“สนธิ” เชื่อวาระสุดท้าย “ทักษิณ” กำลังมาถึงแล้ว หลังจากเทียนแห่งปัญญาถูกจุดติดในบ้านเมือง ทำให้ไม่มีใครกลัวอำนาจอธรรมอีกต่อไป ขณะเดียวยังถึงเผยกลโกงรัฐบาลล่าสุด รถเมล์เอ็นจีวี ขสมก.2 พันคัน มูลค่า 2.4 หมื่นล้านบาท ที่ต้องผ่อนจ่ายผ่าน ปตท.ไปให้บริษัทจากจีน ระบุเม็ดเงินคอร์รัปชันสูงถึง 1.6 หมื่นล้าน พร้อมเผยปมเร่งเลือกตั้ง 15 ต.ค. หวังฟอกตัวก่อน “สึนามิทางคดี” รุมถล่ม เชื่อมั่นความสุจริตอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เอาผิด “กุหลาบแก้ว” ทิ่มระบอบทักษิณพังทั้งยวง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง เมืองไทยรายสัปดาห์ ครั้งที่ 12 โดย สนธิ ลิ้มทองกุล
คลิกที่นี่เพื่อชมวิดีโอคลิป รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ คอนเสิร์ตการเมือง ช่วงที่ 2(56k) | (256K)
สนธิ – ขอบคุณมากครับ น้องฝ้ายครับ (น.ส.สิรินทร์ยา สัตยาศัย นางสาวไทยประจำปี 2547) พ่อแม่พี่น้องครับ น้องฝ้ายเป็นตัวอย่างที่ผมอยากจะยกให้กับคนที่มีชื่อเสียงในวงการสังคมนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นคนที่อยู่แวดวงความสวยความงาม แต่ก็เป็นคนที่มีปัญญา หรือว่าภาษาบนโต๊ะกินข้าวผมเรียกว่าเป็นคนมีกระบาล นะครับ เมืองไทยมีชะนีเยอะจนเกินไปนะครับ เพราะฉะนั้นแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องเอาคนที่มีปัญญาตัวจริงมาให้ดู สิ่งที่น้องฝ้ายทำนั้นเป็นนัยที่สำคัญ และก็อยากจะฝากบอกไปถึงบรรดามิส มิส และนางสาวทั้งหลาย บอกว่าเลิกบ้าคลั่งกับสิ่งซึ่งมันค่อนข้างจะห่วยแตก แล้วคุณสามารถจะสวยได้ ได้รับความเชิดชูในความเด่นดังของคุณ พร้อมกับคุณสามารถที่ได้รับการชมเชยในเรื่องปัญญาคุณได้ อย่าสวยแต่โง่ นะครับ
สนธิ - พ่อแม่พี่น้องครับ วันนี้เป็นวันที่ผมรู้สึกเหมือนกลับมาบ้าน ท่านพ่อแม่พี่น้องที่ตามเมืองไทยรายสัปดาห์มาตั้งแต่ต้นคงจำได้ว่า ที่นี้เป็นการจัดครั้งที่ 2 ครั้งแรกก็จัดหอประชุมเล็ก แล้วเราก็ย้ายมาที่นี่ วันที่ 22 หรือ 23 กันยายน ผมจำไม่ได้นะครับ เป็นวันครบรอบปีเมืองไทยรายสัปดาห์ ที่เราระเห็จเร่ร่อนออกมา น่าเสียดายที่เราจัดที่หอประชุมใหญ่ธรรมศาสตร์ไม่ได้ เพราะว่าไม่ว่าง แต่เราจะกลับไปที่สวนลุมฯ แต่ทว่าเราจะมีการทำพิเศษ เราจะขยายเวที นะฮะ ก็คงจะต้องพูดเอาไว้ล่วงหน้า เป็นการผูกมัดคุณจอบเอาไว้ เราจะมีงิ้วการเมืองฉลองให้ ผมก็ฝากบอกพรรคพวกเพื่อนฝูงที่ร่วมกันทำว่า 23 กันยายน ถ้านายทักษิณมันไป เราจะจัดฉลองชัยที่สนามหลวงเลย โดยที่เราจะจัดใหญ่ แล้วก็จัดตอนกลางคืนถึงเช้า แล้วก็นิมนต์พระมาไล่เสนียดจัญไร
สนธิ - พ่อแม่พี่น้องครับ วันนี้มีเรื่องจะคุยมากมายหลายอย่างนะครับ เรื่องแรกที่ติดค้างเอาไว้อยากจะพูดตั้งแต่คราวที่แล้วแต่ไม่มีเวลา เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ที่ผ่านมานี้ บนสายการบินไทย เที่ยวบิน ทีจี 111 นะครับ 111 รู้สึกจะเดินทางจากเชียงใหม่เข้ากรุงเทพฯ หรือยังไงเนี่ย ที่นั่ง 11A คือที่นั่งด้านหน้าสุด ด้านหน้าสุดทางซ้าย นั่งด้วยคุณเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ 11B มีนักธุรกิจ ผู้ที่มีความกล้าหาญในแผ่นดิน ชื่อคุณบวร นั่งอยู่ แกขึ้นมาแกมานั่ง แกเห็นคนที่นั่งข้างๆ หรือยังไง แกอารมณ์ บ่ จอย แก่เอาหนังสือพิมพ์ที่มีหน้าของนายกฯ คนหนึ่ง แล้วเอาส้นเท้าขยี้ แล้วแกก็เอาเท้าเนี่ยยันตรงผนังแล้วขยี้ และแกก็ตะโกนลั่นเครื่องบิน บอกว่า นี่พวกคุณมานี่ซิ ผมเนี่ยเป็นลูกค้าที่สำคัญของการบินไทย ผมบอกคุณตั้งกี่ครั้งแล้วว่าเวลาจัดสรรที่นั่งให้ผม อย่าให้ผมมานั่งใกล้ตระกูลที่เป็นเสนียดจัญไรกับผม ปรากฏว่า ลูกเรือนั้นก้มหน้างุด แอบหัวเราะกิ๊กกกกก กันทุกคน เผอิญเครื่องลำนั้นมันแน่น หาคนแทนไม่ได้ ก็เลยต้องไปเจรจากับฝรั่งเพื่อมาเปลี่ยนที่ ผมไม่ทราบว่าเป็นยังไง ผมทราบแต่ว่าคุณเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หน้าแดงก่ำตลอดไฟลต์บินนะครับ ก็เป็นอุทาหรณ์เตือนใจนะครับว่า คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต อำนาจวาสนานั้นมันมาแล้วจากไป ถ้ามีชีวิตอยู่ ทำคุณงามความดีให้ชาติบ้านเมือง ไปไหนมาไหนไม่ต้องยิ่งใหญ่ แต่ว่าคนก็เข้ามาทักทาย คนเข้ามาให้กำลังใจ คนเข้ามาอวยชัยให้พร แต่ว่าทำความชั่วให้กับชาติบ้านเมือง เสื่อมเสียไปถึงวงศ์ตระกูล ไปถึงลูกถึงหลานถึงเหลน ไปที่ไหนมีแต่คนสาปแช่ง ผีห่าซาตานก็ยังไม่อยากจะร่วม ยังไม่อยากให้ลงนรกไปด้วย นับประสาอะไรกับเทวดาฟ้าดิน นะครับ เป็นบทเรียนนะครับ
สนธิ - เรื่องที่สอง อันนี้ฝากพ่อแม่พี่น้องชาวพันธมิตรฯ ที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากวันพุธหน้าทีมงานของเอเอสทีวีคนหนึ่ง คือ คุณวินเนอร์ จะเดินทางไปสหรัฐอเมริกา เลยให้ผมเซ็นชื่อเสื้อ ซึ่งแกเอาไปด้วย 5 ตัว แล้วแกเอาไปลงในอีเบย์ www.ebay.com คือเว็บไซต์ที่ประมูลเสื้อ พ่อแม่พี่น้องที่อยู่สหรัฐอเมริกาถ้าอยากได้เสื้อพร้อมลายเซ็นให้กับพันธมิตรฯ คนไทยในสหรัฐอเมริกา เข้าไปประมูลได้ในนั้น เงินทองที่ได้จะเอามาสนับสนุนเอเอสทีวี
สนธิ - มีข้อสังเกตอย่างหนึ่งที่จะเรียนให้ทราบ เมื่อ 2 วันที่แล้วมีเครื่องบินขนส่งของรัสเซียลำหนึ่งบินมาที่ดอนเมือง เป็นเครื่องบินที่ใหญ่มาก เป็นเครื่องบินขนส่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งขนส่งรถถังได้ มาจอดที่นี่ แล้วมีการขนของเต็มไปหมดเลยขึ้นเครื่องบินลำนี้ไป เข้าใจว่าของที่ขนไปนั้นน่าจะเป็นของผู้นำคนใดคนหนึ่งในประเทศไทย แล้วเครื่องบินลำนี้เหินฟ้าออกไปแล้วไม่ทราบว่าไปที่ไหน
สนธิ - อีกเรื่องหนึ่งเป็นเรื่องของ อันนี้เป็นเรื่องเบ็ดเตล็ด นี่เป็นน้ำจิ้มก่อนเข้าสู่อาหารหลัก อีกเรื่องหนึ่งพ่อแม่พี่น้องคงจำได้ เป็นเรื่องที่นายทักษิณพอมีนักข่าวไปถามว่า เหตุผลที่นายพินิจ จารุสมบัติ แล้วนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่บอกว่าจะไม่เล่นการเมืองแล้ว เขาก็ตอบออกมาว่า ไม่มีความหมาย ไม่สำคัญ เพราะว่าตัวหลักคือตัวเขาคนทำงานที่เหลือเป็นเพียงแค่แขน ขา ซึ่งตรงนี้ผมอยากจะเตือนสติบรรดารัฐมนตรีทั้งหลายให้เห็นว่าในที่สุดแล้วนายคุณเขาก็เห็นคุณเพียงแค่สุนัขตัวหนึ่งเท่านั้นเอง แล้วเป็นภาพสะท้อนกลับไปให้เห็นว่านายคนนี้ครั้งหนึ่งจำได้ไหมที่เขาบอกว่าเขาจะสร้างพรรคไทยรักไทยให้เป็นสถาบัน (ของกูและของเมียกู) วันนี้พิสูจน์ออกมาชัดแล้ว ถ้าเป็นสถาบันทำไมถึงบอกว่า นายสมคิดกับนายพินิจเป็นเพียงแค่แขนและขา ยังดีที่ไม่บอกว่าเป็นไข่ด้วย พิสูจน์ชัดแล้วว่าสิ่งที่นายคนนี้พูดไม่มีความจริง ต่อเนื่องจากนายสมคิดกับนายพินิจ อยากจะเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องนิดหนึ่ง ประมาณอีกไม่นานเราจะพิมพ์หนังสือออกมาเล่มหนึ่ง เป็นหนังสือเล่มเล็กๆ เหมือนกับคู่มือรัฐธรรมนูญ ราคาไม่แพง แต่อยากให้พ่อแม่พี่น้องซื้อไว้เยอะๆ แล้วแจกไปทั่วประเทศไทย ราคาจะเท่าต้นทุน หนังสือเล่มนี้จะชื่อว่า "ตระบัดสัตย์" ทำไมถึงใช้คำว่า ตระบัดสัตย์ เพราะผมได้ให้แผนกวิจัยค้นข้อมูลตั้งแต่ 2541 ว่านายทักษิณพูดอะไรมาบ้าง ปรากฏว่า นายคนนี้หายใจออกก็หลอก หายใจเข้าก็โกง เพราะฉะนั้นแล้วเขาตระบัดสัตย์มาตลอด ยกตัวอย่างคำพูด เอาเพียงน้ำจิ้ม ซึ่งมีอยู่เยอะมาก ยกตัวอย่างคำพูด เขาพูดเมื่อปี 2541 ว่า ส.ส.เขานั้นเขาจะเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ 14 กรกฎาคม 41 พิธีเปิดพรรคไทยรักไทย เขายืนยันว่า ผมยืนยันจะทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ของสังคมไทย 16 สิงหาคม 41 อยากเรียกร้องให้นักการเมืองคิดถึงตัวเองให้น้อยๆ คิดถึงบ้านเมืองให้มากๆ 24 ตุลาคม 41 ก่อนจะแปรรูปรัฐวิสาหกิจนั้นต้องเอาการเมืองออกจากรัฐวิสาหกิจ 4 มีนาคม 42 อยากเห็นสังคมไทยเป็นสังคมแห่งความรู้ 27 กุมภาพันธ์ 43 ที่ จ.ขอนแก่น มองนักการเมืองที่โกงชาติบ้านเมืองในปัจจุบันที่เป็นภาระ ต้องช่วยกันกำจัดให้หมดสิ้นไป จึงขอให้คนอีสานเลือกพรรคไทยรักไทยกันทั้งภาคเพราะจะรู้ปัญหาคนอีสาน และจะสามารถนำพาประเทศให้รวยได้ภายใน 4 ปีนี้ต้องทำให้ได้
สนธิ - (((โอ๊ยยยยย ถังแตก ถังแตกสิ้นดี ฉันเงินไม่มีจึงถังแตก แตกดังโพร๊ะ แตกดังโพร๊ะ แตกดังโพร๊ะ)))
สนธิ - สามารถนำพาประเทศให้รวยได้ภายใน 4 ปีนี้ วันที่ 19 มีนาคม 43 หากผมเป็นรัฐบาล คนของผมที่เป็นรัฐมนตรีคนไหนโกง แค่สงสัยผมก็จัดการเลยไม่ต้องรอพิสูจน์ให้เสียเวลา มีอีกเยอะพ่อแม่พี่น้องมันมีเรื่องคำพูดที่ทุเรศๆ 5 กรกฎาคม 44 อย่าไปกลัวเกินเหตุ ผมจะหาเวลาลงไปดูภาคใต้ด้วยตัวเอง และจะแก้ปัญหาระบบราชการอย่างเต็มที่ คนเราอย่ากลัวตาย เพราะจะตายอยู่ที่ไหนก็ตาย
สนธิ - พ่อแม่พี่น้องครับมีเรื่องอีกเรื่องอยากให้ดูนิดหนึ่ง พ่อแม่พี่น้องดูภาพที่ผมจะฉายให้ดีๆ นะครับ มันเป็นกลุ่มที่เชลียร์ทักษิณที่หน้าโรงแรมอัมรินทร์ ลากูน จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ที่ผ่านมา มองไปมองมาไม่ได้สังเกต แต่เผอิ๊ญเผอิญตอนนี้ผมมันเป็นนักส่องกล้องจุลทรรศน์ที่ส่องนายทักษิณ เห็นวงกลมสีแดงไหมครับ ลองขยายอีกภาพจะเห็นชัดหน่อย ท่านนายกฯ อย่าทิ้งประชาชน ผมว่าคนที่คิดป้ายคนนี้เป็นคนที่เชลียร์นายทักษิณคงจะบ้าไปแล้ว ผมจะเตือนความจำพ่อแม่พี่น้องนิดหนึ่ง คำพูดนี้เป็นคำพูดที่เกิดขึ้นเมื่อไหร่ คำพูดนี้เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2489 ก่อนผมเกิด 1 ปี ในปีนั้นเนี่ย พระบาทสมเด็จฯ รัชกาลที่ 8 เพิ่งจะเสด็จสวรรคต และรัชกาลที่ 9 เพิ่งจะไปกราบคารวะพระบรมศพ และกำลังจะเดินทางกลับไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ ระหว่างที่เดินทางผ่านสนามหลวง มีชายแต่งชุดดำคนหนึ่ง ตะโกนออกมา บอกว่า ในหลวงอย่าทิ้งประชาชน นะครับ พระองค์ท่านก็นิ่งไปนะครับ แล้วต่อมาผู้ซึ่งอยู่ใกล้ชิดใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ก็มาเขียนหนังสือเล่าให้ฟังว่าพระองค์ท่านในเวลานั้น พระองค์ท่านบอกว่า คิดในใจว่า ถ้าประชาชนไม่ทิ้งข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าจะทิ้งประชาชนได้อย่างไร นะครับ
สนธิ - มาวันนี้ลิ่วล้อนายทักษิณคิดยังไง ถึงกล้าเหิมเกริม ขนาดเอาประโยคนี้มาใช้กับนายทักษิณ จะเชียร์ก็หาคำเชียร์อื่น อย่าได้อาจเอื้อมใช้คำนี้ ถ้าผมไม่ท้วง ไม่ติง ไม่ประจานกัน วันหน้าถ้ามันเกิดโกงการเลือกตั้งเข้ามาอีก แล้วได้เป็นนายกฯ อีก มันก็จะจีบปากจีบคอพูดบอกว่า เมื่อประชาชนไม่ทิ้งผมแล้ว ผมจะทิ้งประชาชนได้ยังไง
สนธิ - คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต พ่อแม่พี่น้องครับ คนเราไม่เชื่ออะไรก็ต้องเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์นะครับ คนที่ไปอีสานก็โดนชาวอีสานเขาดุด่า เขาไล่เหมือนหมูเหมือนหมา ขึ้นไปเชียงใหม่ อุตส่าห์วางแผนซะอย่างดี ไปอีสานนี่เขาเรียกว่า พเนจรบำบัด พ่อแม่พี่น้องจำได้ใช่มั้ย ที่เราเคยพูด นะฮะ พเนจรบำบัดก็คือว่า เวลามีทุกข์ที่ใจ ต้องเดินทางไปในพื้นที่ที่สามารถจะจ้างคนมาแล้วก็ร้อง "ทักษิณสู้ๆ ทักษิณสู้ๆ" ใช่มั้ยฮะ เพราะฉะนั้นแล้ว ก็จะมีความรู้สึกว่ามีความสุข จิตใจก็จะดีขึ้นนะครับ ก็เลยคิดว่าวันจันทร์หลังจากกลับอีสาน โดนพันธมิตรฯ ไล่ที่ขอนแก่นแล้ว จนกระทั่งตั้งตัวไม่ติดเหมือนกิ้งกือที่หกคะเมนไปแล้ว วันที่ 14 จันทร์ที่ 14 ถึงพฤหัสฯ ที่ 17 ก็ตัดสินใจจะขึ้นเหนือล่ะ เอาล่ะ ไหนๆ ไปอีสานแล้ว มันพลาดท่า ขอไปเหนือหน่อยก็แล้วกัน ทีนี้คนดวงมันตกเนี่ย มันก็ตกไปหมดทุกเรื่อง คนที่เชียงใหม่เนี่ย โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายกเทศมนตรี ลิ่วล้อทักษิณ ก็กลัว กลัวว่าฤกษ์มันจะเสีย ฤกษ์งามยามดีนายกฯ มาเนี่ย กลัวมันจะเสีย กลัวว่าเดี๋ยวทำอะไรง่าวๆ แล้วมันจะไม่เหมาะ ก็ปรากฏว่าอุตส่าห์เอาถุงทรายไปถม ไปกั้นลำแม่น้ำปิงหมดเลย ทั่วลำแม่น้ำปิง เพื่อไม่ให้น้ำท่วมเชียงใหม่ เพราะกลัวว่าถ้าน้ำท่วมเชียงใหม่แล้ว นายตัวเองลงเครื่องบินมา แล้วจะเสียกำลังใจ นะครับ แต่อย่างที่ผมบอกนะฮะ ว่าคนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต วันอาทิตย์ที่ 13 ก่อนที่นายทักษิณขึ้น ฝนฟ้าคะนอง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เมืองเหนือรำคาญความอัปมงคลที่จะมา วันจันทร์ที่ 14 ก็เลยบันดาลให้ฝนตกหนัก ปรากฏว่าน้ำจากดอยสุเทพไหลบ่าลงมาท่วม ปิดทางขึ้นดอยสุเทพ นะฮะ ไฟดับ ดินถล่ม เย็นวันนั้นไฟดับไปทั่ว ต.สุเทพ แถบซอยวัดอุโมงค์ รถติดยาวเหยียดเป็นกิโลฯ ที่สี่แยกภูคำ นะครับ พ่อแม่พี่น้องชาวเหนือฟังอยู่หรือเปล่า เสียฤกษ์ไปตั้งแต่ต้นแล้ว เช้าวันจันทร์ คนที่ดวงตกพยายามฝืนดวง ก็ควงนายพานทองแท้ ชินวัตร ขึ้นเครื่องบินไปเชียงใหม่ มีคณะรัฐมนตรีร่วมคณะไปด้วย ส่วนลูกรัก นายเนวิน ชิดชอบ ชื่อพม่า หน้าเขมร ล่วงหน้าไปปักหลักบัญชาการอยู่ที่เชียงใหม่ ที่บ้านพ่อตาของตัวเองที่รับงานประมูล รับจนไม่หวัดไม่ไหว นะฮะ แผนหาเสียงเขาเป็นอย่างนี้
สนธิ - เขากะว่าพอเขาลงมาจากเครื่องบิน ใช่มั้ย ก็จะมีคนเอาดอกกุหลาบไป วิ่งเข้าไปแล้วก็มอบให้เขา ท่านนายกฯ ขา แล้วกอดขา อยู่เพื่อคนเชียงใหม่นะคะ คนเหนือรักนายกฯ เขาตั้งใจจะเป็นเช่นนี้อยู่แล้ว แต่เผอิญเจอฤทธิ์พันธมิตรฯ จ.เชียงใหม่ พันธมิตรฯ จ.เชียงใหม่ คือเขาต้องการให้ทีวีออก ไอ้พวก 3 5 7 9 11 ไอทีวีตัวดี นี่ก็จ้องเลย โดนได้รับคำสั่งมาเลย พันธมิตรฯ เนี่ยมีไม่กี่คนเอง 10 กว่าคน 20 คน ปรากฏว่า พันธมิตรฯ เนี่ยไปปล่อยข่าวซะก่อน แอบไปปล่อยข่าวคืนวันอาทิตย์ที่ 13 บอกว่า วันที่ 14 นั้น จะไปประท้วงนายทักษิณที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 แล้วพอตกค่ำ ดึกๆ ค่อยแจ้งหนังสือพิมพ์บอกว่า เฮ้ยไม่ใช่นะ ที่สนามบิน เล็ดรอดไปยังไงไม่รู้ นายทักษิณลงมาจากเครื่องบิน เจอกลุ่มพันธมิตรฯ พวกนี้ ซึ่งเป็นกลุ่มพวกหมอ ทันตแพทย์ เจ้าของโรงพยาบาล เข้าใจใช่มั้ยฮะ ปรากฏว่า นายทักษิณเนี่ยเสียผู้เสียคน นะฮะ เสียสุนัขไปเลยงานนี้ ปรากฏว่ามีภาพออกทางโทรทัศน์ตลอดเวลา นะฮะ ภาพออกโทรทัศน์ตอนเที่ยงก็ออก ตอนบ่ายก็ออก ตอนเย็นก็ออก ตอนกลางคืนก็ออก นักเล่าข่าวก็หยิบมาเล่า พอตอนเช้าก็แย่งพื้นที่ข่าวหนังสือพิมพ์ไปอีก หงุดหงิดไปหมด อารมณ์เสียหมด เพราะว่าลงมาเนี่ย อยากจะได้ยินว่า "ทักษิณสู้ๆ ทักษิณสู้ๆ" มาจากไหนก็ไม่รู้ ไอ้พวกนี้นี่ หา มาหาเรื่องเขา นะครับ ตอนบ่ายสาม อาละวาด อาละวาดหนักเลย อาละวาดด่าตำรวจ ด่าคนโน้นคนนี้ ผู้ว่าฯ เนี่ย หงุดหงิดไปหมด ผู้ว่าฯ โดนเฉ่งซะไม่มีดี ปรากฏว่าตอนบ่ายสามมีกำหนดไปดูการขุดแม่น้ำปิงตรงที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ฝ่ายรักษาความปลอดภัยก็เลยเตรียมพร้อม ตำรวจถือปืนกล มองซ้าย มองขวา ใครจะมาทำนายกฯ กู เพื่อให้นายกฯ ที่มีสภาพจิตไม่ปกติคนนี้เนี่ย ได้มีความสุข ปรากฏว่ากลัวไปหมด กลัวจนกระทั่งวันรุ่งขึ้นนั้น วันรุ่งขึ้นเนี่ย จะต้องไปประชุม ครม. ที่ศาลากลาง ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ก็กลัว พวกเชลียร์ก็ไม่ให้เข้าใกล้ เพราะว่าขนาดปิดสนามบินแล้ว สกรีนแล้ว พันธมิตรฯ ก็ยังหลุดเข้าไปได้ ก็กลัวว่าจะหลุดไปกับพวกเชลียร์ ตกลงไม่มีใครเข้าใกล้เลย เหมือนกับคนเป็นโรคเรื้อน ไม่อยากให้ใครเข้าใกล้ เป็นคนที่โดดเดี่ยว เหงา เปล่าเปลี่ยว ไม่รู้จะทำอะไรบางครั้งเลยต้องเล่นกับตัวเอง เล่นอะไรผมไม่รู้ เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ปรากฏว่า พ่อแม่พี่น้องที่เขาปลูกลำไย เขาจะมาร้องเรียนเรื่องลำไยราคาตกเหลือกิโลละ 2 บาทเอง ก็ไม่ให้เขาพบ เพราะเขามาเหตุผลที่เขาต้องมา ไม่ให้เขาพบ พ่อแม่พี่น้องชาวลำพูน เชียงใหม่ที่ปลูกลำไยก็โกรธไม่รู้จะทำอย่างไรก็ทิ้งลำไยมันบนถนนเลย ให้มันเลอะเทอะไปหมดทั้งถนน นี่ไงพ่อแม่พี่น้องชาวเหนือ นี่คือนายกฯ คนเหนือของคุณ เห็นหรือยัง ทำไมไม่เอาอย่างพ่อแม่พี่น้องชาว จ.เชียงใหม่ เขต 1 บ้างล่ะ เขต 1 ที่เขาไม่เลือก ส.ว.ที่ชื่อนางพอฤทัย ชินวัตร ภรรยาของพายัพ ชินวัตร คุณต้องเลือก คุณเห็นหรือยังว่าวันนี้คุณเนี้ยนะ ลำไยเหลือกิโลละ 2 บาท คุณจะไปพบเขาเขายังมองเห็นคุณเป็นศัตรูไม่ให้คุณเข้าใกล้ คุณจะไปร้องเรียนเขายังไม่ให้ร้องเรียนเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วคุณรู้อะไรหรือเปล่าพ่อแม่พี่น้องชาวเหนือ ผมอยากให้คุณฟังเรื่องนี้ พ่อแม่พี่น้องชาวเหนือที่ดูรายการนี้อยู่ฟังแล้วไปเล่าให้พ่อแม่พี่น้องชาวเหนือฟัง พ่อแม่พี่น้องชาวเหนือรู้ไหมว่ารัฐบาลบ้า 4 ปีที่แล้วมันขอเงินไป 12,000 ล้านบาท เพื่อไปแก้ปัญหาเรื่องลำไย ไม่มีใครรู้เห็นไหม มันเอาไป 4,000 ล้านบาท เพื่อมาซื้อลำไยเก็บเข้าโกดัง ปรากฏว่าลำไยเน่า เอาไปอบแห้งมันเลยไปบดทำเป็นปุ๋ยซะ เสร็จเรียบร้อยแล้วลำไยหาย ลำไยหายไป 5,000 ตัน ปรากฏลำไยไปโผล่ที่เมืองคุนหมิง ที่เก็บของอยู่ตรงสถานีรถไฟคุนหมิง เพราะอะไร เหตุผลเพราะว่า มันร่วมมือกับนักการเมืองท้องถิ่นและเจ๊คนหนึ่งอ้วนๆ ขนลำไยหาย ลำไยที่หาในสต็อกไม่เจอ แล้วส่งไปขายคนจีน เก็บเอาไว้ที่นั่นแล้วรับเงินมา แล้วให้เป็นสต็อกลม จนกระทั่ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ไปทำคดี ปรากฏว่าจบสิ้นลงที่ชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน สาวไม่ถึงเจ๊อ้วนๆ คนนั้น หรือว่านักการเมืองเลยแม้แต่นิดเดียว นี่เห็นไหม โกงลำไยอย่างมหาศาล เวรกรรมมีจริง ปรากฏว่าอีกครั้งหนึ่ง 2545 ที่ลำไยเสีย 4,000 ล้าน ปรากฏว่าลำไยปี 2546 กับ 2547 มีอีก 30,000 ตัน รอเวลาทำเป็นปุ๋ยเพราะขายไม่ออกแล้ว แต่ว่าเก็บเป็นความลับไม่ยอมพูด เพราะว่าอะไรพ่อแม่พี่น้อง เพราะว่าใกล้เลือกตั้ง จะเสียคะแนนต้องเก็บเรื่องนี้ให้ลึกที่สุด เพราะฉะนั้นแล้วนายทักษิณใช้เงิน 12,000 ล้าน เอาลำไยมาอบแห้งเสร็จแล้วแปรรูปเป็นปุ๋ย ตกแล้วราคา 1 ล้านบาท เก่งนักไม่ใช่หรอ แบ่งรัฐวิสาหกิจแปรรูปให้เป็นสมบัติตัวเองก็ทำมาแล้ว แปลงสินทรัพย์เป็นทุนก็ทำมาแล้ว ตอนนี้แปลงเงินหลวงหมื่นล้านให้เป็นปุ๋ยลำไยราคาล้านเดียว เก่งจริงๆ เกิดชาติไหนทำไมไม่ลงนรกแล้วไปเก่งในนรกล่ะ
สนธิ - พ่อแม่พี่น้องจะเห็นได้ชัด ที่น่าสังเกตอย่าง นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ก็ไปไพล์นั้นด้วย ธรรมดาคนๆ นี้อย่าให้ได้มีช่องออกทีวีเลย ถ้ามีช่องออกทีวีนางคนนี้ไม่มีพลาด เรื่องนี้นะคะดิฉันมองแล้วว่ามันจะต้องเป็นไปอย่างนี้นะคะ รับรองว่าทำได้สำเร็จ แต่เรื่องนี้เงียบสนิทไม่กล้าพูดเลยแม้แต่แอะเดียว ลมก็ไม่กล้าผาย เงียบสนิทเห็นได้ชัด แล้วที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง น่าสนใจมาก วันที่ 15 สิงหาคม พอไล่ม็อบชาวสวนลำไยเสร็จ ก็ประกาศออกมุกปราบปรามยาเสพติด หาเรื่องชาวบ้านอีกแล้ว บอกไอ้พวกยาเสพติด หวยเถื่อน มันก็คือไอ้พวกพันธมิตรละ เอาเงินให้พันธมิตร เดี๋ยวนี้ไปปล่อยข่าวทั่วไปเลยว่า พวกพ่อค้ายาเสพติดลงขันเอาเงินมาให้ผม ถ้าเอาเงินมาให้ผมผมต้องถอดกางเกงอย่างไรเล่า ผมไม่ต้องถอด ทีนี้วันที่ 15 เดิมทีจะไปที่ปางสวนแก้ว พ่อแม่พี่น้องที่เคยไปเชียงใหม่จะรู้จักปางสวนแก้ว ที่เขาเรียกกันว่า กาดสวนแก้ว สมัยก่อน มีช็อปปิ้งมีคนเยอะแยะหมด กลัวเพราะว่าแถวนั้นคนชนชั้นกลางเยอะ กลัวโดนด่า โดนไล่อีก ก็เลยไม่กล้าไป แต่เบื้องหลังวันนั้นที่จะต้องไป ต้องไปเจอพวกหอการค้าเชียงใหม่ ปรากฏว่า เหตุผลที่ไม่ไปจริงๆ เพราะว่า เคยไปตอแหลกับเขาเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว สัญญาว่าจะให้โน้นให้นี่ ปรากฏว่ากลับมาครั้งนี้เขาถือหนังสือสัญญามาทวง แล้วตัวเองรู้หมดว่าทำไม่ได้ 6 กุมภาพันธ์ 2549 ที่โรงแรมดาราเทวี นายทักษิณประชุมกับหอการค้าเชียงใหม่ ทางภาคเหนือ รับปากเขานะ รับปากว่าจะทำ 1 ทำ 2 ทำ 3 ทำ 4 ทำ 5 ให้ แต่วันนี้ไม่ได้ทำอะไรให้เลย ยกตัวอย่าง รับปากการนิคมอุตสาหกรรมที่ลำพูน ว่าจะให้กระทรวงอุตสาหกรรมขยายการนิคมฯ ไปอีก เป็นส่วนที่ 2 รวมทั้งจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้า ไม่มีความคืบหน้า รับปากเรื่องปัญหาขยะของเชียงใหม่ เชียงใหม่วันนึงมีขยะประมาณ 300 - 350 ตัน รับปากว่าจะจัดการเรื่องนี้ให้ ไม่มีความคืบหน้า ขยะจากเชียงใหม่ยังถูกขนไปทิ้งที่ลำปาง ที่กำแพงเพชร ที่ตาก อยู่เหมือนเดิม
สนธิ - เรื่องที่ 3 จะสร้างจุดขายท่องเที่ยว เชื่อมพรมแดนระหว่างพม่า ลาว กลุ่มล้านนา ประเทศเพื่อนบ้าน จีนตอนใต้ เวียดนามตอนเหนือ ไม่มีผลอะไรที่เกิดขึ้น แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์หลายแห่งมีความทรุดโทรม เช่น โบราณสถาน วัดพระธาตุลำปางหลวง ซึ่งเป็นต้นแบบของวัดแห่งวัฒนธรรมล้านนา วัดศรีรองเมือง ซึ่งเป็นวัดศิลปะพม่าที่เก่าแก่ รับปากว่าจะซ่อมแซมวัดเก่าๆ ไม่ทำ แต่ทะลึ่งเอาเงินไปสร้างอีไนท์ ซาฟารี ให้พวกสัตว์ป่าอยู่ เหมือนกับว่าจะสร้างให้พรรคพวกตัวเองเข้าไปอยู่ในที่สุด นะครับ เนี่ยเห็นมั้ย เห็นหรือยัง โบราณสถานคู่บ้านคู่เมืองที่ภาคเอกชนเขาเสนอให้พัฒนา ไม่ทำ นะฮะ
สนธิ - เรื่องที่ 5 รับปากว่าจะสร้างถนนสายเชียงใหม่ – สะเมิง - แม่ฮ่องสอน แทนที่จะวิ่ง 1,400 กว่าโค้ง จะเจาะอุโมงค์ลอดใต้เขาให้สั้นลง รับปากไว้เรียบร้อยแล้วนะ ที่ไม่ทำก็เพราะว่า คุณประมวล รุจนเสรี ซึ่งเป็นคนแม่ฮ่องสอน และผลักดันโครงการนี้ ประกาศตนเป็นฝ่ายตรงกันข้ามกับไทยรักไทย ก็เลยถีบโครงการนี้ทิ้งไปซะ เห็นหรือยัง ไม่เคยทำตามอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะฉะนั้นแล้วสภาหอการค้าเชียงใหม่ ก็ย่อมรู้ ทางภาคเหนือก็ย่อมรู้ว่า คนๆ นี้เนี่ย คำพูดที่หลุดออกจากปาก ไม่ได้ต่างกว่าลมที่สุนัขผายออกมาเลยแม้แต่นิดเดียวนะครับ
สนธิ - 16 สิงหาคม วันพุธ ตอนเช้า ประกาศวางก้อนหิน เย็นประกาศเช็กบิล วางก้อนหิน วางยังไง ทำเป็นเอาธรรมะมาสอนผม ลำพังแค่หิริโอตัปปะ ยังไม่เข้าใจ สะกดยังไม่เป็น มาทำเป็นปล่อยวาง บอกว่าผมเนี่ยแบกก้อนหินหลายก้อน ผมวางไว้ก้อนนึง ที่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ คล้ายๆ ว่าปล่อยวางแล้ว ผมจะบอกนายทักษิณเอาไว้ ก้อนหินผมในชีวิตนี้มีอยู่ก้อนเดียว แล้วผมไม่มีวางเป็นอันขาด คือตัวคุณ ผมสัญญากับพ่อแม่พี่น้อง ผมสัญญากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผมสัญญากับพระสยามเทวาธิราช เจ้าพ่อหลักเมือง ผมสัญญากับพระแก้วมรกต ว่าตราบใดถ้าคุณยังไม่ไปจากแผ่นดินนี้ ในตำแหน่งนายกฯ ผมจะไม่มีวันวางก้อนหินก้อนนี้ ให้ก้อนหินนี่มันทับผมให้ตายห่าไปเลย
สนธิ - เช้าประกาศบอกว่า จะปล่อยวาง เย็นให้พวกป่าไม้ไปไล่ตีพันธมิตรฯ ที่ จ.ตาก เช้าประกาศอย่างนั้น เย็นให้ป่าไม้ไปทำ คนแบบนี้ไว้ใจได้ยังไง เดิมทีจะไปแม่สอด ปรากฏว่าเปลี่ยน เปลี่ยนๆ กำหนดการไปแม่สอด เพียงเพราะเหตุผลข้อเดียว อ้างมา 2 ข้อ อ้างมาบอกว่าอากาศมันปิด เลยไปไม่ได้ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ ที่แท้จริงก็คือ พล.ต.สะพรั่ง แม่ทัพภาคที่ 3 ได้สั่งทหารพรานเอาไว้ ว่าให้ระวังเอาไว้นะ ที่แม่สอดมันเป็นชายแดน เมืองชายแดนติดกับพม่า เมื่อติดกับพม่าแล้ว ระวังกองกำลังต่างชาติที่จะแฝงมาในรูปแบบของลูกจ้างป่าไม้ ก็เลยตัดสินใจไม่กล้าไป เพราะว่ากลัวโดนลุย ก็เลยปฏิเสธที่จะไปที่แม่สอด เห็นหรือยัง เลยไปตากแทน แล้วก็ให้ผู้ชายใจสุนัข ใจหมา พวกป่าไม้เนี่ย ไปรังแก ดูพวกนั้นสิ พวกป่าไม้ยืน มันแต่งตัวเหมือนทหาร มันจะบ้าไปแล้วรึไง ไอ้พวกนี้มันบ้าไปแล้ว เห็นหรือยัง เขาให้มาดูแลพันธุ์ไม้ รักษาสัตว์ป่า ทะลึ่งมาปกป้อง ล้อมทรราช เห็นหรือยังพ่อแม่พี่น้อง ว่าทำไมผมถึงต้องแบกไอ้ก้อนหินบ้าๆ นี้ ทั้งๆ ที่ไม่อยากแบก แบกไป หนักไป เจ็บตัวไป ก็ต้องแบกนะฮะ เพราะฉะนั้นแล้ว พอตกเย็นโรคเก่ากำเริบ คือโรคจิตสับสนปากวิปลาศ ไปประกาศต่อหน้าชาวบ้านที่ จ.พิษณุโลก ที่ถูกเกณฑ์มา 5 พันคน บอกอะไรรู้ไหม บอกว่าหลังเลือกตั้งแล้วจะเช็กบิลพวกเรา เขาบอกหลังเลือกตั้งจะเช็กบิลพวกเรานะครับ ผมอยากจะพูดอย่างนี้ ผมอยากจะพูดว่าคุณเนี่ยยังแน่ใจเหรอว่ายังจะมีเลือกตั้ง คุณไม่มุ่งหวังอะไรมากจนเกินไปหรือไง เดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟังนะครับ เดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟังนะฮะ สมคิดก็ไปแล้ว พินิจก็ไปด้วย สุรนันทน์ก็ไปก่อนหน้านี้ วิษณุ บวรศักดิ์ ก็ไปตั้งแต่ปีมะโว้ ผมจะบอกให้พ่อแม่พี่น้องฟัง จริงๆ แล้วเนี่ย นายพินิจเนี่ยพูดความจริง แต่นายพินิจเนี่ยเป็นพวกหูผีจมูกมด ก็คือว่า จมูกไว นะฮะ พูดออกมา รีบแก้ตัว คือนายพินิจนี่เป็นนักการเมืองที่เชื่อใจไม่ได้ แต่ว่าลึกๆ แล้วนายพินิจเคยพูดกับคนใกล้ชิด พูดว่ายังไง พูดบอกว่าเรื่องอะไร ผมทำให้ทักษิณได้ทั้งนั้น แต่เมื่อนายทักษิณมาสู้ในหลวง ผมขอโกยแล้วโยม
สนธิ - นี่คือข้อเท็จจริงที่นายพินิจพูด ส่วนนายสมคิดนั้นเนี่ย ให้นายพินิจมาพูดแค่นี้ ต้องถือว่าเป็นความกล้าหาญที่สุดในชีวิตแล้ว เพราะนายสมคิดเนี่ยไม่เคยสะกดคำว่ากล้าหาญไม่เป็น แต่ว่าทำได้แค่นี้ต้องถือว่ากล้าหาญ เพราะว่าผมเห็นใจเขา ภรรยาเขาเป็นอดีตอาจารย์จุฬาฯ คณะอักษรศาสตร์ เป็นคนน่ารัก เป็นคนเก่ง ภาษาอังกฤษดีมาก เขามีเพื่อนอาจารย์ที่อยู่จุฬาฯ คณะอักษรศาสตร์เป็นคณะในจุฬาฯ หนึ่งในหลายๆ คณะที่เป็นคณะกู้ชาติ จำได้มั้ยที่สยามพารากอน พวกอาจารย์คณะอักษรศาสตร์มาร่วมตลอดเวลา ความเจ็บช้ำน้ำใจของภรรยานายสมคิดที่ต้องไปเจออาจารย์แล้วตอบคำถามไม่ได้ อับอายขายหน้าที่สามีตัวเองยังมานั่งร่วมพายเรือให้โจรนั่ง ทำให้เขานี่อึดอัดใจมาก เขาไม่กล้าพูด เพราะธรรมดาตัวเองเป็นคนไม่เคยกล้าอะไรอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจะพูดก็เลยต้องวานนายพินิจมาพูด เห็นหรือยัง เพราะฉะนั้นตัวเองเมื่อพูดแล้วตัวเองก็กลัวนักข่าวจะจี้ ก็เลยต้องหลบซ้าย หลบขวา พ่อแม่พี่น้องจะเห็นได้ชัดนะครับว่า คนๆ นี้ นายทักษิณคนนี้เนี่ย ใช้ไม่ได้ คือวันนี้เราประชุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมา ปรากฏว่ามีการพูด พี่ลองของผม พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ก็พูดบอกว่า เราต้องเน้น เราต้องเน้น สนธิ ไม่ได้นะ เราต้องเน้นนะว่านายกฯ ทักษิณเนี่ยเป็นคนที่ไม่มีความชอบธรรม พี่ลองหยุดพูดได้แล้วเรื่องความชอบธรรม ไอ้บ้านี่ไม่มีหรอกอย่าไปพูดกับมัน ทำอย่างไรจะไล่ให้ไปให้ได้ลูกเดียวเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นแล้วความชอบธรรมไม่มี
สนธิ - พ่อแม่พี่น้อง นายทักษิณไปที่ไหนก็โดนไล่ ไปซอยละลายทรัพย์ก็โดนเจ๊ไก่ของพวกเราไล่ ไปขอนแก่นก็โดนไล่ ไปตากก็โดนไล่ ไปพิษณุโลกก็โดนไล่ จุดเทียนเล่มเล็กๆ ที่พวกเราร่วมกันจุดเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2548 ได้กระจายออกเป็นแสงเทียนเล็กๆ ทั่วราชอาณาจักร ถึงตอนนี้ไม่มีใครกลัวคุณอีกแล้วนายทักษิณ ขอให้คุณรู้ไว้ด้วย ประชาชนคนไทยไม่มีใครกลัวคุณอีกแล้ว เพราะฉะนั้นแล้วเลยต้องงัดวิชามารออกมาเล่น ตอนนี้เขาใช้วิธีสร้างกองกำลังส่วนตัวเขา ก็อย่างที่พ่อแม่พี่น้องเห็นในวิดีโอ ป่าไม้แต่งตัวเหมือนทหารเลยนะ เป็นไปได้อย่างไร ไปฝึกอาวุธ ฝึกการสลายม็อบ หน้าที่ของป่าไม้ไปฝึกการสลายม็อบทำไม หน้าที่ป่าไม้ต้องไปรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ป้องกันไม่ให้มีคนลักลอบตัดไม้ ไม่ใช่การฝึกสลายม็อบ นี่คือการทำโดยใช้อำนาจรัฐ การทำทางปิดก็มีอีกทางหนึ่ง พ่อแม่พี่น้องรู้ไหม เขามีกระบวนการที่ทำให้เกิดปฏิญญาฟินแลนด์ขึ้นมา กระบวนการนี้เขาได้สร้างอะไรขึ้นมาพ่อแม่พี่น้องรู้ไหม เขาสร้างเครือข่ายการสร้างมวลชนเก่าๆ สมัยที่ยังเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์อยู่ตามที่ต่างๆ เขาเอาเงินไปให้พวกนี้ ตั้งบริษัทๆ หนึ่งเป็นบริษัทขายตรง บริษัทบ้ามีเงินหมุนเวียนหลายร้อยล้านบาท พ่อแม่พี่น้องรู้ไหมมันขายอะไร ฉากหน้ามันขายขนมจีน หลายร้อยล้านบาท แล้วไปสร้างสมาชิกอดีตพวกกองกำลังพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ที่ยังฝักใฝ่ในอุดมการณ์เดิม ตอนนี้ทุกจังหวัดมันมีหมด มากน้อยแล้วแต่วางเอาไว้ นี่คือสิ่งซึ่งเขาเตรียมตัวเอาไว้ พ่อแม่พี่น้อง ต้องเล่าให้ฟัง นี่คือสิ่งซึ่งพัฒนามาตลอดเวลา นี่คือสิ่งซึ่งเขาชอบพูดตลอดเวลา พันธมิตรฯ หรอ คนไม่กี่แสนคนเดี๋ยวจะเอามาสัก 2-3 ล้านคนให้ดู เพราะฉะนั้นแล้วพ่อแม่พี่น้องต้องรู้ ต้องรู้ว่ามันไม่ใช่อย่างที่คิด พ่อแม่พี่น้องครับอย่าเพิ่งด่าแรงนัก โดยเฉพาะแถวหน้ามันกระเด็นถึงผม กรุณาสงบปากสงบคำเอาไว้สักนิดหนึ่ง เพราะว่าคุณนั่งตรงผมเลย พอคุณบอกไอ้เชี้ยมันเข้ามาตรงนี้ เก็บปากเก็บคำเอาไว้นะครับ
สนธิ - เอาละพ่อแม่พี่น้อง ผมจะเล่าเรื่องขี้โกงครั้งหลังสุดให้พ่อแม่พี่น้องฟังอีกครั้งหนึ่ง ขี้โกงครั้งหลังสุด เมื่อเร็วๆ นี้ มีมติ ครม.ให้มีการสั่งซื้อรถเมล์ที่ใช้แก๊สเอ็นจีวี จำนวน 2,000 คัน ราคา 24,000 ล้านบาท พ่อแม่พี่น้องฟังให้ดีๆ แก๊สเอ็นจีวีมันคือแก๊สอะไร มันคือแก๊สธรรมชาติอีกประเภทหนึ่งที่เขาเอามาทำเป็นเชื้อเพลิงขับเคลื่อนรถยนต์ แก๊สเอ็นจีวีมันสามารถประหยัดค่าน้ำมันให้กับรถได้ ยกตัวอย่าง ถ้าคุณเดิมน้ำมันเบนซิน ดีเซล 1 ลิตร 15.16 บาทในระยะเวลา 1 กิโลเมตรรถเมล์วิ่ง ในระยะเดียวกันนั้นถ้าใช้แก๊สเอ็นจีวี ใช้แค่ 3.40 บาท มันถูกกว่ากันหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ ทีนี้พอเปลี่ยนน้ำมันเบนซินเป็นแก๊สเอ็นจีวี มันเหมือนยิงกระสุนนัดเดียวได้นก 3 ตัว ตัวแรกได้ภาพว่าประหยัดพลังงาน ตัวที่ 2 ปตท.จะได้กำไรมากขึ้น ซึ่งหุ้นส่วนส่วนหนึ่งของปตท.คือพวกเขาจะได้กำไรตามไป อันที่ 3 จะได้มีการคอร์รัปชั่นรถเมล์ก่อนเลือกตั้ง วิธีคอร์รัปชั่นอย่างไร พอประกาศออกมาว่าจะมีการซื้อรถเมล์ 2,000 คัน คันละ 12 ล้านบาท เป็น 24,000 ล้านบาท เกาหลีเข้าสู้ ญี่ปุ่นเข้าสู้ อเมริกาเข้าสู้ ทุกประเทศเข้าสู้ ปรากฏว่าทุกคนไปดูหนังโกยแล้วโยม กันทุกคน ทุกคนโกยหมดเพราะว่าเจอ 30 เปอร์เซ็นต์ 40 เปอร์เซ็นต์ที่ต้องจ่าย ทุกคนรับไม่ไหว ทำอย่างไร ก็ต้องไปหาเจ้าเก่าคือประเทศจีน ซึ่งส่งเสริมการคอร์รัปชั่นในประเทศไทยอย่างมาก ผมสนิทกับประเทศจีน แต่ผมต้องเตือนสติประเทศจีนนิดหนึ่ง ช่วงหลังๆ ประเทศจีนมาร่วมทำการคอร์รัปชั่นกับบรรดานักการเมืองไทยรักไทย เหมือนกับการปล้นชาติไทย ถ้ารัฐบาลจีนไม่ลงมาดูเรื่องนี้ให้ดีๆ ไม่ทำอะไรโปร่งใส เราน่าจะหันไปคบไต้หวันดีไหม ใช่ไหม ผมจะเตือนสติประเทศจีนไว้นะ คุณอย่ามาตีซี้ซั้วเหมานะว่าคุณทำอะไรก็ได้แล้วพวกผมจะหนุนคุณตลอดเวลานะ ถ้าคุณยังไม่ยุติ การสนับสนุนโดยที่ผ่านบริษัทรัฐวิสาหกิจของคุณให้มาคอร์รัปชั่น เพราะฉะนั้นแล้ววิธีการคือไง ก็เลยไปตั้งบริษัท เชิญประเทศจีนเข้ามาประมูล ประเทศจีนก็เลยเข้ามา พร้อมที่จะจ่าย 30-40 เปอร์เซ็นต์ ให้ ไอ้บริษัทบ้านี่นะ มันก็ชื่อบริษัททางเซี่ยงไฮ้บริษัทหนึ่ง เขาทำยังไงรู้ไหม จีนเนี่ยมาร่วมคอร์รัปชั่นกับไทยยังไง ไม่ใช่เฉพาะรถเมล์ จำเรื่องโรงงานยาสูบได้มั้ย ก็ฝีมือประเทศจีน มันเป็นไปได้ยังไงพ่อแม่พี่น้อง กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายต่อต้านการสูบบุหรี่ ห้ามคนสูบบุหรี่ในอาคาร ห้ามคนสูบบุหรี่ในร้านอาหาร ปริมาณการขายบุหรี่ก็ลดลง ปริมาณการผลิตบุหรี่ของโรงงานยาสูบก็ลดลง เมื่อมันเป็นนโยบายอย่างนี้แล้ว การคาดการณ์ของคนสูบบุหรี่ในอนาคต 10 -15 ปี 20 ปีข้างหน้านั้น มันตกลงแน่นอนที่สุด เขาคาดการณ์ไว้เรียบร้อยแล้ว แต่คุณทะลึ่งไปสร้างโรงงานยาสูบใหม่ ที่มีกำลังผลิตมากกว่าปัจจุบัน 2 เท่า เห็นหรือยังว่านี่คือการคอร์รัปชั่น เจตนาการคอร์รัปชั่น ทำไมต้องสร้างให้กำลังการผลิตมันเยอะกว่าเก่าล่ะ เพื่อวงเงินจะได้เยอะ ใช่มั้ย จาก 9 พันล้าน ที่ผมเคยพูดในเมืองไทยรายสัปดาห์ จำได้มั้ย ที่ประเทฟิลิปปินส์เขาบอกว่า กระบวนการผลิตแบบนี้เนี่ย ฟิลิปปินส์เขาลงทุนแค่ 9 พันล้าน แต่ว่าอีเจ๊คนนี้เนี่ยไปบังคับให้เขาเพิ่มงบประมาณเป็น 16,000 ล้าน มันกะจะกินทีเดียว 7-8 พันล้านเลย เหมือนกับจะกินเรื่องเกี่ยวกับเครื่องบินซู จำได้เปล่า มันกินทีเป็นหมื่นล้าน นี่มันจะกินกันไปหมดเลยนะ มันจะกินจนกระทั่งมันไม่มีอะไรเหลือให้กับลูกหลานประเทศไทยในอนาคตแล้ว นี่ว่าทำไมมันถึงถังแตก มันแตกดังโพละ ล่ะ เพราะว่าต้นทุนประเทศมันสูง ใช่มั้ยพ่อแม่พี่น้อง เวลามันคอร์รัปชั่นเนี่ยอะไรเกิดขึ้น ต้นทุนพวกเราสูง ใช่มั้ย ต้นทุนพวกเราสูง พวกเราต้องจ่ายทุกอย่างแพงหมดเลย ถูก ไม่ถูก
สนธิ - เอาล่ะ เขาจะคอร์รัปชั่นยังไงล่ะ วันที่ 25 มีนาคม 2549 จริงๆ แล้วความคิดที่จะซื้อรถเมล์เนี่ย มันเริ่มตอนที่พวกเราชุมนุมกันอยู่ที่ลานพระรูป ครั้งนั้น ที่ชุมนุมกันอยู่ที่ลานพระรูป ที่ผมเป็นคนนำพ่อแม่พี่น้องคนเดียว ยุคนั้น นั่นล่ะกำลังคิดกันอยู่แล้ว แต่ว่า หัวใส ความคิดหัวใสเริ่มขึ้นจริงๆ ก็คือสิงหาคม 2549 เดือนนี้เอง เมื่อเร็วๆ นี้เองล่ะ เริ่มยังไงรู้มั้ย เริ่มด้วยการลดภาษีรถเมล์นำเข้าเอ็นจีวี ให้เหลือ 0 เปอร์เซ็นต์ 0 เลยนะ เพื่อจะได้มีการเอารถเมล์ 2 พันคัน เข้ามาประมูล เขียนทีโออาร์กันแล้ว เอาล่ะ ทีนี้พอผู้อำนวยการ ขสมก. บอกว่า ตังค์ไม่มี สำนักงบประมาณก็บอก ตังค์ไม่มี ประเทศจีนซึ่งสมคบผ่านบริษัทรัฐวิสาหกิจจีน กับนักการเมืองชั่วๆ ในเมืองไทย ก็บอกว่า เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน อั๊วะให้ลื้อฟรี ลื้อไม่ต้องจ่ายอั๊วะเลย อั๊วะให้ไป 2 พันคัน นะ เอาล่ะ แล้วใครจ่าย 2 พันคัน มันไม่มีอะไรที่ฟรี เขาบอกไม่มีตังค์ ไม่เป็นไร เอาไป ผมจะบอกให้ ค่าแก๊สเอ็นจีวีนั้น กิโลนึง เขาขายเป็นกิโล 8.50 บาท ไอ้บริษัทบ้าเนี่ย ร่วมมือกับนักการเมืองชั่วๆ ก็ไปตกลงกับ ปตท. บอกว่า เฮ้ย ลื้อขายแก๊สออกมาให้รัฐบาล ไม่ใช่ 8.50 บาท ลื้อบวกไปอีก 12 บาทต่อกิโลฯ เข้าใจยัง เป็น 20.50 บาท ระยะเวลาที่อั๊วะให้ลื้อเนี่ย 15 ปีผ่อนส่ง เมื่อเอา 15 ปีผ่อนส่ง คูณเข้าไปแล้ว ตกราคารถยนต์คันละประมาณ 12 ล้านบาทต่อคัน ซื้อ 2 พันคัน ก็ 24,000 ล้านบาท พ่อแม่พี่น้องต้องจับตาดูดีๆ ความเป็นจริงแล้ว จริงๆ แล้วรถเมล์ 2 พันคัน ผมให้ผ่อนให้เต็มทีเลย ตกไม่เกินคันละ 4.5 ล้านบาท ตกแค่ 9 พันล้านเอง นี่มันจะรับประทานอีก หมื่นห้าพันล้านบาท โดยผ่านราคาแก๊ส อี ปตท. ชาร์จมา 20 บาท แล้วก็จ่ายคืนไปเป็นค่ารถ แค่นี้เอง เห็นหรือยังว่ามันยัดห่ากัน อย่างชนิดที่เรียกว่ามันไม่มีหิริโอตัปปะเลยแม้แต่นิดเดียว เห็นหรือยังพ่อแม่พี่น้อง แล้วถ้าไม่มีพวกเราเนี่ย แล้วไม่มีพวกเราเนี่ยมันก็กินกันสบาย แล้วคำถามว่า แล้วไอ้ ขสมก. ที่มันเอารถเมล์ไปดัดแปลงเป็นรถแก๊สเอ็นจีวี เป็นพันๆ คัน ไอ้รถเก่าจะทำยังไง ไม่ยากอะไรนี่ ยกให้กับเทศบาลเมืองเชียงใหม่ พันคัน ส่วนอีก 3 พันคัน อีก 3,600 คันนี้ ก็เอาไปให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แล้วรู้ไหมว่าใครคือต้นคิดอันนี้ เจ๊บ้านทรายทอง แล้วบอกว่า พอแล้วไง แต่งกจนตัวเป็นขน ขนาดผัวตัวเองกำลังจะโดนไล่ออกจากประเทศแล้ว ยังทำมาหารับประทานกันไม่หยุดไม่หย่อน ยิ่งใกล้เวลาไปยิ่งทำมาหากินเยอะมาก
สนธิ - พ่อแม่พี่น้องครับ เบื่อจริงๆ เรื่องชั่วๆ เรื่องเลวๆ แบบนี้ แต่ไม่รู้จะทำยังไง มีอีกเรื่องนึง ขอเวลาผมนิดนึง แล้วผมจะเอาความจริงมาเปิด พ่อแม่พี่น้องจำได้ใช่มั้ยในเรื่องของการแบ่งเขตในทะเล อาทิตย์ที่แล้วที่ผมพูด จำได้เปล่า พ่อแม่พี่น้องอย่าเพิ่งไปวางใจ ลึกๆ แล้วหลายๆ เกาะที่อยู่แถวๆ นั้นเนี่ย ได้ถูกต่างชาติยึดไปได้สัมปทานทำเรียบร้อยหมดแล้ว เขาไล่ให้ทหารเรือเนี่ยออกจากเกาะซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ แล้วเขายกเกาะให้คนนี้เช่าไป 50 ปี ให้คนนี้เช่าไปเท่านั้นปี แล้วไอ้เส้นบ้าที่ผมลากให้ดูคราวที่แล้ว เห็นเปล่า มันแบ่งเกาะกูดออกเป็นครึ่งหนึ่งนะ จากแต่ก่อนเกาะกูดเป็นของคนไทย อีกครึ่งหนึ่งต้องยกให้เขมรไป แล้วอันนี้เขาไม่เรียกว่าขายชาติ ขายแผ่นดิน แล้วเขาเรียกว่าอะไร พ่อแม่พี่น้อง เกิดมาตายอีกร้อยชาติยังไม่คุ้มค่ากับที่คุณทำกับชาติบ้านเมือง ใช่ ไม่ใช่ พ่อแม่พี่น้อง เอาไว้ใจเย็นๆ แล้วผมจะมาเปิดต่อไปอีกนะฮะ
สนธิ - เอาล่ะ เรามาพูดถึงเหตุการณ์อาทิตย์ที่ผ่านมานิดหนึ่ง เรื่องป๋าเปรมลงใต้ นะฮะ ป๋าเปรมลงใต้วันที่ 14 สิงหาคม 2549 ในขณะที่นายทักษิณขึ้นเหนือ สังเกตป๋าเปม มีนายทหารติดตามอยู่ไม่กี่คน แต่นายทักษิณไปต้องมีป่าไม้ล้อมเป็นพันคน เห็นหรือยัง แล้วเวลาป๋าเปรมไปนี่ ป๋าเปรมเชิญผู้นำศาสนาทุกจังหวัด 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ได้ดูแค่ 3 ดู 5 เชิญมาประชุม แล้วมาถามบอกว่าปัญหาอยู่ที่ไหน มาช่วยกันแก้ นี่ป๋าเปรมไปนั่งอย่างนี้ ไปนั่งในมัสยิด นั่งคุยจริงจัง ถามถึงปัญหา เราไม่เคยเห็นนายทักษิณทำเช่นนี้ นะครับ นี่คือสนธิฝ่ายบู๊ นี่คือสนธิฝ่ายบุ๋น สนธิฝ่ายบุ๋น ทำหน้าที่บุ๋นมาตั้งนานแล้ว เมื่อไรจะบู๊ซะทีล่ะวะ
สนธิ - ป๋าเปรมลงครั้งนี้เนี่ย มีผู้ร่วมประชุม 26 คน มีประธานคณะกรรมการอิสลาม ผู้ว่าราชการ แม่ทัพภาค 4 นายกสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ประธานชมรมสถาบันปอเนาะ อธิบการบดีวิทยาลัยอิสลามยะลา รองอธิบการ มอ.ปัตตานี นักวิชาการ เยอะแยะไปหมด น่าสนใจมากๆ พ่อแม่พี่น้อง ผมอยากให้ศึกษาดู กำหนดการเดินทาง 14 สิงหาคม 2549 บังเอิญอย่างยิ่งที่ไปชนกำหนดเดินสายพเนจรบำบัดภาคเหนือวันแรกของนายทักษิณ ชนิดที่เรียกว่า พอนายทักษิณเหยียบเชียงใหม่ป๋าก็เหยียบปัตตานี นายทักษิณไปบำบัดจิตเพื่อให้คนร้อง ทักษิณสู้ๆ ทักษิณสู้ๆ แต่ป๋าเปรมลงใต้เพื่อไปแก้ปัญหา คนใต้ได้นายกฯ คนใหม่แล้วคือป๋าเปรม เพราะป๋าเปรมลงไปดูแลคนใต้ ป๋าเปรมไม่มีกองทัพส่วนตัว ไม่มีตำรวจ ทหารล้อมเป็นพันๆ นาย เป็นชั้นๆ ไม่มีหน่วยล่วงหน้า เดี๋ยวนี้นายทักษิณไปไหนต้องมีหน่วยล่วงหน้าไปนะ ไปดูว่าตึกสูงมีใครเอาปืนยาวติดกล้องวางไว้หรือเปล่า ป๋าเปรมไม่มี แล้วสังเกตอย่างน่าสนใจมาก การประชุมครั้งนี้ที่มีการเรียกผู้ว่าราชการจังหวัด เรียกทหารเข้ามาชุมนุมไม่มีตำรวจเข้ามาร่วมเลยแม้แต่คนเดียว ไม่มีตำรวจเข้ามาร่วมด้วยเลย แสดงว่าเขาไม่ยอมรับการแก้ปัญหาตำรวจ พอป๋าเปรมคล้อยหลังไปแค่ 2 วันเท่านั้น เมื่อวันพุธที่ผ่านมา พล.ท.องค์กร ทองประสม แม่ทัพภาค 4 มาพูดในเรื่องของไฟใต้ร้อนระอุ ทำอย่างไรจึงดับ ที่วิทยาลัยกองทัพอากาศ ท่านพูดอย่างไรน่าสนใจมาก ฟังให้ดีๆ ท่านบอกว่า รัฐไม่ได้ส่งคนลงไปดูแลอย่างแท้จริง แต่กลับไปแสวงหาผลประโยชน์ ให้ความอยุติธรรมปกครอง ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ทำให้คนเกิดความรู้สึกว่าเป็นพลเมืองชั้นสองไม่ได้รับการดูแลทั้งเรื่องการศึกษาและการทำงาน แล้วชนตรงๆ เลยไปที่นายชิดชัย วรรณสถิตย์ และบรรดารัฐมนตรีทั้งหลาย ชนไปว่า ท่านพูดว่า ฯพณฯรองนายกรัฐมนตรี คือนายชิดชัย การลงมาแทรกแซงการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีที่ลงมาทำงานในบางเรื่องบางอย่างนั้น ผมคิดว่าเป็นการแทรกแซงทำให้งานบางอย่างที่คิดว่าจะง่ายมันยากขึ้น รัฐมนตรีที่ลงไปทำงานแล้วสั่งคนนู้นคนนี้ แม้กระทั่งไปจัดการเรื่องบางเรื่อง ซึ่งมีทั้งงบประมาณและผลประโยชน์ นี่คือการสร้างปัญหาให้หน่วยในพื้นที่พอสมควร จึงยืนยันว่าไม่มีความเป็นเอกภาพเท่าที่ควร นี่นายทักษิณคุณได้ยินแม่ทัพภาค 4 พูดหรือยัง แม่ทัพทั้ง 4 ภาค 1 2 3 4 ไม่มีใครเอากับคุณเลยแม้แต่นิดเดียว
สนธิ - วันๆ คุณอ่านข่าวบ้างหรือเปล่า คุณฟังคนอื่นพูดบ้างหรือเปล่า หรือวันๆ ฟังแต่ไอ้ห้อยกับไอ้โหน พ่อแม่พี่น้องครับ นายทักษิณไม่สนใจภาคใต้หรอก เพราะว่า ส.ส.เขต 4 100 ที่นั่ง คนใต้มีอยู่ 54 เขต 54 ที่นั่ง กทม. 37 เขต ภาคกลาง ภาคตะวันออก 97 เขต ภาคเหนือ 70 เขต ภาคอีสาน 136 เขต กวาดภาคใต้มาได้ 54 เขต รวมกรุงเทพฯ 37 ก็แค่ 91 เขต เหนือบวกอีสาน รวมแล้วได้ 212 ที่นั่ง บวกกับปาร์ตี้ลิสต์เก็บตกภาคกลางก็เป็นรัฐบาลได้แล้ว เพราะฉะนั้นนายทักษิณไม่สนใจภาคใต้ ไม่สนใจ ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายของพ่อแม่พี่น้องชาวใต้ ที่นายทักษิณไม่เหยียบภาคใต้อีกนาน ภาคใต้ไม่มีอะไรดึงดูดให้เขาไป และที่สำคัญเขากลัวคนใต้ ถ้าพบแบบเบาะจะมีประชาชนชูป้ายไล่ แต่ถ้าแบบดุเดือดอาจจะไม่ชูป้ายอย่างเดียว เรื่องอื่นนายทักษิณปากกล้าขาสั่นมาตลอด แต่สำหรับเรื่องภาคใต้นายทักษิณขี้หดตดหายมานานแล้ว จำได้ไหมว่านายทักษิณลงใต้ครั้งหลังสุดเมื่อไหร่ พ่อแม่พี่น้องจำได้หรือเปล่า 23 ธันวาคม 2548 แล้วลงไปปักหลักอยู่ที่หาดใหญ่ ไม่กล้าไป 3 จังหวัดชายแดน 9 เดือนเต็มๆ แล้วนะที่นายทักษิณไม่เคยเหยียบย่างไป 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่เคยไปแก้ปัญหา ไม่มี ไม่ใส่ใจ ทำเหมือนกับประเทศไทยมีแค่ภาคเหนือและภาคอีสาน เพราะฉะนั้นแล้วก่อนปลายปี 48 ก่อนเลือกตั้ง 2 เมษาฯ นายทักษิณประกาศอย่างเอิกเกริกบอกว่า หลังเลือกตั้งจะให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาใต้ โดยจะไปนอนสัก 2-3 เดือน จำได้หรือเปล่า ตอแหลอีกแล้วใช่ไหม คือปากพ่นไปเรื่อยเปื่อย ครูจูหลิงถูกทำร้ายมาเป็นเดือนๆ แล้วเคยสนใจไปเยี่ยมเขาหรือเปล่า ก็ไม่เคยสนใจ
สนธิ - พี่น้องครับ นายทักษิณไม่ได้หยุดการลงใต้อย่างเดียว แต่คนๆ นี้เจ้าคิดเจ้าแค้น อะไรที่เคยรับปาก เคยคิดจะสร้างให้ตอนนี้ระงับหมดเลย อะไรที่ไปรับปากคนใต้ว่าจะทำนะ ระงับหมดแล้ว ไปแค้นเขาเพราะว่าเขาไม่เข้าแถว แล้วบอกว่า ทักษิณสู้ๆ ทักษิณสู้ๆ เพราะเขามีความคิดของเขาเอง ถนนบายพาสสายใหม่ 140 ล้าน ยกเลิกไม่ทำ สัญญาจะสร้างหอดูเดือนตามศาสนาอิสลาม ใช้เป็นศูนย์กลางแสดงสินค้าโอทอป 300 กว่าล้าน ยกเลิก สร้างอาคารใหม่โรงพยาบาลปัตตานี 120 ล้าน ก็ยกเลิก บอกว่าไม่มีงบประมาณ ยกเลิกหมดเลย นี่คือนายทักษิณ เพราะฉะนั้นแล้วจะเห็นได้ชัดว่า นายทักษิณอย่าพูดโดยไม่มีความชอบธรรม ไม่ใช่ไม่มีความชอบธรรมจะเป็นนายกฯ เลย บางครั้งผมอดคิดไม่ได้ ไม่มีความชอบธรรมแม้กระทั่งจะมีชีวิตอยู่ในฐานะคนไทย
สนธิ - พ่อแม่พี่น้องครับ ผมจะเอาดวงพรรคไทยรักไทยให้ดูก่อนที่ผมจะพูดอีกเรื่องหนึ่ง คือเรื่องกุหลาบแก้ว ซึ่งผมพูดคนละแนวกับที่คุณสัก กอแสงเรือง พูด กรณีเอาดวงพรรคไทยรักไทยขึ้นครับ ผมไม่ได้เก่งเรื่องโหราศาสตร์ แต่ผมเอาดวงของการตั้งพรรคไปให้โหราจารย์หลายๆ ท่านมาผูก ท่านผูกเอาไว้อย่างนี้ เขากำหนดวันที่ 14 กรกฎาคม ซึ่งเขาถือว่าสำหรับเขาเป็นสิริมงคล แต่สำหรับพวกเราถือว่าอัปมงคล เพราะ 14 กรกฎาคม เป็นวันที่ฝรั่งเศสปฏิวัติโค่นล้มกษัตริย์ และนายซัดดัม ฮุสเซน โค่นล้มกษัตริย์ที่ประเทศอิรักเหมือนกัน มาดูพื้นดวงกันก่อนนะฮะ อันนี้ไม่ใช่ผมเขียนนะ แต่โหราจารย์เขาสอนให้ดู เขาบอกว่าลักขณาของดวงพรรคไทยรักไทยนั้น อยู่ที่ราศีสิงห์ มีที่เลข 8 เลข 8 นี้จะอยู่ตรงมุมซ้ายล่างลงมา นะฮะ เลข 8 ที่เขาเรียกว่าราหูกุมลักขณา ราหูเนี่ยมาจากเรือนปัตตานี มากุมลักขณาของนายทักษิณเองเลย เพราะฉะนั้นแล้ว ดวงการตั้งพรรคเนี่ย เขาตั้งขึ้นมาเพื่อมากุมดวงเขาเอง แปลว่าเป็นดวงที่ร่วมหุ้นอยู่ในแหล่งโคจรของพวกโจรที่มีแต่กิเลสหนา มีแต่ความโลภหลงมัวเมา ที่พร้อมจะใช้อิทธิพลมืด โกงกินกันอย่างไม่รู้จบรู้สิ้น หรือพูดง่ายๆ พรรคไทยรักไทยนั้นดวงคือดวงอั้งยี่และซ่องโจร ตามตัวเลขนะครับ มิน่า พรรคถึงตั้งอยู่ข้างหน้าน้ำกาม ข้างหลังเป็นน้ำโคลน เหมือนกัน อยู่ในดงน้ำเน่าจริงๆ ทีนี้ มาดูเลข 5 นะครับ ทางมุมขวาข้างบน เลข 5 นี่ก็หมายถึงดาวพฤหัส ดาวพฤหัสในหลักโหราศาสตร์นี่ถือเป็นดาวคุณธรรม ดวงนายทักษิณส่วนตัวนั้น ดาวพฤหัสไม่ดี ก็คือเป็นคนไม่มีคุณธรรม เอาผูกดวงเลข 5 ดาวพฤหัส เป็นดาวที่บ่งบอกถึงศีลธรรม จริยธรรม คุณธรรม ปรากฏว่าดาวพฤหัสที่ไปวางเอาไว้เนี่ย อยู่ในราศีมีน เป็นเกษตร ธาตุน้ำ อยู่ในเรือนที่มีชื่อว่า มรณะกับลักขณาของพรรคไทยรักไทย ที่อยู่ราศีสิงห์ แปลว่าพรรคการเมืองนี้ไม่มีศีล ไม่มีธรรม ห่างไกลจากคุณธรรม พร้อมทำความชั่วได้อย่างไม่มีหิริโอตตัปปะ นะฮะ
สนธิ - ต่อมาเลข 7 ตรงกลาง ที่เขาเรียกว่าดาวเสาร์ ดาวเสาร์นี่อยู่ในราศีเมษ อยู่ในเรือนศุภะ ทำตรีโกณกับลักขณาพรรคไทยรักไทยที่อยู่ในราศีสิงห์ แปลว่า พรรคนี้จะประสบความสำเร็จกับประชาชนรากหญ้า คนยากจน โดยพรรคจะใช้กิเลส ใช้หนี้สินที่เป็นราหูในการมอมเมาประชาชนรากหญ้า จนได้มาเป็นพวก ดาวราหูคือดาวมอมเมา
สนธิ - เอาล่ะ เรามาดูเลข 6 ซึ่งติดกับเลข 7 ที่เรียกว่าดาวศุกร์ เป็นเกษตรอยู่ในราศีพฤษภ ซึ่งอยู่ในเรือนกระฎุมพะ (***) ของดวงเมือง แต่อยู่ในเรือนศุภะ กับลักขณาพรรคไทยรักไทยที่อยู่ในราศีสิงห์ แปลว่าอะไร แปลว่าพรรคนี้จะแสวงหาเงินและความมั่งคั่งได้อย่างมหาศาลจากทรัพย์สมบัติของแผ่นดิน ด้วยการสมคบกับชาวต่างชาติ ต่อมามาดูเลข 1 เลข 1 ทางซ้ายของผม ทางขวาของท่านผู้ชม เลข 1 คือดาวอาทิตย์ และเลข 3 คือดาวอังคาร อยู่ด้วยกัน อยู่ในราศีเมถุน ซึ่งอยู่ในเรือนลาภะของลักขณาพรรคไทยรักไทย แสดงว่าพรรคนี้จะมีแต่ความขัดแย้งกัน และตบตีกันเองในพรรคเพื่อแสวงหาลาภยศและตำแหน่ง เป็นลักษณะเพื่อจะทำให้เกิดความแตกแยกเพื่อนำไปสู่การแบ่งแยกและปกครอง
สนธิ - เอาล่ะมาดูเลข 4 ตรงกลาง เลข 4 หมายถึงดาวพุธ ดาวพุธคือดาวสื่อสาร คำพูด คำจา อยู่ในราศีกรกฎ อยู่ในเรือนที่มีชื่อว่าวินาศ วินาศกับลักขณาพรรคไทยรักไทย แปลว่าพรรคนี้มีแต่คนปากเสียง เฉาฉุ่ยกันแทบทั้งพรรค น่าสนใจมาก มาดูเลข 2 ทางขวาของผม ทางซ้ายของท่านนะฮะ เลข 2 นี่เป็นดาวจันทร์ ดาวจันทร์นี่คือดาวผู้หญิง อยู่ในราศีกุมภ์ อยู่ในเรือนปัตนิกับลักขณาพรรคไทยรักไทย แต่บังเอิญไปทำตรีโกณกับเลข 3 ดาวอังคาร ซึ่งเสีย แปลว่าผู้หญิงเป็นผู้ร่วมหุ้นที่สำคัญของพรรคไทยรักไทย ประเภทเมียหลวง เมียน้อย มาคุม แต่เนื่องจากมีการทำตรีโกณกับดาวอังคาร แสดงว่าพรรคนี้มีความขัดแย้งในเรื่องชู้สาว มั่วกันเต็มไปหมดเลย
สนธิ - เลข 9 เลขสุดท้าย เลข 9 เป็นดาวเกตุ และเลข 0 เป็นดาวมฤตยู อยู่ในราศีมังกร อยู่ในเรือนอริกับลักขณาพรรคไทยรักไทย แปลว่าอะไร แปลว่าพรรคนี้มุ่งใช้แต่คุณไสย มนต์ดำ เดรัจฉานวิชชา แต่กรรมก็มีจริงครับ เพราะดาวทั้งสองนี้ดันอยู่ในเรือนอริ ทำให้สุดท้ายแล้วพรรคจะต้องพังเพราะต้องชำระคืนกรรมที่ทำชั่วไว้ในที่สุด เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เสียเวลา ปีนี้ดาวราหูจะย้ายจากราศีมีน มาอยู่ในราศีกุมภ์ ในวันที่ 29 กันยายนนี้เป็นต้นไป เมื่อมาโคจรเจอเลข 2 กับดาวจันทร์เดิม จะเกิดเหตุการณ์ครั้งใหญ่ เขาเรียกว่า ราหูทับจันทร์ พรรคจะมืดสนิทไปจนถึงปลายปีหน้า แถมมีหนี้สินตามรังควานพรรคจนแทบอยู่ไม่ได้ หัวหน้าพรรคจะต้องหนีหัวซุกหัวซุน คู่ขาเดิมๆ ทอดทิ้ง ทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส ผมก็เลยฟันธงว่าพรรคไทยรักไทยจะต้องถูกยุบพรรคอย่างแน่นอน
สนธิ - พ่อแม่พี่น้องครับ ก่อนที่จะเข้าสู่การพูดที่สำคัญมาก ซึ่งผมเก็บเอาไว้เป็นการพูดครั้งสุดท้ายนั้น ผมไม่รู้ว่านายทักษิณนี่เวลาพูดจาอะไร เขาเป็นคนซึ่งไม่เคยคิดถึงเรื่องราวในอดีตที่เขาเคยทำมา เพราะฉะนั้นแล้วบางครั้งเขาพูดไปเขาไม่รู้ ยกตัวอย่าง เขาพูดเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2549 เขาพูดว่า วันนี้ปัญหาของคนไทยคือการโดนหลอก แม้กระทั่งคนมีความรู้ยังโดนหลอกง่าย ใครไม่รู้มาหลอกก็เชื่อ คนกรุงเทพฯ เรียนหนังสือสูง ตนยังเสียดายปริญญาที่ได้มา โดนคนไม่ดีหลอกด้วย ช่วยเอารู้ขึ้นดูหน่อยซินี่ไงคนที่มาบอกเราว่าเราโดนหลอก มีปริญญาโดนหลอก คนกรุงเทพฯ โดนหลอก มันนั่งพูดอยู่บนหลังช้าง โดนไอ้ห้อยพาไปแก้ไสยศาสตร์ แล้วมันจบถึงด็อกเตอร์นะ เห็นหรือยัง แล้วมันมีน่ามาบอกว่าเราโดนหลอก ดูซิว่าใครโดนหลอก เขาเขียนว่า ห่วงตัวเองบ้างเถอะว่าตัวเองโดนหลอกตลอด
สนธิ - ตอนนี้มาถึงไคลแม็กซ์ของเรื่อง กรุณานั่งฟังตั้งใจแล้วอย่ามีอารมณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแถวหน้าของผมนี้ ทำไมทักษิณและลิ่วล้อไทยรักไทยต้องการให้การเลือกตั้งวันที่ 15 ตุลาคม เหตุผลง่ายนิดเดียว เพราะว่ามันกำลังจะมี ผมเรียกว่าสึนามิทางคดีเกิดขึ้นตลอดไป เขาถึงต้องการให้มีการเลือกตั้งวันที่ 15 เมื่อเลือกแล้วนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเขาต้องรีบขึ้นไปเหนือ ไปอีสานเพื่อไปหาเสียง พ่อแม่พี่น้องยังจำได้ไหมที่ผมเคยเล่าให้ฟัง ผมบอกว่า คนๆ นี้ ต่อสู้ไม่ใช่เพื่อประชาธิปไตย แต่เพื่อ 73,000 ล้านที่ยังได้เงินไม่ครบ เดี๋ยวผมจะทวนความจำพ่อแม่พี่น้องแล้วย้อนมาที่กุหลาบแก้วแล้วจะเข้าใจ คนๆ นี้เป็นคนซึ่งฉลาดมากในการลงทุนเหมาะที่จะทำมาค้าขายแล้วไปหลอกสิงคโปร์หลอกฮ่องกงหลอกฝรั่ง ในฐานะนักธุรกิจแต่ไม่ใช่ในฐานะผู้บริหารประเทศ เขาไม่เหมาะที่จะอยู่ พ่อแม่พี่น้องจำได้ใช่ไหมที่ผมบอกพ่อแม่พี่น้องว่า การขายหุ้นชินคอร์ปนั้นขายเพื่อเอาเงินที่ได้มาไปซื้อหุ้นการไฟฟ้าฝ่ายผลิต เพราะว่าเขามองว่า พลังงานคืออนาคต ซึ่งถูกต้อง เพราะน้ำมันเพิ่มจากถังละ 20 กว่าเหรียญกลายเป็นเกือบ 100 เหรียญ ปตท.ครึ่งปีแรกกำไรมาแล้วเกือบ 60,000 ล้าน ปีนี้มันต้องกำไรแสนกว่าล้าน ทั้งๆ ที่ซ่อนตัวเลขอยู่ด้วย แสนกว่าล้านแบ่งออกไป 40 กว่าเปอร์เซ็นต์ เกือบ 50,000 กว่าล้าน เอาไปให้พวกนอมินีเลวทรามทั้งหลาย ทีนี้ต้องขายหุ้นชินคอร์ปให้เร็วที่สุด เพราะการขายของ ขายบริษัทหนี่งราคา 20 ล้าน ยังต้องใช้เวลาตรวจสอบ เขาต้องตรวจบัญชีว่าตรงไม่ตรง เขาตรวจสินค้าคงคลังที่คุณบอกว่า มีไม้ตีพริก มีสากเบืออยู่ 10 อัน อยู่ครบไหม 10 อัน ขายของตั้ง 70,000 กว่าล้าน มีทั้งบริษัท เอไอเอส โทรศัพท์มือถือ ไอทีวี แอร์เอเชีย ดาวเทียม อะไรต่ออะไรหลายอย่าง มันต้องใช้เวลาตรวจสอบเป็นปีๆ ถึงจะตกลงกันได้ แต่ว่าเขาต้องการเงินเร็ว เมื่อต้องการเงินเร็วเขาก็บอกว่าคุณซื้อไปก่อนแล้วกันแล้วผมจะรับประกันให้ ทางนี้บอกได้ ผมซื้อไปก่อนผมมัดจำให้ส่วนนี้ก่อนอีกส่วนหนึ่งผมตั้งเอาไว้เป็นกองทุน ที่เขาเรียกว่า กองทุนเอสโคล(***) เอสโคลคือ กองทุนกลาง เหมือนในเมืองนอก สหรัฐอเมริกา เวลาคุณจะไปซื้อบ้านใครก็ตาม คุณตกลงคนขาย จะมีพ่อค้าคนกลางเป็นคนจัดการให้ คุณซื้อบ้านหลังนี้ 1 ล้าน คุณเอาเงิน 1 ล้านจ่ายเขา แต่ว่า 1 ล้านไม่ได้เข้าบัญชีคนขาย เข้าบัญชีกลาง เพื่อให้คุณตรวจสอบเอกสาร ตรวจสอบว่าบ้านนี้หลังคารั่วหรือเปล่า ไหนบอกว่ากดชักโครกแล้วชักโครกไม่ทั่วไง ถ้าครบถ้วนไม่ซ่อมแซมอะไรตามที่คุณให้สัญญามา คุณเบิกเงิน 1 ล้านออกมาได้ แต่ถ้าไม่ครบเขาจะหักออก นี่เขาเรียกว่า บัญชีเอสโคล อาแปะเข้าใจแล้วใช่ไหม ต้องอธิบายให้ทุกคนเข้าใจก่อน ทีนี้สิงคโปร์เลยแบ่งเงิน 73,000 ล้าน ออกมาครึ่งหนึ่ง เงินครึ่งหนึ่งตั้งอยู่ในบัญชีเอสโคล หมายความว่า ตราบใดที่ฉันยังตรวจสอบแล้วไม่เจออะไร อย่างที่คุณบอกว่า สัมปทานไอทีวีจะไม่โดนเรียกคืน สัมปทานไอทีวีตกลงเสียในราคานี้ไม่ต้องเสียเพิ่ม ดาวเทียมสัมปทานโอเค แอร์เอเชียลิขสิทธิการบินไม่ถูกยกเลิก ผมถือว่าคุณทำตามเงื่อนไข คุณเบิกส่วนที่เหลืออีก 30,000 กว่าล้านไปได้ ทีนี้ระยะเวลาที่ต้องตรวจสอบ ผมเข้าใจว่า ต้องมีระหว่าง 1-2 ปี ไม่ใช่สั้นๆ 1-2 ปี เขาเริ่มซื้อขายกัน เซ็นสัญญากันต้นปี 49 ผมเข้าใจว่าเร็วที่สุดคือสิ้นปีนี้ หรือกลางปีหน้า 18 เดือน ทีนี้ตอนต้นปีเขาซื้อแล้วเขาไม่ได้คิดไม่ได้คำนวณ เขาไม่รู้ว่าฟ้าลิขิตไม่ให้ กฟผ.เข้าตลาดหลักทรัพย์ มันก็เลยชะงักไป พอชะงักไปไม่ได้คำนวณว่าฟ้าจะลิขิตมาว่าจะมีคนโพกผ้าสีเหลืองเยอะขนาดนี้ แล้วก่อให้เกิดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มันเลยคิดไม่ถึงว่าจะต้องยุบสภาวันที่ 14 กุมภาฯ ทั้งๆ ที่เพิ่งขาย เพราะว่าเขาไม่เคยคิดว่าปฏิกิริยาของคนที่รับไม่ได้กับการขายของ 73,000 กว่าล้านแล้วไม่เสียภาษีเลยแม้แต่บาทเดียว จะมีปฏิกิริยาตอบสนองกับเขารุนแรงถึงขนาดนั้น เขาไม่เคยคิด จริงๆ แล้วพ่อแม่พี่น้องเราต้องยอมรับ นายทักษิณพังเพราะความโลภ ความงง ถ้าเขายอมเสียภาษี 20,000 กว่าล้าน วันนี้เราไม่มีอะไรสู้เขาเลย ถูกไม่ถูก เพราะยังมีคนอีกไม่น้อยที่รำคาญพวกเรา ที่บอกทะเลาะไปทำไมสามัคคีไว้ดีกว่า เห็นไหมเขายังเสียภาษี ตรงนั้นเราจะเถียงลำบาก แต่ความงง ความโลภ ความเห็นแก่ตัว ความที่ขี้ก็ไม่ให้สุนัขรับประทาน เลยทำให้ตัวเองต้องการโกงภาษีบาทนึงก็ไม่ยอมเสีย นั่นคือการราดน้ำมันลงบนกองไฟของพวกเราที่มันใกล้จะมอดอยู่แล้วตอนนั้นทำให้มันลุกพรึบขึ้นมาเลย
ประชาชน – (((ใช่)))
สนธิ - ขอบคุณครับ เบาๆ หน่อย วันหลังส่งเสียงนี่ผมจะบอกแถวหน้านี่จะล็อกไม่ให้นั่งแล้ว ให้ไปนั่งข้างหลังโน่นเลย ถ้ายังส่งเสียงอย่างนี้อีก
สนธิ - ฟังให้ดีๆ พ่อแม่พี่น้อง พ่อแม่พี่น้องจะเข้าใจพัฒนาการของเหตุการณ์ ทีนี้การซื้อเนี่ย ถ้ามันให้มันสำเร็จเลยเนี่ยนะ มันจะต้องหลายๆ กรณีมันต้องบริษัทคนไทย ไม่ใช่บริษัทต่างชาติ ใช่ ไม่ใช่ พ่อแม่พี่น้อง นั่นคือที่มาของนอมินี ที่มาของกุหลาบแก้ว ที่มาของซีด้า โฮลดิ้ง ก็คือตบตาเอาไว้ก่อน เอาคุณพงษ์ สารสิน อย่างที่คุณสัก กอแสงเรือง เอานายศุภเดช พูนพิพัฒน์ ออกมาปล่อยกู้ คือเป็นนายหน้าให้กับนายทักษิณ ให้สิงคโปร์ เฮ้ย มึงถือหุ้นแทนกูหน่อยก็แล้วกัน แต่ว่าชื่อมึงเป็นชื่อคนไทย เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายไง ทีนี้คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิตจริงๆ หลังจากเหตุการณ์มันผ่านไปแล้ว ก็มีคนเนี่ยต้องให้เครดิตพรรคประชาธิปัตย์เขา เขาก็ไปยื่นต่อกระทรวงพาณิชย์ เขาบอกว่า อีกุหลาบแก้ว อีพวกนี้เนี่ย มันไม่น่าจะเป็นกุหลาบแก้ว มันน่าจะเป็นหนามกุหลาบที่ไปตำนายทักษิณนะ เพราะว่ามันไม่น่าจะเป็นบริษัทคนไทย ก็เลยมีตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบ ทีนี้เขาโชคร้าย เพราะว่าอธิบดีกรมพัฒนาการค้า เขาชื่อคุณอรจิต สิงคาลวนิช คุณอรจิตนั้น ชื่อเล่นชื่อตุ่ย เคยเรียนปริญญาโทที่สหรัฐอเมริกากับผม แต่เขาเรียนคณะรัฐศาสตร์การเมือง ผมเนี่ยเรียนทางประวัติศาสตร์ คุณตุ่ยเป็นผู้หญิงที่น่ารักมาก เป็นคนไม่ฟุ้งเฟ้อ เป็นคนซื่อตรง สมถะ และที่สำคัญที่สุด เป็นคนที่ยังโสดอยู่จนทุกวันนี้ จะเกษียณแล้วปีนี้ 60 แล้ว ก็ยังไม่มีครอบครัว เพราะฉะนั้นแล้วคุณตุ่ยคำนึงถึงชีวิต ชื่อเสียงของตระกูลตัวเอง คุณตุ่ยไม่กล้าและไม่ยอมที่จะทำชั่ว คุณตุ่ยก็เลยว่าเป็นตรงไปตรงมาว่าถ้ามันผิดก็ว่าเป็นผิด ปรากฏว่าคำสั่งที่พิจารณาแล้วว่าผิดเนี่ย กำลังถูกส่งไป มีสุนัขมันยื่นขาข้างหนึ่งมาคว้าคำสั่งนี้กลับมา แล้วก็สั่งให้ตั้งคณะกรรมการอีกชุดหนึ่งมาตรวจสอบ แท้ที่จริงเพื่ออะไร เพื่อยืดเวลาเท่านั้นเอง เพราะตรวจสอบยังไงก็ผิด ไม่มีใครกล้าเพราะอธิบดีเขาไม่กล้าเซ็น แล้วนายสมคิดก็กระโดดชิ่งหนี โยนเรื่องนี้ให้นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ เป็นคนดำเนินการ นายปรีชาก็เข้าไปแทรกแซง แต่ว่าต่อหน้าสื่อมวลชนบอก ผมไม่ได้ยุ่งเกี่ยว แท้ที่จริงแล้วก็เข้าไปกำกับเพื่อที่จะให้กรมนี้ทำตามว่าไม่ผิด
สนธิ - เอาล่ะ ตรงนี้คือหมัดพิฆาต มันพิฆาตตรงไหน มันพิฆาตว่าเมื่อผิดขึ้นมาแล้ว ข้อแรกเนี่ย คนขายติดคุก แน่นอนที่สุด ข้อที่สอง สัมปทานถูกยึดคืนหมด สัมปทานถูกยึดคืนหมด ไอทีวีถือว่าผิด ถือว่าต่างชาติมาเป็นเจ้าของ ต้องยึดคืนเลย คืนเข้ารัฐ แอร์เอเชียต้องยกเลิกการบินที่ใช้สิทธิการบินประเทศไทย ต้องยุบแอร์เอเชีย เอไอเอสต้องคืนหมายเลขให้กับ กทช.ไป นี่คือการล้มทั้งยืน พ่อแม่พี่น้อง เข้าใจหรือยัง อีกุหลาบแก้วเนี่ยมันแสบ นี่เรื่องจริง นี่เรื่องจริงเลย เขาถึงบอกว่ากรรมมันติดจรวด มันติดตรงนี้ ไม่เคยมีใครคิดว่ากุหลาบแก้วจะทำให้นายทักษิณพังทั้งยวง แล้วก็พังได้จริงๆ เพราะว่าเถียงไม่ได้ ขึ้นศาลเมื่อไรก็แพ้เมื่อนั้น ไม่มีทางชนะเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะว่าผิดกฎหมาย เพราะกฎหมายระบุแล้วว่าต้องเป็นบริษัทคนไทย ไม่ใช่บริษัทต่างชาติ เมื่อนำสืบได้ว่าเป็นตัวแทนต่างชาติก็ต้องถือว่าเป็นบริษัทต่างชาติ เห็นหรือยัง
สนธิ - เอานะ ยังมีอีกหลายเรื่อง ยังมีอีกหลายเรื่องตรงไหน เมื่อการเลือกตั้งต้องเลื่อนจาก 15 ตุลาฯ ไป อย่างที่ผมบอก ผมเชื่อว่า ดวงพรรคไทยรักไทยที่เขาตั้งมาเนี่ย เป็นดวงกาลกิณี และต้องถูกยุบพรรคแน่นอน ถ้าภายในเดือนกันยายนนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะยังไงก็ตาม จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม เกิดพิพากษามาบอกว่า ไทยรักไทยต้องยุบพรรค เห็นหรือยัง ไทยรักไทยต้องยุบพรรค ก็หมายความว่าบรรดาลิ่วล้อ ควายทั้งหลาย จำนวนหลายร้อยคนในไทยรักไทย ไม่มีพรรค ไม่มีคอกที่จะเข้าไป ไม่มีคอกที่จะเข้า ต้องกลายเป็นคนตกงาน เล่นการเมืองไม่ได้อีกต่อไป นั่นข้อที่ 1 นะ จำไว้นะ
สนธิ - ข้อที่ 2 ถ้าเกิดศาลปกครองหยิบเรื่องสถานภาพความเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นได้หมดไปแล้วตั้งแต่วันลาพัก แล้วเกิดมีคำพิพากษาออกมา ก็แสดงว่ารัฐบาลชุดนี้ก็หมดไป ตอนนี้ยังอยู่ในศาลปกครองครับ ข้อที่ 3 กรณีของนายมอลสัน ฟ้องนายทักษิณ ข้อหาให้การเท็จ ศาลจะนัดอ่านฟังคำพิพากษาว่าจะรับหรือไม่รับ ในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ วันนี้ผมต่อ 100 ว่ารับแน่นอน ว่าคดีมีมูล แต่ว่า แต่ว่า แต่ว่า นายมอลสัน เป็นฝรั่ง คดีนี้เป็นคดีส่วนตัว ผมฟ้องคุณว่าคุณให้การเท็จ ว่าคุณหมิ่นประมาทผม ผมถอนฟ้องคุณได้ แต่ถ้านายมอลสันไปแจ้งความ แล้วตำรวจดำเนินการไปถึงอัยการ อัยการฟ้องนั้นถอนไม่ได้ เพราะเป็นอาญาแผ่นดิน แสดงว่านายมอลสันก็ถอนได้ ถ้านายทักษิณเอาเงินให้นายมอลสันพอ แต่นายมอลสันก็พูดออกมาแล้ววันนี้ บอกว่า ผมเรียกสักหมื่นล้าน เราก็รู้ว่าธรรมดาคนที่ขี้ยังไม่เคยให้หมากิน หมื่นล้านมันจะให้เหรอ ก็ไม่ให้ แต่นายมอลสันก็พูดต่อ บอกว่าผมเนี่ยมีเมียเป็นคนไทย มีลูก 2 คน เพราะฉะนั้นผมจะไม่ทำให้ประเทศไทยเสียหาย ผมจะบอกให้พ่อแม่น้องฟัง รองไล่เรื่องแต่ละเรื่องที่ผมเล่าให้ฟังซิ เอามาบวกรวมกัน ยังไม่นับกับ กกต. 5 คน เมื่อเลือกออกมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมว่าพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งครั้งนี้ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงลงพระปรมาภิไธยมา เป็นส่วนหนึ่งของพระราชกฤษฎีกาวันที่ 2 เมษาฯ อันเดียวกันนะ ส่วนต่อออกมา แปลว่าอะไร แปลว่า กกต. 5 คนเมื่อเข้ามานั่งเราสามารถยื่นเรื่องได้ทันทีเลยว่า จากวันที่ 2 มาจนวันนี้ นายทักษิณไปสัญญาจะให้ ไปสัญญาซื้อเสียง ไปสัญญาทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งมีอะไรบ้าง เขามาวินิจฉัยปัง ไปพูดที่สนามหลวงจำได้ไหม วินิจฉัยปัง เมื่อผิดปังก็ห้ามเล่นการเมือง 5 ปีทันทีได้เช่นกัน ผมอุปมาอุปไมยให้พ่อแม่พี่น้องฟังว่า นายทักษิณวันนี้นั่งอยู่มีเหล็กแหลมจ่อไว้ที่ก้น มีคีมเตรียมบีบไข่ มีมีดจ่อไว้ที่เอว มีเชือกผูกคอไว้ แล้วพ่อแม่พี่น้องยังไม่เข้าใจหรือว่า ทำไมเขาถึงจิตไม่ปกติ ต้องเข้าใจแล้ว เข้าใจหรือยังตอนนี้ เข้าใจว่าทำไม่ตอนเช้าสมานฉันท์ ตอนบ่ายพอมีไอ้ห้อยไอ้โหนมายุหน่อยก็จะเช็กบิล พอกลับไปกลางคืนนอนไม่หลับต้องกินเหล้ามากขึ้น หนังสือพิมพ์มติชนรายงานว่า เดี๋ยวนี้เมาเหล้าทุกคืน จิตไม่ปกติ นอนไม่หลับ กินยานอนหลับ หน้าตาเหมือนผีตายซาก เวลาให้สัมภาษณ์ตาตก ไม่มองกล้อง เรื่องนี้ผมว่าไม่รู้สิ เป็นอย่างนี้ก็ไม่รู้ อย่างไรก็ไม่รู้ คือหมดแล้วซึ่งสภาพของความสมบูรณ์ทางจิต เพราะฉะนั้นพ่อแม่พี่น้องต้องรู้ ต้องรู้ว่าปัญหาว่าเขาไปแน่นอนแต่จะไปแบบไหน ส่วนเมื่อไหร่นั้น ผมเชื่อว่าเร็วๆ นี้ ไม่นาน ไม่เกินสิ้นปีนี้แน่นอน เผลอๆ ให้ไม่เกินตุลาคมนี้ด้วย ยิ่งลิ่วล้อออกมาพูดมากขึ้น ต้องให้ทักษิณลงเลือกตั้ง ต้องให้ทักษิณกลับมาเป็นนายกฯ แสดงว่าตัวเองกลัว ตัวเองรู้อยู่แล้ว คนอย่างพินิจ จารุสมบัติ คนหูผีจมูกมด ไม่ซี้ซั้ว หูนี่ผีมาบอก จมูกมด น้ำตาลอยู่ไกล 2 กิโล ผมประโยชน์อยู่ตรงไหนจะเดิน คลานไปทันทีเลย นี่คือพินิจ จารุสมบัติ นายคนนี้พูดอะไรแสดงว่าไม่ใช่ลางร้าย แสดงว่าจุดจบมาแล้ว พ่อแม่พี่น้องสบายใจหรือยัง เพราะฉะนั้นแล้วพ่อแม่พี่น้องต้องเข้าใจการต่อสู้ ต้องอ่านเกมให้เป็น เหมือนผมเคยเล่าให้พ่อแม่พี่น้องฟัง วันนั้นวันที่ต่อมน้ำตาแตกกันหลายคน ผมบอกให้ใจเย็นๆ ให้อ่านเกมให้ทะลุว่ามันเป็นอย่างไร ดูเหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์แล้วจะเห็นว่านายทักษิณไม่มีทางเลือกอะไรเลย ที่มาโม้ แล้วพรุ่งนี้จะโม้สะบั้นหั่นแหลก ผมจะบอกให้รู้ ผมเดาเอาแล้วผมก็พูดกับเพื่อนฝูงในวงกินข้าววันนี้ ผมบอก อาจารย์พนันกับผมไหม ผมว่านายคนนี้ถึงวินาทีสุดท้ายเดินไปข้างหน้าก็ไมได้ คือตอนนี้นายทักษิณอุปมาอุปไมยเหมือนคนที่ตกเหวไปแล้วแต่มือคว้ากิ่งไม้ริมเหวอยู่ แล้วตัวมันหนักไงมันจะตก ไม่รู้จะทำอย่างไรก็ยังแขวนอยู่อย่างนี้ คือไม่ได้อยู่ริมหน้าผานะ ตกไปแล้วแต่มือไปคว้ากิ่งไม้ที่มันโผล่ออกมา แล้วยังกระตุกๆ อยู่ พวกเรามีหน้าที่แซะให้กิ่งไม้หล่นลงไป ทีนี้คนประเภทนี้เมื่อเดินหน้าก็ไม่ได้ ถอยก็มีแต่ตาย ทำได้อย่างเดียวคือ หนี ผมเชื่อว่า ถ้ามีการลงโทษอะไรเขา ยุบพรรค หรือว่า กกต.ห้ามไม่ให้เล่นการเมือง 5 ปี คนๆ นี้จะเล่นวิชามาร เตรียมตัวแล้ว เพราะข้าวของเขา เขาไปอังกฤษ ครอบครัวเขาไปขนของไปที 700 กิโล 800 กิโล ไปตั้งไม่รู้กี่ครั้งแล้ว ขนของไปเมืองนอกหมดแล้ว เงินทองก็ไม่ได้ฝากในเมืองไทย คนๆ นี้เตรียมตัวไปเมืองนอก แล้วจะให้สัมภาษณ์ด่าทุกคนในประเทศไทย บอก คนอย่างผม ผมไม่ได้แพ้ทางการเมือง ผมแพ้เพราะผมถูกรังแก เพราะฉะนั้นผมจะล้างมือจากการเมือง ผมไม่สนใจ ผมไปแล้ว เผ่นไปเลย ไปตั้งหลักที่เมืองนอก แล้วพยายามจะเชื่อมโยงเครือข่ายเก่าๆ เพื่อกลับมาอีก เพราะฉะนั้นแล้วเมื่อคนๆ นี้ไป เรามีหน้าที่ที่จะต้องมีภารกิจทำต่อ เพื่อทำลายระบอบทักษิณให้หมดไป ให้สิ้นเลย พ่อแม่พี่น้องครับวันนี้เต็มอิ่มไหม
ประชาชน – (((อิ่ม)))
สนธิ - ขอบคุณมากผมนึกว่าจะบอกว่าไม่อิ่ม พ่อแม่พี่น้องครับ 25 วันศุกร์หน้าเจอกันที่สวนลุมฯ อีกครั้งหนึ่ง พรุ่งนี้พวกผมจะเดินทางไป จ.พิษณุโลก ผมทราบดีกว่า ทางป่าไม้เตรียมต้อนรับพวกผม แต่ผมอยากจะเรียนให้ป่าไม้ทราบว่า พวกผมก็เตรียมต้อนรับคุณไว้เหมือนกัน
