xs
xsm
sm
md
lg

เมืองไทยรายสัปดาห์ ภาคพิเศษ (ช่วงที่ 2)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ช่วงที่ 1

คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ช่วงที่ 2 และ 3


สโรชา - กลับมาสู่เมืองไทยรายสัปดาห์ดภาคพิเศษในค่ำคืนนี้นะคะ หลายท่านคงจะรออยู่ว่าคุณสนธิที่ไปออกบีบีซีนั้น เราจะตัดสัญญาณไปเมื่อไร กำลังรออยู่นะคะ สัญญาณบีบีซีเวิลด์ เข้าใจว่า ไม่น่าจะนาน อีกสักกี่นาทีจากนี้ไปถ้าเกิดมีสัญญาณสดมาแล้วเราจะรีบตัด ถ้าหากว่าไม่ทัน หรืออย่างไร จะนำเทปมาให้คุณผู้ชมชาวเอเอสทีวี นิวส์วัน ได้รับชมกันแน่นอนค่ะ
สโรชา - ข่าวประชาสัมพันธ์นะคะ ในวันพรุ่งนี้ วันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม นะคะ ขอเชิญร่วมฟังธรรมะบรรยาย และฝึกปฏิบัติปฏิจจสมุปบาท นะคะ 09.30-12.30 น. และบรรยายอโรมาตามธาตุเจ้าเรือน 10.00 - 12.00 น. ณ อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ นั่นก็คือห้องส่งของเอเอสทีวีนั่นเองนะคะ อีกข่าวหนึ่งนะคะ มีเงินบริจาคจากทุนง่วงอย่าหลับ มูลนิธิรามาธิบดี โดยนายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ บริจาคให้เอเอสทีวี 100,000 บาท ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ
สโรชา - กลับมาคุยกัน มีคำถามเข้ามาเยอะแยะมากมายนะคะ เดี๋ยวช่วงสุดท้ายคงจะได้ตอบคำถามของคุณผู้ชม แต่ว่าช่วงนี้ขอพูดถึงเรื่องสื่อ แล้วก็บทบาทของภาคประชาชนก่อนค่ะ เพราะว่า แน่นอน เกริ่นไว้แล้วว่าภาคประชาชนบางส่วนก็ยังไม่รับทราบถึงข้อมูล บางส่วนรับทราบแล้วอาจจะยังเข้าไม่ถึง บางส่วนเข้าใจแล้วแต่ยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ เราจะทำยังไงดีคะอาจารย์

อ.เสรี - คืออย่างนี้ ถ้าเราดูในประกาศของ คปค. มีอยู่ข้อหนึ่งว่า บ้านเมืองแตกแยกมาก ถ้าเกิดเราจะวิเคราะห์ไปในเรื่องของการแตกแยก มันก็เกิดขึ้นจากการมีข้อมูลที่ต่างกัน มีมุมมองที่ต่างกัน เนื่องจากรับรู้เรื่องต่างกัน ก็เลยเกิดกลุ่มประเภททักษิณ สู้ๆ กับทักษิณ ออกไป อันนี้ชัดเจนนะฮะ ทีนี้กลุ่มที่เป็นทักษิณออกไป ก็คือว่า มองดูแล้วว่าปัญหาทางด้านคุณธรรม จริยธรรม มันร้ายเกินกว่าที่จะไปชดเชยด้วยผลงานใดๆ ทั้งสิ้น เราก็เลยบอกทักษิณออกไป แต่กลุ่มหนึ่งที่บอกทักษิณสู้ๆ นั้นก็คือว่า ไม่รับรู้เรื่องปัญหาจริยธรรม คุณธรรม รู้แต่เรื่องของโครงการเอื้ออาทร โครงการประชานิยม ผลผลิตที่ได้ ซึ่งตรงนี้มันเกิดจากอะไรล่ะ มันก็เกิดขึ้นจากแนวทางการทำงานของรัฐบาลที่แล้วกับสื่อ ที่เขาทั้งคุกคาม ครอบครอง ครอบงำ ควบคุม เขาทำทั้งหมดนะฮะ การคุกคามก็อย่างเช่น คุณด่าฉันเหรอ ปลด เอาออก

สโรชา - ไม่ต้องมาให้เห็นหน้า

อ.เสรี - ไปค้น ไปอะไรต่างๆ นี่คือคุกคาม ครอบครองก็คือว่า ซื้อแม่งเลย ซื้อเลย นั่นคือการครอบครอง

สโรชา - ฉันมีเงิน

อ.เสรี - ฉันมีเงิน ฉันจะต้องเป็นหุ้นส่วนไปเลย ขณะเดียวกัน ควบคุมก็คือ ใช้กฎหมายในการจะควบคุมว่าไอ้นั่นทำได้ ไอ้นี่ทำไม่ได้ นะฮะ ส่วนครอบงำนั้น ก็คือใช้อำนาจรัฐบ้าง ใช้ความเป็นมิตรสหายบ้าง ใช้ความเป็นสปอนเซอร์บ้าง ทั้งหมดเหล่านี้เขาก็ได้ทั้งหมด ทุก ค. เหล่านั้น ทั้งครอบครอง ควบคุม คุกคาม ครอบงำ ในที่สุดแล้วเหล่าบรรดาสื่อที่อยู่สายฟรีทีวีทั้งหมด ที่ไม่ใช่เนชั่น แล้วก็ไม่ใช่เอเอสทีวี ก็เลยต้องทำงานอยู่ภายใต้บรรยากาศของความหวาดกลัว สื่อเริ่มเซ็นเซอร์ตัวเอง ก็คือว่า แทนที่จะดูว่าประเด็นนี้ควรจะออกไหม คนนี้น่าจะเชิญไหม กลายเป็นว่ามานั่งดูว่า ประเด็นนี้ถ้าออกจะโดนปลดไหม ประเด็นนี้ถ้าเกิดออกจะโดนด่าไหม ถ้าเชิญคนนี้มารายการจะกระเทือนไหม คือตราบใดก็ตามในสังคมประชาธิปไตยเนี่ย ถ้าสื่อเริ่มเซ็นเซอร์ตัวเอง โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติและแผ่นดิน แต่คำนึงถึงความอยู่รอดของรายการและความอยู่รอดของคนเป็นพิธีกรในรายการ ตรงนั้นประชาธิปไตยฉิบหายแล้ว มันเป็นไปไม่ได้แล้ว แต่เราจะเห็นได้ว่าฟรีทีวีก่อนหน้าที่จะถึงวันที่ 19 เนี่ย ฟรีทีวีมีลักษณะเช่นนั้น ถึงขนาดที่เรียกว่า มีคนบางคนอยู่ในบัญชีดำ เพราะถ้าเกิดว่ามาพูดปั๊บ จะต้องพูดคัดค้านกับทักษิณ เพราะฉะนั้นก็ตกอยู่ในบัญชีดำ นะฮะ นอกจากคนเหล่านั้นบางกลุ่มที่เซ็นเซอร์ตัวเอง เอาล่ะ เขาน่ะไม่ชั่วร้ายรุนแรงก็ตรงที่ว่าแค่เซ็นเซอร์ตัวเอง แล้วก็ไม่พูดทั้งความดีและความชั่วของทักษิณ แต่ก็จะมีสื่อบางสื่อนั้นถูกกำหนดให้เป็นผู้รับใช้เลย นั่นก็หมายความว่า ต้องพูดเรื่องนี้นะ ต้องอธิบายอย่างนี้นะ ต้องเอาคนนี้มาออกนะ อะไรอย่างนี้เป็นต้น เพราะฉะนั้นสื่ออย่างนั้นมี ผลของการกระทำทั้งหมดเหล่านั้นก็เลยทำให้คนที่อ่านหนังสือพิมพ์ ดูเอเอสทีวี ดูเนชั่น คิดอย่างหนึ่ง แต่คนที่ดูรายการประเภทพูดคุยเหมือนอย่างเราเนี่ย แต่อยู่ในฟรีทีวีเนี่ย คิดอีกอย่างหนึ่ง แล้วไอ้การคิดอีกอย่างหนึ่งนั้น พอพวกเราออกมา ทักษิณออกไป คนเหล่านั้นถามคำถามที่ไร้เดียงสา น่าสงสารมาก ทักษิณผิดอะไรเหรอ (ลากเสียง)

สโรชา - ทำหน้าน่ารัก

อ.เสรี - ทักษิณผิดอะไรเหรอ ทำไมต้องไล่เขาด้วย ไม่มีใครแล้ว 30 บาทฯ ไม่หายไปเหรอ กองทุนหมู่บ้านทำไงดีล่ะ อะไรอย่างเนี้ย มันก็จะมีไร้เดียงสา ประมาณนี้เกิดขึ้น

สโรชา - มีสื่อที่ บางสื่อที่เข้ามาใช้เพื่อให้ได้ประโยชน์ของรัฐ แต่มีสื่อบางสื่อไหมที่อาสาที่จะรับใช้ ชมเช้า ชมกลางวัน ชมเย็น

อ.เสรี - ก็คงจะมี คนบางคนเขามีความรู้สึกว่าทำรายการปกติได้สตางค์น้อยแต่ถ้ารับใช้ไปซะเลยจะได้สตางค์เยอะ มาเป็นก้อนใหญ่ๆ ทีนี้ตรงนั้นต้องถือว่า สื่อประเภทที่แอ้มพูดจะอาสารับใช้ ยินดีรับใช้ เขาจ้างให้ใช้ อะไรก็แล้วแต่ เป็นกลุ่มหนึ่งที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งภายในประเทศ เพราะให้ข้อมูลไม่ครบถ้วนแล้วทำให้เกิดความชื่นชมอะไรต่างๆ นานา เพราะฉะนั้นในตอนนั้นเราเกิดความแตกแยก ซึ่งเป็นข้อที่ 1 เลยของการปฏิรูปครั้งนี้ ทีนี้การแตกแยกตอนนั้นมีเอาทักษิณกับไม่เอาทักษิณ แต่ตอนที่มีคณะปฏิรูปฯ เกิดขึ้น เท่ากับว่า ผู้ซึ่งเป็นผู้นำในบ้านเมืองในเวลานี้ได้ตัดสินให้เราแล้วว่าไม่เอาทักษิณ ดังนั้นสื่อทั้งหลาย ณ เวลานี้ที่เป็นสื่อเสรีน่าจะช่วยจัสซิฟราย ต้องช่วยทำให้การปฏิรูปครั้งนี้มีเหตุมีผล แสดงถึงความเหมาะ ความควร ความยุติธรรม โดยการนำเอาบุคคลซึ่งเข้าใจสถานการณ์ดีว่าบ้านเมืองมันถึงทางตัน บ้านเมืองถ้าเราไม่ทำอะไร วันที่ 19 ถ้าไม่ปฏิวัติ วันที่ 20 น่าจะนองเลือดเพราะขณะที่พวกเราเตรียมการว่าพวกเราจะไปชุมนุมกันอีกครั้งหนึ่ง แต่ทางฝ่ายนู้นเขาเตรียมการเอาคนบุกเข้ามาเหมือนกัน เพราะฉะนั้นการนองเลือดต้องเกิดขึ้นในวันที่ 20 แน่นอน เพราะฉะนั้นทหารเขาได้ช่วยทำให้การนองเลือดที่เป็นการปะทะระหว่างคนไทยฆ่าคนไทยด้วยกันเองไม่เกิดขึ้น สื่อเหล่านั้นต้องช่วยอธิบายด้วย ขณะเดียวกันถ้าเกิดเขาบอก โอ๊ยพวกที่อยู่ในเอเอสทีวี มันพูดจาโวยวายโครมคราม ถาม คนที่พูดจาให้ประชาชนเข้าใจโดยไม่โวยวายโครมครามมีไหม เหล่าบรรดาท่านทูต 4-5 คนที่มานั้น พูดได้ไพเราะมาก อย่าง คุณถนัด คอมัน คุณอานันท์ ปันยารชุน หมอประเวศ วะสี หมอเสม อ.ระพี อ.เสน่ห์ จามาลิก คนเหล่านี้สามารถพูดจาให้ประชาชนรับฟังได้แล้วไม่โวยวายโครมคราม ไม่ด่าทอต่อว่า ไม่หยาบคาย จะสามารถชี้แจงสมานฉันได้ ตอนนี้ปัญหาที่น่ากลัวคือ คนที่ไปสร้างกระแสว่า ไหนๆ ก็ผ่านไปแล้วพวกเขาก็ไปแล้วอย่าฟื้นฝอยหาตะเข็บ ดังนั้นอย่าไปพูดเลยว่าเขาผิดอย่างไร อย่าไปพูดเลยว่าเขาไม่ดีอย่างไร ถ้าไม่พูดว่าเขาผิดอย่างไร ไม่ดีอย่างไร การทำงานของคณะปฏิรูปฯ ก็เป็นการทำงานที่ฉีกรัฐธรรมนูญ

สโรชา - อาจารย์คะแอ้มขออนุญาตขัดซักนิดหนึ่ง ไปฟังสัญญาณสดจากบีบีซี จากประเทศอังกฤษ สัมภาษณ์คุณสนธิ ลิ้มทองกุล

(ตัดสัญญาณบีบีซี)

สโรชา - บีบีซีเริ่มต้นด้วยคำถามว่า อะไรจึงนำมาสู่การปฏิวัติ ปฏิรูปที่ผ่านมาในวันที่ 19 กันยายน โดยคุณสนธิได้

อ.เสรี - คุณสนธิตอบได้น่าสนใจมาก ทักษิณเป็นคนที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน แล้วก็เข้ามาครอบงำสื่อ ถึงจุดรุนแรงจนเรียกว่าไม่มียูเทินให้เราเลี้ยวต่อไปแล้ว

สโรชา - คือไม่มีทางกลับ

อ.เสรี - ปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นประมาณปีครึ่งแล้วทักษิณได้ครอบงำคนจนกระทั่งไม่มีใครกล้าลุกขึ้นมาต่อสู้ เพราะไม่ว่าใครก็ตามที่จะทำการต่อต้านนั้น ทักษิณจะฟ้องไปตลอดกาลเลย แล้วขณะเดียวกันเหล่าบรรดาพันธมิตรเคยให้คำแนะนำ เตือนมาหลายครั้งแล้วว่าอย่าทำเช่นนี้เลย แล้วสิ่งหนึ่งที่คนไทยรับไม่ได้ก็คือการจาบจ้วง แล้วปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์ ตรงนี้ทำให้คุณธิรู้สึกพอใจกับการที่เกิดการปฏิรูปในครั้งนี้ แล้วดีใจตรงที่ว่า คณะปฏิรูปนำเอาเรื่องของการร่างรัฐธรรมนูญมาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการที่จะแก้ไขบ้านเมืองในครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตามคุณสนธิยังมีความกังวลอยู่ว่า ถ้าเกิดคณะรัฐบาลชั่วคราวในเวลา 1 ปี ไม่ทำในสิ่งที่ถูกที่ควรแล้วละก็เชื้อชั่วจะกลับมาได้เพราะเชื้อชั่วไม่เคยตาย สิ่งที่ต้องเตือนกัน อย่ามองประชาธิปไตยในเชิงสัญลักษณ์เพราะว่าเรื่องของรัฐธรรมนูญนั้นไม่ใช่เป็นเพียงแค่ปัจจัยเดียวที่แสดงว่าเรานั้นมีประชาธิปไตย เพราะว่าการที่เราจะเป็นประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญและการเลือกตั้งเป็นเพียงแค่สัญลักษณ์เท่านั้น แต่มันต้องมีประชาธิปไตยที่แท้จริง

สโรชา - คุณสนธิพูดตอนท้ายได้น่าสนใจ บอกว่า รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของหัวใจ เป็นเรื่องของจิตใจ

อ.เสรี - คือจะร่างไว้เป็นตัวหนังสืออย่างไรไม่มีความหมาย เท่ากับว่าจิตใจเราเป็นประชาธิปไตยหรือเปล่า

สโรชา - แล้วคำถามที่น่าสนใจอีกคำถามหนึ่ง เขาถามคุณสนธิอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งแอ้มก็ตกใจเหมือนกันว่าเขาถาม คือกล้าถามขนาดนี้ คือ คุณสนธิเองถูกมองว่าเป็นคนใกล้ชิดกับคุณทักษิณในช่วงแรกๆ ทำไมจึงตัดสินใจ คือหมายความว่า สนิทกันถึงขั้นว่าพูดคุยกันได้เกือบจะตลอดเวลา แต่ทำไมถึงไม่เอาแล้ว หันหลังให้ ซึ่งคุณสนธิบอกว่า มีหลายต่อหลายครั้งที่เตือนแล้วไม่ฟัง บอกแล้วไม่เชื่อ

อ.เสรี - บอก กินข้าวด้วยกันพูดอย่างหนึ่ง แต่พอทำจริงๆ ไม่เหมือนกับพูดที่โต๊ะกินข้าว

สโรชา - นี่เป็นแค่บางช่วงสำหรับการเดินสายของคุณสนธิไปยังประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกาที่จะไปทำความเข้าใจกับชาวต่างชาติ คุณผู้ชมฟังจากคำถามของบีบีซีแล้วคุณผู้ชมคงจะได้รับทราบถึงความรู้สึกของเขา ถึงความไม่เข้าใจว่า ทำไมคนไทยถึงได้ดีใจกับการมีรัฐประหารในบ้านเรา ทำไมเราถึงได้นำดอกไม้ไปให้เจ้าหน้าที่ทหาร ทำไมเราถึงได้ไม่รู้สึกเป็นห่วง หรือกังวลกับการปฏิรูป และการรัฐประหารครั้งนี้

อ.เสรี - คือ ประชาธิปไตยของทรราชมันร้ายกาจกว่าเผด็จการแห่งความเมตตา

การุณ - นับได้ว่า คุณสนธิคนเดียวทำงานได้มากกว่ากระทรวงต่างประเทศของไทยทั้งกระทรวง

อ.เสรี - แต่จริงๆ แล้วพวกเราหลาย ๆ คน หากแม้ว่าเรามีโอกาสเราคงแสดงความคิดเห็นไม่ต่างไปจากคุณสนธิ ว่าเรานั้นถึงแม้จะยึดมั่นในประชาธิปไตยแต่เราไม่ได้ยึดมั่นประชาธิปไตยเชิงสัญลักษณ์ว่าจะต้องมีรัฐธรรมนูญ และมีการเลือกตั้ง เราขอยึดมั่นในประชาธิปไตยที่แท้จริง ที่เกิดจากการปฏิบัติของผู้นำของประเทศ เพราะฉะนั้นแม้ครั้งนี้เราจะฉีกรัฐธรรมนูญ แม้ครั้งนี้เราจะไม่มีการเลือกตั้ง เราต้องแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลชั่วคราวที่อยู่ 1 ปี เราจะอยู่ในสภาพที่ดีกว่าสมัยทักษิณ เช่น สื่อไม่มีความหวาดกลัว สื่อเป็นทาสที่ปล่อยไปและเป็นไทยในหัวใจ และสามารถทำในสิ่งที่ต้องการได้ พวกเราสามารถวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลได้โดยอิสระเสรี โดยไม่มีใครมาคุกคามข่มขู่เรา ถ้าหากการค้าขายอะไรต่างๆ เป็นไปโดยยุติธรรมไม่มีการเอารัดเอาเปรียบกัน นโยบายทุกนโยบายที่ออกมาไม่มีผลประโยชน์อยู่เบื้องหลัง ไม่มีฮิทเด้นเดอะเจนด้า ไม่มีวาระซ่อนเร้นใดๆ ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่เป็นการคอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย เราจะชี้ให้ต่างชาติได้เห็นโดยไม่จำเป็นต้องอธิบายมากมาย การกระทำและปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านเรานั้นจะเป็นการอธิบายที่ดีที่สุด โดยที่เราไม่ต้องเสียน้ำลายเลย เพราะว่าเขาจะเห็นได้ด้วยตัวเขาเองว่า ปรากฏการณ์ในบ้านเราที่เป็นอยู่ในช่วง 1 ปี ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งนั้น เสรีภาพและความเป็นประชาธิปไตยของเรานั้นอยู่ในหัวใจและการกระทำอย่างแท้จริง

สโรชา - เราหวังไหมคะคุณการุณ

การุณ - เสียดายเงินงบประมาณที่คณะปฏิรูปฯ

อ.เสรี - อ๋อ เขาจะฟ้องเอาคืน

การุณ - อนุมัติให้สุรเกียรติ์ไปหาเสียงยูเอ็น น่าจะเอาเงินหาเสียงนั้นมาช่วยให้คุณสนธิไปทำงานเมื่อกี้นะ

สโรชา - คุณสนธิออกตังค์เองนะ

การุณ - เรี่ยไร พวกเราเรี่ยไรช่วยกันไป

อ.เสรี - ไม่เป็นไร ถ้าเกิดจะให้ไปจริงๆ น่ะ ไปเองก็ไปได้ สตางค์เรา เราไม่เสียดายหรอก เพื่อประเทศชาติเท่าไรก็เสียได้

การุณ - เดี๋ยว ของผมก่อน

อ.เสรี - เพียงแต่เรานะถูกหาว่าเสือกเท่านั้นล่ะ

การุณ - เดี๋ยวๆๆ ของผมก่อน เรื่องสื่อเมื่อนี้ยังไม่ได้ว่าเลย

อ.เสรี - อ่ะ ต่อไป

การุณ - ของอาจารย์อย่างนั้นนะ แต่ของผมอยากจะเรียกร้องเลยทีนี้ ข้อเรียกร้องของผมก็คือว่า ตลอดเวลาที่ผมเป็น ส.ว.กันมา 6 ปี แถลงเรื่องสำคัญๆ เรื่องใหญ่ๆ เรื่องที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับชาติบ้านเมือง รักษาประโยชน์ เกี่ยวกับเรื่องการทุจริตของระบอบทักษิณ ทำต่อชาติ สื่อออกนิ้ด...เดียว 3 5 7 9 11 ไอทีวี

อ.เสรี - อ๋อ เพื่อความอยู่รอดของคนที่เป็น ผอ. สถานี

สโรชา - อ้าว

การุณ - เพราะฉะนั้นครั้งนี้ ตลอดเวลาที่เราท่ามกลางของพี่น้องพันธมิตรฯ เดินมา 1 ปีเต็มๆ ตั้งแต่เดือนกันยาฯ ปี 48 จนกระทั่งมาถึงเดือนกันยาฯ ปี 49 หนึ่งปีเต็มๆ สื่อ 3 5 7 9 11 ไอทีวี ออกวันละติ๊ด...เดียว

อ.เสรี - คุณการุณ คนนะ ไม่ใช่จิ้งจก จะให้เปลี่ยนสีเร็ว เขาต้องค่อยๆ เปลี่ยน

การุณ - เพราะฉะนั้นขอเรียกร้อง

สโรชา - ไม่ บอกว่าปีหนึ่งเนี่ยไม่ยอมเปลี่ยนเลย

การุณ - เอาล่ะๆ ต้องเรียกร้องล่ะ

อ.เสรี - ให้เปลี่ยน

การุณ - ให้คุณไถ่บาป

อ.เสรี - อ่ะ ใช่ๆ

การุณ - วิธีการไถ่บาปของคุณ ทำให้เป็นรูปธรรมดังต่อไปนี้

สโรชา - เช่น

การุณ - 1. ให้เอาแผ่นและเทปต่างๆ ของเอเอสทีวีที่พันธมิตรฯ พี่น้อง เดินตั้งแต่สนามหลวงมาทุกแห่ง มาทั้งหมดเลย

อ.เสรี - คุณการุณ คงจะยาก

การุณ - ให้ไปถ่ายทอดให้หมด

อ.เสรี - คงจะยาก มันจะหยาบอยู่หลายคำ เอาเป็นว่าเชิญคนที่เข้าข้างเราเนี่ยนะ หรือเห็นด้วยกับการปฏิรูปเนี่ยนะ ที่พูดจาพอจะสามารถรักษาถ้อยคำไว้ได้เนี่ยนะ ไปออกบ้างเถอะ นะ อย่างนี้ก็พอแล้ว นะ ถ้าขืนเอาเทปไปออกเนี่ย

สโรชา - คนเขาตกใจ

อ.เสรี - ลูกเด็กเล็กแดงจะบอก แม่ คำเมื่อกี้ที่เขาพูดแปลว่าอะไรล่ะแย่เลย

สโรชา - แม่ตอบไม่ได้นะ

การุณ - เราอนุญาตให้เอาคำหยาบออก

อ.เสรี - โอย ไม่มันส์ๆ เพราะถ้าเกิดถอดบางคำออกไปมันเสียหาย เอาเป็นว่าพูดใหม่ อย่างถ้าคุณการุณจะไปก็ไปได้ แต่ต้องพูดใหม่ ไอ้ประเภทที่จะเอากระไดไปล่อเนี่ย ห้ามเอาไปเด็ดขาด เข้าใจมั้ย

สโรชา - โอ๊ย พูดในวุฒิสภาก็พูดมาแล้ว

อ.เสรี - อ่ะ แต่ว่าไปออกฟรีทีวีไม่ได้ไง

การุณ - เดี๋ยวสิ ต่อไป ถ้าอย่างนั้นคุณต้องไถ่บาป ถ้างั้นต้องเอาคุณ กรณีมิ่งขวัญนี่ต้องจับในข้อหากบฏนะ คุณรู้เปล่า อาจารย์รู้เปล่า วันที่ 19 นั้นน่ะ มิ่งขวัญเอารายการของทักษิณ ประกาศของทักษิณมาออก ในขณะที่คณะปฏิวัติ คณะปฏิรูปฯ เขายึดอำนาจแล้ว การกระทำของคุณ ของมิ่งขวัญ

สโรชา - เขาก็ออกแล้วไง

การุณ - ไม่พอ ข้อหากบฏ ตัดหัว 7 ชั่วโคตร

สโรชา - ไม่พอ

อ.เสรี - นี่ๆ แอ้มๆ เดี๋ยวแอ้มจะใจอ่อน กรณีใดๆ ก็ตาม ไม่ใช่เฉพาะคุณมิ่งขวัญ ถ้าหากมีความผิด ปลดอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีการลงโทษ

การุณ - ถูกต้อง

อ.เสรี - คือถ้าแค่ปลดเนี่ยมันเบาไป คือเราไม่ได้หมายความว่าต้องลงโทษเขาด้วยศาลเตี้ยนะ ก็คือขึ้นศาล แล้วก็ตัดสิน ซึ่งตรงนี้ก็อยากจะขอเรียกร้องไปเหล่าบรรดาพวกคนที่เป็นพนักงาน อสมทฯ ด้วย ที่บอกว่าอยากให้คุณมิ่งขวัญกลับมา

สโรชา - เขาเรียกร้อง เขาลงชื่อ

อ.เสรี - ขอให้คิดถึงประเทศชาติมากกว่าคิดถึงตนเอง คือคุณมิ่งขวัญเป็นคนเก่ง สามารถทำธุรกิจ ทำให้โมเดิร์นไนนท์มีกำรี้กำไรได้ เหล่าบรรดาพนักงานช่อง 9 ที่ได้กำรี้กำไรจากหุ้นก็รู้สึกสมอกสมใจ แต่ถ้าคิดแค่นั้น เห็นแก่ตัวเกินไปหน่อย มองแคบเกินไปนิด ไม่คิดถึงประเทศชาติ คือถ้าหากว่าใครคนใดคนหนึ่งกระทำการอย่างที่ผ่านมา ช่อง 9 นี่เราก็รู้ว่าเป็นกระบอกเสียงให้รัฐบาลนะฮะ แค่ไหน อย่างไร แล้วมันอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของใคร แล้วในคืนวันนั้นที่พวกเราตกอกตกใจ บางคนแทบจะช็อกตายเนี่ยนะ เพราะตอน 4 ทุ่ม ตกลงฝ่ายไหนกันแน่วะเนี่ย เราก็ อู๊ย จะบ้าตาย เพราะฉะนั้นโทษฐานทำให้คนช็อกทั้งเมืองเนี่ย ต้องขึ้นศาลนะจะบอกให้รู้ด้วย

การุณ - ข้อหาตกใจนั้นนะครับ ทั้งหมด 6 โมงเย็น จนกระทั่งถึง 5 ทุ่ม เป็นเวลาที่ดี เวลานี้จะต้องให้กับพี่น้องพันธมิตรฯ พากันไปออกรายการ ลำเลียงข้อมูลข่าวสารว่าด้วยการทุจริตของทักษิณออกมาให้หมด

อ.เสรี - เพราะฉะนั้นเอาอย่างนี้ ถ้าตามคุณการุณว่า 1. ช่อง 9 ช่อง 11 สองช่องหลักนี้ต้องปรับผังรายการ ขั้นที่ 1

สโรชา - ช่อง 5 ล่ะคะ

อ.เสรี - ช่อง 5 ก็มีเพียงแค่รายการเดียวเท่านั้นล่ะ นอกนั้นเขาใช้ได้

สโรชา - เหรอ แต่ก็ต้องปรับไม่ใช่เหรอ

อ.เสรี - ก็ต้องปรับนิดหน่อย แต่ว่าช่อง 11 กับช่อง 9 ต้องปรับอย่างแรง พอปรับรายการแล้วต้องหาพิธีกรที่เราคิดว่าสามารถจะพูด จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความทุจริตในอดีต รายงานการสอบสวนที่กำลังจะเกิดขึ้นในปัจจุบันและอนาคต

การุณ - ที่มีอยู่แล้วก่อนหน้านี้มากมาย

อ.เสรี - ที่มีอยู่แล้วก่อนหน้านี้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง บุคคลที่เคยเป็นบุคคลต้องห้าม เพราะบังเอิญรู้ทันทักษิณ เพราะบังเอิญพูดจาน่าเชื่อถือ เพราะบังเอิญพูดแล้วประชาชนเข้าใจ แล้วก็ห้ามมาโดยตลอดเนี่ย รายการที่เราปรับใหม่เนี่ย ต้องรีบเอาบุคคลเหล่านี้มา แล้วไม่ใช่เป็นรายการเสาร์-อาทิตย์ด้วย ต้องเป็นรายการจันทร์-ศุกร์ มันจะได้เป็น 5 วัน แล้วอยู่ในช่วงไพรม์ไทม์ด้วย อย่างเช่นกรองสถานการณ์เนี่ย อยู่ต่อไปได้ แต่ต้องเปลี่ยนแนว ก็คือหมายความว่า กรองสถานการณ์เนี่ย ลองเชิญบุคคลที่เคยพูดจารู้ทันทักษิณ ซึ่งมันมีทั้งอาจารย์เศรษฐศาสตร์ อาจารย์รัฐศาสตร์ อาจารย์นิติศาสตร์ อาจารย์ทางด้านสื่อสารมวลชน

สโรชา - คือไม่ได้แค่เป็นพวกพันธมิตรฯ

อ.เสรี - ไม่ใช่ อย่างอาจารย์ย่าที่จุฬาฯ เนี่ยก็มาพูดได้ เพราะว่าแกก็เข้าใจอะไรดี อาจารย์อมรา อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ นั่นก็มาได้ อาจารย์รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์ เศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ก็พูดได้

สโรชา - พี่การุณนี่ก็พูดได้

การุณ - อาจารย์ ไม่พอ ทำไมถึงไม่พอ เพราะวัตถุประสงค์ของการยึดอำนาจคือการปราบทุจริตและปัญหาของทักษิณทุจริต มันจะต้องเอาคนที่รู้เรื่องทุจริต ไม่ใช่เอาพวกอาจารย์หรือพวกใครที่หน่อมแน้ม ที่ไม่รู้เรื่อง

อ.เสรี - ไม่ใช่ ที่บอกน่ะยกตัวอย่าง ถ้าแก้วสรรจะมาก็มา ถ้ากล้านรงค์จะมาก็มา ไม่ได้ว่ากัน

การุณ - ต้องเอาคนที่มีข้อมูลเรื่องทุจริตเข้าไป

อ.เสรี - เราบอกว่าคนที่เล่าเรื่องทุจริตในอดีตได้ คนที่รายงานการสอบสวนทุจริตปัจจุบันได้ คนอธิบายเหตุผลในการปฏิรูปฯ ครั้งนี้ คนเหล่านี้ทั้งหมดจะอยู่ตรงไหนก็แล้วแต่

สโรชา - ให้มาออกซะ

อ.เสรี - ที่สามารถควบคุมอารมณ์และวาจาตัวเองได้ เนี่ย

การุณ - เหมือนอาจารย์กับผมอย่างนี้ก็พอดีเหมือนกัน

อ.เสรี - ก็ให้สิ่งเหล่านี้ได้ปรากฏในฟรีทีวีบ้าง เป็นการไถ่โทษ เพราะตอนนี้เราเห็นมีหลายรายการแต่ก่อนหน้านี้เป็นกระบอกเสียงรัฐบาล เดี๋ยวก็เอายงยุทธมาออก เดี๋ยวก็เอาศิธามาออก เดี๋ยวเอาใครมาออก เดี๋ยวนี้รู้สึกว่าเอานักกีฬามาออก เอานัดวาดรูปมาออก ชาวบ้านโดนหมาก่งหมากัดมาออกไปด้วยเลยนะ ไปโน่นเลย กำลังย้อมสีตัวเอง แต่ยังย้อมไม่สำเร็จซะที เพราะมันเป็นคนไม่ใช่จิ้งจก มันย้อมช้าหน่อย

สโรชา - อ๋อ ก็คือรอจังหวะ พยายามยืดเวลา แล้วในที่สุดก็อาจจะกลับมาเปลี่ยนสีได้ หรือไม่

อ.เสรี - เพราะฉะนั้นเราถึงต้องเร่งด่วนไง ภายในระยะเวลา 1 ปี ต้องรีบปรับผัง ต้องรีบหาคนที่สามารถชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจได้ เพราะการจะสร้างความสมานฉันท์ได้คือ รากแก้ว และคนในเมืองรู้ทันทักษิณทัดเทียมกัน เข้าใจว่า นอกจากผลงานแล้ว จริยธรรมนั้นเหนือสิ่งอื่นใด คนเก่งปานใดถ้าทำชั่วแล้วเราไม่เอาทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม

สโรชา - ขออนุญาตเสริมในส่วนของพิธีกรด้วย เพราะว่าหลายต่อหลายท่าน พิธีกรขาออกก็เหมือนกัน ขาเขาก็เหมือนกัน พี่ๆ หลายคนที่ทำอาชีพพิธีกรแล้วถูกถอดออกจากฟรีทีวี

อ.เสรี - บุญยอด ก็หายไป

สโรชา - พี่บุญยอด พี่เติมศักดิ์ ก็เคย ออกมาหมดเลย คนพวกนี้ควรได้รับโอกาสที่จะ

อ.เสรี -ได้รับโอกาสไปช่วยกันชี้แจง คนบัญชีดำทั้งหลายไปคว้ามาเลยถ้าเกิดว่าช่อง 11 กับ ช่อง 9 ให้ใครเป็นบัญชีดำบ้างไปเอามาเลย ไปเอารายชื่อนั้นมา แสดงว่ารายชื่อนั้นรัฐบาลทักษิณกลัว กลัวว่าพูดชัด กลัวว่าพูดแล้วเข้าใจง่าย กลัวพูดแล้วคนเชื่อถือ ถึงให้เป็นบัญชีดำ

การุณ - อาจารย์ พิธีกรก็ต้องปรับปรุง

อ.เสรี - ต้องเปลี่ยนเลย

การุณ - เพราะอะไร เพราะเมื่อวันก่อนคุณบอก 1+1 เท่ากับ 3 คุณบวกผิด คุณชื่นชมทักษิณ คุณยกยอทักษิณ คุณเอาระบอบทักษิณอยู่ตลอดเวลา 1+1 มันเท่ากับ 3 แล้ววันนี้คุณจำเป็นต้องมาตอบ 1+1 เท่ากับ 2 เรื่องจริงของทักษิณคือดังต่อไปนี้ มีข้อเท็จอย่างนี้ มีข้อจริงอย่างนี้ ให้พิธีกรที่บวกเลขผิด คุณยังปล่อยให้มันอยู่เป็นพิธีกรได้อย่างไร ต้องเอามันออกก่อน

อ.เสรี - นี่ไง เราถึงบอกต้องปรับทั้งผัง ปรับทั้งคนทำรายการ เราปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้

สโรชา - จะมีไหมอาจารย์

อ.เสรี - ต้องมี

การุณ - ต้องมี ไม่อย่างนั้นประชาชนนั่งดู

อ.เสรี - มันอยู่ที่พวกเราจะเรียกร้องซักแค่ไหนอย่างไร

การุณ - พิธีกรคนนี้วันก่อนมันชื่นชมทักษิณ ทำไมวันนี้อธิบายเรื่องทักษิณ แล้วจะเชื่อมันตอนไหนดี เชื่อมันเรื่องเมื่อวานหรือเชื่อมันเรื่องวันนี้ ต้องเปลี่ยนคน

อ.เสรี - เปลี่ยนคนไปเลย จิ้งจกเปลี่ยนสีไม่ทัน

การุณ - สงสัย ถ้าอย่างนั้นจะไปหาพิธีกรที่ไหน นั่นก็ปัญญาอ่อนเหมือนบอก ถ้าทักษิณไม่อยู่แล้วจะเอาใครมาเป็นนายกฯ ตอนนี้เป็นไงแย่งกันเป็น พิธีกรอยู่เต็มพันธมิตร

อ.เสรี - บ้านเรามีพิธีกรเยอะแยะมากมายก่ายกอง มีทั้งคนที่เคยทำมาแล้วถูกปลด มีทั้งคนที่ไม่เคยทำแต่ส่อแววให้เห็นกรณีปีครึ่งที่ผ่านมา หลายคนอาจจะไม่เคยเป็นนักจัดรายการวิทยุเลย ไม่เคยเป็นนักจัดรายการโทรทัศน์เลย แต่ในเวลาปีครึ่งที่ผ่านมา การขึ้นเวทีพร้อมกับอัญชลีบ้าง พร้อมกับ อ.เจิมศักดิ์ บ้าง ได้พิสูจน์แล้วว่าเขาสามารถปรากฏตัวหน้าจอทีวี และสามารถทำรายการวิทยุได้อย่างสบายๆ เพราะฉะนั้นถามว่า ในเวทีพันธมิตรเรามีนักจัดรายการอยู่ไหม เรามีนักจัดรายการอยู่ คนที่เป็นแขกรับเชิญเวทีพันธมิตรที่ไม่เคยเป็นนักจัดรายการแต่ส่อแววจะจัดได้มีไหม มีอยู่ คนที่เคยเป็นพิธีกรแล้วถูกปลดออกไปและควรจะได้รับโอกาสอีกครั้งหนึ่งมีไหมก็มี เพราะฉะนั้นเราไม่ขัดสนพิธีกร เราไม่ขัดสนคนทำรายการ เราไม่ขัดสนวิทยากรรับเชิญ ขอเพียงอย่างเดียวเท่านั้นว่า เราอย่าไปตั้งปณิธานว่า หากแม้จะสมานฉันท์ปล่อยให้เรื่องที่ผ่านแล้วผ่านไป อย่าไปฟื้นฝอยหาตะเข็บ เพราะถ้าเราคิดเช่นนั้น คนที่คิดว่าเราไม่ควรจะมีการปฏิรูปยึดอำนาจในรอบนี้จะคิดเช่นนั้นต่อไป คนที่ไม่เข้าใจว่าทักษิณผิดอะไร จะเข้าใจเช่นนั้นตลอดไป อย่างนี้เท่ากับว่าเราปล่อยเชื้อชั่วไว้ เราตัดใบแต่ไม่ขุดรากไม่ขุดเหง้าถึงเวลาเมื่อโดนน้ำโดนฝนเหง้านั้นจะเกิดงอกเกิดใบขึ้นมาอีก ในเวลานั้นบ้านเมืองเราจะต้องปะทะกันอีกจนได้ อย่างเมื่อกี้แอ้มพูดถึงคนชอบดูละคร แอ้มไม่ต้องกลัว คนเหล่านั้นถ้าจะชวนให้มาจตุจักรเขาก็ไม่มา เสียเวลาดูละครฉันฉันไม่มาหรอก

สโรชา - ปล่อยเขาไป

อ.เสรี -เขาจะอยู่ เขาไม่เข้าข้างฝ่ายนี้ เขาไม่เข้าฝ่ายนู้น แต่เข้าข้างพระเอกนางเอกละครเขา เขาจะดูเกมโชว์ ถูกต้องแล้วคร้าบบบ เขาจะอยู่ดูของเขาต่อไป เพราะฉะนั้นคนบอกมาจตุจักรกันไหม 3 วัน 8 วัน เรื่องอะไรกูกำลังจะดูน้องเดียวได้ 200 หน้าหรือยัง เขาจะอยู่ของเขาอย่างนั้นไม่ต้องไปห่วงคนเหล่านี้ แล้วเขาจะไล่ตามกระแสไปเรื่อยๆ เราห่วงคนที่ฟังในอีกกลุ่มหนึ่งกับเราแล้วมีความคิดว่า พวกเราบ้า พวกเรามีความคิดประหลาดๆ คนได้คะแนนเสียงตั้ง 16 ล้านเสียงไปไล่เขา ไม่ยอมรับเสียงหมู่มาก เพราะว่าเขาจะพยายามกล่อมว่าประชาธิปไตยแปลว่าเสียงข้างมาก เอาเชิงปริมาณเข้าว่าแต่ไม่เอาเชิงคุณภาพ แอ้ม ถ้าเกิดโจร 5 คนกับพระ 2 คนยืนคุยกัน แล้วโจรยกมือทั้ง 5 เสียง เศียรพระต้องตัด พระมีอยู่ 2 เสียงอย่าตัด เพราะฉะนั้นว่าตามเสียงข้างมาก โจร 5 คนบอกตัด กูเลยตัดงั้นหรอ มันไม่ได้ คือจริงๆ แล้วปริมาณส่วนหนึ่ง คุณภาพส่วนหนึ่ง เราไม่ได้ดูถูกคนที่เป็นรากแก้วในเวลานี้นะ แต่เราอยากจะบอกว่า คนที่มีข้อมูลไม่ครบแล้วเลือก คนที่บังเอิญเอาขนมไปล่อแล้วเลือก เราย่อมไม่สามารถยอมรับว่าคะแนนครั้งนั้นเป็นคะแนนที่มีคุณภาพได้ หรือการใช้อำนาจรัฐข่มขู่ การใช้อำนาจเงินทั้งซื้อ ส.ส. และซื้อคนเลือกตั้ง การควบคุมสื่อไม่ให้พูดจากในสิ่งที่ครบถ้วน เลือกตั้งอย่างนั้นต่อให้ได้ทั้งหมด 60 ล้าน เหลือเศษของ
60 อยู่ 200 ก็ไม่มีความหมาย จริงๆ แล้วถ้าเราปล่อยให้เสียงข้างมากลากไป ถ้าเกิดสิงคโปร์มีตังค์เยอะๆ อเมริกามีตังค์เยอะๆ แล้วแจกคนที่อยากจะได้เงินคนละพันๆ มันไม่ยึดประเทศไทยหรอ มันก็ยึดประเทศไทยได้แค่เอาเงินมาแจกคนละพัน แล้วบอกเลือกคนๆ นี้ที่มันจะช่วยให้กูยึดประเทศมึง ไม่ได้เราต้องเอาเสียงข้างน้อยที่มีคุณภาพเป็นเสียงสำคัญ คนเป็นรัฐบาลทำตามเสียงข้างมากด้วยการเคารพสิทธิข้างน้อย ด้วยการใจกว้างฟังเสียงข้างน้อยที่ท้วงติงแล้วไปปรับการทำงานเพื่อเอาใจคนข้างมากโดยที่ไม่ผิดศีลธรรมจรรยาต่างๆ ที่มีอยู่ โดยที่ไม่ได้ทำอะไรที่ไปทำร้ายคนหมู่มาก มันต้องเป็นอย่างนั้น แต่ประเภทพวกขนมล่อคนหมู่มาก คนหมู่น้อยจะด่าว่าอย่างไรก็ช่าง พอขนมล่อเสร็จเรียบร้อยแล้วได้อำนาจมาทีนี้จะยึดประเทศเลย

สโรชา - นี่แหละที่แอ้มห่วงคือ ผู้คนที่สามารถซื้อได้ด้วยขนมชิ้นเล็กๆ น้อยๆ

อ.เสรี - ที่ซื้อได้ไม่มีใครเล่าให้ฟัง

สโรชา - ถูกต้อง ถึงเราเล่า สมมุติเอาเอเอสทีวีทั้งผัง หรือบางส่วนไปอยู่ในฟรีทีวี

อ.เสรี - น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อนแต่หัวใจอ่อนๆ มันต้องสึกได้เหมือนกัน เรามีเวลาตั้งปีหนึ่ง

สโรชา - สามารถทำได้ ห่วงมาก สิ่งที่ห่วงที่สุดคือว่า

อ.เสรี - ไม่อย่างนั้นจะมีคำว่านักพูดหรอ

สโรชา - เรากำลังแก้ปัญหาที่ปลายเหตุหรือเปล่า ทำไมเราไม่ลงไปถึงรากหญ้าที่บอกเขา บอกเขาว่า คุณที่คุณดูพระเอกนางเอกอยู่คุณหันมาฟังอาจารย์เสรี คุณหันมาดู

การุณ - มันไม่มีจะดู แต่ถ้าคนไหนที่ดูเอเอสทีวีแล้วมันจะดูช่อง 3 5 7 9 ไม่ได้เลย

อ.เสรี - เห็นไหมแสดงว่ามีความหวัง

สโรชา - แห้มห่วงมาก

อ.เสรี - ไม่ตอนนี้คนจะดูเอเอสทีวี จะดูเนชั่นต้องจ่ายตังค์

การุณ - เปิดไปดูช่อง 3 5 7 กดไปกดมามันไม่มีเรื่องจะดู แต่พอกดมาเอเอสทีวีแล้วมันสะใจ มันมันส์เพราะมันมาเห็นคน เห็นเรื่องเห็นราว เห็นข้อเท็จจริงที่มันสนุก

อ.เสรี - แอ้ม เอาอย่างนี้แล้วกัน ตั้งแต่พี่ติดเอเอสทีวีนะ ตั้งแต่ 5 โมงเย็น จนถึงตี 1 เนี่ย สถานีโทรทัศน์พี่น่ะแช่อยู่ช่องเดียวนี่ล่ะ

สโรชา - ทำยังไงๆ

อ.เสรี - พอดูอย่างอื่นชักจะมีความรู้สึก กูโง่ไปหน่อยหรือเปล่า

สโรชา - ไม่ ทำยังไงให้คนอีกจำนวนมากที่ยังไม่รู้ ยังไม่เห็น ยังไม่ดู เปลี่ยนพฤติกรรมมาดู เพื่อที่ว่าในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น 15 ปี 20 ปี

อ.เสรี - แอ้ม เราไม่มีฟรีให้เขาดูไง เขาต้องมาติดจาน เขาต้องมาทำอะไรต่างๆ แต่ถ้ามันออกใน 3 5 7 9 ไอทีวี 11

สโรชา - เขาจะดูไหมอ่ะ เราจะไปสู้กับละครเขาได้ไหมล่ะ

อ.เสรี - ไม่ ถ้าเราปรับผัง ละครก็ต้องหายไปหน่อยสิ ละครมันจะไปอุดมอะไรขนาดนั้น

การุณ - เวลา 6 โมงเย็น ไปจนถึง 5 ทุ่ม เวลานี้ก็จะต้องมีรายการประเภทอย่างนี้ที่เป็นสาระ เป็นเรื่องเป็นราวเข้าไปสิ

อ.เสรี - อย่างนี้นะแอ้ม รายการอย่างนี้ถ้าเกิดจะมีในฟรีทีวีบ้างนะ ถ้าแอ้มอยากรู้นะ แอ้มต้องตื่นตี 5 มาฟัง นะ แล้วก็ 6 โมงครึ่งก็หายไปแล้ว หรือไม่งั้นต้องรอหลังตี 1 ถึงจะได้ดู เพราะฉะนั้นเราก็จะต้องเอาไปไว้ตอน 2 ทุ่ม 3 ทุ่ม แล้วเสร็จแล้วเขาหมุนไปตรงไหนมันก็ไม่มีอย่างอื่นดู ก็ลองดูสิ โอ๊ย มันดี สนุกดี

สโรชา - เอาอัญชลี ไพรีรัก ไปสู้กับสุวนันท์ คงยิ่ง ให้มันรู้ไป

การุณ - เจอการุณบ้าง เจออาจารย์เจิมศักดิ์บ้าง เจออาจารย์เสรีบ้าง

อ.เสรี - เชื่อเถอะ แอ้ม คนที่พูดหลายๆ คนเนี่ยมีเสน่ห์เพียงพอในการที่จะทำให้คนบอกว่า เฮ้ย น่าคิด มันเกิด Second Thought มันเกิดความคิดรอบ 2 มันใคร่ครวญพิจารณา แล้วเราก็สามารถร้องเพลง น้ำหยดลงหิน ได้อย่างสบายๆ เชื่อเถอะ เอาอย่างนี้แล้วกัน ไม่ได้อวดตัวนะ ขอเสรีสักรายการ จากจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่ 3 ทุ่ม ถึง 4 ทุ่มนะ

สโรชา - เห็นด้วย

อ.เสรี - แต่ไม่ใช่ที่เอเอสทีวีนะ ในฟรีทีวีน่ะ ให้มาสิ

การุณ - อาจารย์ คนที่ดูเอเอสทีวี แต่ก่อนก็ไม่ได้เป็นคนที่เคยดูเอเอสทีวีนะ ก็ดู 3 5 7 9 เหมือนกัน แต่เมื่อเขามาดูเอเอสทีวี ทำไม

อ.เสรี - แช่เลย อันนี้แช่เลยๆ

การุณ - เอ่อ ทำไมเขาแช่เลยล่ะ

อ.เสรี - แช่ไวัๆๆ

สโรชา - โปรดิวเซอร์เขาบอกว่าตอนนั้นรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ยังสู้กับละครในช่วงเดียวกันที่ออกช่อง 9 ได้เลย ซึ่งจริง

อ.เสรี - เพราะฉะนั้นจริงๆ แล้ว ลองให้อาจารย์เจิมศักดิ์แกสักครึ่งชั่วโมง หนึ่งชั่วโมง เสรี วงษ์มณฑา ขอมาสักหนึ่งชั่วโมง อัญชลีเป็นพิธีกรสัก 1 รายการ แล้วหาคนเชิญไป ทำไมเราจะทำให้หินกร่อนมิได้

สโรชา - คุณผู้ชมคะเดี๋ยวเราพักกันอีกสักครึ่งหนึ่งนะคะ กลับมาเราจะมาตอบคำถามคุณผู้ชม มีเข้ามาจากทั่วทุกสารทิศของประเทศไทย รวมไปถึงในต่างประเทศด้วยนะคะ สักครู่เดียวค่ะ

สโรชา - กลับมาสู่เมืองไทยรายสัปดาห์ดภาคพิเศษในค่ำคืนนี้นะคะ หลายท่านคงจะรออยู่ว่าคุณสนธิที่ไปออกบีบีซีนั้น เราจะตัดสัญญาณไปเมื่อไร กำลังรออยู่นะคะ สัญญาณบีบีซีเวิลด์ เข้าใจว่า ไม่น่าจะนาน อีกสักกี่นาทีจากนี้ไปถ้าเกิดมีสัญญาณสดมาแล้วเราจะรีบตัด ถ้าหากว่าไม่ทัน หรืออย่างไร จะนำเทปมาให้คุณผู้ชมชาวเอเอสทีวี นิวส์วัน ได้รับชมกันแน่นอนค่ะ
ข่าวประชาสัมพันธ์นะคะ ในวันพรุ่งนี้ วันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม นะคะ ขอเชิญร่วมฟังธรรมะบรรยาย และฝึกปฏิบัติปฏิจจสมุปบาท นะคะ 09.30-12.30 น. และบรรยายอโรมาตามธาตุเจ้าเรือน 10.00 - 12.00 น. ณ อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ นั่นก็คือห้องส่งของเอเอสทีวีนั่นเองนะคะ อีกข่าวหนึ่งนะคะ มีเงินบริจาคจากทุนง่วงอย่าหลับ มูลนิธิรามาธิบดี โดยนายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ บริจาคให้เอเอสทีวี 100,000 บาท ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ
กลับมาคุยกัน มีคำถามเข้ามาเยอะแยะมากมายนะคะ เดี๋ยวช่วงสุดท้ายคงจะได้ตอบคำถามของคุณผู้ชม แต่ว่าช่วงนี้ขอพูดถึงเรื่องสื่อ แล้วก็บทบาทของภาคประชาชนก่อนค่ะ เพราะว่า แน่นอน เกริ่นไว้แล้วว่าภาคประชาชนบางส่วนก็ยังไม่รับทราบถึงข้อมูล บางส่วนรับทราบแล้วอาจจะยังเข้าไม่ถึง บางส่วนเข้าใจแล้วแต่ยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ เราจะทำยังไงดีคะอาจารย์

อ.เสรี - คืออย่างนี้ ถ้าเราดูในประกาศของ คปค. มีอยู่ข้อหนึ่งว่า บ้านเมืองแตกแยกมาก ถ้าเกิดเราจะวิเคราะห์ไปในเรื่องของการแตกแยก มันก็เกิดขึ้นจากการมีข้อมูลที่ต่างกัน มีมุมมองที่ต่างกัน เนื่องจากรับรู้เรื่องต่างกัน ก็เลยเกิดกลุ่มประเภททักษิณ สู้ๆ กับทักษิณ ออกไป อันนี้ชัดเจนนะฮะ ทีนี้กลุ่มที่เป็นทักษิณออกไป ก็คือว่า มองดูแล้วว่าปัญหาทางด้านคุณธรรม จริยธรรม มันร้ายเกินกว่าที่จะไปชดเชยด้วยผลงานใดๆ ทั้งสิ้น เราก็เลยบอกทักษิณออกไป แต่กลุ่มหนึ่งที่บอกทักษิณสู้ๆ นั้นก็คือว่า ไม่รับรู้เรื่องปัญหาจริยธรรม คุณธรรม รู้แต่เรื่องของโครงการเอื้ออาทร โครงการประชานิยม ผลผลิตที่ได้ ซึ่งตรงนี้มันเกิดจากอะไรล่ะ มันก็เกิดขึ้นจากแนวทางการทำงานของรัฐบาลที่แล้วกับสื่อ ที่เขาทั้งคุกคาม ครอบครอง ครอบงำ ควบคุม เขาทำทั้งหมดนะฮะ การคุกคามก็อย่างเช่น คุณด่าฉันเหรอ ปลด เอาออก

สโรชา - ไม่ต้องมาให้เห็นหน้า

อ.เสรี - ไปค้น ไปอะไรต่างๆ นี่คือคุกคาม ครอบครองก็คือว่า ซื้อแม่งเลย ซื้อเลย นั่นคือการครอบครอง

สโรชา - ฉันมีเงิน

อ.เสรี - ฉันมีเงิน ฉันจะต้องเป็นหุ้นส่วนไปเลย ขณะเดียวกัน ควบคุมก็คือ ใช้กฎหมายในการจะควบคุมว่าไอ้นั่นทำได้ ไอ้นี่ทำไม่ได้ นะฮะ ส่วนครอบงำนั้น ก็คือใช้อำนาจรัฐบ้าง ใช้ความเป็นมิตรสหายบ้าง ใช้ความเป็นสปอนเซอร์บ้าง ทั้งหมดเหล่านี้เขาก็ได้ทั้งหมด ทุก ค. เหล่านั้น ทั้งครอบครอง ควบคุม คุกคาม ครอบงำ ในที่สุดแล้วเหล่าบรรดาสื่อที่อยู่สายฟรีทีวีทั้งหมด ที่ไม่ใช่เนชั่น แล้วก็ไม่ใช่เอเอสทีวี ก็เลยต้องทำงานอยู่ภายใต้บรรยากาศของความหวาดกลัว สื่อเริ่มเซ็นเซอร์ตัวเอง ก็คือว่า แทนที่จะดูว่าประเด็นนี้ควรจะออกไหม คนนี้น่าจะเชิญไหม กลายเป็นว่ามานั่งดูว่า ประเด็นนี้ถ้าออกจะโดนปลดไหม ประเด็นนี้ถ้าเกิดออกจะโดนด่าไหม ถ้าเชิญคนนี้มารายการจะกระเทือนไหม คือตราบใดก็ตามในสังคมประชาธิปไตยเนี่ย ถ้าสื่อเริ่มเซ็นเซอร์ตัวเอง โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติและแผ่นดิน แต่คำนึงถึงความอยู่รอดของรายการและความอยู่รอดของคนเป็นพิธีกรในรายการ ตรงนั้นประชาธิปไตยฉิบหายแล้ว มันเป็นไปไม่ได้แล้ว แต่เราจะเห็นได้ว่าฟรีทีวีก่อนหน้าที่จะถึงวันที่ 19 เนี่ย ฟรีทีวีมีลักษณะเช่นนั้น ถึงขนาดที่เรียกว่า มีคนบางคนอยู่ในบัญชีดำ เพราะถ้าเกิดว่ามาพูดปั๊บ จะต้องพูดคัดค้านกับทักษิณ เพราะฉะนั้นก็ตกอยู่ในบัญชีดำ นะฮะ นอกจากคนเหล่านั้นบางกลุ่มที่เซ็นเซอร์ตัวเอง เอาล่ะ เขาน่ะไม่ชั่วร้ายรุนแรงก็ตรงที่ว่าแค่เซ็นเซอร์ตัวเอง แล้วก็ไม่พูดทั้งความดีและความชั่วของทักษิณ แต่ก็จะมีสื่อบางสื่อนั้นถูกกำหนดให้เป็นผู้รับใช้เลย นั่นก็หมายความว่า ต้องพูดเรื่องนี้นะ ต้องอธิบายอย่างนี้นะ ต้องเอาคนนี้มาออกนะ อะไรอย่างนี้เป็นต้น เพราะฉะนั้นสื่ออย่างนั้นมี ผลของการกระทำทั้งหมดเหล่านั้นก็เลยทำให้คนที่อ่านหนังสือพิมพ์ ดูเอเอสทีวี ดูเนชั่น คิดอย่างหนึ่ง แต่คนที่ดูรายการประเภทพูดคุยเหมือนอย่างเราเนี่ย แต่อยู่ในฟรีทีวีเนี่ย คิดอีกอย่างหนึ่ง แล้วไอ้การคิดอีกอย่างหนึ่งนั้น พอพวกเราออกมา ทักษิณออกไป คนเหล่านั้นถามคำถามที่ไร้เดียงสา น่าสงสารมาก ทักษิณผิดอะไรเหรอ (ลากเสียง)

สโรชา - ทำหน้าน่ารัก

อ.เสรี - ทักษิณผิดอะไรเหรอ ทำไมต้องไล่เขาด้วย ไม่มีใครแล้ว 30 บาทฯ ไม่หายไปเหรอ กองทุนหมู่บ้านทำไงดีล่ะ อะไรอย่างเนี้ย มันก็จะมีไร้เดียงสา ประมาณนี้เกิดขึ้น

สโรชา - มีสื่อที่ บางสื่อที่เข้ามาใช้เพื่อให้ได้ประโยชน์ของรัฐ แต่มีสื่อบางสื่อไหมที่อาสาที่จะรับใช้ ชมเช้า ชมกลางวัน ชมเย็น

อ.เสรี - ก็คงจะมี คนบางคนเขามีความรู้สึกว่าทำรายการปกติได้สตางค์น้อยแต่ถ้ารับใช้ไปซะเลยจะได้สตางค์เยอะ มาเป็นก้อนใหญ่ๆ ทีนี้ตรงนั้นต้องถือว่า สื่อประเภทที่แอ้มพูดจะอาสารับใช้ ยินดีรับใช้ เขาจ้างให้ใช้ อะไรก็แล้วแต่ เป็นกลุ่มหนึ่งที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งภายในประเทศ เพราะให้ข้อมูลไม่ครบถ้วนแล้วทำให้เกิดความชื่นชมอะไรต่างๆ นานา เพราะฉะนั้นในตอนนั้นเราเกิดความแตกแยก ซึ่งเป็นข้อที่ 1 เลยของการปฏิรูปครั้งนี้ ทีนี้การแตกแยกตอนนั้นมีเอาทักษิณกับไม่เอาทักษิณ แต่ตอนที่มีคณะปฏิรูปฯ เกิดขึ้น เท่ากับว่า ผู้ซึ่งเป็นผู้นำในบ้านเมืองในเวลานี้ได้ตัดสินให้เราแล้วว่าไม่เอาทักษิณ ดังนั้นสื่อทั้งหลาย ณ เวลานี้ที่เป็นสื่อเสรีน่าจะช่วยจัสซิฟราย ต้องช่วยทำให้การปฏิรูปครั้งนี้มีเหตุมีผล แสดงถึงความเหมาะ ความควร ความยุติธรรม โดยการนำเอาบุคคลซึ่งเข้าใจสถานการณ์ดีว่าบ้านเมืองมันถึงทางตัน บ้านเมืองถ้าเราไม่ทำอะไร วันที่ 19 ถ้าไม่ปฏิวัติ วันที่ 20 น่าจะนองเลือดเพราะขณะที่พวกเราเตรียมการว่าพวกเราจะไปชุมนุมกันอีกครั้งหนึ่ง แต่ทางฝ่ายนู้นเขาเตรียมการเอาคนบุกเข้ามาเหมือนกัน เพราะฉะนั้นการนองเลือดต้องเกิดขึ้นในวันที่ 20 แน่นอน เพราะฉะนั้นทหารเขาได้ช่วยทำให้การนองเลือดที่เป็นการปะทะระหว่างคนไทยฆ่าคนไทยด้วยกันเองไม่เกิดขึ้น สื่อเหล่านั้นต้องช่วยอธิบายด้วย ขณะเดียวกันถ้าเกิดเขาบอก โอ๊ยพวกที่อยู่ในเอเอสทีวี มันพูดจาโวยวายโครมคราม ถาม คนที่พูดจาให้ประชาชนเข้าใจโดยไม่โวยวายโครมครามมีไหม เหล่าบรรดาท่านทูต 4-5 คนที่มานั้น พูดได้ไพเราะมาก อย่าง คุณถนัด คอมัน คุณอานันท์ ปันยารชุน หมอประเวศ วะสี หมอเสม อ.ระพี อ.เสน่ห์ จามาลิก คนเหล่านี้สามารถพูดจาให้ประชาชนรับฟังได้แล้วไม่โวยวายโครมคราม ไม่ด่าทอต่อว่า ไม่หยาบคาย จะสามารถชี้แจงสมานฉันได้ ตอนนี้ปัญหาที่น่ากลัวคือ คนที่ไปสร้างกระแสว่า ไหนๆ ก็ผ่านไปแล้วพวกเขาก็ไปแล้วอย่าฟื้นฝอยหาตะเข็บ ดังนั้นอย่าไปพูดเลยว่าเขาผิดอย่างไร อย่าไปพูดเลยว่าเขาไม่ดีอย่างไร ถ้าไม่พูดว่าเขาผิดอย่างไร ไม่ดีอย่างไร การทำงานของคณะปฏิรูปฯ ก็เป็นการทำงานที่ฉีกรัฐธรรมนูญ

สโรชา - อาจารย์คะแอ้มขออนุญาตขัดซักนิดหนึ่ง ไปฟังสัญญาณสดจากบีบีซี จากประเทศอังกฤษ สัมภาษณ์คุณสนธิ ลิ้มทองกุล

(ตัดสัญญาณบีบีซี)

สโรชา - บีบีซีเริ่มต้นด้วยคำถามว่า อะไรจึงนำมาสู่การปฏิวัติ ปฏิรูปที่ผ่านมาในวันที่ 19 กันยายน โดยคุณสนธิได้

อ.เสรี - คุณสนธิตอบได้น่าสนใจมาก ทักษิณเป็นคนที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน แล้วก็เข้ามาครอบงำสื่อ ถึงจุดรุนแรงจนเรียกว่าไม่มียูเทินให้เราเลี้ยวต่อไปแล้ว

สโรชา - คือไม่มีทางกลับ

อ.เสรี - ปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นประมาณปีครึ่งแล้วทักษิณได้ครอบงำคนจนกระทั่งไม่มีใครกล้าลุกขึ้นมาต่อสู้ เพราะไม่ว่าใครก็ตามที่จะทำการต่อต้านนั้น ทักษิณจะฟ้องไปตลอดกาลเลย แล้วขณะเดียวกันเหล่าบรรดาพันธมิตรเคยให้คำแนะนำ เตือนมาหลายครั้งแล้วว่าอย่าทำเช่นนี้เลย แล้วสิ่งหนึ่งที่คนไทยรับไม่ได้ก็คือการจาบจ้วง แล้วปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์ ตรงนี้ทำให้คุณธิรู้สึกพอใจกับการที่เกิดการปฏิรูปในครั้งนี้ แล้วดีใจตรงที่ว่า คณะปฏิรูปนำเอาเรื่องของการร่างรัฐธรรมนูญมาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการที่จะแก้ไขบ้านเมืองในครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตามคุณสนธิยังมีความกังวลอยู่ว่า ถ้าเกิดคณะรัฐบาลชั่วคราวในเวลา 1 ปี ไม่ทำในสิ่งที่ถูกที่ควรแล้วละก็เชื้อชั่วจะกลับมาได้เพราะเชื้อชั่วไม่เคยตาย สิ่งที่ต้องเตือนกัน อย่ามองประชาธิปไตยในเชิงสัญลักษณ์เพราะว่าเรื่องของรัฐธรรมนูญนั้นไม่ใช่เป็นเพียงแค่ปัจจัยเดียวที่แสดงว่าเรานั้นมีประชาธิปไตย เพราะว่าการที่เราจะเป็นประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญและการเลือกตั้งเป็นเพียงแค่สัญลักษณ์เท่านั้น แต่มันต้องมีประชาธิปไตยที่แท้จริง

สโรชา - คุณสนธิพูดตอนท้ายได้น่าสนใจ บอกว่า รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของหัวใจ เป็นเรื่องของจิตใจ

อ.เสรี - คือจะร่างไว้เป็นตัวหนังสืออย่างไรไม่มีความหมาย เท่ากับว่าจิตใจเราเป็นประชาธิปไตยหรือเปล่า

สโรชา - แล้วคำถามที่น่าสนใจอีกคำถามหนึ่ง เขาถามคุณสนธิอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งแอ้มก็ตกใจเหมือนกันว่าเขาถาม คือกล้าถามขนาดนี้ คือ คุณสนธิเองถูกมองว่าเป็นคนใกล้ชิดกับคุณทักษิณในช่วงแรกๆ ทำไมจึงตัดสินใจ คือหมายความว่า สนิทกันถึงขั้นว่าพูดคุยกันได้เกือบจะตลอดเวลา แต่ทำไมถึงไม่เอาแล้ว หันหลังให้ ซึ่งคุณสนธิบอกว่า มีหลายต่อหลายครั้งที่เตือนแล้วไม่ฟัง บอกแล้วไม่เชื่อ

อ.เสรี - บอก กินข้าวด้วยกันพูดอย่างหนึ่ง แต่พอทำจริงๆ ไม่เหมือนกับพูดที่โต๊ะกินข้าว

สโรชา - นี่เป็นแค่บางช่วงสำหรับการเดินสายของคุณสนธิไปยังประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกาที่จะไปทำความเข้าใจกับชาวต่างชาติ คุณผู้ชมฟังจากคำถามของบีบีซีแล้วคุณผู้ชมคงจะได้รับทราบถึงความรู้สึกของเขา ถึงความไม่เข้าใจว่า ทำไมคนไทยถึงได้ดีใจกับการมีรัฐประหารในบ้านเรา ทำไมเราถึงได้นำดอกไม้ไปให้เจ้าหน้าที่ทหาร ทำไมเราถึงได้ไม่รู้สึกเป็นห่วง หรือกังวลกับการปฏิรูป และการรัฐประหารครั้งนี้

อ.เสรี - คือ ประชาธิปไตยของทรราชมันร้ายกาจกว่าเผด็จการแห่งความเมตตา

การุณ - นับได้ว่า คุณสนธิคนเดียวทำงานได้มากกว่ากระทรวงต่างประเทศของไทยทั้งกระทรวง

อ.เสรี - แต่จริงๆ แล้วพวกเราหลาย ๆ คน หากแม้ว่าเรามีโอกาสเราคงแสดงความคิดเห็นไม่ต่างไปจากคุณสนธิ ว่าเรานั้นถึงแม้จะยึดมั่นในประชาธิปไตยแต่เราไม่ได้ยึดมั่นประชาธิปไตยเชิงสัญลักษณ์ว่าจะต้องมีรัฐธรรมนูญ และมีการเลือกตั้ง เราขอยึดมั่นในประชาธิปไตยที่แท้จริง ที่เกิดจากการปฏิบัติของผู้นำของประเทศ เพราะฉะนั้นแม้ครั้งนี้เราจะฉีกรัฐธรรมนูญ แม้ครั้งนี้เราจะไม่มีการเลือกตั้ง เราต้องแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลชั่วคราวที่อยู่ 1 ปี เราจะอยู่ในสภาพที่ดีกว่าสมัยทักษิณ เช่น สื่อไม่มีความหวาดกลัว สื่อเป็นทาสที่ปล่อยไปและเป็นไทยในหัวใจ และสามารถทำในสิ่งที่ต้องการได้ พวกเราสามารถวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลได้โดยอิสระเสรี โดยไม่มีใครมาคุกคามข่มขู่เรา ถ้าหากการค้าขายอะไรต่างๆ เป็นไปโดยยุติธรรมไม่มีการเอารัดเอาเปรียบกัน นโยบายทุกนโยบายที่ออกมาไม่มีผลประโยชน์อยู่เบื้องหลัง ไม่มีฮิทเด้นเดอะเจนด้า ไม่มีวาระซ่อนเร้นใดๆ ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่เป็นการคอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย เราจะชี้ให้ต่างชาติได้เห็นโดยไม่จำเป็นต้องอธิบายมากมาย การกระทำและปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านเรานั้นจะเป็นการอธิบายที่ดีที่สุด โดยที่เราไม่ต้องเสียน้ำลายเลย เพราะว่าเขาจะเห็นได้ด้วยตัวเขาเองว่า ปรากฏการณ์ในบ้านเราที่เป็นอยู่ในช่วง 1 ปี ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งนั้น เสรีภาพและความเป็นประชาธิปไตยของเรานั้นอยู่ในหัวใจและการกระทำอย่างแท้จริง

สโรชา - เราหวังไหมคะคุณการุณ

การุณ - เสียดายเงินงบประมาณที่คณะปฏิรูปฯ

อ.เสรี - อ๋อ เขาจะฟ้องเอาคืน

การุณ - อนุมัติให้สุรเกียรติ์ไปหาเสียงยูเอ็น น่าจะเอาเงินหาเสียงนั้นมาช่วยให้คุณสนธิไปทำงานเมื่อกี้นะ

สโรชา - คุณสนธิออกตังค์เองนะ

การุณ - เรี่ยไร พวกเราเรี่ยไรช่วยกันไป

อ.เสรี - ไม่เป็นไร ถ้าเกิดจะให้ไปจริงๆ น่ะ ไปเองก็ไปได้ สตางค์เรา เราไม่เสียดายหรอก เพื่อประเทศชาติเท่าไรก็เสียได้

การุณ - เดี๋ยว ของผมก่อน

อ.เสรี - เพียงแต่เรานะถูกหาว่าเสือกเท่านั้นล่ะ

การุณ - เดี๋ยวๆๆ ของผมก่อน เรื่องสื่อเมื่อนี้ยังไม่ได้ว่าเลย

อ.เสรี - อ่ะ ต่อไป

การุณ - ของอาจารย์อย่างนั้นนะ แต่ของผมอยากจะเรียกร้องเลยทีนี้ ข้อเรียกร้องของผมก็คือว่า ตลอดเวลาที่ผมเป็น ส.ว.กันมา 6 ปี แถลงเรื่องสำคัญๆ เรื่องใหญ่ๆ เรื่องที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับชาติบ้านเมือง รักษาประโยชน์ เกี่ยวกับเรื่องการทุจริตของระบอบทักษิณ ทำต่อชาติ สื่อออกนิ้ด...เดียว 3 5 7 9 11 ไอทีวี

อ.เสรี - อ๋อ เพื่อความอยู่รอดของคนที่เป็น ผอ. สถานี

สโรชา - อ้าว

การุณ - เพราะฉะนั้นครั้งนี้ ตลอดเวลาที่เราท่ามกลางของพี่น้องพันธมิตรฯ เดินมา 1 ปีเต็มๆ ตั้งแต่เดือนกันยาฯ ปี 48 จนกระทั่งมาถึงเดือนกันยาฯ ปี 49 หนึ่งปีเต็มๆ สื่อ 3 5 7 9 11 ไอทีวี ออกวันละติ๊ด...เดียว

อ.เสรี - คุณการุณ คนนะ ไม่ใช่จิ้งจก จะให้เปลี่ยนสีเร็ว เขาต้องค่อยๆ เปลี่ยน

การุณ - เพราะฉะนั้นขอเรียกร้อง

สโรชา - ไม่ บอกว่าปีหนึ่งเนี่ยไม่ยอมเปลี่ยนเลย

การุณ - เอาล่ะๆ ต้องเรียกร้องล่ะ

อ.เสรี - ให้เปลี่ยน

การุณ - ให้คุณไถ่บาป

อ.เสรี - อ่ะ ใช่ๆ

การุณ - วิธีการไถ่บาปของคุณ ทำให้เป็นรูปธรรมดังต่อไปนี้

สโรชา - เช่น

การุณ - 1. ให้เอาแผ่นและเทปต่างๆ ของเอเอสทีวีที่พันธมิตรฯ พี่น้อง เดินตั้งแต่สนามหลวงมาทุกแห่ง มาทั้งหมดเลย

อ.เสรี - คุณการุณ คงจะยาก

การุณ - ให้ไปถ่ายทอดให้หมด

อ.เสรี - คงจะยาก มันจะหยาบอยู่หลายคำ เอาเป็นว่าเชิญคนที่เข้าข้างเราเนี่ยนะ หรือเห็นด้วยกับการปฏิรูปเนี่ยนะ ที่พูดจาพอจะสามารถรักษาถ้อยคำไว้ได้เนี่ยนะ ไปออกบ้างเถอะ นะ อย่างนี้ก็พอแล้ว นะ ถ้าขืนเอาเทปไปออกเนี่ย

สโรชา - คนเขาตกใจ

อ.เสรี - ลูกเด็กเล็กแดงจะบอก แม่ คำเมื่อกี้ที่เขาพูดแปลว่าอะไรล่ะแย่เลย

สโรชา - แม่ตอบไม่ได้นะ

การุณ - เราอนุญาตให้เอาคำหยาบออก

อ.เสรี - โอย ไม่มันส์ๆ เพราะถ้าเกิดถอดบางคำออกไปมันเสียหาย เอาเป็นว่าพูดใหม่ อย่างถ้าคุณการุณจะไปก็ไปได้ แต่ต้องพูดใหม่ ไอ้ประเภทที่จะเอากระไดไปล่อเนี่ย ห้ามเอาไปเด็ดขาด เข้าใจมั้ย

สโรชา - โอ๊ย พูดในวุฒิสภาก็พูดมาแล้ว

อ.เสรี - อ่ะ แต่ว่าไปออกฟรีทีวีไม่ได้ไง

การุณ - เดี๋ยวสิ ต่อไป ถ้าอย่างนั้นคุณต้องไถ่บาป ถ้างั้นต้องเอาคุณ กรณีมิ่งขวัญนี่ต้องจับในข้อหากบฏนะ คุณรู้เปล่า อาจารย์รู้เปล่า วันที่ 19 นั้นน่ะ มิ่งขวัญเอารายการของทักษิณ ประกาศของทักษิณมาออก ในขณะที่คณะปฏิวัติ คณะปฏิรูปฯ เขายึดอำนาจแล้ว การกระทำของคุณ ของมิ่งขวัญ

สโรชา - เขาก็ออกแล้วไง

การุณ - ไม่พอ ข้อหากบฏ ตัดหัว 7 ชั่วโคตร

สโรชา - ไม่พอ

อ.เสรี - นี่ๆ แอ้มๆ เดี๋ยวแอ้มจะใจอ่อน กรณีใดๆ ก็ตาม ไม่ใช่เฉพาะคุณมิ่งขวัญ ถ้าหากมีความผิด ปลดอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีการลงโทษ

การุณ - ถูกต้อง

อ.เสรี - คือถ้าแค่ปลดเนี่ยมันเบาไป คือเราไม่ได้หมายความว่าต้องลงโทษเขาด้วยศาลเตี้ยนะ ก็คือขึ้นศาล แล้วก็ตัดสิน ซึ่งตรงนี้ก็อยากจะขอเรียกร้องไปเหล่าบรรดาพวกคนที่เป็นพนักงาน อสมทฯ ด้วย ที่บอกว่าอยากให้คุณมิ่งขวัญกลับมา

สโรชา - เขาเรียกร้อง เขาลงชื่อ

อ.เสรี - ขอให้คิดถึงประเทศชาติมากกว่าคิดถึงตนเอง คือคุณมิ่งขวัญเป็นคนเก่ง สามารถทำธุรกิจ ทำให้โมเดิร์นไนนท์มีกำรี้กำไรได้ เหล่าบรรดาพนักงานช่อง 9 ที่ได้กำรี้กำไรจากหุ้นก็รู้สึกสมอกสมใจ แต่ถ้าคิดแค่นั้น เห็นแก่ตัวเกินไปหน่อย มองแคบเกินไปนิด ไม่คิดถึงประเทศชาติ คือถ้าหากว่าใครคนใดคนหนึ่งกระทำการอย่างที่ผ่านมา ช่อง 9 นี่เราก็รู้ว่าเป็นกระบอกเสียงให้รัฐบาลนะฮะ แค่ไหน อย่างไร แล้วมันอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของใคร แล้วในคืนวันนั้นที่พวกเราตกอกตกใจ บางคนแทบจะช็อกตายเนี่ยนะ เพราะตอน 4 ทุ่ม ตกลงฝ่ายไหนกันแน่วะเนี่ย เราก็ อู๊ย จะบ้าตาย เพราะฉะนั้นโทษฐานทำให้คนช็อกทั้งเมืองเนี่ย ต้องขึ้นศาลนะจะบอกให้รู้ด้วย

การุณ - ข้อหาตกใจนั้นนะครับ ทั้งหมด 6 โมงเย็น จนกระทั่งถึง 5 ทุ่ม เป็นเวลาที่ดี เวลานี้จะต้องให้กับพี่น้องพันธมิตรฯ พากันไปออกรายการ ลำเลียงข้อมูลข่าวสารว่าด้วยการทุจริตของทักษิณออกมาให้หมด

อ.เสรี - เพราะฉะนั้นเอาอย่างนี้ ถ้าตามคุณการุณว่า 1. ช่อง 9 ช่อง 11 สองช่องหลักนี้ต้องปรับผังรายการ ขั้นที่ 1

สโรชา - ช่อง 5 ล่ะคะ

อ.เสรี - ช่อง 5 ก็มีเพียงแค่รายการเดียวเท่านั้นล่ะ นอกนั้นเขาใช้ได้

สโรชา - เหรอ แต่ก็ต้องปรับไม่ใช่เหรอ

อ.เสรี - ก็ต้องปรับนิดหน่อย แต่ว่าช่อง 11 กับช่อง 9 ต้องปรับอย่างแรง พอปรับรายการแล้วต้องหาพิธีกรที่เราคิดว่าสามารถจะพูด จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความทุจริตในอดีต รายงานการสอบสวนที่กำลังจะเกิดขึ้นในปัจจุบันและอนาคต

การุณ - ที่มีอยู่แล้วก่อนหน้านี้มากมาย

อ.เสรี - ที่มีอยู่แล้วก่อนหน้านี้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง บุคคลที่เคยเป็นบุคคลต้องห้าม เพราะบังเอิญรู้ทันทักษิณ เพราะบังเอิญพูดจาน่าเชื่อถือ เพราะบังเอิญพูดแล้วประชาชนเข้าใจ แล้วก็ห้ามมาโดยตลอดเนี่ย รายการที่เราปรับใหม่เนี่ย ต้องรีบเอาบุคคลเหล่านี้มา แล้วไม่ใช่เป็นรายการเสาร์-อาทิตย์ด้วย ต้องเป็นรายการจันทร์-ศุกร์ มันจะได้เป็น 5 วัน แล้วอยู่ในช่วงไพรม์ไทม์ด้วย อย่างเช่นกรองสถานการณ์เนี่ย อยู่ต่อไปได้ แต่ต้องเปลี่ยนแนว ก็คือหมายความว่า กรองสถานการณ์เนี่ย ลองเชิญบุคคลที่เคยพูดจารู้ทันทักษิณ ซึ่งมันมีทั้งอาจารย์เศรษฐศาสตร์ อาจารย์รัฐศาสตร์ อาจารย์นิติศาสตร์ อาจารย์ทางด้านสื่อสารมวลชน

สโรชา - คือไม่ได้แค่เป็นพวกพันธมิตรฯ

อ.เสรี - ไม่ใช่ อย่างอาจารย์ย่าที่จุฬาฯ เนี่ยก็มาพูดได้ เพราะว่าแกก็เข้าใจอะไรดี อาจารย์อมรา อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ นั่นก็มาได้ อาจารย์รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์ เศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ก็พูดได้

สโรชา - พี่การุณนี่ก็พูดได้

การุณ - อาจารย์ ไม่พอ ทำไมถึงไม่พอ เพราะวัตถุประสงค์ของการยึดอำนาจคือการปราบทุจริตและปัญหาของทักษิณทุจริต มันจะต้องเอาคนที่รู้เรื่องทุจริต ไม่ใช่เอาพวกอาจารย์หรือพวกใครที่หน่อมแน้ม ที่ไม่รู้เรื่อง

อ.เสรี - ไม่ใช่ ที่บอกน่ะยกตัวอย่าง ถ้าแก้วสรรจะมาก็มา ถ้ากล้านรงค์จะมาก็มา ไม่ได้ว่ากัน

การุณ - ต้องเอาคนที่มีข้อมูลเรื่องทุจริตเข้าไป

อ.เสรี - เราบอกว่าคนที่เล่าเรื่องทุจริตในอดีตได้ คนที่รายงานการสอบสวนทุจริตปัจจุบันได้ คนอธิบายเหตุผลในการปฏิรูปฯ ครั้งนี้ คนเหล่านี้ทั้งหมดจะอยู่ตรงไหนก็แล้วแต่

สโรชา - ให้มาออกซะ

อ.เสรี - ที่สามารถควบคุมอารมณ์และวาจาตัวเองได้ เนี่ย

การุณ - เหมือนอาจารย์กับผมอย่างนี้ก็พอดีเหมือนกัน

อ.เสรี - ก็ให้สิ่งเหล่านี้ได้ปรากฏในฟรีทีวีบ้าง เป็นการไถ่โทษ เพราะตอนนี้เราเห็นมีหลายรายการแต่ก่อนหน้านี้เป็นกระบอกเสียงรัฐบาล เดี๋ยวก็เอายงยุทธมาออก เดี๋ยวก็เอาศิธามาออก เดี๋ยวเอาใครมาออก เดี๋ยวนี้รู้สึกว่าเอานักกีฬามาออก เอานัดวาดรูปมาออก ชาวบ้านโดนหมาก่งหมากัดมาออกไปด้วยเลยนะ ไปโน่นเลย กำลังย้อมสีตัวเอง แต่ยังย้อมไม่สำเร็จซะที เพราะมันเป็นคนไม่ใช่จิ้งจก มันย้อมช้าหน่อย

สโรชา - อ๋อ ก็คือรอจังหวะ พยายามยืดเวลา แล้วในที่สุดก็อาจจะกลับมาเปลี่ยนสีได้ หรือไม่

อ.เสรี - เพราะฉะนั้นเราถึงต้องเร่งด่วนไง ภายในระยะเวลา 1 ปี ต้องรีบปรับผัง ต้องรีบหาคนที่สามารถชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจได้ เพราะการจะสร้างความสมานฉันท์ได้คือ รากแก้ว และคนในเมืองรู้ทันทักษิณทัดเทียมกัน เข้าใจว่า นอกจากผลงานแล้ว จริยธรรมนั้นเหนือสิ่งอื่นใด คนเก่งปานใดถ้าทำชั่วแล้วเราไม่เอาทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม

สโรชา - ขออนุญาตเสริมในส่วนของพิธีกรด้วย เพราะว่าหลายต่อหลายท่าน พิธีกรขาออกก็เหมือนกัน ขาเขาก็เหมือนกัน พี่ๆ หลายคนที่ทำอาชีพพิธีกรแล้วถูกถอดออกจากฟรีทีวี

อ.เสรี - บุญยอด ก็หายไป

สโรชา - พี่บุญยอด พี่เติมศักดิ์ ก็เคย ออกมาหมดเลย คนพวกนี้ควรได้รับโอกาสที่จะ

อ.เสรี -ได้รับโอกาสไปช่วยกันชี้แจง คนบัญชีดำทั้งหลายไปคว้ามาเลยถ้าเกิดว่าช่อง 11 กับ ช่อง 9 ให้ใครเป็นบัญชีดำบ้างไปเอามาเลย ไปเอารายชื่อนั้นมา แสดงว่ารายชื่อนั้นรัฐบาลทักษิณกลัว กลัวว่าพูดชัด กลัวว่าพูดแล้วเข้าใจง่าย กลัวพูดแล้วคนเชื่อถือ ถึงให้เป็นบัญชีดำ

การุณ - อาจารย์ พิธีกรก็ต้องปรับปรุง

อ.เสรี - ต้องเปลี่ยนเลย

การุณ - เพราะอะไร เพราะเมื่อวันก่อนคุณบอก 1+1 เท่ากับ 3 คุณบวกผิด คุณชื่นชมทักษิณ คุณยกยอทักษิณ คุณเอาระบอบทักษิณอยู่ตลอดเวลา 1+1 มันเท่ากับ 3 แล้ววันนี้คุณจำเป็นต้องมาตอบ 1+1 เท่ากับ 2 เรื่องจริงของทักษิณคือดังต่อไปนี้ มีข้อเท็จอย่างนี้ มีข้อจริงอย่างนี้ ให้พิธีกรที่บวกเลขผิด คุณยังปล่อยให้มันอยู่เป็นพิธีกรได้อย่างไร ต้องเอามันออกก่อน

อ.เสรี - นี่ไง เราถึงบอกต้องปรับทั้งผัง ปรับทั้งคนทำรายการ เราปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้

สโรชา - จะมีไหมอาจารย์

อ.เสรี - ต้องมี

การุณ - ต้องมี ไม่อย่างนั้นประชาชนนั่งดู

อ.เสรี - มันอยู่ที่พวกเราจะเรียกร้องซักแค่ไหนอย่างไร

การุณ - พิธีกรคนนี้วันก่อนมันชื่นชมทักษิณ ทำไมวันนี้อธิบายเรื่องทักษิณ แล้วจะเชื่อมันตอนไหนดี เชื่อมันเรื่องเมื่อวานหรือเชื่อมันเรื่องวันนี้ ต้องเปลี่ยนคน

อ.เสรี - เปลี่ยนคนไปเลย จิ้งจกเปลี่ยนสีไม่ทัน

การุณ - สงสัย ถ้าอย่างนั้นจะไปหาพิธีกรที่ไหน นั่นก็ปัญญาอ่อนเหมือนบอก ถ้าทักษิณไม่อยู่แล้วจะเอาใครมาเป็นนายกฯ ตอนนี้เป็นไงแย่งกันเป็น พิธีกรอยู่เต็มพันธมิตร

อ.เสรี - บ้านเรามีพิธีกรเยอะแยะมากมายก่ายกอง มีทั้งคนที่เคยทำมาแล้วถูกปลด มีทั้งคนที่ไม่เคยทำแต่ส่อแววให้เห็นกรณีปีครึ่งที่ผ่านมา หลายคนอาจจะไม่เคยเป็นนักจัดรายการวิทยุเลย ไม่เคยเป็นนักจัดรายการโทรทัศน์เลย แต่ในเวลาปีครึ่งที่ผ่านมา การขึ้นเวทีพร้อมกับอัญชลีบ้าง พร้อมกับ อ.เจิมศักดิ์ บ้าง ได้พิสูจน์แล้วว่าเขาสามารถปรากฏตัวหน้าจอทีวี และสามารถทำรายการวิทยุได้อย่างสบายๆ เพราะฉะนั้นถามว่า ในเวทีพันธมิตรเรามีนักจัดรายการอยู่ไหม เรามีนักจัดรายการอยู่ คนที่เป็นแขกรับเชิญเวทีพันธมิตรที่ไม่เคยเป็นนักจัดรายการแต่ส่อแววจะจัดได้มีไหม มีอยู่ คนที่เคยเป็นพิธีกรแล้วถูกปลดออกไปและควรจะได้รับโอกาสอีกครั้งหนึ่งมีไหมก็มี เพราะฉะนั้นเราไม่ขัดสนพิธีกร เราไม่ขัดสนคนทำรายการ เราไม่ขัดสนวิทยากรรับเชิญ ขอเพียงอย่างเดียวเท่านั้นว่า เราอย่าไปตั้งปณิธานว่า หากแม้จะสมานฉันท์ปล่อยให้เรื่องที่ผ่านแล้วผ่านไป อย่าไปฟื้นฝอยหาตะเข็บ เพราะถ้าเราคิดเช่นนั้น คนที่คิดว่าเราไม่ควรจะมีการปฏิรูปยึดอำนาจในรอบนี้จะคิดเช่นนั้นต่อไป คนที่ไม่เข้าใจว่าทักษิณผิดอะไร จะเข้าใจเช่นนั้นตลอดไป อย่างนี้เท่ากับว่าเราปล่อยเชื้อชั่วไว้ เราตัดใบแต่ไม่ขุดรากไม่ขุดเหง้าถึงเวลาเมื่อโดนน้ำโดนฝนเหง้านั้นจะเกิดงอกเกิดใบขึ้นมาอีก ในเวลานั้นบ้านเมืองเราจะต้องปะทะกันอีกจนได้ อย่างเมื่อกี้แอ้มพูดถึงคนชอบดูละคร แอ้มไม่ต้องกลัว คนเหล่านั้นถ้าจะชวนให้มาจตุจักรเขาก็ไม่มา เสียเวลาดูละครฉันฉันไม่มาหรอก

สโรชา - ปล่อยเขาไป

อ.เสรี -เขาจะอยู่ เขาไม่เข้าข้างฝ่ายนี้ เขาไม่เข้าฝ่ายนู้น แต่เข้าข้างพระเอกนางเอกละครเขา เขาจะดูเกมโชว์ ถูกต้องแล้วคร้าบบบ เขาจะอยู่ดูของเขาต่อไป เพราะฉะนั้นคนบอกมาจตุจักรกันไหม 3 วัน 8 วัน เรื่องอะไรกูกำลังจะดูน้องเดียวได้ 200 หน้าหรือยัง เขาจะอยู่ของเขาอย่างนั้นไม่ต้องไปห่วงคนเหล่านี้ แล้วเขาจะไล่ตามกระแสไปเรื่อยๆ เราห่วงคนที่ฟังในอีกกลุ่มหนึ่งกับเราแล้วมีความคิดว่า พวกเราบ้า พวกเรามีความคิดประหลาดๆ คนได้คะแนนเสียงตั้ง 16 ล้านเสียงไปไล่เขา ไม่ยอมรับเสียงหมู่มาก เพราะว่าเขาจะพยายามกล่อมว่าประชาธิปไตยแปลว่าเสียงข้างมาก เอาเชิงปริมาณเข้าว่าแต่ไม่เอาเชิงคุณภาพ แอ้ม ถ้าเกิดโจร 5 คนกับพระ 2 คนยืนคุยกัน แล้วโจรยกมือทั้ง 5 เสียง เศียรพระต้องตัด พระมีอยู่ 2 เสียงอย่าตัด เพราะฉะนั้นว่าตามเสียงข้างมาก โจร 5 คนบอกตัด กูเลยตัดงั้นหรอ มันไม่ได้ คือจริงๆ แล้วปริมาณส่วนหนึ่ง คุณภาพส่วนหนึ่ง เราไม่ได้ดูถูกคนที่เป็นรากแก้วในเวลานี้นะ แต่เราอยากจะบอกว่า คนที่มีข้อมูลไม่ครบแล้วเลือก คนที่บังเอิญเอาขนมไปล่อแล้วเลือก เราย่อมไม่สามารถยอมรับว่าคะแนนครั้งนั้นเป็นคะแนนที่มีคุณภาพได้ หรือการใช้อำนาจรัฐข่มขู่ การใช้อำนาจเงินทั้งซื้อ ส.ส. และซื้อคนเลือกตั้ง การควบคุมสื่อไม่ให้พูดจากในสิ่งที่ครบถ้วน เลือกตั้งอย่างนั้นต่อให้ได้ทั้งหมด 60 ล้าน เหลือเศษของ
60 อยู่ 200 ก็ไม่มีความหมาย จริงๆ แล้วถ้าเราปล่อยให้เสียงข้างมากลากไป ถ้าเกิดสิงคโปร์มีตังค์เยอะๆ อเมริกามีตังค์เยอะๆ แล้วแจกคนที่อยากจะได้เงินคนละพันๆ มันไม่ยึดประเทศไทยหรอ มันก็ยึดประเทศไทยได้แค่เอาเงินมาแจกคนละพัน แล้วบอกเลือกคนๆ นี้ที่มันจะช่วยให้กูยึดประเทศมึง ไม่ได้เราต้องเอาเสียงข้างน้อยที่มีคุณภาพเป็นเสียงสำคัญ คนเป็นรัฐบาลทำตามเสียงข้างมากด้วยการเคารพสิทธิข้างน้อย ด้วยการใจกว้างฟังเสียงข้างน้อยที่ท้วงติงแล้วไปปรับการทำงานเพื่อเอาใจคนข้างมากโดยที่ไม่ผิดศีลธรรมจรรยาต่างๆ ที่มีอยู่ โดยที่ไม่ได้ทำอะไรที่ไปทำร้ายคนหมู่มาก มันต้องเป็นอย่างนั้น แต่ประเภทพวกขนมล่อคนหมู่มาก คนหมู่น้อยจะด่าว่าอย่างไรก็ช่าง พอขนมล่อเสร็จเรียบร้อยแล้วได้อำนาจมาทีนี้จะยึดประเทศเลย

สโรชา - นี่แหละที่แอ้มห่วงคือ ผู้คนที่สามารถซื้อได้ด้วยขนมชิ้นเล็กๆ น้อยๆ

อ.เสรี - ที่ซื้อได้ไม่มีใครเล่าให้ฟัง

สโรชา - ถูกต้อง ถึงเราเล่า สมมุติเอาเอเอสทีวีทั้งผัง หรือบางส่วนไปอยู่ในฟรีทีวี

อ.เสรี - น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อนแต่หัวใจอ่อนๆ มันต้องสึกได้เหมือนกัน เรามีเวลาตั้งปีหนึ่ง

สโรชา - สามารถทำได้ ห่วงมาก สิ่งที่ห่วงที่สุดคือว่า

อ.เสรี - ไม่อย่างนั้นจะมีคำว่านักพูดหรอ

สโรชา - เรากำลังแก้ปัญหาที่ปลายเหตุหรือเปล่า ทำไมเราไม่ลงไปถึงรากหญ้าที่บอกเขา บอกเขาว่า คุณที่คุณดูพระเอกนางเอกอยู่คุณหันมาฟังอาจารย์เสรี คุณหันมาดู

การุณ - มันไม่มีจะดู แต่ถ้าคนไหนที่ดูเอเอสทีวีแล้วมันจะดูช่อง 3 5 7 9 ไม่ได้เลย

อ.เสรี - เห็นไหมแสดงว่ามีความหวัง

สโรชา - แห้มห่วงมาก

อ.เสรี - ไม่ตอนนี้คนจะดูเอเอสทีวี จะดูเนชั่นต้องจ่ายตังค์

การุณ - เปิดไปดูช่อง 3 5 7 กดไปกดมามันไม่มีเรื่องจะดู แต่พอกดมาเอเอสทีวีแล้วมันสะใจ มันมันส์เพราะมันมาเห็นคน เห็นเรื่องเห็นราว เห็นข้อเท็จจริงที่มันสนุก

อ.เสรี - แอ้ม เอาอย่างนี้แล้วกัน ตั้งแต่พี่ติดเอเอสทีวีนะ ตั้งแต่ 5 โมงเย็น จนถึงตี 1 เนี่ย สถานีโทรทัศน์พี่น่ะแช่อยู่ช่องเดียวนี่ล่ะ

สโรชา - ทำยังไงๆ

อ.เสรี - พอดูอย่างอื่นชักจะมีความรู้สึก กูโง่ไปหน่อยหรือเปล่า

สโรชา - ไม่ ทำยังไงให้คนอีกจำนวนมากที่ยังไม่รู้ ยังไม่เห็น ยังไม่ดู เปลี่ยนพฤติกรรมมาดู เพื่อที่ว่าในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น 15 ปี 20 ปี

อ.เสรี - แอ้ม เราไม่มีฟรีให้เขาดูไง เขาต้องมาติดจาน เขาต้องมาทำอะไรต่างๆ แต่ถ้ามันออกใน 3 5 7 9 ไอทีวี 11

สโรชา - เขาจะดูไหมอ่ะ เราจะไปสู้กับละครเขาได้ไหมล่ะ

อ.เสรี - ไม่ ถ้าเราปรับผัง ละครก็ต้องหายไปหน่อยสิ ละครมันจะไปอุดมอะไรขนาดนั้น

การุณ - เวลา 6 โมงเย็น ไปจนถึง 5 ทุ่ม เวลานี้ก็จะต้องมีรายการประเภทอย่างนี้ที่เป็นสาระ เป็นเรื่องเป็นราวเข้าไปสิ

อ.เสรี - อย่างนี้นะแอ้ม รายการอย่างนี้ถ้าเกิดจะมีในฟรีทีวีบ้างนะ ถ้าแอ้มอยากรู้นะ แอ้มต้องตื่นตี 5 มาฟัง นะ แล้วก็ 6 โมงครึ่งก็หายไปแล้ว หรือไม่งั้นต้องรอหลังตี 1 ถึงจะได้ดู เพราะฉะนั้นเราก็จะต้องเอาไปไว้ตอน 2 ทุ่ม 3 ทุ่ม แล้วเสร็จแล้วเขาหมุนไปตรงไหนมันก็ไม่มีอย่างอื่นดู ก็ลองดูสิ โอ๊ย มันดี สนุกดี

สโรชา - เอาอัญชลี ไพรีรัก ไปสู้กับสุวนันท์ คงยิ่ง ให้มันรู้ไป

การุณ - เจอการุณบ้าง เจออาจารย์เจิมศักดิ์บ้าง เจออาจารย์เสรีบ้าง

อ.เสรี - เชื่อเถอะ แอ้ม คนที่พูดหลายๆ คนเนี่ยมีเสน่ห์เพียงพอในการที่จะทำให้คนบอกว่า เฮ้ย น่าคิด มันเกิด Second Thought มันเกิดความคิดรอบ 2 มันใคร่ครวญพิจารณา แล้วเราก็สามารถร้องเพลง น้ำหยดลงหิน ได้อย่างสบายๆ เชื่อเถอะ เอาอย่างนี้แล้วกัน ไม่ได้อวดตัวนะ ขอเสรีสักรายการ จากจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่ 3 ทุ่ม ถึง 4 ทุ่มนะ

สโรชา - เห็นด้วย

อ.เสรี - แต่ไม่ใช่ที่เอเอสทีวีนะ ในฟรีทีวีน่ะ ให้มาสิ

การุณ - อาจารย์ คนที่ดูเอเอสทีวี แต่ก่อนก็ไม่ได้เป็นคนที่เคยดูเอเอสทีวีนะ ก็ดู 3 5 7 9 เหมือนกัน แต่เมื่อเขามาดูเอเอสทีวี ทำไม

อ.เสรี - แช่เลย อันนี้แช่เลยๆ

การุณ - เอ่อ ทำไมเขาแช่เลยล่ะ

อ.เสรี - แช่ไวัๆๆ

สโรชา - โปรดิวเซอร์เขาบอกว่าตอนนั้นรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ยังสู้กับละครในช่วงเดียวกันที่ออกช่อง 9 ได้เลย ซึ่งจริง

อ.เสรี - เพราะฉะนั้นจริงๆ แล้ว ลองให้อาจารย์เจิมศักดิ์แกสักครึ่งชั่วโมง หนึ่งชั่วโมง เสรี วงษ์มณฑา ขอมาสักหนึ่งชั่วโมง อัญชลีเป็นพิธีกรสัก 1 รายการ แล้วหาคนเชิญไป ทำไมเราจะทำให้หินกร่อนมิได้

สโรชา - คุณผู้ชมคะเดี๋ยวเราพักกันอีกสักครึ่งหนึ่งนะคะ กลับมาเราจะมาตอบคำถามคุณผู้ชม มีเข้ามาจากทั่วทุกสารทิศของประเทศไทย รวมไปถึงในต่างประเทศด้วยนะคะ สักครู่เดียวค่ะ



กำลังโหลดความคิดเห็น