เรียน คุณสนธิ และพี่น้องชาวไทยผู้รักเสรีภาพ เสมอภาค และสันติภาพ
ทุกวิกฤติ เป็นโอกาส น่าจะใช้ได้ดี ณ สถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้
การเสียชีวิตของคุณสุวิทย์ วัดหนู มีความหมายมากต่อการพัฒนาการเมืองไทยนับจากนี้ หากเราตั้งหลักคิดให้ดี
1. หลังการโค่นล้มรัฐบาลทักษิณ เราคาดหวังลึกๆ ว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปการเมือง (ครั้งที่เท่าไร ไม่อยากนับ) ในความเห็นของผมการปฏิรูปการเมือง คือการทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย นำคนผิดมาลงโทษ เกาหลีใต้ปัดกวาดประเทศสำเร็จรวดเร็วไม่ใช่เพราะเขียนรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุด หากเกิดจากประเทศเขาสามารถนำอดีตประธานาธิบดี รัฐมนตรี นักธุรกิจใหญ่ เข้าคุกคนแล้วคนเล่า
เราไปคาดหวัง และอิงกับอำนาจรัฐมากเกินไปให้ทำโน่น ทำนี่ เราลืมไปว่าไม่มีการปฏิรูปที่ไหนเกิดจากความยินยอมเต็มใจของผู้ปกครอง
เซี่ยงเซ้าหลง บอกว่าพวกเขาไม่ชอบบุคลิกอย่างคุณสพรั่ง คุณเสรี แต่ผมเคยบอกตั้งแต่ปฏิวัติใหม่ๆ ว่าพวกเขาไม่ชอบบุคลิกอย่างคุณสนธิ ลิ้มทองกุลด้วย
พวกเขาที่ว่านี้ไม่มีตัวตน เพราะ “พวกเขา” ซ่อนอยู่ใต้จิตสำนักของคนไทยส่วนใหญ่ ตั้งแต่ผู้ปกครอง ถึงประชาชนส่วนใหญ่ พวกเขาไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง พวกเขาไม่ชอบความเสี่ยง พวกเขารู้สึกอุ่นใจที่มีสิ่งเหนือกว่าเขาคุ้มครองเขาอยู่เป็นชั้นๆ
ผมเคยเตือนด้วยความห่วงใย ว่าพวกเราควรน้อมนำเข้าหาประชาชน ไม่ใช่น้อมนำเข้าหาอำนาจรัฐ ว่าให้ประชาชนเป็นกองหน้า พวกเราเป็นกองหลัง
ภาคประชาชนมีสิ่งดีที่สุด ถูกต้องที่สุดในเนื้อหาสาระอยู่มาก ที่พวกเขาขาดคือพลังความคิด พลังทรัพย์ และที่สำคัญพลังการสื่อสารถึงคนส่วนใหญ่
เขาบางคนเป็นเพียง เกษตรกรที่ต้องการปกป้องสิทธิของตัวเอง
เขาบางคนเป็นเพียงพระรูปหนึ่ง ที่เอาชีวิตเข้าแลกเพื่อปกป้องป่า
เขาบางคนเป็นเพียงข้าราชการชั้นกลาง ที่เอาตำแหน่ง ชีวิตเข้าแลก เพื่อความถูกต้อง
เขาบางคนเป็นเพียงทนายอิสระ ที่กล้าต่อกรกับอำนาจรัฐด้วยความรู้ในวิชาชีพ
เธอบางคน เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ใฝ่ฝันให้ผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรม
เธอบางคน เรียกร้องเสียงแหบเสียงแห้ง เพื่อสิทธิของคนพิการ ยากไร้
คุณสุวิทย์ วัดหนู เป็นเขาคนหนึ่ง ที่ทำงานโดยเนื้อหาสาระเพื่อปฏิรูปโครงสร้างสังคมอย่างแท้จริง
2. เราเชื่อกันแล้วหรือยังว่าเราจะเปลี่ยนแปลงสังคม โดยหวังพึ่งพาสถาบันต่างๆ เช่นสถาบันการเมือง ศาสนา หรือสถาบันอย่างหนึ่งอย่างใดไม่ได้ เพราะสุดท้ายผลประโยชน์ของสถาบันเหล่านั้นย่อมขัดกับผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ทั้งสิ้น
ก่อนเกิดปรากฏการณ์สนธิ ผมไม่สามารถจินตนาการได้ว่าการปฎิรูปสังคมจะเกิดขึ้นได้อย่างไร
แม้จนถึงตอนนี้ผมก็ไม่แน่ใจ ทางเดียวที่ผมเห็นว่าเป็นไปได้คือเราต้องน้อมนำเข้าหาภาคประชาชน ซึ่งมีความต่อเนื่อง เอาจริงเอาจัง
ไม่ใช่หน้าที่ที่จะไปกำกับเกมส์อำนาจ แต่มีหน้าที่ตรวจสอบอย่างไม่เกรงใจ
ไม่ใช่หน้าที่ไปชี้ผิดชี้ถูก แต่มีหน้าที่กดดันให้กระบวนการยุติธรรมทำงาน
ไม่ใช่หน้าที่สนับสนุนพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่มีหน้าที่กดดันให้มีสัญญาประชาคม และตรวจสอบว่าทำตามสัญญาหรือไม่
หากเราทำผิดหน้าที่ เราจะถูกตั้งข้อสงสัยเต็มไปหมด เราจะขาดความเชื่อถือ เราจะถูกหาว่าเห็นแก่ประโยชน์ ชื่อเสียงส่วนตัว
เรายอมรับกันหรือยังว่าถึงเวลาต้องเชื่อมั่นในพลังของภาคประชาชนอย่างแท้จริง หากคิดว่าถึงเวลาต้องปรับเปลี่ยน การเสียชีวิตของคุณสุวิทย์ สะท้อนให้เห็นถึงพลังประสานภาคประชาชนกับสื่อแรงสูงอย่างผู้จัดการ บรรยากาศที่เกิดขึ้น เป็นบรรยากาศที่เป็นบวกมากๆ สำหรับภาคประชาชน
3. ผมขอเสนอสื่อผู้จัดการ รักษาความต่อเนื่องของบรรยากาศอันนี้ไว้ หากเป็นไปได้ควรประกาศอย่างถาวรว่าสื่อผู้จัดการ และคุณสนธิ ไม่พิงอย่างอื่น แต่พิงกับประชาชนสามัญ วิธีประกาศคือนับจากพรุ่งนี้เป็นต้นไป ประกาศงดบริจาคให้ครอบครัวคุณสุวิทย์ เพราะได้มากพอแล้ว แต่จะขอบริจาคเพื่อสร้างอนุสาวรีย์ให้กับวีรบุรุษสามัญชนแทน และสร้างให้เร็วที่สุด
หากทำได้ (ผมเชื่อว่าทำได้ ถ้าจะทำ) ผลกระทบเชิงปลุกเร้าพลังประชาชนจะสูงมาก เพราะอนุสรณ์ 14 ตุลา เกิดขึ้นได้เพราะการงอนง้อจากรัฐ แต่นี้คืออนุสรณ์วีรบุรุษสามัญชน ที่เกิดจากประชาชนด้วยกันเอง
เพียงที่คุณสนธิ ลิ้มทองกุล พูดเชิดชูคุณสุวิทย์ ว่าเป็นคนที่รักประชาชน ไม่มียศศักดิ์ ตำแหน่งแห่งที่ใดๆ ผมว่าไฟของความเชื่อมั่นในพลังประชาชนของผู้ฟังก็พุ่งขึ้นสูงเสียแล้ว
ทั้งหมดที่ผมเสนอมานี้ดูเหมือนจะขึ้นกับจุดยืนของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล คนเดียว หากท่านเห็นด้วยในหลักการ ผมไม่ห่วงเรื่องเทคนิค วิธีการ เพราะยังเชื่อมั่นในศักยภาพของท่าน
จากคนที่ไม่กล้าบอกว่าเป็นแม้แต่พันธมิตร เพราะไม่มีโอกาสเสียสละพลังกาย พลังทรัพย์ นับแต่พฤษภา 35 เป็นต้นมา มีเพียงความคิด และจิตใจ ที่เฝ้ามองสังคมไทยด้วยความห่วงใย
เฝ้ามอง ห่วงใย
เมลเบิร์น, ออสเตรเลีย
16 มีนาคม 2550
******
คอลัมน์-“เสียงประชาชน”นี้จะเป็นช่องทางให้ประชาชนที่ต้องการแจ้งข่าวคราว เบาะแส ระบายความในใจต่อความเป็นไปในบ้านเมือง เพื่อส่งผ่านไปยังผู้มีอำนาจในบ้านเมือง ผู้เกี่ยวข้อง และประชาชนในแผ่นดินได้รับรู้ร่วมกัน โดยส่งมาที่ peoplevoice@manager.co.th หรือส่งจดหมายมาที่ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล 102/1 บ้านพระอาทิตย์ ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กทม.10200 วงเล็บมุมซองว่า “เสียงประชาชน” หรือ โทรสาร 02-281-1708
ทุกวิกฤติ เป็นโอกาส น่าจะใช้ได้ดี ณ สถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้
การเสียชีวิตของคุณสุวิทย์ วัดหนู มีความหมายมากต่อการพัฒนาการเมืองไทยนับจากนี้ หากเราตั้งหลักคิดให้ดี
1. หลังการโค่นล้มรัฐบาลทักษิณ เราคาดหวังลึกๆ ว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปการเมือง (ครั้งที่เท่าไร ไม่อยากนับ) ในความเห็นของผมการปฏิรูปการเมือง คือการทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย นำคนผิดมาลงโทษ เกาหลีใต้ปัดกวาดประเทศสำเร็จรวดเร็วไม่ใช่เพราะเขียนรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุด หากเกิดจากประเทศเขาสามารถนำอดีตประธานาธิบดี รัฐมนตรี นักธุรกิจใหญ่ เข้าคุกคนแล้วคนเล่า
เราไปคาดหวัง และอิงกับอำนาจรัฐมากเกินไปให้ทำโน่น ทำนี่ เราลืมไปว่าไม่มีการปฏิรูปที่ไหนเกิดจากความยินยอมเต็มใจของผู้ปกครอง
เซี่ยงเซ้าหลง บอกว่าพวกเขาไม่ชอบบุคลิกอย่างคุณสพรั่ง คุณเสรี แต่ผมเคยบอกตั้งแต่ปฏิวัติใหม่ๆ ว่าพวกเขาไม่ชอบบุคลิกอย่างคุณสนธิ ลิ้มทองกุลด้วย
พวกเขาที่ว่านี้ไม่มีตัวตน เพราะ “พวกเขา” ซ่อนอยู่ใต้จิตสำนักของคนไทยส่วนใหญ่ ตั้งแต่ผู้ปกครอง ถึงประชาชนส่วนใหญ่ พวกเขาไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง พวกเขาไม่ชอบความเสี่ยง พวกเขารู้สึกอุ่นใจที่มีสิ่งเหนือกว่าเขาคุ้มครองเขาอยู่เป็นชั้นๆ
ผมเคยเตือนด้วยความห่วงใย ว่าพวกเราควรน้อมนำเข้าหาประชาชน ไม่ใช่น้อมนำเข้าหาอำนาจรัฐ ว่าให้ประชาชนเป็นกองหน้า พวกเราเป็นกองหลัง
ภาคประชาชนมีสิ่งดีที่สุด ถูกต้องที่สุดในเนื้อหาสาระอยู่มาก ที่พวกเขาขาดคือพลังความคิด พลังทรัพย์ และที่สำคัญพลังการสื่อสารถึงคนส่วนใหญ่
เขาบางคนเป็นเพียง เกษตรกรที่ต้องการปกป้องสิทธิของตัวเอง
เขาบางคนเป็นเพียงพระรูปหนึ่ง ที่เอาชีวิตเข้าแลกเพื่อปกป้องป่า
เขาบางคนเป็นเพียงข้าราชการชั้นกลาง ที่เอาตำแหน่ง ชีวิตเข้าแลก เพื่อความถูกต้อง
เขาบางคนเป็นเพียงทนายอิสระ ที่กล้าต่อกรกับอำนาจรัฐด้วยความรู้ในวิชาชีพ
เธอบางคน เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ใฝ่ฝันให้ผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรม
เธอบางคน เรียกร้องเสียงแหบเสียงแห้ง เพื่อสิทธิของคนพิการ ยากไร้
คุณสุวิทย์ วัดหนู เป็นเขาคนหนึ่ง ที่ทำงานโดยเนื้อหาสาระเพื่อปฏิรูปโครงสร้างสังคมอย่างแท้จริง
2. เราเชื่อกันแล้วหรือยังว่าเราจะเปลี่ยนแปลงสังคม โดยหวังพึ่งพาสถาบันต่างๆ เช่นสถาบันการเมือง ศาสนา หรือสถาบันอย่างหนึ่งอย่างใดไม่ได้ เพราะสุดท้ายผลประโยชน์ของสถาบันเหล่านั้นย่อมขัดกับผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ทั้งสิ้น
ก่อนเกิดปรากฏการณ์สนธิ ผมไม่สามารถจินตนาการได้ว่าการปฎิรูปสังคมจะเกิดขึ้นได้อย่างไร
แม้จนถึงตอนนี้ผมก็ไม่แน่ใจ ทางเดียวที่ผมเห็นว่าเป็นไปได้คือเราต้องน้อมนำเข้าหาภาคประชาชน ซึ่งมีความต่อเนื่อง เอาจริงเอาจัง
ไม่ใช่หน้าที่ที่จะไปกำกับเกมส์อำนาจ แต่มีหน้าที่ตรวจสอบอย่างไม่เกรงใจ
ไม่ใช่หน้าที่ไปชี้ผิดชี้ถูก แต่มีหน้าที่กดดันให้กระบวนการยุติธรรมทำงาน
ไม่ใช่หน้าที่สนับสนุนพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่มีหน้าที่กดดันให้มีสัญญาประชาคม และตรวจสอบว่าทำตามสัญญาหรือไม่
หากเราทำผิดหน้าที่ เราจะถูกตั้งข้อสงสัยเต็มไปหมด เราจะขาดความเชื่อถือ เราจะถูกหาว่าเห็นแก่ประโยชน์ ชื่อเสียงส่วนตัว
เรายอมรับกันหรือยังว่าถึงเวลาต้องเชื่อมั่นในพลังของภาคประชาชนอย่างแท้จริง หากคิดว่าถึงเวลาต้องปรับเปลี่ยน การเสียชีวิตของคุณสุวิทย์ สะท้อนให้เห็นถึงพลังประสานภาคประชาชนกับสื่อแรงสูงอย่างผู้จัดการ บรรยากาศที่เกิดขึ้น เป็นบรรยากาศที่เป็นบวกมากๆ สำหรับภาคประชาชน
3. ผมขอเสนอสื่อผู้จัดการ รักษาความต่อเนื่องของบรรยากาศอันนี้ไว้ หากเป็นไปได้ควรประกาศอย่างถาวรว่าสื่อผู้จัดการ และคุณสนธิ ไม่พิงอย่างอื่น แต่พิงกับประชาชนสามัญ วิธีประกาศคือนับจากพรุ่งนี้เป็นต้นไป ประกาศงดบริจาคให้ครอบครัวคุณสุวิทย์ เพราะได้มากพอแล้ว แต่จะขอบริจาคเพื่อสร้างอนุสาวรีย์ให้กับวีรบุรุษสามัญชนแทน และสร้างให้เร็วที่สุด
หากทำได้ (ผมเชื่อว่าทำได้ ถ้าจะทำ) ผลกระทบเชิงปลุกเร้าพลังประชาชนจะสูงมาก เพราะอนุสรณ์ 14 ตุลา เกิดขึ้นได้เพราะการงอนง้อจากรัฐ แต่นี้คืออนุสรณ์วีรบุรุษสามัญชน ที่เกิดจากประชาชนด้วยกันเอง
เพียงที่คุณสนธิ ลิ้มทองกุล พูดเชิดชูคุณสุวิทย์ ว่าเป็นคนที่รักประชาชน ไม่มียศศักดิ์ ตำแหน่งแห่งที่ใดๆ ผมว่าไฟของความเชื่อมั่นในพลังประชาชนของผู้ฟังก็พุ่งขึ้นสูงเสียแล้ว
ทั้งหมดที่ผมเสนอมานี้ดูเหมือนจะขึ้นกับจุดยืนของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล คนเดียว หากท่านเห็นด้วยในหลักการ ผมไม่ห่วงเรื่องเทคนิค วิธีการ เพราะยังเชื่อมั่นในศักยภาพของท่าน
จากคนที่ไม่กล้าบอกว่าเป็นแม้แต่พันธมิตร เพราะไม่มีโอกาสเสียสละพลังกาย พลังทรัพย์ นับแต่พฤษภา 35 เป็นต้นมา มีเพียงความคิด และจิตใจ ที่เฝ้ามองสังคมไทยด้วยความห่วงใย
เฝ้ามอง ห่วงใย
เมลเบิร์น, ออสเตรเลีย
16 มีนาคม 2550
******
คอลัมน์-“เสียงประชาชน”นี้จะเป็นช่องทางให้ประชาชนที่ต้องการแจ้งข่าวคราว เบาะแส ระบายความในใจต่อความเป็นไปในบ้านเมือง เพื่อส่งผ่านไปยังผู้มีอำนาจในบ้านเมือง ผู้เกี่ยวข้อง และประชาชนในแผ่นดินได้รับรู้ร่วมกัน โดยส่งมาที่ peoplevoice@manager.co.th หรือส่งจดหมายมาที่ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล 102/1 บ้านพระอาทิตย์ ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กทม.10200 วงเล็บมุมซองว่า “เสียงประชาชน” หรือ โทรสาร 02-281-1708