเยอะผมก็เลยตั้งข้อสังเกตว่า หรือว่าจริงๆ แล้วคนที่เป็นนายทุนทางการเมืองไม่มั่นใจที่จะไปลงทุนให้กับพรรคการเมืองใด นายทุนของพรรคที่เป็นนักการเมืองก่อน นักการเมืองที่ลงสมัครไม่ได้ ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีไม่รู้ว่าจะลงเงินแล้วจะคุ้มค่าหรือเปล่า สองคือถ้าเราลงเงินเยอะๆ ไม่แน่ใจว่าเที่ยวนี้ใบแดงจะได้เยอะขนาดไหน กลัวว่าจะเสียฟรีก็มีนะครับ เขาก็เลยมองว่าไม่ค่อยมีสภาพคล่องเท่าที่ควร ถ้าเทียบกับหลายๆ ปีก่อนหน้านี้ อาจจะดูเป็นเรื่องเป็นราวหน่อย อาจจะมีพรรคมัชฌิมาธิปไตย ดูเหมือนว่าจะมีสภาพเข้มแข็งในด้านการเงินไม่น้อยเหมือนกัน
จินดารัตน์ - คุณประชัย ก็ดูมั่นอก มั่นใจ นะคะว่าจะกวาดที่นั่ง ส.ส. มาได้ถล่มถลาย
ปานเทพ - มีคนบอกคุณประชัย อย่างนั้น
จินดารัตน์ - มีคนบอกคุณประชัย คุณประชัยเชื่อเลยหรือคะ
ปานเทพ - ไม่รู้ต้องถามคุณคำนูณ
จินดารัตน์ - เอาล่ะเรื่องนี้นะคะ พรรคการเมืองเขาก็ว่ากันไป ตอนนี้กำชับว่าอย่าทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง มีคนแอบจับผิดกันอยู่แต่ละพรรคเขาก็ต้องแอบดูว่าพรรคนั้น พรรคนี้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือเปล่า แต่ว่าที่น่าหนักใจก็คือวันนี้นักข่าวไปถามนายกรัฐมนตรี บอกว่าวันนี้โพลออกมาบอกว่าคนไทยเอง 40 กว่าเปอร์เซ็น ยังไม่รู้เลยว่าจะไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งวันไหน และเหลือเวลาอีกเท่าไหร่นะคะ
คำนูณ - ก็ไม่รู้จะช่วยยังไงแล้วครับ ต้องปล่อยไป
จินดารัตน์ - แล้วนักข่าวเขาก็งงๆ คือท่านนายกเขาก็ต้องเป้าเอาไว้ว่าคนจะออกมาใช้สิทธิ 70 เปอร์เซ็น นะคะคุณปานเทพ แล้วจะได้หรือ เพราะว่าคนอีก 40 เปอร์เซ็น ยังไม่รู้เลย
ปานเทพ - ผมว่าเรื่องหาเสียง ผมไม่ค่อยเป็นห่วงที่ว่าจะรู้น้อยในช่วงเวลานี้ ยังพอมีเวลาและผมเชื่อว่าพรรคการเมืองนี้แหละ หลังจากที่เขานิ่งพอเริ่มประกาศวันที่ 7 ไปแล้ว ผมเชื่อว่าเขารณรงค์เต็มที่ ผมเชื่อว่าชาวบ้านก็ต้องรู้อยู่ดี
คำนูณ - ไม่ต้องไปห่วงเขาว่าจะเหลืออีกซักกี่เปอร์เซ็น ที่ไม่รู้ก็ต้องปล่อยเขาไป
จินดารัตน์ - และท่านบอกว่าออกมาใช้สิทธิยิ่งเยอะนะ การซื้อสิทธิขายเสียงมันจะได้มีน้อยลงไป
คำนูณ - อันนี้ก็ไม่จริง ปล่อยให้เขาซื้อซิครับ คนจะได้ออกมาเยอะๆ ผมเห็นหน่วยที่ออกมาเยอะๆ ถามจริงๆ เถอะออกเพราะอะไร
จินดารัตน์ - คะ อีกหลายเรื่องนะค่ะ ที่ท่านนายกให้สัมภาษณ์เรื่องเอกสารลับ ก็ว่ากันไปท่านก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจน ท่านก็บอกว่ารอการสอบ
คำนูณ - ท่านนายกเคยพูดอะไรชัดเจนด้วยหรือ พูดเป็นหรือ
ปานเทพ - ท่านเป็นคนแข็งแกร่งเหมือนดังก้อนหิน จริงๆ ครับ
คำนูณ - ใครจะว่ายังไงกูก็ว่าของกูอย่างนี้
จินดารัตน์ - คะ เรื่องเอกสารนิดหนึ่งนะคะ เมื่อกี้เห็นหน้าท่าน
ปานเทพ - เหมือนไหมครับ เหมือนก้อนหินไหม
คำนูณ - เหมือนก้อนหินบนเขายายเที่ยง
ปานเทพ - ครับ อย่างนั้นครับ นี่มันนิ่งๆ อยู่แข็งแกร่งเหมือนอย่างนั้นเลย
จินดารัตน์ - วันนี้นะคะ กกต. คุณสมชัย จึงประเสริฐ ออกมาพูดกรณีที่ คุณโคทม อารียา อดีต กกต. ปฎิเสธที่จะมานั่งเป็นประธานกรรมการตรวจสอบเอกสารลับ บอกว่าท่านอาจจะหนักใจเพราะว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ ไม่ใช่งานเล็กๆ ซึ่งเวลานี้ได้ทาบทามบุคคลซึ่งเป็นคนนอกนะคะ ตอบรับมาแล้ว 3 คน ถือว่าตอนนี้ก็เกือบๆ จะ 100 เปอร์เซ็น แล้วอยู่ในขั้นตอนที่ประธาน กกต. ลงนาม
คำนูณ - อ.โคทม เป็นคนฉลาดครับ
ปานเทพ - ทำไมหรือครับ
คำนูณ - เป็นคุณปานเทพ คุณจะไปหรือ เป็นประธานตรวจสอบ แล้วตรวจและมันจะได้อะไร แล้วมันจะได้ความจริงหรือ
จินดารัตน์ - และก็มีคนถามว่ามีชื่อของ คุณสวัสดิ์ โชติพานิช รวมอยู่ด้วยหรือเปล่า คุณสมชัยก็ไม่ได้ปฎิเสธ และก็ไม่ได้ตอบรับ และก็บอกว่าตามกฎหมายอาญาถ้าไม่ปฎิเสธแสดงว่ายอมรับนะคะ แต่กรณีนี้ไม่ใช่กฎหมายอาญาท่านก็บอกว่าอย่าเพิ่งมาถามเลย แล้วก็มีนักข่าวอีกคนไปถามว่า ท่านคะ รู้เรื่องที่ท่านสดศรี สัตยธรรม กกต. ท่านหนึ่งไม่ยอมเข้าประชุมบ่อยๆ รู้ไหมคะว่าเป็นเพราะความขัดแย้งหรือเปล่า ท่านก็บอกว่าอย่าไปพูดอย่างนั้นเลย มีแต่พวกคุณนั่นแหละสื่อมวลชน พวกคุณนั่นแหละสัมภาษณ์จน คุณสดศรี ไม่สบาย
ปานเทพ - อย่างนั้นเลยหรือครับ
จินดารัตน์ - ลาป่วยคะ 15 วัน
ปานเทพ - ป่วยมากเลยหรือครับ
จินดารัตน์ - เปล่าคะ ก็คือคุณสดศรี ขอลาไปตรวจสุขภาพคะ ก็คงต้องรอผลมั้งคะ มองในแง่ดีบางคนบอกว่าต้องจับเข่าคุยกันไหม เรื่องความขัดแย้งที่เกิดขึ้นใน กกต. คุณสมชัย บอกว่าถ้าจับได้ผมก็จับไปแล้ว
คำนูณ - แต่ว่าลา 15 วันนี้ยาวนะ เหมือนป่วยหนักนะ คือ 15 วัน ต้องขอบอกว่าวันนี้ วันที่ 1 พฤศจิกายน นี้ 15 วัน มันคร่อมวันสมัครหมดเลยนะ
ปานเทพ - หายไปเลยนะ
จินดารัตน์ - หลายคนเป็นห่วงนะคะ เรื่องความเป็นเอกภาพของ กกต.
คำนูณ - เกิน 15 แน่ เพราะว่าท่านมีกำหนดการต้องไปต่างประเทศ ในฐานะที่เป็นนักศึกษาสถาบันพระปกเกล้า (ปปร.11)
ปานเทพ - ไปประเทศไหนนะครับ
คำนูณ - ไปเยอรมนี ท่านคงไป ถ้าท่านไปนะ ก็ 19-26 พฤศจิกายน นะครับประมาณนั้น
จินดารัตน์ - ก็ถ้านับจากวันนี้ไปก็หยุดยาวเลย
คำนูณ - ก็อาจจะกลับมาทำงานซัก 2-3 วัน เพราะว่า 15 วันใช่ไหม 1-15 และ 19 ต้องไป หรือท่านอาจจะไม่ไปก็ได้นะ อันนี้ผมไม่ทราบ แต่ว่าโดยกำหนดการเป็นอย่างนั้น
จินดารัตน์ - เรื่องนี้นิดหนึ่งนะคะ วันนี้ นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย ของคุณทักษิณ ชินวัตร ออกมาพูดถึงเรื่องกรณีที่ คตส. ไปร้องทุกข์ กล่าวโทษ นางสาวพิณทองทา ชินวัตร ลูกสาวคุณทักษิณ ในข้อหาขัดหมายเรียกเข้าให้ถ้อยคำต่อคณะอนุกรรมการการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปฯ ว่าตอนนี้ตัวเองยังไม่ได้คุยกับคุณทักษิณ เรื่องที่เกิดขึ้นแต่ว่าทีมทนายความที่รับผิดชอบเรื่องนี้ รายงานให้คุณทักษิณ ทราบแล้วว่าสามารถต่อสู้คดีได้ เพราะว่าคุณพิณทองทา มีสิทธิที่จะไม่ขอให้ถ้อยคำใดๆ ที่จะส่งผลร้ายต่อตัวเองได้ เรื่องนี้คุณนพดล บอกว่าคุณทักษิณ เป็นคนรักครอบครัวเมื่อเกิดเรื่องแบบนี้กับลูก ก็เป็นธรรมดาที่จะมีผลกระทบต่อจิตใจ และเป็นสิ่งที่ทำให้คุณทักษิณเอง ต้องต่อสู้อย่างเต็มที่เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม
จินดารัตน์ - พอพูดเรื่องนี้เสร็จก็ไปพูดถึงเรื่องที่ คุณประสงค์ สุ่นศิริ (สนช.) จะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ถึงการเคลื่อนไหวของอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยทั้ง 111 คน ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองไปแล้วนะคะ ว่าขัดต่อคำวินิจฉันต่อตุลาการรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายนพดล เขาบอกอย่างนี้นะคะว่า เป็นความพยายามตีรวนทางการเมือง และแบ่งฝักแบ่งฝ่ายสร้างความแตกแยกในสังคม และก็ฝากไปถึงคุณประสงค์ ด้วยว่าหยุดสร้างความแตกแยกได้หรือไม่ แค่อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนก็เพียงพอแล้ว อย่าไปซ้ำเติมเขาอีกเลยและก็บอกอีกว่าสาเหตุเรื่องนี้น่าจะมาจากที่พรรคพลังประชาชน จะเชิญคุณทักษิณพาเป็นที่ปรึกษา คุณนพดลบอกว่ามีส่วนเชื่อมโยงกันมาก เพราะว่าพันธมิตรบางคน กลัวความนิยมของคุณทักษิณคะ วันนี้ประชาชนยังรักคุณทักษิณอยู่เป็นจำนวนมาก ก็เลยกลัวว่าประชาชนที่รักคุณทักษิณแล้ว จะไปรักพรรคประชาชนด้วยก็เลยมองว่า คุณประสงค์ พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อสกัดกั้นและก็น่าจะทำเป็นขบวนการด้วย คุณคำนูณได้คุยกับคุณประสงค์ บ้างไหมคะ
คำนูณ - ก็มีคุยกันบ้างครับ แต่ท่านก็ทำตามปกติของท่านคุณนพดล ก็ต้องแถลงตามปกติแบบนี้ ก็ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ
จินดารัตน์ - เขาบอกว่าก็พยายามบีบน้ำตาด้วยว่าสงสารเจ้านาย ว่าสงสารลูกสาว
คำนูณ - คือพันธมิตรที่ไหนหรือครับ กลัวคุณทักษิณผมไม่เห็นมีเลย
ปานเทพ - คุณคำนูณกลัวไหม คุณแอนกลัวไหม
คำนูณ - นี่ สมัยคุณทักษิณอยู่ ยังไม่กลัวเลยน่ากลัวกว่าตอนนี้ตั้งเยอะ ตอนนี้คุณทักษิณอยู่ต้องไกล
ปานเทพ - จริงๆ ผมอยากให้มานะ
คำนูณ - ขนาดแมนฯ ซิตี้ ไปดูเข้าวันหนึ่งโดนซัดเข้าไป 6-0 แพ้ยับเลย คุณสนธิก็ไม่กลัวแล้ว คุณทักษิณจะชนะประชาชน 300 เสียง คุณทักษิณจะกลับมาอะไรเรายินดีเลย
ปานเทพ - ยินดีเลยครับ รออยู่ของการกลับมา รออยู่ให้ขึ้นสู่กระบวนการยุติธรรม ผิด ถูก ว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม
คำนูณ - คดีจะได้เดินหน้าไปนะครับ
จินดารัตน์ - วันนี้เขาทำซีดีแจกทางภาคอีสาน ภาคเหนือนะคะ ซีดีของพรรคพลังประชาชนอันใหม่เคยเห็นว่าแต่งเพลงมาด้วย มาช่วยกันร้อง ท่องเนื้อให้ขึ้นใจจะได้ไปร้องที่สุวรรณภูมิวันที่คุณทักษิณกลับมา
ปานเทพ - ให้กลับมาครับ เชิญเลย แต่เราไม่ไปรับนะ
จินดารัตน์ - อีกเรื่องหนึ่งแล้วกันนะคะ ทิ้งท้ายวันนี้เรื่องของคุณจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม ตอนนี้ท่านได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการข้าราชการตุลาการ หรือ ก.ต. เพื่อขอโอนกลับไปศาลยุติธรรม ว่าเรื่องนี้ท่านเองบอกว่าไม่ต้องรอให้มีรัฐบาลใหม่ หากว่า ก.ตงจะพิจารณารับโอน และมีตำแหน่งว่างก็สามารถกลับได้ทันที เพราะว่าภารกิจของท่านนั้นเสร็จสิ้นแล้ว ที่ผ่านมาท่านได้กำหนดงานของท่านเองไว้ว่า อยากมาทำงานร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อทำเสร็จแล้ว ประชาชนยอมรับในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็น่าจะหมดหน้าที่ท่านแล้ว แต่ว่าส่วนตำแหน่งผู้อำนายการ หรืองานที่ค้างคาอีกหลายอย่างอาจจะเสร็จไม่ทัน เพราะว่าต้องรอการวินิจฉัยชี้ขาดจากคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน
จินดารัตน์ - ตำแหน่งของ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งกระทรวงจะได้เข้าไปล่วงล้ำไม่ได้ แต่ท่านก็เป็นห่วงบอกว่า หลายคนห่วงว่าการโอนกลับสู่ศาลยุติธรรม ท่านบอกว่าจะต้องหารือกับผู้ใหญ่อนเพราะว่าเข้ามาทำงานในกระทรวงยุติธรรม แล้วก็สภาร่างอาจจะเป็นเงื่อนไขที่ทำให้ท่านถูกมองถึงความเป็นกลางถึงความเป็นตุลาการ ซึ่งอาจจะไม่เหมาะที่จะรับตัวเองเข้าไปกลับเป็นผู้พิพากษาอีกครั้งหนึ่ง จึงต้องให้ผู้พิพากษาส่วนใหญ่วินิจฉัยร่วมกัน หากสุดท้ายมีมติไม่รับกลับไปเป็นผู้พิพากษา ท่านยืนยันชัดเจนว่า ก็จะไม่อยู่ในตำแหน่งกระทรวงยุติธรรมต่อไป เพราะว่าไม่ต้องการไปขวางการเติบโตของข้าราชการในกระทรวง คงจะเลือกไปทำงานสอนหนังสือแทน ส่วนนักข่าวก็ถามว่า แล้วจะไปลงเล่นการเมืองเต็มตัวไหม ท่านบอกว่าการเมืองจะต้องมีความพร้อม ตัวท่านเองท่านยังไม่มีความพร้อมสำหรับการเมือง ชัดเจนค่ะ
ปานเทพ - มาเรื่องข่าวเศรษฐกิจหน่อยไหมครับ คือวันนี้คุณสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้กล่าวถึงภาวะตลาดเงินโลกที่ผันผวน คือดอลลาร์อ่อนค่าลงเรื่อยๆ น้ำมันก็แพงขึ้นไปเรื่อยๆ 2 ด้าน แล้วปรากฏว่า ตอนนี้แบงก์ชาติยังคงมีภาวะขาดทุนจากากรแทรกแซงค่าเงินบาทต่อไป แม้ว่าจะลดลงจากปีก่อนที่ขาดทุนกว่า 1.7 แสนล้านบาท คุณสมหมาย บอกว่า คาดว่าดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าลงเรื่อยๆ เป็นผลมาจากปัญหาเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติลดการถือครองดอลลาร์ ล่าสุด ธนาคารกลางก็ลดดอกเบี้ยลงไปอีก เนื่องจากปัญหาหนี้เสียเยอะ ขึ้นดอกเบี้ยก็ไม่ได้ ลดดอกเบี้ย ดอลลาร์ก็ร่วงลงไปอีก สินทรัพย์เก็บไว้
ปานเทพ - โดยแบงก์ชาติที่มีดอลลาร์ก็เลยลดมูลค่าลง แบงก์ชาติเลยพูดอย่างนี้ ว่า ปีนี้แบงก์ชาติอาจจะมีภาระขาดทุน ส่วนปีหน้าเชื่อว่าจะดีขึ้น เนื่องจากขณะนี้ แบงก์ชาติปรับสัดส่วนการถือครองดอลลาร์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ โดยลดลงเหลือสัดส่วนแค่ 50 เปอร์เซ็นต์ จากเดิม 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะทำให้การถือครองเงินตราต่างประเทศของแบงก์ชาติมีความสมดุลมากขึ้น มีข้อสังเกตครับ 3 ตุ่ม ที่คุณสนธิ คุณคำนูณ และผมพูด ที่ว่าเงินคลังหลวง ไหนว่าถ้าไม่ใช้วิธีการบริหารไม่ให้ขอไปบริหารเนี่ย ไม่มีทางที่จะไปบริหารจัดการในภาวะที่ดอลลาร์ลดลงไปเรื่อยๆ ตอนนี้ยังไม่ต้องแก้กฎหมาย ทำไมยังทำได้ ลดสัดส่วนการถือครองดอลลาร์จาก 80 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 50 เปอร์เซ็นต์ ทำได้ครับ ทำได้จริงโดยที่ไม่ต้องแก้ไขในเรื่องของขอบเขตการลงทุน เอาเงินคลังหลวงไปลงทุนอย่างอื่น ต้องรู้จักมองเห็นสถานการณ์ แล้วเลือกถือสินทรัพย์ที่มีความมั่นคง พร้อมกับเลือกในสิ่งที่ไม่ด้อยค่าลงด้วย เพราะฉะนั้นแล้วไม่ได้แปลว่า เครื่องมือแค่นี้แบงก์ชาติทำงานไม่ได้ ทำได้ และถ้าจะสร้างความมั่นใจก็ต่อเมื่อ ทำในสิ่งที่อำนาจให้แค่นี้แหละ ทำให้มันปลอดภัย เพราะคือสิ่งที่มั่นคงที่สุดแล้ว ก่อนที่จะไปขอในการลงทุนให้มันแบบไร้ขีดจำกัด ซึ่งมันไม่มีใครไว้ใจ
จินดารัตน์ - เอาละค่ะ วันนี้หมดเวลาแล้ว เรามีข้อความจากคุณผู้ชมทางบ้านเข้ามามากมายเหลือเกินแต่อ่านให้ไม่ทันแล้ว พรุ่งนี้เป็นรายการพิเศษของรายการยามเฝ้าแผ่นดิน ต้องติดตามกันค่ะ เราจะมีอะไรให้คุณผู้ชมได้ชมกันบ้าง วันนี้หมดเวลาแล้ว สวัสดีค่ะ/ครับ
คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป
รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่ 1
( 56 k ) | ( 256 K )
คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป
รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่ 2
( 56 k ) | ( 256 K )