“สนธิ” ระบุการแย่งชิงผลประโยชน์ในธุรกิจโทรคมนาคมเป็นต้นเหตุปัญหาวิกฤตการณ์ทางการเมืองของประเทศตั้งแต่ 20 ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน ผิดหวังครบ 1 ปีรัฐประหารประเทศเข้าสู่วงจรอุบาทว์เหมือนเดิม แฉนายพลใน คมช.บางคนรับเงินนักธุรกิจ ตอกซ้ำ “ผัวเมียคู่หนึ่ง” มองการเมืองเป็นการลงทุน ทำอนาคตประเทศพังพินาศ-ย่อยยับ
รายการ “ยามเฝ้าแผ่นดิน” ออกอากาศทางเอเอสทีวี วันศุกร์ที่ 7 กันยายน 2550 เวลา 20.30-22.00 น. นางสโรชา พรอุดมศักดิ์ ดำเนินรายการ นำเสนอเทปบันทึกการปราศรัยของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่โรงแรม Holiday Inn Downtown Civic Center นครซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2550 เวลา 13.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น)
สโรชา - สวัสดีค่ะคุณผู้ชม ขอต้อนรับเข้าสู่รายการ “ยามเฝ้าแผ่นดิน” วันศุกร์ที่ 7 กันยายน 2550 เดิมทีแอ้มเคยสัญญากับคุณผู้ชมไว้ว่าวันนี้คุณสนธิ ลิ้มทองกุล จะกลับมาจัดรายการสดในสตูดิโอ แต่เนื่องจากว่ามีการเปลี่ยนกำหนดเล็กน้อย คือคุณสนธิได้รับเชิญไปบรรยายที่ประเทศเยอรมนี จึงเลื่อนกำหนดการที่จะเดินทางกลับประเทศไทยไป 2-3 วัน เลยทำให้ในวันนี้มาจัดสดไม่ได้ เราก็ขอให้คุณผู้ชมหายคิดถึงกันด้วยเทปการบรรยายที่นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐอเมริกา ไปกันที่ฮอลิเดย์ อินน์ คุณสนธิไปบรรยายที่นั่นอย่างไร ไปติดตามค่ะ
สนธิ - พ่อแม่พี่น้องครับ วันนี้มีเรื่องที่จะต้องพูดกับพ่อแม่พี่น้องหลายๆ เรื่อง วันนี้จะเป็นการอธิบายความให้ฟังนิดหนึ่งว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่มันเกิดขึ้นในวันนี้มันมีที่มาที่ไปอย่างไร ผมมีความรู้สึกว่าวันนี้เราแทบไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ อีกต่อไปแล้ว เพราะว่าคนๆ นี้วันนี้เป็นคนไม่มีราคา แต่ว่าทักษิณ ชินวัตร นั้นเป็นสัญลักษณ์ของความเน่าเฟะของสังคมไทย ที่เราต้องพูดวันนี้ก็คือว่า ผมจะอธิบายภาพรวมให้พ่อแม่พี่น้องว่าสังคมไทยตอนนี้น่ากลัวมาก น่ากลัวจริงๆ ครับ และถ้าพวกเราไม่ช่วยกันคนละไม้คนละมือ เราจะไม่เหลือสังคมไทยที่เราเคยเห็น และเราหวังว่าจะเป็น คงอยู่ต่อไปในอนาคต ผมคิดว่าเหตุผลหนึ่งที่เราต้องทำก็เพราะว่า ด้วยความที่เราจำเป็นจะต้องเดินหน้าต่อไป ให้องค์ความรู้กับประชาชนนั้น
สนธิ - เพราะว่าพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่ผมเคารพ ไม่ว่าจะเป็นองค์หลวงตามหาบัว หรือหลวงพ่อยา ซึ่งผมเคยบวชกับท่าน หลวงตาพูดบอกว่า ท่านเคยเทศน์กับผมว่า สนธิ พระพุทธเจ้าตอนที่ตรัสรู้ พระองค์ท่านมีทางเลือก 2 ทาง ทางแรกคือนิพพานไปด้วยตัวเอง กลายเป็นปัจเจกพระพุทธเจ้า อีกทางเลือกหนึ่งคือตัดสินใจเดินจาริกบุญ และแสดงธรรมให้ประชาชนทั่วไป ต้องผ่านทุกข์ ผ่านความยาก ผ่านความลำบาก จนกระทั่งถึงวัยอันสมควรที่พระองค์ท่านจะต้องละสังขารไป หลวงตามหาบัวบอกว่า สนธิ ในทางโลกุตระนั้น หลวงตาก็ต้องทำทางด้านนี้เพื่อเผยแพร่ธรรม แต่ในทางโลกิยะนั้น สนธิก็ต้องทำด้วย บอกสนธิยังมีกิเลสอยู่ แต่ให้รู้จักพอ ท่านบอกว่า เวลาหิวให้ทาน แต่พอเริ่มรู้สึกว่าอิ่มให้หยุด พอโกรธให้รู้ว่ากำลังโกรธ และให้หยุดโกรธ
สนธิ - เวลาหลงให้รู้ว่ากำลังเริ่มหลงแล้ว ให้หยุดหลง เพราะฉะนั้นแล้ว หลวงตาก็บอกว่า สอนไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าให้ยืดหยัดต่อการเดินหน้าจุดเทียนแห่งธรรม หรือเทียนแห่งปัญญาขึ้นมา นั่นคือการให้ปัญญาประชาชน และไม่มีหยุดยั้ง ท่านบอกว่า ถ้าเราเอาธรรมนำหน้า ธรรมของท่านคือความจริง ถ้าเราเอาธรรมนำหน้า แล้วเรายืนหยัดอยู่บนธรรมนั้น เราจะไม่มีวันผิด เพราะฉะนั้นแล้ว วันที่ 19 กันยายน ที่เกิดเหตุการณ์ปฏิวัติ หลายๆ ท่านก็ไม่เกิดความดีใจ เราก็ดีใจ แต่เรายังยึดถือหลักธรรมของเราอยู่ ไม่สั่นคลอน ยังยึดถือการทำผิดให้ถูก ทำชั่วให้เป็นเรื่องดี ไม่ใช่ยึดถือการสมานฉันท์ระหว่างพระกับโจร เรายืนหยัดอยู่บนความดี เราจะไม่ยืนหยัดอยู่บนความชั่ว คนที่ชั่วนั้น เราไม่โกรธ แต่การที่คนชั่วนั้นไม่ได้ทำให้ชั่วกลายเป็นดี แล้วมาสมานฉันท์กัน เราไม่ยอม นั่นคือจุดยืนที่พวกเรายืนมาตลอด และเราก็ยืนมาตลอดจนกระทั่งวันนี้
สนธิ - พอมาถึงวันนี้กาลเริ่มพิสูจน์ชัดว่าหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นในขณะนี้ มันกลายเป็นเกิดขึ้นเพราะว่าตัวเองนั้นเข้ามาเพื่อมีผลประโยชน์ มีแต่พวกเราเท่านั้นยังยืนอยู่ที่เดิม ฝนตก ฟ้าร้อง พอแดดออกพวกเราก็ยังยืนอยู่ที่เดิม แต่คนที่มาร่วมยืนกับเราในตอนวันที่ 19 กันยายน วันนี้เริ่มแปรเปลี่ยน เดินเข้าไปสู่กิเลสแห่งอำนาจ เดินเข้าไปสู่กิเลสแห่งผลประโยชน์ เพราะฉะนั้นผมก็เลยได้ข้อเรียนรู้อีกเยอะจากการต่อสู้ครั้งนี้
สนธิ - พี่น้องที่เคยติดตามรายการผมคงจะจำได้วันที่มีการยึดอำนาจ วันที่ 19 กันยายน มีคนถามผมว่า คุณสนธิรู้สึกอย่างไร หายเหนื่อยหรือยัง ผมตอบพี่น้องจำได้ไหมผมตอบว่า เหนื่อยครั้งนี้จะเหนื่อยมากกว่าครั้งเก่า เพราะว่าครั้งที่แล้วเป็นการเหนื่อยที่มีดำกับขาวเห็นได้ชัด ครั้งนี้สีเทามันเยอะเหลือเกิน อุปมาอุปไมยเหมือนทักษิณเป็นเสือ พวกเรานั่งจ้องตาเสือ จนกระทั่งในที่สุดเสือกลัว เสือวิ่งเข้าป่าไป แต่ครั้งนี้เราสู้กับยุง ซึ่งบินมาจากไหนไม่รู้แล้วกัดเรา เราก็ต้องตบตียุง ทั้งเนื้อทั้งตัวเป็นผื่นแดง มิหนำซ้ำยังเป็นยุงลาย นำพาหะเชื้อโรคมาหาเราอีก
สนธิ - และถ้าพี่น้องหลายคนเคยอ่านนิวยอร์กไทมส์ ในปี 1989 จะเห็นว่าในการที่เขาเลือก Democratic Candidate ให้เป็นประธานาธิบดีช่วงชิงตำแหน่งนั้น บิล คลินตัน และทุกคนที่เป็นแคนดิเดต จะต้องถูกสัมภาษณ์โดยนายทุน Fund Manager's Investment Banker บิล คลินตัน ถูกเชิญไปทานข้าวที่คลับ 21 ที่นิวยอร์ก คนสัมภาษณ์บิล คลินตัน คือโรเบิร์ต รูบินส์ ซึ่งเป็นอดีต Chairman ของโกลแมน ซากส์ Investment Banker ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง โรเบิร์ต รูบินส์ และทุกคนถามบิล คลินตัน ว่าต่อกรณีเรื่องทุนมีความเห็นอย่างไร ต่อกรณีเรื่องการเปิดเสรีของทั่วโลก มีความเห็นอย่างไร ต่อกรณีของการค้าเสรี มีความเห็นอย่างไร
สนธิ - สรุปง่ายๆ ก็คือเอาหลักการของฉันทามติกรุงวอชิงตัน คือ 1. ทุกอย่างต้องเปิดเสรีหมด 2. คือทุกอย่างในโลกนี้ต้องบังคับให้แปรรูปให้หมด ไฟฟ้าต้องแปรรูป โทรศัพท์ต้องแปรรูป รถไฟต้องแปรรูป 3. คือกฎกติกาต่างๆ ที่มีอยู่ต้องปลดล็อกออกให้หมด และ 4. ทุกอย่างต้องมีเสถียรภาพ การเมืองต้องนิ่ง ต้องมีการเลือกตั้ง ต้องเป็นระบอบประชาธิปไตย ส่วนจะเป็นระบอบประชาธิปไตยด้วยการซื้อเสียง ด้วยการซื้อรากหญ้า ไม่สำคัญ ขอให้มีฟอร์มว่าเป็นประชาธิปไตย จะเข้าหลักฉันทามติกรุงวอชิงตัน นั่นคือปี 1989 และเป็นปีสุดท้ายของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ พล.อ.เปรม หมดไป ก็ขึ้นมาด้วย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ
สนธิ - พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ก็เริ่มเปิดประเทศ ด้วยลักษณะของ Industrialization เปิดอุตสาหกรรมหมด และ พล.อ.ชาติชาย ก็ถูกปฏิวัติ โดย รสช. เหตุผลก็เพราะว่าคำกล่าวหาของการเป็นผู้ช่วย Cabinet และพี่น้องต้องจำไว้นะช่วงนั้นเป็นช่วงการเกิดของโทรคมนาคม Communication Industry เกิดจริงๆ ประมาณ 17 ปีที่แล้ว 17 ปีที่แล้วเริ่มมีโทรศัพท์มือถือ เริ่มด้วยอะนาล็อก ก่อน เพราะฉะนั้นแล้วก่อนหน้า 1997 พ่อแม่พี่น้องจำให้ดีๆนะครับ ธุรกิจที่นักการเมืองสนใจ นักธุรกิจสนใจ ก็คือธุรกิจของการซื้อมาขายไป ธุรกิจของการสร้างตึก นักการเมืองขอค่าคอมมิชชั่นตึก 10 เปอร์เซ็นต์ ธุรกิจของการสร้างทางรถไฟ ขอค่าคอมมิชชั่น 5 เปอร์เซ็นต์ ธุรกิจกินค่าหัวคิว หรือพูดง่ายๆ ว่าเป็นธุรกิจที่ค่อนข้างที่จะ Primitive
สนธิ - Primitive ตรงไหน ตรงที่ว่าเวลาผมคุยกับฝรั่ง ฝรั่งถามว่า สนธิ ประเทศคุณนี่คอร์รัปชั่นเยอะ ผมบอกใช่ Corruption, once as passes International deadline as become commission. มันก็เหมือนกัน พอมันผ่านเส้นแบ่งเขตแดนเข้าสู่ประเทศคุณ คุณก็ได้เงินคอมมิชชั่นใช่ไหม แต่ของเราเรียกคอร์รัปชั่น แต่ของคุณจะสามารถ Create vehicle หลาย vehicle เพื่อให้คอร์รัปชั่นของคุณดูไม่น่าเกลียด เช่น ล็อบบี้ยิสต์ บริจาคเงินเข้าพรรคการเมือง แต่ของเรามันยังป่าเถื่อนอยู่ อุปมาอุปไมยเหมือนของประเทศไทยนั้นเราใส่เสื้อกั๊ก ใส่เสื้อยันต์ คาดผ้าประเจียด ถือดาบสองมือ แล้ววิ่งเข้าไป แล้วตะโกน ไอ้เสือฮาวา! กูปล้นมึง แต่ของพวกคุณใส่เสื้อนอก เช็กแฮนด์ แต่คุณปล้มผมทั้งตัว แล้วยึดทรัพย์ผมหมดเลย ฉันใดฉันนั้น เพียงแต่ผลลัพธ์เหมือนกัน แต่ของคุณ คุณปล้นผมเสร็จ ผมยังบอกว่า Thank you, for coming and robbing me. แต่ของผมคุณมาชี้หน้าด่า บอก You're so rude ทำไมถึงดิบอย่างนี้
สนธิ - ช่วงโทรคมนาคมเกิดขึ้น เป็นช่วงจุดเปลี่ยนของประเทศไทย ผมกล้าพูดได้ว่าปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ทางการเมือง เกิดขึ้นเพราะนายทุนโทรคมนาคมทั้งสิ้น Telecommunication Business ในเมืองไทยเป็นสาเหตุของการให้เกิดทักษิณ และยังต่อเนื่องจนทุกวันนี้ แล้วเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง ว่าทักษิณไปแล้วแต่เรื่องนี้ยังอยู่ต่อ เพราะเจ้าของสัมปทานยังต้องการปกป้องผลประโยชน์ซึ่งมีมูลค่าเป็นแสนๆ ล้าน สมัยนั้น พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี โทรคมนาคมจุดแรกที่เกิดขึ้นคือเป็นจุดแรกที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้สัมปทานโทรศัพท์ GSM 900 ขององค์การโทรศัพท์ฯ คุณบุญชัย เบญจรงคกุล ได้สัมปทานโทรศัพท์มือถือระบบ 800 ของการสื่อสารแห่งประเทศไทย เป็นจุดแรก และเป็นยุคแรกที่เมืองไทย คือชินแซทฯ
สนธิ - คุณทักษิณ เริ่มได้สัมปทานยิงดาวเทียมขึ้นไปบนท้องฟ้า จู่ๆ จากตึกซึ่งสร้างกันตอนนั้น 500 ล้าน 20 ชั้น หรือว่าสั่งซื้อเครื่องมืออุปกรณ์แพทย์ 200 ล้าน กินเปอร์เซ็นต์ 5 เปอร์เซ็นต์ 10 ล้าน มาเป็นธุรกิจซึ่งขนเงินสดกันเป็น 500 ล้าน 300 ล้าน 800 ล้าน เป็นเงินสดๆ เอาไปให้นักการเมือง เพื่อให้ได้มาซึ่งสัมปทาน เป็นจุดเปลี่ยนการเมืองเมืองไทยทั้งหมดเลย เผอิญโชคร้ายหรือโชคดีผมไม่รู้ รัฐบาลชุดคุณชาติชาย ชุณหะวัณ มีปรากฏการณ์ทางด้านฉ้อราษฎร์บังหลวงแรงมาก จนกระทั่งต้องมีการยึดอำนาจโดย รสช.ในขณะนั้น เมื่อ รสช.ยึดอำนาจแล้ว ก่อน รสช.ยึดอำนาจ
สนธิ - ผมยังจำได้ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เคยพูดกับคนสนิท และไอ้โต้ง คือลูกชายแก ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ มาเล่าให้ผมฟัง ไกรศักดิ์ก็นเป็นคนซึ่งมีอะไรก็พูดกับพ่อตรงๆ บอก ไอ้ห่า พ่อกูเ.. ี้.ยฉิบหาย นี่คือไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ผมก็ถามว่ายังไงล่ะ เขาบอก พ่อกูบอกว่ารุ่น 57 ปฏิวัติยึดอำนาจนั้นไม่ต้องไปกลัว เพราะว่าเขามาขอโทรศัพท์พื้นฐานให้กับ ซี.พี. 3 ล้านเลขหมาย ตอนนั้น พ่อกูเลยให้มันไป เพื่อที่จะไม่ให้พวกนั้นยึดอำนาจ แต่ก็มีการยึดอำนาจในที่สุด พอยึดอำนาจเสร็จเรียบร้อย รสช.ยึดอำนาจปังปั๊บ สิ่งที่เกิดขึ้นก็คืออำนาจนั้นมาประเดี๋ยวเดียวก็หมดไป 2535
สนธิ - 2535 เท่ากับปี 1992 ตอนนี้เป็นช่วงซึ่งบิล คลินตัน ขึ้นมาแล้ว แล้วนโยบายของการใช้ทุนรุกเข้ามาในประเทศที่กำลังเจริญเติบโต ทุกคนต้องเปิดประเทศหมด ก็พยายามรุกเข้ามาตลอดเวลา ทางนี้ก็พยายามที่จะใช้หลักเปิดประเทศเพื่อทำอุตสาหกรรม แต่ตลาดทุนยังเล็กอยู่ตอนนั้น ก็ค่อยๆ เปิด ปรากฏว่าคุณสุจินดา คราประยูร ยึดถืออำนาจอยู่ได้ไม่นานก็ต้องล้มลงไป พอล้มลงไปก็มีการเลือกตั้งขึ้นมา การเลือกตั้งครั้งแรกจำได้ไหมครับ พรรคประชาธิปัตย์ได้ หลังจากนั้นก็มีการเลือกตั้งใหม่ ก็คือพรรคชาติไทย หลังจากนั้นก็กลายเป็นพรรคความหวังใหม่
สนธิ - พรรคความหวังใหม่ถูกดำเนินการมาในช่วงปี 1997 ในช่วงซึ่งเกิดภาวการณ์ต้มยำกุ้งขึ้นมา ทำไมถึงเกิดภาวการณ์ต้มยำกุ้ง เพราะว่าเป็นช่วงซึ่ง พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ มาเปิดประเทศมาตลอด และก็เป็นช่วงซึ่งนโยบายของสหรัฐอเมริกาที่บิล คลินตัน เป็นประธานาธิบดี ใช้นโยบายฉันทามติกรุงวอชิงตัน ใช้นโยบายรุก ก็เกิดภาวการณ์ดอลลาร์ถูก ใครต้องการบริษัทในประเทศไทยต้องการกู้เงินถูกๆ ก็ไปกู้แบบ BIBF ผ่านแบงก์ แบงก์ก็ไปกู้แบงก์เมืองนอก เมืองนอกก็เอาเงินดอลลาร์มา เงินดอลลาร์ที่กู้มาดอกเบี้ย 6 เปอร์เซ็นต์ บวกค่าต๋งซึ่งแบงก์คิดอีก 2 เปอร์เซ็นต์ ก็เป็น 8 ยังถูกกว่ากู้ในประเทศ ซึ่งตอนนั้น 14 หรือ 15 เปอร์เซ็นต์ ถูกกว่าตั้ง 6-7 เปอร์เซ็นต์
สนธิ - เพราะฉะนั้นคนก็ไปกู้เยอะแยะไปหมด ก็คือช่วงฟองสบู่เริ่มเกิดขึ้นแล้ว แล้วมาแตกช่วงคุณชวลิต ยงใจยุทธ ปี 1997 ตรงนั้นล่ะ 2540 คือจุดเปลี่ยนของประเทศไทย เพราะเมื่อเศรษฐกิจล่มสลายไปหมด คนชนชั้นกลางพินาศฉิบหายกันเต็มไปหมดเลย เมื่อพินาศฉิบหายแล้วพวกบริษัทใหญ่ๆ ก็เซกันถ้วนหน้า แบงก์มีหน้าที่อย่างเดียวคือเข้าไปแบกบริษัทใหญ่ๆ ส่วนชนชั้นกลางนั้นก็เหมือนเดิม คือคนที่นั่งอยู่ในห้องนี้ กับพวกชนชั้นกลางในประเทศไทย ไม่มีอะไรต่างกัน ข้อที่ 1 ทำมาหากินด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ข้อ 2 ภาษีอยากหนีใจแทบขาดแต่หนีไม่ได้ ข้อที่ 3 อภิสิทธิ์อะไรก็ไม่มี ข้อที่ 4 ไม่มีใครมาปกป้องพวกเรา ไม่มีใครมาเป็นตัวแทนต่อสู้ให้พวกเรา
สนธิ - และข้อที่ 5 ต้องเป็นชนชั้นกลางที่เป็นคนแบกสังคมทั้งสังคม และพวกเรา สถานภาพของเราเคยอยู่ตรงนี้ พอผ่านไปเราค่อยๆ ต่ำลงๆๆๆ จนกลายเป็นเดี๋ยวนี้ชนชั้นกลางแทบไม่มีเหลือแล้ว เขาเรียกว่าชนชั้นกลางต่ำ Middle Class ไม่มีแล้ว เหลือแต่ Middle Lower Class มันเป็นอย่างนี้ไปหมด เพราะอะไร เพราะเราต้องแบกภาระที่ข้างบนยังไงก็ตามไม่เดือดร้อน ทุกอย่างมีคนช่วย ลงไปถึงข้างล่างสุด ข้างล่างสุดไม่แคร์ เพราะรับ 200 , 300 , 500 ไม่พอใจยกมือให้ใครก็ได้ นโยบายเอื้ออาทรมาตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้ล่ะ พอเกิดวิกฤตการณ์ปี 2540 มันเปลี่ยนภูมิศาสตร์ทางการเมืองของไทยไปหมดเลย ไม่มีเหลือเลย
สนธิ - ที่เปลี่ยน เปลี่ยนตรงไหน เศรษฐกิจที่พังทลายลงไปตอนนั้น มันพังจนกระทั่งในขณะนั้นถ้าทุกคนฟังเสียงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้วเข้าใจในหลักการ ก็สามารถจะพลิกผันประเทศชาติให้เป็นเศรษฐกิจพอเพียงได้ ที่เขาเรียกว่า Sufficient and Sustainable Economy ฝรั่งถามผมว่า What a hell you invite Sufficient and Sustainable Economy? เขาถามว่าเศรษฐกิจพอเพียงหมายความว่าอย่างไร หมายความว่าต้องอยู่อย่างสันโดษหรืออย่างไร ไม่ใช่ คุณเข้าใจผิด แม้กระทั่งคำว่าสันโดษคุณยังเข้าใจผิดเลย คุณเข้าใจว่าคำว่าสันโดษหมายความว่าคุณต้องไปปลูกกระท่อมอยู่ปลายนา คนเดียว ไม่คบกับใครหรือ
สนธิ - หรือคำว่าสันโดษ คุณต้องไปอยู่แถวๆ ในป่าเขา แล้วไปหาเช่าบ้านหลังหนึ่ง ไม่ใช่ สันโดษในนัยทางธรรมหมายความว่า เราต้องพอใจในสิ่งที่เรามีอยู่ มีแค่ไหนใช้แค่นั้น มีบาท ใช้ 75 สตางค์ save สลึงหนึ่ง ไม่ใช่มีบาทแล้วไปกู้มาใช้อีกบาท นั่นคือสันโดษ เศรษฐกิจพอเพียงหมายความว่าอย่างไร หมายความว่าทุกสิ่งทุกอย่างต้องทำด้วยเหตุด้วยผล เหตุผลคืออะไร เหตุผลคือถ้าเราจะสร้าง subrail สักอันหนึ่ง เพื่อให้คนในกรุงเทพฯ ได้ใช้ เพื่อให้จราจรไม่ติดขัด ถามว่าเรามีตังค์ไหม เราไม่มี เราต้องไปกู้มา ถ้าเราไปกู้เงินมาสร้าง พอเราสร้างเสร็จเรียบร้อย เราก็ให้คนซึ่งเขามาประมูล ประมูลไป พอประมูลแล้วเขาก็คิดค่าเดินทาง ถ้า subway เสร็จ พี่น้องรู้ไหมว่าจากพระโขนงนั่งรถเข้ามาทำงานแถวสีลม หรือบางลำพู ต้องเสียค่ารถ 100 ไป-กลับ 200 บาท เดือนหนึ่งมี 22 วัน 4,400 บาท
สนธิ - เดี๋ยวผมจะ touch ต่อเรื่องการศึกษา และพ่อแม่พี่น้องที่ส่งลูกหลานไปเรียนมหาวิทยาลัยเอกชน ม.รังสิต หอการค้า ม.กรุงเทพ ธุรกิจบัณฑิตย์ ส่งเด็กเรียน 4 ปี ใช้เงิน 1 ล้านบาท พอลูกจบมาทำงานได้เงินเดือนๆ ละ 8 พันกว่าบาท 8 พันกว่าบาท มาเจอค่าเดินทางเดือนละ 4 พันกว่า แล้วเด็กต่างจังหวัดจะต้องอยู่หอพัก อยู่ห้อง ห้องถูกๆ ก็หนีไม่พ้น 2,500 บาท ห้องเดี่ยว อาบน้ำรวม ยังไม่นับค่าน้ำ ค่าไฟ ยังดีที่ไม่แย่งหมากิน มันจะมีเงินเหลือได้อย่างไร เด็กก็เลยจะกลายเป็นลูกจ้างตลอดชีวิต ก็มามองย้อนหลังไปแล้วจะทำอย่างไรที่จะให้รถไฟใต้ดินเกิดขึ้นได้ เพราะมีความจำเป็น เพราะไม่อย่างนั้นรถยนต์จะติด การเผาผลาญเชื้อเพลิงจะสูง จะทำให้ต้นทุนค่าพลังงานสูงมาก
สนธิ - ทำให้การสั่งเชื้อเพลิงเข้ามาของเราสูงเกินไป ก็บอกว่าเศรษฐกิจพอเพียงก็บอกว่า ใครใช้มากจ่ายมาก ใครใช้น้อยจ่ายน้อย คนกรุงเทพฯ มีรถยนต์อยู่ทั้งหมด 4 ล้านคัน คนใช้รถยนต์ 4 ล้านคัน 15 เปอร์เซ็นต์ ของประชากรในกรุงเทพฯ พ่อแม่พี่น้องรู้ไหมว่าคนกรุงเทพฯ มีทั้งหมดกี่คน ไม่ใช่ 5-6 ล้านคนนะ 12 ล้านขึ้นไปนะ เพราะฉะนั้นแล้ว คนกรุงเทพฯ 15 เปอร์เซ็นต์ คน 15 เปอร์เซ็นต์ ใช้รถ กินเนื้อที่ 85 เปอร์เซ็นต์ ของถนน ใช่ไหม คนอีก 85 เปอร์เซ็นต์ ใช้รถเมล์ กินเนื้อที่ 15 เปอร์เซ็นต์ คำตอบน่าจะอยู่ที่คนใช้ถนน 85 เปอร์เซ็นต์ ต้องเป็นคนจ่ายสำหรับค่า subway ถูกมั้ย
สนธิ - ด้วยเหตุนี้ ถ้าเขาเก็บภาษีรถยนต์ที่เราเรียกว่า Road Tax ภาษีถนน คิดเป็น 1 เปอร์เซ็นต์ ของราคารถยนต์ อย่าไปคิดซีซี เพราะรถบางคัน 2000 ซีซี ราคา 12 ล้าน คิด 1 เปอร์เซ็นต์ ของราคารถยนต์ เขาจะมีเงินจากภาษีถนนปีละ 8 หมื่นล้าน คุณออกพันธบัตรขายล่วงหน้าไป 30 ปี 2 หมื่นล้านต่อปี คุณหาเงินได้ 5-6 แสนล้าน คุณสร้าง subway ได้ทั้งหมด ต่อเชื่อมไปถึงปากน้ำ ต่อเชื่อมไปถึงปทุมธานี ต่อเชื่อมไปถึงธนบุรีปากท่อ เหนือ ใต้ ออก ตก ต่อเชื่อมให้หมด แล้วค่ารถโดยสารตลอดสาย 15 บาท นี่คือเศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกิจพอเพียงก็คือ ไม่ใช่ sustainable and sufficient economy อย่างเดียว sustainable ,sufficient and logical economy เพราะว่าเศรษฐศาสตร์ก็คือการใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้ maximize มาได้ ใครใช้มากจ่ายมาก นี่คือตัวอย่าง
สนธิ - ซึ่งปี 2540 เราไม่ได้คิดอย่างนั้น เพราะตอนนั้นเราถูก IMF และเวิลด์แบงก์ ทลวงทลายเข้าไป สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือทุกคนสติแตกหมด แบงก์ก็ต้องการที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจกลับไปสู่ที่เดิม ทุกคนก็ต้องการให้เศรษฐกิจดีขึ้น economy ก็คือ keep on spending พวกพี่น้องที่นี่เคยชินไหมกับคำว่า keep on spending พวกพี่น้องที่นี่ทุกคนก็เจอ situation เหมือนกันไม่ใช่เหรอ ลูกหลานของเรา มีใครบ้างไหมที่มีบัตรเครดิตแค่ใบเดียว ไม่มี เด็กสมัยนี้อยู่คอลเลจก็ 5 พันเหรียญแล้ว มีลิมิต นี่คือสิ่งซึ่งเราเรียนรู้มาจากต่างประเทศ ขนาดพี่น้องเป็นคนอเมริกัน อยู่ในอเมริกา แล้วรับเงินเป็นดอลลาร์ ใช้ชีวิตที่เคยชิน ทุกวันนี้ก็ยังหืดขึ้นคอ ใช่มั้ย แล้วนับประสาอะไรกับคนไทย คนไทยใช้ system ของอเมริกา หลงตะวันตกหมดเลย เดี๋ยวนี้พนักงานเอเอสทีวี เงินเดือนไม่ถึง 2 หมื่นบาท
สนธิ - บัตรเครดิต 4 ใบ ใบหนึ่งวงเงิน 2 หมื่นบาท เอาใบแรกไปจ่ายใบสอง ใบสองจ่ายใบสาม ใบสามจ่ายใบสี่ แล้วทุกคนแฮปปี้กับการที่จ่าย 5 เปอร์เซ็นต์ 10 เปอร์เซ็นต์ จากบัตรวีซ่าเมื่อก่อน require ไว้ 10 เปอร์เซ็นต์ เดี๋ยวนี้ลดเหลือแค่ 5 เปอร์เซ็นต์ เพราะอะไร เพราะต้องการได้ดอกเบี้ยมากขึ้น นี่คือสิ่งซึ่งมัน go against เศรษฐกิจพอเพียง แต่ตอนปี 2540 เราไม่ได้คิด และเผอิญเป็นความโชคร้ายของประชาชนไทยและความโชคร้ายของพรรคประชาธิปัตย์ ที่คุณชวน หลีกภัย ไม่เข้าใจปัญหาเศรษฐกิจ ท่านก็เลยมอบหมายปัญหาเศรษฐกิจให้ Banker คุณธารินทร์ นิมมานเหมินท์ คุณธารินทร์ เป็น Banker เชื่อผมนะพ่อแม่พี่น้อง พ่อแม่พี่น้องเจอ Banker 1 คน เหมือนกับเจอทุกคน You meet one, you meet all of them, same animal. ประเภทเดียวกันหมด
สนธิ - เพราะฉะนั้น คุณธารินทร์ ก็เลยคิดแบบ Banker ตะวันตก Banker ตะวันตกก็บอกว่าไม่ได้ คุณต้องเอาพวกธุรกิจไฟแนนซ์ที่พังทลาย ต้องเร่ขายของให้หมด คุณธารินทร์ก็เลยยึดทรัพย์ 56 ไฟแนนซ์คืนหมดเลย แล้วแบ่งขายให้กับ Merchant banker อย่างเช่น มอร์แกน สแตนลีย์ เมอร์ริล ลินช์ โกลแมน แซกส์ ทุกคนซื้อ ราคา 100 บาท ซื้อไป 15 บาท แล้วเอาไปขายต่อคนไทยในราคา 100 บาทเหมือนเดิม สมมุติมี portfolio ตัวนี้ เหมือนมอร์เกจ กับซับไพรม์ที่โดนอยู่ ขาย portfolio บ้านเช่ามา บ้านที่ผ่อนมา สมัยก่อน มีอยู่ 200 หลัง รวมค่า value ทั้งหมดหลังละประมาณ 1 ล้าน 200 ล้านบาท เขาซื้อมาด้วยเงิน 15 เปอร์เซ็นต์ 30 ล้าน แล้วเขาเอามาปั๊บ เขามีเจ้าของบ้านอยู่ 200 คน ที่ยังผ่อนอยู่ เขาก็บอกผ่อนต่อไปในราคาเดิม มันก็กำไร 85 เปอร์เซ็นต์ กำไรกี่ร้อยเปอร์เซ็นต์
สนธิ - ตรงนี้ก็เลยก่อให้เกิดความไม่พอใจกับชนชั้นกลาง ชนชั้นกลางนี่โดนหมด พอชนชั้นกลางโดนก็มีความรู้สึกว่า ชาติถูกเอาไปขายแล้ว แล้วประกอบกับช่วงนั้นโดนไอเอ็มเอฟ กับเวิลด์แบงก์บีบ ที่จะออกกฎหมาย ที่จะเปิดประเทศ เปิด service industry เข้าไป เปิด trading เปิด retailing ก็เลยแก้กฎหมาย 11 ฉบับ เพื่อให้ตกเข้าไปอยู่ในเงื่อนไขของไอเอ็มเอฟ และเวิลด์แบงก์ ก็เริ่มมีแบงก์ต่างชาติไปตั้งแบงก์ได้ ตั้งสาขาได้ Big retail store อย่างเช่น เทสโก้ โลตัส แม็คโคร บิ๊กซี ก็ไปตั้งได้ ทุกอย่างเข้าไปได้หมด ไปแย่งอาชีพคนไทยทำหมด แม้กระทั่ง education
สนธิ - ฟังดูก็ดีว่ามันไม่น่าจะเสียหายอะไรเท่าไร แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนั้น มันเกิดขึ้นเพราะว่าประเทศชาติมันล้มละลายไปหมดแล้ว ความที่ประเทศไทยนั้นแทนที่จะพลิกสถานภาพตรงนั้น แล้วถือโอกาสปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจไทย ปรับเปลี่ยนค่านิยมของไทย ปรับเปลี่ยนการเงินของไทย เราไม่ทำเลย เศรษฐกิจไทยปี 2540 จนกระทั่งถึงปี 2007 ยังเหมือนเดิม อุตสาหกรรมของเรายังเป็นอุตสาหกรรมที่เขาเรียกว่าอุตสาหกรรมรับจ้างทำของ sub-contractor สมัยก่อนพ่อแม่พี่น้องที่อยู่ลอสแองเจลิส หรือซานฟรานซิสโกมานาน จำได้มั้ย เรามักจะเจอเสื้อผ้า รองเท้า เมดอินไทยแลนด์เยอะเลย ถูกมั้ย เดี๋ยวนี้หายไปแล้ว กลายเป็น เมดอินไชน่า แล้วเริ่มมีอินเดียออกมาแล้วใช่มั้ย อีกหน่อยก็จะเป็นเมดอินแอฟริกา นั่นก็เพราะว่า เนื่องจาก structure โครงสร้างอุตสาหกรรมเราถูกสร้างมาเพื่อมารับจ้างทำของ sub-contractor รับจ้างทำของ เราก็รับจ้างทำของอยู่อย่างเดียว พอเริ่มมีปัญหาเงินบาทแข็งขึ้นมันก็หนีไปหมด
สนธิ - เดี๋ยวจะมีข่าวร้าย และข่าวดีเกี่ยวกับเงินบาท ให้พ่อแม่พี่น้องที่นี่ทราบ เพราะทุกคนคงอยากจะรู้ เพราะหลายคนส่งเงินกลับบ้าน บางคนส่งเงิน เงินหายไป 15 เปอร์เซ็นต์ เดี๋ยวจะมีข่าวดีให้ด้วยและข่าวร้าย แต่ถ้าพี่น้องที่เคยฟังผมพูดมาตลอด คุณสโรชา พรอุดมศักดิ์ เขาเรียกผมว่า พ่อหมอ ผมไม่เคยทายอะไรผิด แล้วผมจะทายอีกครั้งหนึ่งเรื่องเงินบาท ครั้งนี้ แล้วก็เชื่อไปเลยว่าไม่ผิด เพราะผมเป็นคนพูดเองว่าเงินบาทจะขึ้นถึง แข็งถึง 33 บาท ถ้าใครดูรายการผมมาก่อน ผมพูดมาก่อนล่วงหน้า 6 เดือน
สนธิ - เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว พระเจ้าอยู่หัวออกมามีพระราชดำรัสให้ใช้เศรษฐกิจพอเพียง ไม่มีใครฟัง ทุกคนต้องการจะไปในรูปนั้น ปรากฏว่ามันมีช่องโหว่อยู่ตอนนึง ปี 2540 ตอนที่เงินบาทถูกลดค่าลงไป มีกลุ่มคุณทักษิณกลุ่มเดียวเท่านั้นเองที่ได้ประโยชน์จากการลดค่าเงินบาท เพราะว่าคุณทนง พิทยะ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นั้นได้ indirectly หรือ directly inform กลุ่มคุณทักษิณ ทำให้กลุ่มคุณทักษิณซื้อ Forward Cover ดอลลาร์ไว้เรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นธุรกิจของชินคอร์ป บริษัทใหญ่ เช่น ชินคอร์ป เอไอเอส ชินแซท เลยไม่มีผลกระทบกระเทือนเลย ในขณะซึ่งทุกคนติดหนี้ชาวบ้านเป็นแสนๆ ล้าน แล้วคุณทักษิณ เองรีฟเบเนฟิต จากที่รู้ล่วงหน้าว่าเงินบาทจะต้องตกไปขนาดนั้น
สนธิ - ก่อนหน้านั้นผมเคยทำเรื่องไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทย ผมขอข้อมูลการซื้อเงินดอลลาร์ที่แบงก์ชาติ เดือนเมษายน พฤษภาคม มิถุนายน ปี 2540 แบงก์ชาติบอก ข้อมูลนี้เป็นความลับ ไม่เปิด ถ้าผมมีอำนาจในรัฐบาล ผมจะสั่งแบงก์ชาติเปิด แล้วเราจะรู้ทันทีเลยว่า ใครบ้างที่เล่นเงินบาทจากการรู้ Inside Information ทำไมผมถึงกล้าพูดเช่นนี้ เพราะว่าคุณประชัย เลี่ยวไพรัตน์ เป็นหนึ่งคนที่ถูกเชิญชวนให้มาเล่นค่าเงินบาทตอนนั้น คนที่ชวนชื่อ ริชาร์ดออง ไชนีส-มาเลเซี่ยน ซึ่งเป็นเมอร์ชั่นท์แบงเกอร์ อยู่กับเชสแมนฮัตตัน แล้วตอนหลังมาอยู่โกลด์แมนแซกส์ ทำไมผมรู้จักริชาร์ดออง เพราะผมเคยใช้ริชาร์ดออง สมัยที่อยู่เชสฯ ที่นิวยอร์ก ให้ทำดีลกับผม ดีลที่อเมริกา แล้วตอนหลังเขามาประจำอยู่ที่เซาท์อีสเอเชีย เบสอยู่ที่ฮ่องกง
สนธิ - ริชาร์ดออง ไปหาคุณประชัย เลี่ยวไพรัตน์ แล้วชวนคุณประชัยเข้ามาเล่นค่าเงินบาท จอร์จ โซรอส ก็ส่งคนมาหาประชัยบอกให้มาร่วมกันเล่น เพราะคนที่ค้าเงินตราเวลาจะแอทแทคเงินมันจะเรียกหลายคนมาลงขันกันเพื่อจะได้มีพาวเวอร์ คุณประชัยบอกว่า ผมไม่เล่น เพราะว่าผมเชื่อว่าเงินบาทจะไม่ตก เพราะคุณประชัยไปฟัง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ พล.อ.ชวลิต บอกว่าไม่มีการลดค่าเงินบาท เพราะพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ถูกคุณเริงชัย มะระกานนท์ โกหก หลังจาก พล.อ.ชวลิต พูดได้ 3 วัน คุณเริงชัยเข้ามาหาคุณชวลิต บอกไม่ได้แล้วพรุ่งนี้ต้องประกาศลดค่าเงินบาท นายกรัฐมนตรีพูดเมื่อ 3 วันที่แล้ว บอกไม่มีการลดค่าเงินบาท 3 วันให้หลังประกาศลดค่าเงินบาท คุณประชัยเลยเจ๊ง
สนธิ - คนที่ได้อานิสงส์อันนี้มี คุณอดิศัย โพธารามิก ด้วย หลายๆ คนได้ ทุกคนได้ แต่ทุกคนไม่มีใครกำไรมากเท่ากลุ่มคุณทักษิณ เพราะอะไร เพราะว่าจอร์จ โซ รอส ต้องการให้เงินบาทตกมาแค่ 30 บาท หรือ 32 บาท จาก 25 บาท แค่ 7 บาทก็ไปแล้ว พวกนักเก็งกำไรพวกนี้ เวลาเข้ามาโจมตีค่าเงิน หรือโจมตีหุ้น เขาตั้งเป้าไว้แค่ 15 - 20 เปอร์เซ็นต์ เขากำไรแค่นี้เขาพอแล้ว เขาถอยแล้ว เขาไม่ได้โลภ ปรากฏว่ากลุ่มคุณทักษิณอยากให้เงินบาทตกลงมากกว่า 32 บาท คุณทนง พิทยะ แทนที่จะเก็บ 56 ไฟแนนซ์ เลยสั่งปิด 56 ไฟแนนซ์ นี่ผมย้อนประวัติศาสตร์ให้ดูนะ พอประกาศสั่งปิด 56 ไฟแนนซ์ เท่ากับเศรษฐกิจเมืองไทยล่มสลายทันที เงินบาทจาก 32 บาท ร่วงไปเป็น 52 บาททันที
สนธิ - นั่นคือช่วงของการขายดอลลาร์ออก ของคนที่เก็งกำไรดอลลาร์ นั่นคือจุดเริ่มต้นของเงินสะสมของการเล่นการเมือง ของคุณทักษิณ ชินวัตร ในยุคนั้น เพราะฉะนั้นเราจะเห็นว่า 2540 ที่ทำความฉิบหายให้กับประเทศ ได้สร้างความร่ำรวยขึ้นมาให้กับกลุ่มทางการเมืองอีกกลุ่มหนึ่ง ทีนี้คุณทักษิณ ชินวัตร เข้ามาทำธุรกิจที่ไม่เหมือนกับธุรกิจในอดีตของพวกกลุ่มอภิสิทธิ์ ที่ผมเล่าให้ฟัง ก่อนปี 1989 2523 ทำไม สมัยนั้นที่ผมเล่าให้ฟังว่า นักการเมืองทำธุรกิจก็ทำจากธุรกิจคอมมิชชั่นเปอร์เซ็นต์ แต่เศรษฐกิจหลังปี 2540 กลายเป็น Casino Economy ไปแล้ว Casino Economy คือการซื้อหุ้น ขายหุ้น ปั่นหุ้นในราคาสูงแล้วเทขาย แล้วให้พวกแมลงเม่าไปรองรับ ไม่มี real investment การทำธุรกิจโทรคมนาคม ธุรกิจโทรคมนาคมขายอะไร พ่อแม่พี่น้องรู้หรือเปล่า
สนธิ - พ่อแม่พี่น้องทำร้านอาหารเยอะแยะ พ่อแม่พี่น้อง เช้าต้องไปตลาดใช่มั้ย ซื้อของมา เสร็จเรียบร้อยแล้ว ใกล้ๆ เที่ยงต้องเข้าครัว หั่นผัก หั่นปลา เขาสั่งก๋วยเตี๋ยวน้ำก็ต้องต้มเส้น มีทั้งน้ำปลา มีทั้งพริกขี้หนู มีทั้งพริกดอง มีทั้งน้ำตาล แต่ธุรกิจโทรคมนาคมขายอากาศ ได้สิทธิในการขายอากาศ แล้วก็ให้สิทธิในการคิดค่าอากาศนาทีละ 3 บาท 5 บาท สุดแล้วแต่ เพราะฉะนั้นธุรกิจโทรคมนาคมก็เลยรวยเอาๆ รวยอย่างมหาศาลเลยตอนนั้น รวมอย่างน่าเกลียด แล้วความรวยมีอยู่แล้ว ความที่เศรษฐกิจของทั้งประเทศพังไป แล้วเหลือธุรกิจของคุณทักษิณเจ้าเดียวที่ยังอยู่ได้ แล้วเป็นเจ้าเดียวที่ยังเข้มแข็งอยู่ มันเกิดภาวการณ์ที่ผมอธิบายให้ได้ว่าเป็นการผูกขาดทางเศรษฐกิจ และการผูกขาดทางเศรษฐกิจนั้นก็จะนำไปสู่การผูกขาดทางการเมืองต่อไป
สนธิ - และด้วยเหตุผลนี้ การเมืองเมืองไทยก็เลยอยู่ในช่วงเริ่มถูกปรับเปลี่ยน ปรับเปลี่ยนไปจากสมัยก่อน พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ก่อน 2540 ซึ่งเป็นการเมืองซึ่งถูกกำหนดโดยกลุ่มอีลิท กลุ่มที่มีอภิสิทธิ์ อุปมาอุปไมยถ้าพูดตามภาษาที่ผมพูดตลอดเวลา ว่าการเมืองสมัยก่อนนั้นก็มีกลุ่มอีลิท นักการเมือง ใครจะเป็นรัฐบาลไม่มีความหมาย เพราะใครก็ตามมาเป็นต้องพาดสะพานตรงนี้เชื่อมโยงกันต่อไป พาดสะพานด้วยวิธีไหน เสียค่าต๋งบ้าง ให้เขามาเข้าหุ้นบ้าง มีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง พอมาถึงคุณทักษิณ นี่ผมพูดข้ามเลยนะ คุณทักษิณไม่ต้องพึ่งตรงนี้แล้ว เพราะคุณทักษิณไปพึ่ง Mass ซึ่งฟังดูตามหลักประชาธิปไตยก็ถูกต้อง ถ้าเราเล่นการเมืองเราไม่พึ่งประชาชนแล้วจะพึ่งใคร แต่คุณทักษิณพึ่งประชาชนด้วยการซื้อประชาชน นั่นคือข้อแตกต่าง
สนธิ - เมื่อคุณทักษิณ เป็นคนแรกที่เริ่มเล่นการเมืองในเซ้นส์ของ real money politics ที่แท้จริง ก่อนหน้านั้นยังไม่ใช่ แต่ยุคคุณทักษิณคือ absolutely money politics เอาเงินไปแจกชาวบ้าน คือการซื้อเสียงขายเสียงมีเป็นธรรมดาอยู่แล้ว 50 บาท 100 บาท เสียงละ 100 บาท ไม่เป็นไร แต่คุณทักษิณเอาเงินนี้ไปผูกใจชาวบ้านเลย เอาเงินจากภาษีอากรไปให้กองทุนหมู่บ้าน กองทุนหมู่บ้านให้กู้ แล้วไปโกหกเขาบอกว่ากู้แล้วไม่ต้องคืน เอาเงิน 30 บาท ให้ประชาชนไปรักษา 30 บาทรักษาทุกโรค ทำให้โรงพยาบาลไม่มีเงิน โรงพยาบาลก็เลยต้องลดคุณภาพของยาลงมา เหมือนที่ผมพูดตลอดเวลาว่าเป็นอะไรก็เอาพาราไปกิน แต่คุณทักษิณแอบไปกว้านซื้อโรงพยาบาลเอกชน โรงพยาบาลพญาไท โรงพยาบาลพระราม 9 โรงพยาบาลปิยะเวช โรงพยาบาลเปาโล เพื่ออะไร เพื่อเอากลุ่มคนซึ่งไม่ต้องการจะไปรักษา 30 บาททุกโรค เพราะคุณภาพไม่ดี เฮมาที่โรงพยาบาลเอกชน นั่นคือที่มาของการขึ้นและการร่ำรวยของโรงพยาบาลเอกชน อันนี้เขาเรียกว่าการคอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย
สนธิ - เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ชัด นี่เป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างในหลายๆ ร้อยตัวอย่างที่เกิดขึ้น นี่ผมพูดข้ามไป ย้อนหลังมา 2540 ความพินาศฉิบหายของชาติเกิดขึ้น แต่กลุ่มคุณทักษิณร่ำรวยขึ้นมา เมื่อร่ำรวยขึ้นมานั่นคือเส้นทางที่จะก้าวไปสู่การมีอำนาจแล้ว การก้าวไปสู่การมีอำนาจนั้นก็มีการก้าวไปสู่โดยมีการวางแผนไว้ล่วงหน้า ขอย้อนยุคนิดหนึ่ง ในสมัยที่หลายๆคนโตไม่ทัน ในสมัยที่เรายังต่อสู้กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ในประเทศไทย เราก็มีนักศึกษาที่มีจิตบริสุทธิ์ มีความอยากจะเปลี่ยนแปลงประเทศไทย คนพวกนี้ก็ก่อให้เกิดเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ ขึ้นมา ก่อให้เกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ ขึ้นมา คนพวกนี้ถูกผสมผสานไปด้วยกลุ่มนักทฤษฎี Maoist Marxist Leninist คนพวกนี้ก็เข้าผสมผสานกับนักศึกษาที่จิตบริสุทธิ์ เข้าไปอยู่ในป่า ปรากฏว่าเมื่ออยู่ในป่าแล้วพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนก็ให้การสนับสนุนคนพวกนี้
สนธิ - จนกระทั่งประธานาธิบดีนิกสัน เริ่มเปิดประตูจีนไปพบเหมา เจ๋อ ตุง เป็นครั้งแรก และจีนกับอเมริกาก็เริ่มมีความสัมพันธ์กัน จนที่สุดเติ้ง เสี่ยวผิง ก่อนปี 1989 เริ่มเปิดประเทศแล้ว โดยเติ้ง เสี่ยว ผิง ให้เหตุผลว่า แมวจะเป็นแมวสีขาวหรือแมวสีดำ ตราบใดที่มันจับหนูได้ต้องถือว่ามีประสิทธิภาพ นั่นก็คือว่า จีนถึงจะเป็นพรรคลัทธิคอมมิวนิสต์ แต่ถ้าให้ทุนนิยมเข้ามาอยู่ได้ ถ้ามันเวิร์กกับจีนก็โอเค นักศึกษากับคนที่พรรคคอมมิวนิสต์ประเทศไทยตอนนั้น มีความเชื่อว่าจีนจะสนับสนุนการพลิกคว่ำฟ้าพลิกดิน เห็นว่าจีนเริ่มเปิดประตู และจับมือกับทางตะวันตก ก็เกิดอาการอกหักขึ้นมา ก็เลยมีกติกาตอนปี 66/23 นโยบาย 66/2523 คือนโยบายการให้อภัยโทษทุกคน ให้เข้ามาอยู่ในเมือง ให้อภัยโทษ นิรโทษกรรม และมอบที่ดินให้ทำกิน ก็ปรากฏว่ามีซ้ายอยู่กลุ่มหนึ่ง
สนธิ - ที่ผมเรียกว่าซ้ายอกหัก ไม่สามารถอยู่ในป่าได้ แต่ออกมา ซ้ายก็จะแบ่งเป็น 2 สาย สายหนึ่งก็ทำใจ และบอกว่าช่างมันเถอะ ทำมาหากินดีกว่า บางคนก็ทำไร่ทำนา บางคนก็กลับไปเรียนหนังสือต่อ บางคนก็เข้ามาเป็นอาจารย์ บางคนก็ไปทำอาชีพที่ตัวเองเหมาะ แต่ยอมรับสภาพ แต่ซ้ายที่เหลือนั้น ซ้ายอกหัก จะเป็นคนซึ่งยังไม่ยอมรับสภาพ แต่เข้ามาในเมืองเพื่อซื้อเวลา คนพวกนี้ ก็เริ่มเข้าไปเกาะกลุ่ม จังหวะพอดี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หลังปี 2540 กำลังมีความคิดจะตั้งพรรคการเมือง และต้องการจัดฐานมวลชนข้างล่าง ก็เลยดึงคนพวกนี้เข้ามาทำงานด้วย ไม่ว่าทำงานอยู่บริษัทชินแซทเทลไลท์ ทำงาน AIS ทำงานชินคอร์ป คนพวกนี้ก็เลยกลายเป็นที่ปรึกษาทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
สนธิ - จนกระทั่งปี 2543 ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง โชคร้ายของพรรคประชาธิปัตย์ที่ถูกกล่าวหาว่าขายชาติ จากนโยบายที่ยึดทรัพย์สินของคนไทยแล้วให้ฝรั่งประมูลซื้อไปราคาถูกแล้วมาขายกลับให้คนไทยราคาแพง ทำให้ชนชั้นกลางทั่วประเทศไทยโกรธพรรคประชาธิปัตย์มาก คุณทักษิณ วันนั้นโผล่มาจากไหนไม่รู้ กลายเป็นคนซึ่งตาดูดาว เท้าติดดิน ทุกคนเห็นคุณทักษิณเป็นเทวดาไปหมด เป็นคนเก่ง คนรวย พวกเราเลยเห็นว่า เขาต้องเก่ง เขาต้องรวย เขาเก่ง เขารวย ถ้าเขาไม่เก่ง เขาไม่รวย เขาจะรวยได้อย่างไร ถ้าเขาเก่ง เขารวย เขาก็น่าจะบริหารประเทศได้ดีกว่าคุณชวน หลีกภัย แต่ไม่มีใครถามสักคน คุณทักษิณรวยขึ้นมาได้อย่างไร นั่นคือปัญหาส่วนตัวของประชาชน ปัญหาที่มองในลักษณะ realtime ไม่ได้มองในลักษณะว่า ก่อนจะเกิด ก่อนที่เขาจะรวยมาเขารวยมาได้อย่างไร ในที่สุดกลับเข้าไปสู่หลักธรรม หลักปฏิจจสมุปบาท พูดง่ายว่า
สนธิ - ทุกอย่างที่เกิดตรงนี้มันมีเหตุของการเกิดมันถึงมาตรงนี้ได้ เพราะฉะนั้นถ้าเราเห็นตรงนี้เราต้องทำความเข้าใจว่า ไอ้บ้านี่ก่อนจะมามันต้องมีน้ำแข็ง มันต้องมีกาแฟ แล้วกาแฟก่อนมามันต้องเป็นเม็ด แล้วต้องปลูกที่ไหน ขนมาแล้วต้องมาบด คั่ว เติมน้ำแล้วใส่นม แล้วถ้วยพลาสติกมันมาอย่างไร นั่นคือหลัก ปฏิจจสมุปบาท แต่เราไม่เคยดู เพราะว่าโลกทุกวันนี้เป็นโรคของ realtime พี่น้องครับ เครียดเกินไปรึเปล่า ยังอยากฟังไหม เพราะว่าผมมีความรู้สึกว่า ถ้าพูดให้มันแล้วด่าเยอะๆ มันก็ดีไปอย่าง แต่ความรู้ได้น้อย ไหนๆ อุตส่าห์เดินทางมา เบบิชก็ปิด นั่งบัสมา บางคนก็เดินมา ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว มารับฟังองค์ความรู้ วันนี้ฟังแล้วจะเข้าใจหมดทุกอย่าง
สนธิ - พอปี 2544 เกิดการเลือกตั้งขึ้นมาตูม จำได้หรือเปล่าว่าพรรคของคุณทักษิณได้เสียงมา 250 กว่าเสียง แต่ใช้กติกาของรัฐธรรมนูญปี 2540 ที่ให้รวมพรรคได้ เพราะฉะนั้นแล้ว คุณทักษิณก็ใช้หลักควบรวมกิจการในธุรกิจ เข้ามาเล่นกับการเมือง โดยที่ก่อนหน้านั้นคุณทักษิณก็ใช้พรรคความหวังใหม่เป็นพรรคยางอะไหล่ คือให้เงินคุณชวลิต ยงใจยุทธ ไป 500 ล้านบาท พอคุณชวลิตมีเสียง 30 กว่าเสียง ก็สั่งให้คุณชวลิตยุบพรรคมารวมกับคุณทักษิณ จาก 256 เสียงก็เพิ่มไปเรื่อยๆ จนกลายเป็น 300 เสียง เพื่ออะไร เพื่อเข้าสู่กติการัฐธรรมนูญที่ไม่ให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี เมื่อคนจะเข้ามาเล่นการเมือง การที่ตัวเองหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แล้วสร้างกติกาเพื่อไม่ให้ตัวเองถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ แสดงว่าตัวเองต้องมีวาระซ่อนเร้นหลายๆ อย่างที่จะทำ
สนธิ - เพราะฉะนั้นพ่อแม่พี่น้องจะเห็นได้ชัดว่าการเมืองถูกวางกติกาเอาไว้เรียบร้อยหมดแล้ว พอถึงช่วงที่คุณทักษิณมีเสียงข้างมาก ควบคุมสื่อมวลชนได้หมดทุกอย่าง ทุกประการ ก็เริ่มที่จะสร้างฐานอำนาจของตัวเอง โยกย้ายแต่งตั้งรัฐมนตรีของตัวเอง ข้าราชการ ปลัดกระทรวง อธิบดี ทุกคน ตำรวจ ทหาร ไปเรื่อยๆ ถึงจุดๆ หนึ่งคุณทักษิณเลยชักสะพานตรงนี้ออก สะพานที่เคยเชื่อมระหว่างกลุ่มอภิสิทธิ์กับกลุ่มการเมือง คุณทักษิณชักออก เพราะเขามีหมดทุกอย่าง เขามีฐานประชาชน ซึ่งเขาใช้เงินซื้อ ใช้นโยบายเอื้ออาทร เขาปิดกั้นสื่อมวลชนไว้ทั้งหมด ทุกสิ่งทุกอย่างเขาบล็อกไว้หมดแล้ว เขาไม่ต้องพึ่งพวกเอ็งอีกแล้ว พวกนี้คือใครบ้าง พวกนี้คือคนที่เราเห็นอยู่ทุกวันนี้ พวกนี้ก็คือ รัฐบาลเต่า พวกนี้ก็คือ พวกทหาร เห็นหรือยัง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ก็คือคนพวกนี้
สนธิ - คนพวกนี้เลยต้องมาแบ็คอัพผม เพราะว่าเขาหาคนซึ่งจะมาปลุกจิตสำนึกประชาชนขึ้นมาสู้คุณทักษิณ เขาหาไม่ได้ แล้วเขาก็ไม่กล้าสู้ เพราะเขามีตำแหน่ง เขามีหัวโขน เขากลัวเสียตำแหน่ง เขากลัวหลุดจากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก เขากลัวธุรกิจเขาถูกตรวจสอบ เขากลัวว่าเขาจะต้องหลุดจากโน้นหลุดจากนี่ เผอิญเป็นความโชคร้ายคุณทักษิณ แล้วเป็นความโชคดีของกลุ่มคนพวกนี้ที่มีได้เจ๊กบ้าคนหนึ่งชื่อ สนธิ ลิ้มทองกุล
(ช่วงที่ 2)
สนธิ - ปี 2544 จนถึง 2547 เป็นปีที่คุณทักษิณได้สร้าง Foundation ทางการเมือง การสร้าง Foundation ทางการเมือง ก็คือ การใช้ลัทธิประชานิยมลงไป เป็นการซึ่งลงไปในเรื่องของการผูกใจพวกรากหญ้า วิธีการผูกใจรากหญ้า คุณทักษิณก็ใช้อย่างที่บอก ถ้าใครเป็นพวกจะให้งบประมาณไป การทำหวยบนดินนั้น แท้ที่จริงแล้วก็คือ เอาเงินที่ประชาชนนิยมเล่นหวยเอามาอยู่ในมือของตัวเอง แล้วตัวเองก็มีสิทธิ์สั่งจ่ายหวยบนดินได้ โดยให้ลูกน้องเพื่อนสนิทที่ชื่อ พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ เป็นผู้อำนวยการกองสลากฯ จู่ๆ เป็นผู้บังคับการตำรวจกองปราบ แล้วลาออกไปเป็นผู้อำนวยการกองสลากฯ ย่อมมีเหตุผลของการมา เงินหวยบนดินนั้น 4 ปีที่ผ่านมามีเป็นหมื่นล้าน
สนธิ - คุณทักษิณ จ่ายตามที่ต้องการ จักรยาน 2,000 คันให้จังหวัดนี้ ทุนให้ตรงโน้น ไม่ใช่เงินเขาเลย เงินที่เขาหลอกประชาชนมาเล่นหวยแล้วก็เอาเงินก้อนนี้ไปเพื่อจะให้ Popularity ของเขากลับมาหาพรรคไทยรักไทย อันนี้เป็นการเมืองที่น่ากลัวมาก เป็นการเมืองที่น่ากลัวที่สุด ไม่ใช่เป็นการเมืองที่พิสูจน์ว่าคุณทักษิณได้ทำอะไรให้ประเทศชาติบ้าง แต่คุณทักษิณเอาเงินไปซื้อคน น่ากลัวจริงๆ เพราะฉะนั้นแล้วด้วยเหตุนี้ ถ้าคุณทักษิณอยู่ต่อ ซึ่งเมื่อครบปี 2547 แล้วเขาก็มีการเลือกตั้งใหม่ พี่น้องจำได้ไหมเขาเข้ามากี่คน 377 คน จาก ส.ส.500 คน 377 คน เป็นประวัติการณ์ที่ไม่เคยมีใครมี ส.ส.มากขนาดนั้น เพราะว่าเขารวมพรรค ซื้อพรรค
สนธิ - เสร็จเรียบร้อยแล้วทุกพรรคที่เขารวมเข้ามาซื้อ ยกมือให้เขาหมด ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้น เกิดขึ้นด้วยการวางแผนทุกประการ พรรคประชาธิปัตย์ใช่คำพูดหนึ่งถูกต้องมาก เรียกว่า คอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย 2544 จนถึง 2547 นั้น เป็นช่วงของการที่คุณทักษิณออกกฎหมาย ออกกติกาเพื่อให้ธุรกิจในเครือเขาทุกอย่างได้ประโยชน์จากการออกกฎหมายนี้ เช่น ออกกฎหมายเรื่องภาษีสรรพสามิต 5 เปอร์เซ็นต์ ของค่าโทรศัพท์มือถือ 5 เปอร์เซ็นต์แล้วเอาไปหักจากค่าสัมปทาน เท่ากับว่าเขาเสียน้อยลง เพราะฉะนั้นแล้วเรื่องต่างๆ พวกนี้มีคนร้องเรียนไป ไม่มีผล เพราะว่าองค์กรอิสระถูกเลือกโดยวุฒิสภา
สนธิ - คุณทักษิณ ตอนที่ตัวเองถูก ป.ป.ช.เล่นงานเรื่องซุกหุ้น วันนี้มีการพิสูจน์ชัดแล้วว่ามีการซื้อผู้พิพากษาในตุลาการศาลรัฐธรรมนูญยุคแรก ให้คุณทักษิณชนะ 1 เสียง จากวันนั้นเป็นต้นมา คุณทักษิณรู้ว่าถ้าจะเล่นงานแบบนี้ เขาต้องคุมองค์กรอิสระ การซึ่งเขาคุมองค์กรอิสระได้หมด เท่ากับไม่มีใครตรวจสอบเขาได้ ป.ป.ช.ก็เป็นของเขา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ก็เป็นของเขา กกต. 3 หนา 5 ห่วง ก็เป็นของเขา การเลือกตั้งเขาก็คุมหมด พรรคเขาไม่โดนใบแดง ใบเขียว ใบเหลือง ไม่โดน ได้หมด ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีเรื่อง เรายื่นไปให้ตีความตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็ตีความเข้าข้างเขา เข้าไปถึงมือ ป.ป.ช.ก็เอาเรื่องเก็บเข้าลิ้นชัก เพราะ ป.ป.ช.มีตั้ง 7-8 พันเรื่อง รออีก 10 ปีก็ไม่ได้พิจารณา
สนธิ - เพราะฉะนั้นแล้วนี่คือ กระบวนการผูกขาดทางการเมืองของคุณทักษิณ ชินวัตร ซึ่งได้นิสัยตรงนี้มาจาก การผูกขาดทางธุรกิจ คุณทักษิณเลยใช้กระบวนทัศน์ในเรื่องของสัมปทานธุรกิจมาใช้กับการเมือง เป็นสัมปทาน ซึ่งหลายๆ เรื่องในเรื่องนี้มีเรื่องที่ยืนยันได้ คุณเสนาะ เทียนทอง เองยังเคยพูดในทางสาธารณะหลายครั้ง คุณเสนาะ เทียนทอง เล่าให้ฟังถึงคุณพจมาน ชินวัตร พูดว่า การเมืองคือการลงทุน เมื่อลงทุนทางการเมืองแล้วต้องได้ผลตอบแทน มีกำไร เมื่อเรามีผัวเมียคู่หนึ่งมองการเมืองเป็นการลงทุนไปแล้ว อนาคตประเทศไม่มีเหลือแล้ว มันพังพินาศ พังฉิบหายไปหมดแล้ว
สนธิ - แล้วคนที่มีวิสัยทัศน์อย่างคุณทักษิณที่อยู่มา 6 ปี ก่อนจะออกไป คุณทักษิณไม่ได้ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมเลย ไม่ได้ปรับจากการเป็นรับจ้างทำของมาเป็นทำของตัวเอง คุณทักษิณไม่ได้แก้ปัญหาเรื่องจริยธรรม ศีลธรรม คุณทักษิณไม่ได้ทำเรื่องคุณค่าของสังคม ไม่มี ทุกอย่างมุ่งไปที่วัตถุ ใครมีเงินมากคนนั้นได้รับการยอมรับ คุณทักษิณเลยเอาเงินมาเล่นการเมือง ก็เท่ากับการเมืองจากนี้ไปในยุคคุณทักษิณ ใครมีเงินคนนั้นชนะ ถ้าวันหนึ่งมีคนมีเงินมากกว่าคุณทักษิณก็ซื้อประเทศไทยได้มากกว่าคุณทักษิณ แล้วเงินกำลังกลับมาเล่นการเมืองอีกครั้งตอนนี้ ในเมืองไทย เพราะฉะนั้นแล้ว การซึ่งเราลุกขึ้นมาสู้ เราไม่ได้สู้เฉพาะคุณทักษิณอย่างเดียว เราสู้ในเรื่องความสกปรกทุกอย่าง
สนธิ - เราสู้เพื่อชนชั้นกลางทุกคน ถึงเวลาแล้วที่คนเขต 1 ชนชั้นกลาง เขตอำเภอเมืองทุกคนต้องลุกขึ้นมาเพื่อประสานความสามัคคี แล้วยืนหยัดรวมตัวเป็นพลัง แล้วบอกว่า จากนี้ไปการเมืองจะมาเล่นกันแบบนี้อีกไม่ได้ต่อไปแล้ว มันไม่มีชาติบ้านเมืองเหลือให้เล่นอีกต่อไป แล้วการเมืองไม่ใช่เป็นเรื่องของกลุ่มคุณพินิจ จารุสมบัติ กลุ่มคุณสมศักดิ์ เทพสุทิน กลุ่มคุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ กลุ่มคนโน้นกลุ่มคนนี้ มันไม่ใช่ พวกนี้เป็นคนผูกขาดทางการเมือง พอมีการเมืองเมื่อไหร่จะเห็นจาตุรนต์ ฉายแสง จะเห็นคนโน้นคนนี้ หน้าเก่าๆ ทั้งนั้น มาทำประเทศไทยเป็นสมบัติผลัดกันชม ซึ่งมันทำไม่ได้ ปรากฏว่า การยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 กันยายน เริ่มทีดูแล้วเหมือนมีเจตนาดี แต่อีก 18 วันจะครบ 1 ปี
สนธิ - เมื่อมามองเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแล้ว แล้วเหตุการณ์นี้พัฒนาต่อเนื่องไป ก็เริ่มเข้าใจแล้วว่า พวกมึงก็กลับเข้าไปสู่รูปเดิม มึงเตะทักษิณไปแล้วจะเข้ามาเสียบแทน สมบัติผลัดกันชมทั้งนั้น ก็คือยังคงต้องการแบบนี้ต่อเหมือนเดิม แล้วประชาชนอยู่ที่ไหนกัน ดันทะลึ่ง 1-2 วันมีนายพลคนหนึ่งมาทวงบุญคุณอีก มาทวงบุญคุณอีกนะ บอกเวลาเดือดร้อนเรียกทหารให้เข้าทหารก็เข้า แล้วยังจะมาว่าอะไรอีก เขาไม่เข้าใจว่าการที่เขาเข้ามานั้นเขาต้องทำสิ่งไม่ถูกต้องให้ถูกต้อง แต่เขาเข้ามาเพื่อรักษาสถานภาพพวกเขา เมื่อเขารักษาสถานภาพพวกเขาแล้ว เขามองทักษิณซึ่งอยู่ต่างประเทศเป็นตู้เอทีเอ็ม กดเรียกเงินเข้ามาใช้ พวกทักษิณกระซิบบอกเขา ถ้าเขาตั้งพรรคการเมือง เล่นการเมือง ทักษิณหนุนเป็นนายกฯ ต่อ นี่คือการต่อเนื่องการสืบทอดอำนาจอีกแบบหนึ่ง ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่พวกเราต้องการ พวกเราไม่ต้องการอันนี้
สนธิ - พวกเราต้องการการเมืองที่สะอาด การเมืองที่โปร่งใส การเมืองซึ่งเข้าไปสัมผัส สัมผัสจริงๆ นะ สัมผัสปัญหาของชาติบ้านเมือง สัมผัสเรื่องการศึกษา การศึกษาซึ่งมันผิดปกติ ส่งลูกเรียนปริญญาตรี 4 ปี เสียเงินไป 1 ล้าน จบออกมาได้เงินเดือน 8,000 บาท มันผิดปกติตรงไหนต้องไปแก้ตรงนั้น เด็กจบปริญญาตรีที่เมืองไทย เดี๋ยวนี้ภาษาไทยยังพูดไม่ชัดเลย เด็กที่เรียนอินเตอร์เนชั่นแนล สคูล แผนกภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นธรรมศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นจุฬาฯ ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ภาษาอังกฤษก็สุนัขไม่รับประทาน คุณภาพการศึกษาตกหมด ทำไมผมถึงกล้าพูดเช่นนี้ เพราะว่าผมมีหน้าที่รับเด็กพวกนี้มาทำงานกับผม ผมรู้ว่าคุณภาพการศึกษาบ้านเราตก
สนธิ - ศีลธรรมมันหายไปหมดแล้ว จริยธรรมก็ไม่มี ทุกคนวันนี้ เด็กวันนี้ขายตัวเพื่ออะไรรู้ไหม เด็กมหาวิทยาลัยขายตัวเพื่อเอาเงินมาซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ มันไม่ได้แล้วประเทศนี้ นี่ไม่ใช่ประเทศไทยที่เราต้องการ ไม่ใช่ มันผิดปกติตรงไหน ทุกวันนี้แข่งกันว่าใครจะมีเงินมากกว่ากัน ทุกวันนี้แข่งกันตรงที่ว่า ลูกใครจบมาแล้วทำงานได้ตำแหน่งดีกว่า ผมเคยจัดรายการวิทยุชื่อ คุยกับสนธิทุกเรื่องยกเว้นการเมือง ผ่านทางแมเนเจอร์ เรดิโอ ถ้าหลายท่านเคยฟังทางเว็บไซต์ เคยมีคนโทรศัพท์มาถามผม คุณสนธิคะ ลูกดิฉันจบไปตอนนี้กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย เรียนอะไรดีคะถึงจะได้เงินเยอะๆ มันเป็น Value ที่ผิดหมดแล้วตอนนี้ ไม่มีแม้กระทั่งโทรศัพท์เข้ามาเพียงสายเดียวถามว่า คุณสนธิคะทำยังไงถึงจะให้ลูกฉันเป็นคนดีได้ เราลืมเรื่องคุณงามความดีหมดแล้ว
สนธิ - เราไปท่องจำเรื่องว่าใครมีเงินมากกว่ากัน ใครมีวัตถุมากกว่ากัน สื่อมวลชนทุกคน ชีวิตดำเนินไปตามปกติเหมือนเดิม เหมือนสมัยก่อนทักษิณ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไอ้ที่เน่าก็เน่าเหมือนเดิม ไอ้ที่เหม็นก็เหม็นเหมือนเดิม การให้องค์ความรู้ไม่มี รากหญ้าก็ยังถูกซื้อได้เหมือนเดิม คนยังโง่เหมือนเดิม แล้วพี่น้องว่าผมท้อไหมล่ะ ผมไม่ท้อ ผมท้อไม่ได้ เพราะอายุผมมากแล้ว ผม 60 แล้ว ถ้าผมท้อแล้วลูกหลานเราจะอยู่อย่างไร แล้วทำไมผมต้องมาพูดให้พ่อแม่พี่น้องฟัง เพราะผมต้องการไม่ใช่แค่กำลังใจ ผมต้องการพลังพ่อแม่พี่น้องในวันข้างหน้า ถ้าเราจำเป็นที่จะต้องเสริมสร้างพลังซึ่งกันและกัน ไม่ใช่แค่ซานฟรานซิสโก ไม่ใช่แค่ลอสแองเจลิส ไม่ใช่แค่ลาสเวกัส ไม่ใช่แค่วอชิงตัน ดี.ซี. ไม่ใช่แค่นิวยอร์ก รวมไปจนถึงขอนแก่น อุดร เชียงใหม่ พิษณุโลก ทั่วประเทศไทย
สนธิ - ผมกลับไปถึงกรุงเทพฯ นี่ผมต้องบินไปแฟรงก์เฟิร์ต ไปสัมมนากับดอยช์เวล่า เป็นสถานีโทรทัศน์ของเยอรมนี ผมบินกลับไปกรุงเทพฯ เช้าวันที่ 9 พ่อแม่พี่น้อง วันเสาร์ที่ 15 ผมต้องเดินทางไปพูดที่ภูเก็ต อาทิตย์พูดที่ตรัง อีกอาทิตย์หนึ่งผมไปพูดที่อุดร ทุกอาทิตย์ผมต้องไปต่างจังหวัด อาทิตย์ละ 2 จังหวัด ผมต้องเดินสายไปพูดให้ความรู้คน พูดจนกว่าจะตาย เพราะฉะนั้นแล้วพี่น้องจะเห็นว่า การที่ทหารเข้ามาเรื่องไม่ได้จบ กลับยุ่งเหยิงกว่าเดิม เพราะท่าทีทหารไม่เคยชัดเจน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ไม่เคยแสดงท่าทีที่ชัดเจน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ก็ไม่เคยแสดงท่าทีที่ชัดเจน ไม่มีใครแสดงท่าทีที่ชัดเจน มีแต่พวกเราเท่านั้นเองที่แสดงท่าทีชัดเจน วันดีคืนดี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ที่เขาเรียกว่าสนธิบัง วันดีคืนดีก็มาบอกว่า คุณสนธิเหรอ พวกพันธมิตรฯ เหรอ ก็ได้ข่าวว่าอินุงตุงนังกันไม่ใช่เหรอ
สนธิ - พวกเราไม่เคยอินุงตุนัง พวกเรายืนอยู่ตรงนั้น เราอยู่ตรงนั้น เวลาฝนตกไม่มีใครมองเห็น พอฝนหยุดแดดออก เราก็ยังยืนอยู่ที่เก่า ใช่ ไม่ใช่ เรายืนอยู่บนความถูกต้อง ยืนอยู่บนความดีงาม ยืนอยู่บนประเด็นที่เราต้องการให้ชาติบ้านเมืองดีขึ้น เราไม่ต้องการยืนอยู่ในประเด็นที่มันกลับไปเน่าเหมือนเดิมอย่างนี้ เราไม่ต้องการ เราต้องการให้ปัญหาหลักๆ ของชาติบ้านเมืองนั้นถูกนำไปแก้ไขจัดการ โดยไม่ต้องไปหวั่นเกรงอำนาจอิทธิพลใดๆ ทั้งสิ้น เราต้องการสิทธิของคนทั้งหมด ได้รับการเคารพนับถือ เราต้องการได้การดูแล เหมือนคนไทยในสหรัฐอเมริกา ผมเรียนให้ทราบ หลายครั้งแล้วว่าการต่อสู้ของเรานั้น 30 เปอร์เซ็นต์ที่สำเร็จนั้น สำเร็จเพราะคนไทยในต่างแดน อเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย และใน 30 เปอร์เซ็นต์นั้น 90 เปอร์เซ็นต์ มาจากอเมริกา เพราะพวกพ่อแม่พี่น้องที่อยู่ที่นี่ มีส่วนสำคัญที่สุดที่ทำให้การต่อสู้ครั้งที่ผ่านมานั้นสำเร็จ
สนธิ - ผมเคยพูด คนเขาถามผม คุณสนธิไม่คิดตั้งพรรคการเมืองหรือ ผมบอกว่า ผมส่วนตัวไม่ตั้ง แต่ผมจะช่วยจัดตั้งให้ จะเรียกเป็นพรรคเทียนแห่งธรรม หรือพรรคยามเฝ้าแผ่นดิน ได้ทั้งนั้น ฟังให้ดีๆ เราถูกบีบให้เข้ามาสู้ในระบบ ใช่มั้ย เมื่อเราถูกบีบให้เข้ามาสู้ในระบบ เราจะมาพูดกันตลอดเวลาอย่างนี้ตลอดเวลาได้อย่างไร ผมมาพูดให้พ่อแม่พี่น้องปีละ 1-2 ครั้ง แล้วผมก็มาบ่นให้ฟังตลอดเวลา พี่น้องก็บอกว่าคุณสนธิ คุณมาตั้งแต่ปี 2549 และทุกปีคุณมาปีละ 2 ครั้ง ก็พูดเหมือนเดิม ฉันก็มาฟังเหมือนเดิม หนังสือคุณฉันซื้อไม่รู้กี่เล่มแล้ว มาทั้งทีก็ไม่รู้จักเอาอะไรใหม่ๆ มาขายบ้าง น่าเบื่อหน่าย มันไม่ได้หรอกพี่น้อง ผมบอกทุกคนว่า การเมืองปี 2551 จะเป็นการเมืองที่วุ่นวายที่สุด จะเป็นการเมืองของการใช้เงินใช้ทอง จะเป็นการเมืองที่ ignore คนอย่างพวกเรา รวมทั้งเขตอำเภอเมือง เป็นการเมืองซึ่งพวกเราที่อยู่สหรัฐฯ แบบนี้ และในประเทศไทย ไม่มีทางเลือก มันไม่มี choice ให้เลือกเลย จะเลือกพรรคชาติไทยเหรอ
สนธิ - อาทิตย์ที่แล้วคุณบรรหารแอบส่งคุณสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ออกมาโยนหินถามทาง บอกว่าพรรคชาติไทยนั้นพร้อมจะรวมได้กับทุกพรรค พอโดนคนด่าเช็ดเข้าก็ให้ลูกสาวออกมาบอกว่า คุณสมศักดิ์นั้นพูดส่วนตัว และยังแถมว่าส่วนความเห็นของดิฉันก็ส่วนตัวเหมือนกันนะคะ ก็แสดงว่าตัวพ่อคิดอยู่แล้ว ร่วมกับใครเป็นรัฐบาลก็เอาทั้งหมด นั่นเป็นวิธีการที่เราไม่ต้องการใช่มั้ย มันกลายเป็นการเมืองที่ผลประโยชน์เข้ามาร่วม กลุ่มธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ก็เอาเงินเอาทองใส่ให้ นายพลบางคนรับไปจนกระทั่งหลังแอ่นเลย อย่าให้ผมพูดในที่นี้เลย หลังแอ่นเลยนะ บางคนก็ตีนโตจนคับตีน ถ้าตีนมันโตได้ เงินมันต้องกองเบ้อเริ่มใช่มั้ย ตีนถึงโต นี่เรื่องจริง บางคนรับเงินเพื่อแลกกับการที่จะให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ หลุดจากคดีซีทีเอ็กซ์ นี่ในที่สุดแล้วมันกลับมาเน่าเหมือนเดิม มันกลับมารับผลประโยชน์กันเหมือนเดิม ทุกอย่าง
สนธิ - ผมถึงบอกว่า ส่วนทักษิณเองก็จ่ายไปหัวละ 30 ล้าน เพื่อให้ ส.ส.ตัวเองมาอยู่กับตัว ตอนนี้ข่าวว่าขึ้นเป็น 50 แล้ว นี่บ้ากันหรือเปล่า เห็นเมืองไทยซื้อกันด้วยเงินด้วยทอง กลับไปสู่ความเน่าเฟะ สิ่งแวดล้อมต่างๆ มันก็จะก่อให้เกิดทักษิณอีกคนหนึ่งขึ้นมาใช่มั้ย มันไม่ได้ต่างอะไรกันเลยแม้แต่นิดเดียว ด้วยเหตุนี้ผมถึงบอกว่า ถ้าปีหน้ามันวุ่นวาย ประชาชนไม่มีทางเลือก พวกเราชนชั้นกลางด้วยกัน อาจจะต้องรวมพลังกัน แล้วตั้งกลุ่มการเมืองหรือพรรคการเมือง ผมไม่ต้องการรับตำแหน่งอะไร แต่ผมจะเป็นคนช่วยประสานงานให้ จัดให้มันเกิดขึ้น จะเรียกว่าพรรคเทียนแห่งธรรมก็ได้ เพลงที่พวกเราเคยฟังกัน พรรคเทียนแห่งธรรม ใครเป็นสมาชิก ชนชั้นกลางที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง 10.5 ล้านโนโหวต ที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณเมษายน 2549 พวกนั้นล่ะคือสมาชิกทั้งนั้น 75 จังหวัด ยกเว้นกรุงเทพฯ เขต 1 พวกเราทั้งนั้น
สนธิ - ถ้าเราเป็น alternative ให้กับการเมืองน้ำเน่า 75 จังหวัด 75 เขต เขตหนึ่ง 3 คน เอา maximum ได้หมด 225 คน ยังไม่รวมกรุงเทพฯ อีก 30 กว่าคน เราได้ majority แล้วนะ คราวนี้กำหนดสิ ใครเป็นรัฐมนตรี เอาคุณหญิงจารุวรรณ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นี่ผมยกตัวอย่างให้ฟัง เอาคุณเสรีพิศุทธ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นี่ยกตัวอย่างให้ฟัง ผมไม่มีวันรับตำแหน่งทางการเมือง แต่ผมจะยุยงส่งเสริมให้พวกเราลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิของพวกเรา อย่างน้อยที่สุด ถ้าเราจะพัง เราก็พังด้วยตัวเอง อย่าเอาจมูกของเราไปให้คนอื่นหายใจ อย่าไปให้กลุ่มโคราช กลุ่มหนองคาย กลุ่มคลองเตย แล้วพวกเรานี่ไม่ต้องซื้อเสียงกันเลยแม้แต่บาทเดียว ถูกมั้ย นี่คือพลังเงียบที่ขอให้ออกมาลงคะแนนเสียง นอกจากไม่ซื้อเสียงแล้วยังขอร้องให้พลังเงียบเราใช้คนละ 300 บาท ซื้อมาอีกคนละเสียง นอกจากไม่ต้องให้เงินแล้วยังต้องขอร้องพวกเราควักคนละ 300 บาท พวกหมอที่อยู่ขอนแก่น คุณหมอควัก 300 บาท รากหญ้าหมอซื้อให้หน่อย
สนธิ - พี่น้องมีอยู่อันหนึ่งที่ผมต้องอธิบายให้ฟัง ทำไมผมต้องสู้ให้พวกโชห่วย ผมสู้ให้พวกโชห่วยนั้น ซิมโบ้ของโชห่วยไม่ใช่เรื่องโชห่วย สัญลักษณ์ของโชห่วยคือ สิทธิการทำมาหากินของคนตัวเล็กๆ ที่เขามีสิทธิ์ที่ทำมาหากินได้โดยไม่ถูกทุนใหญ่รังแก ที่นั่งในที่นี้คือวิญญาณโชห่วยหมด ใครเป็นเจ้าของร้านอาหารเล็กๆ นั่นคือโชห่วย เราจะรู้สึกอย่างไร คนที่ทำร้านอาหารไทยเล็กๆ แล้วจู่ๆ มีเศรษฐีบ้าคนหนึ่งมาเปิดพลาซ่า แล้วเปิดร้านอาหารไทยจุได้ 500 ที่นั่ง เป็นบุฟเฟ่ต์ขายหมดทุกอย่าง ตั้งแต่ก๋วยเตี๋ยว ผัดไท ไปหมดเลย ฉิบหายกันหมดซิพวกร้านเล็กๆ นี่คือสิทธิการทำมาหากิน ในเมืองนอกนั้นเขาจะไม่ให้ทุนใหญ่มารักแกทุนเล็ก แต่เมืองไทยปล่อยให้ทุนใหญ่ แล้วเป็นทุนต่างชาติ มารังแกทุนเล็ก ร้านซูเปอร์สโตร เช่น แมคโคร โลตัส เปิดที่ชุมชนไหนก็ตาม
สนธิ - สิ่งที่จะเกิดขึ้น 1. เขาขายของต่ำกว่าราคาทุน ที่เมืองนอกไม่ได้เขาฟ้องตาย แต่เมืองไทยไม่มีใครว่า เมื่อขายของต่ำกว่าราคาทุนร้านโชห่วยเจ๊งหมด 2. หนึ่งร้านที่เปิดนั้นทำให้คนหมดอาชีพไป แม่ค้าที่เปิดแผงผลไม้ขายที่หัวมุม เปิดมา 30 ปี ส่งลูกเรียนจบมหาวิทยาลัย 5 คน พอโชห่วยเปิดปั๊บ มีผลไม้ขายในซุเปอร์สโตร แกต้องปิดแกต้องเจ๊ง ลูกของพ่อแม่พี่น้องที่เรียนจบคอมพิวเตอร์ไซด์ เปิดตึกแถวเพื่อขายและรับซ่อมคอมพิวเตอร์ มันต้องปิดตามเพราะอะไร เพราะมันเหมาคอมพิวเตอร์มาขายในซุปเปอร์สโตรมันในราคาถูก อย่าเอาเมืองไทยไปเทียบกับเมืองนอก ไม่เหมือนกัน เมืองไทยยังมีคนเล็กๆ ที่ทำมาหากินพวกนี้ เราต้องให้สิทธิเขา มันเป็นสิทธิอันชอบธรรมของคนมีทุนน้อย เราจะไปรังแกเขาให้ตายเชียวหรือ
สนธิ - ถ้าอย่างนั้นในที่สุดแล้วประเทศไทยก็มีแต่บริษัทใหญ่ 20 บริษัท แล้วคุมหมดทั่วประเทศไทย ทุกคนเป็นลูกจ้างหมด อีกหน่อยลูกเราเรียนจบไม่ต้องคิดอะไรแล้ว เป็นลูกจ้างเขา มันได้อย่างไรล่ะ นี่คือที่มาของส่งลูกเรียน 1 ล้านแล้วได้เงินเดือน 8,000 บาท ผมนึกว่าที่เมืองไทยเป็นเจ้าเดียว อ๋อเมืองไทยเรียนแบบเมืองนอก เมื่อคืนดูทีวี เดี๋ยวนี้ไฟแนนซ์รถที่อเมริกา 72 เดือนแล้วใช่ไหม 6 ปี พี่น้องหลายคนที่อายุมาก ใกล้ๆ ผมจำได้ไหม สมัยเราหนุ่มๆ สาวๆ ที่เมืองไทยผ่อนรถ maximum 36 เดือน ผ่อนบ้าน maximum 15 ปี เดี๋ยวนี้เรามอง 72 เดือน ดีจะได้ผ่อนน้อยๆ ผ่อนบ้าน 30 ปี ดีจะได้ผ่อนน้อยๆ แต่ถ้าเรามองในมุมกลับ นี่เราจะต้องตะบันน้ำกินไปด้วยแล้วผ่อนรถไปด้วยนะ แล้ว any sensible man ก็ต้องรู้ ต้องรู้ ว่ารถยนต์เวรตะไลใช้ยังไงได้ 6 ปี ใช้จริงๆ ปีที่ 3 ปีที่ 4 ก็ต้องเปลี่ยนแล้ว นี่แสดงว่าทุกอย่างถูก stress shock มาเพื่ออะไร เพื่อให้พวกเราเป็นหนี้มากขึ้น นี่คือที่มาของ Logical Economy
สนธิ - เมื่อกี้นี้ผมคุยกับหลานชายคนหนึ่ง เรียนกฎหมายอยู่ที่ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ ซานฟราน ผมบอกว่าให้คอยดู อเมริกากำลังเข้าสู่ยุค Major adjust man ภายในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปีนี้ จะมีแมเจอร์ จัสแมน เกิดขึ้นในอเมริกา เพราะอเมริกาจะเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้ ที่ใช้เงินมากกว่าที่ตัวเองมี ไม่มีทาง ทุกวันนี้อเมริกาไฟแนนซ์ตัวเองด้วยเงินต่างชาติที่มาซื้อเป็นพันธบัตร เมื่อซื้อแล้วก็เอาเงินก้อนนี้มาปล่อยให้ตัวเองใช้ สงครามอิรักวันละ 1 billion dollar non productive activity , you can go along with it. ไม่มีทาง นั่นคือเหตุผลทำไมเงินดอลลาร์อ่อน เพราะฉะนั้นแล้วซับไพรม์เป็นแค่ฟ้าแลบให้ดู ถ้ายังไม่รีบเปลี่ยนมันจะต้องเกิดฟ้าผ่าขึ้นมาอย่างแน่นอนที่สุด เพราะฉะนั้นแล้ว เมืองไทยเรียนแบบทางนี้เต็มตัว เมืองไทยประชากร 60 ล้านคน มีคนที่เข้าใจเหตุการณ์นี้ไม่มาก
สนธิ - อย่าตกใจ คนเมืองไทยมีเกรดไม่น้อยกว่าคนที่นี่ ลูกน้องผมคนนึงเงินเดือน 15,000 บาท เครดิตการ์ด 4 ใบ เหมือนกันหมดเลย แล้วมันเป็นแบบนี้ทั่วโลก นี่คือเหตุผลว่า ทำไมพระเจ้าอยู่หัวถึงพูดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง แล้วเศรษฐกิจไม่มีวันพอเพียงถ้ามันยังเป็นเหมือนเดิม การศึกษาคุณภาพต่ำ จริยธรรม ศีลธรรมคนถึงพื้นดินแล้วตอนนี้ ความซื่อสัตย์ไม่มีเหลือ แปลก ในขณะซึ่งในประเทศทางตะวันตกเริ่มหวนกลับไปหาคุณค่าเดิมๆ แต่ประเทศไทยที่ผมสู้ให้อยู่ตอนนี้ กำลังลุ่มหลง หลงใหลกับสิ่งซึ่งทางตะวันตกเห็นว่ามันใช้ไม่ได้ เดี๋ยวนี้ผู้หญิงไทย เด็กเสียตัวกันเป็นว่าเล่นเพื่อเงิน เดี๋ยวนี้เขาทำรีเสิร์ชออกมาแล้ว เด็กไทยเริ่มเสียตัวตั้งแต่ ม.4 ม.5 แล้ว ในขณะนี้อเมริกาพี่น้องคงได้ข่าวว่า Value ของพรหมจรรย์เริ่มกลับมาแล้ว เริ่มมีการปกป้องแล้วไม่ยอมให้มีการเสียตัว กลายเป็น Value เก่าๆ แต่เมืองไทยกลับฉิบหายไปแล้ว
สนธิ - พี่น้องต้องเห็นว่าผมกำลังสู้กับอะไรอยู่ สู้กับสิ่งที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ แล้วที่เจ็บใจที่สุดเรื่องอะไรรู้ไหม ให้ทาย เมืองไทยแก้ได้ เส้นผมบังภูเขา แก้อย่างไร เอาเวลาโทรทัศน์ช่อง 7 มาให้ผมสัก 1 ชั่วโมง 20.30 - 21.30 น. ให้ปีเดียว ผมจะจัดทีมคนเข้าไปอธิบายความให้ ปีเดียวเท่านั้นเองจะเปลี่ยนความคิดคนใหม่ จะเปลี่ยนรากหญ้าใหม่ จะเปลี่ยนคนซึ่งไม่เคยมีความคิด ไม่เข้าใจ เข้าใจหลายๆ อย่าง ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกอย่าง มันเกิดขึ้นจากความไม่เข้าใจ เขาไม่โง่นะ ข้อมูลข่าวสารไม่ถึง พี่น้องคิด วันละ 1 ชั่วโมงของช่อง 7 20.30 - 21.30 น. แค่ 1 ปี อย่างน้อยแก้ปัญหาประเทศไทยไปได้ 50 เปอร์เซ็นต์ คุ้มไม่คุ้ม แล้วทำกันไหม ไม่ทำ
สโรชา - คงจะหายคิดถึงกันไปบ้าง สำหรับวันศุกร์หน้าคงจะมาสดแน่นอน สำหรับยามใหญ่อย่าง สนธิ ลิ้มทองกุล ในวันจันทร์หน้าเช่นเดียวกัน คุณแอน-จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ จะกลับมาดำเนินรายการกับคุณคำนูณ และ อ.ปานเทพ เช่นเคย สำหรับแอ้มจะไปพบคุณผู้ชมอีกครั้งในวันพุธหน้า สำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ
คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป
รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่ 1
( 56 k ) | ( 256 K )
คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป
รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่ 2
( 56 k ) | ( 256 K )