“สุเทพ” ร่วมไล่ “แม้ว” ถึงแอลเอ – พ่อค้าผลไม้ขอแจมแฉเหลี่ยม “เนวิน”

ลอสแองเจลิส – “สุเทพ วงศ์กำแหง” แวะเยี่ยมพันธมิตรฯ ในแอลเอ พร้อมร่วมถือป้ายเดินขบวนต้านระบอบทักษิณ ก่อนปราศรัยฟันธง “ทักษิณเป็นคนเลวร้าย” ด้าน “สมศักดิ์ กรูมะโรหิต” พ่อค้าผลไม้ไทยรายใหญ่ในสหรัฐฯ ร่วมแฉสันดานนักการเมืองไทยรักไทย จิตใจยังอยู่ในขุมนรก แต่วิธีโกงไฮเทคกว่าเดิม ระบุเคยหารือเรื่องส่งออกผลไม้ไปสหรัฐฯ กับ “เนวิน” กลับโดนกล่าวหามีเอี่ยวกับบริษัทขายเครื่องฉายรังสี หวังแบล็กเมล์เรียกผลประโยชน์

นายสุเทพ วงศ์กำแหง นักร้องชื่อดังรุ่นลายคราม อดีต ส.ส.พรรคพลังใหม่ สมัยนายแพทย์กระแส ชนะวงศ์ เป็นหัวหน้าพรรค และศิลปินแห่งชาติ เดินทางมาพักผ่อนประเทศสหรัฐอเมริกา จึงถือโอกาสมาเยี่ยมมาพบปะและให้กำลังใจพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่นครลอสแองเจลิส โดยร่วมเดินขบวนถือป้ายประท้วงต่อต้านระบอบทักษิณ ที่หน้าสถานกงสุลใหญ่ นครลอสแองเจลิส เลขที่ 611 N. Larchmont Blvd., เมื่อเวลา 10:00 น. วันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคม 2549 ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น

นอกจากนี้ ยังมีนักธุรกิจผู้นำเข้าผลไม้ไทยรายใหญ่ที่สุด มาสู่ประเทศสหรัฐอเมริกา เจ้าของบริษัท SSK Produce นายสมศักดิ์ กูระมะโรหิต กล่าวคำปราศรัย ให้เพื่อนๆ พันธมิตรฯ ราวๆ 100 คน ได้รับทราบถึงความชั่วร้ายของรัฐบาลในระบอบทักษิณ

นายสุเทพ วงศ์กำแหง ได้กล่าวปราศรัย มีใจความว่า “ชาวไทยในแอลเอทุกท่านครับ ผมเองอาจจะเป็นนักร้อง ทุกคนบอกว่า ถ้าร้องเพลงจะโอเค ถ้าพูด คงจะไม่ได้ความ แต่ผมก็จะบอกว่า แต่สิ่งหนึ่งที่ผมจะขอพูดให้ชัดตรงนี้ ก็คือว่า เราไม่ต้องการให้รัฐบาลที่โกงกินประชาชน เราไม่ต้องการคนที่เอาประโยชน์ส่วนตัว จนกระทั่งลืมถึงประชาชนประเทศชาติ ซึ่งในหลวงของเราเป็นห่วงอย่างยิ่งนะครับ อันนี้ต้องขออนุญาตที่จะพูดถึงในหลวง เพราะว่า ความจริงแล้วนี่ในหลวง ท่านมีรับสั่งมาหลายเรื่องต่อหลายเรื่อง ด่าแล้วก็แล้ว อะไรก็แล้ว หูทวนลมหมด ไอ้คนปกครองประเทศคนนี้ใช้ไม่ได้ เพราะว่าในการที่จะต้องเลือกตั้งครั้งต่อไป ความจริงแล้ว การเลือกตั้งต้องมีกฎเกณฑ์ที่ดีพอสมควร”

“แต่การที่ทักษิณพยายามที่จะเอาการเลือกตั้งครั้งนี้มาเป็นกฎเกณฑ์ในการที่ตนเองจะถูกฟ้องในวันที่ 16 ตุลา เขานี่พยายามที่จะเอาวันที่ 15 เป็นวันเลือกตั้ง ถ้าเผื่อเขาสามารถที่เป็นรัฐบาลใหม่ได้ เพื่อที่จะเอากำลังไปบล็อกคณะกรรมการตุลาการ อันนี้เป็นสิ่งที่เขาหวัง ดังนั้น ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ทุกคนมีสิทธิที่จะบอกทุกคน เราจะต้องไปใช้สิทธิ ใช้สิทธิทุกคน เพื่อไม่เอาไทยรักไทย ไม่ให้เขากลับมาทำงานให้กับประเทศชาติ เราไม่ต้องการคนทำงานที่ขี้โกง ลักษณะของผู้นำของประเทศต้องไม่ใช่คนโกง ต้องเป็นคนที่รักประชาชน รักประเทศชาติ”
“ขอร้องตรงนี้ครับ ด้วยความรักซึ่งกันและกัน เราต้องการเห็นประเทศไทยเจริญ เราไม่ต้องการเห็นประเทศไทยเป็นประเทศที่ล้าหลัง เหมือนอย่างที่ถูกทำอยู่ทุกวันนี้ การกินแต่ละครั้ง ผมสังเกตมาตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาเอาหุ้นให้คนใช้ คนขับรถ ยาม เขาเอาหุ้นจากคนใช้มา ก็ไม่เสียภาษีอะไร ศาลก็ต้องตัดสิน เขาไปล็อบบี้กับศาล เพื่อไม่ให้เขาผิด ซึ่งอันนี้มารู้จากศาลบางคนอยู่ในนั้น เขาก็เล่าให้ฟังว่า ไปล็อบบี้เขาจริง และไปบอกว่า ถ้าเผื่อลูกคุณนี่ จะไปเป็นอยู่ ในทูตหรือะไร ก็จะให้ทุกอย่าง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเกลียดมาก”

“ผมก็จะบอกว่า สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ผมก็เลิกใช้โทรศัพท์ AIS ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา จะใช้ยี่ห้ออื่น ในที่สุดก็มีคนบังคับเกาะผมอยู่ว่า ผมจะทำอะไรบ้าง เขาก็พยายามบอกว่าทักษิณเป็นคนดี ผมก็บอกว่าไม่ใช่ คุณอย่ามาบอกผมว่าทักษิณเป็นคนดี ผมรู้ว่าทักษิณเป็นคนอย่างไร ไม่ใช่คนดี ฉะนั้นก็ไม่ต้องพูดกับผมให้เสียเวลา ความจริงก็คือเรื่องจริง ต่อมาเราก็ได้เห็นทุกอย่างทุกอย่าง แม้กระทั่งท้ายสุด ที่ขายหุ้นให้เทมาเสก ไป 73,000 ล้าน ไม่ยอมเสียภาษีเช่นเดียวกัน”

“การปั่นหุ้น การเอาหุ้นของตนเองไปไว้ที่เมืองนอก เอาไปไว้ที่เกาะอะไรไม่ทราบนะฮะ แล้วเอามาให้ลูก โกงกินซึ่งๆ หน้าอย่างหน้าด้าน ทุเรศที่สุดหล่ะครับคนๆ นี้ ผมรู้จักพ่อเขา พ่อเขาเป็น ส.ส.ตั้งแต่ผมเป็น ส.ส.ปี 2522 พ่อเขาเป็น ส.ส.เรารู้จักกัน แต่ไม่เคยคิดว่าลูกเขา ลูกของเพื่อนจะเป็นคนเลวร้ายขนาดนี้ นี่เป็นเรื่องที่ผมจะต้องขอ ขอความกรุณาทุกคนไปใช้สิทธิ ไปใช้สิทธิทุกคน อย่าเลือกไทยรักไทย ผมจะไม่พูดมาก เพราะคืนนี้จะต้องร้องเพลง เมื่อคืนก็ร้อง ร้องเยอะนะครับ มันมีไมโครโฟนมาช่วย เมื่อไม่มีไมโครโฟน ถ้าพูดดัง เสียงจะเสียไป ขอบคุณนะครับ”

หลังจาก นายสุเทพ กล่าวคำปราศรัยจบ ก็มีเสียงปรบมืออย่างกึกก้อง ต่อมา นายสมศักดิ์ กรูมะโรหิต ซึ่งเป็นพันธมิตรฯคนหนึ่ง เคยบริจาคเงินก้อนโต เมื่อครั้งที่มาฟังการเสวนาเมื่อเดือนมิถุนายน ได้เดินทางเข้ามาหน้าสถานกงสุลฯ เพื่อร่วมกิจกรรมอย่างไม่คาดฝัน ท่ามกลางเสียงปรบมือของเพื่อนพันธมิตรฯ อย่างดังกึกก้องอีกครั้งหนึ่ง ทำให้บรรยากาศคึกคักเป็นกำลังสอง เพราะนายสมศักดิ์ เป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียง เป็นศิษย์เก่าคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นพ่อค้านำผลไม้ไทยเข้ารายใหญ่ เช่น พวกทุเรียน มะขาม มะพร้าวน้ำหอม ขิงแก่ ฯลฯ

นายสมศักดิ์ เป็นผู้ริเริ่มจะนำผลไม้ไทยอื่นๆ เข้ามา เดิมทีก็ไปขอความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อทราบไปยังพรรคไทยรักไทย โดยเฉพาะบ้านจันทร์ส่องหล้า เกรงว่า จะถูกแย่งความดีงามไป ก็เลยให้กรมวิชาการเกษตรเป็นผู้ดำเนินการเรื่องนี้ ขณะนั้น นายเนวิน ชิดชอบ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กำกับดูแลกรมวิชาการเกษตรอยู่ ปฏิเสธไม่ให้ความช่วยเหลือ โดยที่ นายเนวิน ชิดชอบ เข้าใจว่า นายสมศักดิ์ กรูมะโรหิต มีส่วนได้เสียกับการซื้อขายเครื่องฉายรังสีมาจากสหรัฐอเมริกา ฟังคำชี้แจงบรรทัดต่อบรรทัด คำต่อคำ ของนายสมศักดิ์ กรูมะโรหิต ดู

“อันนี้ มันไม่ใช่ผลประโยชน์ส่วนตัวของใครนะ มันเป็นประโยชน์ของประเทศชาติ ถ้าเราได้เพอร์มิตมานี่ เพอร์มิตอันนี้ไม่ใช่ของผม เป็นของคนไทยทั้งประเทศ ชาวไร่ชาวสวน จะเอาผลไม้ 6 ชนิด เงาะ มังคุด ลำไย ลิ้นจี่ มะม่วง สับปะรด ส่งมาเข้าอเมริกาได้ โดยผ่านกรรมวิธีและกฎข้อบังคับที่เขาวางเอาไว้ ผ่านการฉายรังสีจะอะไรก็แล้วแต่นะฮะ อันนี้ไม่ใช่ของผม ท่านตอบว่าไงรู้มั้ย “ไม่ได้สนใจนะ” ผมก็ว่าไม่สนใจได้ยังไง “ผมไม่อยากเอาตัวผมนี่ ไปเกี่ยวข้องกับการขายเครื่องของพวกคุณ” ผมว่า “ขายเครื่องอะไร ผมไม่ใช่เจ้าของบริษัท SureBeam ผมไม่ใช่เจ้าของบริษัท Isotope” นั้นแหละ มันก็เหมือนเป็นนายหน้า คนอื่นจะจ้องหาว่าผมได้เปอร์เซ็นต์นะ แต่ผมมองหน้าไปแล้ว มันอยากได้มากน้ำลายมันจะไหลอยู่แล้ว ผมเสนอมันไป วันรุ่งขึ้น ผมบอกว่าไม่ใช่อย่างนั้นนะคุณ เข้าใจมั้ยฮะ “ไม่ได้ยังงั้น ผมไม่สนใจคุณหล่ะ” ผมลุกขึ้นชี้หน้ามันเลยฮะ ถ้าคนอย่างมึงเป็นรัฐมนตรีอยู่ ประเทศไทยไม่มีความเจริญ มีแต่เลียอย่างเดียว เลีย เลีย เพื่อหาทางไปเป็นรัฐมนตรี ผมคว้ากระเป๋าเดินออกไปเลย มันก็มองหน้าผมนะ หน้ามันแดงแจ๊ดเลยนะ ไม่มีใครเคยด่ามัน”

“วันรุ่งขึ้น มันออกวิทยุด่าผม หาว่าผมจะมาหลอกชาวสวน ผมก็ไปปรึกษาพรรคพวกผม ผมทำงานหนังสือพิมพ์ เมื่อปี พ.ศ.2515 ที่เมืองไทย เพื่อนๆ เจริญเติบโตเป็นหัวหน้าใหญ่ ผมก็ไปปรึกษาเพื่อนผมที่ไทยรัฐ บอกนี่มันมาด่าผมนี่ พวกนั้นเขาก็หาเทปมาฟัง โฮมันด่าผมนี่ กล้าด่าขนาดนี้ ซูมก็เขียนลงไปในคอลัมน์ซอกแซกหน่อยเดียวเท่านั้น คุณเชื่อมั้ย มันวิ่งเลยนะ วิ่งมากราบซะที่โรงพิมพ์ แล้วให้ชวนหาผมไปกินข้าวมื้อหนึ่งใช่มะ เขาก็โทรมาหาผม ไปมะ ผมกินไม่ได้ ผมจะอ้วก ไปกินกับมัน ผมจะอ้วก ดีไม่ดี ผมอาจจะเอาแก้วไวน์สาดหน้ามัน”

“รัฐบาลชุดนี้ ผมจะบอกให้นะ ผมจากเมืองไทยมา 34 ปี คราวก่อนนั้น ผมทำงานหนังสือพิมพ์ และทีวี ตั้งแต่ ปี 2501 ถึง ปี 2515 ผมรู้จักนักการเมืองหมด ผมจากมาแล้ว 34 ปี สันดานของนักการเมืองโดยเฉพาะในพรรคไทยรักไทยยังเหมือนเดิม ยังอยู่ในขุมนรกเหมือนเดิม มันไฮเทคขึ้นมา วิธีโกงของมันแนบเนียนกว่า คือ มีชั้นสูงขึ้น แนบเนียนขึ้น จบนอร์ทเวสเทิร์นหลายคนนี่ คือ ผมว่า ทักษิณอยู่ไม่ได้ครับ ทานกระแสพวกเราไม่ได้”

คำปราศรัยของผู้ใหญ่สองท่าน นายสุเทพ วงศ์กำแหง และนายสมศักดิ์ กรูมะโรหิต ทำให้ทราบว่า รัฐบาลไทยรักไทย ที่มี นายทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ก็คือ พวกนักการเมืองสันดานเดิม แต่มีพฤติกรรมฉ้อฉลที่รุนแรงกว่า แม้ นายเนวิน ชิดชอบ จะมีคำครหาว่าเป็นนักการเมืองซื้อเสียง ฉายา “ห้อยร้อยยี่สิบ” นายทักษิณ ชินวัตร ยังเอามาเป็นสมัครพรรคพวกเป็นรัฐมนตรี รัฐบาลในชุดนี้ ไม่เคยปราบคอร์รัปชัน เพียงจะเคยปราบปรามบ้างก็พวกฝ่ายค้าน เพื่อบั่นทอนลดอำนาจไป