“สนธิ” เตือนคณะปฏิรูปฯ ให้เร่งจัดการเครือข่าย “ระบอบทักษิณ” ให้เด็ดขาดโดยเร็ว เชื่อหากไม่ดำเนินการรับรองว่า “ทักษิณ” จะต้องกลับมาภายใน 1 ปี ชี้เป็นเชื้อชั่วที่ยังไม่ตาย เปิดโปงแผนป่วนสร้างสถานการณ์ยึดอำนาจของอดีตผู้ทรราช ตัดพ้อช่วยชี้แจงกับสื่อต่างประเทศทุกทางกลับถูก คปค.ไม่เข้าใจ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง เมืองไทยรายสัปดาห์ ครบรอบ 1 ปี ช่วงที่ 1
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง เมืองไทยรายสัปดาห์ ครบรอบ 1 ปี ช่วงที่ 2
สโรชา - สวัสดีค่ะคุณผู้ชม ขอต้อนรับเข้าสู่รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ วันนี้เนื่องจากว่า ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในช่วงรอบวัน สองวัน สามวันที่ผ่านมา ทีมงานเมืองไทยรายสัปดาห์ของเราจึงได้ตัดสินใจ เพื่อความเหมาะสมกลับมาจัดเมืองไทยรายสัปดาห์ในห้องส่งแทนที่จะไปจัดที่สวนลุมพินี เวทีลีลาศ อย่างเช่นเคย เพราะฉะนั้นวันนี้เมืองไทยรายสัปดาห์ของเราจะกลับมาเป็นในแง่มุมการสนทนา ในช่วงแรก เดี๋ยวช่วงท้ายเข้าใจว่า คุณสนธิคงจะมีแง่คิดดีๆ นำมาฝากคุณผู้ชม และหลายๆ ท่สโรชา านที่อาจจะดูอยู่ในค่ำคืนนี้ เพราะฉะนั้นกลับเข้าสู่เมืองไทยรายสัปดาห์ในรูปแบบเดิม ซึ่งเราเคยจัดมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปีเศษๆ คุณสนธิ 1 ปีกับอีกไม่กี่วัน จำได้วันนั้น 16 กันยายน 2548
สนธิ - เราถูกยกเลิกรายการวันที่ 9 กันยายน
สโรชา - 9 คือวันสุดท้ายที่เราจัดที่ช่อง 9
สนธิ - แล้ว 16 เรามาจัดที่นี่ แล้วหลังจากนั้น 23 เราร่อนเร่พเนจร
สโรชา - สัญจร ก่อนที่จะเข้าเรื่องซีเรียส แอ้มขออนุญาตนิดหนึ่ง คุณสนธิเห็นหรือยังคะ (ยกรูปปั้น)
สนธิ - เพิ่งเห็นครับ ผมยังงงว่า คือพวกนี้ชอบทำอะไรพิกลๆ
สโรชา - อันนี้เข้าใจว่า เอเอสทีวีทำเองนะ
สนธิ - คือผมไม่ยักกะรู้ว่าชีวิตผมต้องเสียสละมากขนาดนี้นะ
สโรชา - ไม่มีเสื้อแล้วเป็นบ็อกเซอร์อีกต่างหาก แต่ปั้นได้ ยอมรับว่าเหมือนมาก โดยเฉพาะปาก คุณผู้ชมคงจะไม่เถียงกับแอ้ม แต่ว่าหลายๆ ประเด็นที่เราจะพูดคุยกันในค่ำคืนนี้คุณผู้ชมสามารถจะแสดงความคิดเห็นร่วมกับเราได้นะคะ ผ่าน 0-2629-44433 ฝากความคิดเห็นไว้แล้วเดี๋ยวเราจะได้พูดคุยกันในช่วงต่อไป คุณสนธิคะต้องทบทวนกันซักเล็กน้อย 1 ปีที่ผ่านไป ในที่สุดแล้วแอ้มขอพูดคำหนึ่งได้ไหมค่ะว่า ตอนนี้ ช่วง 3 วันที่ผ่านมา มีคำหนึ่งที่ถูกใจแอ้มมาก "อดีตนายกฯ ทักษิณ" แอ้มรอพูดคำนี้มานานมาก "อดีตนายกฯ ทักษิณ" อย่าว่ากันนะคะคุณผู้ชมอาจจะไม่ค่อยเหมาะสม แต่ว่าอยู่กับเรื่องนี้มา 1 ปีเต็มๆ อดีตนายกฯ
สนธิ - เมื่อกี้ผมไปงานรดน้ำศพคุณพ่อของ อ.ธีรภัทร ที่วัดมกุฎกษัตริย์ฯ คุณรู้ไหมผมเจอใคร
สโรชา - เจอใครคะ
สนธิ - สุชน ชาลีเครือ
สโรชา - เจอซึ่งๆ หน้า
สนธิ - ซึ่งๆ หน้าเลย เขาเดินเข้ามาไหว้ผม เขาบอกว่า โอ๊ยพี่สนธิคิดถึงจัง
สโรชา - ถามจริง
สนธิ - ผมก็บอกว่า คุณสุชนมันไม่ใช่เรื่องที่เราควรจะเจอกันเลยนะ นับว่าเป็นโชคร้ายของผมที่เจอคุณ
สโรชา - อุ๊ยตายแล้วพูดกับเขาอย่างนั้นหรอคะ
สนธิ - ผมพูดอย่างนั้น
สโรชา - แล้วเขาทำหน้าอย่างไร
สนธิ - เขาก็หัวเราะ เขาบอก พี่สนธิเล่นผมอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่เป็นไรผมไม่ถือสา ก็เพราะคุณสุชน ชาลีเครือ ไม่เคยถือสาเรื่องอะไรเลย คุณสุชน ชาลีเครือ ก็เลยกลายเป็นคนที่ทำอะไรเละเทะไปหมดในชีวิต แล้ววันนี้แทนที่จะเดินในสังคมอย่างสง่าผ่าเผย ก็ยังไปเที่ยวก้อล่อก้อติกทำหน้าทะเล้นสวัสดีคนนู้นคนนี้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นทะเลาะเขาแทบเป็นแทบตาย อ.เจิมศักดิ์ ก็ไป อ.เจิมศักดิ์ เห็นหน้ายังเบือนหนีเลย ยังไม่อยากเดินเข้าไปนั่งด้วยเลย
สโรชา - แต่เขากล้าเข้ามาสวัสดีนี่ยังน่าตกใจ
สนธิ - คือมันจะมีมนุษย์พันธุ์พิเศษในระบอบทักษิณ แล้วหลายๆ ระบอบที่ไม่มียางอาย แม้กระทั่งทุกวันนี้ใน บก.คณะปฏิรูปฯ เองก็มีคนในระบอบทักษิณหลายคนที่เริ่มแทรกตัวเข้ามาทั้งๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลย แล้วในอดีตก็เป็นคนที่ชอบทำตัวแอบอยู่เบื้องหลัง คนประเภทนี้จะมีอยู่เยอะคุณสโชชา เพราะฉะนั้นแล้วต้องทำใจเอาไปนะครับ อย่าไปใส่ใจนะครับ เหมือนกับเดินผ่านข้างถนนแล้วเห็นสุนัขตัวหนึ่งกำลังปัสสาวะอยู่ ก็มองมันไปแล้วก็ทำใจเฉยๆ แล้วก็เดินต่อไป แล้วบอกว่าคนเราจะเป็นสุนัข หรือจะขี้ จะเยี่ยวที่ไหนก็ปล่อยมันทำไป เดินห่างๆ อาไว้ซะ
สโรชา - แต่คุณสนธิ เรียกเขาว่าคุณสุชนนะคะ ไม่เรียกเขาว่าคุณสุชินนะ
สนธิ - เอ่อ ผมคิดว่า ผมยังให้เกียรติที่ยังเรียกเขาว่าคุณสุชนอยู่
สโรชา - ย้อนไป 1 ปีคะ คุณผู้ชมที่เราได้ ระเห็จออกมาจากช่อง 9 อสมท.นะคะ จากวันที่ 9 กันยายน นับมา 1 ปีนิดๆ ที่เราต่อสู้เพื่อการขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ ณ เวลานี้ก็ได้พูดถึงคณะปฏิรูปการปกครอง ซึ่งหัวหน้าคณะนั้นก็ คือ ท่าน ผบ.สนธิ นี้ไม่ใช่ครั้งแรกนะคะที่เราจะพูดถึง ผบ.สนธิ เพราะว่าเราเคยพูดถึงเรามาหลายครั้งแล้ว ตั้งแต่สมัยช่อง 9 ก็เคยพูด
สนธิ - เขาบอกงี้ฮะ เขาบอกว่า ว่า สนธิหนึ่งเป็นผู้เริ่มต้น และอีกสนธิหนึ่งทำให้จบ คือ มันเป็นอะไรบ้างอย่างที่มหัศจรรย์นะ ประหลาดมาก คือ เหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นทำไมต้องมี 2 สนธิ พร้อมกันนะฮะ ซึ่งงงมากนะครับ แล้วก็สนธิฝ่ายหนึ่งเป็นสนธิฝ่ายบุ๋น อีกสนธิ สนธิอีกฝ่ายเป็นสนธิฝ่ายบู๊นะครับ ก็ฝ่ายบุ๋นเริ่มต้น แล้วฝ่ายบู๊ก็จบซะ แต่ว่าผมต้องชมท่าน ผบ.ทบ.คนนี้ซึ่งเดียวเราค่อยพูดเรื่องนี้ แต่ว่าคุณแอ้มพูดถูก เราเคยพูดถึง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ตั้งแต่ก่อนที่จะเป็น ผบ.ทบ. ผมจำได้ผมเคยพูดถึงเขา
สโรชา - ไปดูซักนิดนะคะ เออในวันที่ 5 สิงหาคม 2548 ไปชมกันคะ
สโรชา - อีกประเด็นหนึ่งคะ คุณสนธิต้องคุยกันนิดหนึ่ง คือ การโยกย้ายข้าราชการ
(เทป)
สโรชา - ตอนนั้นคุยกันอย่างเพลิดเพลินโดยที่ไม่รู้ว่าอีก 1 ปีข้างหน้าเราต้องเผชิญกับอะไรบ้าง
สนธิ - ถูกต้องครับ
สโรชา - คุณสนธิพูดถึง ผบ.สนธิ ณ เวลานั้น ทำไมถึงหยิบยก พล.อ.สนธิ ขึ้นมาในตอนนั้น
สนธิ - คือผมรู้สึกตอนนั้นว่า พล.อ.สนธิ อาจจะไม่มีสิทธิ์ได้เป็น ผบ.ทบ.ความที่เป็นไทยมุสลิม แล้วการเมืองค่อนข้างจะเข้มข้นตอนนั้น
สโรชา -ช่วงนั้นภาคใต้กำลังฮึ่มๆ เลย
สนธิ - แล้วตอนนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคณะ ล้วงลูกเข้าไปในการแต่งตั้ง ผบ.ทบ.สูงมาก ผมเข้าใจว่ามีการยึกยักกันนานพอสมควร ถ้าจำไม่ผิด วันนั้นเขาไม่ต้องการ พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน ผมเลยจำเป็นที่จะต้องออกมาต่อสู้ ปกป้องให้ ผมไม่รู้จักแกเลย จนวันนี้ในชีวิตเพิ่งเจอครั้งเดียวจำได้ไหม
สโรชา - ครั้งเดียว เราไปเจอพร้อมกัน
สนธิ - ครั้งที่เดินทางไปพบท่านที่กองบัญชาการกองทัพบก คืนวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2549 ครั้งเดียวเท่านั้นเอง
สโรชา - ครั้งแรก
สนธิ - ครั้งแรกและครั้งสุดท้าย แล้วไม่เคยเจออีกเลย ผมมีความรู้สึกตอนนั้น ณ วันนั้นวันที่ 5 สิงหา 2548 ผมมีความรู้สึกว่า ต้อง ต้องพูดให้สังคมไทยรับทราบนิดหนึ่ง ว่าถ้าการไม่ตั้งท่านเพียงเพราะท่านมีความเป็นไทยมุสลิมนั้นไม่ยุติธรรม
สโรชา - คือตอนนั้นคุณสนธิทราบแล้วว่า โดยคุณสมบัติแล้วเหมาะสม
สนธิ - เหมาะสมที่สุด แต่ว่าทาง พ.ต.ท.ทักษิณ อยากจะได้คนอื่นแทน แล้วเป็นจริงอย่างที่ว่า โผอันนี้ขึ้นไปข้างบนแล้วไปสับเปลี่ยนแล้วไปโต้เถียงเจรจากันจนในที่สุด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยอมให้ พล.อ.สนธิ เข้ามา แล้วตัวเอง ในทำนองที่ว่าเสีย 1 แต่ได้ 5 อะไรทำนองนี้ คล้ายๆว่า พล.อ.สนธิ อยากได้เป็น ผบ.ทบ.เอาไป แต่เขาจะมีผู้บัญชาการคนหนึ่ง พล.ต.พฤณฑ์ สุวรรณทัต บ้าง คนนู้นคนนี้บ้างคนของเขา นั่นคือที่มา เพราะฉะนั้นแล้วผมคิดว่า ณ วันนั้นเหมือนกับเป็นชะตาชีวิต หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์กำหนดมาว่าต้องให้ พล.อ.สนธิ เป็น ผบ.ทบ. แต่จริงๆ พล.อ.สนธิ เป็น ผบ.ทบ.ถ้าสังเกตอย่างหนึ่ง ผมเคยพูดว่า พล.อ.สนธิ และ พล.อ.ประวิทย์ วงศ์สุวรรณ ก่อนหน้า พล.อ.สนธิ วันที่เป็น ผบ.ทบ.พูดเสียงเดียวกันเลย "ไม่ได้ซาบซึ้งถึงบุณคุณของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร"
สโรชา - คือไม่ได้ซาบซึ้งรัฐบาล
สนธิ - บอกว่า เป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทำให้ผมสังเกตตั้งแต่จุดนั้นมา แล้วผมเริ่มอุ่นใจในตัว พล.อ.สนธิ และความอุ่นใจ และความเชื่อมั่นและศรัทธาในคุณภาพของคน ของเขา ทำให้หลายครั้งต่อมาที่ผมควรออกมาวิพากษ์วิจารณ์เขา เพราะเหตุการณ์บางเหตุการณ์ทำให้ผมยุติไม่วิพากษ์วิจารณ์ ไม่ใช่เพราะผมกลัวเขา คือวันนี้หลังจากคุณสู้นายทักษิณแล้ว ในโลกนี้คุณไม่ต้องกลัวใครอีกแล้ว ผมมีความรู้สึกว่า พล.อ.สนธิ เป็นคนลึกซึ้ง และเป็นคนคิดรอบด้าน แล้วเขาอาจจะมีเหตุผลในการกระทำของเขาบางประการ และความศรัทธาและเชื่อมั่นในตัวเขายังคงมีอยู่แม้กระทั่งวันนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะโดนวิพากษ์วิจารณ์บ้างในเรื่องของความไม่เด็ดขาด ซึ่งประเดี๋ยวในช่วงหลังผมจะพูดเรื่องนี้
สโรชา - แต่ว่าคืนวันนั้น คือคืนวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่เรามีการชุมนุมใหญ่กันครั้งแรก แล้วคุณสนธินำเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายก่อนจะมีพันธมิตรประชาชนฯ วันนั้นเรายกพลไปที่
สนธิ - กองบัญชาการกองทัพบก
สโรชา - ใช่ไหมคะ แล้วเราได้มีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับ ผบ.สนธิ ตอนนั้น คุณสนธิเจอผบ.สนธิ แล้วรู้สึกอย่างไรตอนนั้น
สนธิ - คือผมรู้สึกว่าท่านเป็นคนที่พูดน้อย ท่านรับฟังความคิดเห็นคนเยอะ แล้วท่านพูดอะไรออกมาคำแทบจะนับคำได้ จงใจไม่ค่อยพูดอะไรมาก
สโรชา - เป็นฝ่ายฟัง
สนธิ - เป็นฝ่ายฟังเสียส่วนใหญ่ ท่านก็ดีครับ ขากลับท่านเดินออกมาส่งเรา
สโรชา - ถึงประตูเลย
สนธิ - คืนนั้นหลังจากเรายื่นจดหมายท่านเสร็จแล้ววันรุ่งขึ้นนายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ ซึ่งในขณะนี้ไปใช้ชีวิตอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่กรุงลอนดอน ก็โทรศัพท์มาต่อว่า พล.อ.สนธิ ในทำนองที่ว่า ทำไมจะต้องมารับจดหมง จดหมายนะฮะ นั่นคือ เหตุผลที่ทำไมเหตุการณ์ที่ พล.อ.สนธิ วันรุ่งขึ้น และอีก 2 วันต่อมาก็ให้สัมภาาณ์นะครับในทำนองที่ท่านไม่ค่อยเห็นด้วยกับกระบวนการเดินขบวนของเรา ซึ่งหลายๆ คน หลายๆ ท่าน จนกระทั่งทีมงานผมหลายคนในทีมงาน ก็พากันน้อยอก น้อยใจ ผมก็บอกว่าอย่าไปน้อยอกน้อยใจนะครับ เพราะว่า พล.อ.สนธิ นั้น หัวเดียวกระเทียมลีบ ถูกย้ายเข้ามามาเป็นผู้บัญชาการทหารบก คนของตัวเองก็ไม่มี กับกองกำลังก็ไม่มี กองกำลังข้างล่างนี้ถูกยึดโดยเตรียมทหารรุ่น 10 ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะฉะนั้นแล้วคนซึ่งมาหัวเดียวกระเทียมลีบ นั้น คือ ท่านเป็นนักยุทธการ ยุทธการแปลว่าจะรบอะไร จะทำอะไรซักอย่างต้องคิดให้รอบคอบ คิดแล้วคิดอีก ต้องพร้อม ถ้าไม่พร้อมท่านก็คงไม่แสดงออก
สโรชา - ตอนนั้น คือ ท่านอยู่ในสถานการณ์ที่ขยีบค่อนข้างยาก
สนธิ - ขยับไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นแล้วท่านมีความจำเป็นที่จะต้องจะระบายอะไรออกมา ในความคิดที่ไม่ใช่ความคิดที่แท้จริงของท่าน แต่ทำเพื่อหลอกล่อ ในอีกฝ่ายหนึ่งตายใจท่านก็ต้องทำ เพราะฉะนั้นแล้วในศึกสงครามในบ้างครั้งการต่อสู้นั้น บางครั้งเราเนี้ยะ อาจจะต้องทนนิดนึง เราอาจต้องทนนิดนึง บางครั้งเขาบอกว่า คุณสนธิทำไมน่าเจ็บใจนะ ที่ทาน ผบ.ทบ.ท่านแทนที่จะพูดกับเราดีๆ ท่านกลับมาว่าเรา ผมบอกว่าอย่าไปโกรธท่านในเรื่องนั้น จำได้มั้ย
สโรชา - จำได้คะ จำได้ อยู่ในเหตุการณ์คะ
สนธิ - ซึ่งในวีทีอาร์ครั้งที่ 7 เราก็มีในเรื่องนี้
สโรชา - มีคะ ตอนนั้น ถ้าจำไม่ผิดคุณสนธิ ได้พูดเตือนไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ทำนองว่า อย่ามาสนใจสนธินี้นักเลย
สนธิ - ถูกต้องฮะ
สโรชา - คือ อีกสนธินึง ที่ต้องสนใจให้มากๆ หน่อย ไปชมกันคะ
สโรชา - ถามนะคะว่า นายกฯทักษิณ ไม่ไว้ใจทหารบกแล้วหรือ เห็นมีแต่ทหารอากาศห้อมล้อมตลอด
(เทป)
สโรชา - พูดตอนนั้นยังคงฟันธงไม่ได้ว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นในคืนวันที่ 19 กันยายน 49 นั้นคืออะไร
สนธิ - แต่ผมฟันธงได้
สโรชา - ทราบมาตั้งแต่ตอนนั้น
สนธิ - ผมเดาออกพอสมควรว่า สักวันหนึ่งถ้าเหตุการณ์เอาไม่อยู่แล้วคุณทักษิณจะดื้อด้านมาก แล้วเล่นกติกูมากจนเกินไปแล้วทำให้ชาติบ้านเมืองแตกแยก แตกเป็นส่วนๆ ผมเชื่อว่าในที่สุดแล้ว พล.อ.สนธิ จะต้องทำอะไรลงไปอย่างใดอย่างหนึ่ง ถึงแม้ว่าโดยพื้นฐานเป็นคนรอบคอบ ระมัดระวังมาก ก็อาจจะไม่โผงผางหรือไม่ตัดสินใจแบบ อย่างที่ผมตัดสินใจ เหมือนอย่างที่คุณสโรชารู้ เราทำงานกันมานานแล้ว ผมเป็นคนประเภทว่า เอาก็เอา ไม่เอาก็ไม่เอา ผมจะไม่คิดนาน แต่ พล.อ.สนธิ จะต้องคิดนาน เหตุผลเพราะว่าโดยพื้นฐานตำแหน่งเป็นถึงผู้บัญชาการทหารบก จะให้ท่านคิดเร็วอย่างพวกเราไม่ได้
สโรชา - คือหมายความว่า คิดต้องให้แน่ใจว่าเมื่อทำแล้วชนะ ไม่ชนะไม่ทำ
สนธิ - ที่สำคัญคือว่า จะต้องดูว่าเหตุการณ์ทั้งหมดมันถึงเวลาแล้วหรือยัง ผมจะยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ จริงๆ แล้วพ่อแม่พี่น้องที่คิดมาร่วมชุมนุมกันวันที่ 20 เราต้องรู้ว่า พล.อ.สนธิ ได้ตัดเชื้อไฟที่มันกำลังลุกลาม จริงๆ แล้ววันที่ 20 ที่เราจะชุมนุมกันนั้นวันพุธ 20 วันพุธ ทางระบอบทักษิณ โดยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรให้นายยงยุทธ ติยะไพรัช ระดมพวกป่าไม้มาแล้ว มาไว้ที่ปากช่อง พร้อมอาวุธครบมือ แล้วเสร็จเรียบร้อย เตรียมพร้อมจะให้มีการปะทะกันที่ลานพระรูป เขาเตรียมเรียบร้อยแล้ว แล้วคุณทักษิณจะบินกลับมาวันที่ 21
สโรชา - เช้ามืด
สนธิ - เช้ามืด คือ 20 กลางคืนที่เรากำลังชุมนุมกันอยู่ ตี 3 เครื่องเขาจะลงที่สนามบินดอนเมือง ตอนนั้นเรื่องเกิดแล้ว หรือไม่พอเขาเหยียบแผ่นดินปั๊บเขาจะให้เรื่องเกิดทันที พอเกิดเขาจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทันที
สโรชา - คือให้คนมาสร้างความวุ่นวายก่อน
สนธิ - ถูกต้อง
สโรชา - แล้วมาแก้ไข
สนธิ - แล้วมาแก้ไขทันทีโดยประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน แล้วเขาใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีสั่งการทันที ถ้าท่านผู้บัญชาการทหารบกไม่ทำ หรือจะทำอะไรก็ตาม ไม่ทำจะอยู่เฉยๆ เขาก็ตั้งตุ๊กตาไว้เรียบร้อยแล้ว คือ พล.อ.เรืองโรจน์ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทพี่ชายเขา คือ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร เพราะฉะนั้นคุณจะเห็นชื่อ พล.อ.เรืองโรจน์ ตามมรตลอดในการแถลงข่าวประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทางช่อง 9 เมื่อคืนวันที่ 19
สโรชา - คืนวันที่ 19 เราเห็นภาพออก อสมทฯ ช่องเดียวนะคะ จะมีภาพคุณทักษิณ และเขียนว่า ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน สังเกตว่า คำว่า สถานการสะกดผิด คือเร่งรีบมาก แล้วเสียงคุณทักษิณเสียงสั่น
สนธิ - อันนี้ที่จริงเขาเตรียมไว้วันที่ 21
สโรชา - เตรียมไว้แล้ว
สนธิ - เพราะว่า 21 ประกาศเลย ทันทีที่เหยียบแผ่นดินเขาก็แกล้งว่ามีคนรายงานว่ามีการปะทะกันแล้ว คือพวกป่าไม้ พวกกะเหรี่ยง กระเฬวรากพวกนี้จะออกมา ถืออาวุธมา จะมีการยิงกันบ้าง อาจจะมีการนองเลือด ตอนนั้นแล้วเขาถือโอกาสใช้จังหวะนั้นเป็นคนกระทำการ โดยพื้นฐานทางกฎหมายเขาเป็นนายกรัฐมนตรี โดยพื้นฐานสายบังคับบัญชา พล.อ.เรืองโรจน์ เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด ย่อมคุมอำนาจอยู่ทุกเหล่าทัพอยู่แล้ว เขาก็สั่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดทันที แล้วอาจจะถือโอกาสสั่งปลด พล.อ.สนธิ ทันที สั่งปลดทันที ข้อหาไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่ง แล้วเขาก็เลื่อนเพื่อนเขา คือ พล.อ.พรชัย กาญจน์เลิศ ขึ้นมาเป็นผู้บัญชาการทหารบกทันที รักษาการทันที เพื่อดำเนินการปราบปรามทันที ปราบเสร็จเรียบร้อยเขาก็สถาปนาตัวเขาต่อไป แล้วไล่เช็กบิลพวกเรา แล้วพ่อแม่พี่น้องพันธมิตรฯ ที่มาชุมนุมด้วยความบริสุทธิ์ใจ ด้วยอหิงสา จะเจ็บเนื้อเจ็บตัว อาจจะถึงเลือดถึงเนื้อ ผมถึงบอกว่า วันที่ 19 ที่ พล.อ.สนธิ ตัดสินใจทำ ทำอาจเป็นเพราะว่าได้รับข่าวต่างๆ เหล่านี้แล้ว เพราะว่าเมื่อเขาได้รับข่าวต่างๆ เหล่านี้แล้วเนี้ยะ ท่านเองอาจทนไม่ได่ที่อาจเห็นวิธีการอันชั่วช้าโสมมอย่างนี้ ท่านก็เลยตัดสินใจผัวะทันทีเลยคืนนั้น นั่นคือที่มาของการ
สโรชา - เพราะหลายคนก็สงสัยทำไมต้อง
สนธิ - ยึดอำนาจ
สนธิ - ตรงนี้แหละ สื่อมวลชนทั้งหลาย โดยเฉพาะยิ่งสื่อต่างประเทศ หรือบางคนอย่างเช่น นักศึกษา นักเรียน เช่น วันนี้นักศึกษาที่อ็อกฟอร์ดออกมาแถลงการณ์ ซึ่งผมเสียใจมากคนไปเรียนถึงอ็อกฟอร์ด ทำไมถึงโง่อย่างงี้
สโรชา - คิดกันต่างๆ นานา
สนธิ - ผมนี้ไม่ได้มี คุณวุฒิ หรือคุณสมบัติที่ต่ำกว่าเด็กอ็อกซฟอร์เท่าไรหรอก เพราะว่ามหาวิทยาลัยที่ผมเรียนก็ติด 1 ใน 10 ของอเมริกา และผมก็เกียรตินิยมอันดับ 2 เหมือนกันนะฮะ เพราะฉะนั้นแล้วผมไม่ได้โง่เหมือนเขาหรอก แต่ผมยังเข้าใจเหตุการณ์นี้ดี คนพวกนี้บอกว่าการปฏิวัติ คือ การถอยหลังเข้าคลอง ไม่ได้ถอยหลังเข้าคลองคุณ การยึดอำนาจครั้งนี้ ยึดเพื่อไม่ให้เกิดการนองเลือด แล้วถ้าดูเวลาให้ดีๆ คุณสโรชา คนที่ประกาศปฏิวัติก่อน คือใคร คุณทักษิณไงล่ะ
สโรชา - ใคร เพราะประกาศภาวะฉุกเฉิน
สนธิ - ประกาศภาวะฉุกเฉินก่อน แล้วสั่งปลด พล.อ.สนธิทันที พวกทีมพล.อ.สนธิ เขายังไม่ได้ปฏิวัติอะไรเลย แม้แต่นิดเดียว ไม่ได้ปฏิวัติ ช่องทีวีต่างๆ กำลังเล่นเพลงพระราชนิพนธ์เฉยๆ ใช่มั้ยฮะ
สโรชา - ยังไม่ทันประกาศอะไรเลย
สนธิ - ไม่มีประกาศอะไรทั้งสิ้น
สโรชา - ไม่ได้ประกาศอะไรเลย อยู่ดีๆ ช่อง 9 ก็โผล่ออกมา
สนธิ - นะฮะ ถ้าเป็นภาษานักเลงเขาเรียกว่าล่อเสือออกจากถ้ำ ปรากฏว่าไม่ใช่เสือเป็นหมา นะฮะออกมาก็เลยโดนตีร้องเอ๋งเอ๋งเอ๋ง
สโรชา - อยู่ดีๆ ก็ดับไปซะอย่างนั้น
สนธิ - ฮะ ก็เลยไปร้องอยู่แถวๆ อังกฤษอยู่ตอนนี้ ใช่มั้ยฮะ เพราะฉะนั้นแล้วก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เขาก็เลยแสดงธาตุแท้ของเขาออก ตั้งแต่โทรศัพท์ออกมานะฮะ ออกมาแล้วก็มีช่อง 9 ช่องเดียวเท่านั้นเองที่ต่อให้ แล้วพูดออกมาทุกช่องไม่มีเลย ผมก็ยังสงสัยว่า คุณมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ทำไมยังมีชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย จริงแล้วคณะปฏิรูปฯ นี่ต้องปลดคุณมิ่งขวัญ เก็บเอาไว้ทำไม ใช่ไหมคุณสโรชา
สโรชา - คือ มันคงต้องอธิบายกันว่าทำไม
สนธิ - ทำไมคุณถึงปล่อยออกไปอย่างนี้
สโรชา - คือ ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติ น่าจะเป็นรวมการเฉพาะกิจ
สนธิ - แสดงว่าคุณมิ่งขวัญเนี้ยะ สมรู้ร่วมคิดกับคุณทักษิณ ในการร่วมปฏิวัติ ใช่มั้ยฮะ ถ้าไม่สมรู้ร่วมคิดทำไมมีช่องคุณช่องเดียว บอร์ด อสมท.นี้ คุณธงทอง จันทรางศุ จำได้ป่าว เรวัต ฉ่ำเฉลิม พวกนี้ต้องไปให้หมด แล้วคุณมิ่งขวัญนี้จะต้องถูกเรียกตัวเข้ามาดำเนินคดีซะด้วยซ้ำ ในฐานะร่วมกันประกาศ การปฏิวัติแล้วล้มเหลว คือ การกบฏนะ ถูกต้องมะ แล้วคุณมิ่งขวัญ ทำไมยังอยู่เฉยๆ ผมไม่ทราบว่าทำไม หรือว่าคุณมิ่งขวัญ มีคนปกป้องให้ที่กองบัญชาการคณะปฏิรูป ผมไม่เข้าใจ วันนี้ผมมีเรื่องไม่เข้าใจหลายเรื่อง ที่ผมจะพูดในตอนหลังซึ่งผมไม่อยากให้คุณสโรชาเข้ามาร่วมด้วย
สโรชา - คือ จะตั้งคำถาม ใช่ไหมคะ เออมีข้อสงสัยอยู่นิดนึง ที่คุณสนธิพูดถึงนักเรียนต่างประเทศ และก็สื่อต่างชาติ ทำข่าวต่างประเทศมาก็โดนถล่มจากต่างประเทศค่อนข้างเยอะ เขาไม่เข้าใจ
สนธิ - คืออย่างนี้ฮะ คือระบอบทักษิณเขามีเครือข่ายต่างประเทศเยอะนะฮะ ผมอยากจะฝากบอกบรรดานายทหารคณะกรรมการที่เซ็นเซอร์ข่าวที่นั่งอยู่ที่กองบัญชาการกองทัพบกให้นิดนึง ผมเนี้ยะนะ ไม่ได้เอี่ยว ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรแต่ผมต้องรับศื่อต่างประเทศวันละ 4 - 5 เจ้า และพรุ่งนี้ผมต้องเดินทางไปยังต่างประเทศ เพื่อให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ เพื่อให้สื่อต่างประเทศเนี้ยะเข้าใจว่า การรัฐประหารครั้งนี้ คุณสโรชา ไม่ใช่การถอยหลังเข้าคลอง แต่เป็นการพัฒนาประชาธิปไตยไปอีกระดับหนึ่ง แต่คณะกรรมการเซ็นเซอร์ซึ่งนั่งอยู่ที่กองบัญชาการกองทัพบกชอบบอกว่า คุณสนธิต้องพูดให้เป็นกลางนะ มันจะเป็นกลางได้อย่างไร ในเมื่อเขาถล่มพวกคุณเอา ถล่มพวกคุณเอา เขาใช้สื่อต่างประเทศ คุณทักษิณไปพูดกับซีเอ็นเอ็นว่า พระเจ้าอยู่หัวฯ สั่งปฏิวัติเขา ไปพูดอย่างนี้แล้วพวกคุณยังนั่งอยู่ที่กองบัญชาการกองทัพบก เวลาผมพูดอะไรแรงหน่อย คุณสนธิต้องเป็นกลางนะ ผมอยากจะถามว่าพวกคุณระบอบทักษิณหรือเปล่า ผมเลยบอกว่า ถ้าคุณจะปิดสื่อเอเอสทีวีคุณส่งรถถังมาปิดได้คืนนี้ผมจะให้ปิด ให้มันรู้ไปเลยผมไม่สนใจ นี่ผมพูดด้วยความเสียใจ ช่อง 3 5 9 11 ไอทีวี ทุกวันนี้ยังมีสรยุทธ์ สุทัศนจินดา นั่งอยู่ จักรพันธุ์ ยมจินดา นั่งอยู่ คนโน้นคนนี้นั่งอยู่
สโรชา - ไอทีวีก็ยังอยู่
สนธิ - ไอทีวี กิตติ สิงหาปัด ก็ยังอยู่ พูดจากกระแนะกระแหนคณะรัฐประหารตลอดเวลา คุณเข้ามารัฐประหารยึดอำนาจครั้งนี้ด้วยเหตุผลอะไร ด้วยเหตุผลว่า รัฐบาลชุดทักษิณ ชินวัตรคอร์รัปชั่นใช่ไหม ละเมิดสถาบันกษัตริย์ใช่ไหม แล้วอีกหลายๆ ข้อ แต่ทำไมมีแค่เอเอสทีวีช่องเดียวที่อธิบายเรื่องนี้ ช่องอื่นไม่พูด เมื่อทุกช่องไม่พูด ผมก็ถามกลับ เวลาผมพูดแล้วคุณโทรศัพท์มาบอกว่าให้พูดเป็นกลาง แปลว่าอะไร แสดงว่าพื้นฐานที่คุณรัฐประหารคุณเป็นพื้นฐานโกหกซิ
สโรชา - ถ้าเราอยู่เฉยๆ เราไม่อธิบายความเขาก็ไม่มีวันเข้าใจ
สนธิ - ไม่มีทาง ผู้ชมเอเอสทีวีเป็นผู้ชมที่ฉลาด ผมพูดไปแล้วคนที่นั่งดูเอเอสทีวี คนที่เป็นแฟนเรามาตั้งเท่าไหร่เขาเข้าใจหมดไม่ต้องพูดอะไรมาก แต่พวกที่ดู 3 5 7 9 11 ไอทีวี เขาไม่เคยเห็นรายการแบบนี้ เขาจะเหมือนเดิมต่อไป แล้วทุกวันจะมีภาพนายทักษิณ จากอังกฤษเดินจูงมือลูกมาให้สัมภาษณ์ ออกตลอดเวลา ไอทีวีออกประจำ ออกแล้วออกอีก
สโรชา - แถลงการณ์ก็อ่านกันอยู่นั่น
สนธิ - อ่านกันเหมือนกับว่า ทักษิณแถลงการณ์ได้ทุกวัน
สโรชา - เสมือนอยู่ในตำแหน่ง
สนธิ -เสมือนอยู่ในตำแหน่ง แล้วทุกช่องก็ออก พอเราจะมาพูดถึงความชั่วร้ายของทักษิณ ว่าทำไมเราต้องไล่ทักษิณ ทะลึ่งมีทหารโทรศัพท์มาบอกผม บอกว่า คุณสนธิพูดจากลางๆ หน่อยได้ไหม เราต้องการความสมานฉันท์ สามัคคี ตลกไหมคุณสโรชา
สโรชา - คือเขามองในแง่ของความสมานฉันท์ แต่ว่าถ้ามองในมุมกลับถ้าไม่อธิบาย
สนธิ - ไม่ใช่ คุณสมานฉันท์ได้อย่างไร ถ้าคุณสมานฉันท์คุณรัฐประหารทำไม คุณตอบผมซิ คุณยึดอำนาจเพื่อพัฒนาประชาธิปไตยให้ดีขึ้นใช่ไหม แล้วพื้นฐานการยึดอำนาจของคุณมาจากเหตุผลอะไร
สโรชา - คอร์รัปชั่น หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
สนธิ - คอร์รัปชั่น หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ทำให้แผ่นดินแตกแยก เมื่อคุณมาบนพื้นฐานอันนี้ แล้วพอผมพูดเรื่องนี้คุณบอก คุณสนธิอย่าพูดนะ ขอให้พูดเป็นกลาง ผมต้องการสมานฉันท์ ถ้าอย่างนั้นคุณรัฐประหารผิดแล้วนะ ถ้าอย่างนั้นเหตุผลที่คุณให้ผิดหมด ทำไมถึงผิด เพราะว่าผมพูดไม่ได้ แล้วช่องอื่นก็ไม่มีใครพูด ประชาชนในที่สุดที่ดู 3 5 7 9 11 ไอทีวี ผมอยากให้ผู้ใหญ่ในกองทัพได้ดูรายการผมวันนี้
สโรชา - เมื่อพูดถึงเหตุผลเหล่านี้แล้ว พูดถึงการเปลี่ยนแปลงแล้วน่าจะพูดถึงเหตุผลเบื้องหลังอยู่ด้วย
สนธิ - อย่างนี้ง่ายๆ วันนี้ประชาชนที่ไม่ได้ดูเอเอสทีวีเพราะไม่ได้รับเคเบิลทีวี หรือไม่ได้ติดตั้งจาน เขาก็ดู 3 5 7 9 11 ไอทีวี เขารู้อยู่อย่างเดียวว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน และคณะผู้ก่อการ ออกมาปฏิบัติการเพราะว่า 1 คอร์รัปชั่น 2 ละเมิดกษัตริย์ 3 ทำให้แผ่นดินแตกแยก แล้วหลังจากนั้นเขาไม่ได้ยินอะไรเลย ไหนล่ะ ไหนคอร์รัปชั่นตรงไหนผมไม่เห็นโทรทัศน์รายงาน
สโรชา - ไหนอธิบายหน่อยซิ
สนธิ - อธิบายหน่อยซิ ไม่เห็นมีใครพูด นายสรยุทธ์ยังพูดเหมือนเดิม นายจักรพันธุ์ ยมจินดา ยังพูดเหมือนเดิม นายกิตติ สิงหาปัด ยังพูดเหมือนเดิม ไม่มีใครไปแตะต้องเรื่องราวที่ระบอบทักษิณคอร์รัปชั่น ไม่มีใครไปแตะต้องข้ออ้างของคณะรัฐประหาร ประชาชนทุกหมู่เหล่าที่ดูฟรีทีวีก็ไม่เห็น เมื่อไม่เห็นสักพักหนึ่งประเดี๋ยวระบอบทักษิณก็กลับมาแล้ว ประเดี๋ยวนายธีรชัย แสนแก้ว ที่อุดร ก็มาโวยวาย วันนี้วิทยุชุมชนที่อุดรประกาศแล้วว่าจะเอาคนล้านคนเข้ามา แล้วเขาบอกว่าไหนทักษิณคอร์รัปชั่นไม่เห็นจริงเลย ถ้าจริงทำไมสื่อมวลชนไม่รายงาน
มีเอเอสทีวีของเราเท่านั้นที่ทำ แล้วดันทะลึ่งจะมาหาเรื่องเราอีก
สโรชา - นี่พูดเฉพาะในประเทศไม่ต้องไปพูดถึงต่างประเทศ
สนธิ - นี่เฉพาะในประเทศ พวกคุณที่นั่งดูผมอยู่ที่กองบัญชาการกองทัพบก ผมต้องออกไปมองนอกทำงานให้พวกคุณ ผมเบื่อผมไม่อยากไปแล้ว คุณไปสู้เองเอาไหม เขามีเครือข่ายเขา นักเรียนที่ออกฟอร์ดออกมาด่าพวกคุณ ผมต้องไปอังกฤษ พวกคุณใครดูอยู่บอกหน่อยซิ ผมต้องไปอังกฤษเดือนหน้า
สโรชา - ไปเองเลย
สนธิ - ไปเองที่มหาวิทยาลัยลอนดอน ซึ่งเขากำลังเชิญผมกับคุณไกรศักดิ์ไป เพื่อไปโต้เถียงกับฝรั่ง เพื่อมให้ฝรั่งมันถามผมว่า ทำไมต้องยึดอำนาจ ผมไม่ไปเลยดีไหม ก็พวกคุณเก่งกันนัก นั่งกันอยู่ที่กองบัญชาการกองทัพบกเก่งกันจริงๆ คุณไปแก้เองเลยดีไหมเดี๋ยวผมไม่ไปแล้ว พรุ่งนี้ผมต้องไปซีเอ็นเอ็น ซีเอ็นเอ็นนัดสัมภาษณ์ผมพิเศษที่จะออกเช้าวันจันทร์ ผมไปออกทีวีที่ไต้หวัน วันนี้อัลจาซีรอมาสัมภาษณ์ผม ผมอธิบายจนเหนื่อย วันนี้ทีวีฟูจิของญี่ปุ่นก็มาสัมภาษณ์ผม ทุกคนมาสัมภาษณ์ผมเพราะผมเป็นแกนนำในการประท้วงคุณทักษิณ เขามาถามผมคำเดียวว่า ทำไมต้องรัฐประหาร ผมต้องอธิบายเขาจนปากเปียกปากแฉะว่าเพราะทำไม ผมอยากจะฝากบรรดาท่านนายพลทั้งหลายที่ดูรายการทุกวันนี้อยู่ จะให้ผมไปไหม เลิกไปเลยดีไหมแล้วท่านรับหน้าไปเองเลย ผมไม่ต้องผมจะอยู่กับพันธมิตรผม ประชาชนที่รักผม
สโรชา - ไม่เหนื่อย
สนธิ - ไม่เหนื่อย แล้วคุณรับหน้าไปเองก็แล้วกัน ดีไม่ดี ให้ไอทีวี ช่อง 5 ช่อง 5 โทรทัศน์ทองทัพบก ผมไม่เข้าใจ ชื่อช่องกองทัพบก แต่ไม่เคยคิดเลยที่จะเอา อ.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ไปออกช่องกองทัพบกเพื่อให้ชี้แจงเรื่องราวของเขา ไม่เคยคิดจะเอาคุณการุณ ใสงาม ไปออก ไม่มี ก็ยังเหมือนเดิมอยู่ มิหนำซ้ำหลายๆ ช่องยังมีการกระแนะกระแหนการรัฐประหาร ผมเบื่อเหมือนกันนะ คุณเอาไปเลย คุณเก่งกันทั้งนั้น พล.ต. พล.ท. พล.อ. คุณเก่งกันทั้งนั้น คุณออกทีวีที่ปรึกษา คุณแน่จริงๆ คุณส่งรถทหารมาหาผมวันนี้ คุณบอกให้ผมตัดสัญญาณผมตัดให้คุณ
สโรชา - เมื่อกลางวัน
สนธิ- เมื่อกลางวัน แล้วคุณมาสั่งผมอีกว่า คืนนี้พูดอย่างเป็นกลาง ผมบอกผมไม่กลาง ผมจะพูดครั้งสุดท้าย ผมจะพูดครั้งสุดท้าย คุณมายึดผมไว้เลย แล้วถ้าคุณอย่างนี้ผมจะไม่ไปอังกฤษ ผมจะไม่ไปซีเอ็นเอ็น ผมจะยกเลิกโครงการทั้งหมด คุณไป แล้วคุณเจอระบอบทักษิณด้วยตัวคุณเองแล้วกัน
สโรชา - ตัวใครตัวมัน ลองดูบ้างว่าเป็นอย่างไร
สนธิ - ตัวใครตัวมัน ลองดูบ้างว่าเป็นอย่างไร ผมสู้มา 1 ปีเลือดตาแทบกระเด็น แต่ผมไม่ได้ตำหนิผู้ใหญ่นะ ผู้ใหญ่ข้างบนเห็นด้วย เขาเข้าใจ แต่ระดับทำงานเรื่องมาก แม้กระทั่งสัญญาณก็แกล้งผม ผมให้คุณดู
สโรชา - เกิดอะไรขึ้นคะ
สนธิ- คุณสโรชา จับมาดูตรงๆ สัญญาณเอเอสทีวี ภูเขาสองลูกนี้ดูให้ดีๆ ช่องหนึ่งคือช่องบีเอ็มซี คือช่องธรรมกาย อีกช่องคือ เอเอสทีวี
สโรชา - ซึ่งอยู่ดาวเทียมดวงเดียวกัน
สนธิ - ดาวเทียมดวงเดียวกัน สัญญาณที่กวนคือปลายแหลม เสร็จเรียบร้อยแล้วคุณสังเกต เวลาที่โฆษกของผู้ประกาศข่าวช่อง 5 ประกาศ พอเขาประกาศปั๊บเนี้ยะ ไอ้ช่องสัญญาณที่กวนเราเนี้ยะมันหลบไปเลยเห็นไหม ไอ้ช่องแหลมๆ เปี๊ยบ มันหลบไปเลยนะ แต่พอผมพูดนะ เอ้าถ่ายมาหน่อยสิ พอผมพูด ดูสิ นี้คือเวลาที่ผมพูด เห็นหน้าผมมั้ย ไอ้แหลมๆๆ เนี้ยะมาโผล่ตรงช่องเอเอสทีวีเลย เพื่อกวนให้ภาพมันหยุด
สโรชา - โอ้ มีงี้ด้วย
สนธิ - มีสิ ก็ผมพิสูจน์ไง ก็คุณอยากได้ของจริง ผมก็ให้พวกคุณดู พวกคุณที่นั่งอยู่ที่กองบัญชาการทหารบก คุณดู ผมกำลังช่วยเหลือคุณ เพราะผมเห็นว่าคุณทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ แต่บรรดาลูกน้องคุณทั้งหลายเนี้ยะ ลิ่วล้อคุณ ซึ่งผมไม่รู้ว่าเป็นลิ่วล้อระบอบทักษิณหรือป่าว กลับมาก่อกวนกลั่นแกล้งอย่างนี้ เอ๊ะ ผมถามพวกคุณนี้ ชายชาติทหารหรือเปล่านี้ ผมถามสิคำนี้ นี้ผมโกรธแล้วนะ ผมไม่ได้ไม่โกรธนะ ผมพร้อมนะอะไรก็ได้ ยังไงก็ได้ จะเลิกก็เลิกไปเลย ไม่เป็นไร แล้วผมจะบอกให้รู้ว่าผมมีหลักฐานให้ดูเลย ผมไม่ได้โกหก คุณจะมาดูเมื่อไร คุณมาหาผมได้ทุกเมื่อ
สโรชา - คือทำไมเวลาที่เอเอสทีวี ถ่ายทอดแถลงการณ์แล้วชัดดูได้
สนธิ - ไมใช่เอเอสทีวีถ่ายทอดแถลงการณ์ ทำไมช่อง 5 ถ่ายทอดแถลงการณ์แล้วชัด
สโรชา - ไม่เวลาเราดึงสัญญาณเขามาเพื่อถ่ายทอดแถลงการณ์
เราสามารถดูได้
สนธิ - ถูกต้อง
สโรชา - แต่ว่าทำไม คุณสนธิแถลงเนี้ยะ คนดูดูเราไม่ได้ นี้คึอคำถาม
สนธิ - นี้คือคำถาม ถ้ามันจะเกิดขึ้นจากกระทรวงไอซีที กสท.คุณก็ไปจัดการสิ ถ้าคุณจัดการไม่ได้แสดงว่าลิ่วล้อระบอบทักษิณยังอยู่ใช่ไหม หรือว่าเกิดขึ้นที่ไทยคม คุณก็ไปจัดการไทยคมสิ เพราะไทยคมเป็นของชินคอร์ป และเป็นของเทมาเส็ก หรือว่าพวกคุณทำผมเอง เข้าใจหรือยังคุณสโรชา
สโรชา - เข้าใจคะ เข้าใจ
สนธิ - ท่าน ผบ.ทบ.ท่านต้องให้คำตอบผม หลังจากที่ฟังอันนี้แล้ว ท่านต้องให้คำตอบว่า ไอ้คนที่สู้มา 1 ปี จนมีวันนี้ได้ แล้วยังต้องสู้ต่อ อดทน ให้สัมภาษณ์โทรทัศน์ต่างชาติ ทั้งจีน ทั้งญี่ปุ่น ทั้งอัลจาซีรอของอาหรับหมด ไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง บางคืนนี้กว่าจะนอนตี 5 เพราะโทรศัพท์มาจากบีบีซี ขอให้เข้ารายการหน่อย โทรศัพท์มาจากแคนาดา ขอให้เข้ารายการหน่อย คำแรกที่ถามบอกว่า "คุณคิดถึงเรื่องการรัฐประหารอย่างไร" ผมก็ต้องตอบว่า "ผมมีความสุขมาก" เขาถามว่าทำไมคุณถึงมีความสุข ผมต้องอธิบายต่อพูดต่อไป ต่อไป พวกคุณเก่งนัก คุณรับเอาไปเลยเอามั้ยนะ ถ้าคุณไม่ตอบผมมาภายในวันพรุ่งนี้นะ ผมจะยกเลิกทริปที่ผมจะไปอังกฤษ ผมจะยกเลิกทริปที่ไปแคนาดา แล้วเงินผมทั้งนั้นนะที่เดินทาง ออกเองอีกต่างหาก
สโรชา - ออกเอง เหรอคะ สุดยอด
สนธิ - ออกเอง นี้ผมทำงานเพื่อชาติจริงๆ ยังไม่เห็นกันเลยหรือนี้ หรือคุณยังอยากได้ระบอบทักษิณกลับมา ก็คุณยึดอำนาจเพราะเหตุผล 4 ข้อที่ผมบอก เมื่อยึดอำนาจด้วยเหตุผล 4 ข้อที่คุณบอกนี้ ผมก็พยายามขยายความ 4 ข้อนี้ ให้ประชาชนได้ฟัง คุณยังดันบอกผมบอกผมว่าสมานฉันท์หน่อยนะ พูดจาเป็นกลาง เข้าใจหรือยัง
สโรชา - น่าน้อยใจ
สนธิ - ผมไม่น้อยใจแล้ว
สโรชา - โกรธแล้ว
สนธิ - ผมไม่โกรธแล้ว ปลงแล้ว คือ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
สโรชา - คะ นิดนึง คำถามเพราะแอ้มมีความสงสัยส่วนตัวด้วยว่า เดิมที่เราเข้าใจว่า เมื่อคุณทักษิณ ไม่อยู่แล้วเนี้ยะ ทั้งภรรยา และลูกๆ และครอบครัวไม่น่าจะอยู่ด้วย แต่ว่ามันก็กระจ่างชัดแล้วละในวันนี้ว่า ลูกยังอยู่ และภรรยาก็ยังอยู่ และยังมีคนในไทยรักไทยอีกหลายคน รวมไปถึงผู้ที่เราเข้าใจว่าลิ่วล้อยังอยู่ เรามีอะไรน่าเป็นห่วงไหม
สนธิ - ก็ผม ไม่อย่างจะพูดอ่ะ คือ มันมีหลายอย่างที่ ผมอยากจะพูดจากใจผมให้ท่านผู้บัญชาการทหารบก แต่ผมขอเก็บไว้เบรก 2 ดีกว่า เอาเป็นว่า ผมกำลังเกรงว่าระบอบทักษิณนี้ มันเหมือนเชื้อชั่ว เชื้อไวรัสที่ยังไม่ตาย แต่มันหยุดยั้งการเจริญเติบโตโดนแช่แข็ง แต่ขณะนี้กำลังมีคนละลายน้ำแข็งที่แช่แข็งระบอบทักษิณอยู่ ทำให้เชื้อไวรัสนั้นอาจเจริญเติบโตได้อีกครั้งหนึ่ง และผมก็ให้เวลาไม่เกิน 1 ปี ระบอบนี้อาจกลับมาอีกครั้งนะครับ
สโรชา - นั้นเดียวช่วงที่ 2 นะคะท่านผู้ชมสามารถที่จะติดตามต่อได้ เรายังไม่จบเพียงเท่านี้ คุณสนธิยังมีอีกรายต่อรายเรื่องที่อย่างจะพูดกับคุณผู้ชม และผู้ใหญ่หลายท่านซึ่งคงกำลังดูอยู่ในค่ำคืนนี้ เดี๋ยวเราจะปิดเบรกด้วยเพลงเทียนแห่งธรรมในรูปแบบของมาร์ชนะคะ ในส่วนของแอ้มคงลาไปเพียงเท่านี้ค่ะ สวัสดีคะ
เบรกที่ 2
สวัสดีครับท่านผู้ชมเอเอสทีวี และรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ช่วงนี้เป็นช่วงที่คุณสโรชา พรอุดมณ์ศักดิ์ ไม่ได้ออกกับผม เพราะว่าจะเป็นช่วงที่ผมต้องอธิบายความมาก แล้วก็อาจจะไม่เหมาะที่คุณสโรชาจะมานั่งถามคำถาม เพราะการอธิบายความนั้นบางครั้งจะต้องพูดต่อเนื่องกันไปโดยที่ไม่ถูกแทรกแซงด้วยคำถามอื่นๆ ต้องขออภัยท่านผู้ชมด้วย เมื่อกี้นี้ผมพูดในตอนต้นกับคุณสโรชาถึงเรื่องเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วนี้ แต่อย่างไรก็ตามผมยังอยากจะให้คุณผู้ชมเอเอสทีวี และเคเบิลท้องถิ่นที่อยู่ที่ต่างจังหวัด หรือใครที่ติดจานรับสัญญาณดาวเทียมโดยตรง หรือว่าตลอดจนท่านผู้ชมที่อยู่ในสหรัฐ ในแคนาดา แล้วในออสเตรเลีย และที่อยู่ต่างประเทศที่ชมผ่านอินเตอร์เน็ตให้รับทราบเอาไว้ว่า จริงๆ แล้วเราต้องให้กำลังใจ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก เพราะหลายต่อหลายอย่างที่เกิดขึ้นในคณะปฏิรูปการปกครองเพื่อประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นเรื่องราวที่ท่านผู้บัญชาการทหารบกต้องการใช้ความอดทน แล้วใช้ลักษณะการประนีประนอมที่อยู่ในทีมทำงานร่วมกันซึ่งประกอบกันหลายๆ ทีม
มันเป็นธรรมดาครับท่านผู้ชมที่ เวลาจะต้องทำศึกสงครามจะมีคนกล้าไม่กี่คนที่ออกมาทำศึก คนที่ออกมาทำศึกจะเป็นคนซึ่งสู้เพื่อความถูกต้อง สู้เพื่ออุดมการณ์ สู้เพื่อชีวิตที่ดีกว่า สู้เพื่อชาต สู้เพื่อบ้านเมือง เมื่อในที่สุดแล้วทหารที่ยืนดูอยู่ข้างๆ แล้วตัดสินใจเข้ามา เมื่อเข้ามาแล้วชนะแล้วมันจะมีพวกที่ผมชอบเรียกว่า พวกอีแอบ ที่แอบอยู่ข้างหลัง แอบอยู่หลังระบอบ แอบอยู่หลังคนนู้นคนนี้ หรือบางคนไม่แอบแต่อยู่ในระบอบเลย ยังหน้าด้านหน้าหนาเดินเข้ามาขอร่วมขบวนการด้วย คำถามที่ผมได้รับเยอะมากเลยตอนนี้ว่า ทำไมถึงต้องเอาคุณบวรศักดิ์ อุวรรณโณ และคุณวิษณุ เครืองาม เข้ามาร่วมในคณะที่ทำงาน
ผมอยากจะบอกว่า นี่เป็นความรู้สึกของประชาชนครับ ท่านผู้บัญชาการทหารบก หรือท่านคณะผู้ก่อการ ท่านต้องฟังประชาชนบ้าง เพราะในสายตาของประชาชนแล้ว เขามองว่า คุณบวรศักดิ์กับคุณวิษณุถึงแม้ว่าลาออกไปก่อนการล่มสลายของระบอบทักษิณก็ตาม เขาถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างความถูกต้องตามกฎหมายให้กับระบอบทักษิณ เพราะฉะนั้นเขาทำใจไม่ได้ ผมเองเข้าใจท่านผู้บัญชาการทหารบกดี ผมเข้าใจว่า ทีมนี้เข้ามาเพราะคุณมีชัย ฤชุพันธุ์ แต่ผมอยากจะกราบเรียนเป็นข้อมูลนิดหนึ่ง อยากจะกราบเรียนให้กับประชาชนที่ดูรายการนี้อยู่ว่า คุณมีชัย ฤชุพันธุ์ คุณบวรศักดิ์ อุวรรณโณ และคุณวิษณุ เครืองาม นั้น เป็นกลุ่มนักกฎหมายที่ทุกๆ รัฐบาลจะต้องเข้ามาเกี่ยวข้องในการร่างกฎหมาย ร่างรัฐธรรมนูญ แล้วทุกรัฐธรรมนูญ ทุกๆ กฎหมายการปกครองที่กลุ่มนี้เข้ามาร่างโดนฉีกทิ้งหมด ไม่เคยมีการอยู่ได้รอดเลย ผมจะเรียนให้ทราบนิดหนึ่ง ผมจะพูดถึงคุณบวรศักดิ์ และคุณวิษณุ อย่างตรงไปตรงมา พูดถึงท่านทั้ง 2 คน ถ้าผมเป็นท่านผมยังจะต้องมีความละอายใจ ถึงแม้ท่านจะลาออกก่อนที่ระบอบทักษิณจะล่มแล้วก็ตาม ผมเป็นท่าน ถึงได้รับการเชื้อเชิญมาผมก็จะปฏิเสธ เพราะอย่างน้อยที่สุดในช่วงหนึ่งของชีวิตที่ไม่สั้นที่ยาวพอสมควร พวกท่านทั้ง 2 ได้ทำความเสียหายให้แก่ชาติบ้านเมืองมาก โดยเป็นคนที่พายเรือให้โจรนั่ง เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ผมเป็นท่านผมจะปฏิเสธ ขอบพระคุณมากครับ แล้วคุณบวรศักดิ์ อุวรรณโณ คุณเป็นคนพูดเองไม่ใช่หรอ คุณขอเลิกการเมือง คุณขอกลับไปสอนหนังสือ คุณวิษณุก็เช่นกัน ผมถามว่าคุณกลับมาทำไม ถ้าคุณไม่ใช่กลับมาเพียงเพราะว่านิสัยดั้งเดิมของคุณต้องการอยู่ในแวดวงอำนาจ แล้วเข้ามาร่วมสร้างเครือข่ายอำนาจขึ้นมาใหม่ แล้วใช้ทักษะความรู้กฎหมายของคุณทำเพื่อรับใช้ใครผมก็ไม่รู้ ผมทราบว่าคุณถอยออกมาจากระบอบทักษิณแล้ว แต่ผมกับท่านผู้ชมที่บ้านหลายคนจะเชื่อใจได้อย่างไรว่าถ้าคุณเข้ามาแล้วมีส่วนร่วมร่างรัฐธรรมนูญ หรือร่วมร่างกฎหมายครั้งนี้ คุณจะไม่แอบแฝงซ่อนเร้นอะไรเพื่อให้ระบอบทักษิณ หรือนายทักษิณกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ผมคิดว่าก่อนที่คุณจะกลับเข้ามาทำ อย่างน้อยคุณต้องแสดงความจริงใจให้ผมและประชาชนที่คัดค้านระบอบทักษิณดูก่อนสักนิดหนึ่ง ดูอย่างไร คุณน่าออกมาเปิดโปงก่อนว่าสมัยคุณอยู่ นายทักษิณสั่งให้คุณทำอะไรบ้าง ถึงคุณจะต้องทำแต่ต้องทำด้วยความอึดอัด ก็เล่าให้พวกเราฟังหน่อยว่าคุณไม่เห็นด้วย มีอะไรบ้างที่คุณทำแล้วคุณไม่สบายใจ มีอะไรบ้างที่คุณทำแล้วผิด คุณเปิดมาก่อน อย่างน้อยถ้าผมรู้ว่าคุณจริงใจ คุณกล้าพอที่จะยอมรับความผิด เหมือนผม คุณวิษณุ คุณบวรศักดิ์ คุณต้องไม่เป็น คุณต้องมีความเป็นลูกผู้ชายพอสมควร ผมพูดกับพ่อแม่พี่น้องก่อนที่ผมจะมานำเขา ผมบอก ในอดีตผมอาจจะเป็นคนเลวทรามต่ำช้าอะไรก็ตาม แล้วแต่ ผมขอโทษพ่อแม่พี่น้อง พ่อแม่พี่น้องให้อภัยผมเถอะ ผมเคยทำผิดมาก่อนในชีวิต ชั่วก็มาก ดีก็หลาย อายุขนาดนี้จะ 60 แล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่ไม่เคยทำความชั่ว แต่อะไรก็ตามที่เคยทำในอดีตขอให้พ่อแม่พี่น้องให้อภัยผม ผมกราบขอขมา แล้วผมให้สัจวาจา กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่อหน้าพ่อแม่พี่น้องว่า จากวันนี้เป็นต้นไป คือ วันที่ผมต้องนำพ่อแม่พี่น้อง ผมจะขอใช้จิตเจตนาที่บริสุทธิ์ต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมืองโดยไม่หวังผลประโยชน์ส่วนตัวเลยแม้แต่นิดเดียว ตำแหน่งแห่งที่ทางการเมืองผมก็ไม่ต้องการ ผมขอโทษพ่อแม่พี่น้องไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และผมขอให้พ่อแม่พี่น้องให้อภัยผม คุณวิษณุ คุณบวรศักดิ์ คุณต้องทำอย่างผมบ้าง เพราะถ้าคุณไม่ทำผมไม่ไว้ใจคุณ และผมเชื่อว่าพันธมิตร และพ่อแม่พี่น้องที่ดูเอเอสทีวี แล้วเป็นคนซึ่งรักความเป็นธรรม รักชาติรักบ้านเมือง ก็จะไม่ไว้ใจคุณ เมื่อเขาไม่ไว้ใจคุณเขาก็จะพลอยไม่ไว้ใจคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เขาจะไปไว้วางใจได้ไง เขาก็สงสัยว่าคุณกำลังวางแผน หรือว่าคุณกำลังสอดใส่อะไรหรือเปล่าที่ให้คุณทักษิณกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
แม้แต่คุณมีชัย ฤชุพันธ์ ถึงแม้ช่วงหลังคุณจะออกมาต้านทักษิณ คุณจะยอมรับหรือเปล่าคุณก็รับเงินค่าเขียนกฎหมาย จากคุณทักษิณเป้นจำนวนเงิน 15 ล้านบาท เขียนกฎหมายอะไร เขตปกครองพิเศษไงเราคุณมีชัย คุณจำได้หรือเปล่า เขตปกครองพิเศษที่พวกผมสู้กันว่านี้ คือ การยกชาติ ยกบ้านเมืองให้ต่างชาติ ข้อกฎหมายทุกข้อคุณเป็นคนเขียนทั้งนั้นคุณมีชัย คุณยอมรับตรงนี้ไหม ผมไม่ได้ตำหนิ ไม่ได้โกรธ ผมไม่ได้มีอะไรกับคุณ แต่ผมอย่างให้แรงกายแรงใจที่พ่อแม่พี่น้อง ที่ร่วมกันสู้กับผม หรือการเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ซึ่งถ้าการรัฐประหารวันนั้นล้มเหลว คุณสนธิ บุญยรัตกลิน ต้องกลายเป็นกบฏ จะต้องถูกดำเนินคดี ทหารที่ร่วมด้วยจะต้องติดคุก ติดตะราง ความเสี่ยงนี้คุณไม่ได้เสี่ยง คุณวิษณุ คุณบวรศักดิ์ คุณมีชัย แต่ว่า พล.อ.สนธิ เสี่ยง และก่อนที่ พล.อ.สนธิ จะเสี่ยง ผมและพ่อแม่พี่น้อง ที่นั่งอยู่ในห้องส่งนี้ ที่อยู่ทั่วประเทศไทย ที่อยู่ภูเก็ต ที่อยู่หาดใหญ่ ที่อยู่สงขลา ที่อยู่อุบลฯ ที่อยู่เพชรบุรี ที่อยู่ทั่วประเทศ ปราณบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม คนพวกนี้เขามาเสี่ยงกับผม คุณวิษณุ คุณบวรศักดิ์ คุณมีชัย เขามาเสี่ยงที่กินกลางดินนอนกลางทราย เสี่ยงต่อการโดนพวกลิ่วล้อของระบอบทักษิณ มาทำร้าย ทำลาย
ผมต้องเสี่ยงต่อการขึ้นศาล ผมต้องเสี่ยงต่อคดี 48 คดีที่ระบอบทักษิณฟ้องร้องผม ผมต้องไปปั๊มลายนิ้วมือเป็นพันๆ ครั้ง ผมต้องเดินทางไปที่ต่างๆ เพื่อที่จะไปขึ้นศาล ขึ้นโรงพัก พวกผมเสี่ยงทั้งนั้น พอพวกผมเสี่ยงเสร็จ พล.อ.สนธิ ก็เสี่ยงชีวิตของท่านต่อ เสี่ยงอนาคตของท่าน เสี่ยงอะไรอะไรต่อหลายอย่างในชีวิตท่าน แล้วคุณมีชัย คุณบวรศักดิ์ คุณวิษณุ คุณเสี่ยงอะไร คุณตอบผมสิ คุณเสี่ยงอะไร คุณไม่ได้เสี่ยงอะไรเลย พอคุณเห้นว่านาวาทักษิณเริ่มไปไม่ไหวแล้วคุณก็ลาออก เอาเป็นหนี้บุญคุณอีกว่า พวกผมออกแล้วนะต้องขอบคุณผมนะที่ผมออก พอออกไปสักพักคุณก็เดินกลับเข้าไปอีกครั้งหนึ่ง เมืองไทยมันไม่มีมือกฎหมายอีกแล้วหรือไงที่จะทำงาน ทำไมต้องเป็นแค่คุณ 3 คน แล้วการเมืองเมืองไทยที่ร่างกฎหมายโดยคุณ 3 คน ตั้งกี่ยุคกี่สมัย มันพังพินาศจนวันนี้ก็ไม่ใช้เพราะคุณ 3 คน นี้ผมเอาความในใจของพ่อแม่พี่น้อง ที่ส่งคำถามมาทำไมถึงต้องเป็นนายวิษณุ และบวรศักดิ์ ผมจะบอกให้คุณรู้คุณวิษณุ คุณบวรศักดิ์ ประชาชนไม่ได้ชอบคุณเลยนะ คุณอย่าหลงเข้าใจผิด คุณกรุณาอย่าหลงเข้าใจผิด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่พี่น้อง ผมกำลังกราบเรียนพ่อแม่พี่น้องว่า ต้องเห็นใจท่านผู้บัญชาการทหารบกคนนี้ ผู้บัญชาการทหารบกคนนี้ไม่รู้จะไว้ใจใคร ผมคิดว่าในกลุ่มทั้งหมดท่านต้องระมัดระวังตัวตลอดเวลา เพราะท่านไม่รู้ว่าใครเป็นใคร รู้จักคนรู้จักหน้าไม่รู้จักใจ เพราะฉะนั้นแล้วท่านเองท่านก็อึดอัดใจหลายอย่าง พวกเราต้องให้กำลังใจท่าน เชื่อผมเถอะครับ ผมเชื่อ 100 เปอร์เซ็นต์ ว่าท่านเป็นคนดี ขอให้เชื่อสัญชาตญาณผม เหมือนกับวันที่ 21 สิงหาคม ที่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เซ็นพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง ผมบอกพ่อแม่พี่น้องว่า ให้เชื่อมั่นและศรัทธาในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ว่าพระองค์ท่านทรงมีวิจารณญาณและอัจฉริยะภาพที่ทรงทำเช่นนั้น เพราะพระองค์ท่านทรงเห็นการไกล อย่าไปตื่นตระหนกตกใจ
ฉันใดฉันนั้นผมอยากให้พ่อแม่พี่น้อง อย่าหมดศรัทธากับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ท่านเป็นทหารหาญ ท่านเป็นทหารยุทธการ ท่านวางแผนการรบเป็น แต่ท่านไม่ชำนาญในเรื่องราววิชามารต่างๆ ทางการเมืองที่กำลังแทรกซึมเข้าไปหาท่าน ท่านแทบจะไม่ได้กินแทบจะไม่ได้นอนเลยงานต่างๆ เหล่านี้ พ่อแม่พี่น้องครับเมื่อพูดถึงเรื่องนี้จบ ผมอยากจะพูดต่อถึง พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ พ่อแม่พี่น้องอยู่กับผมก็รู้ ว่า พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ จริงๆ แล้วเป็นนายตำรวจที่รับใช้ในระบอบทักษิณมาตลอด พ่อแม่พี่น้องที่ถูกกุ๊ย นายใต้ ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของ พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ กระเทือบเสียจนบอบช้ำ คนแก่ 2 คน ผู้หญิงอีก 1 คน ตำรวจพวกนั้นอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผมยังไม่เคยเห็น พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ก้าวออกมาพูดสักครั้งหนึ่งเลยว่า ผมจะตั้งกรรมการสอบสวน ผมสั่งพักราชการไปก่อนถ้าไม่ผิดแล้วค่อยกลับเข้ามา พล.ต.อ.โกวิท ไม่เคยพูดเงียบไม่พูด นอกจากไม่พูดแล้วยังพูดจาดูถูกแล้วพูดจาตำหนิติเดียนการต่อสู้ของพวกเราตลอด แม้กระทั่งการแสดงออกในเรื่องความจงรักภักดีของผม แล้วถูก พล.ต.ท.ชลอ ชูวงษ์ ซึ่งคณะผู้ก่อการเพิ่งย้ายเข้าประจำสำนักนายกฯ สั่งให้ดำเนินคดีผม พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ถ้าต้องการเป็นตำรวจที่วางตัวเป็นกลางก็พูดออกมาได้ว่าขอให้ดูแลสอบสวนอย่างเป็นธรรม ผมต้องให้เกียรติผู้ต้องหา ท่านก็ไม่พูด ท่านรับใช้ระบอบทักษิณมาตลอด ล่าสุดเตรียมตัวจะย้ายตำรวจอีกล็อตหนึ่ง พล.ต.อ.โกวิท จะเอาคนของท่าน ตำรวจที่จะวิ่งเต้นเข้ามาเพื่อที่จะมาดำรงตำแหน่ง ตำรวจที่จะต้องเข้ามาแทนตำรวจที่ถูกย้ายออกไปนั้นต้องเป็นตำรวจที่พร้อมจะสู้กับระบอบทักษิณ ที่เห็นด้วยกับอุดมการณ์ ของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เขาต้องร่วมอุดมการณ์ด้วย ว่าเขาไม่เห็นด้วย และเห็นด้วยกับการที่คณะนี้มารัฐประหาร เพราะฉะนั้นเขาต้องทำทุกอย่างเพื่อล้างระบอบทักษิณออกไป ไม่ใช่ตำรวจที่เข้ามาเพื่อเอาตำแหน่งที่มีผลประโยชน์ ซึ่งปัจจุบันมีคนพร้อมจะวิ่งเต้นมาเป็นผู้บังคับการกองปราบ ซึ่งเป็นนายตำรวจที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ที่สุดในประวัติศาสตร์กรมตำรวจ ในเรื่องรีดไถใครๆ ก็รู้ นี่ผมยกตัวอย่างให้คุณโกวิททราบ ทำไมพวกเราสู้กันมาแล้วทำไมจบลงด้วยการไล่โจรคนหนึ่งไปแล้วเอาของชิ้นนี้มาให้โจรอีกคนหยิบไป ทำไมถึงเป็นความโชคร้ายของประชาชน ประชาชนคนไทยไม่มีที่พึ่งแล้วหรือเราหลงดีใจเพียงไม่กี่วัน พอเราเริ่มเห็นเหตุการณ์บางเหตุการณ์เราเริ่มกังวล
พ่อแม่พี่น้องครับ 4 ข้อที่คณะยึดอำนาจอ้างในการยึดอำนาจ ข้อแรกคือว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้บ้านเมืองแตกแยก ข้อที่ 2 มีการคอร์รัปชั่นอย่างมหาศาล ข้อที่ 3 มีการแทรกแซงองค์กรอิสระ ข้อที่ 4 หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ข้อแรก บ้านเมืองแตกแยก เราไม่เคยทำให้บ้านเมืองแตกแยก เพราะประชาชนที่มาร่วมกับเรา เราไม่เคยเอาเงินไปจ่ายเขา พ่อแม่พี่น้องที่มาร่วมกับเรามาร่วมด้วยใจ หมอ พยาบาล อาจารย์ ข้าราชการ นักธุรกิจ ประชาชนที่ทำมาหากินโดยสุจริต ไม่ได้มาเปล่าขนอาหาร เอาเงินเอาทองมาให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เอเอสทีวีลำบาก พ่อแม่พี่น้องที่นั่งอยู่ในห้องส่งนี้หลายคนเอาเงินเอาทองมาซื้อหุ้น วันนี้มีพ่อแม่พี่น้องคนหนึ่งจากเพชรบุรี เอาเงินส่วนตัวของตัวเอง 1 ล้านบาทมาซื้อหุ้นเอเอสทีวี หลายคนในนี้ช่วยหลายแสน ช่วยเป็นล้านแล้วก็มี ไม่ได้ไปบีบบังคับเขา เขามาด้วยใจ เพราะเขามีอุดมการณ์ร่วมกัน เพราะฉะนั้นนี่คือจิตที่บริสุทธิ์ในการรักชาติรักแผ่นดิน พ่อแม่พี่น้องที่อยู่อเมริกาโอนเงินมาทุกวัน คุณสนธิสู้ๆ นะอย่าถอย อย่ายอมนะ คนไทยในอเมริกา สู้ ทำไมคนในอเมริกาที่อยู่ลอสแองเจลิส ที่อยู่วอชิงตันดี.ซี. เสียค่าตั๋วเครื่องบินบินไปนิวยอร์ก 300-400 คนไปประท้วงคุณทักษิณ เขาทำมาหากินอยู่เขาลางาน เขาบินไปเลย เพราะเขารักชาติรักบ้านรักเมือง แต่มามองดูฝั่งตรงกันข้าม พอนายธีรชัย แสนแก้ว บอกว่าผมจะเอามาให้ครบแสนคน ก็ต้องเอาแสนคูณ 200 บาทเข้าไป นั่นคือ 20 ล้านที่ต้องไปจ่าย ยังไม่นับรถที่ต้องเหมาเข้ามาอีก ถ้าจาก อ.บ้านดุง มาที่อุดรธานีก็ง่ายหน่อย ถูกหน่อย แต่ถ้ามาจากที่ต่างๆ มากรุงเทพมหานคร เหมือนคราวที่แล้วที่คุณทักษิณ และนายเนวิน ชิดชอย ตลอดจนนายยงยุทธ ติยะไพรัช และ ส.ส.อีกหลายคน เอาชาวบ้านลงมาอยู่ที่สนามหลวงแสนกว่าคน งานนั้นหมดไป 200 กว่าล้านบาท จ่ายต่อหัว ลงมายังต้องหาข้าวให้กิน จัดรถให้กลับ ไม่เหมือนพ่อแม่พี่น้องที่อยู่กับผม ที่เขามาเขาเอง เขาหาข้าวเขามาไม่ใช่ผมต้องไปกาข้าวให้เขา เขาหาข้าวมาแล้วเขาบอกว่า พอไหมเดี๋ยวส่งมาให้อีก
วันนี้พ่อแม่พี่น้องทหารหาญที่มารักษาการณ์ที่กรุงเทพฯ ข้าวปลาที่พ่อแม่พี่น้องกินกันที่เมืองทองธานี มาจากประชาชนฝ่ายเราทั้งนั้น ไม่ได้มาจากประชาชนฝ่ายคุณทักษิณ ชินวัตร เลยแม้แต่นิดเดียว ทหารหาญที่หิวข้าว ที่มีข้าวกิน พวกเราทั้งนั้นเอาไปให้กิน น้ำใจพวกเรา ทำเพราะว่าเรารักชาติ รักแผ่นดิน เพราะฉะนั้นแล้วไม่ใช่เราเป็นคนที่ทำแผ่นดินให้แตกแยก เมื่อคุณบอกว่าไม่อยากให้เราชุมนุม เราก็หยุดชุมนุม เมื่อคุณมีประกาศกฎอัยการศึก ผมเดิมทีจะจัดเมืองไทยรายสัปดาห์ที่สวนลุมฯ ผมอุตส่าทำจดหมายขออนุญาตไปที่ท่านผู้บัญชาการทหารบก ผมยกเลิกจดหมายนั้น ผมบอกไม่เอา ผมยึดถือกติกาเหมือนเดิม ไม่อยากให้เป็นเยี่ยงอย่างว่าผมได้อภิสิทธิ์ใดๆ ทั้งสิ้น แล้วผมมาออกอากาศที่นี่ ผมก็หยุด แต่จู่ๆ วันนี้วิทยุชุมชนที่อุดรธานีระดมคนบอกว่า เดี๋ยวจะเอาคนล้านหนึ่งเข้ากรุงเทพฯ นี่มันอะไรกันครับ ใครทำให้บ้านเมืองแตกแยก คอร์รัปชั่น คอร์รัปชั่น เรารู้อยู่แล้วว่ามีการคอร์รัปชั่น ท่านก็อาจบอกผมว่า เอ้าผมตั้ง ป.ป.ช.ให้คุณแล้ว เดี๋ยว ป.ป.ช.จะเริ่มดำเนินการ แต่ก่อนตั้ง ป.ป.ช.ประชาชนตั้งข้อสงสัย ผมเองก็ตั้งข้อสงสัย ทำไมท่านไม่อายัดทรัพย์เอาไว้ก่อนล่ะ ผมไม่ได้ให้ท่านยึดทรัพย์ ท่านเอามาสิชื่อรัฐมนตรีทุกคน ที่อยู่ในรัฐบาลชุดทักษิณ ตั้งแต่ปี 2544 จนปัจจุบัน ท่านเลือกได้นี่ ท่านจะเอาคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ท่านจะเอานายทนง พิทยะ ท่านจะเอานายเนวิน ชิดชอบ ท่านจะเอานายยงยุทธ ติยะไพรัช นายสมศักดิ์ เสี่ยเพ้ง หรือนายหมอเลี้ยบได้ทั้งนั้น
การสงสัยเอาไว้ไม่ผิด ท่านบอกว่าเดียวก่อนนะผมไม่ได้ยึดทรัพย์คุณนะ ผมตั้งคณะกรรมการมาพิจารณา เมื่อเห็นว่าคุณมีเรื่องน่าสงสัยผมประกาศยึดทรัพย์คุณก่อน แต่ว่าผมไม่ยึดคุณ ผมประกาศอายัดทรัพย์คุณภาษาอังกฤษเขาเรียก frozen assets เอามาแช่แข็งซะ ทรัพย์ยังเป็นของคุณอยู่ แล้วผมตั้งคณะกรรมการมาพิจารณาแล้วส่งเรื่องคุณเข้าไปสู่ศาลฎีกาแผนกนักการเมือง ให้พวกคุณพิสูจน์ว่าทรัพย์ที่คุณมีอยู่ในขณะนี้เนี้ยะ ที่ส่งมาศาลฎีกา คุณได้แต่ใดมา รถยนต์คุณมี 22 คัน คุณซื้อด้วยอะไร แล้วเงินที่คุณซื้อมาจากไหน จู่ๆ คุณมีรายงานว่าภรรยาคุณ ลูกคุณ มีที่ดินเพิ่มขึ้นอีก 4,500 ไร่ ระหว่างที่คุณเป็นรัฐมนตรี ก็อยากจะถามว่าคุณเอาเงินที่ไหนมาซื้อที่ดินตรงนี้ คุณไปพิสูจน์กับศาลเขา ถ้าคุณพิสูจน์ได้ ศาลท่านก็จะคืนทรัพย์ให้คุณ คุณก็เอาทรัพย์นั้นไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แต่ถ้าคุณพิสูจน์ไม่ได้ทรัพย์นั้นต้องตกเป็นของแผ่นดิน นอกจากเป็นของแผ่นดิรแล้วยังต้องดำเนินคดีอาญากับคุณต่อ ว่ามีเหตุเชื่อได้ว่าทรัพย์ที่คุณไม่สามรถพิสูจน์ได้นั้นมาจากการฉ้อราษฎร์บังหลวง ผมคิดว่ายุติธรรม แต่ผมทราบว่าภายในคณะที่ทำงานมีคนพยายามไม่ให้มีการยึดทรัพย์ คุณมีชัย เคยเสนอในที่ประชุมบอกว่าต้องสอบสวนก่อนว่ามีมูลหรือไม่ แล้วถึงจะอายัดทรัพย์ผมก็อยากจะถามคุณมีชัยต่อ ว่าถ้าอย่างนั้นคุณจะรอให้โจรเอามันของไปซ่อนก่อยหรือแล้วคุณค่อยจับโจร ก็ในเมื่อของอยู่ตรงนี้ และไม่รู้ว่าของใคร เราก็เอาของมาไว้ก่อน แล้วมาวางให้ตำรวจแล้วบอกว่าของชิ้นนี้ใครเป็นเจ้าของมาแสดงตัวหน่อย แต่คุณมีชัย บอกว่าต้องพิสูจน์ว่าของนี้ถูกขโมยจริงหรือเปล่า กว่าจะพิสูจน์ได้ทรัพย์มันหายไปหมดแล้ว ตรงนี้คือ ข้อผิดพลาดในการทำงาน
ระหว่างการอายัดทรัพย์กับยึดทรัพย์ไม่เหมือนกัน สมัย รสช.นั้น คือการยึดทรัพย์ โดยที่ไม่ให้เขาได้พิสูจน์ใดๆ ทั้งสิ้น จู่ก็เดินเข้าไปแล้วบอกว่ายึดทรัพย์คนโน้น ยึดทรัพย์คนนี้ตกเป็นของรัฐ นั้นคือที่มาของการฟ้องร้องศาลฏีกา แต่เราไม่ทำเช่นนั้นเราส่งไปให้ศาลฎีกาแผนกนักการเมืองพิสูจน์ทันที นายเนวิน มีหน้าที่ขึ้นไปแล้วพิสูจน์ว่าโฉนดที่ดินที่ได้มาที่สตึก โฉนดที่ดินที่บุรีรัมย์นั้นไม่ได้รุกที่ทางรถไฟ ไม่ได้รุกที่หลวง แต่อีกฝ่ายหนึ่งบอกว่ารุกที่หลวสงก็พิสูจน์กันสินี้คือการใช้กฎหมายที่แท้จริงมาแก้
ส่วน ป.ป.ช.จะตั้งที่หลังก็ตังไป เพราะเรื่องที่ ป.ป.ช.มี 6,000 กว่าเรื่อง หลายเรื่องสามารถส่งให้ ป.ป.ช.พิจารณาได้ แต่ ณ ปัจจุบันต้องอายัดทรัพย์นักการเมืองในระบอบทักษิณเสียก่อน และนั้นคือสิ่งที่ประชาชนต้องการ เพราะประชาชนต้องการความชัดเจนว่าแล้วมันคอร์รัปชั่นจริงกันหรือเปล่า เพราะเราพูดไปบอกว่าเราเข้ามายึดอำนาจเพราะเขาคอร์รัปชั่น ใช่ไม่ใช่ครับท่านผู้บัญชาการทหารบก เราต้องกล้าตัดสินใจตรงนี้
แทรกแซงองค์กรอิสระ ท่านบอกว่าข้อหาหนึ่งของการเข้ามา คือ กาารแทรกแซงองค์กรอิสระ ท่านก็ทำเรียบร้อยแล้ว ท่านก็ยุบไม่เป็นไร
หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หมิ่นอะไรต้องเอาให้ชัด คำพูดอะไรบ้างที่หมิ่นต้องเอาออกมา และถ้าคณะรัฐประหารยึดอำนาจบอกว่าเหตุผลที่เข้ามารัฐประหาร หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เพราะพวกนี้หมิ่นพระบรมเดชานุภาพแสดงว่า พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ไม่ได้ทำงานใช่ไม่ใช่ เห็นหรือยังคุณกำลังตบหน้าตัวคุณเองนะ ถ้าคุณเข้ามายึดอำนาจโดยพื้นฐานที่คุณบอกว่า นายทักษิณ ชินวัตร หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ละเมิดพระมหากษัตริย์ คำถามถามต่อว่า คนที่นั่งข้างๆ คุณ ยศ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ทำไมไม่ดำเนินการมาตั้งแต่ต้น แล้วทำไมมาดำเนินการกับนายสนธิ ลิ้มทองกุลแต่เพียงผู้เดียว ผู้ซึ่งแสดงความจงรักภักดีโดยการสู้ให้กับในหลวงมาตั้งแต่ต้น คุณตอบผมหน่อยซิ ใช่ไม่ใช่ คุณโกวิท วัฒนะ คุณตอบผมหน่อยได้ไหม ล่าสุดตำรวจยโสธรทำคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่จะดำเนินคดีผม พ่อแม่พี่น้องจำได้ใช่ไหมปีที่แล้วที่เขาจะออกหมายจับแล้วศาลยโสธรไม่ออก จำได้ไหม แล้วเรื่องนี้เมื่อศาลยโสธรไม่ให้ออก แล้วมีคำสั่งไม่ออกหมายจับ แล้วในคำสั่งระบุชัดเลยว่า สิ่งซึ่งตำรวจกล่าวหาผมนั้นไม่ได้หมิ่นอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว เหมือนกับอ่านคำพิพากษาแล้ว จำได้ไหมพ่อแม่พี่น้องที่ผมต้องหนีไปอยู่ที่วัดป่าบ้านตาด แล้วออกอากาศ ปรากฏว่า ตำรวจยโสธรทำเรื่องสั่งไม่ฟ้องผม แต่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พล.ต.ท.สถาพร ซึ่งเป็นนายตำรวจรุ่น 28 เป็นเด็กของคุณพจมาน ชินวัตร ซึ่งคุณพจมานส่งมา ซึ่งอยู่ในระบอบทักษิณ กลับบอกว่าไม่ได้ มันไม่หมิ่นไม่ได้ ต้องสั่งว่าหมิ่นแล้วส่งเข้ามา ตอนนี้เรื่องผมอยู่ที่กรมตำรวจ เปรียบเทียบดูระหว่างผมกับคุณทักษิณ ชินวัตร ที่คณะปฏิรูปการปกครองฯ เข้ามายึดอำนาจ ว่าข้อที่ 4 คือ หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แต่ตำรวจไม่ได้ทำอะไรเลยแล้วยังมีหน้าเอา พล.ต.อ.โกวิท มานั่งข้างๆ อีก ใช้ได้ที่ไหน ความรู้สึกประชาชน ความรู้สึกผมไม่เป็นไรหรอกผมตายด้านไปแล้ว แต่ความรู้สึกประชาชนที่เขาร่วมสู้กัน เขาสู้ให้พวกคุณเขาจะรู้สึกอย่างไรบ้าง ผมจะบอกอะไรให้รู้อย่าง ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย มี 2 คน ไปทำพิธีในอุโบสภวัดพระศรีรัตนศาสดาราม แล้วมีอันเป็นไปต้องระเห็ดออกจากประเทศ อยู่ต่างประเทศจนตาย คนแรกคือ จอมพล ป.พิบูลย์สงคราม คนที่สองคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในประวัติศาสตร์ชาติไทยมีแค่ 2 อดีตนายกฯ ที่บังอาจไปทำพิธีในอุโบสถวัดพระแก้วโดยเป็นประธานในพิธี แล้วไม่ใช่นายวิษณุ เครืองาม นี่หรือที่มาหาข้ออ้าง ความชอบธรรมในการที่นายทักษิณ เข้าไปประกอบพิธีในอุโบสถในวัดพระแก้ว และไม่ใช่นายวิษณุคนนี้หรือ ที่ลาออกไป แล้วไม่ใช่นายวิษณุคนนี้หรือที่กลับเข้ามาอีกแล้ว นี่เราเล่นขายขนมครกกันหรือไม่ใช่ มันไม่ใช่เรื่องตลก เพราะฉะนั้นแล้ว 4 ข้อที่ท่านพูด เป็น 4 ข้อที่สำคัญมาก เพราะฉะนั้นแล้วเมื่อเป็น 4 ข้อที่สำคัญ เหมือนผมไปทะเลาะกับใครแล้วผมเอาไม้หน้าสามไปตีหัวเขา ที่บ้านผมถาม คุณไปตีศีรษะเขาทำไม ข้อที่ 1 มันด่าแม่ผม ข้อที่ 2 ข้อที่ 3 ข้อที่ 4 จบ ผมไล่ออกจากบ้านแต่ผมไม่ทำอะไร ผมไม่ไปอธิบายให้คนรู้เพราะชาวบ้านรอบหมู่บ้านถามบอก สนธิจับไอ้หมอนี่ไปตีหัวเพราะอะไร ผมไม่พูด ผมไม่พูดเพราะผมไม่เคยอนุญาต หรือสั่งให้คนในบ้านผมไปบอกหน่อย คนในบ้านผมคือใคร 3 5 7 9 11 ไอทีวี ทุกคนปิดปากเงียบหมด พ่อแม่พี่น้อง วันนี้นายทักษิณพักอยู่ที่โรงแรมดอว์เชสเตอร์ ที่อังกฤษ โรงแรมนี้เป็นของสุลต่านบรูไน เขามีอพาร์ทเมนท์อยู่แล้ว ทำไมเขาไม่ไปพัก อพาร์ทเมนท์เขาซื้อมา 7-8 ร้อยล้านบาท เขาไม่ไปพักเพราะเขาไม่อยากให้คนรู้ว่าเขาพักที่ไหน เขาถึงมาอยู่โรงแรม วันนี้สื่อมวลชนไทยขอวีซ่าจะไปอังกฤษกันเป็นแถว สื่อมวลชนฝรั่งเดินสัมภาษณ์นายทักษิณ ข่าวนายทักษิณเดินจูงมือลูกออกจากช็อปปิ้ง ปรากฏในโทรทัศน์เมืองไทยทุกช่องตลอดเวลา ปรากฏว่านายทักษิณมีข่าวออกทุกวี่ทุกวัน ลิ่วล้อทักษิณที่อยู่อุดรธานี ลิ่วล้อทักษิณที่อยู่เชียงราย ลิ่วล้อทักษิณที่อยู่ต่างๆ บอกนี่ไง เขาต้องกลับมา ถ้าไม่กลับมาเขาจะออกทีวีได้อย่างไร เห็นหรือเปล่าเขาเดินช็อปปิ้งอยู่แถวๆ ถนนพาร์คเลน ฝีมือใคร ฝีมือ 3 5 7 9 11 ไอทีวี ใช่ไหม นอกจากนั้นแล้วนายทักษิณยังทะลึ่งบอกว่า อยากให้สหประชาชาติเข้ามาควบคุมดูแลการเลือกตั้ง ทำไมเขาถึงพูดคำพูดนี้ ที่เขาพูดนี้เพราะเขากำลังจะสร้างภาพให้เห็นว่า เมืองไทยคือ ติมอร์ มีความแตกแยกดัน สมัยก่อนติมอร์เป็นอีสติมอร์กับเวสต์ติมอร์ มันทะเละกันระหว่างทหารอินโดนีเซียกับพวกติมอร์ สหประชาชาติเลยต้องส่งทหารเข้าไป เขากำลังบอกว่า เขามีอยู่ 19 ล้านเสียง 16 ล้านเสียงประชาชนเขา แล้วทหารมายึดอำนาจเขาไป เพราะฉะนั้นแล้วไม่ยุติธรรม เขาต้องการมีการเลือกตั้ง ถ้าคุณคิดว่าเลือกตั้งไม่แฟร์ให้ส่งสหประชาชาติมาคุม คุณปล่อยให้ทักษิณมา ขอประทานโทษ ปากเสียพูดอย่างนี้ทุกวันได้อย่างไร แล้วต้องต้องเหนื่อยในการเดินทางไปแก้ต่างให้พวกคุณตลอดเวลา พวกคุณสนุกนักหรือ คุณสนุกนักหรือที่เอาชีวิตมาเสี่ยงยึดอำนาจเพื่อพัฒนาประชาธิปไตย แต่โดนระบอบทักษิณ โดนนายทักษิณส่งข่าวมาทุกวันผ่านโทรทัศน์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ แม้กระทั่งโทรทัศน์บางช่อง ไอทีวียังเรียกว่า ท่านนายกฯ ทักษิณ จะบ้าหรือเปล่า ผมว่าบ้าไปหมดแล้ว ผมรับไม่ได้จริงๆ นายกิตติ สิงหาปัด ใช้ไม่ได้จริงๆ คนๆ นี้ นี่ยกตัวอย่างให้ฟัง มาท่านนายกฯ ทักษิณได้อย่างไร เครือข่ายผมที่อยู่ในวงการสื่อมวลชน ตั้งแต่วันที่เขาเป็นรักษาการ ทุกคนจะพูดว่า รักษาการนายกฯ ทักษิณ รักษาการรัฐมนตรี วันนี้เราเรียกอดีตนายกฯ หรือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เห็นหรือยัง ต้องรู้ว่าเครือข่ายทักษิณมีมาก เขารู้จักสื่อมวลชนหลายๆ เจ้า เขามีอันโน้นอันนี้ เพราะฉะนั้นเครือข่ายทักษิณพร้อมกลับมาทุกเมื่อ คุณยังสนุกสนานเอะอะเฮฮากับเรื่องราวพวกนี้ ขอเชิญคุณสนุกสนานตามสบาย
เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ครบรอบ 1 ปี - เบรก 3
