“สนธิ” จับโกหก “รัฐบาลทักษิณ” ถังแตกสร้างตัวเลข ศก.ลวงโลก ต้องให้คลังนำหุ้น อสมท ไปจำนำกับธนาคารออมสิน 3 พันล้านบาท ไปอุ้ม “ทหารไทย” ซึ่งมีนอมินีถือหุ้น แฉไปกัมพูชามีวาระซ่อนเร้นเรื่องธุรกิจก๊าซ-น้ำมัน ชี้เป็นการงุบงิบกันปล้นทรัพยากรของชาติเข้ากระเป๋า ขณะเดียวกันยังใช้เล่ห์ปล่อยกู้ 1.3 พันล้าน เพื่อเรียกค่าคอมฯ 390 ล้านบาท เรียกร้องสะสางเครือข่าย “3 หนา” และปฏิรูปฯก่อนเลือกตั้ง ป้องกันวงจรอุบาทว์กลับมาอีก
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร คอนเสิร์ตการเมือง ครั้งที่ 11 โดย สนธิ ลิ้มทองกุล
รายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร คอนเสิร์ตการเมืองครั้งที่ 11 จัดขึ้นที่สวนลุมพินี วันศุกร์ที่ 11 สิงหาคม 2549
สนธิ - พ่อแม่พี่น้องครับ เหตุการณ์จากพนัสนิคมเมื่อคืนทำให้ไม่กล้าใส่เสื้อตัวเดียว ขอบคุณพ่อแม่พี่น้องที่พนัสฯ นะครับ แต่ว่าก่อนอื่นนะครับ ก่อนที่จะเข้าสู่รายการ วันนี้จะมีเรื่องพูดกับพ่อแม่พี่น้อง 11 เรื่อง เอาให้จุใจกันเลย จะได้ไม่ต้องบ่นนะฮะ ก่อนอื่นผมอยากจะกราบเรียนพ่อแม่พี่น้องที่เอาสร้อยคอมือหงส์คู่ลงยา 82 กรัม สร้อยคอมือหงส์คู่ลงยา 2 สลึง 1 สลึง สร้อยคอทองคำ 3 บาท สร้อยเพชรประมาณ 2 บาท เพชร 85 สตางค์ แหวนเพชรเก่า 40 ปีที่แล้ว ซื้อตอนนั้น 5,500 บาท ข้อมือไพลิน 30 ปี 5,000 บาท เอามามอบให้ผมเพื่อเป็นทุนในการสู้ ผมอยากจะบอกพ่อแม่พี่น้องว่า
ประชาชน – (((ปรบมือ)))
สนธิ - ผมอยากพ่อแม่พี่น้องที่มอบให้ว่า ผมไม่ขอรับครับ เพราะเป็นของใช้ส่วนตัวทั้งนั้น ท่านได้กรุณามอบเงินสดมาให้ 4 หมื่น 5 หมื่นบาทแล้ว นอกจากทองคำนี้แล้ว ผมไม่บังอาจที่จะมารับของชิ้นนี้ไปเด็ดขาด แล้วเพียงแค่น้ำใจที่ท่านส่งมาให้ผมเนี่ย ผมก็น้ำตาคลอแล้ว ผมคิดว่า
ประชาชน – (((ปรบมือ)))
สนธิ - ผมคิดว่าสิ่งที่ถืออยู่ในมือผมนั้นเป็นอะไรบางอย่างที่ไม่ได้เป็นร้านเพชรที่พจมาน ชินวัตร ไปซื้อหรอก แต่ว่าเป็นของเก่าแก่ที่เขาใช้กับตัวเขาเองมา เขาตัดสินใจถอดออกหมดทุกอย่างแล้วเอามาให้เพื่อที่จะร่วมกู้ชาตินั้น ผมอยากให้เก็บเอาไว้ แล้วก็ขอให้รู้ว่าพ่อแม่พี่น้องที่นั่งอยู่ในที่นี่ พ่อแม่พี่น้องที่อยู่ในต่างจังหวัดที่ดูเอเอสทีวี พ่อแม่พี่น้องที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาที่ดูอยู่ รับทราบถึงความจริงใจ ซาบซึ้งถึงเจตนารมณ์ อย่าให้ผมต้องเอาของชิ้นนี้ไปแล้วผมอยู่ด้วยความไม่สบายใจเลยครับ ไม่เป็นไรครับ ผมขอขอบพระคุณครับ
ประชาชน – (((ปรบมือ)))
สนธิ - ยังไงเงินสดผมจะรับเอาไว้ แต่ว่าของอันนี้ผมจะขออนุญาตคืนนะครับ เพราะฉะนั้นแล้วเดี๋ยวผมจะให้คุณแอ้ม-สโรชา ช่วยหาคนมอบให้หน่อย ปรากฏว่ามอบให้แล้วและแอบไปนั่งข้างนอก ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ผมอยากจะขอมอบให้ด้วยตัวเองนะครับ แล้วผมขออนุญาต จะขอกราบลงที่แทบเท้าขอบพระคุณ
ประชาชน – (((ปรบมือ)))
สนธิ - ไม่ได้มี 73,000 ล้าน แต่มีเพียงของเท่านี้ที่ติดตัว ใส่อยู่กับตัวมาเป็นเวลาสิบๆ ปี กล้าพอที่จะถอดออก คนคนนี้บรรลุธรรมไปเรียบร้อยแล้ว
ประชาชน – (((ปรบมือ)))
สนธิ - พ่อแม่พี่น้องครับ ก่อนจะเข้าเรื่องราววันนี้ ขออนุญาตพ่อแม่พี่น้องนิดนึง ในห้องนี้และอยู่ข้างหน้า จะมีเด็กที่ใส่เสื้อสีดำอยู่หลายๆ คน คนพวกนี้เป็นพวกอาสาสมัคร ทำงานอยู่กับเรามาตั้งแต่เมืองไทยรายสัปดาห์ ครั้งที่ 1 คนพวกนี้จะมีหน้าที่คอยดูแลอำนวยความสะดวก และที่สำคัญก็คือว่า 1. ไม่ให้มีการทะเลาะกันภายใน 2. นั่งบังกัน 3. ค้นกระเป๋า ขอความกรุณาพ่อแม่พี่น้องเถอะครับ อย่าไปโกรธคนพวกนี้ถ้าเวลาเขาจำเป็นต้องทำตามหน้าที่ อย่าไปคิดว่าพ่อแม่พี่น้องมาทุกครั้ง ทำไมยังจะต้องค้นกระเป๋าอีก ก็เพราะว่าเรามีความระมัดระวังอย่างนี้ตลอดเวลา การชุมนุมของเรา ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ไม่เคยมีเรื่องมีราวใช่ไหมครับ ครับ ปรบมือให้คนพวกนี้หน่อยครับ
ประชาชน – (((ปรบมือ)))
สนธิ - กราบขอบพระคุณ คุณสมฤดี และพันธมิตรฯ แม่กลอง ที่ขนข้าวของมาให้ทาน แล้วก็กราบขอบพระคุณพ่อแม่พี่น้องพันธมิตรฯ เมืองเพชร ที่เอาอาหารมาให้ทาน คุณสมฤดีโทรศัพท์มากระหืดกระหอบว่า คุณสนธิ ได้ข่าวว่าเงินเดือนยังจ่ายไม่ครบใช่ไหม เดี๋ยวฉันจะเอาเงินส่วนตัวฉันมาให้ยืมก่อน เอาไหม ผมบอกไม่เป็นไรครับ ทยอยจ่ายไปแล้ว จะหมดวันอังคารที่จะถึงนี้อย่างแน่นอนที่สุด ไม่ต้องกังวลครับ ขอบพระคุณในที่นี้ครับ
สนธิ - พ่อแม่พี่น้องที่ อ.พนัสนิคม เมื่อวานนี้ เป็นตัวอย่างของพันธมิตรฯ ที่อยู่ต่างจังหวัดที่สามารถจะรวมตัวกันแล้วก็เอามาจัดงาน มีคนไปประมาณ 300 คน คนนึงจ่ายพันบาท ได้เงินมาสามแสนกว่า ก็เอาเงินทั้งก้อนนั้นมอบให้กับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเมื่อคืนนี้ แล้วก็มีการประมูลนะฮะ เหมือนอย่างที่ได้เห็นว่าเป็นการประมูลเสื้อ ซึ่งขึ้นไปข้างบน คุณอมร กับคุณ นั่นก็จู่ๆ ก็บอกว่า คุณสนธิ ถอดเสื้อประมูลก็แล้วกัน ผมก็บอกว่า ผมก็เลยต้องเซ็นข้างหลังนะฮะ ชื่อผม เนี่ยพ่อแม่พี่น้อง นายทักษิณ คุณเห็นหรือยัง สู้กับคุณนี่ผมต้องเสียสละขนาดไหน เกิดมาในชีวิต ในท้องพ่อท้องแม่ ไม่เคยไปยืนบนเวทีไหนถอดเสื้อโชว์พุงขาวๆ ให้คนดู แต่เพื่อ แต่เพื่อที่จะให้วัตถุประสงค์การกู้ชาติบรรลุเป้าหมาย และให้เอเอสทีวีอยู่ต่อไป ขายอะไรก็ขายได้ ขอไม่ขายอย่างเดียวคือจิตวิญญาณ
ประชาชน – (((เฮ)))
สนธิ - มีคนเสนอให้ผมถอดเสื้อสองตัวนี้ จะประมูล 50,000 บาท
ประชาชน – (((กางเกงๆๆ)))
สนธิ - กางเกงเหรอ
ประชาชน – (((เฮ)))
สนธิ - ถ้าผมขาย จะเอามั้ย 50,000 น่ะ
ประชาชน – (((เอา)))
สนธิ - บางครั้งเพื่อเอเอสทีวี เพื่อชาติ อาจจะต้องยอม เดี๋ยว ขอคิดดูก่อนพ่อแม่พี่น้อง ขอคิดดูก่อน ขอเช็กให้แน่ๆ ว่าใส่กางเกงในมา แล้วต้องเป็นกางเกงในบ๊อกเซอร์ด้วยนะ
สนธิ - เอาล่ะครับ พ่อแม่พี่น้อง วันนี้จะพูดเรื่องบางเรื่อง ที่สหรัฐอเมริกา มีผู้หญิงคนนึงชื่อ ชบา จตุรบุญ ชบาฮะ แต่ผมไม่รู้ว่าบ้าไปรึยัง คนๆ นี้เนี่ย คนๆ นี้เนี่ย ทำหน้าที่เป็นองครักษ์พิทักษ์แม้ว ทำเว็บไซต์ตัวเองออกมา ข้อมูลในเว็บไซต์ก็เหมือนกับข้อมูลพรรคไทยรักไทย ตอนนายกันตธีร์ ศุภมงคล ไปเยือนสหรัฐอเมริกา ก็ได้ไปติดต่อคนๆ นี้ คนๆ นี้ก็เลยเป็นปากเสียงให้กับนายทักษิณ ชินวัตร ด่าพวกพันธมิตรฯ ออกรายการในสหรัฐอเมริกา ด่าพันธมิตรฯ ด่าผม พันธมิตรฯ เขาก็ทนไม่ไหว เขาก็บอกว่า คุณอย่าด่าข้างเดียว คุณอย่าทำตัวเป็นสมัครกับดุสิต ศิริวรรณ คุณให้โอกาสพันธมิตรฯ เนี่ย ให้โอกาสพันธมิตรฯ เนี่ย มาออกรายการโต้กับคุณมั้ย โต้กันตัว-ตัว เขาพูดบอกว่า ระดับเขานั้นต้องระดับสนธิ เขาถึงจะโต้ด้วย คนๆ นี้ จาบจ้วงหมดทุกอย่าง ออกหนังสือในกลุ่มตัวเอง ด่าศาล ด่าศาลว่าไม่น่าเชื่อว่าคนระดับศาลจะมีสติปัญญาคิดกันแค่นี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนใช้สมองและสายตามอง กกต.ที่ได้มาจากการสรรหาขององค์กรใหญ่ๆ ทั่วประเทศ จะคิดอย่างนี้ คือโกรธที่ศาลไม่ให้ กกต.ประกันตัว แล้วคนๆ นี้ ก็รวบรวมรายชื่อ บอกว่าจะแจ้งไปที่สถานทูตอเมริกาในประเทศไทย บอกว่าอย่าให้ออกวีซ่าให้กับผม นายสนธิ ที่จะไปพูดปราศรัยให้พ่อแม่พี่น้องชาวไทยในสหรัฐอเมริกา ปรากฏว่า คนๆ นี้เขาบอกว่า อ้างว่าผมเนี่ยโดนคดีล้มล้างประชาธิปไตย ในสหรัฐอเมริกา มาได้ยังไงนะครับ คนๆ นี้มีธุรกิจอยู่ที่สหรัฐอเมริกา เป็นโรงพิมพ์เล็กๆ โรงพิมพ์หนึ่งนะครับ ที่มีชื่อว่า Budget Printing วันๆ ตอนนี้ไม่ต้องทำมาหากิน ไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้นนะครับ เขาก็เป็นคนซึ่ง มีอยู่อย่างเดียวคือเดินสายด่าพันธมิตรฯ ลูกเดียว เดินสายปกป้องระบบทักษิณ โดยไม่ใส่ใจเลยว่าระบบทักษิณนั้นจะเป็นยังไงนะฮะ
สนธิ - ผมเนี่ย เสียใจกับคนคนนี้ เสียใจที่ว่า นายทักษิณเนี่ย ขายชาติ ขายบ้าน ขายเมือง จาบจ้วงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สร้างระบอบคอร์รัปชั่นขึ้นมา ญาตพี่น้องตัวเองร่ำรวยมาจากความทุกข์ทรมานของชาติ ของแผ่นดิน มีตัวอย่างให้เยอะแยะไปหมด คนๆ นี้ไม่สนใจไม่ใส่ใจ แต่กลับไปสนับสนุนระบอบทักษิณ แล้วที่ผมเสียใจคือ คนๆ นี้จบบัญชีจุฬาฯ ปี 2521 ไปอยู่อเมริกา ไปอยู่ดินแดนที่เขาให้เสรีภาพการประท้วง การชุมนุมอย่างสันติ แต่คนๆ นี้กลับไม่เข้าใจการชุมนุมของเรา ซึ่งชุมนุมอย่างสันติ ความจริงแล้วผมไม่แน่ใจว่า คนๆ นี้อยู่ที่อเมริกาหรืออยู่ที่พม่ากันแน่ คนคนนี้น่าจะอยู่ที่พม่ามากกว่า มีอีกคนหนึ่งชื่อ นายเอนก ชัยชนะ ไอ้หมอนี่มันบ้า มันจาบจ้างพระเจ้าอยู่หัว เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังว่ามันจาบจ้วงอย่างไร นายคนนี้ นายเอนก ชัยชนะ ไปอเมริกาแล้วไปแต่งงานกับพยาบาลเพื่อมีสิทธิ์ในการที่จะอยู่อเมริกา เสร็จแล้วเลิกกับพยาบาลคนนั้นเพื่อเอาตัวเองมาสร้างกิจการของตัวเอง คนคนนี้กับนางชะบา จตุรบูล โทรศัพท์เข้าไปสถานีโทรทัศน์เล็กๆ ชื่อ ไอพีทีวี ซึ่งอยู่ในเครือข่ายของทักษิณเช่นกัน เพื่อให้สัมภาษณ์ด่าพันธมิตรฯ แล้วจาบจ้วง พูดว่าที่ไปฟ้องให้ กกต.ต้องจ่ายเงินค่าเลือกตั้ง 2,300 ล้านบาทนั้นไม่ใช่ พระเจ้าอยู่หัวต้องจ่าย เพราะพระเจ้าอยู่หัวเป็นคนเซ็นกฤษฎีกาการเลือกตั้ง ไอ้บ้าเนี่ย ไอ้เอนก ชัยชนะ จำหน้ามันเอาไว้พ่อแม่พี่น้อง มันอยู่ซานฟรานซิสโก ได้ยินหรือเปล่านายเอนก เวลาผมไปอเมริกาผมขอเจอคุณหน่อยได้ไหม คุณอย่าปากกล้าขาสั่นนะ ในที่สุดแล้วพันธมิตรฯ ในอเมริกาทนไม่ไหว ร่างจดหมายรวมตัวกันไปแจ้งความร้องทุกข์กับกงสุลไทย จดหมายบอกว่า วันที่ 9 สิงหาคม เรื่อง ขอแจ้งความดำเนินคดีกับนายเอนก ชัยชนะ ข้อหาหมิ่นและลบหลู่สถาบันพระมหากษัตริย์ เรียนท่านกงสุลใหญ่ สิ่งที่ส่งมาด้วย ข้อความข่าวในหนังสือพิมพ์ที่ลงในเอเชียน นิวส์ ฉบับวันที่ 3-9 2549 ข้าพเจ้าผู้ที่ลงลายมือชื่อตามข้างท้ายหนังสือแจ้งความนี้ มีความประสงค์ขอแจ้งความดำเนินคดีกับนายเอนก ชัยชนะ เจ้าของร้าน ราชาก๋วยเตี๋ยว หลายแห่งในเมืองซานฟรานซิสโก ขนาดชื่อร้านก๋วยเตี๋ยวมันยังจาบจ้วงเลยดูซิ เนื่องจากวันที่ 31 กรกฎาคม 2549 นายเอนก ชัยชนะ โทรศัพท์ไปแสดงความคิดเห็นในรายการประชาธิปไตยทูเดย์ ซึ่งมีนายสัญชัย โกรานนท์ และนายภาสกร สีแดงจันทร์ เป็นผู้ดำเนินรายการ เป็นรายการออกอากาศสด ซึ่งเป็นรายการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเมืองในประเทศไทย รายการนี้กระจายข่าวไปทั่วอเมริกาและแคนาดา เมื่อเวลาประมาณ 19.15 น. นายเอนก ชัยชนะ โทรศัพท์เข้าไปในรายการ แสดงความคิดเห็นตอนหนึ่งว่า การที่พวกพันธมิตรฯ เรียกร้องให้ กกต.ชดใช้เงินจำนวน 2,000 ล้านแก่รัฐบาลนั้น ความจริงจะต้องให้ในหลวงเป็นผู้จ่ายเงินจำนวนดังกล่าว เพราะเป็นผู้เซ็นพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง มันพูดออกมาเลย ไอ้เอนก ชัยชนะ ไอ้อ้วนตัวเนี้ย ข้อความดังกล่าวซึ่งถือเป็นการจาบจ้วงเบื้องสูงอย่างชัดเจน และเป็นการไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง นายเอนก ชัยชนะ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนนายทักษิณ ชินวัตร และเป็นผู้ต่อต้านกลุ่มพันธมิตรรักประชาธิปไตย ได้แสดงความคิดเห็นทุกวันในรายการนี้ และรายการของสถานีอื่น พวกข้าพเจ้ามีความเห็นว่า นายเอนก ชัยชนะ มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงเรียนมาให้ท่านได้โปรดพิจารณาข้อกล่าวหาดังกล่าว กับนายเอนก ชัยชนะ ตามขั้นตอนกฎหมายต่อไปด้วย จักขอบพระคุณยิ่ง พ่อแม่พี่น้องครับ เอเอสทีวีไม่ได้ระบาดไปเฉพาะทั่วประเทศไทย ไปสู่ชุมชนคนไทยในอเมริกา และทั่วโลก เป็นการสั่นคลอนระบอบทักษิณ จนกระทั่งระบอบทักษิณทนไม่ไหว ต้องเดินทางไปจัดการให้ผลประโยชน์ต่างตอบแทนให้กับหน่วยงานบางหน่วยงานของทางนู้น เพื่อที่จะออกมาต่อสู้กับพวกเรา หนึ่งในหน่วยงานนั้นคือ ไอพีทีวี ซึ่งคนที่เป็นเจ้าของคือนายนพดล วงศ์ชัยวัฒน์ อดีตเป็นพ่อค้าขนของหนีภาษีกลับประเทศไทยเป็นประจำ ทำผิดกฎหมายประเทศไทยตามหมายจับของศาลอาญา เลขที่ 7068/2546 สถานีกองกำกับการ 1 คดีที่ 271/2546 คดีนี้ยังไม่หมดอายุความ พวกเราต้องช่วยกันหาข้อมูลอันนี้ เห็นหรือยัง นี่คือคนซึ่งจะมาเกี่ยวพันกับนายทักษิณ ชินวัตร คนดีๆ เขาไม่มาร่วมด้วยหรอก เขาไปบอกว่า นางชะบาไปบอกว่า คนไทย 80 เปอร์เซ็นต์ในอเมริกาไม่เห็นด้วยกับพวกเรา ผมก็เลยเอาข้อมูลที่คนๆ นี้พูดเอาขึ้นเว็บไซต์ผู้จัดการ มีคนเข้ามา 800 กว่าความเห็น ด่ายายนี่เช็ดเลย แล้วเป็นคนในเมืองนอกทั้งนั้น แต่ละคนเขียนบอก ผมอยู่ลาสเวกัส ผมคนหนึ่งไม่เอาทักษิณ ผมอยู่แมรีแลนด์ ผมคนหนึ่งไม่เอาทักษิณ คุณไปเอาข้อมูลมาจากไหนว่าคนในอเมริกาเอาทักษิณ โธ่อีบ้า ดูหน้าให้ดีๆ เหมือนใคร เอาส่งเสียงกันหน่อย คนหน้าตาลักษณะอย่างนี้มักจะถูกโฉลกกับนายทักษิณ ชินวัตร เย็นไว้พ่อแม่พี่น้อง
สนธิ - เรื่องต่อไปที่ผมจะพูด คือเรื่องของนายทนงลำไย วันที่ 8 สิงหาคม มติคณะรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี มีมติบอกว่า ให้ อสมท ขายหุ้นออกไป 11 เปอร์เซ็นต์ จากที่ถือหุ้นอยู่ที่ร้อยละ 77.29 ขายออกไปให้ธนาคารออมสิน ไปเปลี่ยนมติบอกว่า ให้เปลี่ยนจากที่ถือหุ้นจากกระทรวงการคลังมาเป็นถือหุ้นในภาครัฐอันอื่นได้ ขายไปเอาเงิน 3,000 กว่าล้าน เอามาเพื่ออะไรพ่อแม่พี่น้อง เอามาเพิ่มทุนธนาคารทหารไทย พ่อแม่พี่น้องฟังให้ดีๆ ไอ้ลำไยฟังให้ดีๆ ธนาคารทหารไทยเป็นธนาคารที่นายลำไยเคยนั่งเป็นผู้บริหารอยู่ บริหารจนเจ๊ง แล้วในที่สุดใช้อำนาจรัฐตอนนั้นที่เข้ามาอยู่ในพรรคไทยรักไทย รวมธนาคารทหารไทยเข้ากับบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ไอเอฟซีที) รวมไปเลย พอรวมเสร็จแล้วจำได้ไหม ก็ขายตึกไอเอฟซีทีให้ใคร ให้พรรคไทยรักไทยในราคาที่ถูกมาก พรรคไทยรักไทยก็ตั้งพรรคไทยรักไทยอยู่ตรงนั้น ฮวงจุ้ยของพรรคไทยรักไทย ข้างหน้าคือ กามโลกีย์ อาบ อบ นวด ข้างหลังคือคลองน้ำเน่า เพราะฉะนั้นแล้ว ส.ส.พรรคไทยรักไทย ก็เป็น ส.ส.น้ำเน่า และก็ไร้ศีลธรรม เป็นไปตามฮวงจุ้ยที่พรรคนั้นตั้งอยู่ เสร็จแล้วธนาคารแห่งนี้ก็รวมกับธนาคารดีบีเอส ของสิงคโปร์ สิงคโปร์ก็ถือหุ้นอยู่ ต่างชาติก็ถือหุ้นอยู่ มาวันนี้ธนาคารอันนี้ขาดทุนไป 4-5 หมื่นล้านบาท อยู่ไม่ได้ เมื่ออยู่ไม่ได้แล้ว พ่อแม่พี่น้อง เมื่ออยู่ไม่ได้แล้วก็มีทางเลือก 2 ทาง หนึ่ง ต้องเพิ่มทุน สอง ต้องลดทุนลงมา แล้วค่อยเพิ่มทีหลัง ที่ถูกต้อง ต้องลดทุนใช่มั้ย แล้วเมื่อตัดขาดทุนใช่มั้ย แล้วค่อยเพิ่มทุน คำถามมีอยู่ว่า นายทนง ลำไย ผมถามคุณ ผมถามคุณ คุณนี่อวดดี ชอบคุยโม้ว่าคุณจบจากนอร์ทเวสต์เทิร์น มหาวิทยาลัยที่สอนทางธุรกิจเก่ง ผมถามคุณดังต่อไปนี้ คุณตอบให้หน่อยซิ ว่าประการแรก ประการแรกที่สุด ไอ้ธนาคารทหารไทยเนี่ย รัฐบาลก็ไม่ได้เป็นเจ้าของ รัฐบาลมีธนาคารที่ตัวเองเป็นเจ้าของอยู่ 8 แห่ง เมื่อไม่ได้เป็นเจ้าของแล้วเนี่ย ผู้บริหารธนาคารทหารไทยเขาบอกว่าเขาอยากให้ลดทุน แล้วค่อยเพิ่มทุน คุณกลับไม่ยอมลดทุน กลับจะเพิ่มทุน เพื่ออะไร คุณเพิ่มทุนเพื่อรักษาสัดส่วนเพื่อไม่ให้ไอ้ผู้ถือหุ้นเก่าๆ ของคุณที่อยู่ในนั้น มันต้องถูกลดทุน ใช่ ไม่ใช่
ประชาชน – (((ใช่)))
สนธิ - แล้วไอ้เวรตะไลที่ถือหุ้นอยู่น่ะ ใครบ้างล่ะ คุณกล้าพูดมั้ยล่ะ มันเป็นคนซึ่งคุณไม่รู้จัก คุณก็ไม่กล้าพูด คนที่คุณรู้จัก คนที่คุณใกล้ชิดด้วยกันทั้งนั้น เพราะฉะนั้นคุณเอาเงินรัฐเนี่ยไปเพิ่มทุน เพื่อไม่ให้ไอ้พวกบ้าซึ่งเป็นภาคเอกชน ซึ่งเป็นตัวแทนมาจากไหนก็ไม่รู้ ซึ่งเป็นพวกนอมินี จำได้หรือเปล่าพ่อแม่พี่น้อง ที่มันแอบซื้อธนาคารทหารไทยมาตั้งนาน เพื่อไม่ให้มันขาดทุน ใช่ ไม่ใช่
ประชาชน – (((ใช่)))
สนธิ - คุณทำไมถึงเลวอย่างนี้ 3 พันกว่าล้านบาท ไปเพิ่มทุน ทำไมคุณไม่ขายหุ้นมันทิ้งไปล่ะ ถือไว้ทำไม นี่คือความชั่วของรัฐบาลเถื่อนที่มันทำเถื่อนๆ พ่อแม่พี่น้องเห็นหรือยัง เพราะฉะนั้นแล้วจะเห็นได้ชัดเลย จะเห็นได้ชัดเลยว่าวาระซ่อนเร้นของรัฐบาลเถื่อนชุดนี้ไม่ต้องไปดูอะไรมาก มันทำแบบโง่ๆ เพราะว่ามันนึกว่าพวกเราโง่ เหมือนคนอีกเยอะ ที่มันหลอกได้ อยู่แถวๆ ทางบ้านนอก ใช่ ไม่ใช่
ประชาชน – (((ใช่)))
สนธิ - เอาล่ะ พ่อแม่พี่น้อง จำเอาไว้ก็แล้วกัน นายลำไยคนนี้เนี่ย มันพูดตลอดเวลา เขาบอกไอ้สนธิเนี่ยมันเพื่อนกัน ยังไงมันก็โกรธกันไม่ลง ขายไม่หมด ตัดไม่ขาด พ่อแม่พี่น้องจำคำพูดผมเอาไว้ จำเอาไว้ ถ้าผมไม่ตามเช็กบิลมันจนวันผมตาย หรือวันมันตาย ให้ก่นด่าโคตรเหง้าผมได้ 10 รอบ
สนธิ - นายทักษิณ ชินวัตร ชอบเดินทาง แล้วชอบเดินทางไปที่ที่ไม่ควรจะไป ที่ที่ไม่เป็นสิริมงคล ไปพม่าอย่างเนี้ย ล่าสุดเมื่อวานนี้นายทักษิณบินไปเขมร พ่อแม่พี่น้องครับเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังเขาไปเขมรทำไม เขาไปเขมรด้วยเรื่อง 2 เรื่อง เรื่องแรก คือ เขาจะไปให้เงินกู้ราคาถูกจากเอ็กซิมแบงก์ มาอีกแล้วเอ็กซิมแบงก์ พม่าให้ไป 4,000 ล้าน เงินไม่ได้เข้าพม่าเลย เงินออกจากเอ็กซิมแบงก์เข้าชินคอร์ปทันที เป็นค่าดาวเทียม ซึ่งลูกชายขิ่น ยุ้นต์ มาลงทุนกับกลุ่มบริษัทชินคอร์ป ตัน ฉ่วยถึงไม่ยอมรับหนี้ก้อนนี้ไง เอ็กซิมแบงก์ รัฐบาลสั่งให้เอ็กซิมแบงก์ปล่อยให้เขมรกู้ 1,300 ล้าน เพื่อสร้างถนน ไปครั้งนี้คนที่สร้างถนนได้โครงการ 1,300 ล้าน มันต้องจ่าย 30 เปอร์เซ็นต์ 390 ล้าน นี่คือเงินต้นทุนสำหรับเตรียมเอาไว้ในการเลือกตั้ง เหมือนการเลือกตั้งครั้ง 2548 ทนงลำไยทำอะไรไว้ ซื้อเครื่องบิน ที่เคยเล่าให้ฟังไง มันซื้อเครื่องบินก่อนมีการเลือกตั้งไม่กี่เดือน จ่ายเงินจ่ายทองกันเรียบร้อย ค่าคอมมิชชั่น ค่าเก๊าเจี๊ยะพวกนี้มันเอาไปเลือกตั้งกัน ก็เลยทำให้การบินไทยต้องใช้เครื่องบินแพง นอกจากใช้เครื่องบินแพงแล้วยังเป็นเครื่องบินที่ไม่มีประโยชน์ต่อเส้นทางการบินของการบินไทย จำได้หรือเปล่าที่ผมเคยเล่าให้พ่อแม่พี่น้องฟัง ผมพูด อย่าลืม วันนี้มันตามกลับมาหลอกหลอนกันอีกแล้ว ไปเขมรงวดนี้วาระซ่อนเร้นครั้งที่ 2 คือเรื่องหลุมแก๊ส พัฒนาแก๊สและน้ำมันในอ่าวไทย เอาภาพขึ้นหน่อยซิครับ พ่อแม่พี่น้องดูนะครับ ตามหลักทะเลสากลแล้ว ตรงไหนที่เป็นทะเล ริมฝั่งชายแดนของแต่ละประเทศจะลากเส้นออกมา 200 กิโลเมตร ทั้ง 2 ด้าน เพราะฉะนั้นแล้วเขตพื้นที่ภายใน 200 กิโลเมตรนั้นเป็นของเรา ทีนี้ปัญหาจะเกิดขึ้น ในช่วงความแคบของประเทศซึ่งมันอยู่ใกล้กัน เมื่อต่างฝ่ายต่างลากแล้วมันจะมาทับซ้อนกัน ถ้าต่างฝ่ายต่างลากแล้วไม่ทับซ้อนไม่เป็นไรแบ่งกันได้ถูกต้อง พอมันทับซ้อนแล้วมันมีปัญหา สีน้ำเงินเป็นจุดซึ่งลากออกมาแล้วมันชัดเจน เพราะฉะนั้นแล้วของไทยอยู่ตรงไหนของเขมรอยู่ตรงไหนมองเห็นชัด แต่สีเหลืองซึ่งเป็นสีที่ลากออกมาแล้วมันทับซ้อนกันมีปัญหา ตรงนี้จะมีปัญหามาก นี่คือจุดซึ่งถกเถียงกันมานาน ตั้งแต่ปี 2544 เจรจากัน ทีนี้ตรงนี้สำคัญตรงไหน ตรงนี้สำคัญตรงที่ว่า มีต่างชาติเขาไปค้นพบว่าตรงนี้ทั้งสีน้ำเงิน ทั้งสีเหลือง เป็นแหล่งที่มีแก๊สที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะฉะนั้นแล้วหากมาทำอะไรก็ตามต้องทำ ใครมาทำแล้วจะได้ประโยชน์มากที่สุด เอาละ ประเทศชาตินั้นมีอยู่ 2 ส่วน ส่วนหนึ่งคือเศรษฐกิจ อีกส่วนหนึ่งคือความมั่นคง ส่วนเศรษฐกิจก็ว่ากันไป แต่เศรษฐกิจจะว่าโดยไม่พิจารณาความมั่นคงไม่ได้ นี่เรื่องสำคัญมาก เหมือนเกาะช้าง พ่อแม่พี่น้องรู้ความจริงหรือเปล่าว่า เกาะช้างนั้นเป็นเกาะซึ่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ มีความปรารถนาให้เป็นจุดยุทธศาสตร์ของประเทศไทย ที่จะให้กองทัพเรือใช้เกาะช้างเป็นจุดที่จะป้องกันการรุกรานประเทศในอนาคตที่จะมีมาทางทะเล เพราะเกาะช้างเป็นจุดยุทธศาสตร์ จำได้ไหมตอนที่มีการรบกับฝรั่งเศส ที่เขาเรียกว่า ยุทธการณ์เกาะช้าง ฝรั่งเศสส่งเรือมาต้องผ่านเกาะช้าง ของเราก็ไปตั้งรับที่เกาะช้าง เพราะฉะนั้นแล้วแนวความคิดของพระองค์ท่านนั้น อยากจะให้เก็บรักษาเกาะช้างเอาไว้ แล้วเกาะช้างนั้นที่ดินแถบจะไม่มี เป็นภูเขาทั้งนั้นข้างใน มีที่ดินรอบๆ เกาะอยู่ไม่มาก แล้วคนที่อยู่คือชาวบ้านที่อยู่กันมาหลายชั่วคนแล้ว พอมาถึงยุครัฐบาลชุดไทยรักไทย นายทักษิณไม่สนใจยุทธศาสตร์ประเทศ ไม่สนใจความมั่นคงประเทศ สนใจอย่างเดียวคือ จะทำมาหากิน ก็เลยพัฒนาเกาะช้างเป็นแหล่งท่องเที่ยวซะ ทั้งๆ ที่ก็แทบจะไม่มี ที่แทบจะไม่มีให้พัฒนาแล้วก็ยังฝืนไปพัฒนา ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ มองว่าเกาะช้างเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในแง่ยุทธศาสตร์ของประเทศไทย ไม่มีแหล่งท่องเที่ยวที่เกาะช้างสักแหล่งประเทศไทยจะตายหรืออย่างไรนายทักษิณ แล้วพัฒนาไปก็พรรคพวกคุณทั้งนั้น ที่ไปได้ผลประโยชน์กัน เพราะฉะนั้นแล้วนี่เห็นชัด ผมยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ เพราะฉะนั้นแล้วจะเห็นได้ชัดว่า พื้นที่เมื่อกี้สีเหลืองกับสีน้ำเงิน การที่จะไปครั้งนี้ที่ถูกต้องต้องเอาทหารไปด้วย เขามีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญแผนที่ของกรมทหาร ทหารเขามีกรมแผนที่ทหารบก จำได้หรือเปล่า พ่อแม่พี่น้องรู้จักใช่มั้ย เขาชำนาญเรื่องแผนที่ เขาเก่งแผนที่ที่สุดในประเทศไทย เพราะฉะนั้นแล้ว กรมแผนที่ทหารบกเขาจะบอกเลย ว่าถ้าคุณจะตีเส้นตกลงอะไรกันเนี่ย คุณต้องเอาผมไปด้วย เพราะว่าตีเส้นแบ่งอะไรเนี่ย ผิดไป 1 องศา เนื้อที่ที่ประเทศไทยเสียหาย หายไปหลายร้อยหลายพันตารางกิโลเมตรนะ เพราะเนื้อที่ทั้งหมดเนี่ย มัน 26,000 ตารางกิโลเมตร หายไปหลายพันตารางกิโลเมตรนะ เพราะฉะนั้นแล้วเนี่ย แผ่นดินไทย หรือทะเลไทย ในสิทธิของเราเนี่ย เมื่อเป็นสิทธิของเราแล้วเนี่ย เรายกให้ใครไม่ได้อยู่แล้ว แต่ถ้ามีข้อพิพาทกันเนี่ย ก็ต้องตกลงกันเสียก่อนด้วยการตีแผนที่ให้ชัด ต้องเอาผู้เชี่ยวชาญแผนที่ไป ไม่ใช่เอาไปเฉพาะนายวิเศษ จูภิบาล รัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน เอาไปเพื่อจับมือกันว่าเรามาร่วมกันพัฒนาไอ้พื้นที่สีเหลือง ทำไมผมต้องพูดเรื่องนี้ ผมต้องพูดโยงต่อไปให้ฟัง ว่าทำไมทักษิณ ชินวัตร มีความประสงค์ที่ขายชินคอร์ปทิ้งไปเนี่ย เพราะต้องการเอาเงินไปลงทุนที่พลังงาน ไม่เห็นการแปรรูป ปตท.เหรอ แปรรูป ปตท. แล้วก็มีไอ้สุนัขนอมินีน่ะ กี่ตัวล่ะ มาหลบซ่อนอยู่ในชื่อนอมินี ไอ้พวกชิงหมาเกิดทั้งนั้นไอ้พวกนั้นน่ะ แล้วก็เตรียมแปรรูป กฟผ. แต่ไปติดขัด แปรไม่ได้ ทีนี้ก็บินไปที่เขมร เอาขนมหวานไปล่อก่อน เอาถนนไปให้ 1,300 ล้านบาท แต่วงเล็บ ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นมา 30 เปอร์เซ็นต์ 390 ล้าน ไอ้บริษัทไหนในประเทศไทยที่รับไป ให้รู้ซะด้วยว่าต้องจ่ายประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ พ่อแม่พี่น้องจำชื่อบริษัทที่รับงานก่อสร้างนี้เอาไว้ก็แล้วกัน แล้วใครมีเส้นสาย ไปเช็กสิ ว่าราคาที่มึงได้นี่ 1,300 ล้าน จริงหรือเปล่า
สนธิ - เมื่อให้อันนี้ไปแล้วก็มาพัฒนาแหล่งแก๊ส เขมรนี่พูดง่าย เขมรนี่ไม่เขี้ยว มันจะยากอะไรล่ะ ก็มันถนัดนอมินีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ไอ้พวกชิงหมาเกิดพวกเนี้ย มันก็เอานอมินีของมันที่สิงคโปร์เข้าไปที่เขมร ยัดเงินใต้โต๊ะให้เขมร แล้วก็บอกว่า ขอให้มันเป็นตัวแทนเขมรในการพัฒนาร่วมกับไทย เพราะไทยมันหนีไม่ได้ ไทยมันก็ต้องเป็น ปตท. ก็ไอ้พวกชิงหมาเกิดที่แอบถือหุ้นอยู่เหมือนกัน เห็นหรือยัง นี่เขาเรียกว่า ขอประทานโทษด้วยนะ ภาษาผมเขาเรียกว่า ยัดห่าสองต่อเลย ต้องใช้คำพูดแบบนี้ ต้องกราบขออภัยพ่อแม่พี่น้อง ไม่รู้จะใช้คำพูดแบบไหนมันถึงจะสาสม เห็นหรือยังพ่อแม่พี่น้อง เพราะฉะนั้นแล้ว ปตท.สผ. เข้าไปพัฒนาไอ้พื้นที่บ้าเนี่ย ไอ้พวกนอมินีชิงหมาเกิดก็ได้ประโยชน์ แล้วมันก็แอบเอาอีกนอมินีหนึ่งวิ่งเข้าไปทางเขมร เห็นหรือยัง เข้าไปร่วมทุนกับเขมร แล้วก็มาร่วมกันทำ ก็ของมันหมดน่ะ เห็นหรือยังว่ามันเอาทรัพย์สมบัติของพวกเราไปอย่างหน้าด้านๆ ที่สุดเลย
สนธิ - เพราะฉะนั้นแล้วเนี่ย ผมต้องลดโทนเสียงหน่อยแล้ว เดี๋ยวจะเกิดคนบ้าคลั่งขึ้นมาข้างล่างนี้ ต้องขอโทษที พ่อแม่พี่น้อง คือเรื่องแบบนี้นี่จะมาซี้ซั้วทำกันไม่ได้ คำถามมีอยู่ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องตกลงกันระหว่างประเทศ ทำไมคุณถึงหน้าด้าน ในฐานะรักษาการรัฐบาลเถื่อน ไปตกลง ไปทำไมวะ แล้วนี่จะหาเสียงนะเนี่ย อีสาน จะเชิญผู้นำสิงคโปร์กับผู้นำเขมรมาประชุมกันที่อีสาน มาประชุมทำไม ก็คุณเป็นรัฐบาลเถื่อนอยู่ รักษาการอยู่ มาประชุมทำไม ถ้าไม่ใช่มาประชุมเพื่อสร้างภาพ เห็นหรือยัง เดี๋ยวผมจะบอกให้พ่อแม่พี่น้องว่า นายทักษิณเนี่ยมันสร้างภาพยังไงบ้างในชีวิตนี้ เพราะฉะนั้นแล้ว อย่างที่ผมบอกกับพ่อแม่พี่น้อง คุณจะไปตกลงอะไรเนี่ย คุณมีสิทธิตกลงได้ ผมไม่ได้เถียง ว่าไอ้พื้นที่ที่ทับซ้อนกันเนี่ยมันเป็นพื้นที่ที่ต้องคุยกัน ร่วมกันพัฒนา แต่ขอโทษ ไม่ใช่หน้าที่คุณไปคุยตอนนี้ ทำไมคุณไม่รอรัฐบาลเข้าไปคุย อยากจะรับประทานกันเดี๋ยวนี้เลยใช่ไหม อยากจะงุบงิบเซ็นกันเดี๋ยวนี้ ใช่ ไม่ใช่ เผื่อ เผื่อจะไม่มีโอกาสได้อยู่ในประเทศไทยอีก ใช่ ไม่ใช่ เห็นหรือยังพ่อแม่พี่น้อง ไอ้คนที่มันตอหลดตอแหลเนี่ย มันพูดยังไงมันก็ดูออกว่ามันตอแหล โกหกไม่ได้ คุณเอาเหตุผลมาเล่าให้ผมฟังซิ เขายิงกันตายแทบทุกวันที่ใต้ ทำไมมึงไม่ลงไปดูล่ะ ครู ครูจูหลิงน่ะ ที่ยังนอนไร้สติอยู่ ที่เคยพูดว่าจะลงไปเยี่ยม ทำไมไม่ไปเยี่ยม น้ำท่วมเชียงใหม่น่ะ คนเชียงใหม่ คนเชียงใหม่เจ้าได้ยินหรือเปล่า ยังจะเลือกทักษิณอีกเหรอ น้ำท่วมเชียงใหม่ เนี่ย พูดออกมาได้ยังไงว่าการเมืองมันไม่นิ่งก็เลยแก้ปัญหาน้ำท่วมไม่ได้ ถ้าแก้ปัญหาน้ำท่วมเพราะการเมืองมันไม่นิ่ง การเมืองมันไม่นิ่งแล้วมึงไปแก้ปัญหาเรื่องเส้นทางแก๊สได้ยังไงล่ะ ถ้ามันไม่นิ่งก็ไม่ต้องไปแก้ปัญหาอะไรทั้งสิ้นเลย ใช่ ไม่ใช่ เห็นหรือยังพ่อแม่พี่น้อง มันจะโกหกทั้งทีมันยังไม่มีทักษะในการโกหก
สนธิ – (((ขอน้ำหน่อยครับ แสบคอ วันนี้)))
สนธิ - แล้วเขาเล่าให้ฟังว่ามีการไปแทรกแซงการทำงานของผู้เชี่ยวชาญเรื่องแผนที่ทหาร กดดันให้เขายอมรับการสูญเสียสิทธิเหนือดินแดนทางทะเล เหมือนกับห่วง เหมือนกับการยกผลประโยชน์ทางท้องทะเลให้กับเพื่อนบ้านไปเลย ถ้าแน่จริงเรื่องนี้ต้องโปร่งใส เรื่องนี้ต้องประชุมนักวิชาการทางทะเล บอกว่า ที่เขมรบอกมาเป็นอย่างนี้เราว่าอย่างไร เชิญเขมรมาประชุมที่กรุงเทพฯก็ได้ แล้วอย่างุบงิบกันระหว่างนายทักษิณ ชินวัตร กับนายวิเศษ จูภิบาล คุณเปิดเผยซิ คุณโปร่งใสหน่อยซิ ที่เขาสู้กันทุกวันนี้เพราะว่าคุณชอบงุบงิบ เพราะฉะนั้นแล้วผมไม่เห็นมันจะยากอะไรเลย คุณก็เปิดประชุมระดับภูมิภาค คุณเอาเขมรมาคุณเอาไทยเข้าไป แล้วคุณถ่ายทอดทีวี แล้วเอานักวิชาการเถียงกันทะเลาะกัน ตกลงกันได้ตรงไหน หยวนกันตรงไหนให้เห็นกันชัดๆ ว่าเราจะหยวนมันตรงไหน มันจะหยวนเราตรงไหน เหมือนกับประเทศไทยนี้คือผู้หญิงสวย คุณอยู่ในบ้านหลังนี้แต่คุณแอบเข้าหลังบ้านแล้วเอาไหมพรมคลุมหน้าสีดำแล้วมาลวนลามผู้หญิงสวย คือประเทศไทย แต่ทั้งหมดคือตัวคุณนั่นเอง พ่อแม่พี่น้องเข้าใจหรือยังว่าทำไมเราต้องสู้มัน พ่อแม่พี่น้องที่อยู่ต่างจังหวัด เคเบิลทีวีทั่วประเทศไทย คนที่อเมริกา นางชะบา ดูหรือเปล่า นายเอนก ดูซะมั่งรายการนี้ อย่าโง่ต่อไป อุตส่าไปอยู่ถึงอเมริกงอเมริกายังโง่กว่าอาแปะของผมคนนี้เลย
สนธิ - พ่อแม่พี่น้องครับ จำได้หรือเปล่า เมื่อวันศุกร์ที่ 4 สิงหาฯ ผมบอกว่า 28 กันยายนจะเกิดกลียุคที่สุวรรณภูมิ จำได้ไหม ลายออกแล้ว ถ้าแน่จริงเปิด 28 กันยาฯ ร่นมาทำไมวันที่ 15 เพราะว่าเริ่มรู้แล้วว่าเริ่มมีคนรู้ทัน กลัวว่าวันที่ 28 ที่จะเปิด เปิดแล้วถ้าฉิบหายขึ้นมาแผนการจะหาเสียง แผนการจะทำประชาสัมพันธ์เอาไปขายรากหญ้ามันจะเจ๊ง ไม่กลัวได้อย่างไรล่ะ ก็ผมบอกแล้วไงว่า สนามบินไม่ใช่อาบอบนวดที่นึกจะย้ายกันพรุ่งนี้ก็ย้าย มันไม่ใช่ 70 เปอร์เซ็นต์ แล้วซอฟท์โอเพนนิ่ง โรงแรมคุณสร้าง 15 ชั้น คุณสร้างเสร็จแล้ว 4 ชั้น อีก 11 ชั้นยังสร้างไม่เสร็จ ยังมัวแต่ตกแต่งอยู่ยังพอกล้ำกลืนเปิด 4 ชั้นได้ นี่สนามบิน มันมีจุดที่เขาบอกอันตราย องค์กรระหว่างประเทศมาตรวจแล้วว่ามีจุดอันตราย 29 จุด ที่อาจจะทำให้ถึงแก่ชีวิต เมื่อเขาพูดเช่นนี้ไปแล้วต้องฟังเขา ไม่ฟังเขาไม่ได้ เลยกลัววันที่ 28 จะไม่มีเครื่องบินต่างชาติมาลง เลยคิดง่ายๆ คือว่า วันที่ 4 พอผมพูดคงจะได้ฟัง วันที่ 4 หรือวันที่ 5 ว่าเออไอ้สนธิที่กูเกลียดมันพูดอย่างนี้ เฮ้ยเพ้งฉิบหายแล้วโว้ยถ้ามันพังเราจะทำอย่างไรวะ ถ้าเราปิดดอนเมืองสุวรรณภูมิพังถ้าเราต้องนั่งเครื่องบินหนีก็ไม่มีสนามบินให้บินหนีโว้ยเพ้ง เพราะฉะนั้นแล้วเฮ้ยเพ้งอย่างนี้แล้วกันวะ เลื่อนมันขึ้นมาเป็น 15 แล้วให้สายการบินในประเทศมาลงแทน พอลงเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เจ๊ากันไปถือว่าเปิดแล้ว เพราะว่าไปสั่งสายการบินต่างชาติไม่ได้ใช่ไหม ก็เลยสั่งสายการบินในประเทศ ปรากฏว่าสั่งได้เจ้าเดียวคือ การบินไทย การบินไทยสหภาพฯ ก็ออกมาประท้วงแล้ว บอกว่า จะให้ลงวันที่ 15 ไม่พร้อม เลยตัดสินใจ เนื่องจากว่าเขามีเพื่อนร่วมรุ่นเขา นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 10 กัปตันนรหัตถ์ ซึ่งเป็นรองผู้จัดการใหญ่การบินไทย ดูแลรับผิดชอบเอาใจใส่นายทักษิณตลอดเวลา คนๆ นี้คือคนที่อยู่เบื้องหลังในการบินไทยที่คอยรับใช้นายทักษิณ ชินวัตร กัปตันนรหัตถ์ พ่อแม่พี่น้องจำชื่อเอาไว้ให้ดีๆ ปรากฏว่า ตัดสินใจ นายจะให้เอาสายการบินในประเทศลง เฮ้ยการบินไทย ก็การบินไทยยังหักคอเขาซื้อเครื่องบินซังกะบ๊วยมาตั้ง 10 ลำ 12 ลำ เรากินค่าคอมมิชชั่นยังทำได้ แค่สั่งเครื่องบินลงทำไมจะลงไม่ได้ ปรากฏว่า เมื่อสั่งเครื่องบินลงแล้วก็ไม่กล้าสั่งเครื่องบินลงการบินไทยในประเทศทั้งหมด เพราะจะมีเครื่องบินที่บินมาจากยุโรป มาลงกรุงเทพฯแล้วต่อเครื่องไทยไปภูเก็ต หรือว่า ต่อเครื่องไทยไปเชียงใหม่ หรือต่อเครื่องไทยไปหาดใหญ่ เพราะฉะนั้นถ้าทุกสายการบินไทยในประเทศไปลงที่สุวรรณภูมิแล้ว เครื่องบินที่ลงมาจากดอนเมืองมันต้องนั่งรถยนต์ไปต่อเครื่องที่สุวรรณภูมิมันจะไม่ได้ เลยใช้วิชามาร มีอยู่ 3 เที่ยวบินที่บินจากสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ-พิษณุโลก วันละ 3 เที่ยว สุวรรณภูมิ-อุบลราชธานี วันละ 1 เที่ยว สุวรรณภูมิ-เชียงใหม่ วันละเที่ยว ต่อวัน นี่ทำไปทำไมน่ะ ทำไปก็เพื่อให้เห็นว่าสายการบินในประเทศลง 3 เที่ยวต่อวัน ถือว่าเปิดแล้ว เห็นหรือยังพ่อแม่พี่น้อง แล้วที่มึงคุยเอาไว้ไงล่ะว่า 28 ต้องเปิด หายไปไหนแล้วล่ะวันนี้ ไอ้โกหกตอแหล
สนธิ - ถ้าแน่จริง นายทักษิณ วันเสาร์ วันพรุ่งนี้น่ะ ในรายการวิทยุนายกฯ โกหกประชาชนเนี่ย กล้าหรือเปล่า กล้าพูดไหมว่าถ้ามีอะไรบกพร่องที่สุวรรณภูมิ ผมจะลาออกจากนายกฯ หรือไม่ ดีที่สุด ผมจะลาตาย อย่าดีแต่หาเสียงไปวันๆ นายทักษิณ เชื่อผมสิพ่อแม่พี่น้อง วันพรุ่งนี้ให้ฟัง วันเสาร์ รายการเดี่ยวไมโครโฟน พูดคนเดียว เขาก็จะต้องพูดแก้ตัวเรื่องวันเปิดมาเป็นวันที่ 15 กันยาฯ เขาจะอ้างข้างๆ คูๆ ว่าเป็นแค่ไอเดีย เพื่อให้ฝ่ายปฏิบัติการพิจารณากัน แล้วเขาก็จะยืนยัน โกหกเหมือนเดิม ว่าสุวรรณภูมิพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นแล้วการเปิดก็ถูกเลื่อนจาก 28 มาเป็น 15 แต่ว่าวันที่ 15 นั้น 3 เที่ยวบิน สุวรรณภูมิ-พิษณุโลก สุวรรณภูมิ-อุบลราชธานี สุวรรณภูมิ-เชียงใหม่ 1 เที่ยว เห็นหรือยังพ่อแม่พี่น้อง ชบา กับอเนก ที่อยู่เมืองนอกน่ะ ดูอยู่หรือเปล่า จะได้หายโง่ซะที
สนธิ - พูดถึงอุบลราชธานี ผมมีเรื่องที่จะฝากถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานีหน่อย คุณจะเลียไข่ใคร คุณจะถืออุ้มไข่ใคร ผมไม่ว่า แต่คุณจะเลียกันจนกระทั่งคุณหน้ามืดตาบอด แล้วเสนอไปตั้งนางเยาวเรศ ชินวัตร ให้เป็นนายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี คุณบ้าไปแล้ว คุณสงสารเด็กๆ บ้างสิที่มันเรียนราชภัฏอุบลราชธานีน่ะ คุณสงสารลูกของพ่อแม่พี่น้องชาวอีสานเขาบ้าง คุณเอาไว้ได้ยังไงนางเยาวเรศ ชินวัตร ไปเป็นนายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ถูก ถูก มสธ.เขาไล่ออกมาเพราะใช้ใบสุทธิปลอมไปเรียน แล้วคุณยังหน้าหนาตั้งเขาไปเป็นนายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานีเหรอ ผมต้องกราบขอโทษนักเรียน นักศึกษาราชภัฏอุบลราชธานี ผมจะไม่มีวันรับเด็กที่จบมาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานีเด็ดขาด
สนธิ - เห็นหรือยังพ่อแม่พี่น้อง มันทำยังกับว่าประเทศไทยนี่อยู่ภายใต้ส้นตีนพวกมัน มันนึกจะขยี้ตรงไหนก็ขยี้ อย่าๆ ยกตีนมาให้ผม อย่ายก เอาไว้รูปทักษิณขึ้นแล้วก็ยกไปทางโน้น เห็นหรือยังพ่อแม่พี่น้อง อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี นี่คุณคิดได้ยังไง คุณตอบผมซิ มันมากไปแล้วนะเรื่องนี้น่ะ มันมากจริงๆ มันรับไม่ไหวจริงๆ คุณเอาคนที่เอาใบสุทธิปลอมไปสมัครเรียน มสธ. แล้วในที่สุดคณะกรรมการ มสธ.ค้นพบว่าเป็นใบสุทธิปลอม ก็ไล่ออกจาก มสธ.เลย แล้วคุณเอาเขาไปเป็นนายกสภามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ผมเนี่ยสงสารเด็กนักเรียนที่เรียนอยู่อุบลราชธานี ราชภัฏอุบลราชธานี พ่อแม่พี่น้องที่ดูเอเอสทีวีอยู่ในอุบลราชธานี อายเขาบ้างหรือเปล่าพ่อแม่พี่น้อง ทำไมคนอุบลฯ ถึงถูกเหยียบย่ำขนาดนี้ หา คนอีสานที่มีความรู้ดีๆ ที่มีคุณธรรม ที่มีจริยธรรม ที่มีศีลธรรม ไม่มีเลยเหรอที่จะไปเป็นนายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
สนธิ - พ่อแม่พี่น้องจะเห็นได้ชัดเรื่องสุวรรณภูมิ เอาล่ะต่อไป วันนี้บอกแล้วว่าเรื่องมันเยอะ วันนี้จะฉาย Reality Show ของนายกฯ เถื่อนไปเยือนอีสาน นายทักษิณเนี่ยนะ เป็นคนที่ถือคติทุกวันนี้ว่า ด้านได้อายอด เป็นคนพูดอย่างนี้จริงๆ หาเงินเตรียมเลือกตั้ง หาเสียงใช้งบฯ อ้าว ยกสิๆ ทีงี้ยังไม่ยก แหม ทีรูปไม่ขึ้นล่ะ ยกให้ผมดูตลอดเวลา หาเสียงใช้งบหลวงไปก่อน ไม่ต้องควักกระเป๋าตัวเอง หัวใจของการหาเสียงวนเวียนอยู่ไม่กี่เรื่อง พ่อแม่พี่น้องสังเกตให้ดีๆ ย้ำว่าเศรษฐกิจดี นายทักษิณหาเสียงพูดอยู่ไม่กี่เรื่อง พูดว่าเศรษฐกิจดี สนามบินสุวรรณภูมิตัวเองสร้างเสร็จ 30 บาทรักษาทุกโรค เอสเอ็มแอล เดี๋ยวนี้ไม่พูดถึงกองทุนหมู่บ้านแล้ว พูดถึงเอสเอ็มแอล พ่อแม่พี่น้องรู้ไหมว่าทำไมไม่พูดถึงกองทุนหมู่บ้าน มันเจ๊งแล้ว เลยไม่พูดมาพูดเอสเอ็มแอลแทน เพราะฉะนั้นแล้วบวกกับเรื่องใหม่ พอๆๆๆ ช่างกล้องพอแล้ว มันเผยแพร่ออกไปทั่วโลก บวกกับเรื่องใหม่ที่เพิ่งมาพูด เรื่องแจกแลปท็อปให้เด็กนักเรียน ไปที่ไหนก็พูดเรื่องนี้ แสดงว่าวันนี้นายทักษิณไม่มีมุกแล้วใช่ไหม หมดมุกแล้ว แสดงว่าคนๆ นี้เป็นคนป่วย ป่วยไม่รู้จะใช้อะไรมันก็คิดได้แบบนี้เท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นนายทักษิณ เลยเป็นคนที่น่าสมเพชเวทนามากที่สุด ใจหนึ่งอยากจะวางมือเพราะดูๆ ไปดื้ออยู่ในอำนาจต่อไปจะถูกต่อต้านไม่หมดสิ้น สับสน สมองสับสน เช้าพูดอย่าง บ่ายพูดอย่าง เย็นพูดอย่าง กลางคืนบ้าไปอีกอย่าง พอตั้งหลักได้ก็เลยบอกว่า ด้านได้อายอด ด้านได้อายอด ด้านได้อายอด เดินก้าวซ้ายออกจากบ้าน ด้านได้อายอด ด้านได้อายอด เดินเท้าขวา หาเงินหาเสียง หาเงินหาเสียง ด้านได้อายอด ด้านได้อายอด หาเงินหาเสียง หาเงินหาเสียง ผมพอจะเป็นแดนเซอร์ได้หรือเปล่า พี่น้องครับ วันที่ 7-9 สิงหาคม 2549 นายทักษิณอ้างว่าไปตรวจราชการ ผมเกิดมายังไม่เคยเจอใครหน้าด้านแบบนี้เลย ไปหาเสียงแท้ๆ บอกว่าไปตรวจราชการ เอาละ สมัยก่อนชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ เดี๋ยวนี้วาสนาเริ่มตกแล้ว ชี้นกเป็นนก แต่พอเริ่มใกล้หมดวาสนา ชี้นกกลับได้ไม้หน้าสามมาแทน เรามาไล่วันกันพ่อแม่พี่น้อง ผมเคยแนะนำพ่อแม่พี่น้องว่า วิธีรู้ทันทักษิณอย่าไปมองวันนี้แล้วตัดสินใจ อย่าไปมองที่ ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า เรียวไทมส์ อย่าไปมองวันนี้ ให้มีความทรงจำนิดหนึ่ง ย้อนหลังกลับไปหน่อย เรามาเริ่มกันผมจะไล่เป็นวันๆ ศุกร์ที่ 21 กรกฎาคม จำได้หรือเปล่า ได้ซี่ร้องไห้กันกระจองงอแงกันวันนั้น ศุกที่ 21 วันนั้นทันทีที่นายทักษิณรู้ว่ามีการโปรดเกล้าฯ ให้มีการเลือกตั้ง จำได้ไหมเขาพูดว่าอย่างไร เขาบอก "กกต.เดี๋ยวต้องสรรหาเพิ่มอีก 2 คนทันทีเพื่อให้ครบจะได้เลือกตั้งได้” อารมณ์กำลังดีแสดงว่าไม่ได้ดูรายการเมืองไทยรายสัปดาห์วันศุกร์นั้น วันเสาร์ที่ 22 ไปที่สมาคมชาวเหนือ ยกเก้าอี้นายกสมาคมชาวเหนือให้กับเพื่อนรักที่เป็นผู้อำนวยการกองสลาก พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ แล้วไปแขวะพรรคประชาธิปัตย์เขา บอกว่า คุณหญิงแสงเดือน ณ นคร เขาเรียกว่า พรีดีเซทเซอร์ นี่คือคำพูดนายทักษิณนะ คนที่ภาษาอังกฤษพูดสุนัขไม่รับประทานแต่ชอบพูดไทยปนอังกฤษ เขาบอกว่า คุณหญิงแสงเดือน ณ นคร คือ พรีดีเซทเซอร์ คือ คนก่อน ส่วนคนใหม่ คือ พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ เป็นซัคเซทเซอร์ เป็นผู้ที่มารับตำแหน่งต่อไป ฟังนะเขาแขวะนะ เขาบอกว่า ส่วนคุณชวนนั้นเป็นพรีดีเซทเซอร์ในฐานะนายกฯ ส่วนคนที่จะเป็นซัคเซทเซอร์เป็นใครยังไม่รู้ นี่แขวะเขา อารมณ์ดี ตอนเช้าสมาคมชาวเหนือ วันเสาร์ที่ 22 หลังจากที่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งมาแล้ว ออกมาเลย ต้องให้ กกต.สรรหาอีก 2 คนจะได้เลือกตั้ง วันเสาร์รุ่งขึ้นไปแขวะชาวบ้านเขา วันเสาร์ตอนบ่ายไปที่โรงพยาบาลศิริราช ไปกับพจมาน ชินวัตร ดวงเริ่มไม่ดี ปรากฏว่าอยากจะขึ้นไปชั้น 15 ชั้น 16 ขึ้นได้แค่ชั้น 2 ขึ้นไปแล้วจะลงทันทีก็กลัวจะเสียหน้าเลยเก๋ไก๋ของเข้าห้องน้ำหน่อย เข้าไปฉี่ ขนาดไปเข้าห้องน้ำหวีผม 12 รอบแล้วลงมาทั้งหมดเบ็ดเสร็จไม่ถึง 2 นาที คนเลยรู้ว่าไม่ได้ขึ้น ปรากฏว่า ไปไหนมาไหนเดี๋ยวนี้ต้องมีหน้าม้าไปตะโกน เลยมีหน้าม้าไปตะโกน ทักษิณสู้ๆ เลยโดนพันธมิตรฯ ไล่ ทักษิณออกไป ดวงเริ่มไม่ดีแล้ว เดี๋ยวเตือนสตินิดหนึ่ง พ่อแม่พี่น้องจำวันที่เขาไปที่สนามบินสุวรรณภูมิได้ไหม ที่มีประชาชนตะโกนทักษิณ สู้ๆ แล้วไปกอดไปหอมเขา คนอุดรทั้งนั้น หมอวิชัยพาลงมาเป็นรถบัสสิบๆ คันรถเลย มาเพื่องานนี้ มาเพื่อเชียร์ทักษิณสู้ๆ วันเปิดสนามบิน มันลงทุนกันจริงๆ เลย ลงทุนกันจริงๆ เลย เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ชัด เอาละวันเสาร์ผ่านไปแล้วเริ่มหงุดหงิดแล้วดวงเริ่มไม่ดี วันอาทิตย์ ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองจะลงเลือกตั้งหรือไม่ จะเล่นการเมืองต่อหรือเปล่าไม่กล้าพูด วันจันทร์ที่ 24 คงจะปรึกษาหารือแล้ว หมอเลี้ยบ สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ออกมาประกาศว่า นายทักษิณ ชินวัตร วันที่ 15 ตุลาคม จะเป็นปาร์ตี้ลิสต์หมายเลข 1 21 พระราชกฤษฎีกาออกมาอารมณ์ดี บอกว่า กกต.ต้องสรรหาใหม่เพิ่มอีก 2 คนจะได้เลือกตั้ง 22 ไปแขวะพรรคประชาธิปัตย์ บ่ายโดนประชาชนไล่ วันอาทิตย์ปรึกษาหารือว่าจะลงดีไม่ดี วันจันทร์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี บอกว่าลงแน่นอน วันอังคาร 3 หนา 5 ห่วงติดตาราง วันพุธ ก็เลยสติแตก วันเกิดตัวเองวันพุธ สติแตก ไม่ได้เป็น เขาเรียกว่า "ดังแก้วบางเขาทุบทิ้งแตก ใจฉันแหลกเพราะน้ำมือศาล" (((ร้องเพลง))) ไม่เป็นไรพ่อแม่พี่น้อง เห็นหรือยังพ่อแม่พี่น้อง ผมเนี่ยต้องเสียสละขนาดไหนที่มาสู้ทักษิณ วันพุธ วันเกิดตัวเอง จำได้ไหมพ่อแม่พี่น้อง หน้าตาไม่ดีเลย ตักบาตรยังไม่ถอดรองเท้าเลย จำได้ไหม แล้วพูดยังไงรู้ไหม พูดออกมาบอกว่า "เวรกรรมมีจริง" ตอนบ่ายไปประชุมลูกพรรคเลือกตั้งวันเกิดตัวเอง "ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว" แล้ววันนั้นน่ะ หลุดออกมาเลย ทุกคนกลับไป เตรียมคน 3,000 คน เป่านกหวีดปริ๊ด ต้องมาทันทีเลย อารมณ์ของวันพุธ วันเกิดตัวเอง 26 กับวันที่ 21 ต่างกันเลยใช่ไหม เห็นหรือยัง เห็นหรือยังพ่อแม่พี่น้อง เวลาดูเนี่ย ต้องดูไล่วันนะฮะ ที่เขาต้องแสดงออกอย่างนี้เพราะเขาช็อก เขาช็อกที่ 3 หนา 5 ห่วง ไม่ได้ประกันตัว เขาเคย ...พอช็อกแล้วไม่ได้ประกันตัว มันอดคิดถึงตัวเองไม่ได้ ก็เลยหลุดคำว่า "ตายเป็นตาย" ออกมาไง เห็นหรือยัง ทำไมวันที่ 21 ไม่หลุดว่าตายเป็นตายล่ะ มีความสุขไง เห็นมั้ย เห็นหรือยัง นะฮะ
สนธิ - เอาล่ะ วันเสาร์ที่ 29 ไปเปิดเที่ยวบินที่สุวรรณภูมิ ไปเปิดเที่ยวบินที่สุวรรณภูมิ พวกบ่าวทั้งหลายก็รู้ว่านายกำลังอารมณ์ไม่ไดี ถึงต้องขนคนลงมาจากอุดรฯ แล้วทุกคนแขวนป้ายนะ "ชมรมคนรักอุดรฯ" เมื่อวานนี้ผมไปที่พนัสฯ ผมเจอพ่อแม่พี่น้องชาวอุดรฯ 2 คน ที่เขาผ่านมา เขาเดินมาบอก คุณสนธิครับ ผมจะเรียนให้ทราบอย่างนะ คนอุดรฯ เนี่ย คนดีทั้งนั้น ไอ้พวกบ้านั่นไอ้พวกเอี้ยๆ ทั้งนั้นเลย บอกผมกำลังโกรธอยู่เนี่ย มันทำไมมันเอาชื่อคนอุดรฯ ไป เหมือนนางชบา กับนายอเนก เอาชื่อคนไทยในอเมริกา บอกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ รักทักษิณ ใช่มั้ย เพราะฉะนั้นแล้วเนี่ย สรุปแล้วตลอดเดือนกรกฎาคมเนี่ย ทักษิณ ชินวัตร และพวกเนี่ย ยังตั้งหลักไม่ได้ เป๋ไปหมดเลย เซไปหมดเลย เหมือนไอ้หนุ่มหมัดเมา เดี๋ยวดีใจเพราะว่ามีการโปรดเกล้าฯ ให้เลือกตั้ง ประเดี๋ยวเสียใจช็อก เพราะว่า 3 หนา 5 ห่วง ติดคุก เพราะฉะนั้นแล้วเนี่ย การเดินหน้าทางการเมืองก็เลยดูเพี้ยนๆ ไปประกาศในพรรคว่าตายเป็นตาย ทุ่มทุนเต็มที่ ให้ลูกพรรคเกณฑ์คน 3,000 คน หรือไม่ก็ส่งหน้าม้าไปเชียร์ตัวเองที่ศิริราช เขาเริ่มตั้งหลักจริงๆ ได้เมื่อต้นเดือนสิงหาคมนี่เอง เขาตั้งหลักยังไงเหรอ วันอังคารที่ 1 สิงหาฯ เขาบอกนักข่าวว่า เขาจะเดินสายรอบใหม่ที่ภาคอีสาน แสดงว่าการเดินสายหาเสียง สู้เสียงเลือกตั้งเนี่ย เขาวางแผนตอนสุดสัปดาห์ หลังจากที่เพี้ยนมาและเป๋มา ในที่สุดตัดสินใจจะเดินสายแล้ว จะเดินสายไปอีสาน ไปเหนือ เขาคิดนะ เขาเตรียมไว้แล้วนะ พ่อแม่พี่น้อง เขาเตรียมอะไรบ้าง หนึ่ง เขาเตรียมวัวไปแจก สอง เอาเอกสารโฉนด สปก. 4-01 ไป สาม เอารถจักรยานหมื่นกว่าคันไป สี่ แล้วจะมีพิธีกรรมต่างๆ เลย ไปพูด ไปปราศรัยที่โน่นที่นี่ วันศุกร์ที่ 4 สิงหาฯ ศุกร์ที่แล้ว กำหนดการออก เขียนเอาไว้เลย มีแต่การแจกของๆ ปราศรัยๆๆ แจกของๆ ปราศรัยๆ เตรียมชาวบ้าน 2,000 คนไป จุดที่ 2 เตรียมชาวบ้าน 6,000 คน จุดที่ 3 โรงเรียนเทพศิรินทร์ขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพื่อรับฟังรายงานการแก้ไขปัญหาความยากจน ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ต่อจากนั้นก็จะปราศรัยต่อประชาชนที่มาชุมนุมอยู่แล้ว 8,000 คน จะใช้เวลา 1 ชั่วโมง แผนเขาเตรียมไว้หมดแล้ว
สนธิ - เดี๋ยว ขอนอกเรื่องนิด พ่อแม่พี่น้อง อยากจะฝากให้พ่อแม่พี่น้องที่อยู่ จ.ขอนแก่น ชาวขอนแก่นเนี่ย ช่วยถามผู้ว่าฯ ของท่านนิดนึงซิ ว่าผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเนี่ย คุณเกณฑ์ชาวบ้านไปหมื่นๆ คนเนี่ย ไปต้อนรับนายทักษิณ ชินวัตร เนี่ย มันจะแปลความหมายอย่างอื่นไม่ได้เลย นอกจากว่าคุณช่วยนายทักษิณหาเสียง ใช่ ไม่ใช่
ประชาชน – (((ใช่)))
สนธิ - ใช่ไหมพ่อแม่พี่น้อง นอกจากนั้นแล้วเนี่ย คุณเกณฑ์ชาวบ้านเนี่ยผมยังเฉยๆ นะ เพราะว่าคุณเอาเงินให้เขา ยังได้ตังค์ใช้ ผมอยากให้พ่อแม่พี่น้องชาวจังหวัดขอนแก่นถามไอ้ผู้ว่าฯ ขอนแก่นคนเนี้ย ถามซิว่าคุณเอาสิทธิมาจากไหน คุณมาเกณฑ์นักเรียนเนี่ย กลางแดดร้อนๆ เนี่ย ตอนเที่ยงเนี่ย เพื่อมารับนายทักษิณ ชินวัตร ในวันศุกร์ ในเวลาเรียน คุณเอาสิทธิมาจากไหน น้ำจิตน้ำใจของข้าราชการในระบอบทักษิณมันเป็นอย่างนี้เชียวเหรอ คุณไม่มีศักดิ์ศรีเลยเหรอ คุณไม่ได้เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เลย ใช่ ไม่ใช่ แล้วนายทักษิณนายเป็นใคร ไปไหนมาไหนต้องให้คนไปเกณฑ์นักเรียนมาตั้งแถวรับริมถนน บ้าหรือเปล่า ถึงขนาดต้องเกณฑ์นักเรียนไปต้อนรับ เด็กเรียนหนังสืออยู่ เห็นหรือยังพ่อแม่พี่น้อง
สนธิ - เอาล่ะ วันจันทรฺ์ที่ 7 สิงหาฯ วันนั้นยิ้มแย้มแจ่มใส ขึ้นเครื่องบินไป พอลงเครื่องบิน อ้าวตายห่า ผิดแผน เพราะว่าเดิมทีเนี่ยจะไปที่ศูนย์การแพทย์สิริกิติ์ ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น "ท่านครับ ท่านครับ ไอ้ศูนย์แพทย์หมอขอนแก่นนี่มันเป็นพันธมิตรฯ มันต่อต้านท่าน" ชิบหายล่ะสิงานนี้ วิ่งตีนขวิดเลย ออกข้างหลังไปโน่นไปนี่ พอจะแจกของ "ท่านครับ ท่านครับ กกต.มันเคยให้ใบแดงมาแล้วนะครับ ก่อนกฤษฎีกา" อ้าว ตายห่า แจกไม่ได้อีกแล้ว คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต ทำอะไรก็ทำไม่ได้ ขนาดสั่งกองสลากฯ เอาเงินหวยใต้ดินเนี่ย หวยบนดินเอาไปซื้อจักรยานมาแจกเพื่องานการเมืองยังแจกไม่ได้ เลยสั่งให้ข้าราชการแจกแทน แต่เวลาแจกอย่าลืมบอกนะว่า ของนายกฯ แจก พ่อแม่พี่น้องคนบางคนนะพ่อแม่พี่น้อง คนบางคนใช้ไม่ได้ พ่อแม่พี่น้องจำได้ไหมคำพูดที่เขาพูดบอกว่า หายใจแรงๆ ยังไม่ได้เลย พ่อแม่พี่น้องรู้ไหมเขาพูดตอนไหน เขาพูดหลังจากที่เขาถุยน้ำลายใส่พวกเรามาตั้ง 5-6 ปี เสร็จเรียบร้อยแล้วเขาเอาเท้าไล่ถีบพวกเรามาตลอด ทำอะไรเขาก็ไม่ผิด แต่พอ 3 หนา 5 ห่วงติดคุก เกิดความกลัว ไปขอนแก่นจะไปแจกของก็ไม่กล้าแจก คนถ้ามันมีสติแล้วเคารพกฎหมายมันต้องรู้ว่าแจกไม่ได้ ความที่เคยชินกับการทำผิดแล้วไม่มีใครกล้ามาว่า ตอนนี้สายตาทุกคนจับจ้องหมด ดูไปหมดเลยทุกอย่าง ถึงออกมาบอกว่า หายใจแรงๆ ก็ไม่ได้ ผมอยากจะบอกว่า อย่าหายใจเลยตายไปเลยดีกว่า
สนธิ - เอาละพ่อแม่พี่น้องวันนี้จะเป็นวันเดี่ยวไมโครโฟนที่ยาวนิดหน่อย เรามาจับโกหกทักษิณ ทักษิณนิสัย สันดานไม่ดี ชอบขู่ อาฆาต แบล็คเมล์คนไทย ชอบขู่อย่างไรรู้ไหม ไม่เอาผมเป็นนายกฯ แล้วประเทศไทยจะไปไม่รอด จับประเทศเป็นตัวประกัน พอพูดถึงเรื่องการเมือง เขาจับรัฐธรรมนูญจับประชาธิปไตยเป็นตัวประกันว่าถ้าไม่มีเขาแล้วประเทศไทยไม่เป็นประชาธิปไตย นี่แหละนายทักษิณ เวลาไปพูดกับชาวบ้านแถวภาคอีสาน เขาบอกว่าเขาจับความยากจนเป็นตัวประกัน เขาบอกว่า ถ้าเขาไม่เป็นนายกฯแล้วไม่มีใครมาแก้ปัญหาความยากจน ถ้าเขาไม่อยู่เป็นนายกฯ แล้วไม่มีใครเอาเงินไปให้ชาวบ้าน จับประเทศเป็นตัวประกัน จับประชาธิปไตยเป็นตัวประกัน จับคนยากจนเป็นตัวประกัน พอพูดกับนักธุรกิจเขาบอกว่าเศรษฐกิจมหภาค จับเศรษฐกิจเป็นตัวประกัน คุยโม้ว่าเศรษฐกิจใน 5 ปีที่ผ่านมาดีเพราะฝีมือเขา ปัดโธ่
สนธิ - วันเสาร์ที่แล้ว วันที่ 5 สิงหาฯ นายทักษิณโกหกกับประชาชนคนไทย เขาไปหลอกพี่น้องชาวอีสาน ที่ยังหลงฟังรายการสะเหร่อๆ แบบนี้ตลอดเวลา เขาด่าคนที่วิจารณ์เศรษฐกิจไทยว่ากำลังลำบากเหมือนประเทศอาร์เจนตินา เหมือนกับว่าพวกนี้พูดไม่รู้เรื่อง กูรู้เรื่องอยู่คนเดียว เดี๋ยวนายสนธิ จะสอนมวยเรื่องเศรษฐกิจให้นายทักษิณรู้ว่าถ้าจะโกหก ไปชุมนุมกันที่อีสานไม่ต้องถ่ายทอดให้เราได้ยิน ไปโกหกตรงนั้น เพราะว่าพันธมิตรฯ ประชาชนที่เป็นแฟนรายการเมืองไทยรายสัปดาห์เขารู้ทันพวกคุณหมด สั่งสภาพัฒน์ไปทำตัวเลข เลขาสภาพัฒน์คนนี้คือคนซึ่งมีความถนัดในการทำที่แห้งๆ ให้เปียกได้ มีความสามารถในการขยับอวัยวะบางส่วนที่ปาก ที่ขยับขึ้นขยับลงได้อย่างรวดเร็วเหมือนลูกสูบรถยนต์ เพราะฉะนั้นแล้วเมื่อถูกสั่งมาต้องทำตัวเลขมาให้ดู แล้วผมจะเอาตัวเลขนี้มาตบหน้าเลขาสภาพัฒน์และนายทักษิณให้ดูเลย เขาบอกว่า ตั้งแต่เขาเป็นนายกฯ มา จีดีพี ผลผลิตมวลรวมในประเทศ เพิ่มจาก 2.5 เปอร์เซ็นต์ เป็น 4.5 เปอร์เซ็นต์ เมื่อปี 2548 รายได้ต่อหัวประชาชนเพิ่มจาก 70,000 บาท เป็น 100,000 บาทต่อปี เอาละพ่อแม่พี่น้อง เรามาพูดกัน จีดีพี ผลผลิตมวลรวมในประเทศ คือว่า เขาเอารายได้จากการผลิตทุกอย่างเอามารวมกันเป็นเปอร์เซ็นต์ เช่น คุณไปทำงานนอกบ้าน คุณไปทำงานพาร์ทไทมส์ คุณเป็นกรรมกรต้องถือว่าเป็นผลผลิต ทุกอย่างเป็นผลผลิตหมด จีดีพีมันโตไปตามเศรษฐกิจโลก เพราะเศรษฐกิจไทยเป็นเศรษฐกิจเปิด เมื่อเศรษฐกิจโลกโต เศรษฐกิจโลกปีละ 4-5 เปอร์เซ็นต์ เป็นอัตราเฉลี่ยของโลก ประเทศเพื่อนบ้านเรา มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม เขาโตในระดับนี้ทั้งนั้น พูดง่ายๆ ไม่ต้องมีนายทักษิณ คนไทยนั่งผายลมนั่งตดเฉยๆ จีดีพีก็โต 4 เปอร์เซ็นต์ ชอบโกหกนัก เหมือนบอกว่า สมัยเขาเขามา ราคายางสูง จำได้หรือเปล่าผมเล่าให้ฟังราคายางสูงเพราะอะไร เพราะจังหวะนั้นจีนแดงกำลังพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ อุตสาหกรรมรถยนต์จีนโตอยางมหาศาล คนจีนมีพันกว่าล้านคนเพราะฉะนั้นความต้องการยางเลยทำให้ราคายางดิบสูงขึ้น ไม่ใช่ฝีมือนายทักษิณเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะฉะนั้นแล้วเมื่อเศรษฐกิจมันเชื่อม ฝีมือเศรษฐกิจไทยเกิดขึ้นจากคนที่นั่งในที่นี้ทั้งนั้น ใครที่ทำมาหากินโดยสุจริต ใครที่มีโรงงาน กรรมการบ้านเรา ฝีมือดี ฝีมือมีคุณภาพ ค่าแรงไม่แพง มันก็ขายของออกไปได้ ทำให้เศรษฐกิจโตไม่ใช่ฝีมือของเขา เพราะฉะนั้นแล้วช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมานายทักษิณกินบุญเก่าของประเทศไทย ไม่ทำอะไรให้ประเทศเลย เดี๋ยวผมจะบอกให้ว่ามันทำอะไรบ้าง เอาเป็นข้อๆ แล้วจะเห็นชัดว่าไม่ได้ทำ ผมพูดกับพ่อแม่พี่น้องว่าเวลาพิจารณาอะไรอย่าพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้น ณ วินาทีนี้แล้วตัดสิน ภาษาอังกฤษเรียกว่า เรียวไทมส์ ให้มองตามหลักปฏิจจสมุปบาท หลักพระพุทธศาสนา ให้มองย้อนหลังว่าเหตุที่เกิดขึ้นวันนี้มันมีเหตุปัจจัยจากเมื่อวานมันถึงเกิดเหตุวันนี้ แล้วเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวานมันมีเหตุปัจจัยที่เกิดขึ้นเมื่อวานซืน โยงไปเรื่อยๆ
สนธิ - พ่อแม่พี่น้อง ฟังให้ดีๆ ตามผมมา จำได้เปล่า ตอนที่นายทักษิณขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี เขาพูดบอกว่าเขาจะพัฒนาประเทศไปในสองแนวทางพร้อมกัน ที่เขาใช้คำว่า Dual Track...Dual Track ก็ถือว่า ให้วิ่งไป 2 ลู่ พร้อมกันเลย ก็คือ ลู่หนึ่งคือเปิดเสรี ค้าขาย แข่งขันกันตามปกติ อีกลู่หนึ่งก็คือประชานิยม เพื่อสร้างให้ประชาชนเข้มแข็ง
สนธิ - เอาล่ะ เรามาดูซิ เขาทำยังไงบ้าง เขาบอกเขาจะสร้างผู้ประกอบการรายย่อย เอสเอ็มอี มีกองทุนหมู่บ้านฯ มีโอท็อป มีการแปลงสินทรัพย์ให้เป็นทุน เรามาดูกันหน่อยสิว่าเศรษฐกิจคู่ขนานของเขาเป็นยังไง วันนี้คู่ขนานไม่มี มีแต่เศรษฐกิจเส้นทางเดี่ยวที่พวกเขาเท่านั้นเองที่ร่ำรวย นอกนั้นจนหมดทุกคน ผู้ประกอบการรายย่อย คุณไปถามเจ้าของร้านโชว์ห่วยสิว่าวันนี้ตายหรือเปล่า คุณไปถามพวกร้านขายยา อีกหน่อยก็ตาย ใช่ไหม มันโดนพวกเซเว่น-อีเลฟเว่น มันโดนเทสโก้ โลตัส รับประทานไปเสียหมด แล้วนี่เหรอเป็นทุนสร้างผู้ประกอบการรายย่อย กองทุนหมู่บ้านไม่พูดถึงเลย เพราะมันเจ๊งหมดแล้ว เดี๋ยวนี้คนไทยกู้ดอก ชาวบ้านกู้ดอก พ่อแม่พี่น้องชาวอีสาน ถ้ายังมีสติปัญญาแล้วเชื่อที่ผมพูด ทุกวันนี้คุณกู้ดอกร้อยละ 20 ต่อเดือนใช่ไหม เพื่อเอามาจ่ายคืนกองทุนหมู่บ้าน ยอมรับไปสิ 60 เปอร์เซ็นต์ ของเงินกู้ที่กู้มา กู้เพื่อเอาไปบริโภคอย่างเดียว อะไรนะ พ่อแม่พี่น้อง เดี๋ยวขออนุญาตเช็ดหน้าหน่อยฮะ
สนธิ - อีสาน พ่อแม่พี่น้อง อีสานเนี่ยเป็นคนภาคที่น่าสงสารมาก พ่อแม่พี่น้องชาวอีสาน ผมอยากจะกราบมาที่เท้าและแทบเท้า และถามว่า มีวิธีไหนไหมที่ผมที่จะเข้าไปให้ความรู้พ่อแม่พี่น้องบ้าง แล้วฟังผมซะหน่อยได้ไหม อย่าไปฟังไอ้วิทยุ โทรทัศน์ของรัฐบาลฝ่ายเดียว ตอนนี้เนี่ยพ่อแม่พี่น้อง ผมจะบอกอะไรให้อย่างมั้ย ผมกำลังพูดกับพ่อแม่พี่น้องชาวอีสาน พ่อแม่พี่น้องชาวอีสานที่ทำธุรกิจเลี้ยงโคเนื้อ วันนี้พ่อแม่พี่น้องชาวอีสานเจ๊งกันหมดแล้วใช่มั้ย พ่อแม่พี่น้องรู้หรือเปล่า คนที่ทำให้พ่อแม่พี่น้องเจ๊งเนี่ยไม่ใช่ใคร ก็คนที่พ่อแม่พี่น้องไปกอดขาน่ะ แล้วก็บอกว่าอยากให้เป็นนายกฯ ตลอดไป ไปเปิดเสรีเอฟทีเอกับออสเตรเลีย ออสเตรเลียมันส่งเนื้อวัวเข้ามาขาย ราคาไม่ต้องเสียภาษี โคเนื้อของอีสานเจ๊งกันเป็นแถวเลย พ่อแม่พี่น้อง เห็นหรือยัง เห็นหรือยังว่าพ่อแม่พี่น้องชาวอีสานเนี่ยโดนเขาหลอก รู้เขาหลอกยังเต็มใจให้หลอก ไม่รู้จักช้ำชอกในหัวใจกันบ้างเลยหรือ เพราะฉะนั้นแล้วนายทักษิณถึงโกหกพกลม เขาบอกว่าประเทศไทยนั้นมีหนี้ลดลงจาก 57 เปอร์เซ็นต์ พ่อแม่พี่น้องฟังให้ดีๆ หนี้ทั้งหมดของประเทศเนี่ย เขาบอกลดลงจาก 57 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี ก็คือว่าถ้าจีดีพีมี 100 บาท หนี้เนี่ย แต่ก่อนมี 57 บาท เหมือนกับว่าเรามีหนี้ 57 บาท แล้วเรามีปัญญาที่จะค้าขาย ทำผลิตผลออกมาได้ 100 บาท ตกลงเรามีหนี้ 57 ต่อ 100 เขาบอกว่าตอนนี้เนี่ยหนี้เขาลดเหลือแค่ 41 จาก 57 เหลือ 41 บอกว่าเขาเก่ง พ่อแม่พี่น้องครับ ขออนุญาตพูดหน่อยครับว่าเขาตอแหลเก่งที่สุดในโลก
สนธิ - ตัวเลขที่นายทักษิณพูดคือหนี้สาธารณะ หนี้สาธารณะคือหนี้ที่รัฐบาลไปค้ำประกัน เป็นหนี้ที่ไปกู้ยืมมา แต่ปรากฏว่า มีหนี้ก้อนนึงซึ่งนายทักษิณเอาไปซ่อนเอาไว้ เขาเรียกว่าหนี้นอกงบประมาณ แปลว่าอะไร แปลว่านโยบายประชานิยม ทุกอย่างเนี่ยเขาให้ธนาคารของรัฐ 8 แห่ง ปล่อยกู้ออกไป เพื่อที่รัฐบาลจะได้ไม่ต้องเป็นหนี้ แต่ธนาคารเป็นหนี้แทน แต่ธนาคารนั้นดันทะลึ่งเป็นของรัฐบาล เข้าใจยัง นี่คือการทำบัญชีแบบศรีธนญชัย พ่อแม่พี่น้อง เรื่องนี้เข้าใจไม่ยาก อย่าไปสับสน ถ้ารัฐบาลปล่อยกู้หนี้สิน ทำโครงการประชานิยม ลงทุนโครงสร้างสาธารณูปโภค กู้เงินมา นั่นคือหนี้ แต่รัฐบาลใช้หลักศรีธนญชัย ก็บอกว่ากองทุนหมู่บ้านนั้น แทนที่รัฐบาลจะเอาเงินมาปล่อยเอง รัฐบาลก็เอาเงินนั้นสั่งให้ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ปล่อยกู้ เมื่อเขาสั่งให้ปล่อยกู้แล้วก็ปรากฏว่าไอ้เงินที่ปล่อยกู้ไปนั้น ไม่ได้มาปรากฏในบัญชีของรัฐบาล เข้าใจยังพ่อแม่พี่น้อง เพราะเป็นหนี้ที่รัฐบาลปล่อยกู้ เพราะฉะนั้นแล้วนี่เป็นเรื่องโกหกใช่มั้ย เมื่อรวมหนี้ 8 แห่ง ธนาคาร 8 แห่ง ที่ปล่อยกู้ในโครงการต่างๆ แล้ว ปรากฏว่า หนี้ตอนนี้มีอยู่ 61 เปอร์เซ็นต์ ของผลผลิตมวลรวม ที่นายทักษิณบอก เขาลดจาก 57 เหลือ 41 ถ้ารวมหนี้ศรีธนญชัยนี่แล้ว จริงๆ แล้วเพิ่มจาก 57 เป็น 61 ไปเรียบร้อยแล้ว เห็นหรือยังพ่อแม่พี่น้อง เขาโกหกคนบางคนได้ แต่เขาไม่สามารถจะโกหกคนทุกคนได้ พ่อแม่พี่น้องครับ
สนธิ - เอาล่ะ โม้นัก ว่ารายได้ประชาชนเพิ่มขึ้น จาก 70,000 บาท เป็น 100,000 บาท แต่ไม่ยอมพูดเรื่องหนี้ครัวเรือน หนี้ครัวเรือนเพิ่มจาก 70,000 บาท เป็น 140,000 บาท หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นแต่ว่าชินคอร์ปรวยมากขึ้น 400 เปอร์เซ็นต์ จำได้หรือเปล่าพ่อแม่พี่น้อง แปลว่าตลอดระยะเวลา ระบอบทักษิณ 5 ปี คนไทยจนลง เป็นหนี้มากขึ้น วันนี้บุญเก่าที่นายทักษิณมาแอบอ้างใช้กำลังจะหมดไปแล้วเพราะเศรษฐกิจจะเริ่มตกแล้วอย่าว่าแต่ชาวบ้านไม่มีเงินเลยพ่อแม่พี่น้อง จำได้หรือเปล่าว่าสนธิเป็นคนแรกในที่นี่ที่บอกว่า โอ๊ยถังแตก ถังแตกสิ้นดี ฉันเงินไม่มี ฉันจึงถังแตก อ้าวแตกดังโพ๊ะ แตกดังโพ๊ะ แตกดังโพ๊ะ พูดตั้งแต่ปีที่แล้วจำได้หรือเปล่า ถ้าถังไม่แตกมันจะขายหุ้น อสมทฯ เอามาเพิ่มทุนทำไม เห็นหรือยังพ่อแม่พี่น้อง เอ็งจะโกหกอะไรก็โกหกให้มันแนบเนียนซักหน่อย ไอ้ลำไย ไหนเศรษฐกิจดีไงล่ะ เศรษฐกิจดีทำไมต้องขายหุ้น อสมทฯ ทิ้ง เพราะฉะนั้นพ่อแม่พี่น้องครับ เรามาดูกันว่านายทักษิณ อยู่มา 5 ปีทำอะไรบ้าง สนามบินสุวรรณภูมิ ข้อเท็จจริงสนามบินสุวรรณภูมิ เริ่มปี 2543 นายทักษิณไม่ได้เริ่ม แล้วนายทักษิณมาทำต่อเพราะอะไร เพราะมันเป็นขนมหวานที่จะเอามาให้บรรดาสุนัขรับประทานกันได้ ก็เลยมาทำต่อ ทำไมต้องเร่งทำ เพราะว่าค่าคอมมิชชั่นมันจ่ายตลอดเวลาเลยต้องเร่งทำ สุวรรณภูมิเขาไม่ได้เริ่มนะ รถไฟฟ้าใต้ดินเริ่มก่อนนายทักษิณเข้า พอนายทักษิณทำเสร็จแล้วมีสายที่ 2 บ้างไหม ไม่มี มีแต่การโม้ว่าจะมี 10 สาย ลดเหลือ 5 สาย ลดเหลือ 3 สาย อีกหน่อยลดเหลือแค่ 2 เส้น ระบบลอจิสติกส์ โม้นักโม้หนา มีสัมมนามีเวิร์กชอป ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย มีอะไรเกิดขึ้น มีการยกบริษัท ไทยเรือเดินทะเล และ รสพ.ให้พรรคพวกไปทำมาหากิน เห็นหรือยังลอจิสติกส์ของมัน ระบบสื่อสารมีอะไรใหม่ ไม่มีผูกขาดกันอยู่เหมือนเดิม โครงการแลนด์บริดจ์ภาคใต้เงียบไปแล้ว โครงการพลังงานทดแทนไม่พูดเลย โอท็อปเจ๊ง ไม่มีอะไรเลย ไปเอากระเบื้องด่านเกวียนมาเป็นโอท็อป กระเบื้องด่านเกวียนเขาทำกันมาตั้งเป็นสิบๆ ปีตั้งแต่สมัยพ่อสมัยแม่เขา เอามาบอกนี่ไงโอท็อปที่ประสบผลสำเร็จ ส่งเสริมโอท็อปเลยมีชาวบ้านกู้เงินมาทำโอท็อปเจ๊งกันหมดทุกคน องค์ความรู้ นายทักษิณอยากให้ประเทศไทยมีองค์ความรู้ พ่อแม่พี่น้องขนาดรัฐมนตรีของตัวเองยังไม่มีความคิดของตัวเองเลยแล้วจะให้ประเทศไทยมีองค์ความรู้ได้อย่างไร ขนาดพวกเราจะรู้ความจริงยังต้องมานั่งอยู่บนพื้นตรงนี้ มาตากแดดตากฝน ยังไม่มีปัญญานั่งอยู่ที่บ้านแล้วเปิดทีวีได้ฟัง ได้ดู แล้วมันมาโม้ว่าจะให้เมืองไทยเป็นองค์ความรู้ องค์ความรู้ของคุณไม่ใช่องค์ความรู้ของคนอื่น องค์ความรู้ของนายทักษิณคืออะไร คือว่า จ้างคนมาอ่านหนังสือ ที่โม้ๆ หนังสือภาษาอังกฤษตัวเองไม่ได้อ่านหรอกจ้างคนอื่นมาอ่านให้ แล้วมาสรุปให้ฟัง เอามาเล่าอวดภูมิตัวเองใน ครม. องค์ความรู้ของเขา บังคับให้คนไทยฟังเขาพูดทุกวันเสาร์ นี่ก็องค์ความรู้ สัญญาว่าจะแจกแลปท็อปให้นักเรียนทุกคน เจียดเศษเงินขายหวยใต้ดินส่งนักเรียนไทยไปเรียนเมืองนอก แค่นี้คือองค์ความรู้ของเขา ผมจะบอกพ่อแม่พี่น้องอีกส่วนที่ผมต้องสู้คือว่า ถ้านายทักษิณอยู่ต่อไปเด็กไทยโง่กันทุกคนเลย ผมจะบอกการโกหกของนายทักษิณให้ฟัง พ่อแม่พี่น้องจำได้ไหม 28 กรกฎาคม 2548 ประมาณ 1 ปีเศษๆ จำได้ไหมที่เขาบอกว่า เขาจะมีถุงของขวัญให้กับเด็กที่เกิด ปรากฏว่า ถุงมีแค่ 200,000 ใบ แล้วจากวันนั้นถึงวันนี้ไม่พูดเลย นี่คือลักษณะการให้คำมั่นสัญญาของนายทักษิณ ชินวัตร สังคมเงียบ สื่อเงียบไม่มีใครตาม มีแต่พวกเราตาม พอสนธิตามหน่อยโดนไล่เตะ ไล่ถีบ ไล่กระทืบ ไล่แกล้ง เพราะว่าสนธิมันรู้ทันทักษิณ สนธิเอาข้อมูลมาให้พ่อแม่พี่น้อง พอพ่อแม่พี่น้องสนใจกลับไปเล่าให้เขาฟังก็โดนกีดกันโดนกลั่นแกล้ง โดนด่า โดนว่าว่าโง่ จำได้ไหมพ่อแม่พี่น้องที่เขาบอกว่า พวกเราโง่ เมื่อเขาเห็นว่าเราโง่ เราก็โง่ในวิถีทางโง่ๆ ของเราต่อไป แล้วให้มันฉลาดจะได้ลงนรกไปเร็วๆ เอาละสิ่งที่ตัวเองทำนั้นไม่ได้ทำอะไรเลย สนามบินสุวรรณภูมิไม่ได้เริ่มต้น รถไฟฟ้าใต้ดินไม่ได้เริ่มต้น พอทำเสร็จแล้ว 1 สาย ไม่เห็นมีมาเลยอีก 2 สาย 3 สาย โม้หมดทุกอย่าง อะไรบ้างที่ทำ จัดมหกรรมเคาท์ดาวน์ปีใหม่ ปรากฏว่าใครได้ พวกออร์แกไนเซอร์ พวกรับจัดงาน ใครบ้าง แกรมมี่ อาร์เอส อิมแพคฯ ช่อง 9 ทั้งนั้นเลย พวกนี้ทั้งนั้นมีได้อยู่แค่นี้ ตั้งบริษัทขึ้นมา จำได้หรือเปล่า อีลิทการ์ด ที่โม้ ซื้อบัตรใบละล้านเข้ามามีสิทธิพิเศษโน้นนี้ เงียบไปแล้วเพราะว่าเจ๊ง สร้างความอ่อนแอให้กับระบบเศรษฐกิจของเมืองไทย โดยสร้างระบบที่ผูกขาด รวมศูนย์อำนาจของการกำไร การทำมาหากินกับพรรคพวกตัวเอง หลังจากสร้างภาพ ปั่นตัวเลขเศรษฐกิจ ดัชนีตลาดหุ้นจนได้ที่แล้ว แล้วเขาทำอะไร เขาขายหุ้นชินคอร์ปทิ้ง เห็นหรือยัง เห็นหรือยัง ตอนนี้ต้องเข้าใจนะ พอผมไล่เป็นเรื่องๆ ไปแล้วจะเข้าใจเลยนะพ่อแม่พี่น้อง
สนธิ - ก่อนที่จะจบเรื่องเศรษฐกิจ จะเอาตัวเลขมาตบหน้านายทักษิณ และเลขาฯ สภาพัฒน์ ดุลการค้า คำว่าดุลการค้า หมายความว่า เราขายของไปได้เท่าไร และเราซื้อของเข้ามาเท่าไร บวกลบหักกลบลบหนี้แล้ว เราบวกหรือว่าเราติดลบ ถ้าเราซื้อมากกว่าเราขาย เราติดลบใช่มั้ย ดุลการค้าก่อนนายทักษิณเนี่ยจะเข้ามาบริหารและมาถลุงประเทศชาติให้พังพินาศฉิบหายไปเนี่ย 2543 ดุลการค้าของเราบวก 5,466 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 2 แสนล้านบาท ถ้าคิดเป็น 40 บาท ในปีที่แล้ว 2548 หลังจากนายทักษิณมาทำงานตั้งแต่ 44 45 46 47 48 - 5 ปี ดุลการค้าประเทศไทยติดลบ 8,577 ล้านเหรียญ เพราะฉะนั้นแล้วประเทศชาติขาดดุลการค้ามากขึ้นถึง 257 เปอร์เซ็นต์ ติดลบ เวลาเดียวกัน หุ้นชินคอร์ปขึ้น 400 เปอร์เซ็นต์ เห็นหรือยัง พูดกลับไป ตัวเลข ผมพูดที่สนามหลวง ผมพูดที่นี่ ไม่เคยเปลี่ยน พูดวันนี้ก็เหมือนกัน พูดเมื่อวานก็เหมือนกัน
สนธิ - เอาล่ะ ดุลบัญชีเดินสะพัด ก็คือปริมาณเงินสดหมุนเวียน ที่ภาษาบัญชีเขาเรียกว่า ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่าแคชโฟลว์ ดุลบัญชีเดินสะพัด 2543 ก่อนนายทักษิณมาเนี่ย บวก 9 พันกว่าล้านเหรียญ เกือบ 4 แสนล้านบาท พอนายทักษิณมาอยู่ถึงปี 48 ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดไป 3,700 กว่าล้านเหรียญ เกือบ 2 แสนล้านบาท ประเทศชาติในยุคนายทักษิณขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ติดลบ 140 เปอร์เซ็นต์ ตอแหลรึเปล่าพ่อแม่พี่น้อง แบบนี้ ขี้โม้มั้ย เพราะฉะนั้นแล้ว จะเห็นได้ชัด ผมขี้เกียจจะพูด หนี้สาธารณะ 2543 มีอยู่ 2 ล้าน 8 แสนล้านบาท 2548 3 ล้าน 2 แสนล้านบาท เพิ่มกว่าเก่า 4 แสนล้านบาท แต่นี่เป็นตัวเลขตอแหล เพราะยังไม่ได้นับหนี้ศรีธนญชัยที่เล่าให้ฟัง หนี้ศรีธนญชัยรวมเบ็ดเสร็จแล้วอีก 1 ล้าน 5 แสนล้าน เอา 1 ล้าน 5 แสนล้าน มาบวก 3 ล้าน 2 แสนล้าน ก็จะเป็น 4 ล้าน 7 แสนล้านบาท ก็สรุปง่ายๆ ก่อนนายทักษิณเข้า หนี้สาธารณะมี 2 ล้าน 8 แสนล้าน นายทักษิณบริหารชาติมา 5 ปี หนี้สาธารณะเพิ่มเป็น 4 ล้าน 7 แสนล้าน เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ แล้วเก่งตรงไหนเนี่ย ไหนบอกผมซิว่าเก่งตรงไหน เก่งตรงโกหก
สนธิ - พ่อแม่พี่น้องครับ เรามี กกต.มาแล้ว 10 คน ตอนนี้ ยังไม่ทันไรเลย กระบวนการเริ่มโกงการเลือกตั้งเริ่มแล้ว วันนี้ทางอีสาน พ่อแม่พี่น้องที่ถือบัตรประชาชนที่มีตราครุฑข้างหลัง ถูกบอกว่าให้เอามาเปลี่ยนเป็นที่มีชิป แล้วก็จะจ่ายให้ใบละ 180 บาท 200 บาท พอเปลี่ยนเสร็จมันยึดบัตรประชาชนเก่าไว้เลย เพื่ออะไร เพื่อเอาไปลงคะแนนเสียง มันเริ่มกันแล้วนะ เห็นมั้ย เริ่มโกงกันแล้ว โกงอย่างหน้าด้านๆ มันคือวงจรอุบาทว์พ่อแม่พี่น้อง เรามี กกต.เข้ามา 10 คน วันนี้ เพื่อให้เลือกเหลือ 5 คน ผมอยากให้พ่อแม่พี่น้องให้กำลังใจ กกต.ทั้ง 10 คน ให้รู้ว่าอย่าไปแบ่งแยกพวกเขาพวกเรา วันนี้มีคนพยายามจะยุว่าพวกนี้เป็นสายนั้น ไม่ใช่ ทั้ง 10 คน เป็นคนดีทั้ง 10 คน ทั้ง 10 คน เป็นคนดีทั้ง 10 คน (ปรบมือ) แต่เมื่อเข้ามาแล้วเนี่ย เลือกเหลือ 5 คนเนี่ย ผมไม่เห็นด้วยที่จะมีการเลือกตั้งวันที่ 15 ตุลาคม ผมอยากให้ กกต.ทั้ง 5 ท่าน ลงมาสะสาง เครือข่ายชั่วๆ ที่ 3 หนา 5 ห่วง ระบอบทักษิณ ทิ้งเอาไว้ทั้ง 76 จังหวัดก่อน
สนธิ - เสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมอยากให้ปฏิรูปการเมืองก่อนมีการเลือกตั้ง เพราะถ้าเลือกไปวันนี้ ทุกคนก็เริ่มวงจรอุบาทว์เหมือนเดิม ใช่ ไม่ใช่ เพราะฉะนั้นแล้วที่เราสู้มาทุกวันนี้เราต้องการให้การเมืองมันสะอาด ผมยังไม่เห็นพรรคการเมืองพรรคไหนเลยที่ลุกขึ้นมาสู้แล้วบอกว่า ถ้าผมได้รับเลือกเป็นรัฐบาล ผมจะใช้เวลาปฏิรูปการเมืองไม่เกินปีครึ่ง แล้วผมจะยุบสภาฯ แล้วเลือกตั้งใหม่ ใช่ ไม่ใช่ ไม่มีใครพูดเลย ใช่มั้ย ปฏิรูปการเมืองจากวันนี้ไปไม่ใช่หน้าที่ของนักการเมืองอีกต่อไปแล้ว เพียงอย่างเดียว ใช่ ไม่ใช่ พวกเราควรหรือไม่ควรที่จะต้องมีส่วน อยากมีส่วนมั้ย (อยาก) พวกเราต้องมีส่วน ต้องมีส่วนเพื่อไม่ให้วงจรอุบาทว์พวกนี้มันเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นแล้ววันที่ 15 ตุลาคมนี้ ยังไม่พร้อมจะเลือกตั้ง ต้องเลื่อนไป และควรที่จะต้องปฏิรูปการเมืองขึ้นมาก่อน เห็นหรือยัง เรามี กกต.ใหม่เข้ามา เราก็ยังมีรักษาการนายกฯ เถื่อน ใช้อำนาจเถื่อนๆ เหมือนเดิม แล้วมี กกต.ใหม่เพิ่มอีก 5 คน คนใหม่มาแล้วจะได้ประโยชน์อะไรล่ะ ใช่ ไม่ใช่ (ใช่)
สนธิ - พ่อแม่พี่น้องครับ พรุ่งนี้เป็นวันแม่ ผมอยากจะพูดถึงแม่ซะหน่อย วันนี้ที่ทำงานผมเวลาเดินเข้ามาจะมีรูปแม่ผมติดอยู่ เป็นรูปสีน้ำมัน วาดโดย อ.จักรพันธุ์ ผมชอบไปยืนหน้ารูปแม่ผมแล้วผมยกมือไหว้ แล้วผมบอกว่า เกิดชาติหน้าถ้าได้เป็นลูกแม่อีกจไม่ทำผิดเหมือนที่เกิดชาตินี้ แล้วเป็นลูกแม่ ผมทำผิดอะไร ผมทำผิดเวลาแม่มีชีวิตอยู่นั้นผมไม่ได้อยู่กับแม่มากเท่าที่ควรจะอยู่ ผมมัวไปงี้เง้าเรื่องที่มันไม่ควรจะงี้เง้า ผมจำได้ สมัยผมเด็กๆ แม่ผม ลูกคนจีนมาจากเกาะไหหลำ ตาผมเป็นคนรวยมากๆ เป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของบริษัท ซีฮวด บริษัท ซีฮวดสมัยก่อนเป็นเอเย่นต์จำหน่ายนาฬิกาโอเมก้า สมัยนั้นถือว่ารวยมาก แม่เป็นคนที่เรียนหนังสือมาสูงสมัยอยู่เมืองจีน นั่งเรือสำเภาตามากับยายเพื่อมาหาตาซึ่งมาขุดทองทำมาหากินที่เมืองไทย มาพบว่าตามีแม่ใหม่อีกแม่หนึ่ง ตาเลี้ยงยายไปตามมีตามเกิด แม่ทนไม่ไหวไปว่าตาว่าทำไมถึงไม่มีความรับผิดชอบ จะมีเมียเพิ่มอีก 1-2 คนไม่ว่า แต่ต้องมีความรับผิดชอบ ตาไปตียาย แม่ชี้หน้าว่าตา ตาเลยไล่แม่ออกจากบ้านตัดขาดแม่ลูก แม่เลยอยู่กับยาย อยู่อย่างอดๆ อยากๆ จนกระทั่งแม่แต่งงานกับพ่อ พ่อเป็นลูกครึ่งไทย-จีน เกิดสุโขทัย แต่ไปเรียนเมืองจีนตั้งแต่เด็ก ตอนแต่งงานถูกกีดกันบอกว่า มีเชื้อไทยอยู่ 50 เปอร์เซ็นต์ ไม่อยากให้เลือดจีนกับเลือดไทยผสมกัน แม่นอกจากโดนตาตัดแล้วยังโดนยายตัดอีก แม่เลยอยู่กับพ่อสองคน พ่อเป็นพ่อเลี้ยงค้าไม้ ล้มละลาย ตอนที่จอมพลเผ่า ศรียานนท์ ลี้ภัยไป เพราะทะลึ่งไปผูกตัวเองไว้กับจอมพลเผ่า ศรียานนท์ แม่จากคนซึ่งเคยสบายต้องใส่กางเกงกุยเฮง ตื่นตอนเช้าต้มน้ำร้อนขายกาแฟ ขายของโชห่วย ขายน้ำปลา ขายซีอิ๊ว แต่แม่ยังตัดฟันส่งผมเรียนโรงเรียนอัสสัมชัน ศรีราชา ผมจำได้ ปิดเทอมทีนึงกลับมา มีอยู่ครั้งหนึ่งตื่นเช้าเพื่อไปเล่นกีฬาไปวิ่ง 04.30 น.จะออกไปวิ่ง เห็นพ่อแม่นุ่งกางเกงกุยเฮงนั่งพัดถ่านต้มหม้อกาแฟ แล้วมีแท๊กซี่ สามล้อต่อคิวเปิดประตูที่ร้าน เฮ้ยซิ้มกาแฟถ้วย แม่ก็ชงกาแฟให้ วันดีคืนดีมีตำรวจ แค่สิบตำรวจตี ซิ้มเอาบุหรี่มาซองซิ แม่บอกไปหยิบให้หน่อยผมก็หยิบ แม่บอกอย่าเก็บเงินเขา ผมบอกทำไม มันไม่จ่ายหรอก ความขมขืนพวกนี้เมื่อผมมามองย้อนหลังแล้วน้ำตาผมจะไหน ความอดทนของคนจีนคนหนึ่งที่มาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ส่งลูกๆ เรียนจนกระทั่งไปเรียนที่เมืองนอก ผมไปเรียนเมืองนอกเพราะตาตาย มรดกส่วนหนึ่งของคนรวยถูกแบ่งออกมาเป็นเศษเนื้อติดกระดูกโยนให้แม่ผม แม่ผมต้องไปหาน้าชายผมเพื่อขอเงินก้อนนั้นมาส่งผมไปเมืองนอก แค่ค่าเครื่องบินเฉยๆ เท่านั้นเอง ยังโดนดูถูกเหยียดหยาม พอผมเรียนจบกลับมามีครอบครัว แม่ก็นั่งอยู่ที่บ้านนุ่งกางเกงกุยเฮงเหมือนเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลย พอกลับมาแม่ถามคำแรกเลยว่า ตั๊บกินข้าวหรือยัง แม่ทำข้าวเอาไว้ให้ กินซะหน่อยนะ เวลาโกรธแม่บอกว่า ใจเย็นๆ อย่าไปโกรธเขา เอาน่ะสู้ต่อไป จนกระทั่งแม่ไม่สบาย ผมมองย้อนหลังแล้วผมจะร้องไห้ ผมไม่ได้ไปกอดแม่ ไม่ได้ไปนวดแม่ ไม่ได้พาแม่ไปสำเพ็ง หรือพาแม่ไปที่ไหน ชุดที่ดีที่สุดของแม่ คือ ชุดเสื้อลายไม้ ชุดเสื้อลายปัก ตัวนั้นใส่อยู่นั่น แล้วกางเกงเนื้อซึ่งตัดแล้วใส่ซ้ำแล้วซ้ำอีก มีอยู่แค่นี้คือของแม่ แล้วแม่ไม่มีอะไรอีกแล้ว แม่มีแต่ชีวิตให้ลูก เพราะฉะนั้นแล้วแม่เอาชีวิตของแม่ให้ลูก ผมต้องพูด ผมจำเป็นต้องพูด เพราะผมเคยไปพูดวันปัจฉิมสวัสดิ์ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒน์ ผมบอกว่า ลูกหลานที่เป็นลูกคนบ้านนอกที่แม่จนพ่อจนแล้วเรียนจบมหาวิทยาลัย วันที่รับปริญญาอย่าอายแม่ อย่าอายว่าแม่ใส่ผ้าถุง ซึ่งสำหรับแม่แล้วผืนนั้นอาจจะไม่มีความหมาย อาจจะเป็นผ้าถุงที่ยังสู้ผ้าถุงของแม่บ้านคนหนึ่งที่ทำงานบริษัทใหญ่ๆ ในกรุงเทพฯ ไม่ได้ แต่สำหรับแม่แล้วเป็นชุดที่ดีที่สุด เล็บตีนที่ดำเพราะมีเศษดินเข้าไป แม่อุตสาห์ขัดจนกระทั่งมันดีที่สุดแต่ยังมีเศษดินอยู่ที่เล็บของแม่ แต่แม่มาแม่ทนเพราะแม่ทนลำบากเพื่อลูกวันนี้ คุณอย่าไปอายว่าคุณมีแม่อย่างนี้ คุณต้องวิ่งไปกอดแม่ กราบเท้าแม่แล้วคุณพาแม่คุณไปหาเพื่อไฮโซคุณที่พ่อแม่มันรวย แล้วบอกว่า นี่แม่หนูค่ะ หนูมีชีวิตวันนี้ได้เพราะแม่ ถ้ามันมองแม่คุณอย่างดูถูกอย่างไปคบมันเลย ผมพูดคำนี้ให้เด็กจบใหม่ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒน์ ผมพูดเพื่อเตือนสติเขา เด็กในนั้นหลายคนร้องไห้ แล้วตอนหลังมาสารภาพกับผมว่า เดิมทีเขาคิดว่าเขาไม่อยากจะเชิญแม่เขามาเพราะเขาอาย เคยเห็นไหมเวลารับปริญญารถปิกอัพคันนึงวิ่งมาจากต่างจังหวัด 7 ชั่วโมง บนปิกอัพที่เขานั่งแล้วเอาผ้าพลาสติกคุมหัว เขานั่งกันมา 8 คน แล้วแม่เป็นหนึ่งในนั้น ลงมาแล้วบิดเนื้อบิดตัวหน้าสวนอัมพร แล้วมายิ้มกับลูก กอดลูก ลูบหลังลูก แล้วลูกเลวๆ บางคนมันไม่รู้ว่าวันนี้มันมีเพราะว่าแม่มัน แม่อยู่ตรงนี้นะเดี๋ยวผมมาแล้วมันไปถ่ายรูปกับคนนู้นคนนี้ นึกออกไหม แล้วมันทิ้งแม่มันกับพ่อมันยืนอยู่ข้างๆ สนาม ยืนอยู่เก้ๆ กังๆ แล้วจนกระทั่งเวลาจะหมดแล้วมันถึงมาถ่ายรูปกับเขา ไอ้ลูกทรพี วันนี้วันแม่ผมต้องพูด เรามีแม่ของแผ่นดินที่มีพระคุณเหมือนพ่อหลวงเรา แล้วเราก็มีแม่ของเรา ไอ้คนที่มันไม่รู้ว่าแม่ลำบากแค่ไหน ผมเคยบอกเด็กๆ บอกมึงเอาบาตรพระมัดตรงพุงมึง แล้วมึงกินนอน ขี้เยี่ยวโดยที่มึงไม่เอาบาตรออก แล้วมึงจะรู้สึกว่าลำบากแค่ไหนที่จะขี้จะเยี้ยว จะกินจะนอนโดยมีบาตร ถ้าจะให้ดีมึงใส่หินเข้าไปด้วย แล้วหลับตาวาดภาพว่าแม่มึงแบกอย่างนี้มาให้ 8 เดือนเต็ม แล้วมึงยังไม่รักแม่อีกหรอ พรุ่งนี้วันแม่ผมไม่มีแม่แล้ว แม่เป็นคนที่สอนให้ผมมีคุณธรรมและจริยธรรม แม่บอกตั๊บอย่าไปโกงเขานะ อย่าไปรังแกคนที่อ่อนแอ แล้วถ้าอะไรถูกต้อง อย่าไปกลัว เราสู้มันไป เพราะฉะนั้นแล้ว วันแม่วันนี้ ผมขอคารวะจิตใจของเพศแม่ แล้วผมเสียดายที่ผมไม่มีแม่ที่ผมจะมากอด จะมานวด ใครที่ยังมีแม่อยู่ อย่าลืม ผมเคยพูดกับลูกชายผมตลอดเวลา ผมบอกว่าวันนี้ยังมีแม่อยู่นะ ถ้าวันข้างหน้าแม่ไม่อยู่แล้ว วันนั้นอยากได้แม่ ก็ไม่มีแม่ให้แล้วนะ จะเสียใจ ขอบพระคุณมากครับ พ่อแม่พี่น้อง


