“สนธิ” ยันไม่มีใครขอร้องหรือรับจ้างให้เดินสายแจงต่างชาติ มั่นใจ “สุรยุทธ์” ไม่ทำเลอะเทอะ เรียกร้องเพิ่มงบฯพร้อมกำลังคนให้ สตง. เสริมเขี้ยวเล็บให้ระบบตรวจสอบ เตือน คมช.ระวังฟรีทีวี 25 วันหลังรัฐประหาร ยังรับใช้ “ระบอบทักษิณ” เมินอธิบาย 4 เหตุผลยึดอำนาจ จวก 2 ผู้ประกาศไอทีวี กระแนะกระแหนสภานิติฯ แต่เมินตรวจสอบ “แม้ว”
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ช่วงที่ 1 โดย สนธิ ลิ้มทองกุล
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ช่วงที่ 2 โดย สนธิ ลิ้มทองกุล
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ช่วงที่ 3 โดย สนธิ ลิ้มทองกุล
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ช่วงที่ 4 โดย สนธิ ลิ้มทองกุล
สนธิ - สวัสดีครับ ท่านผู้ชมเอเอสทีวี รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ที่อยู่ที่บ้าน ที่เมืองไทย และท่านผู้ชมที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านผู้ชมที่อยู่ในมหานครนิวยอร์ก และกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ที่ผมเพิ่งกลับมานะครับ วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ผมเพิ่งจากเครื่องบินเมื่อสัก 3 ชั่วโมงกว่าๆ ที่แล้วนะฮะ แล้วก็ต้องยอมรับว่ายังไม่รู้เลยว่าตอนนี้เป็นเวลาของประเทศไทย เพราะว่า 7 วันที่ไป ตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้วมาจนถึงวันนี้ ไม่ได้หยุดเลยแม้แต่นิดเดียว นั่งอยู่บนเครื่องบินตลอดเวลา แล้วก็ไปพูดกับพี่น้องที่มหานครลอนดอน แล้วก็ที่ดี.ซี. แล้วก็ที่มหานิวยอร์กนะครับ ก็อยากจะเล่าอะไรให้ฟัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องที่ดูอยู่ในประเทศไทย ที่ดูในเครือข่ายเคเบิลทีวี และพี่น้องที่อยู่ในห้องส่งที่มาให้กำลังใจกันล้นหลามในห้องนี้ ว่าได้ไปงวดนี้นั้นเกิดอะไรขึ้น
สนธิ - เดินทางออกจากเมืองไทยโดยการสนับสนุนจากคุณประไพ ปราสาททองโอสถ ที่มีความกรุณาจัดตั๋วเครื่องบินให้ไปจนถึงมหานครลอนดอน แล้วก็ได้ไปออกโทรทัศน์บีบีซี เพื่อที่จะเล่าให้ฟังถึงเรื่องราวต่างๆ ในประเทศไทย โดยที่การออกครั้งนั้นก็ไปที่ห้องส่งของบีบีซี ที่สำนักงานใหญ่ของเขาเลยนะฮะ แล้วหลังจากนั้นแล้วก็มีโอกาสที่จะออก เขาเรียกว่าเรดิโอโฟร์ นะครับ เรดิโอโฟร์ของเขาก็อุปมาอุปไมยก็เหมือนกับในเมืองไทยก็คือกรมประชาสัมพันธ์ของเขานะครับ ก็ลองดูบีบีซีซักนิดหนึ่งนะครับ สั้นๆ ไม่ต้องยาว แต่ว่าค่อนข้างจะได้เนื้อหานะครับ
ASTV – (((วีทีอาร์บีบีซี)))
สนธิ - ครับ นั่นก็สั้นๆ นะครับ ซึ่งศุกร์ที่แล้วคุณสโรชา พรอุดมศักดิ์ และอาจารย์เสรี ก็ได้แปลคำพูดของผมออกไป ผมไปงวดนี้ได้ความคิดอยู่หลายอย่าง ผมไปพูดที่มหาวิทยาลัยลอนดอนนะครับ ที่โซแอส นะครับ ที่เขาเรียกว่า School of Oriental and African Study นะครับ มีคนมาฟังประมาณ 3-4 ห้องเต็มๆ นะครับ จองที่กันเต็มไปหมดเลยนะครับ ส่วนใหญ่ก็เป็นทั้ง แบ่งครึ่งๆ ระหว่างคนไทยกับฝรั่งนะครับ มีทั้งอดีตทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ตลอดจนมีนักเรียนไทยที่เรียจบไปแล้ว แล้วก็เข้าใจว่ายังคงอยู่ในอังกฤษ คำถามที่ส่วนใหญ่ที่ทุกๆ คนจะถามก็คือเรื่องการปฏิรูป เรื่องของการเข้ามาทำรัฐประหารนะครับ ผมกับคุณไกรศักดิ์ก็พยายามชี้แจงให้กับผู้ซึ่งเข้ามาฟังได้เข้าใจนะครับ แต่ก็มีหลายคำถามที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นคำถามที่ผมเรียกว่าคำถามจัดตั้ง คำถามจัดตั้งหมายความว่าอย่างไร หมายความว่าทางฝ่ายโน้น ฝ่ายทักษิณเนี่ย ได้บอกกล่าวมาทางอีกฝ่ายหนึ่งให้เข้ามาตั้งคำถามที่ค่อนข้างจะอ่อนไหว ละเอียดอ่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทของสถาบันกษัตริย์นะครับ ตลอดจนหนังสือหนังหานะครับ มีบางคนพูดถึง เปรียบเทียบว่า ทำไมไปกล่าวหาว่าทักษิณคอร์รัปชั่นฝ่ายเดียว ทำไมไม่พูดถึงฝ่ายอื่นบ้างที่คอร์รัปชั่นบ้าง ก็คือเป็นการจงใจที่จะเอาเรื่องนี้มาพูด ซึ่งผมและคุณไกรศักดิ์ก็ชี้แจงไป ก็เข้าใจว่าคงจะดีพอสมควรนะครับ เพราะว่าหลังจากที่ชี้แจงไปแล้วก็ไม่มีคำถามที่ตามมาต่อเนื่องอีกทีหนึ่ง ก็เอาเป็นว่าที่มหานครลอนดอนก็ค่อนข้างที่จะดีนะครับ ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยที่สุด แต่ว่าเราก็ภูมิใจที่เราได้ทำหน้าที่เราไปนะฮะ ไม่มีใครขอร้องผมครับ ทหารไม่ได้ขอร้อง พล.อ.สนธิ ไม่ได้ขอร้อง ผมทำของผมเองนะครับ เพราะว่าผมคิดว่าในเมื่อผมเป็นคนเริ่มเรื่องนี้ และผมก็ต้องเดินต่อไป รูปที่เห็นนั่นคือผมให้สัมภาษณ์ นั่นรูปผมให้สัมภาษณ์เรดิโอโฟร์นะครับ ก็คือเหมือนกับกรมประชาสัมพันธ์ของเขานะครับ เขาถามผมน่าสนใจมาก เขาถามผมบอกว่า ผมมีความคิดอย่างไรกับการที่นายกฯ ทักษิณ ใช้หมู่เกาะบริติชเวอร์จิ้นไอส์แลนด์ เพื่อที่จะซ่อนบริษัทแอมเพิลริชในเรื่องหุ้น ผมบอกว่า อังกฤษนั้นฉลาด อังกฤษจะรับเงินซึ่งนักการเมืองคอร์รัปชั่นทั่วโลก ตลอดจนนักค้ายาเสพติด ผู้ก่อการร้าย ส่งเงินจากที่อื่นมาแล้วมาทิ้งไว้ที่หมู่เกาะบริติชเวอร์จิ้นไอส์แลนด์ หลังจากนั้นหมู่เกาะนี้ซึ่งอังกฤษเป็นผู้ที่ปกครองอยู่ ก็จะโอนเงินก้อนนี้เข้าไปที่อังกฤษเพื่อฟอก ฟอกยังไง ฟอกด้วยการซื้อตึก ฟอกด้วยการซื้อที่ ทำให้เงินมันสะอาด เขาก็บอกว่านี่ แล้วตัวอังกฤษซึ่งเคยพูดบอกว่าจะต่อต้านการคอร์รัปชั่น ผมบอกเขาพูดแต่ปาก เพราะใจเขายังอยากได้เงินประเภทนี้อยู่ เหตุผลหนึ่งซึ่งทำให้เศรษฐกิจอังกฤษยังดีอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะว่าเงินที่ฟอกมาประเภทนี้ เหมือนอย่างที่ผมได้ข่าวมา ซึ่งมีคนเล่าให้ฟังว่า มีการไปซื้ออพาร์ตเมนต์ของนายอัลฟาเยด ซึ่งเป็นเจ้าของแฮร์ร็อตต์ เลขที่ 55 ถนนพาร์คเลน ถึง 50 ล้านปอนด์ 3,500 ล้านบาท ด้วยจำนวนห้องประมาณ 25 ห้อง มีคนถามผมว่า วันที่ผมไปอังกฤษนั้นผมได้เจอ นายทักษิณ ชินวัตร หรือเปล่า ผมบอก ผมไม่ได้เจอ ผมทราบแต่ว่า เขารู้ว่าผมมา ผมก็พยายามสอดส่ายสายตาดูว่าเขาจะมาฟังไหม เพราะได้ข่าวว่า ทางผู้จัดก็เชิญไปเหมือนกัน เพื่อที่จะมาให้โต้เถียงกับผม แต่ก็ไม่โต้เถียง แต่คุณอัญชลี ไพรีรักษ์ ไปเจอคุณพันศักดิ์ วิญญรัตน์ เดินอยู่ที่พิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่ง คุณพันศักดิ์ท่าทางตกใจ ก็เดินหนีออกไป พูดง่ายๆ ก็คือ หลบลี้หนีหน้ากัน ไม่เหมือนสมัยที่อยู่ในเมืองไทย รู้สึก ช่างกร่างเหลือเกิน คุณฮิวโก้ ซึ่งแวะมาแล้วมาฟังพวกเราพูดด้วย จากอังกฤษแล้วเดินทางต่อไปที่วอชิงตัน ดี.ซี. วันรุ่งขึ้นทันที เครื่องบินออกประมาณ 07.50 น. แต่ตั้งตื่นตั้งแต่ตี 4 เนื่องจากต้องไปสนามบินก่อน เนื่องจากว่าอังกฤษมีความเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยมาก ที่สนามบิน ต้องขอบคุณติ๋ว และคุณทัศพงษ์ แห่งวอชิงตัน ดี.ซี. แล้วเพื่อนๆ พันธมิตร คุณหมอป้อม แพทย์-พยาบาลที่วอชิงตัน ดี.ซี.เยอะ ก็ไปรับแล้วไปพูดที่เอลหลอต(***) มีคนไทยมาจากแมริแลนด์ มาจากเวอร์จีเนีย มาจากดีซี บางคน เช่น คุณรชิดา และสามีคุณคเชนทร์ บินมาจากฟลอริดา บนมาโดยตรงเพื่อมาฟังผมพูด ทั้งหมดในห้องนั้นเต็ม ประมาณ 400-500 คน เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจและปลื้มใจมาก
สนธิ - น่าประหลาดใจ คนไทยที่อยู่ต่างประเทศรู้เรื่องเมืองไทยผ่านเอเอสทีวีมากกว่าคนไทยอีกไม่น้อยเลยที่ไม่สนใจอะไรเลย แล้วคนพวกนี้เป็นคนที่รักชาติรักแผ่นดินมาก คนพวกนี้เป็นห่วงเป็นใยชาติบ้านเมือง บางคนอยู่อเมริกามาถึง 30 ปี เป็นหมอที่ประสบความสำเร็จ เป็นนายแพทย์ที่มีชื่อ จริงๆ แล้วชีวิตเขาไม่น่าจะมาเป็นห่วงว่าเมืองไทยใครจะปล้นชาติ แต่เขากลับมีความรู้สึกว่า เขาเสียดาย ภาพนั้นผมให้สัมภาษณ์วอยซับอเมริกา เสียงแห่งอเมริกา ซึ่งเป็นวิทยุออกไปทั่วโลก พูดถึงเรื่องของการทำไมจะต้องมีรัฐประหาร ที่ดี.ซี.น่ารักมาก แต่ละคนขนอาหารมากันเองแล้ววางเป็นบุฟเฟ่ นั่นแหละครับรูปคุณกุลธิดา มาจากไมอามี่ และบริจาคเงินซื้อหุ้นเอเอสทีวี มีคนซื้อหุ้นเอเอสทีวีเบ็ดเสร็จรวมประมาณ 1-2 ล้านบาท แล้วเขาค่อยโอนมาทีหลัง นี่คือทีมงานที่วอชิงตันดี.ซี.เขาจัดกัน น่ารักมาก เป็นคนซึ่งจริงจัง จริงใจ รักชาติรักบ้านเมือง พร้อมจะช่วยพ่อแม่พี่น้องที่อยู่เมืองไทยที่รักชาติรักบ้านเมือง และพร้อมต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง
สนธิ - จาก ดี.ซี. วันรุ่งขึ้นบินไปที่มหานครนิวยอร์ก ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากคุณไพรินทร์ คุณไพรินทร์ เป็นหญิงเหล็กคนหนึ่ง ซึ่งผมต้องเรียนให้ทุกคนทราบก่อนว่า คุณไพรินทร์น่ารักมาก วันที่นายทักษิณไปที่สหประชาชาติ คุณไพรินทร์เป็นหัวเรือประท้วงคุณทักษิณ ถือป้าย ถึงขนาดเอาป้ายเคาะรถคุณทักษิณ บอกไล่ให้ออกไป เถียงกับตำรวจ ตำรวจไม่ให้พูด แกก็บอกเอาสิทธิ์อะไรมาไม่ให้พูด แล้วมีนายตำรวจสันติบาลคนหนึ่งซึ่งไปกับทักษิณ มากระซิบกับตำรวจของอเมริกาบอก ไม่ให้คุณไพรินทร์ส่งเสียง คุณไพรินทร์สวนกลับ คุณไพรินทร์ นักสู้ใจเด็ด อยู่อเมริกามา 30 ปี มีกิจการ เป็นเจ้าของตึก มีบ้านให้คนเช่า เคยแวะมาที่กรุงเทพฯ ครั้งหนึ่ง แล้วไปที่ขอนแก่น แล้วเห็นเหตุการณ์ที่ผมไปพูดที่ขอนแก่น ระหว่างขึ้นเวที พล.ต.ท.สถาพร ดวงแก้ว ขึ้นมาบนเวทีแล้วกระชากไมค์โครโฟนออกจากคุณอวยชัย แกก็เลยเลือดขึ้นหน้า แกของขึ้นทันทีเลย แกตัดสินใจอยู่เมืองไทยต่อ แล้วแกร่วมประท้วงกับพวกเรามา 3 เดือนโดยเราไม่รู้ แกกินกับดินนอนกับทรายที่สนามหลวง ทุกๆ แห่ง คุณไพรินทร์คนนี้ แล้วแกเป็นหัวเรือใหญ่ที่อเมริกา ที่ติดๆ กับผม คนหนุ่มเมื่อกี้รูปอีกรูปหนึ่ง คือ คุณหมู คุณหมูเป็นพี่ชายคุณยุทธยงค์ ลิ้มเลิศวาที ถ้าท่านผู้ชมที่บ้านจำได้จะเห็นว่า คุณหมูเป็นคนนาบอน จ.นครศรีธรรมราช คุณหมู เป็นเด็กหนุ่มแล้วพี่น้องเขาประสบความสำเร็จมากในมหานครนิวยอร์ก เขาทำร้านอาหารไทยที่มีสาขาเกือบ 20 สาขา ขยายไปเรื่อยๆ แล้วเขาทำร้านอาหารไทยที่ทันสมัยมาก ไม่เคยได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาล เขาสู้ด้วยตัวเขาเองจนร้านเขามีชื่อมีเสียง ได้ขึ้นนิวยอร์กไทมส์ หลายๆ คนเห็นร้านเขาชอบอกชอบใจ ไม่เคยได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลไทย รัฐบาลไทยในยุคของนายทักษิณ ชินวัตร เที่ยวไปโปรโมตครัวไทยสู่ครัวโลก ไปโปรโมตเรื่องสปา ปรากฏว่าเอาเงินไปให้กับพวกคนบางคนในเมืองไทยเอาไปทำสปาที่เมืองนอก 60 ล้าน 70 ล้าน ไม่ได้ผลเลย สู้คนพวกนี้ไม่ได้ คนพวกนี้เขาทำงานกัน เขาสู้กัน เขาเสียภาษีให้กับอเมริกาเต็มที่ แล้วเขาไม่เคยได้รับความช่วยเหลือ เขาเป็นคนซึ่งเผยแพร่ความมีชื่อเสียงอาหารไทยให้กับคนไทยในอเมริกา ที่ติดกับผมอีกคนหนึ่ง ที่ยืนอยู่ข้างหลัง คุณแดง คุณแดง เป็นผู้จัดการคนหนึ่งอยู่ในโรงแรมนิวยอร์ก ฮิวตัน น่ารักมากพันธมิตรที่นั่นเอาผมไปพักที่โรงแรมฮิวตัน ผมบอกมันแพงเหลือเกินคุณอย่าจ่ายเลย บอกไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมดูแลให้ ปรากฏว่าค่าห้อง 800 เหรียญ ความที่แกเป็นผู้จัดการ แกลดให้เหลือ 200 เหรียญ ไม่รู้แกทำได้อย่างไร แต่แกก็ทำมาแล้ว ที่นิวยอร์ก ไปพูดกัน มีคนมาฟังที่โรงแรมเฮมเลย์ ล้นหลาม แน่นห้อง นี่ไปที่วัดอุษา หลวงพ่อซึ่งท่านมาเจิมให้ รู้สึกเป็นห่วงเป็นใยมาก หลวงพ่อยืนอยู่ข้างพันธมิตรมาตลอด เหมือนพระทั่วๆ ไปในประเทศไทย ฝ่ายหนึ่งก็อยู่ฝ่ายพวกเราอีกฝ่ายก็อยู่ข้างทักษิณ ที่นิวยอร์กมีเหมือนกันพระที่ยืนอยู่ฝ่ายทักษิณ นี่เผอิญเป็นพระที่ยืนอยู่ฝ่ายพวกเรา เป็นอย่างนี้แหละครับทุกๆ ดินแดน เพียงแต่ว่าตอนนี้ฝ่ายที่ยืนอยู่ข้างพวกเราก็เริ่มที่จะหายใจโล่งอกบ้างแล้ว ที่มหานครนิวยอร์ก เราไปพูดที่โรงแรมเฮมเลย์ โรงแรมเฮมเลย์ อยู่ถนน 42 ปรากฏว่า ผมเริ่มพูดตอน 19.00 น. 17.00 น.ห้องเต็มหมดแล้ว จุคนได้ 500 กว่าคน ที่นั่งไม่มีต้องยืนกัน มาจากหลายที่ เขาคาดหัวไม่ใช่กู้ชาติ เขาเขียนว่ารักชาติแล้วตอนนี้ ที่นั่งอยู่เป็นพวกที่มีอาชีพ เป็นหมอ เป็นพยาบาล นักธุรกิจ นักบริหาร อยู่อเมริกาเป็นสิบๆ ปี รักชาติรักแผ่นดิน และไม่ยอมให้ชาติบ้านเมืองและแผ่นดินนี้ถูกระบอบทักษิณซื้อไป ลุกขึ้นมาสู้ ส่งเงินส่งทองมาให้พวกเรา เวลาเราเดือดร้อนอะไรเขาช่วยเต็มที่ ก่อนกลับบางคนอายุมากแล้ว คุณป้า คุณยาย วิ่งเข้ามากอดผมร้องห่มร้องไห้ดีใจ ขอบพระคุณในน้ำใจไมตรี หลายท่านมากอดผมแล้วบอกว่า เป็นห่วงว่าจะถึงแก่กรรม เพราะระบอบทักษิณจะฆ่าผม ก็ดีใจมากที่เห็นตัววันนี้ เอาเป็นว่า ได้ผลดีมากๆ เหตุผลที่ได้ผลดีมากๆ เพราะว่า พี่น้องชาวไทยที่อยู่ในมหานครนิวยอร์ก และวอชิงตัน ดี.ซี.ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่รักชาติรักแผ่นดิน วันนั้นที่ไปประท้วงที่สหประชาชาติมีคนอยู่ 2 คน ที่เป็นฝ่ายทักษิณ มายืนตะโกน ทักษิณสู้ๆ ได้ข่าวว่าได้รับค่าจ้างมาคนละ 150 เหรียญ เขาจ้างแม้กระทั่งคนในอเมริกา ก็ยังมีคนซึ่งยังไม่มีปัญญาที่จะคิดหรืออะไรทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นแล้วเป็นของธรรมดาที่ทุกๆ แห่งจะต้องมีขั้วบวกและขั้วลบ อยากจะประกาศให้พ่อแม่พี่น้องที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาว่า วันที่ 19 พฤศจิกายน ผมและทีมเมืองไทยรายสัปดาห์ทีมใหญ่ ประมาณ 10 คน จะไปปราศรัย แล้วก็จะไปขายหุ้นเอเอสทีวี นะครับ ที่มหานครลอสแองเจลิสนะครับ แล้วก็สถานที่หาได้แล้วครับ ที่ฮอลลีวูดพาร์ค ฮอลลีวูดพาร์คนี่ก็ดูเหมือนว่าเป็นสนามแข่งม้าหรือแข่งหมานะฮะ แต่ว่าอย่าไปคิดอย่างนั้น เพราะว่าสถานที่ที่จุคนหลายๆ พันคนนั้นไม่มี นอกจากที่นี่นะครับ 19 พฤศจิกายนนะครับ ที่ฮอลลีวูดพาร์ค วันอาทิตย์นะครับ ก็ต้องเรียนให้กับพ่อแม่พี่น้องที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางฝั่งตะวันตก ถ้าหากต้องการที่จะมาฟังพูด มาฟังตัวจริงเสียงจริงก็ให้มาได้นะครับที่ฮอลลีวูดพาร์ค อาหารการกิน พวกชาวไทยที่อยู่ในลอสแองเจลิสก็จะมาตั้งร้านกันนะครับ ก็เหมือนกับมาตั้งร้านงานวันเกิดใครก็ตาม เอาร้านมาตั้งนะฮะ แล้วก็สามารถจะทานแล้วเข้ามา ไม่เสียเงินครับ ไม่เสียเงินเลยแม้แต่นิดเดียวนะครับ
สนธิ - ผมไปอเมริกาครั้งนี้ พ่อแม่พี่น้องอยู่เมืองไทย ผมได้เรียนรู้ 2-3 อย่าง อย่างแรกก็คือว่า คนเนี่ย สงสัยว่าทำไมต้องรัฐประหาร นี่ส่วนหนึ่งนะฮะ แต่ส่วนใหญ่ดีใจที่ทหารเข้ามา และส่วนใหญ่มีความรู้สึกโล่งอก แต่ว่าผมอยากจะฝากตรงนี้ให้กับคณะมนตรีความมั่นคงฯ และรัฐบาลของท่าน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นห่วง เป็นห่วงตรงที่ว่าจะไม่ทำอะไรจริงจัง ซึ่งเรื่องนี้ประเดี๋ยวผมจะพูดในเบรคต่อไปว่าผมเองก็เป็นห่วงเช่นกัน ผมเป็นห่วงเช่นไร เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังนะครับ เป็นว่าไม่ทำอะไรจริงจัง คำพูดที่ทุกคนพูด พูดเหมือนกันหมดเลย คุณสนธิคิดยังไงกับรายชื่อคณะรัฐมนตรี นะครับ ซึ่งประเดี๋ยวผมจะพูด ในเบรคต่อไปนะฮะ ทุกคนเป็นห่วงมาก ทุกคนบอกว่าเรากำลังจะโดนขโมยชัยชนะไปหรือ เมื่อโดนขโมยชัยชนะไปแล้ว คนที่มาแล้วก็ทำเรื่องนี้ เขาตั้งใจทำจริงหรือเปล่า และเขาทำเป็นหรือไม่ หรือว่าเขาเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องเล่น หรือเขาเห็นว่าเมื่อเรานี่สามารถจะขับไล่ระบอบทักษิณไปได้แล้ว เขาก็ชุบมือเปิบเข้ามานะครับ แล้วก็นั่งบนโต๊ะ แล้วก็เอาข้าวปลาอาหารซึ่งเราทำกันเหน็ดเหนื่อยสาหัสสากรรจ์ เหงื่อแตกเหงื่อแตน แล้วก็มานั่งเปิบกันสบายๆ ใช่ และไม่ใช่ พ่อแม่พี่น้อง ประเดี๋ยวผมค่อยเล่าให้ฟังนะครับ เอาเป็นว่าเบรคแรกก็ขอหยุดเพียงแค่นี้ก่อน แล้วเดี๋ยวเบรคต่อมาเดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟังว่าผมมีความรู้สึกอย่างไรกับคณะรัฐมนตรีชุดนี้ และผมมีความรู้สึกอย่างไรกับการต่อสู้กับระบอบทักษิณ ณ เวลานี้ วันนี้ และผมมีทางออกให้อย่างไรบ้าง ประเดี๋ยวพักสักครู่แล้วเดี๋ยวค่อยเจอกันนะครับ
เมืองไทยรายสัปดาห์ (ช่วงที่ 2)
เมืองไทยรายสัปดาห์ (ช่วงที่ 3)
เมืองไทยรายสัปดาห์ (ช่วงที่ 4)
