“แอ้ม สโรชา” เปิดใจ 1 ปี ร่วมดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร โดยระบุไม่เสียใจที่เลือกเส้นทางต่อสู้เคียงข้าง “สนธิ” แม้ชีวิตปัจจุบันจะถูกคุกคามอย่างหนักก็ตาม พร้อมขอบคุณประชาชนและแฟนรายการ รวมทั้งกลุ่มคน “ไม่เอาทักษิณ” ที่ยืนหยัดเป็นกำลังใจให้ “พันธมิตรฯ-สนธิ-เอเอสทีวี”
วันนี้ (15 ก.ย.) เมื่อเวลา 21.00 น. น.ส.สโรชา พรอุดมศักดิ์ ผู้ดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ เปิดใจครั้งแรกหลังครบรอบ 1 ปีของรายการ ครั้งแรกที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ชวนมาทำรายการนี้พูดกับแอ้ม ว่า “ผมจะให้โอกาสเขา จะยังไม่วิพากษ์อะไรตอนนี้” แต่หลังจากนั้น ปีกว่าๆ ก็พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงทั้งสิ่งที่พูดและวิธีการที่พูดของคุณสนธิ ช่วงหลังดูจะหงุดหงิดมาก จนในที่สุดก็มีจุดเปลี่ยนทำนองที่ว่า “กูจะไม่ทนอีกต่อไป” ทำนองนั้น แล้วเราก็มีพัฒนาการ ซึ่งแอ้มมองความเปลี่ยนแปลงนั้นแบบตกใจจนถึงวันที่โดนถอดรายการก็ยังตกใจ
น.ส.สโรชา กล่าวต่อว่า แต่ที่แน่ๆ ก้าวมาตรงนี้ด้วยความรู้สึกว่าภาคภูมิใจ ความยิ่งใหญ่ตอนแรกที่เห็นผู้คนทั้งแฟนรายการ และคนที่ไม่เห็นด้วยกับคุณทักษิณ คือ วันที่เราไปถวายดอกไม้และสักการะอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 นั่นคือ ครั้งแรกที่แอ้มเห็นถึงความยิ่งใหญ่ว่า เรากำลังทำอะไร เมื่อได้ฟังคุณสนธิมากขึ้น ความรู้สึกแอ้มคงจะตรงกับหลายๆ ท่าน ว่า มันโดนใจตรงใจ การที่จะก้าวมาถึงจุดนี้คุณสนธิก็คงจะทำคนเดียวไม่ได้ ถ้าไม่มีพี่น้องให้กำลังใจและกำลังทรัพย์ แอ้มเป็นพนักงานคนหนึ่งของเอเอสทีวี อยากจะกราบขอบพระคุณอย่างสุดซึ้งกับทุกท่าน
“หากใครถามว่า ถ้าย้อนกลับไปอีก 1 ปี แล้วแอ้มจะต้องผ่านอะไรบ้าง จะถูกฟ้องนับพันล้านจากคุณทักษิณและญาติพี่น้อง มีคนโทรไปที่บ้าน มีรถตู้ไปจอดเฝ้าอะไรก็แล้วแต่ แอ้มยังยืนยันว่าไม่เสียใจเลยที่จะตัดสินใจยืนเคียงข้างคุณสนธิในเวลานั้น และยืนยันว่า จะยืนอยู่จนถึงที่สุด และเชื่อว่า พี่น้องจะยืนข้างพวกเราถึงที่สุดนะคะ” น.ส.สโรชา กล่าวทิ้งท้าย
วันนี้ (15 ก.ย.) เมื่อเวลา 21.00 น. น.ส.สโรชา พรอุดมศักดิ์ ผู้ดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ เปิดใจครั้งแรกหลังครบรอบ 1 ปีของรายการ ครั้งแรกที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ชวนมาทำรายการนี้พูดกับแอ้ม ว่า “ผมจะให้โอกาสเขา จะยังไม่วิพากษ์อะไรตอนนี้” แต่หลังจากนั้น ปีกว่าๆ ก็พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงทั้งสิ่งที่พูดและวิธีการที่พูดของคุณสนธิ ช่วงหลังดูจะหงุดหงิดมาก จนในที่สุดก็มีจุดเปลี่ยนทำนองที่ว่า “กูจะไม่ทนอีกต่อไป” ทำนองนั้น แล้วเราก็มีพัฒนาการ ซึ่งแอ้มมองความเปลี่ยนแปลงนั้นแบบตกใจจนถึงวันที่โดนถอดรายการก็ยังตกใจ
น.ส.สโรชา กล่าวต่อว่า แต่ที่แน่ๆ ก้าวมาตรงนี้ด้วยความรู้สึกว่าภาคภูมิใจ ความยิ่งใหญ่ตอนแรกที่เห็นผู้คนทั้งแฟนรายการ และคนที่ไม่เห็นด้วยกับคุณทักษิณ คือ วันที่เราไปถวายดอกไม้และสักการะอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 นั่นคือ ครั้งแรกที่แอ้มเห็นถึงความยิ่งใหญ่ว่า เรากำลังทำอะไร เมื่อได้ฟังคุณสนธิมากขึ้น ความรู้สึกแอ้มคงจะตรงกับหลายๆ ท่าน ว่า มันโดนใจตรงใจ การที่จะก้าวมาถึงจุดนี้คุณสนธิก็คงจะทำคนเดียวไม่ได้ ถ้าไม่มีพี่น้องให้กำลังใจและกำลังทรัพย์ แอ้มเป็นพนักงานคนหนึ่งของเอเอสทีวี อยากจะกราบขอบพระคุณอย่างสุดซึ้งกับทุกท่าน
“หากใครถามว่า ถ้าย้อนกลับไปอีก 1 ปี แล้วแอ้มจะต้องผ่านอะไรบ้าง จะถูกฟ้องนับพันล้านจากคุณทักษิณและญาติพี่น้อง มีคนโทรไปที่บ้าน มีรถตู้ไปจอดเฝ้าอะไรก็แล้วแต่ แอ้มยังยืนยันว่าไม่เสียใจเลยที่จะตัดสินใจยืนเคียงข้างคุณสนธิในเวลานั้น และยืนยันว่า จะยืนอยู่จนถึงที่สุด และเชื่อว่า พี่น้องจะยืนข้างพวกเราถึงที่สุดนะคะ” น.ส.สโรชา กล่าวทิ้งท้าย