"สนธิ" เปรียบ"ระบอบทักษิณ"เป็นกุ๊ยปากซอยกำลังจนตรอกหลังจากถูกชาวบ้านที่เคยถูกข่มเหงลุกขึ้นสู้ ย้ำกกต.ชุดใหม่หากไม่สะสางขยะที่"3หนา"ทำเอาไว้และจัดการสอบสวนคดีที่"ทักษิณ"ทำผิดกฏหมายเลือกตั้งแล้วเร่งรัดให้เลือกตั้งในวันที่ 15 ต.ค.จะไม่ยอมอย่างเด็ดขาด
คลิกที่นี่เพื่อชมวิดีโอคลิป รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ คอนเสิร์ตการเมือง ช่วงที่ 2(56k) | (256K)
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง เมืองไทยรายสัปดาห์ คอนเสิร์ตการเมือง ครั้งที่ 15 ช่วงที่ 1 โดย สนธิ ลิ้มทองกุล
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง เมืองไทยรายสัปดาห์ คอนเสิร์ตการเมือง ครั้งที่ 15 ช่วงที่ 2 โดย สนธิ ลิ้มทองกุล
วันนี้(8 ก.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ คอนเสิร์ตการเมืองครั้งที่ 15 ที่เวทีลีลาศสวนลุมพินี ท่ามกลางประชาชนที่สนใจเข้าร่วมรับฟังอย่างคับคั่งเช่นเดิม โดยก่อนเริ่มรายการ นายสนธิ ได้ขอบคุณพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งในและต่างประเทศทั่วโลกที่ร่วมกันบริจาคช่วยเหลือเอเอสทีวี และร่วมกันต่อสู้ระบอบทักษิณ โดยกล่าวว่าน้ำใจดังกล่าวรู้สึกตื้นตันใจจนไม่อาจบรรยายได้
นายสนธิ กล่าวว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านได้มีผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ของไต้หวันมาสัมภาษณ์แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยรวมทั้งตนเองโดยเปรียบเหตุการณ์ต่อต้านผู้นำของไทยกับไต้หวันคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับ ประธานาธิบดีเฉินสุ่ยเปียนที่กำลังถูกขับไล่เช่นเดียวกัน โดยมีความคล้ายคลึงกันก็คือผู้นำในการขับไล่ก็เคยเป็นเพื่อนของผู้นำไต้หวันมาก่อนเช่นเดียวกัน แต่ทนเห็นการฉ้อฉลไม่ได้จึงต้องออกมาต่อต้าน
อย่างไรก็ตามนายเฉินสุ่ยเปียนเมื่อเปรียบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ถือว่ายังระดับอนุบาลมาก ขณะที่นายทักษิณเปรียบแล้วถือว่าระดับพญามาร เทียบกันไม่ได้
นายสนธิ ได้แสดงภาพแผนที่เขตแดนบริเวณอ่าวไทยที่ติดกับกัมพูชา ที่มีการลากเส้นเขตแดนและมีการชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยต้องเสียดินแดนบริเวณเกาะกูดไปเกือบครึ่ง เพื่อแลกกับการเข้าไปทำธุรกิจพลังงานในบริเวณเขตทับซ้อน แต่เรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นพวกลิ่วล้อของ นายทักษิณ ไม่เคยรับรู้เพราะไม่เคยมีการเปิดเผยให้ทราบ
นายสนธิ กล่าวว่า มีคนมาถามว่ามีความเห็นอย่างไรต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ชุดใหม่ ก็ได้ตอบว่า ต้องพิจารณาเหตุผลในการทำงานต้องโละขยะเก่าๆที่ "3 หนา" ได้ทำเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นกกต.ที่ยังเป็นเครือข่ายของอดีตกกต.หรือคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยทำผิดกฎหมายเลือกตั้งมากมาย ดังนั้นกกต.ชุดใหม่ต้องทำความสะอาดขยะเหล่านี้ออกไปให้หมดก่อน แล้วใช้เวลา 3 เดือน 6 เดือนหรือแม้แต่ 2 ปีก็ต้องยอม แต่ยอมไม่ได้คือถ้าจะให้มีการเลือกตั้งโดยที่ยังไม่ยอมสะสางปัญหาเก่า จะไม่ยอมเด็ดขาด
นายสนธิ ตั้งข้อสังเกตรัฐบาลแจกงบหาเสียงล่วงหน้า กรณีธนาคารออมสินได้ตัดหนี้เสียจำนวนกว่าพันล้านลบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้เสียของรากหญ้า ซึ่งกู้มาจากกองทุนหมู่บ้าน
"วันนี้นายทักษิณสับสน ใจหนึ่งอยากจะถอยแล้วหาตัวแทนขึ้นมาแทน แต่ก็ยังหาคนไม่ได้ดังใจ จะเอาสุดารัตน์ขึ้นมาคนก็ไม่ยอมรับ จะเอาสมคิดขึ้นมาก็กลัวถูกหักหลัง ทำให้เวลานี้จึงต้องอยู่ในฐานะของคนจิตวิปลาส ที่บอกว่าหลังเลือกตั้งแล้วจะหมดกรรม แต่จะบอกให้รู้ว่าต่อให้อีกสิบชาติก็ชดใช้ไม่หมด"
สองเดือนมานี้ได้มีการสั่งให้ซื้อจักรยานให้เด็กนักเรียน ให้ทุนเพิ่มอีก 20 เปอร์เซ็นต์ โดยใช้เงินหวยบนดินอีกกว่าพันล้านบาท ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ก.ย.นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยไปให้สัญญากับประชาชนที่จังหวัดขอนแก่นว่าจะเพิ่มงบประมาณในโครงการเอสเอ็มแอลจากสองแสนห้าเป็นสามแสน เป็นสี่แสนจนถึงห้าแสนบาท ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ทำทุกอย่างเพื่อหว่านเงิน
นายสนธิ กล่าวว่า เห็นด้วยกับการเลือกตั้งแบบวันแมนวันโหวต แต่ต้องมีเงื่อนไขเหมือนกับประเทศประชาธิปไตยอื่นๆคือเรื่องเสรีภาพ ไม่ถูกปิดกั้นข่าวสาร ขรก.ต้องเป็นกลาง และประชาชนต้องมีการศึกษา แต่เมื่อยังขาดสิ่งเหล่านี้จึงเป็นสาเหตุที่พรรคไทยรักไทยต้องเร่งให้มีการเลือกตั้งตลอดเวลา
นายสนธิ ยังได้ทบทวนเหตุการณ์เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นอีกครั้งคือเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา เมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฏราชกุมาร เป็นผู้แทนพระองค์ไปพระราชทานน้ำหลวงอาบศพให้กับนายทหารที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับไปตีกอล์ฟ ขณะเดียวกันยังไปสร้างภาพด้วยการไปเคารพศพนายทหารคนดังกล่าวที่บ้านเกิดจังหวัดอุบลฯแต่กลับส่งตำรวจไปตรวจระเบิดที่หน้าศพเป็นการไม่เคารพลูกเมียของผู้ตาย
จากนั้นวันที่ 5 ก.ย.สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมครอบครัวที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการให้เข้าเฝ้าฯอย่างใกล้ชิด ขณะที่พ.ต.ท.ทักษิณกลับล้อมคอกนักข่าวไม่ให้เข้าเฝ้าฯ
"เวลานี้เปรียบเหมือนกุ๊ยปากซอยจนตรอก ที่เคยชอบทำตัวข่มขู่ชาวบ้านอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อชาวบ้านที่เคยถูกข่มเหงรวมตัวลุกขึ้นสู้ทำให้กุ๊ยหรืออันธพาลต้องจนตรอก และเมื่อบอกว่าจะไปเชียงใหม่และบุรีรัมย์ทำให้ต้องมีการเตรียมการรับมือกันใหญ่มีการกลั่นแกล้งต่างๆนานา"
นายสนธิ ยังได้ย้อนเหตุการณ์ความรุนแรงและการกลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้ามตลอดระยะ 10 เดือนที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย.จนถึงปัจจุบันนับสิบๆเรื่องไม่ว่าจะเป็นการขว้างระเบิดที่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ การลอบวางระเบิดหน้าบ้านป๋าเปรม ระเบิดหน้าพรรคประชาธิปัตยื เหตุเกิดขึ้นนับสิบเหตุการณ์แต่จนถึงวันนี้ยังจับไม่ได้สักคดี