xs
xsm
sm
md
lg

เมืองไทยรายสัปดาห์ : “สนธิ” เตือนอย่าทำลายศรัทธา “ป๋า” - เตือน คมช.ระวังย่ำรอย รสช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์
“สนธิ” เตือน “ลูกป๋า” อย่าทำให้ “พล.อ.เปรม” เสียคน ทำลายความศรัทธาจากประชาชนที่มอบให้ ชี้การให้ “พจมาน” เข้าพบถือว่าไม่เหมาะสม เพราะสื่อต่างชาติอาจเข้าใจผิด ข้องใจ “หม่อมอุ๋ย” เดินเกมเชื่อมโยงทรท.ปูทางเล่นการเมืองในอนาคต ขณะเดียวกันยกบทเรียนประวัติศาสตร์เตือนสติ คมช.ระวังย่ำรอย รสช. ย้ำ ปชช.ต้องยึดมั่นในสถาบัน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อรวมกันเป็นยามเฝ้าแผ่นดิน

คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ โดย สนธิ ลิ้มทองกุล ช่วงที่ 1

คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ โดย สนธิ ลิ้มทองกุล ช่วงที่ 2

คลิกที่นี่เพื่อชมวิดีโอคลิป รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ช่วงที่ 1(56k) | (256K)

คลิกที่นี่เพื่อชมวิดีโอคลิป รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ช่วงที่ 2(56k) | (256K)

สนธิ - สวัสดีครับท่านผู้ชมครับที่อยู่ในห้องส่ง ท่านผู้ชมที่ชมรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ทางเอเอสทีวีที่อยู่ในระบบเคเบิลท้องถิ่น หรือท่านผู้ชมที่มีจานรับสัญญาณดาวเทียมของตัวเองที่บ้าน ตลอดจนท่านผู้ชมที่อยู่ในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกา และในแคนาดา และท่านผู้ชมที่ชมผ่านอินเตอร์เน็ต เครือข่ายทั้งหมดเบ็ดเสร็จแล้วสิบกว่าล้านคนที่กำลังดูรายการเมืองไทยรายสัปดาห์อยู่

สนธิ - วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม เผลอเดี๋ยวเดียวจะสิ้นปีแล้ว วันที่ 12 พฤศจิกายน ผมจะต้องเดินทางไปเยี่ยมเยียนพ่อแม่พี่น้องทางฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกา วันที่ 12 ไปถึงซานฟรานซิสโก ออกจากสนามบิน 4 โมงเย็น ถึงปั๊บ 6 โมงเย็นเริ่มพูดเลยที่โรงแรมรามาดา พลาซ่าอินน์ พูดถึงประมาณเที่ยงคืน แล้วพัก 1 วัน วันที่ 14 บินต่อไปที่กรุงซีแอตเติล พูดเสร็จ 15 เช้าตรู่บินออกไปที่ดัลลัส พูดที่ดัลลัสจบ 17 บินไปที่ลาสเวกัส พูดที่ลาสเวกัสเสร็จ บินกลับมาที่ลองแองเจลิส พูด 19 พูดจบก็กลับมาที่เมืองไทยนะครับ สำหรับพ่อแม่พี่น้องที่อยู่ทางประเทศไทย ก็ต้องกราบขออภัยว่า วันที่ 17 ก็จะไม่มีรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ เดิมทีคิดว่าจะให้คุณสโรชา คุณแอ้ม จัด แต่เผอิญคุณแอ้มงวดนี้ก็ไปด้วย ทีมที่ไปทั้งหมดก็ 10 ว่าท่าน ก็เลยต้องขออภัยพ่อแม่พี่น้องนิดหนึ่ง คุณอัญชลี ไพรีรัก ก็ไปด้วย ก็เป็นทีมที่ใหญ่พอสมควรครับ

สนธิ - ที่ลอสแองเจลิสได้ข่าวว่า มีพ่อแม่พี่น้องจองที่นั่งมาแล้วร่วม 3-4 พันท่านแล้ว ก็น้องๆ สวนลุมฯ ใหญ่กว่าสวนลุมฯ นิดหนึ่งนะครับ ก็ยินดีที่จะได้ไปเยือน พ่อแม่พี่น้องที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา และจะมีการประชุมพันธมิตรฯ สหรัฐอเมริกาที่กรุงลาสเวกัสนะครับ โดยที่พันธมิตรทั่วอเมริกา จากมหานครนิวยอร์ก คุณไพลิน คุณธัชพงษ์ นะครับ หรือว่าหลายๆ ท่านที่รู้จักกัน คุณสมศักดิ์ กูรมะโรหิต ก็จะมารวมกันที่ลาสเวกัส เพื่อมากำหนดทิศทางของพวกเรากันนะครับว่า ในสถานการณ์แบบนี้ ในเหตุการณ์เช่นว่านี้ ทางพ่อแม่พี่น้องทางสหรัฐอเมริกามีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง เหมือนกับวันนี้ผมนั่งรถอยู่ก็มีโทรศัพท์เข้ามา จากคุณอุดม ลอสแองเจลิส คุณอุดมนี่ก็มาอยู่ที่เมืองไทยบ่อยนะครับ มาเยี่ยมเยียน ก็มาซื้อเสื้อ มาบริจาคให้กับเอเอสทีวี มาบริจาคให้พันธมิตรฯ คุณอุดมก็โทร.มา บอก คุณสนธิ พวกผมที่บ้านเนี่ยกำลังกินไม่ได้นอนไม่หลับ ท้องมันเฟ้อ ลมมันอืดไปหมด สับสนไปหมด ผมบอก เรื่องอะไรคุณอุดม บอกว่า ทำไมป๋าเปรมถึงยอมพบพจนมาน ชินวัตร ปรากฏว่าเช็กไปเช็กมาเขาบอกว่า ทางอเมริกานั้นตื่นเต้นกันไปหมด ตื่นเต้นด้วยความสยองขวัญ ไม่ได้ตื่นเต้นด้วยความดีใจ แล้วมีความรู้สึกค่อนข้างจะน้อยใจอย่างมากๆ ซึ่งถ้าจะพูดเรื่องนี้แล้วคงต้องพูดกันให้ถึงที่สุดนิดหนึ่งว่าความรู้สึกของคนในประเทศสับสนมาก สับสนถ้าดูจากเว็บไซต์แล้ว เว็บผู้จัดการแล้วก็มีแต่คนที่ค่อนข้างไม่เห็นด้วยหลายต่อหลายประการ ทาง พล.อ.อู้ด เบื้องบน บอกว่าไม่มีอะไร แค่มาทักทายกันธรรมดาไม่ได้พูดเรื่องการเมืองและทรัพย์สิน เผอิญอาจจะพูดให้คนที่อ่านหนังสือพิมพ์ เช่น ไทยรัฐ เดลินิวส์ เขาอาจจะเชื่อแต่สำหรับคนที่ดูเอเอสทีวี หรืออ่านผู้จัดการ หรืออ่านหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ก็คงจะเชื่อยากนิดหนึ่ง ถ้าสมมุติว่าผมยึดถือหลักที่ พล.อ.อู้ด เบื้องบน พูดบอกว่า ไม่มีอะไรไม่ได้พูดเรื่องการเมือง ไม่ได้พูดเรื่องทรัพย์สิน ผมก็อาจจะ จำลองเหตุการณ์ก็ได้ว่า ถ้าอย่างนั้นคงจะพูดเรื่องกระเป๋าใบใหม่ที่คุณหญิงอ้อซื้อมาจากแฮรอตซ์(***) บอกท่านประธานองคมนตรีว่า สวยมั๊ยคะท่าน อากาศที่ลอนดอนมันช่างเย็นสบายดี อาหารก็พอทานได้ ท่านสบายดีไหมคะ คงจะมีคนเชื่อหรอกนะครับ ผมคิดว่าใครก็ตามที่คิดพาคุณพจมาน ชินวัตร ไปพบป๋าเปรม ผมว่าคิดผิด ผมจำเป็นต้องพูดเรื่องนี้ว่าผิดอย่างไร คือผมคิดว่า ป๋าเปรมท่านเป็นผู้ใหญ่ ท่านอาจจะถูกจัดฉาก ท่านอาจจะถูกลูกหลานท่านซึ่งฮ่อมล้อมท่านยั้วเยี้ยไปหมด เพราะเห็นว่าท่านในขณะนี้เป็นคนซึ่งมีความสำคัญมาก เพราะฉะนั้นแล้วแต่ละคนเข้ามาหาท่านเพื่อติดต่ออะไรกับท่าน แล้วสายคุณทักษิณ ชินวัตร คงจะมองว่าจะต้องผ่านลูกๆ ป๋าพวกนี้ ประเดี๋ยวค่อยมาเล่าเรื่องลูกป๋าให้ฟังสักนิดหนึ่งเพื่อจะได้ให้รู้ซึ้งถึงใจกัน แต่ภาพที่คุณพจมาน ชินวัตรไปนั้น ใครก็ตามที่คิดเรื่องนี้ให้รู้ด้วยว่า ลักษณะภาพจะออกไปอย่างนี้ ภาษาอังกฤษ ขอโทษขออนุญาตใช้ภาษาอังกฤษนิดหนึ่ง เขาเรียกว่า เพอร์เซฟชั่น(***) แปลว่า คนอยากให้เรามองเขาอย่างไร เพราะฉะนั้นการซึ่งพจมาน ชินวัตร ไปหาป๋าเปรมนั้น ถ้ามองอีกมุมหนึ่งเขาอยากให้คน โลก หรือสื่อมวลชนมองเขาอย่างไร มองได้หลายแง่หลายมุม มุมที่หนึ่ง เขาเป็นผู้หญิงคนเดียวเขากำลังมาต่อสู้กับทหารทั้งกองทัพเพื่อจะมาหาป๋าเปรม เพื่อขอความเป็นธรรม คล้ายๆ ว่า กรุณาเถอะอย่ารังแกสามีเขา เพราะฉะนั้นแล้วสื่อมวลชนที่เป็นต่างชาติ หรือแม้กระทั่งสื่อมวลชนไทยที่งี่เง่าบางฉบับ ซึ่งยังมีอยู่เยอะ ตลอดจนผู้ประกาศข่าวทางโทรทัศน์หลายช่อง ยังจะมองไปในรูปลักษณะแบบนั้น มองว่าทหารมารังแกครอบครัวเขา ที่ร้ายที่สุด ผมไม่รู้ว่าลูกป๋าคนไหนเป็นต้นคิดเข้าใจหรือเปล่า เพราะว่าวันที่มีการยึดอำนาจ นายทักษิณ ชินวัตร เป็นคนให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนต่างประเทศ เขาบอกว่า การปฏิวัติครั้งนี้ป๋าอยู่เบื้องหลัง คุณรู้บ้างหรือเปล่าลูกป๋าทั้งหลาย เมื่อเขาพูดอย่างนี้แล้วคุณรู้ไหมใครไปแก้ให้ป๋าคุณ นี่ไอ้หมอนี่ไปตั้งไม่รู้กี่ประเทศ ไปแก้ให้ ไปอเมริกาก็แก้ให้ว่าป๋าไม่ได้เกี่ยว ไม่ได้เกี่ยวอะไรทั้งสิ้น แต่มาวันนี้จู่ๆ คุณพาพจมาน ชินวัตร ไปพบกับป๋าเปรม แล้วไอ้ที่ผมไปแก้ให้มันแปลว่าอะไร คนก็จะถามบอกว่า ป๋าเปรมท่านมาเกี่ยวข้องอะไรด้วยล่ะ ถ้าอยากจะกลับมาที่ประเทศไทยก็ไปคุยกับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ถ้าจะทำอะไรผ่านรัฐบาลก็คุยกับท่าน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ทำไมต้องมาคุยกับป๋าเปรม ท่านเป็นประธานองคมนตรี คุณเข้าใจหรือเปล่า ลูกป่าที่ไปจัดการเรื่องนี้ ท่านเป็นประธานองคมนตรี ประธานองคมนตรีคือใคร คือคนที่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าคณะองคมนตรี นั่นคือตัวแทนต่างพระเนตรพระกรรณ ถึงแม้ว่าจะมีการพูดบอกว่าไม่มีอะไร ถึงป๋าจะบอกว่าจบแล้วก็ตาม ในลักษณะที่ผู้ใหญ่อยากให้มันจบๆ ไป แต่ภาพที่ออกมาเนี่ยกลายเป็นว่า ทำไมต้องมาพบป๋าเปรมด้วย ทำไมไม่ไปพบคุณสนธิ บุญยรัตกลิน ล่ะ ก็ในเมื่อเขาเป็นประธานคณะมนตรีความมั่นคงฯ เขามีอำนาจทุกอย่าง เขาคุมอยู่ทุกอย่าง ทำไมคุณไม่ไปพบเขาล่ะ ถ้าคุณจะเจรจาว่าความ ว่าทักษิณ ชินวัตร นั้นพร้อมที่จะวางมือทางการเมือง ขอกลับมาเมืองไทย ใช่ไหมฮะ ขอกลับมาเมืองไทยแล้วจะล้างมือทางการเมือง คุณก็ไปพบคุณสนธิ แต่คุณกลับไปพบป๋าเปรม ก็เลยทำให้ภาพที่พวกคุณถูกเขากล่าวหาว่า ป๋าเปรมเนี่ยอยู่เบื้องหลังในการยึดอำนาจครั้งนี้ แล้วก็ ป๋าเปรมก็เป็นประธานองคมนตรี ซึ่งแต่งตั้งโดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ แล้วจะให้สื่อมวลชนเมืองนอกมันคิดยังไง เวลาคุณทำอะไรนี่คุณคิดบ้างหรือเปล่า ทีเวลาเมื่อวันที่ 4 คืนวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่ผมประท้วงอยู่ที่ลานพระรูปทรงม้า ผมเอาจดหมายถวายฎีกาเดินไปหาป๋าเปรม ตอนนั้น ทำไมตอนนั้นคุณไม่บอกป๋าว่า ป๋าต้องอยู่บ้านรอรับคุณสนธิเขานะ รอรับพวกประชาชนที่มานะ คุณกลับปล่อยให้ พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ มาอุ้มป๋าออกไปข้างนอก ไปธุระปะปังอะไรไม่รู้ ทำให้ผมต้องยืนอยู่หน้าประตู ก็ยังดีที่คุณพะจุณณ์ พลเรือโท พะจุณณ์ ท่านก็ยังมีความเมตตา เปิดประตูให้เอาจดหมายไปมอบข้างใน แทนที่จะบอกว่า คุณสนธิ คุณยืนข้างนอก คุณไม่ต้องมาสนใจ ไอ้ทีอย่างนี้คุณกีดกันผม พอทีพจมาน ชินวัตร มาเนี่ย คุณเปิดประตูให้เข้า หรือว่าเขามี 73,000 ล้าน แล้วผมไม่มีอะไร ผมมีแต่งกางเกงในตัวเดียวตอนนี้ หรือว่ามันเป็นอย่างนี้ คุณตอบให้ผมดีๆ ผมจำเป็นต้องพูด ผมไม่พูดไม่ได้เรื่องนี้ เพราะว่าถ้าผมไม่พูด ประชาชนที่เขาฟังผมอยู่ และที่เขากำลังสับสน เขาจะเข้าใจป๋าคุณผิด ถ้าคุณรักป๋าคุณ คุณอย่าได้คิดเลยแม้แต่นิดเดียว คุณอย่าเลยแม้แต่นิดเดียวที่จะคิดทำอะไรแบบนี้ เรื่องราวของคุณทักษิณ ชินวัตร คุณพจนมาน ชินวัตร เป็นเรื่องราวที่ต้องคุยกับผู้มีอำนาจในแผ่นดิน ป๋าเป็นประธานองคมนตรี ป๋าไม่ได้มีอำนาจใดๆ ทั้งสิ้น ป๋ามีหน้าที่พิจารณาจัดการเสนอเรื่องราว ถวายคำปรึกษาให้กับองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พอคุณไปทำเช่นนี้เท่ากับว่าคุณยืนยันคำพูดของนายสมัคร สุนทรเวช ของผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ คุณรู้ไหมคุณทำอะไรผิดบ้าง มหาศาล แล้ว พล.อ.อู้ด เบื้องบน พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ คุณรักป๋านักไม่ใช่หรอ คุณรักป๋า เวลานายสมัคร สุนทรเวช ด่าป๋า ผมไม่เคยเห็นคุณออกมาสะเออะเลยซักคำหนึ่งที่จะมาปกป้องป๋าที่คุณรักดั่งชีวิตดวงใจ คุณไม่ คุณนั่งเงียบ ทำไมคุณต้องนั่งเงียบ เพราะว่าลูกชายคุณ พล.อ.อู้ด เบื้องบน เกิดไปแต่งงานกับหลานสาวของคุณพจมาน ชินวัตร ใช่ไม่ใช่ แล้วทำงานอยู่ในเครือชินคอร์ป หรือว่า คุณมงคล อัมพรพิสิฏฐ์ สมัยที่ผมสู้กับนายทักษิณ ชินวัตร สมัยที่ป๋าออกเดินสายแต่งชุดทหารเต็มยศ ไปให้กำลังใจทหาร ไปบอกว่า อย่าไปยกมือไหว้หรือเคารพคนไม่ดี คุณนั่งเป็นประธานทีพีไอ เสวยสุขของคุณอยู่ คุณรับสมบัติ รับเงินรับทองจากระบบทักษิณ คุณเป็นประธานธนาคารกรุงไทย เสร็จแล้วคุณมาเป็นประธานทีพีไอ เป็นควบคู่จนกระทั่งคุณอายุครบ 65 เป็นกรุงไทยต่อไม่ได้ คุณก็มาอยู่ที่ทีพีไอ กินเงินเดือนเดือนละล้าน ล้านกว่าบาท มีโบนัสอีก สนุกสนามไปเลย แต่เวลาป๋าคุณโดนนายทักษิณด่า ทำไมคุณไม่ออกมาปกป้อง พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ คุณเสียดายทรัพย์สมบัติที่นายทักษิณยื่นให้คุณ ผมไม่รู้ว่าใช่หรือไม่ใช่ ผมเพียงแต่ยกตัวอย่างให้ฟัง ถ้าคุณเป็นลูกป๋าคุณต้องเป็นลูกป๋าด้วยใจ คุณไม่ใช่เป็นลูกป๋าเพียงเพราะว่า พอนายทักษิณไปแล้วคุณก็วิ่งเข้ามาหาป๋า พล.อ.อู้ด เบื้องบน คุณต้องเข้าใจ งานนี้จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม หรือแม้กระทั่งถ้าป๋าเป็นคนที่บอกให้คุณ ให้พจมานพามาพบได้ คุณเองจะต้องเตือนสติป๋านิดหนึ่ง ป๋าครับยังไม่เหมาะนะครับตอนนี้ เพราะว่าสามีเขาไปว่าป๋าต่างประเทศ ว่าป๋าอยู่เบื้องหลังการปฏิวัติยึดอำนาจ ถ้าเราให้เขาพบกลายเป็นว่าเขามุ่งตรงมาหาเรา อย่ามาพูดว่าไม่ได้พูดเรื่องการเมือง ไม่ได้พูดเรื่องการยึดทรัพย์ บอกว่าพูดเรื่องอื่น อย่ามาพูด คุณกำลังโกหกใครอยู่ คุณอย่ามาโกหกประชาชน ประชาชนยุคนี้ข่าวสารข้อมูลเพรียบพร้อม ผมเลยอยากจะบอกนิดหนึ่งว่า เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะมาพิจารณาแล้วทำกันง่ายๆ เรื่องพวกนี้มันมีความละเอียดอ่อนอย่างลึกซึ้ง คุณพูดอย่างนี้แปลว่าอะไร คุณทำอย่างนี้คุณต้องการที่จะให้ป๋า คล้ายๆ ว่าคุณพูดกับป๋าแบบนี้ คุณให้กำลังใจพรรคไทยรักไทยใช่ไม่ใช่ คุณให้กำลังใจพวกคุณใช่ไหม คุณดูซิยังไม่ทันไรเลย พวกคุณ หมอมิงค์ นายแพทย์พรหมินทร์ ออกมาพูดแล้วทันที ผมอ่านข่าวเจอ นายแพทย์พรหมินทร์พูดว่า ต้องยกเลิกกฎอัยการศึกเพื่อแลกกับการไม่มีคลื่นใต้น้ำ แสดงว่าคุณเป็นคนสร้างคลื่นใต้น้ำ ใช่ไม่ใช่ แปลว่าอะไร เพราะฉะนั้นแล้วผมจะบอกให้รู้ว่า พวกคุณทำอะไรกัน ทำไม่เป็น เจตนาอาจจะดี แต่เมื่อทำออกมาแล้วพินาศฉิบหายกันทุกคน แล้วคนที่เสียสุนัขคือพวกผม ประชาชนที่เขารัก เคารพในตัวป๋า เขาเริ่มคลอนแคลนกับป๋า ความรักที่ประชาชนมีต่อป๋า มหาศาล คุณรู้บ้างไหม แล้วผมเชื่อว่าวันนี้ถ้าเอาปรอทมาวัด ความรักอันนั้นตกไปเยอะ เพราะฉะนั้นแล้วระหว่างคุณเอาใจพจมาน ชินวัตร กับคุณทำลายน้ำใจประชาชน คุณต้องเลือกเอาคุณทำอะไรบ้าง ผมขอร้องเลย ป๋าเป็นประธานองคมนตรี ป๋าไม่ควรจะเจอใคร แม้กระทั่งประธาน ป.ป.ช. หรือว่าใครก็ตาม ก็ไม่ควรจะไปเข้าพบป๋า ไปเข้าพบทำไม คุณยิ่งเอาคนที่มีอำนาจบริหารไปพบป๋าทุกคนไปพบป๋าหมด ถนนทุกสายก็มุ่งไปที่ป๋า ก็บอกว่า เออ ในที่สุดแล้ว ใช่แล้วป๋าเป็นคนปฏิวัติเรื่องนี้ แล้วกระเทือนไปถึงเบื้องพระยุคลบาท เห็นหรือยัง ความเสียหายที่คุณทำ คุณจะเจตนาหรือไม่เจตนา เพราะฉะนั้นแล้วจากนี้ไป ผมขอเถอะ อย่าว่าแต่พจนมาน ชินวัตร เลย แม้กระทั่ง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ หรือ พล.อ.สนธิ ก็ไม่จำเป็นต้องไปพบป๋า ไม่จำเป็น ไม่จำเป็นเลย ถ้าจะพบกันจริงๆ ก็เลือกเอาตอนค่ำๆ ดึกๆ แล้วค่อยเข้าทางหลังบ้านสิ ทำไมจะต้องไปกรานไปกลางวันให้กล้องทีวีเขาถ่าย ป๋าก็เลยกลายเป็นศูนย์กลางของอำนาจไป พอป๋ากลายเป็นศูนย์กลางของอำนาจ ความเข้าใจผิดมันก็เกิดขึ้นอย่างมหาศาล พอความเข้าใจผิดมันเกิดขึ้น มันก็ลามปามไปสู่หลายๆ จุด ซึ่งป๋าเกี่ยวข้องด้วย แล้วพวกเราสนุกไหม พวกเราก็ไม่สนุก นะครับ เพราะงั้นผมเตือนเอาไว้นิดหนึ่ง

สนธิ - อีกเรื่องหนึ่ง อาทิตย์ที่ผ่านมานี่ ผมจำเป็นต้องพูด คือเรื่องของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล หรือเขาเรียกกันว่าหม่อมอุ๋ย หม่อมอุ๋ยนั้นมีข่าวมาตลอด ตั้งแต่ยังไม่ได้ตั้ง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ว่าถูกเสนอตัวให้เป็นนายกรัฐมนตรี พล.อ.สนธิ ให้สัมภาษณ์เมื่อ 1-2 วันนี้ ท่านพูดชัด ท่านบอกว่า ท่านเป็นคนเสนอ พล.อ.สุรยุทธ์ เอง ไม่เคยเสนอหม่อมอุ๋ย ไม่ทราบว่าใครไปปล่อยข่าวว่าหม่อมอุ๋ยถูกเสนอ เอาล่ะ ไม่เป็นไร หม่อมอุ๋ยเป็นนักเรียนเก่าที่ต่างประเทศ เป็นคนเก่ง อดีตเป็นรองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เคยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ได้ไปเป็นประธานธนาคารส่งออก เอ็กซิมแบงก์ แล้วก็กลับมาเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หม่อมอุ๋ยอยู่ในระบอบทักษิณมาตลอด แล้วก็คนที่ตั้งหม่อมอุ๋ยเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ก็คือ พันศักดิ์ วิญญรัตน์ เป็นคนเสนอให้ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณก็เลยตั้งหม่อมอุ๋ยมา ที่พูดนี่ไม่ได้แปลว่าหม่อมอุ๋ยนี่จะเห็นด้วยกับทักษิณ หลายๆ ครั้งหม่อมอุ๋ยก็ค้านทักษิณ หลายๆ เรื่อง ในเรื่องนโยบายต่างๆ เพียงแต่ว่าออกมาให้สัมภาษณ์ที่สวนทางกับทักษิณ พอโดนทักษิณตวาดหน่อย หม่อมอุ๋ยก็วิ่งเข้าไปในธนาคารแห่งประเทศไทย แล้วก็ปิดประตู แล้วก็หลบ ไม่เหมือนผม ผมไม่มีที่หลบ ผมต้องโดนระบอบทักษิณมันกระทืบเอาๆ แต่หม่อมอุ๋ยยังมีธนาคารแห่งประเทศไทยคอยหลบ คอยซ่อน เอาล่ะ ไม่เป็นไร

สนธิ - ทีนี้ หม่อมอุ๋ย เมื่อมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ท่านต้องเข้าใจ ว่าปัญหาของชาติมันมีอะไรบ้าง ปัญหาของระบอบทักษิณมีทุกอย่าง 1..2..3..4..5.. อย่างหนึ่งซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ซึ่งทุกคนจำได้ คือการไม่ยอมเสียภาษีจากการขายหุ้นชินคอร์ป 73,000 ล้าน ที่ถกเถียงกันมาตลอด คุณหญิงจารุวรรณก็มาจับเรื่องนี้ ประชาชนที่รักความเป็นธรรมก็มาสู้เรื่องนี้ นักวิชาการก็มาสู้ในเรื่องพวกนี้ อธิบดีกรมสรรพากร นายศิโรตม์ อ้างบอกว่า การซื้อหุ้นขายหุ้นนั้น จะซื้อขายหุ้นอย่างไรก็ตาม ถ้ายังไม่ถึงสุดท้าย ถ้ามีการโอนกัน ระหว่างกัน โอนให้พ่อ โอนให้แม่ แม่โอนให้ลูก ลูกโอนให้น้อง น้องโอนให้พี่ ถ้ายังไม่มีการขายสุดท้ายแล้วต้องถือว่ายังไม่ต้องเสียภาษี นี่คือการตีความของอธิบดีกรมสรรพากรที่ชื่อนายศิโรตม์ นะฮะ ในทำนองเดียวกันนี้ คุณเรืองไกร ได้รับการโอนหุ้นมาจากพ่อ แต่กรมสรรพากรดันไปเก็บภาษีเขา บอกว่าถึงจะโอนให้ด้วยความเสน่หา คุณก็ต้องเสียภาษี คุณเรืองไกรก็เลยเอาเงินนั้นไปเสียภาษี แต่พอนายทักษิณโอนหุ้นให้ลูก ให้คนโน้น คนนี้ ให้กับนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พอจะไม่เสียภาษี แบบนี้ก็ต้องแก้ที่คุณเรืองไกร ก็เอาเงินไปคืนภาษี เอาเงินภาษีที่คุณเรืองไกรเสีย เอามาคืนคุณเรืองไกร เพื่อให้เป็นบรรทัดฐาน ตัวเองจะได้ทำ 73,000 ล้าน ไม่ต้องเสียภาษี ได้เด่นชัดขึ้น คุณศิโรตม์ คุณเนี่ยรุ่นน้องผม ถึงคุณจะกลั่นแกล้งผม เอาเจ้าหน้าที่สรรพากรมาตรวจภาษีผม อย่างที่ผมเคยเรียนพ่อแม่พี่น้องที่อยู่ในสวนลุมฯ มาตรวจภาษีผมตั้งไม่รู้กี่ครั้งแล้ว 7-8 ครั้งแล้ว คุณเอาไปสิ ผมเหลือแต่ไข่ 2 ใบเท่าเนี้ย คุณอยากได้ ได้ไป ผมก็ไม่ว่าคุณ แต่คุณเนี่ยต้องรู้อยู่แก่ใจ คุณศิโรตม์ ว่าในระบบสรรพากรผมยังไม่เคยเจอเลยว่า คนที่เขาเสียภาษีตามที่คุณบอกว่า อันนี้ต้องเสีย แล้วในที่สุดคุณต้องมาคืนภาษีเขา ไม่มี มีแต่จ่ายเงินค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม แล้วถึงคิวที่คุณต้องได้รับส่วนต่างคืน เขาจะคืนให้ ค่าภาษีศุลกากร ค่าภาษีส่งออก เขาจะคืนให้ อันนั้นเป็นกติกา แต่คุณกลับบอกว่า เอาคืนไปเถอะ เพราะฉะนั้นเจตนาตรงนี้มันเห็นชัด เมื่อเจตนาตรงนี้มันเห็นชัดแล้ว มิหนำซ้ำแล้วกฤษฎีกายังตีความออกมา บอกว่าการซื้อขายหุ้นถึงจะโอนให้ด้วยเสน่หายังไงก็ตาม ทุกครั้งที่โอน คนรับโอนต้องเสียภาษี ทุกครั้งที่โอนต้องเสียภาษี เพราะฉะนั้นแล้ว ด้วยข้อเท็จจริงที่มีอยู่ทุกวันนี้ เอาล่ะ ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครผิด แต่ถึงแม้จะมีข้อถกเถียงกันอยู่ตรงนี้ คุณชายปรีดิยาธรครับ คุณกลับออกมาปกป้องนายศิโรตม์ บอกว่าเขาไม่ผิด คุณพูดได้ยังไง ว่าเขาไม่ผิด ทำไมคุณไม่วางตัวให้เหมาะสมสักหน่อย คุณวางตัวสวยที่สุด คุณก็โยกย้ายนายศิโรตม์ไปเป็นรองปลัดกระทรวงการคลัง เพื่อเปิดโอกาสให้สังคมซึ่งเขาสงสัยได้ตรวจสอบได้อย่างแน่ชัด ทำไมคุณไม่ทำเช่นนั้นล่ะ ผมถามคุณซิว่าทำไมคุณไม่ทำ แต่คุณออกมา คุณเอาอกคุณแอ่นรับเลย ทำไมคุณมาเก่งเอาตอนนี้ล่ะ ทำไมตอนนายทักษิณอยู่ที่คุณสู้กับเขา บางทีคุณให้สัมภาษณ์เขา พอเขาสวนคุณกลับแล้วคุณวิ่งหนี เข้าไปในธนาคารแห่งประเทศไทย ทำไมคุณไม่แอ่นอกออกมาสู้เหมือนอย่างที่คุณแอ่นอกสู้วันนี้ล่ะ คุณก็ไม่กล้าใช่ไหม เอาล่ะ ไม่เป็นไร

สนธิ - คุณเนี่ยทำให้ประชาชนคนไทยเขาเสียความรู้สึก ความจริงภาพพจน์คุณเนี่ยดี การสร้างภาพของคุณเนี่ยวิเศษมาตั้งแต่ต้นแล้ว คุณเป็นรอยต่อของตะเข็บที่ไร้รอย หารอยไม่เจอ แหมแต่วันนี้เห็นรอยต่อคุณชัดมาก

สนธิ - เรื่องที่สอง เรื่องที่พจมาน ชินวัตร ไปซื้อที่ของกองทุนฟื้นฟู ปรส. ที่อยู่ที่หน้าศูนย์วัฒนธรรมแห่งชาติ มูลค่า 744 ล้าน ซึ่งประชาชนและหลายคนเขากังขาว่ามีการสมรู้ร่วมคิดในการซื้อ เผอิญกองทุนฟื้นฟูฯ เนี่ย คนที่เซ็น มีอำนาจเซ็นในกองทุนฟื้นฟูฯคือตัวคุณ คุณเซ็นไป แต่ว่าในฐานะที่คุณเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ของรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งรัฐบาลชุดนี้เกิดขึ้นจากคณะปฏิวัติ ยึดอำนาจ ที่อ้างในข้อที่ 3 ว่า เนื่องจากมีการคอร์รัปชั่นอย่างมาก ดีที่สุดของคุณก็คือ คุณต้องปิดปาก ปล่อยให้เขาสอบไป เพราะว่าถ้าคุณบอกว่าตรวจสอบได้โปร่งใสทุกประการ คุณไม่ต้องพูด หม่อมอุ๋ย คุณพูดทำไม คุณพูดไปก็เฉาฉุ่ย คุณไม่ต้องพูด เพราะว่าถ้ามันโปร่งใสจริงอย่างที่คุณบอก เขาตรวจยังไงมันก็ต้องโปร่งใส ใช่ ไม่ใช่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล แต่จู่ๆ คุณก็ออกมาพูด ทั้งๆ ที่เขายังไม่ได้กล่าวหาอะไรเป็นทางการ แปลว่าอะไร คุณปกป้องคุณศิโรตม์ อธิบดีกรมสรรพากร ซึ่งมีข้อหาว่าเอื้อประโยชน์กลุ่มชินคอร์ป ปกป้องยังไม่ทันเสร็จ วันรุ่งขึ้นคุณมาปกป้องการซื้อขายที่ดินของคุณพจมาน ชินวัตร ผมเนี่ยนะ จะบอกให้คุณรู้นะ ผมเนี่ยไม่เชื่อข่าวลือ มีคนมาเล่าให้ผมฟัง ผมบอก เฮ้ย คุณอย่าไปว่าหม่อมอุ๋ยเขานะ เขาชาติวุฒิดี คุณวุฒิวิเศษ วัยวุฒิกำลังพร้อมจะเป็นผู้นำประเทศได้ ผมไม่เชื่อข่าว เขาว่าไงรู้ไหม เขาบอก คุณเนี่ยรับเงินมัดจำของทางชินวัตรมาก้อนหนึ่ง แล้วแสดงออกบางอย่างเพื่อให้เห็นว่าคุณได้ปกป้องเขา แล้วเงินงวดที่ 2 ก็จะตามมา เพราะว่าเขาบอกว่าข่าวลือเขาบอกคุณจะเล่นการเมือง โดยใช้นายพินิจ จารุสมบัติ ซึ่งตอนนี้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติฯ แต่คุณอุ๋ย คุณรู้ไหมผมพูดยังไง เฮ้ย ผมไม่เชื่อเรื่องนี้ คุณอย่ามาพูดเรื่องนี้ให้ผมฟัง ผมไม่เชื่อ เป็นไปไม่ได้ คุณชายปรีดิยาธรไม่ใช่คนอย่างนั้น ผมเนี่ยปกป้องคุณ สุดฤทธิ์สุดเดช ก็เลยต้องเล่าให้คุณฟัง ว่ามีคนพูดอย่างนั้นแต่ผมไม่เชื่อ ผมจะไปเชื่อได้ยังไง ขนาดคนที่เขาพูดกับผม เขาพูดถึงขนาดไหนรู้ไหม เขาบอกว่า คุณเนี่ยเป็นหุ้นส่วนกับคุณศิริทัศน์ เจ้าของบริษัทคอมลิงก์ คุณศิริทัศน์แต่ก่อนได้สัมปทานคอมลิงก์จากองค์การโทรศัพท์ฯ แล้วก็ไปกู้เงินธนาคารกสิกรไทย ในยุคที่คุณเป็นรองกรรมการผู้จัดการ แล้วเขาบอกคุณก็ไปเป็นหุ้นส่วน ซึ่งในข้อเท็จจริงคุณก็เป็นหุ้นส่วน แต่มันไม่เสียหายอะไรหรอกคุณอุ๋ย การเป็นหุ้นส่วน เพราะคุณกับคุณศิริทัศน์เนี่ย เป็นนักเรียนเซนต์กาเบรียลรุ่นเดียวกัน ใช่ไหม ก็เผอิญคุณศิริทัศน์ กับ พล.อ.วินัย ก็เป็นนักเรียนเซนต์กาเบรียลรุ่นเดียวกันเช่นกัน แต่ไม่เป็นไร นักเรียนรุ่นเดียวกันมันเป็นเรื่องเล็ก คนมันก็เป็นนักเรียนรุ่นเดียวกัน ทำได้ แต่ทว่า คนพูดนี่ก็พูดต่ออีก ซึ่งผมก็ไม่เชื่ออีก เขาบอกว่าคุณศิริทัศน์นั้นเป็นเจ้ามือสนับสนุนทางการเมืองให้คุณพินิจ จารุสมบัติ ผมก็บอก เออ แล้วไง คุณพินิจ คุณพินิจเขาเป็นนักการเมืองที่เก่งนี่ เขามีเพื่อนฝูงเยอะ ถ้าจะมีคนสนับสนุนเขา ก็เป็นของธรรมดา ไอ้คนนี้ก็บอกว่า พี่ ทำไมไม่ดูล่ะว่าทำไมคุณพินิจ จารุสมบัติ ถึงได้รับเลือกเข้ามาเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติฯ แล้วมิหนำซ้ำแล้ว คนบางคนซึ่งเป็นสายคุณพินิจ ก็เข้ามาเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติเกือบ 10 คน อดีต ส.ว.อุดรธานี คนของคุณพินิจ ก็มา ผมก็ว่า เฮ้ย ไม่เป็นไรน่า เขาก็บอกว่า พี่ ทำไมพี่ถึงมองทุกคนในแง่ดี ผมก็บอก ผมจำเป็นต้องมองทุกคนในแง่ดี เพราะว่าผมไม่เชื่อว่าคุณปรีดิยาธร เทวกุล จะเป็นคนเลวทรามอย่างนั้น ตีให้ตายสนธิก็ไม่เชื่อ เขาบอกว่า พวกคุณอยากจะมีเงินก้อนหนึ่งเพื่อที่จะมาเล่นการเมืองโดยดึงเอาคุณพินิจเข้ามา คุณพินิจ สายตรงกับคุณทักษิณได้ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นคุณพินิจสามารถที่จะเอา ส.ส.ของพรรคไทยรักไทยบางส่วน เมื่อรัฐธรรมนูญพร้อมแล้วเขาก็บอกว่า คุณมีชัย คุณพินิจ พล.อ.วินัย แล้ว ม.ร.ว.ปรีดิยาธร วางเกมกัน ผมบอกผมไม่เชื่อ ผมจะเชื่อได้อย่างไร พล.อ.วินัย ท่านเป็นทหารหาญ ท่านคงไม่ทำเรื่องเลวๆ แบบนี้หรอก ท่านจะทำได้อย่างไร ท่านเป็นทหารซึ่งท่านมาร่วมปฏิวัติก็ต้องการทำการเมืองให้ดี แล้วท่านมาทำการเมืองให้เลวลงได้อย่างไร คุณมีชัย ผมก็ไม่เชื่อ แต่ว่าผมจะเล่าเรื่อง รสช.ในเบรคต่อไปให้ฟังว่า คุณมีชัย มีเรื่องมหัศจรรย์พันลึกมาก ซึ่งน่าสนใจมาก แต่สรุปง่าย ๆ รุ่นน้องคนนี้เล่าให้ผมฟัง ผมบอก อย่าพูดเลยดีกว่า ของแบบนี้พูดไปทำไมมี เพราะว่าความใกล้ชิดสนิทสนมคนมันก็มีกันอยู่ พี่มันเป็นไปได้อย่างไร คุณสิริทัศ(***) คนกลาง ซึ่งเป็นเจ้าของคอมพ์ลิงก์ ซึ่งหม่อมอุ๋ยเป็นหุ้นส่วนอยู่ เป็นคนซึ่งให้เงินให้ทองคุณพินิจใช้ โยงกันถึง บอก โอ๊ย ช่างมันเถอะ คนเรามันรู้จักกันเยอะ ผมก็รู้จักคุณพินิจ ผมก็รู้จักหม่อมอุ๋ย เพราะฉะนั้นคุณอาจจะพูดว่า ผมออกมาพูดป้องกันหม่อมอุ๋ย ใช่ไหม เขาก็เงียบไป ผมเลยอยากจะกราบเรียน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ว่าผมอุตส่าป้องกันศักดิ์ศรีของท่านแล้วนะ เพราะฉะนั้นแล้วผมเป็นคนพูดว่าผมไม่เชื่อเรื่องนี้ แต่ถ้าในอนาคตท่านเกิดตั้งพรรคการเมืองแล้วมีนายพินิจเข้ามาร่วมด้วย ตรงนั้นคุณกับผมต้องเป็นศัตรูกัน เพราะผมถือว่าท่านโกหกผม ผมอุตส่าออกมาปกป้องศักดิ์ศรีท่าน แต่ถ้าวันข้างหน้าเป็นจริงอย่างที่ผมบอก ผมจะสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ต่อไฟที่อยู่ต่อหน้าผม เพราะผมต้องสู้กับท่าน แต่ ณ วันนี้ผมพูดได้คำหนึ่งว่า ผมปกป้องศักดิ์ศรีท่านเรียบร้อยแล้ว

สนธิ - ก่อนที่เราจะจบเบรค 1 ผมอยากจะพูดถึง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นิดหนึ่ง ผมเป็นคนชอบค้นข้อมูล ผมสงสัยมานานแล้ว พล.อ.สุรยุทธ์ เป็นคนประเภทไหน ปรากฏว่าท่านเป็นลูกศิษย์พระอาจารย์ทุย ที่หนองคาย ท่านไปบวช พระอาจารย์ทุย เป็นลูกศิษย์หลวงตามหาบัว ผมเคยไปกราบหลวงตามหาบัวมา ท่านบอกว่า ดีแล้วนายกฯ คนนี้เป็นลูกศิษย์พระอาจารย์ทุย ก็เหมือนลูกศิษย์ของเรา ท่านพูดอย่างนี้ ความสมถะของ พล.อ.สุรยุทธ์ นั้นเป็นที่กล่าวขวัญกันมานานแล้ว ผมเพิ่งได้ข้อมูลมา จำได้ไหมพ่อแม่พี่น้องผมเคยถามว่า เครื่องบินไทยคู่ฟ้า มันหายไปไหน ปรากฏว่า ข้อที่หนึ่ง กองทัพอากาศเอาไปพ่นสีใหม่หมดแล้ว แล้วติดตรากองทัพอากาศ โอนเข้าไปหน่วยงานกองทัพอากาศ พล.อ.สุรยุทธ์ ท่านสั่งไว้ว่า ถ้าใครจะใช้ก็ขอมา ใช้ได้ทุกคน แล้วท่านใช้อะไร ท่านบอกว่า สายการบินไทยมีไปลงที่ไหนท่านก็นั่งเครื่องการบินไทยไป ไม่ต้องนั่งเครื่องพิเศษ เสียเงินเสียทองประเทศชาติ แล้วถ้าไปคนมันเยอะ ท่านบอกว่าให้ใช้ ซี 130 นั่งไป แต่แน่ๆ ท่านคงไม่เหมือนน้องสาวนายกฯ ทักษิณ อดีตนายกฯ ทักษิณ ที่ใช้ ซี 130 พาคนไปฉลองบ้านใหม่ ที่เชียงใหม่ เสร็จเรียบร้อยแล้วท่านไปเวียดนาม ท่านก็ใช้การบินไทย ในขณะนี้เวลานี้ 2 ทุ่มกว่า ท่านอยู่ที่หาดใหญ่ ผมเช็คตารางท่านแล้ว ท่านบินลงไปเยี่ยมพระที่ถูกทำร้ายทางใต้ ท่านไปเครื่องบินการบินไทย เครื่องท่านออก 5 โมงกว่า ท่านไปเสร็จมีคนมารับท่าน ท่านมีเวลา 40 นาที ไปกราบนมัสการพระที่บาดเจ็บ เสร็จแล้วท่านขึ้นเครื่องตอน 2 ทุ่มกว่ากลับ ถ้าเป็นนายกฯ ทักษิณ ไทยคู่ฟ้า บินไปโน้นไปนี่ นี่คือความประหยัด ความพอเพียง พ่อแม่พี่น้องเห็นหรือยัง ข้อแตกต่างระหว่างคน 2 คนเห็นได้ชัด คนๆ หนึ่งประหยัดเพื่อประเทศ คนๆ หนึ่งฟุ่มเฟือยเพื่อตัวเอง เพราะฉะนั้นแล้วพวกเรา ถ้า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ทำงานแล้วเจออุปสรรค พวกเราต้องให้กำลังใจท่าน เพราะว่าท่านเข้ามาในช่วงซึ่งท่านไม่อยากเข้าแต่ท่านก็ต้องเข้า ท่านพูดเสมอว่า ผมอยากจะออกไปเร็วๆ อยากจะมาจัดระเบียบให้เร็วๆ นี่ตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ให้พ่อแม่พี่น้องฟัง ประเดี๋ยวเราจะเบรคกันสักครู่แล้วเดี๋ยวเราจะกลับมาพูดเรื่อง รสช. วันนี้เราไม่พูดเรื่อง คมช. แต่อยากให้พ่อแม่พี่น้องจับตาดูเรื่อง รสช.ให้ดี แล้วพ่อแม่พี่น้องจะบอกว่า คุณสนธิทำไมเอาเรื่อง คมช.มาเล่าให้ฉันฟัง ไม่ใช่เป็นเรื่อง รสช. แต่ฟังแล้วมันเหมือน คมช.เหลือเกิน ผมเป็นนักประวัติศาสตร์ ผมจำเรื่องราวได้ดี และผมรู้ว่าประวัติศาสตร์มักจะมีคำว่า "ซ้ำรอย" พักกันสักครู่เดี๋ยวค่อยเจอกันครับ

เมืองไทยรายสัปดาห์ (ช่วงที่ 2)
สนธิ - กลับมาสู่ช่วงสุดท้ายของรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ครับ เมื่อกี้นี้ ผมได้พูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอาทิตย์นี้ที่ผ่านมา ตั้งแต่วันจันทร์ จนถึงวันศุกร์นะครับ ก็ตกหล่นไปบางเรื่อง เรื่องที่ตกหล่นก็น่าจะเป็นเรื่องของตำรวจ นะครับ ก็อยากจะพูดให้ท่านผู้ชมฟังนิดหนึ่ง

สนธิ - วันนี้ท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ท่านได้เรียก พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ เข้ามาพบ เพราะว่า พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ นำเรื่องมาเสนอว่า พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ ขอยื่นเรื่องเข้ากลับมารับราชการที่กรมตำรวจอีกครั้งหนึ่ง ท่านนายกฯ ก็ตามแหล่งข่าวนะฮะ ก็สอบถามไป ว่า พ.ต.อ.ฤทธิ์ณรงค์ ซึ่งเป็นอดีตผู้กำกับฯ สืบสวนสอบสวนนครบาล 6 ที่มีเรื่องมีราวไปให้การสนับสนุนไอ้ใต้ในการที่มากระทืบประชาชน แล้วก็โดนผมทำหนังสือร้องเรียนไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าตำรวจคนนี้มีส่วนเกี่ยวข้อง ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทำไมถึงได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นรองผู้บังคับการฝ่ายอำนวยการ นะฮะ เหมือนกับกรณีของ พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ ซึ่งเป็นผู้อำนวยการกองสลากฯ ที่เป็นมือส่งเงินให้กับพรรคไทยรักไทย ในการทำการเมือง เมื่อขอกลับเข้ารับราชการตำรวจ ก็ได้เลื่อนตำแหน่งอีก เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ซึ่งอยู่ทางภาคเหนือตอนล่าง ดูแลพื้นที่เก่าๆ ของอิทธิพลของไทยรักไทย ผมไม่ทราบว่า พล.ต.อ.โกวิท อธิบายอะไรให้ท่านนายกฯ ฟังบ้าง แต่ที่แน่ๆ ก็คือว่า ศักดิ์ศรีของคำว่าตำรวจมันหมดไปนานแล้ว ผมเข้าใจว่าตำรวจนั้นเป็นอะไรบางอย่างที่ผมพูดได้ ณ วันนี้ว่า เป็นคนซึ่งใช้ไม่ได้ นอกจากศักดิ์ศรีไม่มีแล้ว คุณธรรมก็ยังไม่มีด้วย นะครับ คนที่เป็นหัวหน้าหน่วยเนี่ย สิ่งที่ต้องรับผิดชอบต่อตัวเองก็คือประชาชนก่อน แล้วค่อยไปรับผิดชอบต่อลูกน้อง ลูกน้องของตัวเองมีหลักฐานโจ่งแจ้งว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ก็ยังทะลึ่งเลื่อนตำแหน่งให้เป็นรองผู้บังคับการ แสดงว่าอะไร แสดงว่าเป็นการส่งสัญญาณให้ตำรวจว่า พวกมึงไปกระทืบประชาชนตามคำสั่งนักการเมือง แล้วมึงได้ดี ถึงแม้จะเปลี่ยนรัฐบาลแล้วก็ตาม ก็ยังได้ดีอยู่ ตรงนี้ต่างหากที่ผมอยากให้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ได้พิจารณาตรงนี้ให้ถ่องแท้นิดหนึ่ง คือท่านกับ พล.ต.อ.โกวิท ท่านเป็นนักเรียนรุ่นเดียวกัน ระหว่างเพื่อนร่วมรุ่น กับความถูกต้อง ท่านจะเลือกตรงไหน จริงๆ แล้วบทบาทหน้าที่ของการบริหารราชการตำรวจ ณ วันนี้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ขึ้นโดยตรงกับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นประธาน ก.ตร. และเป็นหัวหน้าตำรวจ แต่ พล.อ.สนธิ ท่านก็พลาดไป ที่ท่านไปให้สัมภาษณ์บอกว่า จะไม่มีการโยกย้าย พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผมไม่อยากให้ภาพนี้ออกมาว่าท่านกำลังก้าวก่ายการทำงานของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นะครับ

สนธิ - ผมจะกราบเรียนให้ท่านทราบนิดหนึ่งในฐานะที่เป็นคนชื่อเดียวกัน นะครับ หลายๆ อย่างที่ท่านทำทุกวันนี้ผมเป็นห่วง ผมเป็นห่วงมาก ไม่ว่าท่านไปเตะฟุตบอลกับนักการเมือง ผมคิดว่าท่านไม่จำเป็นต้องไปทำเช่นนั้น เพราะว่าภาพอะไรหลายอย่างมันออกมาสะท้อน สะท้อนไปหมด ที่สำคัญก็คือว่า เรื่องตำรวจนี่คือเรื่องความยุติธรรมเบื้องต้น ท่านต้องให้กับประชาชนครับ ท่านผู้บัญชาการทหารบก ผมต้องขอร้องท่าน อย่าทำให้ชื่อสนธิต้องมัวหมองนะครับ เพราะฉะนั้นเราชื่อเดียวกัน เราต้องยึดถือในคุณธรรมเดียวกัน นั่นคือความถูกต้อง ไม่เอาพวกไม่เอาพ้อง เอาชาติบ้านเมือง เอาราชบัลลังก์มาก่อน ผมฝากไว้เพียงแค่นี้ฮะสำหรับเรื่องนี้

สนธิ - พ่อแม่พี่น้องครับ ผมจะเล่าเรื่อง รสช.ให้ฟังนิดหนึ่ง 23 กุมภาพันธ์ 2534 เป็นวันที่มีการปฏิวัติรัฐประหารโดยคณะที่เรียกว่า รสช. - คณะรักษาความสงบแห่งชาติ คณะนี้มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ผมจะเล่าให้ฟังก่อนย้อนหลังไปนิดหนึ่ง ย้อนหลังไปถึงยุคสุดท้ายที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ท่านเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านเป็นมาหลายสมัยแล้ว ตอนนั้นเขาเรียกว่า ประชาธิปไตยครึ่งใบ คือ พรรคการเมืองลงเลือกตั้งไปพอลงเลือกตั้งเสร็จจะมี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ จิ๋วประสานสิบทิศ วิ่งเต้นไปบอกพรรคประชาธิปัตย์ ไปบอกพรรคชาติไทย ไปบอกพรรคกิจสังคม บอกให้ตั้งรัฐบาลกันแล้วเลือกป๋าเปรมขึ้นมาเป็นนายกฯ เอาละไม่เป็นไร ช่วงนั้นมีเหตุการณ์ การลดค่าเงินบาท มีการพัฒนาบ้านเมืองไปซึ่งอยู่ในระดับค่อนข้างดี แล้วอยู่มาวันหนึ่งเกิดมีนักวิชาการ 99 ท่าน เข้าชื่อถวายฎีกาแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ว่าป๋าเปรมเป็นนายกฯ นานเกินไปแล้ว ไม่อยากเห็นป๋าเปรมเป็นนายกฯ ประเภทไม่ลงเลือกตั้ง ป๋าเปรมท่านมีสปิริตท่านลาออกเลย แค่จดหมายนักวิชาการ 99 คนเซ็น ไม่ต้องมีประชาชนเป็นล้านมาชุมนุมไล่กันเป็นปี อันนี้คือข้อดีของป๋าเปรม พอท่านออกมาท่านก็ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้เป็นองคมนตรี แล้วในที่สุดก็เป็นประธานองคมนตรี ต่อจากท่านอาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ ทีนี้พอป๋าเปรมออกการเมืองเริ่มร้อนระอุ มีการเลือกตั้งใหม่เลยตอนนั้น มีพรรคชาติไทย พรรคกิจสังคม พรรคประชาธิปัตย์ หลายๆ พรรคร่วมกัน พรรคเอกภาพ ในที่สุด พรรคชาติไทย โดย พล.ต.ชาติชาย ชุณหวัณ ตอนนั้น ยศ พล.ต. ท่านได้เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยเสียงเพียง 87 เสียง แต่มาที่ 1 ท่านรวบรวมพลพรรคตั้งเป็นคณะรัฐบาลขึ้นมา เรียกว่า รัฐบาลชุดชาติชาย ชุณหะวัณ เผอิญชุด พล.ต.ชาติชาย ชุณหะวัณ พอท่านเป็นนายกฯ ก็มีคนเฮ้าเลี้ยน(***) ตามปกติ บอกว่า ท่านเป็นถึงนายกรัฐมนตรีแล้วก็ขึ้นเป็น พล.อ.ไปเลย เลยเสนอขอยศเป็น พล.อ. ท่านเลยกลายเป็น พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เพราะฉะนั้นในสังคมไทยจะมีคนเฮ้าเลี้ยนอย่างนี้เยอะ ขุนพลอยพยัก ท่านครับดีครับ สวยครับท่าน สวยสง่าน่าดูชม แต่ที่ไหนเดินเหมือนเป็ด แต่จะชมอย่างนี้เรื่องธรรมดากัน ทีนี้จังหวะตอนนั้นในยุคที่ พล.อ.ชาติชาย ขึ้นมาเป็นยุคซึ่งประเทศกำลังเปิดประตูอย่างมาก ที่เปิดประตูเพราะว่า กระแสอุตสาหกรรมกำลังถั่งโถมเข้ามาทางเอเชีย คือ ฝรั่งตอนนั้นเริ่มรู้แล้วว่าค่าแรงของตัวเองแพงเลยเริ่มส่งออกอุตสาหกรรมตัวเองมาในประเทศที่ 3 เช่น ประเทศไทย ไต้หวัน สิงคโปร์ แต่ไต้หวันกับสิงคโปร์ไปเร็วกว่าเรา ไต้หวัน สิงคโปร์ขึ้นบันไดข้ามขั้นไปแล้ว เพราะฉะนั้นอุตสาหกรรมไต้หวัน สิงคโปร์เลยก้าวหน้ากว่าไทย อุตสาหกรรมที่ต้องใช้แรงงานเลยถั่งโถมเข้ามาในประเทศไทยเยอะแยะไปหมด ตอนนั้นเลยมีกิจกรรมหลายกิจกรรม และช่วงนั้นเป็นช่วงซึ่งเทคโนโลยีด้านโทรคมนาคมกำลังเกิด คือ เทคโนโลยีไร้สาย เขาเรียกว่า โทรศัพท์ไร้สายกำลังเกิดขึ้นมา พล.อ.ชาติชาย ขึ้นมาตอนนั้นท่านขึ้นมาโดยร่วมพรรคการเมืองต่างๆ พอขึ้นมาแล้วท่านเป็นลักษณะต่างคนต่างทำ พอตอนหลังแล้วคณะปฏิวัติเรียกรัฐบาลชุด พล.อ.ชาติชาย ว่า บุฟเฟ่คาเบเน็ต คือต่างฝ่ายต่างกิน โครงการต่างๆ ก็ไปกิน กินกันชนิดที่เรียกว่า หูหนาตาเล่อไม่สนใจเลย คุณมนตรี พงษ์พานิช ซึ่งเสียชีวิตแล้ว ถูกกล่าวหามากที่สุดว่าเป็นนักการเมืองที่คอร์รัปชั่นมากที่สุด เพราะคุณมนตรี พงษ์พานิช ไปนั่งอยู่ที่กระทรวงคมนาคม สมัยนั้นยังไม่มีกระทรวงไอซีที ทั้งองค์การโทรศัพท์ การสื่อสารแห่งประเทศไทย สนามบิน ทุกอย่างก็อยู่ที่นั่นหมด และจังหวะนั้นเป็นจังหวะที่เปิดประตูใหม่ๆ แล้วคุณทักษิณ ชินวัตร ก็เริ่มได้สัมปทาน เวลานั้น ยุค พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อย่างโทรศัพท์มือถือ เอไอเอสตอนนั้นเป็นรุ่น เขาเรียกว่ารุ่น 900 ขององค์การโทรศัพท์ฯ กสท. ก็มีรุ่น 800 รุ่น 900 เนี่ยคนซึ่งคิดโครงการนี้ขึ้นมาแล้วไปเสนอคุณทักษิณ ชื่อ นายภูษณ ปรีย์มาโนช พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็รับเรื่องนี้ไป ก็เอาไป ในช่วงนั้นก็มีรัฐมนตรี เช่น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ คุณเฉลิม กับคุณทักษิณ คุณทักษิณก็บอกว่าเป็นนักเรียนรุ่นเดียวกัน ทั้งที่คุณเฉลิมนั้นอดีตเป็นทหาร เป็นสิบตรี ทหาร แล้วก็เรียนหนังสือแล้วมาสอบเข้าตำรวจ แต่ถือว่ารุ่นเดียวกัน คุณทักษิณ ผมเคยเล่าให้พ่อแม่พี่น้องฟังแล้ว ตอนนั้นก็หิ้วขนม หิ้วก๋วยเตี๋ยว ซื้อเนกไทไปให้ คุณเฉลิม เพียงเพื่อจะขอสัมปทานเคเบิลทีวี ไอบีซี ซึ่งคุณเฉลิมก็ให้ไปโดยที่ไม่ต้องประมูล ก็เลยโดนยำใหญ่ในสภาฯ เมื่อถูกยำใหญ่ในสภาฯ แล้ว คุณทักษิณก็ได้ไป คุณเฉลิมจู่ๆ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ก็เรียกคุณเฉลิมเข้าไป ก็บอก เฮ้ย ไอ้เหลิม ไอ้เม้ง เม้งนี่คือใคร เม้งนี่ก็คือพ่อของเจ้าของเมืองทองธานี อิมแพค อารีน่า ไอ้เม้งเนี่ยมันรับใช้พ่ออั๊วมาก่อน คำว่าพ่ออั๊วก็หมายถึงจอมพลผิน ชุณหะวัณ มงคล กาญจนพาสน์ เม้ง เฮ้ย ลื้อหาสัมปทานให้ลูกมันหน่อยได้ไหม คุณเฉลิมก็เลยยกสัมปทานไทยสกายของช่อง 9 อ.ส.ม.ท. ซึ่งไอบีซีก็เป็นของช่อง 9 ก็ยกไปให้ทางลูกชายของเสี่ยเม้ง ก็เลยเป็นจุดแตกหักครั้งแรกที่คุณทักษิณ ชินวัตร หงุดหงิดคุณเฉลิม อยู่บำรุง หาว่าไอ้เหลิมนี่มันหักหลังผม นั่นคือที่มาของ ต่อมาภายหลังที่คุณเฉลิม อยู่บำรุง ถูก รสช. ปฏิบัติ แล้วก็ตามจับจนกระทั่งต้องหนีขึ้นเรือไปที่ประเทศสิงคโปร์ แล้วต่อไปที่ประเทศสวีเดน อยู่ห้องเล็กๆ ห้องหนึ่ง ลูกเต้าอยู่กัน 4-5 คน เริ่มจะเป็นอัมพฤกษ์ มือเริ่มชัก ความที่ผมสงสาร ผมก็ส่งคุณคำนูณ สิทธิสมาน เพราะว่าผมต่อต้านไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจของ รสช. บอก เฮ้ยนูณ มึงเอาเงินพี่ไปหน่อยสิ 5 แสนบาท สงสารมันว่ะ เพราะว่ามันจะไม่มีกินอยู่แล้ว คือผมเป็นคนซึ่งทนไม่ไหวถ้าใครถูกรังแก แล้วผมก็ไปพูดกับคุณทักษิณ บอกว่า เฮ้ย คุณทักษิณ เฉลิมมันเคยช่วยคุณในเรื่องไอบีซี ผมจะส่งไอ้นูณไป เอาเงินไปให้มัน คุณจะให้เท่าไร ผมจำได้ ผมพูดกับเขา ที่โรงแรมปริ๊นเซส ผมนั่งกินอาหารอิตาเลียนอยู่ที่ร้านอาหารชื่อปิคาโล แล้วคุณทักษิณกำลังเดินออกมาจากห้องอาหารจีน ดิเอ็มเพรส ผมรีบวิ่งไปบอก ผมไม่ให้ๆ ให้มันไปมากแล้ว มันหักหลังผม มันให้ไอบีซีผม แล้วมันไปให้ไทยสกายกับลูกมงคล กาญจนพาสน์

สนธิ - เอาล่ะ ไม่ให้ก็ไม่ให้ นี่คือตำนาน ของจริง นี่คือการเมืองของจริงพ่อแม่พี่น้อง ที่ต้องมาเล่าให้ฟัง ทีนี้คุณเฉลิม อยู่บำรุง ก็เลยกลายเป็นคนซึ่งมาปกป้อง พล.อ.ชาติชาญ ชุณหะวัณ คล้ายๆ ยงยุทธ ติยะไพรัช กับเนวิน ชิดชอบ คล้าย ๆกัน แต่ว่า พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ไม่ได้เลวร้าย ไม่ได้ถูกกล่าวหามากเหมือนกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผมยังจำได้ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ท่านก็มีกิ๊กของท่านคนหนึ่ง ชื่อตุ่น เสร็จเรียบร้อยแล้ววันดีคืนดี วันหนึ่งไทยรัฐก็ไปเขียนแซวกิ๊กของท่าน ท่านก็โกรธขึ้นมาทันที ฟาดงวง ฟาดงา คุณเฉลิมก็บอก น้าชาติ เดี๋ยวผมจัดการให้เอง คุณเฉลิมก็ตั้งหน่วยเฉพาะกิจไปปราบปรามดิสโก้เธค ซึ่งเปิดเกินเวลา ตอนนั้นไทยรัฐ โดยคุณกำพล วัชรพล นอกจากทำหนังสือพิมพ์แล้วยังทำบาร์ไนท์คลับที่เปิดเกินเวลา แล้วให้เด็กเล็กเข้าไปเสียตัวภายในนั้น ตรงนั้นเขาเรียกว่า เดอะพาเลซ คุณมาช่า วัฒนพานิช ก่อนมาเป็นสาวมาช่าวันนี้ เคยสิงสู่ประจำอยู่ที่เดอะพาเลซ คุณเฉลิมไปปิดเดอะพาเลซ ทีนี้เดอะพาเลซซึ่งจ่ายเงินจ่ายทองเยอะ ได้เงินเยอะมาก รายได้มหาศาล ไม่มหาศาลได้อย่างไร ก็เดอะพาเลซเป็นของไทยรัฐ ตำรวจที่ไหนจะไปกล้าปิด แต่เผอิญเฉลิม อยู่บำรุงไปปิดเลยทะเลาะกันระหว่างเฉลิม อยู่บำรุง กับหนังสือพิมพ์ไทยรัฐเป็นเวลานาน นั่นคือจุดเริ่มต้น หลังจากนั้นแล้ว ช่วงนั้นทหารซึ่งกำลังมีอำนาจก็คือรุ่น 5 จปร.5 ของคุณทักษิณเขาเรียกว่า รุ่น 10 แต่เป็นเตรียมทหารรุ่น 10 พ่อแม่พี่น้องอย่าสับสนนะ ต้องเป็นเตรียมทหารก่อนแล้วค่อยไปต่อ จปร. เพราะฉะนั้นแล้วถ้าเป็น จปร.5 ถ้ามีเตรียมทหาร จริงๆ ก็คือ สมัยนั้นเขาไม่มีเตรียมทหาร เขาก็เป็นรุ่นเก่าไปแล้ว จปร. 5 คือ พล.อ.สุจินดา คราประยูร เป็นหัวหน้ารุ่น ก็ไม่ถูกกับ จปร.7 ห่างกัน 2 รุ่น จปร.7 รู้สึกจะมี พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เป็นหัวหน้ารุ่น 2 รุ่นนี้ทะเลาะเบาะแว้งกันตลอดเวลา ครั้งหนึ่งมีการปฏิวัติ 4 เมษายน พล.ต.มนูญกฤต ซึ่งตอนนั้นเป็นแค่ พ.อ. แล้วยังไม่มีคำว่า กฤต ต่อท้ายมนูญ เข้ามาปฏิวัติพร้อมกันโดยกำลังรุ่น 7 ทั้งหมด 38 กองพล 45 กองพัน แล้วแต่ว่ากันไป ป๋าเปรม จะเอาป๋าเปรมมาชูตัว ป๋าเปรมหนีออกจากบ้านไปอยู่โคราช ไปตั้งกองบัญชาการที่โคราชเพื่อสู้แล้วถ่ายทอดออกวิทยุ จนในที่สุดแล้ว จปร.7 ไม่ต้องการให้มีการนองเลือดเลยยอมยุติ พอยอมยุติเลยโดนดำเนินคดีบ้าง ก็มีข่าวคราวมาตอนนั้นว่า จปร.7 บางคนจะลอบสังหารป๋าเปรม แล้วโยงไปสู่การลอบสังหารพระบรมวงศานุวงศ์ ในราชบัลลังก์ ซึ่งเป็นข่าวซึ่งกล่าวหากัน เรื่องราวเป็นการต่อสู้กันทางศาลมาตลอด เดี๋ยวคนนู้นกล่าวหาคนนี้ จปร.5 มีอำนาจก็เล่นงาน จนในที่สุดมาถึงยุค พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ซึ่งเป็นยุคประชาธิปไตย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ท่านก็เรียก พ.อ.มนูญ รูปขจร มาช่วยงาน มาเป็นที่ปรึกษา ก็เกิดความไม่ไว้วางใจกันระหว่าง จปร.5 ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากับ จปร.7 อย่างมากเลย เลยเริ่มไม่ไว้ใจ ประกอบกับความสัมพันธ์ของคุณเฉลิมกับสื่อมวลชนอย่างไทยรัฐไม่ค่อยดี ไทยรัฐเลยกระแทกรัฐบาลชุดชาติชาย ชุณหะวัณ ตลอดเวลา จริงไม่จริงก็ซัดตลอด ไทยรัฐจะเป็นอย่างนี้มานานแล้วไม่ใช่เพิ่งเป็นในยุคพวกเราสู้กับทักษิณ เป็นของเขา สันดานเป็นอย่างนี้มานานแล้ว เพราะฉะนั้นพ่อแม่พี่น้องไม่ต้องประหลาดใจ วิญญาณหนังสือพิมพ์เขาไม่มีหรอกคนพวกนี้ ขอนอกเรื่องนิดหนึ่ง ไทยรัฐตอนนี้กำลังแกล้งผมอยู่ เขาแกล้งอย่างไรรู้ไหม เขาแจ้งให้เอเย่นต์หนังสือพิมพ์ต่างจังหวัด เอเย่นต์มีหน้าที่ส่งหนังสือเข้าร้านหนังสือซีเอ็ด เขาบอกว่า ถ้ามีหนังสือเครือผู้จัดการไปเขาจะไม่ส่งไทยรัฐ เพราะเขาเจ็บใจที่ผมไปว่าหนังสือพิมพ์เขา อยากให้พ่อแม่พี่น้องที่ดูเอเอสทีวีอยู่ ตกลงในเครือร้านหนังสือซีเอ็ดจะไม่มีผู้จัดการขาย หรือหนังสือในเครือขาย เพราะฉะนั้นพ่อแม่พี่น้องที่รักความเป็นธรรมแล้วดูรายการนี้อยู่ ไม่ว่าจะอยู่เหนือ อีสาน ใต้ ถ้าจะช่วยสนธิ อย่าซื้อไทยรัฐ อย่าซื้อเด็ดขาด อย่าซื้อ เพราะว่าคอลัมนิสต์ไทยรัฐบางคนใช้ไม่ได้ อย่างกิเลนประลองเชิง หรือชื่อนายประกิต มาเขียนบอกว่าพวกเราเนี่ยเป็นพวกนั่งร้านสร้างกำแพง กำแพงเสร็จก็ต้องรื้อร้านทิ้ง คุณรู้อะไรคุณประกิต หรือคอลัมน์ที่คนใช้ชื่อว่าแม่ลูกจันทร์ นายชูพงษ์ มณีน้อย คุณรู้เรื่องอะไรกับการต่อสู้ คุณไม่เคยต่อสู้อะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ชีวิตพวกคุณไม่เคยสู้เผด็จการ คุณคือนักหนังสือพิมพ์ที่สยบต่ออำนาจ นายคุณสั่งให้คุณเขียนอะไร เพราะว่านายคุณมีผลประโยชน์กับผู้มีอำนาจ คุณก็เขียนตาม คุณไม่มีสิทธิมาว่าผมหรอก นายประกิต กิเลนประลองเชิง ข้อเขียนคุณเนี่ย ห่วย แล้วไม่ได้สะท้อนถึงภูมิปัญญาอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว มันสะท้อนถึงความรู้บางอย่างของคุณเท่านั้นเอง แต่จริยธรรม คุณธรรม จิตวิญญาณในการต่อสู้ คุณไม่เคยมีเลยแม้แต่นิดเดียว คุณอย่ามาอ้างว่าคุณเป็นนักเขียน มิหนำซ้ำแล้ว วันนี้จากการซึ่งเราสู้มาแล้วเราต่อว่าหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ไทยรัฐเคยแกล้งเรามาหลายครั้ง สมัยก่อนเราส่งหนังสือผ่านรถส่งไทยรัฐ ไม่รับหนังสือผู้จัดการ เราต้องส่งเอง สมัยนี้มาสั่งบอกว่า เอเย่นต์ตามจังหวัดต่างๆ ที่ส่งหนังสือเข้าร้านซีเอ็ด ถ้ายังรับผู้จัดการ เขาจะไม่ส่งไทยรัฐเข้า พ่อแม่พี่น้องที่รักผม ที่ต้องการช่วยผม อีสานเหนือ อีสานใต้ ภาคเหนือตอนบน ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคใต้ตอนบน ภาคใต้ตอนล่าง กรุณาอย่าซื้อไทยรัฐ ช่วยผมหน่อยเถอะ มีหนังสืออ่านเยอะแยะ ซื้อคม ชัด ลึก ก็ได้ไม่เป็นไร อย่าไปซื้อ นี่ขอนอกเรื่องนิดหนึ่ง ผมว่าจะไม่พูดเรื่องนี้แล้ว แต่ต้องพูด นะครับ ช่วยเถอะครับ อย่าซื้อไทยรัฐ เคยรับประจำที่ร้านกาแฟ เลิก บอกขอคม ชัด ลึก เคยสั่งแผงหนังสือให้ส่ง เคยสั่งแขกบอกให้ส่ง บอก เฮ้ยไม่เอาแล้ว ขอเป็นคมชัดลึก หรือยี่ห้ออื่น อย่าไปซื้อเด็ดขาด ผมอยากจะรู้ว่หนังสือที่กองขนาดนี้ แล้วพอผ่านไปมันไม่ได้ลดเลย แล้วต้องส่งคืนโรงพิมพ์เนี่ย เขาจะรู้สึกยังไง ช่วยผมหน่อยเถอะครับ นะครับ ถ้าเขายังแกล้งผมอยู่อย่างนี้

สนธิ - เอาล่ะ ตอนนี้พอคุณเฉลิมทำอย่างนี้ขึ้นมาปังปั๊บ เขาหมั่นไส้รัฐบาลชุด พล.อ.ชาติชาย คุณมนตรีก็ทำงานไป เอ้า ใครมีโครงการมา นายกอร์ดอน วู ต้องการจะสร้างโฮปเวลล์ ที่มีเสาบ้าที่อยู่ตามวิภาวดีรังสิตนั่น ก็มาเซ่นคุณมนตรี พงษ์พานิช คุณมนตรีก็อนุมัติโครงการไป แล้วจู่ๆ วันดีคืนดี พล.อ.ชาติชาย ก็บอกกับคุณมนตรี พงษ์พานิช เพราะว่าสมัยก่อนนั้น พล.อ.ชาติชาย จะใช้วิธีกินข้าวเช้าอาทิตย์ละครั้ง กับพวก พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ พล.อ.สุจินดา คราประยูร หรือพวกบรรดารุ่น 5 ทั้งหลาย การกินข้าวเช้านั้นคือการสัมผัสว่า เฮ้ย มึงคิดยังไงกับกูวะ วันหนึ่งเนื่องจากว่ากระแสที่ความไม่พอใจของทหารรุ่น 5 ที่มีต่อ พล.อ.ชาติชาย ในกรณีของการที่เอารุ่น 7 เข้ามาช่วยงาน เริ่มแรงขึ้น วันหนึ่ง พล.อ.ชาติชาย ก็เรียกคุณมนตรี พงษ์พานิช มา ก็บอกว่า เฮ้ย มนตรี เขามาขอกู้เว้ย เขามาขออั๊วเว้ย ขอทำโทรศัพท์บ้าน ใครขอรู้ไหมฮะ ซี.พี. เจียรวรานนท์ เพราะว่าตอนนั้นตระกูลเจียรวรานนท์ กับตระกูลหนุนภักดี เป็นคู่เขยกัน ทางอิสรพงศ์ หนุนภักดี ให้เขาไปหน่อยเถอะวะ นั่นคือที่มาของการที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้โทรศัพท์พื้นฐาน โทรศัพท์บ้าน เอาไปทำ 3 ล้านเลขหมาย ถ้าคนเก่าๆ แก่ๆ ยังจำได้ ได้ไปเลย เมื่อได้ไปแล้ว คือจู่ๆ คนซึ่งเคยขายไก่ ขายเมล็ดพันธุ์พืช จู่ๆ มาทำโทรศัพท์ ประสบการณ์ก็ไม่มี แต่ว่า ผ่านทางนายหน้า แล้วผ่านทางสายสัมพันธ์ทางการเมือง พล.อ.ชาติชาย ก็คิดว่า เฮ้ย ถ้าฉันให้โทรศัพท์ไป รุ่น 5 คงจะพอใจแล้ว แต่การณ์ไม่ใช่เช่นนั้น ที่การณ์ไม่เช่นนั้นก็เพราะว่าตอนนั้นเกิดมีกุนซือของ พล.อ.ชาติชาย ไปบอกว่า ท่านครับถ้าจะเอารุ่น 5 ให้อยู่ต้องดึง พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก พล.อ.อาทิตย์ เป็นนักการเมืองอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาล พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก เคยเป็นผู้บัญชาการทหารบกแล้วถูก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ปลดกลางอากาศ ตอนนั้นท่านเป็นนายกรัฐมนตรี เหตุผลที่ปลดกลางอากาศเพราะว่าตอนนั้นมีการลดค่าเงินบาท พล.อ.เปรม ท่านเป็นนายกรัฐมนตรี นายสมหมาย ฮุนตระกูล รมว.คลัง ท่านบอกว่า ค่าเงินบาทแข็งเกินไปแล้วสถานภาพไม่ดี การส่งออกลำบาก จำเป็นต้องลดค่าเงินบาทแล้วเงินดอลลาร์เราไม่เหลือ พล.อ.เปรม ตัดสินใจทำ แล้วการตัดสินใจทำครั้งนั้นรู้กันแค่ 3 คน พล.อ.เปรม นายสมหมาย และผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ไม่เหมือนยุค พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่ทำกันแล้วรู้กันไปหมด แล้วทำมาหารับประทานกับการลดค่าเงินบาทจนร่ำรวย แล้วเอาเงินจากการลดค่าเงินบาทมาเล่นการเมือง แต่ยุค พล.อ.เปรม ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตของท่าน ท่านประกาศลดค่าเงินบาทตูมเลย พอลดค่าเงินบาท วันรุ่งขึ้นมันช็อกกันทั้งวงการ ช็อกกุ ช็อกหมด คนที่เสียหายคือคนที่สั่งของอิมพอร์ตจากต่างประเทศมา คนๆ หนึ่งซึ่งเสียหายมากคือ คุณสว่าง เลาหะไทย(***) ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทศรีกรุง ศรีกรุงเป็นเจ้าของปุ๋ยที่ยิ่งใหญ่ ผูกพันกับธนาคารกรุงเทพ ขาดทุนมาก คุณสว่างสนิทพล.อ.อาทิตย์ พล.อ.อาทิตย์ ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก ออกมาให้สัมภาษณ์ การลดค่าเงินบาททำให้ประเทศชาติเสียหายมากไม่ควรจะทำ น่าจะพิจารณาใหม่ เท่านั้นเอง พล.อ.เปรม เลยเซ็นคำสั่งปลด พล.อ.อาทิตย์ พล.อ.อาทิตย์ ตอนหลังเลยมาเล่นการเมือง พอมาเล่นการเมืองก็มีคนแนะนำว่า วิธีที่ป้องกันไม่ให้รุ่น 5 ใหญ่เกินตัว เอา พล.อ.อาทิตย์ มาเป็น รมช.กลาโหม มาคุมคนพวกนี้ ทีนี้ถ้ามองการปฏิวัติครั้งนั้น รสช. 23 กุมภาพันธ์ 2534 มองในมุมมองของทหารรุ่น 5 แล้ว เป็นการปฏิวัติเพื่อที่จะยึดอำนาจเพื่อปกป้องอำนาจตัวเองไม่ให้ถูกปลด คล้ายกันไหม ผมถึงบอกประวัติศาสตร์มันซ้ำรอย ทำไมผมพูดอย่างนี้ ที่ผมพูดอย่างนี้เพราะว่า พล.อ.อ.เกษตร โรจนนินท์ หรือ บิ๊กเต้ อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ และรองหัวหน้า รสช.เคยให้สัมภาษณ์อย่างนี้ตอนยึดอำนาจ ให้สัมภาษณ์ว่า การตัดสินใจของ รสช.ที่ยึดอำนาจ เพราะกลัวว่ารัฐบาลจะแทรกแซงเรื่องการโยกย้าย มีหลักฐานหมด เพราะฉะนั้นแล้ว รสช.พอยึดอำนาจเข้าไปปัง ก็กะทันหันมากไม่รู้จะทำอย่างไร ระหว่างยึดอำนาจทำอะไรไม่ถูก เพราะเดิมที พล.อ.ชาติชาย กำลังจะขึ้นเครื่องบินไปพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศ เขาไปให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ลงพระปรมาภิไธย เรื่องการแต่งตั้ง พล.อ.อาทิตย์ เดิมทีคิดว่าให้เดินทางไปกลับมาแล้วค่อยจับตัว แต่ปรากฎว่าแผนเปลี่ยนกะทันหันให้จับก่อนขึ้นเครื่องบิน นั่นคือที่มา พล.อ.ชาติชาย ก็ถูกจับ นายพันธ์ศักดิ์ วิญญรัตน์ ก็ถูกจับ คุณอนันต์ อนันตกูล ก็ถูกจับ ระหว่างนั้นฉุกละหุกถึงขนาดที่เขียนคำแถลงการยึดอำนาจ ตอนถ่ายทอดสด พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ หรือ บิ๊กจอร์จ อ่านแถลงการณ์ผิด ระหว่างออกทีวีบอก เฮ้ยๆ เอาใหม่ เอาใหม่ ต่อหน้าสาธารณชนที่ดูกันเป็นล้านๆ คน นี่คือความฉุกละหุกในการยึดอำนาจตอนนั้น ทีนี้พอยึดอำนาจแล้ว ทายซิพ่อแม่พี่น้องว่าเหตุผลที่ยึดอำนาจนั้นมีกี่ข้อ 5 ข้อ ฟังให้ดีๆ พร้อมหรือยัง ข้อที่ 1 มีการทุจริตคอร์รัปชั่นในบรรดารัฐมนตรีร่วมรัฐบาลอย่างกว้างขวาง คล้ายๆ กันไหม 2. ข้าราชการการเมืองรังแกข้าราชการประจำ 3. รัฐบาลเป็นเผด็จการทางรัฐสภา 4. มีการพยายามทำลายสถาบันทหาร 5. บิดเบือนคดีวันลอบสังหาร เพื่อมีจุดมุ่งหมายในการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ฟังคุ้นหูไหม พอฟังคุ้นหูแล้วเนี่ย มีอะไรคุ้นหูมั้ย 23 กุมภาฯ ยึดอำนาจ 24 กุมภาฯ แล้วดูนะ เหมือนมั้ย ดูรูป ประชาชนเอาดอกไม้ไปให้ทหาร เหมือนเลย ไม่ได้ต่างกันเลยให้ตาย เหมือนกัน แล้ว พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ก็ไปรับสนองพระบรมราชโองการ 23 ยึดอำนาจ 24 กุมภาพันธ์ วันรุ่นขึ้น พล.อ.สุจินดา คราประยูร เรียกหนังสือพิมพ์ บรรณาธิการทุกฉบับมาพบ แล้วบอกยังไงรู้ไหม "ผมจะคืนอำนาจให้ประชาชนภายใน 6 เดือน" คำพูดของสุจินดา คราประยูร สัญญาสุภาพบุรุษคืนอำนาจให้ประชาชนเมื่อนั้น และก็เมื่อนี้ มุกนี้เขาต้องใช้ตลอดเวลา เพราะว่าเขากลัวความกดดันของต่างชาติที่จะมีต่อ นะครับ

สนธิ - กุมภาพันธ์ ประกาศยึดทรัพย์ ประกาศยึดทรัพย์นักการเมืองเลยนะ ประกาศ รสช. ฉบับที่ 26 แต่งตั้งให้ พล.อ.สิทธิ จิรโรจน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน มีนายสุธี อากาศฤกษ์ นายมงคล เปาอินทร์ นายไพศาล กุมาลย์วิสัย นายสุชาติ ไตรประสิทธิ์ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ และนายชัยเชต สุนทรพิพิธ ร่วมเป็นกรรมการ ให้อำนาจในการอายัดและห้ามจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์สินของนักการเมืองที่มีพฤติกรรมอันส่อแสดงว่ามีทรัพย์สินร่ำรวยผิดปกติ คณะรัฐมนตรีที่ถูกยึดทรัพย์มีทั้งหมด 25 คน พรรคชาติไทยมี 12 คน นะครับ พรรคกิจสังคม 5 คน พรรคประชาธิปัตย์ 3 คน พรรคราษฎร 2 คน พรรคประชากรไทย 1 คน พรรคเอกภาพ 1 คน คือนายณรงค์ วงศ์วรรณ และพรรคมวลชน 1 คน คือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง

สนธิ - ช่วงนั้นเหตุที่เกิด ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หนีไป ผมเนี่ยไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับชาวบ้านเขา เป็นเพียงแต่ผมเนี่ยมีความสนิทสนมกับไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ สุรเกียรติ์ เสถียรไทย พันศักดิ์ วิญญรัตน์ ซึ่งเป็นประธานที่ปรึกษา ปรากฏว่าวันที่เขารัฐประหารนั้นเป็นวันที่เรากำลังจะเลี้ยงฉลองปีใหม่ของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ สั่งจองสถานที่ไว้แล้วที่บ้านคุณหลวง จองไว้เรียบร้อยหมดแล้ว เตรียมที่จะไปกัน จู่ๆ อาจารย์ชันอนันต์ก็จะบินกลับมา ดร.ชัยอนันต์ สมุทวณิช ผมก็ได้ข่าวว่ามีการปฏิวัติ ไอ้เราก็กลัว ว่าอาจารย์ชัยอนันต์เราเนี่ยจะลำบาก เพราะว่าอาจารย์ชัยอนันต์ท่านเป็นคนซึ่งต่อต้านการปฏิวัติของทหาร อุตส่าห์ไปรับที่สนามบินดอนเมือง รับมา อาจารย์เขาปฏิวัติแล้วนะ อย่ากลับบ้านๆ ก็ไปทานข้าวกันที่โรงแรมปริ๊นเซสก่อน ระหว่างทานข้าวโรงแรมปริ๊นเซส ผมก็บอกอาจารย์ อาจารย์เดี๋ยวคืนนี้ไปนอนโรงแรมดีกว่า ก็เลยตัดสินใจว่าให้อาจารย์ไปนอนโรงแรมมณเฑียร ซึ่งเป็นที่ที่คุณพิทักษ์ อินทรวิทยนันท์ ก็หนีไปนอนโรงแรมมณเฑียร แต่ว่าก่อนที่จะไปมณเฑียร มีเรื่องตลก ที่ทำการหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ซึ่งเป็นตึกแถวอยู่ข้างๆ บ้านพระอาทิตย์ ข้างบนมันมีห้องนอนระหว่างที่เหนื่อยกับการทำงานก็จะนอนพัก ผมก็บอก อาจารย์ก่อนไปมณเฑียรไปพักตรงนี้ไม่มีใครรู้หรอก ยังไม่ทันไรมีเพจเข้ามาแล้ว สมัยก่อนไม่มีโทรศัพท์มือถือ มีแต่เพจ "คุณสนธิอย่ากลับนะทหารเต็มออฟฟิศ" ปรากฏว่า พล.อ.วิโรจน์ แสงสนิท ตอนนั้นท่านคุม ปตอ. ส่งทหารมา 2 คันรถ พร้อมปืน มาจับผมด้วยข้อหาว่า ผมหาที่กบดาน ซ่อนตัวให้ พ.อ.มนูญ รูปขจร ซึ่งผมไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่นิดเดียว เขาบอกอย่ากลับ ไม่กลับก็ไม่กลับ เขาเอาทหารขึ้นไปค้นออฟฟิศ ผมนึกในใจ ตายแล้วกูถ้าให้อาจารย์ชัยอนันต์นอนที่นี่โดนจับไปซะแล้ว ทำไมช่วงปฏิวัติคนถึงวิ่งหนีกันหมด เพราะช่วงนั้นเขาเรียกว่า ช่วงมั่ว ใครจะทำอะไรใครก็ไม่มีใครรู้ อาจารย์ชัยอนันต์ คืนนั้นเลยไปพักที่โรงแรมมณเฑียร ผมก็นั่งอยู่ในรถตลอดทั้งคืน ขับไปเรื่อยๆ มีเพื่อนนั่งอยู่ด้วย น้องๆ นั่งอยู่ด้วย จนกระทั่งตอนเช้า พอตอนเช้าเรื่องก็สงบ เพราะในช่วงปฏิวัติเป็นช่วงเช็คบิลกัน ใครเกลียดใครเป็นพิเศษก็จัดการมันซะ แต่พอช่วงเช้าเหตุการณ์กลับมาเป็นปกติแล้วปฏิวัติได้เรียบร้อยแล้วทุกอย่างถอยกลับมาสู่สถานการณ์เดิม คือ ร่างคำสั่งเพื่อจะมีเรื่องราวต่างๆ ที่ต้องทำกันต่อไป น่าสนใจมาก ภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือน เขาตั้งรัฐบาลทันที ทีนี้ พล.อ.สุจินดา คราประยูร จำเป็นต้องตั้งรัฐบาลทันที แล้วต้องเอาคนที่มีชื่อเสียงที่ต่างชาติยอมรับมาเป็นนายกรัฐมนตรี เขาเลยเชิญ คุณอานันท์ ปันยารชุน มาเป็นนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 2 มีนาคม 2534 บุคคลสำคัญที่ต้องกล่าวถึง คนที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีแล้วยังเป็นประธานกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญนั้นชื่ออะไร คุณมีชัย ฤชุพันธุ์ คุณมีชัย กล่าววาจาดุจดั่งทองคำออกมาในตอนนั้นว่า "ผมจะไม่ให้อดีต 25 รัฐมนตรียุคชาติชายกลับมาเล่นการเมืองอีก" เหมือนกับวาจาทองคำที่กล่าวตอนนี้เหมือนกันว่า "ผมจะร่างรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุด" สัญญาลูกผู้ชายโน้นนี้ แต่อะไรอยู่ข้างหลังไม่รู้ แล้วคุณมีชัยบอกว่า จะยกเครื่องกฎหมาย 110 ฉบับ ปิดโอกาสคอร์รัปชั่น โอ๊ย ทุกคนสรรเสริญการรัฐประหารมาก ขอบพระคุณมากที่เข้ามา ขอบพระคุณมากที่เข้ามา อนิจจา น้ำผึ้งพระจันทร์กลายเป็นยาพิษน้ำคลำ แรกๆ คุณสุจินดาบอกว่าจะอยู่ในอำนาจ 6 เดือน หนึ่ง สองมีการอายัดทรัพย์และตรวจทุจริตนักการเมืองโกงกิน สาม มีการประกาศความผิดรัฐบาลที่แล้วมาอย่างกว้างขวางถึง 5 ข้อ สี่ มีการร่างรัฐธรรมนูญและประกาศหลักการใหม่ เรื่องป้องกันคอร์รัปชั่น มีนา-เมษา-พฤษภา-มิถุนา-กรกฎา ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดันมีข่าวร้ายเกิดขึ้น คุณทนง โพธิอาจ ผู้นำแรงงาน ถูกอุ้มหายตัวลึกลับ ตายไปแล้ว จากฝ่ายทหารเป็นคนทำ สังคมไทยเห็นชัดเจนว่า รัฐธรรมนูญใหม่ที่นายมีชัยร่างนั้นมีบทเฉพาะกาลที่ให้คนนอกมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ นี่คือการร่างรัฐธรรมนูญเผื่อ พล.อ.สุจินดา มาเป็นนายกรัฐมนตรี ทีนี้จะเป็นนายกฯ ได้อย่างไรถ้าไม่มีการเลือกตั้ง ก็ต้องมีการเลือกตั้งซิ เมื่อต้องการมีการเลือกตั้งต้องหาพรรคการเมือง การหาพรรคการเมืองก็ต้องคนที่อยู่ในวงการเมืองด้วยกัน แล้วใครล่ะ เลยออกนโยบายเป็นส่วนตัวว่า ใครก็ตามที่อยากเล่นการเมืองแล้วสนับสนุน รสช.ให้เป็นนายกรัฐมนตรี ให้บอกมา ถ้าใครบอกมาแล้วมาร่วมก็ถอดชื่อออกจากการอายัดทรัพย์ เพราะฉะนั้นการอายัดทรัพย์ก็ไม่มีความหมาย การยึดทรัพย์ก็ไม่มีความหมาย คุณณรงค์ วงศ์วรรณ มีชื่ออยู่ พอตัดสินใจมาเป็นหัวหน้าพรรคสามัคคีธรรม ก็ถูกถอดชื่อออกจากการถูกอายัดทรัพย์ ใครเข้ามาร่วมคุณณรงค์ วงษ์วรรณ ก็ถูกถอดชื่อออกมา คุณณรงค์ วงษ์วรรณ ยุคนั้น พรรคสามัคคีธรรม ก็ได้สร้างเพาะเชื้อเอาไว้คนหนึ่งตอนนั้นชื่อนายเนวิน ชิดชอบ อยู่ในพรรคนั้น เห็นหรือยัง ว่าที่มาที่ไปของคนเนี่ย คนได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมเลว โตมาก็เลวตาม นี่เห็นได้ชัดเลยงานนี้ ใช่ไหมฮะ มีคนเขาถาม พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ เขาถามว่า จะให้ใครเป็นนายกฯ ครับ นักข่าวถาม พล.อ.สุนทร บอก สุฯ เหมาะสม นักข่าวถามต่อ ก็ในเมื่อท่านนายกฯ ท่าน พล.อ.สุจินดา บอกไม่รับตำแหน่งนายกฯ ท่านก็บอกว่า สุฯ ไม่เอา เอาให้เต้ ท่านเห็นประเทศไทยเป็นของพวกท่านไปหมด เข้าใจไหมฮะ เพราะฉะนั้นแล้ว วันที่ 18 พฤศจิกายน 2534 สิบห้าปีที่แล้วพ่อแม่พี่น้อง นี่อีก 10 กว่าวัน 20 วัน ก็จะถึงเดือนพฤศจิกาฯ แล้ว 15 ปีที่แล้วนะ พล.อ.สุจินดา คราประยูร พูด ณ หอประชุมกองทัพบก พูดว่ายังไง "ที่พูดกันว่าสภา รสช. จะสืบอำนาจโดยการใช้รัฐธรรมนูญนั้น เราขอยืนยันว่า จะไม่มีการสืบทอดอำนาจโดยสมาชิกสภา รสช. จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการจัดตั้งรัฐบาล หลังจากการเลือกตั้งแล้ว สภา รสช.จะหมดไปเองโดยอัตโนมัติ ผู้บัญชาการเหล่าทัพก็กลับไปทำหน้าที่ในกองทัพอย่างเดียว ที่พูดกันว่า พล.อ.สุจินดา เป็นนายกฯ พล.อ.เกษตร จะเป็นนายกฯ นั้น ขอยืนยันในที่นี้ว่า ทั้ง พล.อ.สุจินดา และ พล.อ.อ.เกษตร จะไม่เป็นนายกฯ" วันที่ 18 พฤศจิกายน 2534 คำพูดของ พล.อ.สุจินดา คราประยูร แล้วเป็นไง

สนธิ - หลังจากนั้นอีก แค่ 6 เดือน พล.อ.สุจินดา ก็มาเป็นนายกฯ แล้ว พล.อ.สุจินดา พูดยังไงรู้ไหม พล.อ.สุจินดา พูดเมื่อวันที่ 8 เมษายน หลังจากที่เป็นนายกฯ วันที่ 7 พูดกับนายทหารชั้นผู้ใหญ่ อำลาตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก เพื่อไปรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยเสียงสั่นเครือสะอื้นไห้ พูดว่า "เรายอมเสียสละได้แม้แต่ชีวิต เพื่อประเทศชาติ เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่อเกิดความจำเป็นที่เราต้องทำงานเพื่อชาติ การเสียชื่อเสียง เสียสัจจะวาจา ก็อาจจะต้องมีความจำเป็น" พ่อแม่พี่น้องนี่คือคำพูดของชายชาติทหาร สุจินดากับน้ำตาและเสียงสะอื้นไห้ในวันแห่งการสารภาพ เพื่อชาติ เพื่อบ้านเมือง เราอาจจะต้องเสียสัจจะ คุณไม่ได้ทำเพื่อชาติเพื่อบ้านเมืองหรอก คุณทำเพื่อตัวคุณเอง

สนธิ - พ่อแม่พี่น้องจะเห็นได้ชัดว่า พล.อ.ชาติชาย ถูกไล่ออกไปอยู่ต่างประเทศ อยู่ที่มหานครลอนดอน หัวหน้าพรรคก็ว่าง ก็เอา พล.อ.สมบุญ ระหงษ์ ผู้อำนวยการการท่าอากาศยาน ซึ่งมีสายสัมพันธ์ดีกับทหาร มาเสียบแทน คนที่หวังดีก็เลยตั้งพรรคเพื่อรองรับ พล.อ.สุจินดา และคนที่วิ่งเต้นมาในการตั้งพรรคชื่ออะไร พ่อแม่พี่น้องรู้หรือเปล่า ชื่อฐิติ นาครทรรพ คนๆ เดียวกับที่ขณะนี้มาวิ่งเต้นให้กับ คมช. รวบรวมพรรคการเมืองต่างๆ คนเดียวกัน ประวัติศาสตร์มันช่างซ้ำรอยอะไรเช่นนี้ ตอนนี้ก็เลยกวาดบรรดานักเลือกตั้งที่กระเซ็นกระสาย มารวมกัน เพื่อรองรับคณะทหารในการเลือกตั้งครั้งใหม่ และกลายเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด จนทำให้การอายัดทรัพย์ การตรวจสอบทรัพย์ ทุจริตของคณะกรรมการที่มี พล.อ.สิทธิ จิรโรจน์ อยู่ ถูกแทรกแซงตลอดเวลา ประกาศชื่อวันนี้ พรุ่งนี้ต้องถอดชื่อออก ประกาศชื่อพรุ่งนี้ มะรืนต้องถอดชื่อออก เลยกลายเป็นตลก ไม่สามารถจะยึดทรัพย์ใครได้เลย จะยึดได้ก็เฉพาะใครล่ะ คนที่ไม่ยอมศิโรราบต่อทหาร นะครับ

สนธิ - เพราะฉะนั้นแล้วจะเห็นได้ชัดว่า รสช.ในครั้งนั้น เพราะว่าอะไร เพราะว่าเมาในอำนาจ อำนาจนี่มันเป็นเชื้อไวรัสที่น่ากลัวมาก ใครติดเข้าไปแล้วมันเมาทุกคน เมื่อเมาเชื้ออำนาจแล้วเนี่ย รสช. ขึ้นต้นด้วยมีคนเอาดอกไม้ไปให้ ข่าวสารบ้านเมืองช่วงแรก รสช. ถ้าไปค้นดูจะพบว่า เป็นไปในทางบวก ทุกคนโมทนาสาธุหมด แต่แล้วระยะฮันนีมูนก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วเพราะ รสช.ไม่ได้ใช้ธรรมนำหน้า ใช้อำนาจนำหน้า พอได้อำนาจมาก็คิดที่จะอยู่ต่อไป การร่างรัฐธรรมนูญก็หมกเม็ด โดยมีนายมีชัยและพวกหมกเม็ด เพราะมือเขียนรัฐธรรมนูญ มีชัยและพวก กำหนดให้อำนาจวุฒิสมาชิกสามารถลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลได้ ให้ข้าราชการประจำสามารถดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ ให้ประธานรัฐสภา ก็คือประธานวุฒิสภา ซึ่งเป็นสภาแต่งตั้ง เป็นผู้สนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี เขาเขียนรัฐธรรมนูญให้วุฒิสมาชิกมาคุมสภา ซึ่งวุฒิก็คือข้าราชการประจำ และพรรคพวกเขานั่นเอง การเตรียมพรรคการเมืองเพื่อสืบทอดอำนาจก็ดำเนินโดย น.ต.ทิติ นาครทรรพ แล้วใช้วิธีต่อรองว่า ถ้าใครเข้ามาร่วมไม่ต้องยึดทรัพย์ บ้าอำนาจใช้วิธีรุนแรงต่อฝ่ายตรงข้าม มีการฆ่านายทนง โพธิ์อ่าน ข่มขู่ ดร.ชัยอนันต์ ตัดหัวหมาแล้วโยนเข้าบ้านอาจารย์ชัยอนันต์เพื่อขู่ เพราะ ดร.ชัยอนันต์เป็นคนซึ่งไม่เห็นด้วย ไม่มีสัจจะเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะฉะนั้นแล้วข้อหาแรก มีการทุจริตคอร์รัปชั่นในบรรดารัฐมนตรีร่วมรัฐบาลอย่างกว้างขวาง อายัดทรัพย์ก็อายัดไม่จริง ปล่อยให้เกิดการต่อรองจนหลุดหมด เขียนคำสั่งเปิดช่องให้นักการเมืองหลุดได้ เหมือนการตั้งคณะกรรมการ คตส.แรกๆ จำได้ไหม คล้ายกัน ข้อที่สอง ข้าราชการเมืองรังแกข้าราชการประจำ กลายเป็นพอพวกตัวเองเขาไปมีอำนาจก็รังแกอีกฝ่ายเหมือนกัน ข้อที่สาม รัฐบาลเป็นเผด็จการรัฐสภา ไปกล่าวหาว่ารัฐบาลชุด พล.อ.ชาติชาย เป็นเผด็จการรัฐสภา แต่นายมีชัยเขียนรัฐธรรมนูญให้วุฒิแต่งตั้ง วุฒิที่มาจากการแต่งตั้งคุมสภาได้ ตัวเองก็กลับกลายมาเป็นเผด็จการรัฐสภาเหมือนเดิม ข้อที่สี่ มีการพยายามทำลายสถาบันทหาร แต่ตัวเองให้พรรคพวกสืบทอดอำนาจที่ปฏิวัติเพราะกลัวเขาปลด ข้อที่ห้า บิดเบือนคดีวันลอบสังหาร ซึ่งมีจุดมุ่งหมายล้มล้างสถาบันกษัตริย์ แต่ที่สุดข้อหานี้เป็นข้ออ้างในการยึดอำนาจ เพราะสร้างหลักฐานเท็จ กลายเป็นแอบอ้างสถาบันเพื่อยึดอำนาจ

สนธิ - พ่อแม่พี่น้องที่โตแล้วรู้เรื่องพฤษภาทมิฬ แต่ไม่เคยเข้าร่วม กับที่ยังหนุ่มยังสาวอยู่ไม่รู้เรื่องพฤษภาทมิฬ ผมจะเล่าให้ฟัง พฤษภาทมิฬเกิดขึ้นได้อย่างไร เกิดขึ้นได้เพราะข้อที่1. โกรธแค้น การตระบัดสัตย์ของ พล.อ.สุจินดา คราประยูร คล้ายๆ ไหม คล้ายๆ การตระบัดสัตย์ของนายทักษิณ ชินวัตร ที่บอกว่า จะเว้นวรรคแล้วไม่เว้นวรรค 2. การร่างรัฐธรรมนูญหมกเม็ดสืบทอดอำนาจและเป็นเผด็จการ 3. ใช้อำนาจมิชอบ แสดงให้เห็นความไม่มีธรรมะของคณะ รสช. ประวัติศาสตร์เป็นเรื่องที่เรียนรู้สนุกมาก เพราะกงล้อของมันหมุนวนกลับมาที่เดิม จะมีเหตุคล้ายคลึงกันเปรียบเทียบเป็นข้อคิดได้เสมอ ข้อแรก ผมอยากจะบอกรัฐบาลชุดนี้หรือ คมช.ว่า กรุณาอย่าให้พี่ลองของผม พล.ต.จำลอง เขียนจดหมายเปิดผนึกไปให้เด็ดขาด เพราะแกเขียนทีไรรัฐบาลพังทุกที ทุกๆ ครั้ง เพราะว่า ในเดือนธันวาคม 2534 ตอนที่รัฐธรรมนูญหมกเม็ดผ่านสภา พล.ต.จำลอง หัวหน้าพรรคพลังธรรมขณะนั้น ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงพี่จอร์จ และพี่สุ ่จดหมายพล.ต.จำลอง เขียนว่าไง "เรื่องนี้ยังไม่ทันจางหายไปเรื่องใหม่ก็มา หนักยิ่งกว่าเก่า คือเรื่องรัฐธรรมนูญ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ทั้งสองปล่อยให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านวาระสองออกมาอย่างนี้ ทั้งเรื่องที่มาและอำนาจของวุฒิสมาชิกเป็นเรื่องฟ้องอยู่ชัดๆ ว่า สภา รสช.ของพี่ต้องการจะสืบทอดอำนาจอย่างไม่ถูกต้อง พี่จอร์จกับพี่สุร่วมปฏิวัติเศรษฐกิจสูญเสียเป็นหมื่นเป็นแสนล้านบาท ถ้าปล่อยให้รัฐธรรมนูญเผด็จการผ่านวาระที่ 3 ไป วันนี้ชาติของเราต้องสูญเสียอีกเท่าไร จะไม่ช่วยกันแก้หรือครับ" เห็นหรือยัง หลังจากนั้นแล้ว กระสุนนัดแรกก็ดังขึ้นมา ตำนานการต่อสู้ในเดือนพฤษภาทมิฬนั้น เป็นตำนานการต่อสู้ของอำนาจกับนักประท้วง นักประท้วงซึ่งบริสุทธิ์ จิตใจบริสุทธิ์ คล้าย ๆกับที่ผมสู้กับนายทักษิณ ชินวัตร แต่มาคนละรูปแบบ ก่อนที่จะมีเรื่อง ท่านอนันต์ อนันตกูล ท่านปลัดอนันต์ สมัยนั้นเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย หลังจากที่ถูกจับตัวแล้ว ตอนหลังก็มีคนไปเคลียร์ให้ ท่านก็กลับมาเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยอีก ท่านนัดผมกินกาแฟที่โรงแรมรีเจ้นท์ ท่านก็บอก ท่านเป็นห่วง ท่านรักผมเหมือนน้องชาย ท่านบอก สนธิ อย่าไปว่าเขามากนักนะ หนังสือพิมพ์สนธิฉบับเดียวที่ต่อต้านเขาตลอด สนธิ ถ้าสนธิยอมเขาเสียบ้าง เขามีอำนาจอยู่ และเข้าจะมีอำนาจอีกนาน สนธิก็จะสบาย ผมบอก พี่นันต์ครับ ผมรู้ว่าที่พี่นันต์พูดครั้งนี้เนี่ย พี่นันต์พูดเพราะพี่นันต์ห่วงชีวิตผม แต่ผมไม่ได้จน แล้วถ้าผมจะต้องหมดไป ผมก็ยินดีที่จะหมด ก็เพราะว่าสิ่งที่ผมสู้อยู่นั้น ผมสู้กับความไม่ถูกต้อง พี่นันต์เป็นห่วง ถอนหายใจ จับไหล่ผม บอก สนธิระวังตัวไว้ด้วย ถ้าพี่มีอะไรพี่จะแจ้งให้ทราบ หลังจากนั้นอีกไม่กี่วันก็เริ่มมีการประท้วงที่สนามหลวง ระหว่างประท้วง หนังสือพิมพ์ทุกฉบับ ไม่มีฉบับไหนลง ไม่มี ไทยรัฐก็ไม่ลง คอลัมนิสต์ปากกล้า ที่เขียนในไทยรัฐ หัวหดในกระดอง หางหดเข้าไปในก้น ไม่กล้าเขียนเลยแม้แต่นิดเดียว หลบ วิทยุก็ไม่รายงาน หนังสือพิมพ์ก็ไม่รายงาน โทรทัศน์ก็ไม่รายงาน มีไอ้บ้าสนธิเนี่ยที่สั่งให้หนังสือพิมพ์ผู้จัดการพิมพ์บับพิเศษขึ้นมา 2 แสนเล่มต่อวัน พิมพ์เสร็จ เอาไปแจกมันหมดเลย เหมือนที่ทำซีดีสู้ทักษิณแล้วก็เอาไปแจก เอาไปแจกที่สีลม เอาไปแจกที่สุรวงศ์ ให้เห็นภาพประชาชนนั่งประท้วงอยู่ เพราะไม่มีใครรายงาน ไม่มีใครรายงานเลย คุณประสงค์ สุ่นศิริ เห็นหนังสือพิมพ์ฉบับนี้เขาก็พูดกับคนใกล้ชิดบอกว่า "เราชนะแล้ว" คนสีลมก็เลยเพิ่งรู้ ว่า เฮ้ยมันมีการประท้วงจริงๆ คนสุรวงศ์ก็เพิ่งรู้ว่ามีการประท้วงจริงๆ ก็เลยเกิด "ม็อบมือถือ"ขึ้นครั้งแรก ทุกคนก็เฮตัวเองมาที่สนามหลวง แล้วก็มาต่อที่ราชดำเนิน เพราะหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ 4 วันซ้อนๆ ที่พิมพ์ แล้วก็แจกไปให้หมด ไปดูได้ ผมไม่กล้าที่จะมาอ้างอิงถึงบุญคุณงามความดีผม ผมถูกส่งทีมมาลอบสังหารผมที่ทำการหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามสถานีเอเอสทีวีนี้ เผอิญ พ.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ สารวัตรปราบปราม ซึ่งผมสนิทกับพ่อเขา คือ พล.ต.อ.ณรงค์ อัลภาชน์ ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว ไอ้ใหญ่บอกผม บอก พี่เดี๋ยวผมจะส่งตำรวจมาเฝ้าออฟฟิศพี่ พวกเราปิดออฟฟิศกันหมด คืนนั้นมีทหารนอกเครื่องแบบแต่งตัวมา 8 คน มาหาผม ตำรวจก็บอกว่าไม่อยู่ เขาก็ไปเขย่าประตู เสร็จเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นแล้วผมตัดสินใจที่จะหนีออกไป แล้วผมก็เขียนเช็กเอาไว้ให้ผู้ซึ่งต่อสู้กับเผด็จการเป็นจำนวนเงิน 10 ล้านบาท บอกว่าคุณเอาไปซื้อข้าวแจกพวกคุณกินกันเอง ผมยังคิดอย่างบริสุทธิ์ใจว่า วันรุ่งขึ้นผมไปถึงอังกฤษแล้ว ผมจะไปตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นสู้กับมัน ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ ปรากฏว่าไปถึงอังกฤษก็ยังต้องไปปราศรัยพูดในวงสัมมนาแล้ววันรุ่งขึ้นผมก็บินต่อไปที่นิวยอร์ก มันเหมือนกับที่เขาปฏิวัติเสร็จครั้งนี้ แต่อีกรูปแบบหนึ่งผมบินไปลอนดอน เพื่อไปอธิบายความการปฏิวัติครั้งนี้ บินไปนิวยอร์กเพื่ออธิบายความ แต่งวดนั้นผมบินหนีเพื่อไปตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น จากลอนดอนแล้วไปนิวยอร์ก ประวัติศาสตร์มันช่างซ้ำรอยอะไรเช่นนี้ แต่พอไปถึงนิวยอร์กก็ปรากฏว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเรียกทั้ง พล.อ.สุจินดา และ พล.ต.จำลอง ไปพบ นั่นคือตอนจบของเรื่อง ตอนจบของเรื่อง แล้วพระเอกขี่ม้าขาวที่ไม่ได้ทำอะไรเลยก็เข้ามาเป็นรัฐบาล ก็คือพรรคประชาธิปัตย์ พ่อแม่พี่น้องต้องเห็นนะฮะว่า ทั้งหมดนี้มันคือตำนานของการปฏิวัติ รสช. ทีนี้ ประชาชนในช่วง 15 ปีที่แล้ว กับประชาชนในช่วงนี้ไม่เหมือนกัน ข้อมูลข่าวสารต่างกันมาก ความสามารถในการรับรู้ข้อมูลต่างกันมาก ตรงนี้เนี่ย พวกที่ต่อต้านเจ้า พวกฝ่ายซ้าย ทำไมไม่คิดบ้างล่ะว่าถ้าเราไม่มีพระเจ้าอยู่หัวอยู่เนี่ย วันนั้นเมืองไทยนองเลือดขนาดไหน คุณต้องคิดตรงนี้บ้างสิ คุณอย่าไปมองว่าเจ้าไม่มีประโยชน์ นี่คือคุณูปการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระองค์ท่านเรียกคนซึ่งทะเลาะกันมา แล้วก็มาเข้าเฝ้าฯ แล้วพระองค์ท่านก็บอกว่าให้หยุดซะ พล.อ.สุจินดา ก็เลยต้องหยุด ลาออก พล.ต.จำลอง ก็หยุด แล้วก็มีการเลือกตั้งใหม่โดยที่พรรคประชาธิปัตย์เข้ามา จนวันนี้ พล.อ.สุจินดา คราประยูร เป็นคนแก่ๆ คนหนึ่งอายุ 70 กว่า ที่เมื่อมองย้อนหลังไปแล้ว พล.อ.สุจินดา ไม่รู้จะภูมิใจหรือเสียใจในการกระทำของท่าน แต่ที่แน่ๆ ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะพระบารมีปกเกล้าฯ ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ หรือสมเด็จพระนางเจ้าฯ เราไม่มีวันที่จะสงบสุขอย่างนี้ ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ออกมาวันที่ 26 เมษาฯ ที่ผ่านมานี้ เราก็ไม่มีวันนี้เช่นกัน ถ้าไม่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ออกมาแนะนำให้ศาลช่วยจัดการปัญหาต่างๆ กกต.หน้าด้านก็ยังไม่ออก เหตุการณ์ก็ยังไม่พัฒนาต่อเนื่องไป ที่ผมต้องพูดเรื่องนี้เพราะผมต้องการให้พ่อแม่พี่น้องเห็นว่าราชบัลลังก์ สถาบันกษัตริย์นั้นเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญที่สุดในการเมืองไทย เป็นจิตวิญญาณของประชาธิปไตยไทย ประชาธิปไตยไทยในอนาคตจะไม่มีพระมหากษัตริย์เป็นส่วนร่วมไม่ได้เด็ดขาดพ่อแม่พี่น้อง อย่าไปเชื่อใคร ผมถึงถามพ่อแม่พี่น้องมาตลอดเวลาที่ติดตามรายการผมว่าเราเชื่อมั่นและศรัทธาในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ หรือเปล่า เหมือนกับที่เราบอกว่า ถ้าเราเป็นพุทธ เราเชื่อหรือเปล่าว่าพระพุทธเจ้ามีจริง ถ้าเราเชื่อว่าพระพุทธเจ้ามีจริงถามต่อว่า แล้วเราศรัทธาในพระธรรมคำสั่งสอนหรือไม่ เหมือนกัน เราต้องถามว่าเราเชื่อมั่นในพระเจ้าอยู่หัวไหม ถ้าบอกเราเชื่อมั่น และเราศรัทธาไหม เราต้องบอกว่าเราศรัทธา ถ้าเราเชื่อมั่นและศรัทธา ความเคียดแค้นอะไรต่างๆ ความน้อยอกน้อยใจที่ดนปล้นชัยชนะไป และโดนปู้ยี่ปู้ยำชัยชนะอย่าไปกังวล ทุกสิ่งทุกอย่างจะดีขึ้นเอง เพราะบ้านนี้เมืองนี้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ตลอดเวลา ใครที่คิดร้ายต่อบ้านนี้เมืองนี้ มีอันเป็นไปทุกคน ล่าสุดก็เห็นแล้วไง ทักษิณ ชินวัตร มีอันเป็นไป แล้วจากนี้ไป ใครที่ไม่จริงใจต่อชาติบ้านเมือง ก็ต้องมีอันเป็นไปเช่นกัน

สนธิ - เรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้น มันเป็นเรื่องเล็กน้อย เมื่อเทียบกับเรื่องใหญ่ที่เรากำลังจะดูอยู่ เรื่องพจมานไปพบป๋าเปรม เรื่องเล็กน้อย ปล่อยมันไป เรื่องโกวิทไปสนับสนุนตำรวจชั่วๆ ก็ปล่อยมันไป เพราะว่าโกวิทก็ต้องรับเวรรับกรรม กรรมใดใครก่อคนนั้นต้องรับไป เรายึดมั่นในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรายึดมั่นในสมเด็จพระนางเจ้าฯ เรายึดมั่นในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เราเอาธรรมนำหน้า เราไม่ต้องกลัว เราอยู่ของเราอย่างนี้ เรารักชาติรักบ้านเมือง เรารวมกลุ่มกัน เป็นพลังของแผ่นดิน เป็นพลังของยามเฝ้าแผ่นดิน อย่าไปยุ่งกับเขา เราดูแลซึ่งกันและกัน เราสร้างเรารวมกลุ่มกันเป็นพลังของแผ่นดิน เป็นพลังของยามเฝ้าแผ่นดิน อย่าไปยุ่งกับเขา เราดูแลซึ่งกันและกัน เราสร้างเครือข่ายยาม ชนชั้นกลาง เราสร้างเครือข่ายยาม หมอ พยาบาล ทนายความ นักศึกษา นักธุรกิจ เจ้าของตึกแถว 1 คูหา ลูกจ้าง สร้างพลังอันนี้ให้เข้มแข็ง สร้างองค์ความรู้ให้กับตัวเองตลอดเวลา หมั่นศึกษา หมั่นดูข่าว หมั่นเข้าใจ ให้รู้ทันเล่ห์กล แต่อย่าไปหวั่นไหวกับลมที่พัดใบไม้สั่นซ้าย สั่นขวาแล้วเราตกใจ ไม่ต้องตกใจ ขอให้มีความเชื่อมั่นและความศรัทธา

ถาม-ตอบ
ปัตตานีบอกไอทีวีตอนนี้กำลังเรียกร้องให้ทักษิณกลับมา - พ่อแม่พี่น้องเข้าใจหรือยัง วันนี้ผมต้องเรียนคุณสุริยะใสก่อน คุณสุริยะใส กตะศิลา น้องผมประกาศว่า ถ้าทักษิณกลับมาจะเรียกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยประท้วงทักษิณ สุริยะใสครับผมไม่ไป ไม่ใช่หน้าที่ผม แล้วผมอยากจะกราบขอร้องพ่อแม่พี่น้องว่า อย่าใจง่ายออกไปง่ายๆ เรารวมตัวของเราไว้อย่างนี้ เราดูแลกันเอง ถ้าทักษิณกลับมาเป็นปัญหาของใคร คมช. ให้เขาเจอกับทักษิณเอง เมื่อใดก็ตามที่เขาพ่ายทักษิณเมื่อนั้นทักษิณถึงจะเจอพวกเรา / ภูเก็ตถามว่า พจมานไปพบป๋าเปรมทำไม / ลาดพร้าว คดีที่ฟ้องคุณสนธิไปถึงไหนแล้ว - วันที่ 28 พฤศจิกายน ขึ้นศาลครั้งแรก / ปฏิวัติเหมือนปาหี่ ทำไมไม่ยึดทรัพย์ทักษิณ / พิษณุโลก กรมประชาสัมพันธ์บล็อกเอเอสทีวี ทำให้ดูรายการไม่ได้ - นี่ไงพ่อแม่พี่น้องเห็นหรือยัง กรมประชาสัมพันธ์ภายใต้การนำของนายดุษฎี อธิบกรมประชาสัมพันธ์ และรองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ภัทริยา หลาน พล.อ.สุจินดา คราประยูร เป็นเครือข่ายทักษิณ ขนาดทักษิณไม่อยู่รัฐบาลชุดใหม่มา รัฐประหารพวกคุณยึดได้ก็เพราะเอเอสทีวี วันนี้คุณยังปล่อยให้กรมประชาสัมพันธ์บล็อกให้ประชาชน จ.พิษณุโลก ไม่ให้ดูเอเอสทีวี นี่คือหลักฐาน คุณฟังกันบ้างหรือเปล่า / รัชดาฯ อยากให้รอดูการเมืองไปก่อนไม่อยากให้ออกมาวิจารณ์ - ผมจะพูดอะไรให้ฟังอย่าง อย่าโกรธผม คนอย่างคุณมีเยอะ แล้วที่ชีวิตผมเหนื่อยมากที่สุดก็คือคนอย่างคุณ เพราะกว่าผมจะเอาองค์ความรู้ให้คุณแล้วพิสูจน์ให้คุณ ในที่สุดคุณก็ต้องเป็นพวกผม แต่ผมเหนื่อยมาก เพราะว่าคุณไม่ค่อยเข้าใจอะไรง่ายๆ คุณไปมองบอก ให้เขาลองก่อน เราให้เขารองอยู่แล้ว แต่ผมกำลังเล่าให้คุณฟังว่า การวิพากษ์วิจารณ์นั้นเป็นสิทธิอันชอบธรรม ถ้าคุณปิดปากแล้วไม่ยอมพูดอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว อยากทำทำไป วันนี้ทักษิณยังอยู่ใช่ไม่ใช่ เพราะฉะนั้นแล้วเมื่อมีสิทธิ์ในการวิพากษ์วิจารณ์ คุณต้องถามว่า การวิพากษ์วิจารณ์นั้นมีเหตุมีผลหรือเปล่า หรือสักแต่วิพากษ์วิจารณ์ เมื่อกี้ผมไม่สักแต่วิพากษ์วิจารณ์ ผมยังแก้ตัวให้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ซะด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นแล้วคิดให้ดีๆ / หัวลำโพง อยากให้พูดเรื่องสุดารัตน์ไปตรวจน้ำท่วมแล้วเจออภิรักษ์ - ไม่ทราบว่าคุณอภิรักษ์ได้ดูงิ้วธรรมศาสตร์หรือเปล่า / โคราช มีโครงการคลองด่าน 2 เกิดขึ้นแล้ว เป็นฝีมือสุวัจน์ / ทักษิณมีเงินจำนวนมากทำไมไม่ไปซื้อเกาะอยู่คนเดียว ทำไมต้องมาทำลายประเทศ / ลูกชาย พล.อ.อู้ด เบื้องบน เป็นอะไรกับหลานพจมาน เป็นสามีภรรยากันครับ / กาญจนบุรี ให้ระวังคุณพจมานให้ดีๆ เพราะที่กาญจนบุรีที่บ้านใหม่มีการเคลื่อนไหวบางกลุ่มกำลังรอทักษิณกลับมา / เลย อยากให้เน้นเรื่องคนทักษิณ / ทุ่งสง รับชมไม่ได้ไม่มีสัญญาณ / คนจบ ดร.มาบริหารประเทศแล้วแย่อย่างนี้ คนจบ ป.4 ก็ทำได้ / ภูเก็ตบอกว่าอยากให้รัฐบาลเน้นเรื่องยึดทรัพย์ อยากให้มาสัญจรที่ภูเก็ต / ผู้ชมบอกว่าสิ่งที่พูดเป็นประโยชน์มาก / สุราษฎร์ฯ บอกเป็นห่วงป๋า รู้สึกเห็นใจมาก และไม่อยากให้ไว้ใจพจมาน / ศรีสะเกษ อยากให้เปิดขายหุ้นเอเอสทีวีอย่างเป็นทางการ - ครับ ต้นเดือนหน้าเปิดอย่างเป็นทางการแล้วครับ / ฉะเชิงเทรา เสียใจมากที่ป๋าเปรมให้พบ / คนไทยอยู่เมืองจีนมา 20 ปี บอกฟังคุณสนธิชอบมากกว่าอ่านหนังสือพิมพ์ / ผู้ชมบอกว่า วิเคราะห์พรรคไทยรักไทยในขณะนี้ ควรจะเอาพระไปสวดที่บ้านป๋าเปรมขับไล่เสนียด อยากให้ขุดคุ้ยเรื่อง พล.อ.อู้ด / คาร์บ๊องไปถึงไหนแล้ว ทำไม พล.อ.สนธิ ไม่จัดการตำรวจชั่วๆ / เสื้อที่คุณสนธิใส่ สามารถซื้อได้ที่ไหน - ซื้อได้ที่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการครับ เปิดเว็บไซต์ดูก็ได้ครับ / อ่อนนุชถามว่าเรื่องมนุษยะดอทคอมทำไมเงียบไป ทำไมไม่ทำหนังสือถึง พล.อ.สนธิ ชี้แจงเรื่องราว ทำไมต้องไปชี้แจงต่างประเทศด้วย คุณปรีชา - คุณปรีชา ถามว่าทำไมผมไม่ทำหนังสือถึง พล.อ.สนธิ ชี้แจงเรื่องราว ทำไมต้องไปชี้แจงต่างประเทศด้วย คุณปรีชาครับ ที่ผมไปชี้แจงต่างประเทศนั้นผมไปช่วย พล.อ.สนธิ เขา คุณปรีชา เพราะต่างประเทศเขาด่าที่ พล.อ.สนธิ เข้ามาทำการรัฐประหาร คุณปรีชา ถ้าคุณดูรายการนี้ แล้วคุณไม่เข้าใจเนี่ย กรุณาอย่าดูดีกว่า เชื่อผมสิ นี่ผมต้องพูดอย่างนี้แล้ว นะฮะ เพราะฉะนั้นแล้ว คุณปรีชา ทำไมผมจะต้องไปชี้แจง ผมไปชี้แจงต่างประเทศเพื่อช่วย พล.อ.สนธิ นะครับ / ผู้ชมหลายท่านแจ้งว่าดูรายการได้ 5 นาที ก็ถูกตัดสัญญาณ รับชมทางเคเบิล / ตรังอยากให้พูดเรื่องการโยกย้ายข้าราชการกระทรวงศึกษาฯ / รู้สึกตกใจมากที่พจมานพบป๋าเปรม / ทำไมอีสานมีคลื่นใต้น้ำมาก / อยากให้เปิดมูลนิธิยามรักษาแผ่นดินเร็วๆ / ยโสธรบอกว่า อยากให้คุณสนธิไปเยี่ยมชาวอีสานบ้าง / กระทุ่มแบน อยากให้ผมแข็งแรง / นครศรีธรรมราช บอกว่าที่นครศรีธรรมราชไทยรัฐขายไม่ได้ ต้องเอาหนังสือพิมพ์มาแจกตามป้อม ผู้จัดการขายดีมากที่นครฯ - ขอบคุณมากครับ / ลำปางบอกกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะไม่ซื้อหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ / ผู้ชมบอกไม่ซื้อไทยรัฐมานานแล้ว แต่อยากให้หนังสือพิมพ์ผู้จัดการถูกกว่านี้ แหม 15 บาท กับ 10 บาท 5 บาทเองครับ / หนองคายบอกเลิกอ่านหนังสือพิมพ์ไทยรัฐมานานแล้ว / ขอนแก่น บอกไทยรัฐจะไม่ได้รับเงินจากผมสักบาทหนึ่ง / อุดรฯ บอกว่านายขวัญชัย ดีเจที่อุดรฯ เดินสายหาเสียงชาวบ้านเพื่อยั่วยุให้ชาวบ้านแข็งข้อ / สุราษฎร์ฯ ถามว่ายุบพรรคการเมืองไปถึงไหนแล้ว

สนธิ - ท่านผู้ชมครับ วันนี้ที่เอาเรื่อง รสช.มาเล่าให้ท่านฟัง อาจจะเป็นเพราะผมเป็นนักประวัติศาสตร์มั้ง ผมเรียนมาทางนี้ และผมก็เป็นคนสนใจเรื่องราวเก่าๆ เพราะผมมีความรู้สึกหลายๆ อย่างที่ผมมีความรู้สึกว่าคนเราถ้าไม่รู้ที่มาที่ไปของเรื่องราวแล้ว เราจะไม่เข้าใจเหตุการณ์วันนี้ และนี่คือปัญหาใหญ่ที่สุด ปัญหาใหญ่ที่สุดของการที่ ณ วันนี้ เวลานี้ เรามองเหตุการณ์ ณ วันนี้ เวลานี้ แต่เราไม่รู้ว่าก่อนที่มันจะมาวันนี้ เวลานี้ มันมีอะไรมาก่อน ทำให้เราตัดสินใจผิดพลาดไปหมด

สนธิ - ประวัติศาสตร์สำคัญตรงไหน ประวัติศาสตร์สำคัญมากตรงที่ทำให้เราเรียนรู้รากเหง้าของเราเอง สิ่งที่ผมเสียใจในชีวิตเนี่ยมี 2 เรื่อง เรื่องแรกคือตอนแม่ผมมีชีวิตอยู่ ผมไม่ได้ใช้ชีวิตดูแลแม่ อยู่ใกล้แม่ทุกวัน พอแม่ไปแล้วผมถวิลหาแม่ พูดถึงแม่ทีไรน้ำตาจะไหลทุกที เรื่องที่ 2 ที่เสียใจมาก และผมก็อยากจะบอกพ่อแม่พี่น้อง ท่านผู้ชมที่อยู่ทางบ้าน ผมมีเวลาที่จะซักถามพ่อน้อยเหลือเกิน พ่อที่เสียชีวิตไปแล้ว ผู้ชายคนหนึ่งเมื่อเขาเจริญเติบโตมา เขามีเราเป็นลูก ถึงเขาจะเป็นแค่คนขายของชำ แต่กว่าเขาจะมาขายของชำ เขามาจากไหน เล็กๆ เขาสู้อะไรมาบ้าง เขาโดนใครรังแก เขารู้สึกยังไงกับศีลธรรม เขารู้สึกยังไงกับสังคม และพอเขามีเราแล้วเขารักเราแค่ไหน ทำไมเขาต้องทำงาน ตื่นแต่เช้ามาทำถึงดึกดื่น ตำนานพวกนี้เป็นตำนานที่ลูกหลานต้องไปเรียนรู้จากพ่อจากแม่จะได้จำเอาไว้ เด็กสมัยนี้พอถามว่า พ่อเป็นคนจังหวัดอะไร พ่อรู้สึกอยู่สุราษฎร์ แม่ กำแพงเพชร แล้วไงพ่อแม่เจอกันอย่าไร ไม่รู้ แล้วเด็กพ่อทำอะไร จำได้ว่าพ่อรับราชการ แล้วพ่อรับราชการอยู่พ่อต้องเจออิทธิพลอะไรบ้าง ไม่รู้ รู้แต่ว่าสิ้นเดือนต้องขอเงินพ่อใช้ รากเง้าตรงนี้ สายสัมพันธ์ตรงนี้ เครือข่ายตรงนี้มันหายไป มันเลยทำให้เราเป็นคนไม่สมบูรณ์ทุกวันนี้ เราเลยกลายเป็นคนที่ถูกยึดครองด้วยแสง สี เสียง ด้วยสายเดี่ยว ด้วยโทรศัพท์มือถือ ด้วยรายการเอ็มทีวี ด้วยดิสโก้เธค ด้วยอะไรหลายอย่าง ด้วยเพลงแร็ป แต่สิ่งซึ่งพ่อเราอาบเหงื่อต่างน้ำ พ่อเราอาจจะโดนตำรวจรีดไถมาตลอดชีวิตกว่าที่จะเจริญเติบโตมาได้อย่างนี้ ให้พ่อเราเล่าให้ฟังตำรวจรีดไถพ่อเราอย่างไร ข้าราชการที่อยู่ในจังหวัดนี้รังแกพ่อเราอย่างไร เราจะได้จำไว้ จำไว้เพื่ออะไร จำไว้เพื่อจะได้รู้ว่า เมื่อสังคมเปลี่ยนแล้ว สิทธิเรามีเราต้องไม่ให้มันรีดไถเรา หรือไม่ให้มันรังแกเรา นี่คือองค์ความรู้ที่เราต้องได้ เอาผสานกับประสบการณ์พ่อแม่เรา แต่ถ้าเราไม่รู้ว่าพ่อแม่เราโตมาอย่างไร อยู่จังหวัดใด บางคนเป็นลูกคนจีนยังไม่รู้เลยว่าก๋งมาจากอำเภอไหน ผมโชคดีที่ผมรู้ว่า ก๋งผมมาจากเกาะไหหลำอยู่ตำบลอะไร อยู่อำเภออะไร มาเจอย่าผม คือ ย่าทอง ที่ จ.สุโขทัย แล้วแต่งงานกัน กำนันบอก มึงจะเอาลูกสาวกูมึงต้องเปลี่ยนนามสกุล ใช้แซ่ลิ้มไม่ได้ ก๋งบอก เปลี่ยนได้เหมือนกันแต่ต้องคงคำว่า ลิ้ม เอาไว้ เพราะก๋งบอกว่า เกิดมาเป็นลิ้มมันก็ต้องตายเป็นลิ้ม นี่คือคนซึ่งรักษารากเหง้าทั้งสองฝั่ง ทั้งจีนและไทย เพราะฉะนั้นเราต้องสอนลูกสอนหลานเรา เหมือนกันถ้าเราไม่รู้รากเหง้าของสังคมเรา เราจะรักชาติได้อย่างไร เราก็รักชาติไม่ได้ นะครับพ่อแม่พี่น้อง วันนี้อาจจะไม่เผ็ดร้อน ดุเดือด มัน เหมือนอาทิตย์ที่แล้ว แต่วันนี้ให้ข้อคิดท่านได้เยอะมาก ท่านอย่าลืมนะครับ ภารกิจพวกเรายังมีอยู่ ต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ วันนี้ผมพูดมาเป็นระยะเวลา 2 ชั่วโมง ก็ไม่น้อย เพราะฉะนั้นแล้ววันนี้ต้องขอกราบลาพ่อแม่พี่น้องไปนิดหนึ่ง อย่าลืมผมโดนใครรังแกบ้าง พ่อแม่พี่น้องจำได้ ช่วยสนธิ ลิ้มทองกุล หน่อยเถอะ อย่าให้สนธิต้องยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยว ขอบพระคุณมากครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น