21 พ.ค. 2550
เรียน คุณสนธิ ที่นับถือ
ผมเห็นว่า พลเอกสุรยุทธ์ เกียร์ว่างและไม่รับผิดชอบอะไรเลย ไม่กังวลอะไรในชีวิต และเหตุการณ์ทางการเมือง ถ้าแก้ไขไม่ได้หรือถ้าวุ่นวายขึ้นมา ท่านจะลาออก
มีอะไรเกิดขึ้นให้ กอ.รมน. รับผิดชอบ ให้ คมช. รับผิดชอบ ส่วนท่านรอรับเงินเดือนภาษีของประชาชนไปเรื่อยๆ ถ้าเผอิญเกิดมีม็อบชนกันคือสมุนทักษิณ และฝ่ายประชาชนที่ไม่เห็นด้วย หรือคนของฝ่ายพันธมิตรฯ ที่ทนไม่ได้ ก็จะต้องปะทะกัน อาจถึงนองเลือด แต่พลเอกสุรยุทธ์ต้องการให้ถึงเวลานั้น ถ้าเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง และนายกฯ แก้ไม่ได้ก็จะลาออก ทำไมล่ะ แล้วคุณลาออกก่อนไม่ได้หรือ? ก่อนที่ประชาชนจะบาดเจ็บล้มตาย ดูว่าเขาเป็นคนซื่อๆ วางท่าเป็นสุภาพบุรุษอย่างนี้ แต่ในใจอาจจะคิดอะไรที่ซาดิสต์ก็เป็นได้ ทำไมต้องให้เกิดเหตุร้ายก่อน จะให้เรียกว่าอะไรดี!!!
เมื่อไม่ลาออกตามเสียงของประชาชน ท่านก็ต้องรับผิดชอบ ถ้าประชาชนประหัตประหารกัน ไม่พ้นความรับผิดชอบแน่ๆ
ที่เขาทำการปฏิญาณตน ผมเข้าใจว่าทำเพื่อรัฐบาลรักษาการนี้ว่าจะซื่อสัตย์ และไม่คอร์รัปชัน และปราบคอร์รัปชันในรัฐบาลของท่านซึ่งไม่เกี่ยวกับรัฐบาลเก่าที่ทำผิดกฎหมาย ไม่เช็กบิล ไม่ล้มไม่ล้าง แต่สงสัยแคลงใจว่า นายกฯ สุรยุทธ์กลับไปทอดสะพานให้ทักษิณกลับมาหรือเปล่า? ท่านก็ไม่ต่างอะไรกับการบริหารของรัฐบาลเก่า ซึ่งผมไม่เชื่อและคนเป็นล้านๆ ไม่เชื่อ แต่ท่านทำไปแล้ว และท่านทำได้อย่างเลือดเย็น ผมกำลังคอยดูว่าละครเรื่องนี้มันจะ Happy Ending ได้อย่างไร ขณะนี้สมาชิกพรรคไทยรักไทยกำลังระรี้ระริกเพราะมีทางเลือกมากขึ้น เมื่อพี่จิ๋วเตรียมตั้งพรรค มันเป็นเชื้อโรคชนิดไหนกันแน่ ต้องเป็นชนิดที่กลายร่างได้ตลอดเวลา
มีอย่างที่ไหน ประเทศทั้งประเทศ ประชาชนรวมกันก็ 63 ล้านคน จะหาคนมีปัญญาสามารถที่จะจัดการกับนายกฯ ทักษิณเพียงคนเดียวไม่ได้เลย ประเทศทั้งประเทศมีปัญหาวุ่นวายซึ่งไม่น่าเชื่อจากคนคนเดียว ต้องใช้เวลาจัดการเช็กบิลถึง 7 เดือนแต่ยังไม่สำเร็จ ทำอะไรไม่ได้ แถมมีเวลาพอที่จะกลับมาเล่นงานคณะปฏิรูป-ปฏิวัติได้อีก และดูเหมือนจะกลับเป็นเบี้ยล่างให้กับรัฐบาลเก่าเสียแล้ว
พลเอกสุรยุทธ์เป็นทหารเป็นแม่ทัพ น่าจะรู้วิธีการรบกับข้าศึก ซึ่งใครๆ ก็รู้ ชาวบ้านก็รู้ คนจนๆ ที่ไม่เสียสติจนลากดินก็รู้วิธีนี้ คือการรบตั้งแต่สมัยโบราณนานนมมาแล้ว ถ้าเราจับหัวหน้าได้ และกำจัดเสียได้ กองทัพก็จะระส่ำระสายและยอมถอยทัพ และยอมแพ้ในที่สุด แต่ท่านไม่ทำ ท่านทำอยู่อย่างเดียวคือ “ทำเฉย” ถ้าเป็นทหารสมัยก่อน พลเอกสุรยุทธ์จะถูกจับประหารในฐานะเป็นไส้ศึก ชักน้ำเข้าเรือ ชักเสือเข้าบ้าน ท่านแก้ปัญหาด้วยคำพูดเพื่อถ่วงเวลาไม่ให้ความร่วมมือกับผู้ปฏิบัติงาน และจะไม่รับผิดชอบทุกชนิด คือสั่งให้เขาทำ และต้องรับผิดชอบด้วยในชีวิตของท่านสามารถกะล่อนมาได้ถึงอายุวัยนี้เชียวหรือ?
อย่างวันที่ 30 พ.ค. ท่านก็รู้ และเตรียมศึกษากลยุทธ์รับมือม็อบพรรคไทยรักไทย โดยท่านจะเดินทางไปเยือนจีน...เก่งจริงๆ เป็นนายทหารเขาสอนว่า “ต้องรู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง” ผมว่าเขาต้องมีเสนาธิการอยู่ในบ้าน หรืออยู่ใกล้ๆ ที่ท่านให้ความเกรงใจ เชื่อถือและปฏิเสธไม่ได้ เท่านี้บ้านเมืองก็จบแล้ว ถ้าไม่มีกลุ่มพันธมิตรฯ ผลักดันอยู่ มันจะเหลืออะไร ประชาชนที่มีความคิด “ธุระไม่ใช่” มันจึงเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อประเทศชาติ ระดับนายทหารยังทำลายประเทศได้อย่างนี้ การเข้าเกียร์ว่างของท่าน มันดีอย่างไร? ช่วยชาติได้อย่างไร? จัดการกับรัฐบาลเก่าอย่างไร? ท่านคงถือหลักธรรมะที่ว่า “ไม่มีตัว ไม่มีตน” ตนไม่ใช่ตน ฉะนั้นท่านก็ไม่มีตัวตน ภาษาอังกฤษเขาว่า Noman สรุปว่า พลเอกสุรยุทธ์เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็เท่ากับ “Noman Comes to be the Prime-Minister” จึงเท่ากับมีค่าเป็นศูนย์ =0 แล้วจะให้อยู่ในตำแหน่งได้อย่างไร ไม่มีใครที่จะทำให้เขาออกไปได้แล้วหรือ? นี่คือปัญหาที่ชาวประชาของประเทศที่กำลังพัฒนาจะต้องคิด เกินความสามารถของความคิด ของมหาชนจะรับได้
จม.นี้จะเสนอไปทางฝ่ายรัฐบาลก็คงไร้ผล จึงขอระบายความรู้สึก ความคิดเห็นมายังคุณสนธิ ขอขอบคุณ
ขอแสดงความนับถือ
จ. บุญรุ่ง
***********
คอลัมน์-“เสียงประชาชน”นี้จะเป็นช่องทางให้ประชาชนที่ต้องการแจ้งข่าวคราว เบาะแส ระบายความในใจต่อความเป็นไปในบ้านเมือง เพื่อส่งผ่านไปยังผู้มีอำนาจในบ้านเมือง ผู้เกี่ยวข้อง และประชาชนในแผ่นดินได้รับรู้ร่วมกัน โดยส่งถึงสนธิ ลิ้มทองกุล ผ่านทาง peoplevoice@manager.co.th หรือส่งจดหมายมาที่ 102/1 บ้านพระอาทิตย์ ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กทม.10200 วงเล็บมุมซองว่า “เสียงประชาชน” หรือ โทรสาร 02-281-1708
เรียน คุณสนธิ ที่นับถือ
ผมเห็นว่า พลเอกสุรยุทธ์ เกียร์ว่างและไม่รับผิดชอบอะไรเลย ไม่กังวลอะไรในชีวิต และเหตุการณ์ทางการเมือง ถ้าแก้ไขไม่ได้หรือถ้าวุ่นวายขึ้นมา ท่านจะลาออก
มีอะไรเกิดขึ้นให้ กอ.รมน. รับผิดชอบ ให้ คมช. รับผิดชอบ ส่วนท่านรอรับเงินเดือนภาษีของประชาชนไปเรื่อยๆ ถ้าเผอิญเกิดมีม็อบชนกันคือสมุนทักษิณ และฝ่ายประชาชนที่ไม่เห็นด้วย หรือคนของฝ่ายพันธมิตรฯ ที่ทนไม่ได้ ก็จะต้องปะทะกัน อาจถึงนองเลือด แต่พลเอกสุรยุทธ์ต้องการให้ถึงเวลานั้น ถ้าเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง และนายกฯ แก้ไม่ได้ก็จะลาออก ทำไมล่ะ แล้วคุณลาออกก่อนไม่ได้หรือ? ก่อนที่ประชาชนจะบาดเจ็บล้มตาย ดูว่าเขาเป็นคนซื่อๆ วางท่าเป็นสุภาพบุรุษอย่างนี้ แต่ในใจอาจจะคิดอะไรที่ซาดิสต์ก็เป็นได้ ทำไมต้องให้เกิดเหตุร้ายก่อน จะให้เรียกว่าอะไรดี!!!
เมื่อไม่ลาออกตามเสียงของประชาชน ท่านก็ต้องรับผิดชอบ ถ้าประชาชนประหัตประหารกัน ไม่พ้นความรับผิดชอบแน่ๆ
ที่เขาทำการปฏิญาณตน ผมเข้าใจว่าทำเพื่อรัฐบาลรักษาการนี้ว่าจะซื่อสัตย์ และไม่คอร์รัปชัน และปราบคอร์รัปชันในรัฐบาลของท่านซึ่งไม่เกี่ยวกับรัฐบาลเก่าที่ทำผิดกฎหมาย ไม่เช็กบิล ไม่ล้มไม่ล้าง แต่สงสัยแคลงใจว่า นายกฯ สุรยุทธ์กลับไปทอดสะพานให้ทักษิณกลับมาหรือเปล่า? ท่านก็ไม่ต่างอะไรกับการบริหารของรัฐบาลเก่า ซึ่งผมไม่เชื่อและคนเป็นล้านๆ ไม่เชื่อ แต่ท่านทำไปแล้ว และท่านทำได้อย่างเลือดเย็น ผมกำลังคอยดูว่าละครเรื่องนี้มันจะ Happy Ending ได้อย่างไร ขณะนี้สมาชิกพรรคไทยรักไทยกำลังระรี้ระริกเพราะมีทางเลือกมากขึ้น เมื่อพี่จิ๋วเตรียมตั้งพรรค มันเป็นเชื้อโรคชนิดไหนกันแน่ ต้องเป็นชนิดที่กลายร่างได้ตลอดเวลา
มีอย่างที่ไหน ประเทศทั้งประเทศ ประชาชนรวมกันก็ 63 ล้านคน จะหาคนมีปัญญาสามารถที่จะจัดการกับนายกฯ ทักษิณเพียงคนเดียวไม่ได้เลย ประเทศทั้งประเทศมีปัญหาวุ่นวายซึ่งไม่น่าเชื่อจากคนคนเดียว ต้องใช้เวลาจัดการเช็กบิลถึง 7 เดือนแต่ยังไม่สำเร็จ ทำอะไรไม่ได้ แถมมีเวลาพอที่จะกลับมาเล่นงานคณะปฏิรูป-ปฏิวัติได้อีก และดูเหมือนจะกลับเป็นเบี้ยล่างให้กับรัฐบาลเก่าเสียแล้ว
พลเอกสุรยุทธ์เป็นทหารเป็นแม่ทัพ น่าจะรู้วิธีการรบกับข้าศึก ซึ่งใครๆ ก็รู้ ชาวบ้านก็รู้ คนจนๆ ที่ไม่เสียสติจนลากดินก็รู้วิธีนี้ คือการรบตั้งแต่สมัยโบราณนานนมมาแล้ว ถ้าเราจับหัวหน้าได้ และกำจัดเสียได้ กองทัพก็จะระส่ำระสายและยอมถอยทัพ และยอมแพ้ในที่สุด แต่ท่านไม่ทำ ท่านทำอยู่อย่างเดียวคือ “ทำเฉย” ถ้าเป็นทหารสมัยก่อน พลเอกสุรยุทธ์จะถูกจับประหารในฐานะเป็นไส้ศึก ชักน้ำเข้าเรือ ชักเสือเข้าบ้าน ท่านแก้ปัญหาด้วยคำพูดเพื่อถ่วงเวลาไม่ให้ความร่วมมือกับผู้ปฏิบัติงาน และจะไม่รับผิดชอบทุกชนิด คือสั่งให้เขาทำ และต้องรับผิดชอบด้วยในชีวิตของท่านสามารถกะล่อนมาได้ถึงอายุวัยนี้เชียวหรือ?
อย่างวันที่ 30 พ.ค. ท่านก็รู้ และเตรียมศึกษากลยุทธ์รับมือม็อบพรรคไทยรักไทย โดยท่านจะเดินทางไปเยือนจีน...เก่งจริงๆ เป็นนายทหารเขาสอนว่า “ต้องรู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง” ผมว่าเขาต้องมีเสนาธิการอยู่ในบ้าน หรืออยู่ใกล้ๆ ที่ท่านให้ความเกรงใจ เชื่อถือและปฏิเสธไม่ได้ เท่านี้บ้านเมืองก็จบแล้ว ถ้าไม่มีกลุ่มพันธมิตรฯ ผลักดันอยู่ มันจะเหลืออะไร ประชาชนที่มีความคิด “ธุระไม่ใช่” มันจึงเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อประเทศชาติ ระดับนายทหารยังทำลายประเทศได้อย่างนี้ การเข้าเกียร์ว่างของท่าน มันดีอย่างไร? ช่วยชาติได้อย่างไร? จัดการกับรัฐบาลเก่าอย่างไร? ท่านคงถือหลักธรรมะที่ว่า “ไม่มีตัว ไม่มีตน” ตนไม่ใช่ตน ฉะนั้นท่านก็ไม่มีตัวตน ภาษาอังกฤษเขาว่า Noman สรุปว่า พลเอกสุรยุทธ์เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็เท่ากับ “Noman Comes to be the Prime-Minister” จึงเท่ากับมีค่าเป็นศูนย์ =0 แล้วจะให้อยู่ในตำแหน่งได้อย่างไร ไม่มีใครที่จะทำให้เขาออกไปได้แล้วหรือ? นี่คือปัญหาที่ชาวประชาของประเทศที่กำลังพัฒนาจะต้องคิด เกินความสามารถของความคิด ของมหาชนจะรับได้
จม.นี้จะเสนอไปทางฝ่ายรัฐบาลก็คงไร้ผล จึงขอระบายความรู้สึก ความคิดเห็นมายังคุณสนธิ ขอขอบคุณ
ขอแสดงความนับถือ
จ. บุญรุ่ง
***********
คอลัมน์-“เสียงประชาชน”นี้จะเป็นช่องทางให้ประชาชนที่ต้องการแจ้งข่าวคราว เบาะแส ระบายความในใจต่อความเป็นไปในบ้านเมือง เพื่อส่งผ่านไปยังผู้มีอำนาจในบ้านเมือง ผู้เกี่ยวข้อง และประชาชนในแผ่นดินได้รับรู้ร่วมกัน โดยส่งถึงสนธิ ลิ้มทองกุล ผ่านทาง peoplevoice@manager.co.th หรือส่งจดหมายมาที่ 102/1 บ้านพระอาทิตย์ ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กทม.10200 วงเล็บมุมซองว่า “เสียงประชาชน” หรือ โทรสาร 02-281-1708