“สุวัตร อภัยภักดิ์” เย้ย ตำรวจถูกตบหน้าเด้งสอง หลังศาลอาญาไม่อนุมัติหมายจับแกนนำพันธมิตรฯ เหตุเพราะเป็นการชุมนุมภายใต้ รธน.ม.44 ระบุ จะใช้เป็นบรรทัดฐานยื่นประกอบการพิจารณาของอัยการในคดีเก่าด้วย ขณะเดียวกัน เตรียมยื่นฟ้องศาลปกครองเอาผิด “ผกก.” สั่งโจรกระทืบคนแก่และผู้หญิงที่หน้าห้างดังย่านบางนา พ่วงด้วยฟ้อง “สตช.” เรียกค่าเสียหายพันล้าน ฐานปล่อยคนชั่วลอยนวล
คลิกที่นี่ เพื่อฟังเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ครั้งที่ 14 ช่วงสถานีข่าว โดย อัญชลี ไพรีรัก และยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที
วันนี้ (1 ก.ย.) เมื่อเวลา 18.20 น.นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความของแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ คอนเสิร์ตการเมือง ครั้งที่ 14 ในช่วงสถานีข่าวสวนลุมพินี ที่มี น.ส.อัญชลี ไพรีรัก และนายยุทธยง ลิ้มเลิศวาที เป็นผู้ดำเนินรายการ
นายสุวัตร กล่าวว่า วันนี้ศาลตบหน้าตำรวจซ้ำเป็นครั้งที่สอง ครั้งแรกศาลยโสธรมีคำสั่งไม่อนุมัติหมายจับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ และผู้ก่อตั้ง ในคดีหมิ่นเบื้องสูง วันนี้ก็เช่นกันศาลอาญามีคำสั่งไม่อนุมัติหมายจับ 7 แกนนำพันธมิตรฯ คำสั่งทั้งสองนั้นเป็นนิมิตหมายที่ดี เป็นการเปิดโอกาสชี้ให้เห็นว่าท้องฟ้ากำลังจะเป็นสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
“การต่อสู้โดยสงบเปิดเผยตามมาตรา 44 ได้รับรองจากศาลแล้ว โดยในคำสั่งของศาลได้เขียนถึงมาตรา 44 ไว้ชัด ต่อไปนี้ฝากถึงตำรวจที่รับใช้หน้าเหลี่ยมทุกท่านว่า การจะมาขัดขวางการชุมนุม ไล่ตีไล่เตะผู้หญิงและคนแก่ ท่านทำผิดกฎหมายมาตลอด แล้วต่อไปนี้ถ้ามีการกระทำใดที่ขัดขวางการชุมนุมโดยสงบเราจะถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ คนแก่ เด็ก และผู้หญิงที่ถูกทำร้ายหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ต้องรับผิดชอบ ชดใช้ค่าเสียหาย 1 พันล้านบาท ตอนนี้ผมร่างคำฟ้องเพื่อเตรียมยื่นฟ้องต่อศาลปกครองแล้ว ส่วนความรับผิดทางอาญา ที่ตำรวจระดับผู้กำกับที่ไปกระซิบใช้โจรมากระทืบ จะต้องติดคุกด้วย” นายสุวัตร กล่าว
นายสุวัตร กล่าวต่อว่า การยกคำร้องของศาลในวันนี้ทำให้ตำรวจไม่สามารถดำเนินคดีต่อได้ ส่วนคดีเก่าตนจะเอาคำสั่งในวันนี้ไปยื่นต่ออัยการเพื่อวินิจฉัยร่วม ซึ่งเชื่อว่าหากอัยการที่มีใจเป็นธรรมจะสั่งไม่ฟ้องคดีเก่าไปด้วย เพราะเมื่อมีคำสั่งชัดเจนอย่างนี้แล้วว่าเขาใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ไม่เคยไปตีเตะใคร ชุมนุมเป็นแรมเดือนปี จน พล.อ.สนธิ บุญรัตนกลิน ผบ.ทบ. บอกว่าต้องไปลงกินเนสส์บุ๊กว่าเป็นม็อบที่เรียบร้อยสุด แล้วจะไปผิดได้ยังไง เมื่อไม่ผิดต่อไปนี้หากเราจะไปชุมชม หากได้บังอาจจะทำการใดๆ ขณะที่เราชุมนุมโดยสงบ ท่านจะถูกฟ้อง แล้วถ้าหน้าแตกอีกครั้งนี้ เราจะไม่ยอมออกทุนให้เย็บหน้าเลยให้ไปหาหมอตำแยเย็บหน้าเอง
น.ส.อัญชลี ถามถึงคดีที่ นายสนธิ และหนังสือพิมพ์คมชัดลึกถูกฟ้องร้องคดีหมิ่นเบื้องสูง ซึ่งในวันนี้อัยการสั่งฟังคำฟ้องในวันที่ 5 ก.ย.นั้น นายสุวัตร กล่าวว่า การให้สัมภาษณ์ของนายสนธิ ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ที่เรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบกฎหมายแปรรูป กฟผ.ครั้งนั้นเป็นประโยคลักษณะคำถาม แล้วคมชัดลึกก็เอาไปลงข่าวโดยไม่ครบถ้วน อย่างไรก็ตามเมื่อเช้าอัยการเสียงส่วนใหญ่มีความเห็นสั่งฟ้องในข้อหานี้ ซึ่งจะนัดไปฟังสั่งฟ้องวันที่ 5 ก.ย.นี้ แต่ตนบอกได้เลยว่าไม่มีข้อเท็จจริงอะไรน่าหนักใจ ฟ้องมาก็สู้ ไม่มีอะไรต้องกลัว
“ส่วนวิดีโอคลิปที่ถูกเผยแพร่ไปทั่วนั้น มีทั้งที่ถูกต้องซึ่งผมนำเสนอ กับเถื่อนเยอะแยะทำปลอมไม่เนียน เหมือนกับวางระเบิดที่มันทำไม่เนียน ตำรวจก็ส่งไปตรวจที่กองพิสูจน์หลักฐาน แล้วก็บอกว่าของตนนั้นถูกต้อง อันอื่นไม่ถูก” นายสุวัตร กล่าว และย้ำว่า ผมบอกแล้วว่าถ้าผมยืนตรงนี้ผมไม่ยอมให้คุณสนธิติดคุก
นายยุทธยง ถามว่า ทำไมที่ผ่านมาตำรวจถึงอยากจับชาวบ้านเหลือเกินทั้งที่ศาลระบุชัดว่าเป็นการชุมนุมภายในกฎหมาย นายสุวัตร กล่าวว่า ตำรวจส่วนใหญ่เป็นคนดี แต่มีตำรวจกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ที่ออกมาทุกวันที่เห็นนี่ล่ะ ก็ป้วนเปี้ยนเป็นสัมภเวสีอย่างนี้ล่ะ อย่าลืมว่า ก่อนที่พระพุทธองค์จะบรรลุได้ต้องมีมารมาผจญ เราต้องมองว่ามีอุปสรรคเป็นโอกาส เขาฟ้องเราก็สู้กันบนศาล เมื่อชนะเราก็ภูมิใจ
“ฝากพี่น้องทุกคนว่า การต่อสู้ใกล้เวลาที่จะประสบความสำเร็จแล้ว มีนัยสำคัญหลายเรื่องบอกได้ว่าตั้ง กกต.ใหม่ ณ วันนั้น ท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนต้องเป็นใหญ่ในแผ่นดิน เมื่อประชาชนทำเพื่อบ้านเมือง ขณะนี้กรรมติดจรวด สรรพากรโดน สตง.เรียก กกต.ติดคุก ตำรวจศาลไม่ออกหมายจับ กกต.เปรียบเสมือนรากแก้ว แล้วต้นไม้จะยืนอยู่ได้ยังไง เราต้องช่วยกันเป่าเดี๋ยวมันก็ล้ม” นายสุวัตร กล่าวทิ้งท้าย
คลิกที่นี่ เพื่อฟังเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ครั้งที่ 14 ช่วงสถานีข่าว โดย อัญชลี ไพรีรัก และยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที
วันนี้ (1 ก.ย.) เมื่อเวลา 18.20 น.นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความของแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ คอนเสิร์ตการเมือง ครั้งที่ 14 ในช่วงสถานีข่าวสวนลุมพินี ที่มี น.ส.อัญชลี ไพรีรัก และนายยุทธยง ลิ้มเลิศวาที เป็นผู้ดำเนินรายการ
นายสุวัตร กล่าวว่า วันนี้ศาลตบหน้าตำรวจซ้ำเป็นครั้งที่สอง ครั้งแรกศาลยโสธรมีคำสั่งไม่อนุมัติหมายจับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ และผู้ก่อตั้ง ในคดีหมิ่นเบื้องสูง วันนี้ก็เช่นกันศาลอาญามีคำสั่งไม่อนุมัติหมายจับ 7 แกนนำพันธมิตรฯ คำสั่งทั้งสองนั้นเป็นนิมิตหมายที่ดี เป็นการเปิดโอกาสชี้ให้เห็นว่าท้องฟ้ากำลังจะเป็นสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
“การต่อสู้โดยสงบเปิดเผยตามมาตรา 44 ได้รับรองจากศาลแล้ว โดยในคำสั่งของศาลได้เขียนถึงมาตรา 44 ไว้ชัด ต่อไปนี้ฝากถึงตำรวจที่รับใช้หน้าเหลี่ยมทุกท่านว่า การจะมาขัดขวางการชุมนุม ไล่ตีไล่เตะผู้หญิงและคนแก่ ท่านทำผิดกฎหมายมาตลอด แล้วต่อไปนี้ถ้ามีการกระทำใดที่ขัดขวางการชุมนุมโดยสงบเราจะถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ คนแก่ เด็ก และผู้หญิงที่ถูกทำร้ายหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ต้องรับผิดชอบ ชดใช้ค่าเสียหาย 1 พันล้านบาท ตอนนี้ผมร่างคำฟ้องเพื่อเตรียมยื่นฟ้องต่อศาลปกครองแล้ว ส่วนความรับผิดทางอาญา ที่ตำรวจระดับผู้กำกับที่ไปกระซิบใช้โจรมากระทืบ จะต้องติดคุกด้วย” นายสุวัตร กล่าว
นายสุวัตร กล่าวต่อว่า การยกคำร้องของศาลในวันนี้ทำให้ตำรวจไม่สามารถดำเนินคดีต่อได้ ส่วนคดีเก่าตนจะเอาคำสั่งในวันนี้ไปยื่นต่ออัยการเพื่อวินิจฉัยร่วม ซึ่งเชื่อว่าหากอัยการที่มีใจเป็นธรรมจะสั่งไม่ฟ้องคดีเก่าไปด้วย เพราะเมื่อมีคำสั่งชัดเจนอย่างนี้แล้วว่าเขาใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ไม่เคยไปตีเตะใคร ชุมนุมเป็นแรมเดือนปี จน พล.อ.สนธิ บุญรัตนกลิน ผบ.ทบ. บอกว่าต้องไปลงกินเนสส์บุ๊กว่าเป็นม็อบที่เรียบร้อยสุด แล้วจะไปผิดได้ยังไง เมื่อไม่ผิดต่อไปนี้หากเราจะไปชุมชม หากได้บังอาจจะทำการใดๆ ขณะที่เราชุมนุมโดยสงบ ท่านจะถูกฟ้อง แล้วถ้าหน้าแตกอีกครั้งนี้ เราจะไม่ยอมออกทุนให้เย็บหน้าเลยให้ไปหาหมอตำแยเย็บหน้าเอง
น.ส.อัญชลี ถามถึงคดีที่ นายสนธิ และหนังสือพิมพ์คมชัดลึกถูกฟ้องร้องคดีหมิ่นเบื้องสูง ซึ่งในวันนี้อัยการสั่งฟังคำฟ้องในวันที่ 5 ก.ย.นั้น นายสุวัตร กล่าวว่า การให้สัมภาษณ์ของนายสนธิ ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ที่เรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบกฎหมายแปรรูป กฟผ.ครั้งนั้นเป็นประโยคลักษณะคำถาม แล้วคมชัดลึกก็เอาไปลงข่าวโดยไม่ครบถ้วน อย่างไรก็ตามเมื่อเช้าอัยการเสียงส่วนใหญ่มีความเห็นสั่งฟ้องในข้อหานี้ ซึ่งจะนัดไปฟังสั่งฟ้องวันที่ 5 ก.ย.นี้ แต่ตนบอกได้เลยว่าไม่มีข้อเท็จจริงอะไรน่าหนักใจ ฟ้องมาก็สู้ ไม่มีอะไรต้องกลัว
“ส่วนวิดีโอคลิปที่ถูกเผยแพร่ไปทั่วนั้น มีทั้งที่ถูกต้องซึ่งผมนำเสนอ กับเถื่อนเยอะแยะทำปลอมไม่เนียน เหมือนกับวางระเบิดที่มันทำไม่เนียน ตำรวจก็ส่งไปตรวจที่กองพิสูจน์หลักฐาน แล้วก็บอกว่าของตนนั้นถูกต้อง อันอื่นไม่ถูก” นายสุวัตร กล่าว และย้ำว่า ผมบอกแล้วว่าถ้าผมยืนตรงนี้ผมไม่ยอมให้คุณสนธิติดคุก
นายยุทธยง ถามว่า ทำไมที่ผ่านมาตำรวจถึงอยากจับชาวบ้านเหลือเกินทั้งที่ศาลระบุชัดว่าเป็นการชุมนุมภายในกฎหมาย นายสุวัตร กล่าวว่า ตำรวจส่วนใหญ่เป็นคนดี แต่มีตำรวจกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ที่ออกมาทุกวันที่เห็นนี่ล่ะ ก็ป้วนเปี้ยนเป็นสัมภเวสีอย่างนี้ล่ะ อย่าลืมว่า ก่อนที่พระพุทธองค์จะบรรลุได้ต้องมีมารมาผจญ เราต้องมองว่ามีอุปสรรคเป็นโอกาส เขาฟ้องเราก็สู้กันบนศาล เมื่อชนะเราก็ภูมิใจ
“ฝากพี่น้องทุกคนว่า การต่อสู้ใกล้เวลาที่จะประสบความสำเร็จแล้ว มีนัยสำคัญหลายเรื่องบอกได้ว่าตั้ง กกต.ใหม่ ณ วันนั้น ท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนต้องเป็นใหญ่ในแผ่นดิน เมื่อประชาชนทำเพื่อบ้านเมือง ขณะนี้กรรมติดจรวด สรรพากรโดน สตง.เรียก กกต.ติดคุก ตำรวจศาลไม่ออกหมายจับ กกต.เปรียบเสมือนรากแก้ว แล้วต้นไม้จะยืนอยู่ได้ยังไง เราต้องช่วยกันเป่าเดี๋ยวมันก็ล้ม” นายสุวัตร กล่าวทิ้งท้าย