“สนธิ” แฉเกมคาร์บ๊อง - “แม้ว” สั่งจับเสร็จเผ่นไปนอกหยั่งเชิงทหาร

“สนธิ” แฉอันตราย กลุ่มสหายเก่า ใน ทรท.เจ็บแค้นจากอดีตที่ปฏิวัติไม่สำเร็จ ยังคิดล้มล้างสถาบัน ระบุแผน “คาร์บ๊อง” เตรียมไว้ใช้ตอนเลือกตั้ง หวังโกยคะแนนสงสารจากรากหญ้าถึง 21 ล้านเสียง แต่พลาดปล่อยลิ่วล้อกระทืบคนแก่ คะแนนตกฮวบ ต้องงัดมาใช้ก่อนกำหนด จนถูกจับเท็จ ต้องปั้นพยานยศแค่จ่า ซัดทอดมั่วไปหมด เผยจับผู้ต้องหาเสร็จแล้วเผ่นไปนอก เหมือนเล่นไพ่ 2 ใบ หยั่งเชิงทหาร หากยังนิ่งจะกลับมาอาละวาดหนักแน่ แต่ถ้า 3 เหล่าทัพตบเท้า ก็จะขอลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ

คลิกที่นี่เพื่อชมวิดีโอคลิป รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ คอนเสิร์ตการเมือง ช่วงที่ 2(56k) | (256K)

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง เมืองไทยรายสัปดาห์ คอนเสิร์ตการเมือง ครั้งที่ 15 ช่วงที่ 1 โดย สนธิ ลิ้มทองกุล

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง เมืองไทยรายสัปดาห์ คอนเสิร์ตการเมือง ครั้งที่ 15 ช่วงที่ 2 โดย สนธิ ลิ้มทองกุล


ในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ คอนเสิร์ตการเมืองครั้งที่ 15 ที่เวทีลีลาศ สวนลุมพินี เย็นวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้กล่าวถึงอันตรายใหญ่หลวงของระบอบทักษิณ ที่มีต่อสถาบันหลักของชาติ เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รวมเอาอดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) เข้าไปทำงานด้วยจำนวนมาก ซึ่งคนพวกนี้ส่วนใหญ่เป็นพวกที่เลื่อมใสในแนวทางของพรรคคอมมิวนิสต์จีน แต่อกหักอย่างมาก เพราะปฏิวัติล้มล้างระบอบเดิมไม่สำเร็จ เพราะพรรคคอมมิวนิสต์จีนเลิกให้ความช่วยเหลือ หลังจากรัฐบาลไทยเปิดสัมพันธ์กับจีน

ทั้งนี้ นายสนธิ อธิบายว่า กลุ่มฝ่ายซ้ายไทยที่เคยเข้าป่าร่วมต่อสู้กับ พคท.นั้น มีอยู่ 3 กลุ่ม คือกลุ่มที่เลื่อมใสแนวทางพรรคคอมมิวนิสต์จีน กลุ่มที่เลื่อมใสแนวทางรัสเซีย-เวียดนาม และกลุ่มที่เชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่าแนวทางคอมมิวนิสต์ จะแก้ปัญหาสังคมไทยได้ ซึ่ง 2 กลุ่มหลังยอมวางอาวุธและออกมาใช้ชีวิตปกติ หลังจากนโยบาย 66/23 ในสมัยรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ขณะที่กลุ่มแรกนั้นยังรู้สึกเหมือนถูกหักหลัง และยังเจ็บแค้นอยู่ลึกๆ เมื่อออกมาจากป่าก็ยังพยายามต่อสู้ในอีกรูปแบบหนึ่ง โดยกระจายอยู่ตามพรรคการเมืองต่างๆ บ้าง ประกอบธุรกิจบ้าง

เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ลงเล่นการเมืองก็ดึงพวกนี้มาช่วย เพราะต่างมีประโยชน์ตอบแทน คือ พวกสหายเก่าต้องการเข้าสู่อำนาจ ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการกอบโกย โดยให้คนพวกนี้มาช่วยงานด้านมวลชน บริษัทชินฯจึงเป็นที่รวมของสหายเก่ามากมาย บางคนมีตำแหน่งใหญ่โต มีเงินมีทองใช้

นายสนธิ กล่าวต่อว่า เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ มีเป้าหมายจะเป็นนายกรัฐมนตรี สหายเก่าพวกนี้ก็บอกให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ยึดมวลชน รวมศูนย์อำนาจ และแปรรูปรัฐวิสาหกิจ เพื่อเร่งให้สังคมวิวัฒนาการไปสู่จุดสุดท้าย คือ สังคมคอมมิวนิสต์ ตามทฤษฎีของ คาร์ล มาร์กซ์ ที่พวกสหายเก่ายังหลงเชื่อกันอยู่ ถึงขั้นบอกว่าทุนสามานย์ยังดีกว่าศักดินาล้าหลัง ความคิดนี้ยังฝังหัวไปถึงอาจารย์มหาวิทยาลัยบางคน รวมถึงคนที่จบดอกเตอร์จากเมืองนอก

นายสนธิ กล่าวต่อว่า เมื่อมีคนพูดเช่นนั้น ก็มีฝ่ายซ้ายที่เคยเข้าป่าอีกจำนวนหนึ่งที่เห็นว่า คิดอย่างนั้นไม่ถูก เพราะกษัตริย์ไทยไม่เหมือนกษัตริย์ประเทศอื่น ไม่ใช่พระเจ้าชาร์ที่ถูกพรรคบอลเชวิกปฏิวัติ ไม่ใช่กษัตริย์อังกฤษที่เอาแต่หาความสำราญ แต่กษัตริย์ไทยลงไปหาชาวไร่ชาวนา ไปช่วยคนจน ให้กินดีอยู่ดี ตามที่ทรงมีพระราชดำรัสว่าจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพราะฉะนั้นศักดินาไทยไม่ล้าหลัง

“ฝ่ายซ้ายพวกนี้ก็ถอยตัวออกมา เพราะพวกเขาเทิดทูนกษัตริย์ ขณะเดียวกัน ก็อยากให้ประชาชนมีสิทธิมีส่วนในการปกครองมากกว่านักการเมือง นักธุรกิจ ให้ประชาชนมีส่วนร่างรัฐธรรมนูญกำหนดกติกา เป็นพวกเห็นความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์”

นายสนธิ กล่าวต่อว่า ขณะที่ฝ่ายซ้ายที่อยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อได้อำนาจก็ไปประชุมจึงเป็นที่มาของสิ่งที่เรียกว่าปฏิญญาฟินแลนด์ ที่ต้องการให้สถาบันกษัตริย์เป็นเพียงสัญลักษณ์ และมีการจัดตั้งกองกำลังมวลชน อย่างเช่น การเกณฑ์คนให้ได้เขตละ 3,000 คน ก็ใช้วิธีการแบบคอมมิวนิสต์เป็นหลัก คนพวกนี้ จะออกมาด่าคนที่มาสู้ร่วมกับพันธมิตร ด่าคนที่ต่อสู้ร่วมกับประชาชน

ฝ่ายซ้ายพวกนี้ ถึงกับประชุมกดดันให้ นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข ให้ถอนตัวออกจากพันธมิตรฯ ให้เหลือแต่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายสนธิ ลิ้มทองกุล เพราะคนพวกนี้ไม่เอาสถาบันกษัตริย์ และเป็นพวกอกหักจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนมาอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ

**แฉ “คาร์บ๊อง” เตรียมใช้ตอนเลือกตั้ง

นายสนธิ ได้กล่าวถึงกรณีคาร์บอมบ์ ว่า เป็นการสร้างฉากแสดงละครเหมือนกับนายเฉิน สุ่ย เปียน ประธานาธิบดีไต้หวัน ที่จัดฉากยิงตัวเองเพื่อให้ได้คะแนนเสียงจนชนะเลือกตั้ง ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เตรียมจัดฉากคาร์บอมบ์เอาไว้ใช้ตอนเลือกตั้ง เพื่อเรียกคะแนนสงสารจากรากหญ้า โดยหวังจะได้ถึง 21 ล้านเสียง เอาไปเป็นข้ออ้าง

“เขาเตรียมไว้ใช้ตอนเลือกตั้ง แต่ดันมาพลาด เพราะปล่อยให้มีการกระทืบคนแก่ที่เซ็นทรัลเวิลด์ จนคะแนนเสียงตกฮวบฮาบ สื่อมวลชนตีข่าวออกไปทั่ว แม้กระทั่งทีวี ก็เลยต้องสร้างเรื่องคาร์บ๊องให้เร็วขึ้น เมื่อเลื่อนขึ้นมาเร็วขึ้น ก็ถูกจับได้ ไม่รู้จะเอาโทษอะไรกับ ร.ท.ธวัชชัย ก็ไปจับคนโน้นคนนี้มา จ่ายักษ์ ก็ซัดถึงคนโน้นคนนี้ ให้โดนจับ นี่คือ วิธีตำรวจ ใช้พยานบุคคลกล่าวหา หลักฐานมีไม่มี ไม่สน ขอออกหมายจับให้เป็นข่าวไว้ก่อน”

นายสนธิ กล่าวต่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จำเป็นต้องจัดฉากคาร์บอมบ์ เพราะกลุ่มต่อต้านคนกลืนชาติมีเยอะแยะไปหมด ทหารก็ไม่เห็นด้วย การโยกย้ายทหารช่วงกลางปี ฐานกำลังของ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกย้ายออกไป จึงต้องการจะล้วงโผใหม่ เมื่อมีคาร์บอมบ์ ก็สามารถใช้เป็นข้ออ้างในการล้วงโผทหารได้ เพราะผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นทหาร นี่คือ เกมในการโยนความผิดไปให้ทหารทั้งหมด

เมื่อจับผู้ต้องหาได้ก็ให้ตำรวจมาทำคดี แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เดินทางไปต่างประเทศ เป็นการเล่นไพ่ 2 ใบ เพราะในระหว่างที่ไม่อยู่ ก็สั่งออกหมายจับให้หมด ให้เห็นว่า ทหารเป็นผู้บงการ เหมือนเอาเท้าลูบหน้าทหาร เพื่อดูว่าทหารจะทำอะไร ถ้าไม่ทำ เมื่อกลับมา ก็จะอาละวาดใหญ่ ถึงขั้นส่งตำรวจมาจับ นายสนธิ แต่ถ้ามีอุบัติเหตุ ผู้นำ 3 เหล่าทัพตบเท้าเข้าพบป๋าเปรม เพราะเห็นว่า ทำอย่างนี้เป็นการหมิ่นศักดิ์ศรีทหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะไม่กลับ อ้างว่าผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญจะล้มล้าง เหมือนที่เคยเขียนจดหมายไปฟ้องบุช และทำการขอลี้ภัย

“พ่อแม่พี่น้องครับ วันนี้เล่าเรื่องเบื้องหลังให้ฟังทั้งหมดแล้ว วันนี้พ่อแม่พี่น้องเข้าใจแล้ว เข้าใจหรือยังทำไมพวกลิ่วล้อถึงต้องเร่งให้มีการเลือกตั้ง เข้าใจหรือยังว่าคาร์บ๊องมันเกิดขึ้นได้ยังไง เข้าใจหรือยังว่า การที่จะปั้นพยานขึ้นมาคนหนึ่ง จ่าธรรมดาคนหนึ่ง โยนเงินให้สักก้อนหนึ่ง เดี๋ยวขี้คร้านมันจะปรักปรำ แม้กระทั่งพ่อมันแม่มัน มันยังปรักปรำเลย นับประสาอะไรกับ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี” นายสนธิ กล่าวในตอนท้าย