xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” ชี้ “ทักษิณ” อยู่ตรงข้าม “ป๋าเปรม” – จี้ “บรรหาร” เลิกแอบหลัง “แม้ว”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สนธิ” แฉ “ทักษิณ” ดำเนินชีวิตตรงข้ามป๋าเปรมทุกอย่าง ยกประธานองคมนตรี ยึดแนวพอเพียง สมถะ เป็นนายกฯ ไม่เคยคดโกงชาติ ซ้ำเป็นผู้ใหญ่ โดนคนชกหน้าก็ไม่ติดใจเอาความ ขณะ “แม้ว” ปล่อยลิ่วล้อทุบตีกระทั่งผู้หญิง-คนชรา เพียงแค่มาตะโกนขับไล่ ถามที่ไปกล่าวหาป๋า รู้หรือเปล่ากำลังกล่าวหาใคร จวก “บรรหาร” แทงกั๊กหวังแอบร่วมรัฐบาลทักษิณ พร้อมเตือนอย่าดูถูกภาคประชาชน

คลิกที่นี่ เพื่อฟังเมืองไทยรายสัปดาห์ คอนเสิร์ตการเมืองครั้งที่ 13 โดย สนธิ ลิ้มทองกุล

นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ คอนเสิร์ตการเมืองครั้งที่ 13 ที่สวนลุมพินี เมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา กรณีที่มีการจัดม็อบรากหญ้าไปร้องขอชีวิตให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ช่วยไว้ชีวิต พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า เป็นเหมือนการไปจาบจ้วงกล่าวหาว่า พล.อ.เปรม อยู่เบื้องหลังการลอบวางระเบิดซึ่งได้จัดฉากไว้เมื่อวันก่อน

โดยนายสนธิได้เปรียบการใช้ชีวิตของ พล.อ.เปรม กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ตรงกันข้ามกันโดยสิ้นเชิง โดย พล.อ.เปรมนั้นเป็นทหารอาชีพ มีความซื่อสัตย์สุจริต รับราชการและใช้ชีวิตด้วยความสมถะ ไม่เคยโกรธเคืองใคร

นายสนธิ กล่าวต่อว่า เมื่อครั้งที่เป็นนายกฯ มีคนบ้ามาชกหน้าท่านยังให้อภัย ไม่เคยโกรธ ไม่ได้ให้ดำเนินคดี บริหารบ้านเมืองก็ไม่เคยมีผลประโยชน์กับใคร ซ้ำยังกำจัดรัฐมนตรีที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริตออกจากคณะรัฐมนตรีโดยไม่เห็นแก่หน้าใคร เมื่อตอนที่ท่านต้องลดค่าเงินบาท เพื่อแก้วิกฤตของประเทศ ท่านก็ลดทันทีโดยรู้กันเพียง 2 คน คือท่าน กับท่านสมหมาย ฮุนตระกูล โดยไม่บอกใคร ไม่เหมือนใครบางคนที่เอาข้อมูลเรื่องการลดค่าเงินบาทไปหากำไรจนทำให้เศรษฐกิจประเทศไทยทรุดหนัก

นอกจากนี้ พล.อ.เปรมยังเป็นคนไม่ชอบความขัดแย้ง แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจ ก็จะมีความเด็ดขาด เมื่อตอนที่มี 99 นักวิชาการเข้าชื่อเรียกร้องให้ท่านลาออก ท่านก็ไม่ยึดติด ตัดสินใจไม่รับตำแหน่งนายกฯ ต่อ และท่านก็ได้รับแต่งตั้งเป็นองคมนตรี และเป็นประธานองคมนตรี เมื่อสิ้นอาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ ประธานองคมนตรีคนเดิม

“ท่านเป็นประธานองคมนตรี องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ความสำคัญกับท่านมาก ในฐานะเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ต่างพระเนตรพระกรรณ แล้วคนที่เอาม็อบมาล้อมบ้านท่าน เหมือนมากล่าวหาท่าน รู้หรือเปล่าว่าคุณกำลังกล่าวหาใครอยู่”

นายสนธิ กล่าวต่อว่า พล.อ.เปรม ออกมาพูดเสมอให้คนไทยรักสามัคคี ให้ไหว้คนดี อย่าไหว้คนโกง และให้ยึดแนวทางของในหลวง ไม่เคยฉีกจากแนวทางนี้ และไม่เคยฉ้อราษฎร์บังหลวง ไม่มีญาติมาประมูลงานสนามบิน ขายโทรศัพท์มือถือ ไม่เคยแก้กฎหมายเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง

แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำทุกอย่างตรงกันข้ามกับพล.อ.เปรมหมด เป็นคนไม่รักชาติรักแผ่นดิน ไม่รักประชาชน ใช้นักเลงมากระทืบประชาชน ไม่เข้าใจประชาธิปไตย

“ป๋าโดนชก ท่านยังไม่ว่าอะไร แต่นี่แค่คนมาตะโกนทักษิณ ออกไป ทั้งที่เป็นคนแก่อายุ 70 ผู้หญิงตัวเล็กๆ มันก็ยังให้คนมาชก มารุมกระทืบ มันเทียบกันไม่ได้เลยกับป๋า”

นายสนธิ กล่าวต่อว่า การให้ม็อบรากหญ้าไปเรียกร้องขอชีวิตพ.ต.ท.ทักษิณหน้าบ้านสี่เสานั้น เป็นเกมที่จะทำลายชื่อเสียงของ พล.อ.เปรมว่าอยู่เบื้องหลังเหตุลอบวางระเบิด แต่เป็นเกมที่ล้มเหลว เขาต้องการทำเพื่อที่จะประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อเล่นงานพันธมิตร โดยให้ พล.อ.พรชัย กรานเลิศ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. เพื่อนร่วมรุ่นของเขามาคุมเพื่อเล่นงานพวกเรา

** โต้ ทรท.อย่าอ้างลอยๆ “1 คน 1 เสียง”

นายสนธิ ได้กล่าวถึงข้ออ้างของ พ.ต.ท.ทักษิณ และแกนนำพรรคไทยรักไทย ที่มักจะบอกว่าให้ทุกคนเคารพประชาธิปไตย 1 คน 1 เสียง เหมือนประเทศตะวันตกว่า หลักการนี้ไม่ผิด แต่เงื่อนไขของประเทศไทยกับประเทศตะวันตกไม่เหมือนกันใน 4 เรื่อง คือ 1.สิทธิในการแสดงออกถึงความชอบหรือไม่ชอบรัฐบาลในประเทศตะวันตกสามารถทำได้เต็มที่ แต่ในประเทศไทยไม่มี 2.สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารโดยไม่เซนเซอร์ ในประเทศตะวันตกมีหลากหลายกว่า และให้ประชาชนเสพข่าวสารอย่างตรงไปตรงมา แต่ของไทยยังไม่มี

3.ระบบราชการของประเทศตะวันตกมีความตรงไปตรงมา ไม่ใช่ทุกอย่างมาขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี อย่างในสหรัฐ ผอ.เอฟบีไอ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับประธานาธิบดี เหมือนที่ตำรวจของเราต้องขึ้นอยู่กับนายกฯ และ 4.ประชาชนของเขามีปัญญาที่จะเข้าใจเรื่องราวทางการเมือง จากสื่อสารมวลชนและข้อมูลข่าวสารที่มีอย่างหลากหลาย เขาจึงสามารถที่จะอ้าง 1 คน 1 เสียงได้

“คนในพรรคไทยรักไทยชอบไปอ้างว่าต้อง 1 คน 1 เสียง ตามอย่างเขา แต่ระบบเผด็จการที่คุณทำขึ้นมา มันเป็น วันแมนวันโหวต ไม่ได้ เพราะมันกลายเป็นวันแมนกูโหวตไปหมด” นายสน ธิกล่าว

**จี้บรรหาร บอกให้ชัด เอา-ไม่เอาระบอบทักษิณ

นายสนธิ ได้กล่าวถึงบทสนทนาระหว่างนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กับผู้บริหารหนังสือพิมพ์มติชน ซึ่งมีบางตอนอ้างถึงการพูดคุยบนโต๊ะหูฉลาม ระหว่างนายบรรหารกับ พ.ต.ท.ทักษิณด้วย ว่า ถึงแม้นายนบรรหารจะบอกว่าไม่ได้อนุญาตให้มติชนเอาไปลง แต่เชื่อว่าเรื่องนี้คงเป็นเพราะนายบรรหารคงแกล้งทำ “ปืนลั่น” เพราะมีหรือที่คนระดับนายบรรหารจะไม่รู้ว่าหนังสือพิมพ์จะเอาบทสนทนานั้นไปลงตีพิมพ์ ดังนั้นจึงเชื่อว่านายบรรหารคงจงใจให้เห็นว่าธาตุแท้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นอย่างไร

ทั้งนี้ บทสนทนาดังกล่าว นายบรรหารได้เล่าถึงการพูดคุยบนโต๊ะหูฉลามกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งมีหลายเรื่องที่น่าสนใจ อาทิ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ซื้อ ส.ส.อีสานของพรรคชาติไทยไปแล้ว 4 คน ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่าไม่รู้ และนายบรรหารบอกไปว่า คนปากห้อยที่ติดตาม พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนจัดการ

กรณีที่นายบรรหารบอกว่า ปัญหาพรรคไทยรักไทยกับการคอร์รัปชันนั้น พรรคชาติไทยจะไม่ขอยุ่ง ปล่อยให้เป็นเรื่องของนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคไทยรักไทย ซึ่งนายสนธิเห็นว่าประเด็นนี้พรรคชาติไทยทำไม่ถูกต้อง ที่จริงแล้วพรรคชาติไทยควรจะมีความชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับการคอร์รัปชั่น

นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดถึงผู้มีบารมีนอกรัฐมนตรีที่จะมาล้มล้างรัฐบาล ซึ่งนายบรรหารได้ถาม พ.ต.ท.ทักษิณว่า ผู้มีบารมีหมายถึงพระเจ้าอยู่หัวใช่หรือไม่ ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณรีบตอบว่าไม่ใช่ แต่เมื่อถามว่าหมายถึง พล.อ.เปรม หรือเปล่า พ.ต.ท.ทักษิณกลับเงียบ ไม่บอกว่าใช่ หรือไม่ใช่

ทั้งนี้ นายสนธิได้สรุปประเด็นที่นายบรรหารพูดกับมติชนว่า มีอยู่ 2 ประเด็น ที่อยากจะวิจารณ์ คือ 1.อยากให้นายบรรหารสร้างพรรคชาติไทยให้เป็นสถาบัน และให้เลิกคบกับนายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทย เพราะคนคนนี้เป็นนกสองหัว เมื่อใดที่มีผลประโยชน์กับพรรคไทยรักไทยก็พร้อมที่จะทำงานให้

ในประเด็นนี้ไม่อยากให้นายบรรหารคิดว่า ต้องมีการเลือกตั้งในวันที่ 15 ต.ค.เท่านั้น เพราะจะเป็นการสร้างความชอบธรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ อยากให้นายบรรหารประกาศให้ชัดเจนว่าจะเอาระบอบทักษิณหรือเปล่า ไม่ใช่อุบเงียบและรอเข้าร่วมรัฐบาลทีหลัง

“ถ้าพี่บรรหารพูดไม่ชัด เพื่อที่จะกั๊กเอาตำแหน่งหลังเลือกตั้ง ก็ขอให้พ่อแม่พี่น้องภาคกลาง ภาคตะวันออกที่เป็นแฟนรายการเมืองไทยรายสัปดาห์อย่าเลือกพรรคชาติไทย เพราะจุดประสงค์ของเราคือการต่อสู้กับระบอบทักษิณ เพราะฉะนั้นเราจะไม่ยอมรับพรรคการเมืองที่สนับสนุนระบอบทักษิณเด็ดขาด”

นายสนธิ กล่าวต่อว่า ในประเด็นที่นายบรรหารบอกว่าถ้าระบอบทักษิณออกไปก็จะมีระบอบสนธิเข้ามานั้น ทำให้เขาผิดหวังมากที่นายบรรหารพูดแบบนี้ เพราะตั้งแต่ต่อสู้กับระบอบทักษิณมา 12 เดือน นายบรรหารไม่เคยโทรศัพท์ไปหาเลยแม้แต่ครั้งเดียว ถือว่าเป็นคนที่ใจดำมาก

“พี่บรรหารบอกว่า ผมไปหาพี่ ไปกินข้าวที่บ้านพี่เพื่อขอให้ช่วยล้มระบอบทักษิณ และช่วยเรื่องสมเด็จพระสังฆราช พี่บรรหารพูดผิดครึ่งหนึ่ง เพราะผมไม่เคยไปกินข้าวที่บ้านพี่ และไม่เคยคิดที่จะไป แต่ผมยอมรับว่าเคยขอให้พี่ช่วยผมล้มระบอบทักษิณ และเรียกตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชคืน

แต่ถ้าจะบอกว่า ระบอบทักษิณไป ระบอบสนธิก็จะมา ผมถือว่าพี่ดูถูกประชาชน เพราะการเมืองต่อไปนี้ จะไม่ใช่มีแต่นักการเมืองอย่างพวกพี่ผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาบริหารประเทศพวกเดียว แต่จะมีพวกผมเข้าไปด้วย และไม่ใช่ระบอบสนธิ เขาเรียกว่าภาคประชาชน เพราะประชาชนเดี๋ยวนี้เขารู้ว่า ประชาธิปไตยไม่ใช่แค่การเลือกตั้ง แต่จะอยู่ที่พวกพี่ๆ จะเอาภาคประชาชนเข้าไปเสริมได้อย่างไร” นายสนธิ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น