“ยามเฝ้าแผ่นดิน” สงสัยคำชี้แจง ผบ.ทอ.อ้างต้องซื้อเครื่องบิน Gripen จากสวีเดน ทั้งที่อยากได้ F-16 C/D จากสหรัฐฯ มากกว่า แต่ติดที่ยังเป็นรัฐบาลรัฐประหาร ถามกลับทำไมไม่รออีกไม่กี่เดือนก็ถึงเลือกตั้ง เพื่อให้ได้ของคุณภาพ ระบุยังดีที่ไม่มีเรื่องร้องเรียน เหมือนกรณีรถหุ้มเกราะยูเครน พร้อมเผยข่าววงใน นายกฯ ส่อไขก๊อกหลัง พ.ร.ฎ.เลือกตั้งมีผล
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ ยามเฝ้าแผ่นดิน โดย คำนูณ สิทธิสมาน, ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และสโรชา พรอุดมศักดิ์ ช่วงที่ 1
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ ยามเฝ้าแผ่นดิน โดย คำนูณ สิทธิสมาน, ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และสโรชา พรอุดมศักดิ์ ช่วงที่ 2
สโรชา - สวัสดีค่ะคุณผู้ชมขอต้อนรับเข้าสู่รายการยามเฝ้าแผ่นดินนะค่ะวันพุธที่ 17 ตุลาคม 2550 ค่ะ วันนี้สำนักพระราชวังได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 5 มีข้อความดังนี้ค่ะ
วันนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้รายงานว่า พระอาการทั่วไปดี พระวรกายด้านขวามีแรงมากขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะพระกล้ามเนื้อที่พระเพลา (ขา) มีแรงมากขึ้นจนทรงยืนโดยใช้เครื่องช่วยพยุงได้
อนึ่งคณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาได้รายงานว่าเป็นเนื้อเยื่อขนาดเล็กที่ผนังของพระอันตะหรือลำไส้ใหญ่ซึ่งตรวจพบเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2542 ตามที่ได้แถลงการณ์ให้ทราบในขณะนั้นแล้วมาบัดนี้ทรงมีพระอาการเจ็บบริเวณเนื้อบั้นพระองค์ด้านขวาทรงมีพระปรอทหรือไข้จึงได้ถวายการตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ที่ช่องพระนาภี หรือท้องน้อยพบว่าติ่งเนื้อเยื่อมีการอักเสบ จึงได้ถวายพระโอสถปฏิชีวนะ ปรากฏว่า พระอาการดีขึ้นเป็นลำดับ จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
สำนักพระราชวัง
17 ตุลาคม พุทธศักราช 2550
สโรชา - นอกจากนี้ในช่วงบ่ายที่ผ่านมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังได้นำข้าวกล่อง 2,000 กล่อง ได้นำมาพระราชทานแก่ประชาชนที่ไปเฝ้าพระอาการอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราชน่ะค่ะ บรรยากาศเมื่อวานนี้ก็เป็นไปอย่างคึกคัก พสกนิกรชาวไทยก็ได้ทยอยเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง เพือ่ที่จะลงนามในการถวายพระพรด้วย
สโรชา - มีข่าวอีกข่าวนึงที่จะมาเรียนให้คุณผู้ชมทราบนะคะ อันนี้นอกเหนือจากข่าวนิดนึง เป็นเรื่องที่อยากจะประชาสัมพันธ์หนังสือเล่มใหม่ของพี่คำนูณ ออกแล้ว ยลโฉมกันเป็นครั้งแรก จริงๆแล้ว สำนักพิพม์บ้านพระอาทิตย์ก็ส่งมาให้อ่านล่วงหน้าในฐานะผู้ดำเนินรายการ แอ้ม และพี่แอน จินดารัตน์ จะไปในงานเปิดตัวที่ซึ่งจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 21 ที่จะถึงนี้ คุณผู้ชมที่สนใจห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะว่าที่นั่งมีจำนวนจำกัด เพราะฉะนั้นคุณผู้ชมที่อาอยากจะไปร่วมงานกับพวกเรา พี่คำนูณ อ.ปานเทพ พี่แอน แอ้ม ไปกัน ตั้งแต่ช่วงบ่ายๆ วันที่ 21 ที่จะถึงนี้นะค่ะ ที่มีตติ่งรูม 4 ถ้าเกิดคุณผู้ชมอยากจะมาร่วมงานกับพวกเรา ขอความกรุณาลงทะเบียนมาล่วงหน้าเพราะว่าที่นั่งมีที่จำกัดพอสมควร ส่งแฟกซ์ หรือโทรสารมานะคะ ที่เบอร์ 02 -281- 9912 ผู้ที่ลงทะเบียนจะได้รับการยืนยัน การสำรองที่นั่งทางโทรสาร หรือไม่ก็ทางเอสเอ็มเอส สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักพิมพ์บ้านพระอาทิตย์ 02-629-2700 คุณนภาลัย หรือคุณผึ้ง น่ะค่ะก็สามารถที่จะไปกันได้ ได้ข่าวว่าพี่คำนูณก็มีเรื่องที่จะไปพูดคุยกันในงานเยอะ หลายเรื่องที่เดียว และก็แอ้มกับพี่แอนก็ตกลงกันแล้วว่า เราจะไปรุมถามพี่คำนูณกัน ในเรื่องต่างๆ การทำหน้าที่ สนช.แล้วก็เรื่องเม้าท์ในสภาด้วย เพราะฉะนั้นสนุกสนานคุณผู้ชมห้ามพลาดเด็ดขาด และยังมีการถ่ายทอดสดทางNEWS 1 เริ่มตั้งแต่เวลา 14.00 น.เป็นต้นไป ก็อย่าพลาดค่ะในวันอาทิตย์ที่ 21 ที่จะถึงนี้
สโรชา - เรื่องราวของข่าวที่ออกมาในช่วงนี้ แน่นอนวันนี้ก็จับตาเรื่องของการจัดซื้อจัดหาเครื่องบินขับไล่ของกองทัพอากาศ เราคุยกันถึงเรื่องของรถยนต์หุ้มเกราะกันไปแล้วเป็นประเด็นใหญ่ วันนี้ก็พาดหัวหนังสือพิมพ์ ในเรื่องของการจัดซื้อเครื่องบินแบบขับไล่เอนกประสงค์ของกองทัพอากาศ วันนี้ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ได้ออกมาชี้แจงในเรื่องนี้น่ะค่ะ ถึงกระบวนการคัดเลือก และสิ่งที่คิดว่าเหมาะสมที่สุด สำหรับกองทัพอากาศในขณะนี้ ท่านบอกว่าเครื่องบินที่อยู่ในการพิจารณา ในขั้นสุดท้ายของกองทัพอากาศนั้น มีทั้งหมด 3 ชนิดน่ะค่ะมีเครื่องบิน16 C/D ของสหรัฐอเมริกาชนิดหนึ่ง อีกตัวหนึ่งก็คือ เครื่องบิน SU-30 MK ของประเทศรัสเซียและก็สุดท้ายก็คือเครื่องบินJAS 39 หรือ GRIPEN ของประเทศสวีเดน สรุปแล้วหลังจากการพิจารณาข้อมูลและความเหมาะสมทางกองทัพอากาศได้ตัดสินใจที่จะจัดซื้อเครื่องบินของประเทศสวีเดนโดยที่จะนำมาใช้ประจำการเป็นระยะเวลาทั้งหมด 20 ปี และประจำการที่กองบิน 7 จ.สุราษฎร์ธานี จริงๆ แล้ว SU-30 นี่เราคุ้นกันนะค่ะเราคุ้นกันเชื่อว่าผู้ชม ASTV คงจะจำกันได้สำหรับเรื่องนี้
คำนูณ - คือเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องเก่าตั้งแต่ยุค พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา เป็นผู้บัญชาการทหารอากาศนะครับ ก็มีความพยายามที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่ชุดนี้มาเพื่อประจำการที่กองบิน 7 สุราษฎร์ธานี เพื่อเตรียมพร้อมป้องกันอธิปไตยชายแดนภาคใต้ว่ากันอย่างนั้นเถอะ แต่เรื่องความจำเป็นนี่เราไม่ปฎิเสธแล้วก็อย่างจะบอกเล่าว่าในอดีตในยุครัฐบาลคุณทักษิณ ชินวัตร มีความพยายามที่จะผลักดันให้ทางกองทัพอากาศซื้อเครื่องบิน SU-30 MK จากรัฐเซีย ในลักษณะที่ผู้ใช้คือทางกองทัพอากาศเองไม่ต้องการการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบหลายชุดนะครับในชั้นต้น ถ้าพูดถึงคุณภาพแล้วทุกคนอยากได้ตัวนี้นะครับ JAS 39 ของสวีเดนขึ้นมาแต่เรื่องคุณภาพไม่เป็นปัญหาและก็ตอนนั้นมีความพยายามที่จะให้ผลักดันซื้อ SU-30 MK เพราะว่าคุณทักษิณ ชินวัตร ในยุคนั้นก็เป็นที่เข้าใจกันดีว่ามีผลประโยชน์ทางการค้ากับรัฐเซียค่อนข้างสูงนะครับ กับประธานาธิบดีปูติน อาจจะเป็นเรื่องการพยายามที่จะเคลื่อนย้ายการลงทุนส่วนตัวของคุณทักษิณเองจากสื่อสารโทรคมนาคมไปสู่พลังงานจะเห็นได้ว่าความใกล้ชิดระหว่างคุณทักษิณ กับปูติน ก็ประเทศในสถานๆ ต่างๆ
คำนูณ - คือเป็นช่วงที่คุณทักษิณ พยายามจะแปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิตคุณทักษิณพยายามจะเข้ามาฮุบทีพีไอ ผ่านกระบวนการต่างๆ แล้วก็เป็นที่ชัดเจนว่า คุณทักษิณมองภาพรวมของธุรกิจในยุคหน้าว่า จะเคลื่อนย้ายตัวเองจากธุรกิจสื่อสารไปสู่ธุรกิจพลังงาน ซึ่งมันเป็นแกนของโลก โดยอาศัยตัว ปตท. การไฟฟ้าฝ่ายผลิต และทีพีไอ แต่อย่างที่ทราบกันดีอยู่ว่า คนคำนวณไม่สู้ฟ้าลิขิต แผนทั้งหมดมาสะดุดลงเพราะศาลปกครองตัดสินให้พระราชกฤษฎีกาที่แปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิต 2 ฉบับ มีอันต้องเป็นโมฆะ ตอนนั้นเนี่ย ก็ผลักดันให้ซื้อ SU 30 MK โดยอ้างว่า ประเทศไม่มีงบประมาณเพียงพอที่จะซื้อเครื่องบิราคาแพง เช่น JAS 39 GRIPEN หรือ F 16 C/D โดยที่มายาภาพที่ทางรัฐบาลชุดที่แล้วนำมาบอกประชาชนและฟังดูดี บราเตอร์เทรด
ปานเทพ - ก็คือเอาไก่ไปแลกเครื่องบิน
คำนูณ - ไก่นะครับ แต่ในที่สุดเนี่ย การทำข้อมูลของพวกเราจากคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ที่ออกมาพูดในรายการเมืองไทยสัญจร คุณแอ้มคงจำได้ พูด 2 - 3 ครั้ง และก็เป็นข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์พอสมควร ก็คือ มันมีปัญหาทั้ง 2 ด้าน คือด้านที่จะเอาซู 30 เอ็มเค และมันก็มีปัญหาเรื่องความเหมะสมของประเทศไทย
ปานเทพ - ไม่ว่าจะเป็นขนาดความเทอะทะ อุปกรณ์การเชื่อมโยง ความต่อเนื่องของอะไหล่ การซ่อม
คำนูณ - คือความไม่คุ้นชินของนักบินด้วย และพูดตรงๆ ผู้ใช้อยากได้ตัวนั้น มันเป็นเรื่องที่มีผลประโยชน์อย่างอื่นที่แฝงอยู่ของส่วนตัวของท่านนายกฯ เอง และส่วนตัวของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้น พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา ซึ่งท่านสละตำแหน่งผู้บัญชาการทหารอากาศ มาเพื่อรับตำแหน่งรัฐมนตรี ก็วิพากษ์วิจารณ์กัน อีกด้านหนึ่งก็คือ เอาไก่มาแลกนี่ก็มีปัญหานะ เพราะว่าไก่ซีพี ขายไม่ออก ถ้าได้บราเตอร์เทรดอันนี้ ก็เท่ากับว่า เหมือนรัฐบาลช่วยขายให้ เพราะฉะนั้นก็คือหมายความว่า มันมีปัญหาทั้ง 2 ข้าง เพราะฉะนั้นในวันนี้ในเรื่องคุณภาพ ในเรื่องความต้องการของผู้ใช้ คือกองทัพอากาศ ไม่มีปัญหา ส่วนปัญหาอื่นจะมีหรือไม่ก็ต้องดูกันไป โดยเฉพาะประเด็นที่หลายคนตั้งข้อสังเกต หรือตั้งคำถามว่า 34,000 ล้าน สำหรับประเทศไทยในยุคนี้นี่ มันมากเกินไปหรือเปล่า
สโรชา - อันนี้คือจะแบ่งเป็น 32 ล็อต ล็อตแรกเนี่ยจะซื้อ 6 ลำ ในวงเงิน 19,000 ล้านบาท งบผูกพัน 5 ปี ตั้งแต่ปี 51 ถึง 55 ซึ่งหลังจากนั้น 6 ลำสุดท้าย ล็อตที่ 2 คงจะต้องดูความเหมาะสม หลังจากใช้ล็อตนี้ไปแล้ว เป็นระยะเวลา 3 - 4 ปี พล.อ.อ.ชลิต บอกว่า ในการจัดซื้อในล็อตนี้ กว่าจะใช้เวลาในการผลิต และการส่งมอบ รวมไปถึงการฝึกการใช้ของนักบินในกองทัพอากาศ คงจะใช้ระยะเวลาพอสมควร 3 - 4 ปี ในระยะเวลาการผลิต แต่ 1 ปี ในการฝึก เพราะฉะนั้นเครื่องบินใหม่ที่จะมาถึงก็พร้อมที่จะใช้ในปี 2554 ซึ่งก็เป็นการปลดระวางของเครื่องบินF 5 BE ที่ใช้อยู่
คำนูณ - อีกนิดนึง คุณแอ้ม คุณปานเทพ ก็คงจะยังไม่ลืมกันว่า กรณีเครื่องบินชุดนี้ที่จะซื้ออะไรนี้ มันมีปัญหาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตัวผู้บัญชาการทหารอากาศ ก็คือ คนที่ศึกษาเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นก็คือเสนาธิการทหารอากาศในสมัยนั้น ในปี 48 -49 คือ พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี คือท่านไม่เห็นด้วยที่จะซื้อSU 30 MK น่ะครับ คือเรียกว่าท่านไม่สนองท่านผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา แล้วก็มีความพยายามที่จะตั้ง พล.อ.อ.ระเด่น พึ่งพักตร์ ขึ้นมาเป็นผู้บัญชาการทหารอากาศ แต่ว่าก็ประสบปัญหาถูกกรณีร้องเรียนเรื่อง ป.ป.ช.อะไรบางประการน่ะครับ ในที่สุดหวยก็เลยมาตกอยู่ที่ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ที่เป็นต่อเนื่องมาจนทุกวันนี้
ปานเทพ - พูดถึงลักษณะเครื่องบินคุณแอ้ม และคุณคำนูณคงจะเห็นว่าลักษณะต่างกันมากน่ะครับ ขนาดและความคล้องตัว จะเห็นได้ว่าของทางรัสเซียใหญ่เทอะทะจริงๆ
คำนูณ - คือก็พูดขนาดSU 30 MK มา มีปัญหาทั้งโรงเก็บเครื่องบิน มีปัญหาทั้งรันเวย์ เพราะว่าตัวใหญ่มาก
ปานเทพ - ทีนี้ประการหนึ่งก็คือว่า อาจจะมีคนท้วงติงหน่อยว่า ความจำเป็นเราเข้าใจว่า กองทัพจะต้องมีฝูงบินที่เพียงพอ เพื่อสร้างความมั่นคงในภูมิภาค ความเหมาะสมในช่วงนี้ก็มีคนตั้งข้อสังเกตว่า การซื้อเครื่องบินในช่วงปีเดียวที่ผ่านมา การซื้อมันเยอะมาก ซื้อเยอะไม่ได้หมายถึงว่ากองทัพอากาศซื้อน่ะครับ การบินไทยก็ซื้อฝูงใหญ่ และด้วยเงินอย่างมหาศาล พยายามที่หลายคนบอกว่า เหมาะสมหรือเปล่า ก็สุดท้ายก็ยังเช่าซื้ออยู่ดี จำนวนที่ฝูงจำนวนมากๆ น่ะครับยังไม่นับกรณีของครั้งล่าสุดตอนนี้คือ เหตุผลแม้ว่าจะเป็นเครื่องบินที่ดี แต่ว่าผมมีข้อสังเกตนิดนึงน่ะครับว่า วันนี้ตอนเช้าก็ไปอ่านหนังสือพิมพ์ และไปพบว่า พล.อ.อ.ชลิต ให้สัมภาษณ์ว่าการตัดสินใจในการจัดซื้อเครื่องบินกริฟเพ่น มาทดแทน เครื่องบินขับไล่ฝูงเก่า ทั้งที่อยากได้เครื่องบิน 16 ซีดี เพราะติดปัญหาเรื่องข้อกฎหมายที่ประเทศสหรัฐฯ จะไม่ค้าขายกับประเทศที่ทำการปฏิวัติ หรือประเทศที่ไม่เป็นประชาธิปไตย จึงได้คัดเลือกแบบของประเทศสวีเดน
สโรชา - คือจริงๆแล้วถ้าให้เลือก 3 ชนิดเนี่ย เลือกเอฟ 16 เป็นอันดับแรก แต่เนื่องจากเขาไม่ยอมค้าขายกับเรา เพราะว่าไม่ได้อยู่ในช่วงของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ก็เลยต้องตัดสินในไปซื้อสวีเดนแทน คือสิ่งที่ พล.อ.อ.ชลิต ให้สัมภาษณ์
ปานเทพ - ผมคิดว่ามีข้อสังเกตนิดนึงว่า ถ้าคิดว่าเงินที่เราจะจ่ายทั้งทีเนี่ย 34,000 ล้าน ก็ไม่ใช่เงินน้อยๆ นะ ก็ต้องถามผู้ใช้อย่างดีที่สุด แน่นอน ซูเป็นสิ่งที่คนในกองทัพอากาศไม่อยากได้ มีปัญหาเยอะ แต่ถ้าพูดอย่างนี้เหมือนกับว่าของที่ได้มาไม่ใช่สิ่งที่พอใจที่สุด หรือดีที่สุด เพราะเหตุเพียงว่า รัฐบาลชุดนี้ หรือกองทัพอากาศอยู่ในช่วงของการรัฐประหาร
คำนูณ - คือท่านพูดอย่างนี้ ถ้าเป็นเหตุผลที่สุดจริงๆ ท่านก็พูดไม่ถูก ก็รอรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งซิ รอชุดหน้า ถ้าท่านเห็นว่า JAS 39 GRIPENมันดีนะ ท่านก็ควรชี้แจงเหตุผลมาว่ามันดีอย่างไร ท่านอ้างเหตุผลแบบนี้เราก็ย้อนได้ซิว่า
ปานเทพ - ถ้าอย่างนั้นก็รอแป๊บนึงซิ อีกไม่กี่เดือนก็ได้ซื้อของดีละ ถ้าคิดอย่างนี้ละ อยากท้วงติงว่า การให้สัมภาษณ์ก็ต้องให้แน่ว่าสาเหตุที่เลือกGRIPENเพราะอะไร
คำนูณ - แต่อยากจะบอกสักนิดนึงว่า กรณี JAS 39 GRIPEN กับกรณีรถหุ้มเกราะล้อยาง บีทีอาร์ 3 อี 1 มันต่างกัน การวิพากษ์วิจารณ์ของเราก็ต่างกัน กรณีนี้ ณ วันนี้ ไม่มีการร้องเรียน ไม่มีการตั้งข้อสังเกตจาก สตง.แต่กรณีรถหุ้มเกราะล้อยางจากยูเครนนั้น มีการร้องเรียน ที่เรานำมาพูดไม่ได้พูดเพราะว่ามีการร้องเรียนจากคู่แข่ง
ปานเทพ - เพราะเข้าใจดีว่าเรื่องร้องเรียนเป็นเรื่องปกติ
คำนูณ - อาจจะถูก หรือผิด ซึ่งผู้ที่ตัดสินใจซื้อไปมักจะยัดเยียดข้อหาให้กับคนที่ออกมาคัดค้านว่า เสียประโยชน์ เราพูดทั้งในฐานะสื่อ และผมพูดในฐานะ สนช.ก็เพราะมีการสอบสวนกันเป็นการภายในชั้นต้นของ สตง.หลังจากได้หนังสือร้องเรียนแล้ว ทำหนังสือไปถามกองทัพบกแล้ว กองทัพบกทำหนังสือชี้แจงกลับมาแล้วสตง. เขามีรายงานเป็นการภายใน 3 ตุลาคม 2550 ว่ายังมีปัญหาอยู่ เราก็เอาปัญหาตรงนั้น 1 2 3 4 5 มาร่ายเรียงให้เห็น แล้วก็ตั้งคำถามไป ไม่ได้แต่งเติมเพิ่มเติมนะครับ เพราะฉะนั้นมันต่างกันน่ะครับ
สโรชา - อย่างนี้การที่ ผบ.ทบ.ท่านออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ท่านชี้แจงไปแล้ว ทางกองทัพนั้นชีแจงไปเรียบร้อยแล้ว ถึงข้อสงสัยข้อกังขาของ สตง.แต่ว่าท่าไม่ได้พูดต่อว่า สตง.ก็ยังพูดท้วงติงกลับมา หมายความว่าเรื่องก็ยังไม่จบจริงๆ แล้ว
คำนูญ - คือบางครั้งเวลาท่านพูดท่านก็พูดไม่ผิดหรอก แต่อาจจะคนฟังไปแล้วอาจจะเข้าใจผิดได้ ว่า สตง.ท้วงไปแล้ว กองทัพชี้แจงแล้ว ก็น่าจะจบกันไป แต่ความจริงไม่ใช่อย่างนั้นครับ คือ สตง.ตอนแรกไม่ได้ท้วงอะไรหรอก มีคนร้องเรียนเข้ามา เขาก็มีหน้าที่ๆ จะต้องหาข้อมูล เขาก็ถามกองทัพไป กองทัพก็ชีแจงกลับมา เมื่อชี้แจงกลับมาแล้ว เขาก็ชั่งน้ำหนักดู ในชั้นต้น และเขาก็เห็นเป็นประเด็นที่ มีกรณีที่หมิ่นเหม่ที่จะมีปัญหาอยู่ 2 -3 กรณี เขาก็ทำรายงานเป็นการภายในเสนอกันขึ้นมา เรื่องในส่วนของ สตง. ยังไม่จบ เขาก็ต้องมีขั้นตอนต่อไปน่ะครับ ณ ตอนี้ถ้ากองทัพบกไปชี้แจงอะไรยังไงต่อไป ผมว่ากองทัพบกก็ไม่ต้องชี้แจงอะไรแล้ว เพราะว่าชี้แจงมาครั้งหนึ่งแล้ว ต่อไปนี้มันเป็นเรื่องที่พ้นจากกองทัพบกออกมา ก็ไปอยู่กับกองบัญชาการทหารสูงสุด ต้องกลับมาที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ขึ้นไปที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แล้วท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั้น ท่านก็บอกว่าระงับไว้ก่อน ก็เป็นเรื่องของกระทรวงกลาโหม ที่ท่านต้องพิจารณาตัดสินใจ ถึงแม้ว่า ครม. จะมีมติอนุมัติไปแล้ว เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2550 แต่ทางกระทรวงกลาโหมก็บอกว่า ถ้ามันยังไม่เคลียร์ ประชาชนยังไม่เคลียร์ ท่านก็ะไม่ลงนามต่อไป
ปานเทพ - แล้วอย่างนั้นทำไมท่านผู้บัญชาการทหารบก ถึงได้ให้ความเห็น ทั้งๆ ที่ผ่านมือตนเองไปเรียบร้อยแล้ว ต้องไปผ่านท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผ่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่ระงับไว้อยู่ จริงๆ ท่าน ผบ.ทบ. ก็ไม่จำเป็นต้องแสดงความเห็นอะไรมากไม่ใช่หรือครับ เพราะว่าถือได้ผ่านไปเรียบร้อยแล้ว รอขั้นตอนหรืออำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไม่ดีกว่าหรือ
คำนูณ - จริงๆ ท่านก็ต้องไปชี้แจงกับทางกระทรวงกลาโหม ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่ว่าท่านก็อาจจะ ในฐานะที่ท่านอาจจะมีส่วนรู้เห็นมาตั้งแต่ต้น ท่านก็ชอบที่จะชี้แจงได้ ในส่วนของเราเอง เราก็ชอบที่จะชี้แจงได้ว่า สิ่งที่เราตั้งคำถามไปนั้น เราไม่ได้เสียประโยชน์อะไรเลย เราอาจจะเสียประโยชน์ในฐานะประชาชน ผู้เสียภาษีอากร ถ้าเกิดว่าข้อสงสัยนั้นมันไม่เคลียร์ เราก็จะสงสัยต่อไปว่าเราได้ของดีคุ้มค่าคุ้มราคาจริงหรือเปล่า และที่สำคัญก็คือว่า ทหารหาญของชาติที่ไปปปฏิบัติภารกิจอยู่ชายแดน ถ้าเกิดเขาได้เจ้ารถหุ้มเกราะล้อยางนี้ไปสัก 10 - 20 คัน เขาจะมีความสบายใจมากน้อยแค่ไหน
ปานเทพ - จะมีความเชื่อมั่นได้มากขนาดไหน
คำนูณ - อันนี้เราไม่ได้สรุปอะไร เราไม่ใช่ผู้รู้ดี ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธ แต่ว่าถ้าไม่มี สตง.เราก็ไม่พูด แต่ว่ามี สตง.แล้ว เรารู้ ถ้าเราไม่พูดก็ถือว่าเราทรยศต่อประชาชน เราทรยศต่อทหาร ต่อหน้าที่ หน้าที่สื่อ หน้าที่ สนช. หรือแม้กระทั่งหน้าที่ของคนไทย คนหนึ่ง ก็คือ ก็ชอบที่จะไปชี้แจงกัน แล้วตัดสินใจอย่างไรนั้นเราก็พูดไว้แต่ต้นแล้วว่าเราตัวเล็กๆคงจะไปขัดง้างทัดทานอะไรไม่ได้ แต่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างใครทำใครก็รับผิดชอบ และมันก็จะเป็นสิ่งที่บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ และอย่างที่ผมพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า ชีวิตคนนั้นสั้น ประวัติศาสตร์นั้นยาว
ปานเทพ - เพียงแต่ว่าใครได้ทำผิดหน้าที่ของตัวเองสมบูรณ์แล้วหรือยังในช่วงเวลานั้นๆ
คำนูณ - รถเนี่ย ซื้อมา เครื่องบินซื้อมา มันใช้กัน 20 ปี ถ้าของดีจริง ผู้คนเขาก็สรรเสริญว่า ท่านผู้บัญชาการทหารบกคนนี้ กองทัพบกในยุคนี้ ซื้อได้ของดี ราคาถูก เหมือนได้เปล่า ซื้อมาแล้วไม่เสียเลย ว่ากันไป แต่ว่าซื้อมาแล้วตลอดระยะเวลาการใช้งานมันมีปัญหาลักษณะใดเกิดขึ้น
ปานเทพ - โดยเฉพาะความปลอดภัย
คำนูณ - ถ้าเป็นปัญหาตามปกติก็แล้วไป แต่ถ้ามันเป็นปัญหาที่ไม่ใช่เกิดขึ้นตามปกติเนี่ย เขาก็จะนินทา ถ้าเป็นปัญหาใหญ่โต เขาก็อาจชยันโต
สโรชา - มีข้อมูลเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่เลือกเครื่องบินจากสวีเดน พล.อ.อ.ชลิต บอกอย่างนี้คะ บริษัทผู้ผลิตจะมอบรหัสข้อมูลต้นแบบ พื้นฐานที่มีความสำคัญต่ออากาศยานและระบบอาวุธ ซึ่งก็จะทำให้บุคคลากรของกองทัพอากาศสามารถต่อยอดการพัฒนาโดยตรงได้ในอนาคต เรื่องนี้ท่านบอกว่า ประเทศอื่นไม่มีให้มีแต่สวีเดนเท่านั้น ที่ให้ประเด็นนี้
คำนูณ - ถ้าบอกว่าJAS 39 GRIPEN ตัวนี้มันดี ก็ให้เหตุผลมาให้ชัดๆหน่อย แต่ถ้าบอกว่า ต้องซื้อJASเพราะว่าซื้อเอฟ 16 ไม่ได้ เพราะว่าเขาไม่ขายให้ไม่ใช่ประเทศประชาธิปไตย ก็จะต้องถามต่อไปว่า ถ้าคุณอยากได้เอฟ 16 ก็รอสักนิดซิ เรื่องก็มีอยู่เท่านี้ละครับ
สโรชา - มาถึงเรื่องอื่นกันบ้างนะคะ คุณผู้ชมถ้าย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2549 สิ่งที่เกิดขึ้นหน้าเวิล์ดเทรดเซ็นเตอร์ หรือเซ็นทรัลเวิล์ด พลาซ่า การประท้วงของกลุ่มต่อต้านนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ภาพได้ปรากฏต่อในสายตาของผู้ชม ASTV อย่างต่อเนื่อง และก็ในช่วงที่ยามเฝ้าแผ่นดินไปออกอากาศที่ช่อง 11 ก็ได้แพร่ภาพไปให้คุณผู้ชมท่วประเทศได้ดูกัน วันนี้นะคะ พล.ต.ต.มานิต วงศ์สมบูรณ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ได้รับทราบถึงคำสั่งของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ปลดออกจากราชการจากเหตุการณ์ครั้งนี้ พล.ต.ต.มานิต บอกว่ารับทราบเรียบร้อยแล้ว แต่จะใช้สิทธิขออุทธรณ์ขอสั่งปลดออกจากราชการภายใน 30 วัน รวมทั้งยื่นขอความเป็นธรรมต่อศาลปกครอง เพราะว่ายังมีความเชื่อมั่นว่าจะกลับเข้ารับราชการได้อีกและมั่นใจว่าสิ่งที่ทำไปในวันนั้นเป็นความผิดวินัยเล็กน้อยเท่านั้น
ปานเทพ - เล็กน้อยนะครับ แต่ในความเห็นของ พล.ต.มานิต วงศ์สมบูรณ์ หน้าตาอย่างนี้นะครับก็ภาพที่เราจำกันได้ก็คือประชาชนกลุ่มหนึ่งถูกรุมกระทืบต่อหน้าตำรวจเยอะๆ คนที่ออกมาคัดค้านคุณทักษิณก็กลายเป็นคนที่ถูกล็อกและก็ถูกทำร้ายร่างกายด้วยซ้ำไป
คำนูณ -คุณมานิต นี่มีอยู่ในภาพหรือเปล่าคนไหน
ปานเทพ -ครับ คือผมเคยได้ไปรายงานกับปปช. ครั้งหนึ่ง และก็ปรากฎว่าสิ่งที่เราได้เห็นปรากฎว่าทางปปช.ทำได้ดีมากนะครับ เขาใช้วิธีวงรูปหลายๆ คนแล้วถามว่าผมรู้จักไหม ผมก็บอกผมไม่รู้จักนะครับปรากฎว่าสิ่งแวดล้อมจากวีซีดีทั้งหมดที่ ASTV ถ่ายได้นะครับ ปรากฎว่าเป็นภาพตำรวจหลายคนเลย แล้วเขาก็เห็นว่าอยู่ในเหตุการณ์แล้วบางคนก็มียศในระดับสูงด้วย ก็เลยทำให้ป.ป.ช. ต้องขยายผลไปมากกว่าแค่ พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ เทพจันดา ซึ่งถูกปลดไปแล้วเหมือนกันนี่ก็เป็นบุคคลที่ 2 แต่คราวนี้เป็นถึงนายพลซึ่งเราไม่ค่อยได้เห็นที่นายพลจะถูกพ้นออกจากราชการไป ก็ต้องถือว่าเป็นเหตุกาณ์ที่เป็นผลกรรมดีกว่าที่เกิดขึ้นที่ครั้งหนึ่งคุณสนธิ ลิ้มทองกุล พูดว่าขอให้จำไว้แล้วกัน ถ้าคุณชนะก็แล้วไปแต่ถ้าแพ้เมื่อไหร่ก็ต้องเตรียมตัวโดนเช็คบิลได้แต่ละคน
สโรชา - เราย้อนไปดูสักนิดสกู๊ปหรือว่ารายงานข่าวที่ NEW 1 ออกอากาศไปเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ปีที่แล้วหรือ 2548 อ้อ 2549 ไปดูว่า ณ เวลานั้นที่ยังไม่มีใครออกมายืนยันว่าตำรวจชั้นผู้ใหญ่รับทราบหรือรับรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นรายงานเช่นนี้นำกลับมาดูอีกครั้งหนึ่งค่ะ เชิญค่ะ
***วีทีอาร์
ปานเทพ - นี้ข่าวปีที่แล้วน่ะครับ นี่ปีกว่าแล้วน่ะครับ แล้วก็เป็นภาพที่ผมจำได้ว่า ช่วงระยะเวลาปีกว่า ผมต้องเดินทางไปสถานีตำรวจหลายครั้ง สน.ปทุมวันน่ะครับ แล้วก็ต้องเดินทางไปที่ ป.ป.ช.อยู่จำนวนหลายครั้งเหมือนกันน่ะครับ เพื่อไปให้การและก็ชี้ตัว และภาพที่เห็นน่ะครับทาง ป.ป.ช.มีมากกว่าที่เราเห็นอีก แล้วจับให้เห็นว่ามีตำรวจเกี่ยวข้อง เยอะกว่าที่เราเห็น เพราะบางคนแต่งชุดธรรมดา เราไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นตำรวจ แต่ว่าเป็นตำรวจไม่น้อย ผมเชื่อว่าคดีนี้จะเป็นตัวอย่าง ที่ทำให้เห็นว่าตำรวจคนไหนก็ตาม ที่ไม่ทำหน้าที่ๆ ตนเองจะต้องกระทำน่ะครับ โดยเอาใจแต่ฝ่ายการเมืองเพียงอย่างเดียว บทสรุปหรือว่าจุดจบของตำรวจคนนั้น ไม่สวยหรอกครับ
คำนูณ - อันที่จริงถ้าจะว่า การเปลี่ยนแปลงที่ผ่านมา 1 ปี ไม่เกิดอะไรขึ้นเลย ก็ไม่ได้แต่มันเกิดขึ้น ในมุมที่อาจจะเป็นมุมเล็กๆ ผู้คนอาจจะลืมไป อย่างคุณโอ๋ สืบ 6 เรียบร้อยไปแล้ว อันนี้ก็มาถึงรายที่ 2 คุณมานิตย์ วงศ์สมบูรณ์
ปานเทพ - จะเห็นได้ว่ามีตำรวจบางคนอยู่ในเหตุการณ์น่ะครับ จะเห็นได้ว่าทุกครั้งทุกอิริยาบทของแต่ละคน ได้ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นบุคคลต่างๆ ซึ่งมีทั้งเราที่ไม่รู้จักบ้าง แต่ว่าจากการสำรวจแล้ว มีตำรวจเกี่ยวข้องเยอะ แล้วเป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูงก็ไม่น้อยจริงๆ ยังมีอีกหลายคนครับ แล้วก็นอกเหนือจากเหตุการณ์นี้ ก็มีตำรวจอีกหลายคนก็ประสบชะตากรรม นั้นเป็นที่ยโสธร
สโรชา - ไปดูความคืบหน้าของที่ดินเขายายเที่ยงสักเล็กน้อยน่ะค่ะ ก่อนที่จะไปพักเบรก วันนี้ค่ะก็มีบทสัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังจากที่คณะอนุกรรมาธิการตำรวจและสิทธิมนุษยชน สนช. ได้ไปพบว่า ท่านนายกฯได้โอนชื่อการครอบครองที่ดินที่เขายายเที่ยง ให้กับลูกชายคือ นายจุลล์ จุลานนท์ น่ะค่ะ แล้วก็มีการหยิบยกประเด็นนี้ มาวิพากษ์วิจารณ์กันว่า มีเจตนาหรือไม่อย่างไร วันนี้ท่านนายกฯ ออกมาให้สัมภาษณ์บอกว่า เดิมบ้านเป็นชื่อของภรรยา และภรรยาบอกว่า อยากให้ลูกชายคนเล็ก ซึ่งเป็นเรื่องภายในครอบครัว ก็ได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ และพนักงานส่วนท้องถิ่นให้เปลี่ยนชื่อเจ้าบ้าน ไม่ได้เปลี่ยนการครอบครอง เพราะเรารู้ดีว่าที่ดินที่เราอยู่นั้น อยู่ในขั้นตอนการตรวจพิสูจน์ทราบ ไม่สามารถขายที่ดินเหล่านี้ ในสถานะเจ้าของหรือ ผู้มีสิทธิโดยชอบธรรมได้นะค่ะ บอกว่าเป็นเรื่องธรรมดาภายในครอบครัว ที่มีการตัดสินใจกัน เป็นการเปลี่ยนชื่อเจ้าบ้าน ตามทะเบียนบ้านเท่านั้น ไม่ได้เป็นการถือว่าครอบครอบนะค่ะ นอกจากนี้แล้วก็ยังมีการพูดตอบค่ะบอกว่า เหมือนกับบ้านที่ผมอยู่ เป็นเจ้าบ้านอยู่ก็มีข่าวว่าเป็นเซฟเฮ้าส์ ก็เป็นบ้านภรรยา ผมไม่ได้เป้นเจ้าของบ้าน แต่มีชื่อเป็นเจ้าบ้านเท่านั้น เพราะภรรรยาไปเป็นเจ้าบ้านอีกหลังหนึ่งที่ลาดกระบัง ซึ่งเป็นเรื่องของการปกครองไม่มีปัญหาเรื่องอื่น เพราะไม่มีเจตนาที่จะปกปิด ทั้ง ป.ป.ช.ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้นะค่ะว่า ในกรณ๊ที่ท่านนายกฯ โอนชื่อให้กับลูกชายนั้นถือว่า ไม่เข้าข่ายการปกปิด หรือแจ้งทรัพย์สินหนี้สินเป็นเท็จแต่อย่างใดนะค่ะ นายกรัฐมนตรีสามารถแจ้งเปลี่ยนแปลงการถือครองต่อ ป.ป.ช.ภายหลังได้ เพราะว่าการกระทำที่เกิดขึ้น หลังยื่นบัญชีทรัพยสินตอนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปแล้ว แต่ว่าในกรณ๊ที่จะต้องยื่นทรัพยสินในฐานะ รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็ต้องแจ้งบัญชีทรัพยสินในส่วนของที่ดินเขายายเที่ยงต่อ ป.ป.ช. ว่ามีการเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ครอบครอง ไปให้บุตรชายเรียบร้อยแล้ว นี่คือประเด็นคืบหน้านะค่ะ ในเรื่องของที่ดินเขายายเที่ยง ยังมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างต่อเนื่องค่ะ เดี๋ยวเราไปพักกันสักครู่นะค่ะ กลับมายังมีประเด็นอื่นที่จะมาพูดคุยกันสักครู่ค่ะ
***ยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่ 2
สโรชา - กลับเข้าสู่รายการยามเฝ้าแผ่นดินก่อนที่จะไปดูเรื่องราวของการเลือกตั้งซึ่ง กกต. ก็ได้สรุปการแบ่งเขตในจังหวัดแรกมาเรียบร้อยแล้วนะค่ะนั่นก็คือจังหวัดลพบุรี ซึ่งก็คือแบ่งเป็น 2 เขตมีส.ส.ทั้งหมด 5 คน คือเขต 1 มี 3 คน เขต 2 มี 2 คน หลังจากนี้จะมีการพิจารณาในส่วนของจังหวัดอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักเกณฑ์ในการหาเสียงวิทยุ โทรทัศน์ การติดป้ายโฆษณาหาเสียงของผู้สมัคร ส.ส.ด้วยก็จะมีการพิจารณากันต่อไป วันนี้พิจารณาไปแล้ว 1 จังหวัด ในวันศุกร์นี้ก็จะเริ่มพิจารณาต่อๆ ไป สำหรับจังหวัดที่เหลืออยู่ อ.ปานเทพ มีอะไรมานำเสนอ
คำนูณ - เอ็กซ์คูลซีฟ
ปานเทพ - ไม่เอ็กซ์คูลซีฟ หรอกครับเพียงแต่มีคนพถามไถ่มาเยอะว่าดูเหมือน พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน เงียบๆ ไปหรือเปล่า หรือว่าเกิดอะไรขึ้น หรือว่าแย่แล้วจิตใจเป็นอย่างไรบ้าง ก็เรียนอย่างนี้นะครับในปลายสัปดาห์ ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นวันศุกร์คณะกรรมาธิการคมนาคมจะมีการสัมมนาเรื่องการรถไฟต่อนะครับ ตกลงคือไม่ได้ถอยหลังจากที่มีการตรวจสอบ ตรวจสอบในฐานะสนช. ต่อก็เลยมีผู้รู้แนะนำว่าในกรณีที่ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน มีข้อสงสัยหรือมีความรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในกรณีของการโยกย้ายจากตำแหน่งรองปลัดกระทรวงกลาโหมไปในตำแหน่งประธานที่ปรึกษากระทรวงกลาโหมอยู่ในขณะนี้ ซึ่งตำแหน่งประธานที่ปรึกษากระทรวงกลาโหมเป็นตำแหน่งเฉพาะตัวที่ควรจะต้องหมดไปหลังจากที่ย้าย พล.อ.ทศรศ เมืองอ่ำ สลับไปนั่งรองปลัดกระทรวงกลาโหมแทน เท่ากับว่าพล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน กำลังไปนั่งในตำแหน่งที่ไม่มีตำแหน่งจริงๆ อยู่ในขณะนี้มีผู้แนะนำว่าถ้าพล.ร.อ. บรรณวิทย์ เก่งเรียน จะลองทำให้เป็นบรรทัดฐาน ก็น่าจะพิจารณาดูว่า สมควรจะฟ้องศาลปกครองหรือไม่ เพื่อเป็นบรรทัดฐานว่า ในกรณีที่ข้าราชการถูกโยกย้ายอย่างไม่ถูกต้อง ไม่ว่าในตำแหน่งนั้นที่มีหรือไม่มีอยู่ โดยเฉพาะไม่มีอยู่จริงน่ะครับ จะสมควรได้รับความคุ้มครองจากกระบวนการยุติธรรมหรือไม่น่ะครับ ก็ต้องติดตามว่า พล.ร.อ. บรรณวิทย์ เก่งเรียน จะใช้วิธีนี้ในเร็ววันนี้หรือไม่
สโรชา -แต่ตอนนี้ก็คือ ท่านก็ทำงานตามปกติในฐานะสนช.ต่อไป มีเรื่องเป็นข่าวดีมาน่ะค่ะว่า เพราะว่ามีการโปรดเกล้าให้วง อส. วันศุกร์(***) มาบรรเลงเพลงให้ประชาชนได้รับชมกัน ในวันที่ 30 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้น่ะค่ะ ที่พระราชวังพญาไทน่ะค่ะ มีการเปิดเผยมาน่ะค่ะว่า วง อส วันศุกร์ น่ะค่ะ จะมีการเปิดแสดงให้กับประชาชนทั่วไปได้รับชมกันน่ะค่ะ เป็นวงดนตรีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงห่วงใยพสกนิกรเป็นอย่างมากน่ะค่ะ แล้วบอกว่าทรงทำงานหนักตลอดเวลา ก็ไม่ค่อยได้ทรงดนตรีสักเท่าไหร่ แต่ในที่สุดพระองค์ก็มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าให้ วงดนตรี อส. วันศุกร์ ได้จัดแสดงให้ประชาชนได้รับชมกัน ในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ ที่พระราชวังพญาไท ก่อนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จะมีพระอาการประชวรน่ะค่ะ ทรงควบคุมการฝึกสอนของวง แล้วก็ทรงแซ็กโซโฟนด้วยพระองค์เอง ทั้งน่ะค่ะเครื่องดนตรีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงโปรดที่สุดคือแซ็กโซโฟน และคาร์ริเน็ต และทรงโปรดเพลงพระราชนิพนธ์ทั้ง 48 เพลงน่ะค่ะ เพราะฉะนั้นที่พระราชวังพญาไท ในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ ก็จะมีการบรรเลงเพลงของวงอส. วันศุกร์ด้วย
คำนูณ - คนรุ่นใหม่ไม่ค่อยได้มีโอกาสได้เห็น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงแซ็กโซโฟนทรงดนตรี เห็นแต่ภาพยนตร์เก่าๆ ก่อนยุคที่ผมจะเข้ามหาวิทยาลัย ก็คือหมายถึงก่อนยุคที่พวกคุณจะเกิด จะทรงไปดนตรีที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จุฬาฯ เกษตรฯ อะไรทำนองนี้น่ะครับ ปีนึงก็ครั้งหนึ่ง นอกเหนือจากไปพระราชทานปริญญาน่ะครับ นิสิตนักศึกษาก็ได้เฝ้าใกล้ชิด และสมัยก่อนพระองค์ก็ทรงดนตรี ทุกวันศุกร์ทุกวันพฤหัส วง อส ในช่วงก่อนก็มีการพระราชนิพนธ์เพลงต่างๆ ออกมา ปีนึงปีใหม่ก็จะทรงพระราชนิพนธ์เพลงพรปีใหม่ออกมา ออกอากาศทางวิทยุกรมประชาสัมพันธ์น่ะครับ นึกถึงบ้านเมืองในยุคนั้นแล้วก็อบอุ่น
ปานเทพ -ในยุคนี้ถือว่าการที่วงดนตรี อส จะมาแสดงอีกครั้ง ในความคิดของผมน่ะครับ เป็นเรื่องที่มีความสำคัญ อย่างน้อยคนรุ่นผม รุ่นคุณสโรชาเห็นได้น้อยมาก ที่สำคัญก็คือว่า ท่ามการแถลงการณ์ของสำนักพระราชวังที่ออกมาฉบับที่ 5 ที่พระองค์มีอาการดีขึ้นเป็นลำดับ ผมว่าประชาชนแม้ว่าจะมีความรู้สึกดีขึ้นทุกวัน ที่ได้รับรู้แถลงการณ์จากสำนักพระราชวังว่า พระองค์มีอาการดีขึ้นทุกวันๆ แต่สุดท้ายประชาชนก็มีความคาดหวัง และเฝ้ารอในวันที่พระองค์ท่านออกมาจากโรงพยาบาล เสด็จพระราชดำเนินเดินผ่านจากโรงพยาบาลเพื่อไปพักผ่อน อย่างที่พระองค์พึงต้องปฏิบัติพระราชกรณียกิจของพระองค์เอง ผมว่าประชาชนเฝ้ารอวันนั้น
คำนูณ - ภาพเมื่อปีที่แล้วที่ทรงนั่งพระเก้าอี้เข็น ผมใช้ราชาศัพท์ถูกรึเปล่าน่ะครับ คือเราอยากเห็นภาพนั้นเร็วๆ เพราะแม้ว่าถึงแม้จะมีแถลงการณ์สำนักพระราชวังออกมาว่า พระอาการดีขึ้นโดยลำดับอย่างไรก็ตามแต่ๆ ว่า ขึ้นชื่อว่าโรงพยาบาลแล้ว สบายดีก็คงจะ อย่างเราถ้าไปต้องนอนโรงพยาบาลซักวัน 1-2 วันก็รู้สึกดีๆ อยู่ ก็พรอยจะแย่เอา และก็ที่สำคัญก็คือใกล้วันมหามงคลเข้าไปทุกที
ปานเทพ - ใกล้วันมหามงคลสำคัญมากน่ะครับ เราก็อยากจะได้ยินกระแสพระราชดำรัสในวันที่ 4 ธันวาคม ในสภาวะที่พระองค์ท่านมีสุขภาพพลานามัยแข็งแรงน่ะครับ
สโรชา - แต่ว่าข่าวก็ยังคงเดินต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการเลือกตั้งน่ะค่ะ
คำนูณ - ผมมีข่าวน่ะครับ ไม่รู้จะพุดดีรึเปล่าได้ยินมาว่า หลังจากมีพระราชกฤษฎีกา ที่ให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 23 ธันวาคมออกมาแล้ว พระราชกฤษฎีกามีผลใช้บังคับแล้ว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเมื่อไหร่ ได้ยินมาว่าเพื่อนๆ ของท่านนายกฯ ก็เดี๋ยวก็สบายๆ เพราะว่าท่านนายกฯ ท่านอาจจะไปเที่ยวพักผ่อน ใครจะรักษาการไปก็รักษาการไป จะมีการลาพักแบบท่านนายกทักษิณรึเปล่า
ปานเทพ - มาจินตนาการกันดีกว่าสมมุติน่ะครับท่านผู้ชมครับว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ท่านตัดสินใจลาออกจริง ก็ต้องรักษาการนายกรัฐมนตรีอยู่ดี คือไม่ได้มีผลจะทำให้ท่านพ้นจากตำแหน่งเลยทีเดียว เว้นแต่ว่า จะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่
สโรชา - ไม่ได้หมายความว่าถ้าท่านลาออกก็จะมีกระบวนการที่จะสรรหานายกฯ คนใหม่จาก สนช.เหรอ
คำนูณ - คือตั้งแต่มีพระราชกฤษฎีกามา รัฐบาลก็จะมีสถานะเป็นรัฐบาลรักษาการไปโดยปริยาย ที่ผ่านมาไม่ใช่รัฐบาลรักษาการนะ ท่านเป็นรัฐบาลจริงๆ พอมีพระราชกฤษฎีกาออกมาแล้ว ก็คือรักษาการรอจนกว่าจะมีการเลือกตั้งรัฐบาลใหม่เข้ามา เพราะฉะนั้นสถานการถ้าไปลาออกตอนนั้นมันจะยุ่ง เพราะว่ามันจะไปซ้ำ จำได้ไหม ที่คุณทักษิณ ระวางรอวันเลือกตั้ง มันก็มีการตีความกันตอนนั้นขนาดว่าลาพักนะ ยังตีความว่าลาออกหรือเปล่า และจะยังไงต่อไป มันเป็นปัญหาทางข้อกฎหมายพอสมควร
สโรชา - แล้วถ้าสมมุติว่านายกฯ คนนี้เกิดลาพักร้อนบ้างละ
คำนูณ - มีความเป็นไปได้
สโรชา - สมมุติว่าบังคับใช้ต้นเดือน พ.ย.แล้วท่านลาเนี่ย
คำนูณ - คือไม่ใช่วิเคราะห์ เป็นแต่เพียงว่า ได้ยินมา ว่ามีเสียงพูดอย่างนั้น อาจจะเป็นการพูดทีเล่นทีจริงว่า คล้ายๆกับมรสุมรุมเร้านัก ก็ไม่เป็นไหร ตอนนี้ก็ตั้งให้รองฯ บังเป็ฯประธานโน่นนี่เยอะแล้ว
สโรชา - แต่เขาบอกว่าไม่ใช่เป็นพระเอกนะ
คำนูณ - ก็พระรองก็รักษาการแทนพระเอกได้ ส่วนทางด้านกฎหมายจะเป้นอย่างไรก็ว่ากันไป แต่ว่าพอได้ยินเสียงนี้มาก็แสดงว่าท่านก็คงล้าเหมือนกันแหละ ตอนนี้ไปถึงลูกละเนี่ย แต่คนเราเมื่อโดนไปถึงลูกผมเชื่อว่าผู้อ่านหนังสือพิมพ์หลายคนก็คงเพิ่งรู้ว่า ท่านนายกฯ มีลูกชื่อ นายจุล
ปานเทพ - เพิ่งรู้นะครับ
คำนูณ - ชื่อเพราะดี และอีกสักพักหนึ่งอาจมีมากไปกว่านั้น อาจจะมีภาพลูกคู่กับรถยนต์หรูที่หน้าห้างดังอย่างพารากอน หรืออะไรขึ้นมาใครจะไปรู้ใช่ไหมครับ อันนี้ผมเดาเอานะครับ
ปานเทพ - นี่ข่าวคุณคำนูณนะครับ อีกข่าวหนึ่งที่เราคุยกันก่อนออกอากาศคือว่ามีข่าวไหมว่าการเลือกตั้งอาจไม่ใช่วันที่ 23 ธันวาคม
คำนูณ - อันนี้มันเป็นสิ่งที่คิดได้คุยกันนอกห้องได้แต่ที่จะพูดหน้าจอต้องเรียบเรียงคำพูดดีๆ เพราะว่าอันที่จริงเรื่องนี้เราพูดไปนานแล้วว่าควรจะถวายพระเกียรติ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในลักษณะที่ว่าเดือนธันวาคม ควรจะเป็นเดือนของพระองค์ท่านเป็นเดือนแห่งการเฉลิมฉลองแต่ว่ารัฐบาลก็ไม่ได้คิดเหตุผลของเราว่าเป็นเรื่องสำคัญ ที่เราพูดเราไม่ได้พูดถึงว่าจะเลื่อนไป 3 เดือน 4 เดือน ซึ่งมันไม่ใช่อยู่แล้วล่ะ มันก็คือไปเลือกตั้งเดือนมกราคม และ ณ นาทีนี้ อันนี้คือตามรัฐธรรมนูญมันไม่เกิน 5 มกราคม อยู่แล้วก็คือไปอีกสัปดาห์หนึ่งแต่ว่าเมื่อทางรัฐบาลไม่เห็นด้วยทางกกต.ไม่เห็นด้วยเมื่อออกมาเป็น 23 ธันวาคม ก็ต้องเป็นไปตามนั้นแต่ว่าจะเป็นไปตามนั้นร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ต่อเมื่อพระราชกฤษฎีกานั้นมีผลใช้บังคับ ซึ่งก็หมายถึงว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต้องทรงลงพระปรมาภิไธยในพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งนะครับ ซึ่งสถานการณ์ในวันนี้ก็ดูยังไม่เหมาะที่ท่านนายกจะเข้าไปรบกวนเบื้องพระยุคลบาท สถานการณ์ที่อยู่ที่ประทับอยู่ที่โรงพยาบาลในสถานการณ์ที่ยังทรงประชวรอยู่อันนี้ก็เป็นความไม่สบายใจแล้วก็เป็นการคุยกันนะครับ แล้วผมเชื่อว่าหลายๆ ฝ่ายก็คงจะไม่สบายใจที่จะต้องมีเรื่องไปรบกวนเบื้องพระยุคลบาทในวาระที่พระองค์ยังต้องรับการรักษาจากคณะแพทย์อยู่ เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งก็กำหนดไว้ 23 ธันวาคม
ปานเทพ - มันหนีไม่พ้นอยู่แล้ว
คำนูณ - แต่ว่าทั้งนี้ทั้งปวงก็ต้องรอพระราชกฤษฎีกา
สโรชา - ค่ะ รอพระราชกฤษฎีกาแล้วก็มีคำอธิบายมาจากกกต.ว่าอยู่ในระหว่างการพิจารณาว่าจะอนุญาตให้มีการหาเสียงอย่างไรบ้างแน่นอน ว่าสปรอตโฆษณาทั้งวิทยุ โทรทัศน์จะต้องสิ้นสุดลง ณ วันที่พระราชกฤษฎีกาบังคับใช้เพราะฉะนั้นภาพของสปรอตโฆษณาไม่ว่าจะเป็นของพรรคไหนที่คุณผู้ชมเห็นอยู่ตามสื่อโทรทัศน์ สื่อวิทยุ นี้เมื่อพระราชกฤษฎีกาบังคับใช้ขึ้นคราวนี้ก็เลยต้องถามต่อไปยังกกต.ว่าจะให้หาเสียงในลักษณะใดบ้าง พื้นที่ๆ จะปิดป้ายโฆษณาในการที่จะหาเสียงนั้นจะมีการกำหนดล่วงหน้าเลยว่าจะปิดได้ตรงไหนที่ไหนที่ปิดไม่ได้ แน่นอนว่าบิวบอร์ดหรือว่าภาพโฆษณาขนาดใหญ่ที่มีอยู่ตามท้องถนน มีอยู่ข้างๆ ทางด่วนหลายต่อหลายจุดในกรุงเทพฯ หรือว่าทั่วประเทศด้วยซ้ำไปจะต้องเอาลงทั้งหมดหลังจากที่บังคับใช้แล้ว คราวนี้ก็ต้องดูกันต่อไปว่าจะหาเสียงได้ในเกราะอะไรบ้างมีเสียงจากคุณบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยในเรื่องนี้ด้วยนะค่ะว่าอยากจะเชิญกกต.เข้ามาอบรมเข้ามาอธิบายถึงกฎ กติกา มารยาท ต่างๆ ที่จะต้องทำกันในการเลือกตั้งครั้งนี้ คุณบรรหารบอกว่ามีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะและพิธีกรรมก็เยอะเช่นกันเพราะฉะนั้นอยากจะให้กกต.เข้ามาหน่อย จะนำส.ส.มาอบรมจะได้รู้ว่าสิ่งที่ทำได้คืออะไร สิ่งที่ทำไม่ได้คืออะไรนะค่ะ แต่ว่าคุณบรรหารก็ให้ความคิดเห็นต่อในเรื่องการแบ่งเขต ส.ส.ระบบสัดส่วนแบบที่หนึ่งที่กกต.ประกาศเมื่อวานนี้ว่าพรรคชาติไทยเองเสียเปรียบ เสียเปรียบเพราะไม่มีฐานคะแนนอยู่ในภาคใต้แต่เมื่อกกต.ประกาศไปแล้วก็ต้องยอมรับกันตามนั้นรู้สึกว่าในการแบ่งสัดส่วนส.ส.ในการเลือกตั้งแบบสัดส่วนหลายพรรคก็ออกมาท้วงติงว่าไม่เหมาะสมหรือว่าไม่อำนวยแก่พรรคแต่ละพรรค เพราะว่าแต่ละพรรคก็มีฐานเสียงของตัวเองแต่การไปแบ่งแบบนี้เท่ากับว่าก็ต้องไปแข่งกับพรรคอื่นๆ ที่เข้ามามีส่วนในเขตนั้นๆ ด้วยนะค่ะ
คำนูณ - คือผมว่าจะไปโทษ กกต.ไม่ได้หรอกครับคือกกต.เขาก็ต้องทำตามรัฐธรรมนูญในเมื่อรัฐธรรมนูญกำหนดให้ต้องแบ่งออกเป็น 8 กลุ่ม แล้วก็คือ เขาไม่ให้แยกจังหวัด แต่อย่างไรเมื่อเกลี่ยให้มันเท่ากันมันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้หรอกที่มันจะต้องมีความได้เปรียบเสียเปรียบของแต่ละพรรคการเมือง
สโรชา - เกลี่ยให้เท่ากันนี้คือจำนวนของประชากร
คำนูณ - จำนวนประชากรนะครับ เพราะฉะนั้นมันเป็นไปไม่ได้หรอกที่ว่าจะไปเกลี่ยยังไงจะไปลงตัวว่าอีสานตอนบนทั้งหมด อีสานตอนล่างทั้งหมดอยู่ตรงไหน หรือว่าภาคกลางทั้งหมด ภาคใต้ทั้งหมดมันก็ไม่ใช่อยู่ดี ถามว่าสมมุติเขตกรุงเทพฯ สมมุติพรรคประชาธิปัตย์เขาพอใจไหม ผมว่าเขาก็คงไม่พอใจร้อยเปอร์เซ็นต์นะ เพราะว่าแทนที่จะเป็นกรุงเทพฯ จังหวัดเดียวใช่ไหมคุณปานเทพ ก็ต้องเป็นกรุงเทพฯ ไปบวกนนทบุรี สมุทรปราการ แล้วทั้งสมุทรปราการ ทั้งนนทบุรี ก็ไม่ใช่ฐานของพรรคประชาธิปัตย์เขาคิดในอีกมุมหนึ่งซิว่าสุพรรณบุรีไปอยู่กับภาคใต้ตอนบน ถามว่าประชาธิปัตย์เขาก็รู้สึกว่าเขาเสียให้ท่านบรรหารไปพอสมควร ท่านบรรหารก็เป็นธรรมดาก็ต้องเสียไปให้ประชาธิปัตย์ไปพอสมควรจะมีที่ชัวร์ๆ แน่ๆ ได้เปรียบกว่าใครเขาเพื่อนก็คือภาคใต้ตอนล่างที่ประชาธิปัตย์ดูเหมือนว่าจะคะแนนทั้งหมดก็ได้เปรียบอยู่ ซึ่งมันก็เป็นที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าทางภาคใต้ประชาธิปัตย์เขาก็ครองความนิยมมาโดยตลอด ภาคอีสานผมก็ว่ามันก็ยังแยกแยะออกไปได้หลายส่วนนะครับ เพราะฉะนั้นก็คือผมคิดว่า กกต.ก็ทำได้ดีที่สุดแล้วภายใต้กฎ กติกาที่ให้มาแล้วก็อยากให้มองว่าเราอย่าไปโทษผู้ปฎิบัติเราต้องดูว่าต้นตอมันมาจากรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญมีวัตถุประสงค์อย่างไรที่กำหนดออกมาแบบนี้ เจตนาดีนั้นมีแต่ว่าผลข้างเคียงมันก็มาก
ปานเทพ - ก็บางทีมันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้
สโรชา - เพิ่มเติมนะค่ะ ในส่วนของ คตส. วันนี้ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายเข้าแจ้งความที่กองปราบแจ้งความดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและครอบครัวตระกูลชินวัตรตามรายงานข่าวนั้นยังไม่ระบุนะค่ะว่ามีใครบ้างแต่ว่ามีแหล่งข่าวก็ออกมาเปิดเผยว่ามีทั้งคุณทักษิณ อาจจะมีทั้งคุณพจมาน มีพิณทองทา พานทองแท้ คุณยิ่งรัก รวมไปถึงคุณบรรณพต ดามาพงศ์ ด้วยนะค่ะข้อหาก็คือดูหมิ่นเจ้าพนักงานคตส.กรณีให้สัมภาษณ์สื่อกล่าวหาคตส.นั้นจงใจกลั่นแกล้งครอบครัวชินวัตรและเปรียบ คตส.เหมือนศาลเตี้ย เพราะฉะนั้นก็ไปแจ้งความดำเนินคดีที่กองปราบมาเรียบร้อยแล้วนะค่ะ ความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบกันต่อไปมีอะไรเพิ่มเติมไหมค่ะเหลือเวลาซัก 2 นาทีเห็นจะได้มีคุณผู้ชมจากศรีสะะเกษบอกว่า 111 คน สั่งห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมืองยังเดินสายอภิปรายตรงนี้
คำนูณ - เดี๋ยวต้องเข้าใจนิดหนึ่งนะครับคือว่าเราไม่ชอบเขาก็ได้ แต่ข้อเท็จจริงเบื้องต้นเราต้องบอกว่าไม่ใช่ศาลห้ามยุ่งเกี่ยวการเมืองครับ
ปานเทพ - ศาลตัดสิทธิในการเลือกตั้ง
คำนูณ - ตัดสิทธิในการเลือกตั้งหมายถึงว่า
สโรชา - ไม่สามารถลง
คำนูณ - ห้ามคุณสมัครรับเลือกตั้ง และคุณก็ไปเลือกตั้งไม่ได้ อั้นนี้ก็คือที่ศาลห้ามแน่ๆ ส่วนเรื่องสิทธิทางการเมืองพื้นฐานมันเป็นสิทธิของประชาชนชาวไทย
ปานเทพ -โดยเฉพาะสิทธิการแสดงความเห็น
คำนูณ - การแสดงความคิดเห็นการแสดงออก คือ หนึ่งคุณไปเลือกตั้งไม่ได้คุณสมัครไม่ได้ คุณไปเป็นกรรมการพรรคการเมืองอะไรก็ไม่ได้ และอะไรก็ตามที่คุณสมบัติระบุไว้ว่ามีสิทธิเลือกตั้งคุณไม่ได้หมดทุกอย่าง แต่ว่าคุณยังแสดงความคิดเห็นทางการเมืองได้ การขึ้นปราศัยผมก็ยังว่าได้นะ
สโรชา - ก็คือขึ้นไปแสดงความคิดเห็น
คำนูณ - เพราะไม่อย่างนั้นมันก็จะอย่างไร
สโรชา - แล้วถ้าสมมติปราศัยแล้วเนื้อหาในการปราศัยนั้นชัดเจนว่าเชียร์หรือสนับสนุนพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งถือว่ามีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองหรือเปล่า
คำนูณ - ไม่ได้ห้ามทำกิจกรรมทางการเมืองนะครับ
สโรชา - คือสามารถสนับสนุนได้
ปานเทพ - คือสมมติไว้แค่นี้ว่าลงสมัครรับเลือกตั้งไม่ได้ใช้สิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งไม่ได้ หรือจะเป็นตำแหน่งใดที่เขาห้ามคนที่เขามีคุณสมบัติแบบนี้นะครับในการลงสมัคร
คำนูณ - คือคนที่ไม่มีสิทธิเลือกตั้งนี้มันจะเป็นลูกโซ่ไปเลย คุณก็มีตำแหน่งทางการเมืองไม่ได้ เป็นรัฐมนตรีไม่ได้ องค์กรอิสระก็ไม่ได้นะครับ คุณไม่ได้หมดเลยแต่ว่าการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองมันเป็นสิทธิพื้นฐาน
สโรชา - ก็คือทำความเข้าใจกันตามนี้นะค่ะ คือสามารถจะยังคงขึ้นอภิปรายหรือว่าปราศรัยได้ตามสิทธิพื้นฐานที่จะแสดงความคิดเห็นแต่ไม่สามารถที่จะลงรับสมัครเลือกตั้งได้นะค่ะ หมดเวลาแล้วค่ะสำหรับรายการยามเฝ้าแผ่นดินกลับมาใหม่ในวันพรุ่งนี้ เราทั้ง 3 คน ลาคุณผู้ชมไปเพียงเท่านี้ สวีสดีค่ะ / ครับ
คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป
รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่ 1
( 56 k ) | ( 256 K )
คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป
รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่ 2
( 56 k ) | ( 256 K )