xs
xsm
sm
md
lg

เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร (คอนเสิร์ตการเมือง) 3 : “สนธิ” ชี้ปรากฏการณ์ 9 มิ.ย.สร้างจุดเปลี่ยนประเทศไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สนธิ ลิ้มทองกุล และสโรชา พรอุดมศักดิ์ ผู้ดำเนินรายเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร คอนเสิร์ตการเมืองครั้งที่ 3
“เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร” คอนเสิร์ตการเมือง ครั้งที่ 3 ที่สวนลุมพินียังคึกคัก “สนธิ” ชี้ปรากฏการณ์ 9 มิ.ย.สร้างจุดเปลี่ยนประเทศไทยทำให้บางคนถึงกับช็อกต้องชะลอความทะเยอทะยานไว้ชั่วคราว ขณะเดียวกันยังเปรียบให้เห็นภาพผู้นำในอดีตชอบใช้อำนาจ สุดท้ายต้องตายบนกองขี้ตัวเอง

คลิกที่นี่เพื่อชมวิดีโอคลิป เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร (คอนเสิร์ตการเมือง3) ช่วง 2
(56k) | (256K)

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง เมืองไทยรายสัปดาห์ คอนเสิร์ตการเมือง ครั้งที่ 3 ช่วงที่ 1
 
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง เมืองไทยรายสัปดาห์ คอนเสิร์ตการเมือง ครั้งที่ 3 ช่วงที่ 2


สโรชา - สวัสดีค่ะ ขอต้อนรับเข้าสู่เมืองไทยรายสัปดาห์ค่ะ วันนี้วันที่ 16 มิถุนายน ประชาชนคนไทยทั่วประเทศยังคงอยู่ในบรรยากาศการเฉลิมฉลองอยู่นะคะ อีกสักครู่หนึ่งคงจะได้คุยถึงเรื่องราวและภาพที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศปลาบปลื้มจนกลั้นน้ำตาไม่ไหว

ASTV 1

สโรชา - สวัสดีค่ะ ขอต้อนรับเข้าสู่เมืองไทยรายสัปดาห์ค่ะ วันนี้วันที่ 16 มิถุนายน ประชาชนคนไทยทั่วประเทศยังคงอยู่ในบรรยากาศการเฉลิมฉลองอยู่นะคะ อีกสักครู่หนึ่งคงจะได้คุยถึงเรื่องราวและภาพที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศปลาบปลื้มจนกลั้นน้ำตาไม่ไหว อีกสักครู่หนึ่งคงจะได้คุยกัน แต่ก่อนอื่นเลย แอ้มอยากจะเชิญชวนทุกๆ ท่าน โบกไม้โบกมือปรบมือ ส่งเสียงไปยังสหรัฐอเมริกาสักนิดหนึ่งได้ไหมคะ ส.ว.การุณ

สนธิ - คุณการุณ กับ ดร.วุฒิพงษ์ ตอนนี้อยู่ที่อเมริกา แล้วก็เช้าวันพรุ่งนี้

สโรชา - เวลาเรา

สนธิ - เวลาของเรานะฮะ ประมาณสัก 7 โมงเช้า ที่วอชิงตัน ดี.ซี. ก็ประมาณวันเสาร์ทุ่มนึง คุณการุณ กับ ดร.วุฒิพงษ์ ก็จะไปพูดที่อเมริกานะครับ

สโรชา - ค่ะ เป็นเย็นวันศุกร์ของเขานะคะ เป็นเช้าวันเสาร์ของเรา

สนธิ - และก็อยากจะกราบเรียน ส่งสัญญาณ ส่งสารไปที่พ่อแม่พี่น้องที่สหรัฐอเมริกาว่า เดือนกันยายนนะครับ เดือนกันยายน ผมกับคุณสโรชา และทีมงาน จะไปเยือนสหรัฐอเมริกาเพื่อไปปราศรัยที่นั่นนะครับ แล้วก็จะมีข่าวดีและข่าวร้ายก็คือว่า ข่าวดีก็คือว่า เอาข่าวร้ายก่อน คือข่าวร้ายถ้าทักษิณยังไม่ไปตอนนั้นผมก็จะไม่กลับล่ะ ข่าวดีก็คือว่า ผมคิดว่าเขาคงจะต้องไปแน่นอนนะครับ เดี๋ยว จริงๆ แล้วก็อยากจะบอกพ่อแม่พี่น้องที่มาที่นี่ว่า นี่คือ (***เทปขาดไปประมาณ 3 นาที***)

สโรชา - ... ที่ไปเฝ้าฯ รับเสด็จที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ยาวเรื่อยมา

สนธิ - ฮะ ก่อนที่เราจะเอาพระราชดำรัสบางส่วนของพระองค์ท่านใน 3 วัน มาให้พวกเราฟังอีกครั้งเพื่อเป็นสิริมงคลนะฮะ จะต้องคุยกันเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เสียก่อน พ่อแม่พี่น้องรู้ไหมว่ารัฐบาลชุดนี้เนี่ยมันแพ้สีเหลือง จำไม่ได้เหรอพวกเราเริ่มด้วยสีเหลืองกัน จำได้เปล่า พอเราเริ่มด้วยสีเหลือง คุณสโรชา จำได้ไหม ยัยเจ๊บ้าเจ๊บอแถวเชียงใหม่น่ะ จัดชุมนุมเพื่อต่อต้านพวกเรา แล้วก็เอาสีแดงมาข่มสีเหลือง จำได้ไหม เห็นเปล่า

สโรชา - จนกระทั่งเขาเรียกว่าม็อบสีเหลือง กับม็อบเสื้อแดง

สนธิ - ม็อบเสื้อแดง ปรากฏว่าเราเนี่ยต่อสู้เพื่อพระเจ้าอยู่หัวฯ ด้วยเสื้อสีเหลือง เนี่ย เราจะสู้เพื่อในหลวง เนี่ย เสื้อที่คลาสสิก

สโรชา - เก็บไว้ดีๆ นะคะ ไม่มีแล้ว

สนธิ - เก็บเอาไว้ดีๆ นะ เป็นเสื้อประวัติศาสตร์นะ ผมจะบอกให้ร้

สโรชา - ไม่มีแล้วนะคะ

สนธิ - ที่วันนี้ไม่ใส่ เพราะว่าจะใส่เวอร์ชั่นใหม่มาให้ดู นะฮะ ทีนี้ข้างในไม่มีอะไร เลยไม่กล้าเซ็นตรงนี้ เพราะเดี๋ยวต้องถอด นะฮะ ไม่กล้านะฮะ แต่ว่าถ้าใครขอ และใครมีวันเกิดวันนี้ เดี๋ยวอาจจะกัดฟันถอดให้นะฮะ เสร็จแล้วจำได้หรือเปล่าพ่อแม่พี่น้อง ว่าพวกครูเนี่ยใส่เสื้ออะไร

สโรชา - เสื้อเหลือง

สนธิ - เสื้อเหลือง ครูที่ต่อต้านการโอนย้ายก็เสื้อเหลือง

สโรชา - ใช่ค่ะ

สนธิ - การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ใส่เสื้ออะไร เสื้อเหลือง นั่นคือที่มาของพวกที่เชื่อมั่นในเสื้อสีเหลือง ในธงสีเหลือง นะฮะ แล้วในที่สุด คือผมเสียดาย ผมเสียดาย คุณสโรชา ผมเสียดายว่า รัฐบาลชุดนี้เนี่ยมีโอกาสทำคุณงามความดีให้พระเจ้าอยู่หัว แต่ว่าเหมือนกับไม่ค่อยเต็มใจทำ ทำอย่างไม่เต็มที่ พอวันที่ 9 เนี่ย คนบางคนช็อก ถึงกับพูดไม่ออก ผมไม่เอ่ยชื่อแล้วกัน ใคร คนบางคนช็อก ถึงกับพูดไม่ออก พอพูดไม่ออกแล้วเนี่ย ต้องรีบมาโหนกระแสเสื้อเหลืองเหมือนพวกเรา

สโรชา - โหน โหนยังไงคะ

สนธิ - โหนเลย คือหลายๆ อย่างเนี่ย คือก่อน พ่อแม่พี่น้องต้องเข้าใจระบบ เวลาในพระราชวังมีพระราชพิธีนะ ต้องจำไว้ จะต้องต่อด้วยรัฐพิธี

สโรชา - รัฐพิธี

สนธิ - รัฐพิธี พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วิธีการก็คือว่า พวกเราก็เข้าไป

สโรชา - รับเสด็จ

สนธิ - รับเสด็จ เซ็นถวายพระพร พระองค์ท่านก็มอบโอวาทให้พวกเรา นะฮะ ที่วังสวนจิตรฯ เสร็จแล้วหลังจากนั้นอีก 2-3 วัน จำได้ไหม รัฐบาลก็จัดรัฐพิธี ที่เขาเรียกว่าสโมสรสันนิบาต นะฮะ ถ้าพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ท่านอยากจะเสด็จมา พระองค์ท่านก็เสด็จมาด้วยพระองค์ท่านเอง หรือไม่พระองค์ท่านก็จะมอบหมายให้เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินมาเป็นตัวแทนพระองค์ท่าน ที่เราเห็นสโมสรสันนิบาต ที่มีไฟติดกันหน้าทำเนียบรัฐบาลนะคุณ

สโรชา - เหมือนที่ทำเนียบนะคะ

สนธิ - เหมือนทำเนียบนะฮะ แล้วก็เดินชนแก้วไวน์ ดื่มแชมเปญกันเพื่อเฉลิมฉลอง

สโรชา - เห็นบ่อย เห็นบ่อยมากนะคะ

สนธิ - วันฉัตรมงคลอันหนึ่ง แล้ววันเฉลิมพระชนมพรรษาอันนึง

สโรชา - แต่ครั้งนี้

สนธิ - แต่ครั้งนี้ ปีนี้วันฉัตรมงคลไม่มี มีแต่ว่าไม่มีการมอบเครื่องราชย์ให้ผู้ใด เพราะว่า การที่ไม่ให้ก็คือว่า ปีนี้คนที่ควรได้เครื่องราชย์ไม่มีใครได้เครื่องราชย์ แต่พี่นี้พ่อแม่พี่น้องต้องจำเอาไว้ รัฐบาลประกาศออกมา เว็บไซต์รัฐบาลยังขึ้นเลยนะว่า จะมีสโมสรสันนิบาตวันที่ 14 เมื่อวานซืน วันพุธ วันที่ 14 ระบุชัดเลย รองนายกฯ วิษณุ เครืองาม ประกาศชัดเลยว่าได้ทำหนังสือกราบบังคมทูลไปแล้ว ปรากฏว่าไม่มีหนังสือตอบกลับมา งานสโมสรสันนิบาตก็เลยเกิดไม่ได้ ก็เลยทำให้พรรคไทยรักไทยวิ่งเท้าขวิด ธรรมดาพรรคไทยรักไทยจะประชุมกันวันอังคาร พ่อแม่พี่น้องต้องจำไว้นะ ทุกๆ วันอังคารเขาจะมีการประชุมกัน นี่ประชุมวันพฤหัสฯ เพื่ออะไรรู้ไหม เพื่อออกมาตรการโหนกระแส เพราะว่าตัวเองไม่สามารถจะจัดงานสโมสรสันนิบาตได้ เพราะว่าไม่มีพระบรมราชโองการลงมาว่าพระองค์จะส่งใครมา ไม่ตอบเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วก็ออกมามาตรการเยอะแยะไปหมดเลยจำได้ไหม ข่าวเมื่อเช้า มีบริจาคเลือดให้ได้ 60,000 ลิตร ให้ใส่เสื้อเหลือง ผมเลยอยากจะถามในเชิงนักเลง พ่อแม่พี่น้องว่า ทำไมมึงไม่ทำแบบนี้ซะตั้งนาน

สโรชา - มีบางคนตั้งคำถามว่า ถ้าจำได้ วันที่ 12 และ วันที่ 13 รัฐบาลประกาศให้เป็นวันหยุดตั้งแน่เนิ่นแล้ว แต่วันที่ 9 เพิ่งมาประกาศค่อนข้างกระชั้นชิด

สนธิ - คือ พ่อแม่พี่น้องต้องจำเอาไว้นะ วันที่ 9 ประกาศเป็นวันหยุดเขาประกาศเมื่อวันที่ 6 มิถุนาฯ วันประชุม ครม. เอ๊ะก็รู้อยู่เป็นปีๆ แล้วว่าวันที่ 9 มิถุนาฯ เป็นวันที่พระเจ้าอยู่หัวฯ จะออกมาที่พระสีหบัญชร เพื่อจะตรัสกับ และรับคำถวายพระพรจากประชาชน

สโรชา - คือวันจริงคือวันที่ 9

สนธิ - วันจริงคือวันนั้นทำไมไม่ประกาศเป็นวันหยุดตั้งแต่ต้น ไม่ยอมประกาศ แล้วมาประกาศวันที่ 6 หลังจากนั้นอีก 3 วันถึงออกมา แล้วพ่อแม่พี่น้องจำได้ไหม ไหนๆ ก็พูดแล้วอยากให้พูดอีกไหม (อยาก) พ่อแม่พี่น้องดูทีวี แล้วที่ไปที่ลานพระรูปฯ อย่านึกว่าผมไม่เห็นนะ หลายคนไปใส่เสื้อเราจะสู้เพื่อในหลวงนะ แล้วไม่รู้กลุ่มตรงมุมไหนไม่รู้มีคนตะโกนทักษิณ แล้วอีกฝ่ายร้องว่า ออกไป ตะโกนอยู่สองสามครั้งจนกระทั่งเขาบอกว่า วันนี้เป็นวันสิริมงคล อย่าเอาเรื่องอัปมงคลมาพูด ก็เลยเงียบกันไปเลยคุณสโรชา

สโรชา - มีเช่นนี้ด้วย มีเช่นนี้ด้วย ไม่ทราบ

สนธิ - มีครับมี มี ทีนี้ตรงพระสีหบัญชร เห็นรูปธงของพระองค์ท่านไหม ธงนั้นมีอะไรอยู่ มีครุฑ นั้นคือธงมหาราช

สโรชา - ขอภาพด้วยนะคะ

สนธิ - เพราะว่าครุฑนั้นเป็นตัวแทนของพระเจ้าอยู่หัวฯ เป็นสัตว์ในเทพนิยายจริง แต่ว่าเป็นสัตว์ในเทพนิยายซึ่งมาเป็นสัญลักษณ์ของพระเจ้าอยู่หัวฯ จำได้หรือเปล่าศุกร์ที่แล้วผมพูดว่าอย่างไร จำได้หรือเปล่า ที่ผมบอกว่า ไอ้กระทรวงมหาดไทยภายใต้หมอผีที่ชื่อคงศักดิ์ มาอ้างบอกว่า ตราครุฑต้องเอาแบล็กไลท์ส่องถึงจะเห็น จำได้หรือเปล่า เสร็จเรียบร้อยแล้วตอนหลังกลับคำอีกแล้ว จำได้หรือเปล่าคุณสโรชา กระทรวงมหาดไทยมาแถลงบอกว่า บัตรงวดที่ 2 จะมีตราครุฑแล้ว

สโรชา - ถูกต้อง

สนธิ - เห็นหรือยัง แล้วของประเภทนี้ที่ทำกัน ย้อนหลังกลับไปเรื่องตั้งสมเด็จพระสังฆราช รักษาการสมเด็จพระสังฆราช เรื่องซื้อเครื่องบินให้ตัวเอง ไม่ได้คำนึงถึงเครื่องบินพระราชพาหนะ เรื่องคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา เรื่องราวต่างๆ เรื่องการที่ใช้วาจาจาบจ้วงพระเจ้าอยู่หัวฯ ตลอดจนมาเรื่องที่ไม่ประกาศวันหยุดวันที่ 9 ตั้งแต่ต้น เรื่องตราครุฑ ซึ่งไม่ยอมเอาบรรจุลงไปในบัตรประชาชน เรื่องชื่อข้าราชการ เปลี่ยนจากข้าราชการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ตรงนี้พอมีปฏิญญาฟินแลนด์ขึ้นมา วันที่ 9 คนบางคนปากกล้าขาสั่น บอกว่า พระเจ้าอยู่หัวฯ นั้นทรงพระยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าเป็นสัญลักษณ์ ทำไมไม่คิดอย่างนี้มาตั้งแต่ต้น ทำไมไม่คิดมาตั้งแต่ปี 2544 ทำไมไม่ปฏิบัติด้วยการปฏิบัติบูชา อย่าออกมาแล้วบอกว่า มาอีกแล้ว จะเอาธรรม 4 ข้อของพระเจ้าอยู่หัวฯ มาใช้ ก็แค่พวกมึงทำตัวเป็นคนดียังไม่มีปัญญาทำเลยจะมาเอาธรรมทั้ง 4 ข้อ (ปรบมือ) คุณสโรชา คือความหน้าด้านของคน เกิดมาเป็นผู้เป็นคนจนอายุเท่านี้แล้วยังไม่เคยพบไม่เคยเห็น แล้วที่สำคัญที่สุด ผมไม่ต้องพูด พ่อแม่พี่น้องที่ดูทีวีตาไม่กระพริบ พ่อแม่พี่น้องจะเห็นคนบางคนถูกปฏิเสธในการสนทนา ยืนหน้าเหรอ แล้วยืนแบบนี้นะ (ยืนให้ดู) ผมไม่รู้ว่าใคร

สโรชา - ท่าเหมือนมากแต่หน้าใหญ่กว่า

สนธิ - ผมจำได้ติดตาเลย ผมนึกในใจ มึงยืนได้อย่างไรวะแบบนี้ (ทำท่าเลียนแบบ) คนๆ นี้ทำได้ทุกอย่างพ่อแม่พี่น้อง

สโรชา - ฝรั่งเนี่ย ฝรั่งเขามีคำพูดนะคะ One in a million คือ หนึ่งในล้าน เขาบอกว่าคนนี้เนี่ย One in several million คือนับล้านๆ ก็หาไม่เจอหรอก มีคนนี้คนเดียวเท่านั้น

สนธิ - ผมไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่พ่อแม่พี่น้องรู้เอง ดูทีวีแล้วรู้เอง ตลกจริงๆ คือคนที่ทำได้อย่างนี้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้แสดงความจงรักภักดี คนประเภทนี้น่ากลัวมากพ่อแม่พี่น้อง น่ากลัวจริงๆ นะฮะ เพราะฉะนั้นแล้วจะได้เห็น นี่ๆ เราเล่าเรื่องต่างๆ ก่อนที่เราจะมาชมพระบารมี นะฮะ ก่อนที่เราจะมาชมพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เห็นได้ชัดเลย ยิ่งใหญ่ตระการตา ผมนี่ไม่อายเลย ผมนั่งดูอยู่เนี่ยน้ำตาผมไหล น้ำตาผมไหลจริงๆ ผมไม่ได้ถึงขั้นร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนบางคนเวลาออกทีวี ว่าจะต้องเว้นวรรค แล้วมีคนโผไปกอด แต่ผมไหล ผมไหลด้วยความปลาบปลื้มปีติ ปลาบปลื้มปีติ และผมยังเสียใจที่รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้ใส่ใจกับงานของพระองค์ท่านอย่างจริงจัง ดูงานนิทรรศการ ผลงานของพระองค์ท่าน เราเห็นใช่ไหม ผมไม่รู้ว่าไปเอาคน ไปเอาคุณเนวินทำหรือเปล่าก็ไม่รู้ งานชิ้นนั้น เพราะว่าไม่มีอะไรเลยที่จะแสดงถึงพระบารมีของพระองค์ท่าน ผมจะบอกให้รู้ คุณสโรชา คุณูปการอันหนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีต่อชาติบ้านเมือง มีอยู่ช่วงไหน คุณรู้ไหม

สโรชา - ช่วงไหนคะ

สนธิ - หลายคนเนี่ยโตไม่ทัน แต่ผมเนี่ยทัน ช่วงที่พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย กำลังรบกับทหารหาญ ช่วงนั้นเนี่ย พระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ เสด็จพระราชดำเนินไปตามชายแดน ไปเยี่ยมทหารที่รบอยู่ โดยที่พระองค์ท่านไม่หวั่นเกรงต่อภยันตรายเลยแม้แต่นิดเดียว มีการยิงกันที่ไหน พระองค์ท่านบินไปเพื่อให้กำลังใจทหาร ทหารเนี่ยตายเป็นเบือ พระองคท่านไปให้กำลังใจ แล้วพระองค์ท่านมาพระราชทานเพลิงศพทหารหาญ ฝักแคที่มีพระเพลิงวิ่งเข้าไปเนี่ย แล้วก็ลูกเมียทุกคนที่ยืนอยู่และก็พนมมือ แล้วก็น้ำตาไหลปลาบปลื้ม ทั้งเสียใจทั้งดีใจ เสียใจที่เสียคนที่รักไป แต่ดีใจที่มีพระเจ้าอยู่หัวมาให้กำลังใจ เหมือนกับ จำได้ไหม เหมือนกับทหารนาวิกโยธิน ที่ตายที่ใต้น่ะ พระราชินีส่งพระเทพฯ ลงไปทันทีเลย แต่ไอ้คนบางคนมันไม่ยอมลง เหมือนกัน คุณูปการตรงนี้ บุญคุณที่พระเจ้าอยู่หัวมีให้แผ่นดินตรงนี้เนี่ย ทำไมไม่เอามาแสดงให้กับพระราชาทั้งหลายให้เห็นว่านี่คือกษัตริย์ของไทยไม่ใช่กษัตริย์เนปาล กษัตริย์ของไทยที่เป็นห่วงเป็นใย

สโรชา - ใช่ค่ะ

สนธิ - พี่น้องประชาชนคนไทย เพราะว่าพระองค์ท่านบอกว่าพระองค์ท่านจะปกครองแผ่นดินโดยธรรม คุณสโรชาถูกไม่ถูก

สโรชา - ถูกต้องค่ะ

สนธิ - ตรงนี้ทำไมไม่เอามาแสดง เห็นไหม หรือว่ามันมีอดีตคอมมิวนิสต์อยู่ในคณะรัฐมนตรีเยอะเหลือเกิน คุณสโรชาคิดดูซิ พระราชาธิบดี กษัตริย์ เจ้าชาย เขาก็ต้องเห็นว่าพระเจ้าอยู่หัวฯ ในยามที่ประเทศถูกรุกด้วยลัทธิคอมมิวนิสต์ตอนนั้นพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเป็นเทียนสำคัญเล่มใหญ่ที่ให้ทุกคนได้เห็นแสงสว่าง ได้จุดสว่างขึ้นมา ในช่วงนั้นคือช่วงเวลานั้น นอกเหนือจากงานพัฒนาซึ่งพระองค์ท่านทรงทำมาตลอดเวลา 60 ปี แต่ในช่วงนั้นเป็นช่วงวิกฤตินะคุณสโรชา ต้องเอาตรงนั้นออกมาแต่ไม่มีการเอาออกมา อย่างที่ผมเรียนให้ทราบมันจะไปสะเทือนใจรัฐมนตรีบางคนหรือเปล่าผมไม่รู้ ใช่ไหม นี่แหละคือคุณูปการ นี่แหละคือบุญคุณที่พวกเราเป็นหนี้พระองค์ท่าน

สโรชา - ไปชมภาพที่พวกเราปลาบปลื้มใจ ภาพที่พระองค์ท่านโบกพระหัตถ์แล้วแย้มพระสรวล เป็นภาพที่บางท่านเกิดมายังไม่เคยได้รับชม เราได้อัญเชิญมาให้ทุกๆ ท่านได้ชมกันอีกครั้ง ขอเป็น VTR 2

(VTR)

สโรชา - ฟังท่านในที่นี้ก็ยัง กลั้นน้ำตาไม่ไหวนะคะ

สนธิ - คือ เหตุการณ์ที่ลานพระรูปนั้นเนี่ย ผมกล้าพูดได้ว่า ทำให้คนบางคนช็อก เขาช็อกจริงๆ ไม่ได้ช็อกเล่นๆ มันไม่ใช่นึกไม่ถึงอย่างเดียว ทำให้เขาต้องรีบสร้างภาพให้ตัวเขาเองอีกครั้งหนึ่ง โดยเกาะกระแสนี้ทันที แล้วสังเกตอย่าง คำถวายพระพร พ่อแม่พี่น้อง ให้สังเกต ความจริงแล้วเป็นแฟนเมืองไทยรายสัปดาห์เนี่ย แทบไม่ต้องให้ผมแนะเลยนะ ต้องเก่งกันแล้วนะตอนนี้ ให้สังเกตคำถวายพระพรที่ฟ้าชายได้ทรงมีพระราชดำรัส ตอนจบ "ขอให้อริราชศัตรู..." จำได้เปล่า พระองค์พูดเลย ขอให้อริราชศัตรูจงพ่ายแพ้ต่อพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ผมจะบอกพ่อแม่พี่น้อง และคุณธนา ทนายนายทักษิณ ที่กำลังจับตาดูรายการนี้อยู่ว่าจะฟ้องผมในกรณีไหน ตลอดจนคณะรัฐมนตรีพรรคไทยรักไทย และก็สมาชิกพรรคไทยรักไทยทุกคน ไม่เคยมีครั้งไหนในประวัติศาสตร์ไทย ที่คำถวายพระพรมีคำว่า ขอให้อริราชศัตรูจงพ่ายแพ้ต่อพระบารมีของท่าน ไม่มี แสดงว่ามันมีไอ้ระยำคนหนึ่งคิดจะเป็นศัตรูกับพระเจ้าอยู่หัว ไปดูได้เลย สมาชิกพรรคไทยรักไทยทุกคน รัฐมนตรีทุกคน รักษาการทุกคน รวมทั้งบ้านจันทร์ส่องหล้า ไปดูได้ ไม่เคยมี ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ไทย ตั้งแต่พระองค์ทรงครองราชย์มา ไปดูคำถวายพระพร เพิ่งจะมีครั้งนี้ล่ะที่ฟ้าชาย ทรงมีพระราชดำรัสถวายพระพรว่า "ขอให้อริราชศัตรู..." ไอ้พวกคุณเนี่ย พวกไหนก็ไม่รู้ คุณไปคิดเอง คิดจะเอามือปิดฟ้า คุณปิดไม่ได้หรอก มันเผยออกมาชัดเจนหมด ออกมาชัดเจนจริงๆ เพราะฉะนั้นพ่อแม่พี่น้องจำได้หรือเปล่า ที่วันแรกที่เราใส่เสื้อว่า "เราจะสู้เพื่อในหลวง" น่ะ เรามาถูกทางหรือเปล่า (((ถูก))) แล้วจะสู้ต่อไหม (((สู้)))

สโรชา - ไปฟังพระราชดำรัสในวันที่ 9 มิถุนายน นะคะ เราได้อัญเชิญมาเผยแพร่ให้ท่านได้รับชมกันนะคะ ตั้งแต่วันที่ 9 วันที่ 12 แล้วก็วันที่ 13 ด้วยนะคะ ที่มีการถวายพระกระยาหารแก่พระราชอาคันตุกะ ขอเป็น VTR 1 ก่อนนะคะ

(พระราชดำรัสในหลวง)

สนธิ - คุณสโรชา พ่อแม่พี่น้อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้มอบหลักธรรม 4 ประการ ให้ประชาชนคนไทย และให้กับผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเรา รวมทั้งรัฐบาลรักษาการชุดนี้ ทำข้อแรก ก็คือการที่ทุกคนคิด พูด ทำ ด้วยความเมตตา มุ่งดี มุ่งเจริญต่อกัน ตรงนี้มีนัย คือพระองค์ท่านหมายความว่า ไม่ว่าด้วยกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ที่คนไทยพึงกระทำต่อกัน หรือในการทำการใดๆ ควรเป็นไปเพื่อความเมตตาต่อกัน เพื่อความปรารถนาดีต่อกัน เพื่อหวังความเจริญแก่กันและกัน นะ ส่วนความเห็นของผม ไม่ใช่เพื่อการเบียดเบียน เพื่อการเอารัดเอาเปรียบ เพื่อเป็นการฉ้อฉล ฉกฉวย เอาประโยชน์ของตนและพวกพ้อง โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนเสียหายของผู้อื่นและประเทศชาติ นั่นคือธรรมข้อแรก ธรรมข้อที่ 2 การที่แต่ละคนต่างช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ประสานงาน ประสานประโยชน์กัน ให้งานที่ทำสำเร็จผลทั้งแก่ตนและผู้อื่น และกับประเทศชาติ ผมแปลอย่างนี้ นั่นคือคนไทยทุกคนจะต้องไม่แบ่งเขา แบ่งเรา แบ่งฝัก แบ่งฝ่าย ไม่ใช่ถือว่าภาคใต้นั้นไม่ใช่ประเทศไทย แล้วถือว่าภาคเหนือนั้นเป็นของพวกเรา ต้องถือว่าต่างเป็นพสกนิกรภายใต้พระบารมีด้วยกัน ทำการทุกสิ่งจึงต้องประสานงาน ประสานประโยชน์ เพื่อให้สำเร็จเป็นประโยชน์ทั้งแก่ประเทศชาติ แก่ประชาชน และแก่ตนเอง ไม่ใช่ประเทศนี้มีแต่พวกกู หรือไม่ก็ศัตรูของกู กูจะเอาแต่ผลประโยชน์ของกูและพวกกู กูจะทำลายผลประโยชน์ของคนอื่นที่เป็นศัตรูของกู โดยไม่คำนึงถึงความฉิบหายวายวอดใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ใช่ ธรรมข้อที่ 3 พระองค์ท่านมีพระราชดำรัสว่า การที่ทุกคนประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในความสุจริต ในกฎกติกา และในระเบียบแบบแผน โดยเท่าเทียมเสมอกัน ผมแปลอย่างนี้ นั่นคือ บรรดาบทกฎหมายและระเบียบแบบแผนทั้งปวงที่มีมาสำหรับแผ่นดิน ต้องให้ความรับรองคุ้มครองคนไทยทุกคนเสมอกัน เสมอกัน ไม่ใช่ว่าคดีที่มาเล่นงานพวกพันธมิตรฯ ฟ้องเอาๆ ดำเนินคดีอย่างรวดเร็ว แต่คดีที่ตัวเองโดนดำเนินคดีนี่ก็ยังแช่อยู่ในลิ้นชัก ไม่ได้ขยับไปไหนเลย หรือว่าคดีนายสมชาย นีละไพจิตร ตายไปไม่รู้กี่ปีแล้วยังหาคนดำเนินการไม่ได้ แต่คดีอดีต ส.ส.ของตังเองตายแค่วันเดียวอีก 3 วันจับคนร้ายได้ ไม่ใช่ทำบทกฎหมายและระเบียบแบบแผนให้เป็นกติกู เพื่อกูและเพื่อพวกกูที่อำนวยประโยชน์เฉพาะกูและพวกกู และใช้บังคับโดยเลือกปฏิบัติเอาเฉพาะศัตรูของกูเท่านั้น การใช้ระเบียบแบบแผนทั้งปวงต้องตั้งอยู่บนความสุจริต ไม่ใช่ใช้แบบศรีธนญชัยเพียงเพื่อประโยชน์ของตนจนกติกากลายเป็นกติกูและกติโกงอย่างที่เป็นอยู่ ธรรมข้อที่ 4 พระองค์ท่านมีพระราชดำรัสว่า "คือการที่ต่างคนต่างพยายามทำความคิด ความเห็นของตนให้ถูกต้อง เที่ยงตรง และมั่นคงอยู่ในเหตุในผล" ผมแปลว่า นั่นคือต้องทำความเห็นให้ถูกต้องตรงกับความจริง และเหตุผลที่เป็นไปในแผ่นดิน จัดเป็นสัมมาทิฐิ คือความคิด ความเห็นที่ถูกต้อง ทั้งชอบด้วยเหตุผล เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของชาติบ้านเมืองและประชาชน ไม่ใช่ยุบสภา อยากยุบก็ยุบ อยากจะให้เลือกตั้งภายใน 27 วันก็ 27 วัน ไม่ใช่อย่างนี้ อยากจะให้หันตูดหาแดดก็หันตูดหาแดด อยากจะใช้ตรายางประทับแทนที่จะใช้มือขีด เพราะว่าตรายางมันโกงง่าย มันจะได้ไม่ต้องเสียเวลามานั่งขีดกัน เอาตรายางปั๊ม ปุ๊บๆๆๆๆ แล้วใส่ถุง ถุงละ 500 ใบ แล้วไปเปิด ไม่ใช่ ไม่ใช่ตั้งความเห็นเอาตามอำเภอใจตนแล้วบิดเบือนเหตุและผลมาสนับสนุนรับใช้ความปรารถนาอันเป็นมัจฉาทิฐิของตน นี่คือหลักธรรมทั้ง 4 ประการ ผมไม่รู้ว่าพรรคไทยรักไทยอ่านแล้วจะเข้าใจหรือเปล่า ถ้าไม่เข้าใจแล้วอยากจะแสดงถวายความจงรักภักดีให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พ่อแม่พี่น้องรู้ไหมว่าต้องทำอย่างไร ลาออก ก็จงรักภักดีแล้ว คุณบวรศักดิ์ อุวรรณโณ พูดออกมามีเรื่องที่น่าคิดมาก พระบวรศักดิ์ให้สัมภาษณ์ว่าที่ลาออกนั้น ก็คือว่าอึดอัดใจที่ทำงานมาตลอด อึดอัดใจ แปลว่า ถูกบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากจะทำ นั่นคืออึดอัดใจ แล้วก็พูดต่อ ถ้าการเมืองยังคงเป็นอย่างนี้ต่อไป ก็จะมีความลำบากใจในการทำงาน แปลภาษานักเลงก็คือ บอกว่า ถ้ากูขืนอยู่ต่อไปมึงจะบังคับให้กูทำชั่วต่อไป แล้วคุณบวรศักดิ์ พระบวรศักดิ์ก็ตบท้ายด้วยคำพูดที่ว่า "ถ้าไม่เชื่อศาลแล้วจะเชื่อใคร" แสดงว่าพระบวรศักดิ์ยอมรับในอำนาจอธิปไตยตามมาตรา 3 ที่พระมหากษัตริย์ทรงสามารถใช้อำนาจอธิปไตยผ่านสภา ผ่านฝ่ายบริหาร และผ่านฝ่ายตุลาการ เมื่อสภาไม่มี บริหารไม่มี พระองค์ท่านก็ใช้ผ่านตุลาการ ท่านพระบวรศักดิ์ท่านก็เลยบอกว่า ถ้าอย่างนั้นเราต้องเชื่อศาล เพราะศาลเป็นตัวแทนขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ แต่มีไอ้คนซึ่งเลวออกมานั่งด่าศาลอยู่ทุกวัน จงใจ เหมือนกับรู้ว่าศาลเป็นตัวแทนของใคร กกต.ด่า ส.ส.ด่า คุณสโรชา เวลาเราคงไม่มีพอที่จะเอาอีก 2 อันออก แต่ผมจะบอกให้นิดหนึ่ง วันที่ 9 ไม่ใช่เป็นวันพิเศษอย่างเดียว เป็นวันประวัติศาสตร์ของชาติไทยที่ต้องจารึกลงไป แล้วผมเชื่อว่าวันที่ 9 นั้นจะเป็นวันจุดเปลี่ยนของแผ่นดินไทย คุณสโรชาเชื่อผม เพราะวันที่ 9 เป็นวันที่ประชาชนมากันเอง มาแสดงพลังว่าทุกคนรักในหลวง ทั้งๆ ที่รัฐบาลไม่ได้กระทำการอะไรที่จะส่งเสริมให้วันที่ 9 ยิ่งใหญ่เลย ถ้าเขาจัดประชุม ครม.ผ่านดาวเทียมเทเลคอนเฟอร์เรนซ์ได้ ทำไมเขาไม่ติดจอ 76 จังหวัดล่ะ แล้วถ่ายทอดให้ประชาชนหน้าศาลากลางจังหวัด ทำไมมันไม่ทำ ไม่มี เห็นหรือยังคุณสโรชา พอมีประชาชนออกมา 7 แสน 8 แสน 1 ล้านคน มันไปดับไฟความทะเยอทะยานของคนบางคน คนบางคนวันที่เป็นสิริมงคลของชาติบ้านเมือง หน้าตาต้องยิ้มแย้มแจ่มใสใช่ไหม

สโรชา - หมอง เรียกได้เลยภาษาชาวบ้าน หมอง

สนธิ - หน้าคนบางคนวันนั้นเหมือนทวารสุนัข หน้ายู่ยี่ บู้บี้ หน้ายู่ยี่ บู้บี้ ผมถึงบอกว่า ถ้ามีเทปชุดพวกนี้เนี่ย ให้กลับไปดูอีกครั้งหนึ่ง เทปอันนี้ เทปวันที่ 9 เนี่ย เป็นเทปประวัติศาสตร์ เพราะว่าเหตุการณ์วันที่ 9 นั้น ชะลอความทะเยอทะยานของคนบางคนออกไปทันที แล้วก็รีบมาโหนกระแสทันทีเลย ตัวเองนี่เกลียดเสื้อเหลืองใจแทบขาด วันนี้มาให้ทุกคนใส่เสื้อเหลือง ก็รู้อยู่แล้วว่าวันที่ 9 จะต้องมีรายการแบบนี้ รู้มาเป็นปี ทำไมไม่สั่งทำเสื้อเหลือง แล้วขายให้ประชาชนในตัวละ 150 - 200 ยังทะลึ่งมาพูด บอกว่านึกไม่ถึงว่ากระแสเสื้อเหลืองจะแรง

สโรชา - ประเมินผิด ประเมิดผิดมหันต์

สนธิ - คุณจะมีเทปอะไรพิเศษไหม ให้ประชาชนดู

สโรชา - มีค่ะ

สนธิ - เอาอีกสักอันดีไหม หรือเอา 2 อันเลย

สโรชา - นำกระแสพระราชดำรัสในวันที่ 12 นะคะ ที่มีพิธี ขบวนเรือพระราชพิธี นะคะ ได้นำมา อัญเชิญมาให้ได้รับชมกันค่ะ

สนธิ - สักอัน แล้วประเดี๋ยวเราจะพูดถึงจิกมี ท่านจิกมี

สโรชา - VTR 3

(พระราชดำรัสในหลวง)

สโรชา - คงจะได้ชมพระราชดำรัสนะคะ กำลังจะ

สนธิ - มีอยู่นิดหนึ่ง มันอดไม่ได้ พ่อแม่พี่น้องเห็นไหมว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนี่ย ทรงมีพระราชดำรัสเป็นภาษาไทย แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไม นายทักษิณถึงถวายรายงานเป็นภาษาอังกฤษ และผมพูดตรงๆ นะเนี่ย ผมก็อยากจะกราบเรียนไปให้ใครไปบอก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นะ ว่าอย่าพูดภาษาอังกฤษได้ไหม เพราะว่าภาษาอังกฤษนั้นเหมือนกับเด็กหัดใหม่ ฟังไม่รู้เรื่องจริงๆ ด้วยความสัตย์จริงนะฮะ อันนี้พูดนี่ไม่ได้หมิ่นประมาทอะไรทั้งสิ้นนะ

สโรชา - ความคิดเห็นส่วนตัว

สนธิ - ความคิดเห็นส่วนตัวจริงๆ คือผมนึกไม่ถึงว่าคนที่จบด็อกเตอร์มาจะพูดภาษาอังกฤษแล้ว ผม ฝรั่งฟังไม่รู้เรื่อง เพราะฉะนั้นแล้วเนี่ย ในอนาคตถ้ามีโอกาส อย่าพูดเลยดีกว่า อย่าพูด เชื่อผมสิ

สโรชา - มีบางท่านบอกแอ้มบอกว่า สาเหตุที่หน้าคนบางคนหมองในช่วงวันที่ 9 นะคะ ตอนที่มีพระราชพิธีเนี่ย คงอาจจะสำนึกได้แล้วว่า ฟ้าเนี่ย เอ็งไม่มีวันจะเอื้อมถึงหรอก

สนธิ - คุณแอ้มหมายถึงใคร ไม่รู้ใช่ไหม

สโรชา - ไม่รู้ ไม่รู้

สนธิ - ไม่รู้ใช่ไหม เขาเรียก จำได้ไหมพ่อแม่พี่น้อง เวลาเราออกรายการเมืองไทยรายสัปดาห์เนี่ย เราชอบพูดว่า คนคำนวณมิสู้ (((ฟ้าลิขิต))) ฟ้าลิขิต

สโรชา - ถูกต้องค่ะ มีพระราชอาคันตุกะพระองค์หนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย ขออนุญาต หน้าจะเบิกบานเป็นพิเศษ มกุฎราชกุมารภูฏาน

สนธิ - จิกมี

สโรชา - พระองค์ท่าน ขออนุญาต ทรงพระหล่อม้าก ค่ะ เห็นด้วยนะคะ เห็นด้วย

สนธิ - มกุฎราชกุมารจิกมี เคเซอร์ นัมเจล วังชุก พระองค์ท่าน พระบิดาพระองค์ท่าน เป็นตัวอย่างที่ดีของการปกครองภูฏาน พระองค์ท่านเป็นกษัตริย์ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช ที่น่าสนใจ ภูฏานเนี่ย

สโรชา - กรี๊ดกันใหญ่

สนธิ - ภูฏานมีเนื้อที่เท่ากับ 2 เท่าของโคราช มีประชากรประมาณ 8 แสนคน พระองค์ท่านร่างรัฐธรรมนูญใหม่ให้เป็นรัฐธรรมนูญที่ให้กษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญมีการเลือกตั้ง แล้วส่งให้ประชาชนศึกษาเอา ประชาชนไม่อยากแก้รัฐธรรมนูญ ไม่อยากจะเปลี่ยนเพราะว่า ประชาชนบอกว่า ไม่ไว้ใจนักการเมือง

สโรชา - ฉลาด มีความคิด เป็นประเทศที่มีความคิด

สนธิ - ไม่ไว้ใจนักการเมือง ภูฏานเป็นประเทศแรกๆ ในโลกที่เขาไม่ได้วัดความเจริญเติบโตที่จีดีพี หรือ จีเอ็นพี เขาวัดด้วยจีเอชพี คือว่า เขาไม่ได้วัดที่ตัวเลขการเจริญเติบโต เขาวัดที่ความสุขที่ประชาชนเขามี พระมหากษัตริย์ของภูฏาน ภูฏานกำหนดเลยนะปีหนึ่งนักท่องเที่ยวให้เข้าได้ไม่เกินกี่คนเพราะเขาต้องการรักษาสิ่งแวดล้อม

สโรชา - ค่ะ ไม่สนเลยว่านักท่องเที่ยวเหล่านั้นจะเอาเงินมาเท่าไหร่

สนธิ - ไม่สนเลย คือเขาไม่ได้มา ออกมาแล้วเชิญให้ทุกคนมา เพื่อมาถล่มทลายเพื่อเอารายได้เข้าประเทศ แล้วใครที่ไปภูฏาน พ่อแม่พี่น้องต้องรู้นะ ต้องเสียค่าภาษีประเทศเขาวันละ 200 เหรียญสหรัฐ วันละ 8,000 บาท อยู่ 10 วันต้องจ่าย 80,000 เพราะเขาระวังรักษาวัฒนธรรมประเพณี เขาไม่ต้องการให้พวกแบล็คแพ็คที่สะพายเป้แล้วเข้าไป เขาไม่ต้องการ เขาต้องการคุณภาพในประเทศเขา น่าสนใจมากเรื่องนี้ และที่สำคัญคือกว่า เจ้าชายจิกมีฯ จบจากอ๊อกฟอร์ด ที่อังกฤษ จบอินเดียแล้วไปจบอ๊อกซฟอร์ด อายุ 26 เสด็จมาที่ประเทศไทยหลายครั้งแล้ว มาดูอะไรรู้ไหม

สโรชา - ดูอะไรคะ

สนธิ - มาดูเศรษฐกิจพอเพียงของพระเจ้าอยู่หัวฯ (ปรบมือ) มาดู แต่มีไอ้คนบางคนพอฟังพระราชดำรัสเสร็จก็ออกมายกมือท่วมหัวแล้วบอกว่า จะนำเศรษฐกิจพอเพียงของพระเจ้าอยู่หัวฯ ไปใช้ หลังจากนั้นไม่เกิน 7 วัน ไอ้หมอนี่บอกว่า ผมไม่ยอมจนอย่างพอเพียงหรอก จำได้เปล่า คือมันจับโกหกกันได้ตลอดเวลาแล้วมันยังโกหกแล้วโกหกอีก มันนึกว่าพวกเราโง่หรอ อาจจะมีบางส่วนโง่ แต่ว่าพวกเราที่นั่งอยู่ในนี้ไม่มีใครโง่ใช่ไหม (ใช่) ก็เลยจับโกหกไม่ได้ เจ้าชายจิกมีฯ เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดว่า ภูฏาน ขนาดที่เขาระวังรักษาประเทศเขายังมาประเทศไทยเพื่อศึกษาโครงการพระราชดำริ ของเราอยู่ใกล้เกลือกินด่างไม่สนใจ ไม่สนใจอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ขนาดหลายๆ คน พระบารมีของพระองค์ท่าน เห็นหรือยัง กษัตริย์ทั่วโลกมีไม่ได้มาแค่ 3 พระองค์ พระองค์แรกคือกษัตริย์เนปาล ไม่กล้าออกมา ออกมาแล้วกลัวกลับไม่ได้ องค์ที่ 2 คือ กษัตริย์เกาะซามัว องค์ที่ 3 คือ กษัตริย์ซาอุดีอาระเบีย ซาอุดีอาระเบียที่ไม่มาเพราะอะไร เพราะว่าเรา ฝีมือตำรวจ ตำรวจอีกแล้ว ไม่สามารถให้คำตอบเขาได้ในเรื่องการเสียชีวิตของนักการทูตซาอุดีอาระเบีย และนักธุรกิจซาอุดีอาระเบีย ตลอดจนกรณีเพชรซาอุฯ เขาถามมาตั้งไม่รู้กี่ครั้งตอบเขาไม่ได้สักครั้งหนึ่ง เหมือนกับการตายของคุณสมชาย นีละไพจิตร โลกเขาเริ่มถามตำรวจก็ไม่ยอมตอบ มันจะตอบได้อย่างไร เพราะว่ามีตำรวจยศ พล.ต.อ.คนหนึ่งเป็นคนสั่งการ โดยที่ตำรวจยศ พ.ต.ท.คนหนึ่งรับทราบ แล้วตำรวจยศ พ.ต.ท.คนหนึ่งซึ่งเป็นผู้บัญชการภาค เป็นคนลงมือ แล้วมีตำรวจยศ พล.ต.ต.คนหนึ่ง ร่วมมืออยู่ในกระบวนการนี้ แล้วมี พล.ต.ต.อีกคนหนึ่ง ตำรวจทั้งนั้น ประเทศนี้เสียหายเพราะตำรวจมากมายมหาศาล จนกระทั่งไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ มิน่าตอนที่พระเจ้าอยู่หัวฯ เรียก 3 เหล่าทัพเข้าไปเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมถึงไม่เรียกตำรวจเข้าไปเลย

สโรชา - เฉพาะ 3 เหล่าทัพเท่านั้น

สนธิ - แล้ว พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ยังมีน่ามาบอกว่า ราชวงศ์ชมเชยตำรวจ คุณทำไมไม่ถามกษัตริย์ซาอุฯ ว่าเขาชมเชยคุณรึเปล่า หรือตัว พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ น่าจะไปถามคุณอังคณา นีละไพจิต เผื่อคุณอังคณาเขาจะถามว่า ใครเป็นคนให้ไฟเขียวมาอุ้มสามีดิฉันคะ

สโรชา - เดี๋ยวเราจะพักกันสักแป๊บหนึ่งนะคะ

สนธิ - แป๊บหนึ่ง แล้วเดี๋ยวกลับมาช่วงหลังนี่สนุกมาก เชื่อผม

สโรชา - มีทีเด็ด

สนธิ - อย่าเพิ่งไปไหน

สโรชา - แต่ว่าก่อนจะพักเบรคนะคะ เรามี VTR มาฝากกันนะคะ VTR ชื่อว่า "ต้นไม้ของพ่อ" ค่ะ เชิญชมค่ะ

("ต้นไม้ของพ่อ")

สโรชา - อดไม่ได้จริงๆ นะคะ ขอบคุณพี่สำราญและน้องเก๋นะคะ ช่วงที่ 2 อย่างที่เรียนนะคะว่า พลาดไม่ได้จริงๆ เพราะมีเรื่องเด็ด แต่ว่าก่อนหน้านั้นแอ้มขออนุญาตเปิดเรื่องภาคใต้ก่อนดีกว่านะคะ ท่านคงจะได้ยิน

ASTV 1

(((ทักษิณ ออกไป ทักษิณ ออกไป ทักษิณ ออกไป)))

สโรชา - อดไม่ได้จริงๆ นะคะ ขอบคุณพี่สำราญและน้องเก๋นะคะ ช่วงที่ 2 อย่างที่เรียนนะคะว่า พลาดไม่ได้จริงๆ เพราะมีเรื่องเด็ด แต่ว่าก่อนหน้านั้นแอ้มขออนุญาตเปิดเรื่องภาคใต้ก่อนดีกว่านะคะ ท่านคงจะได้ยินข่าวคราวไปทั่วแล้วล่ะ ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 2 วันที่ผ่านมานั้น เกิดระเบิดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวานนี้ 40 กว่าจุด จนกระทั่ง

สนธิ - 50 แล้วฮะ

สโรชา - ค่ะ จนกระทั่งนักข่าวเนี่ยรายงานไม่ตรงกันเลยนะคะ บางสำนักก็บอก 42 บางสำนักบอก 48 บางสำนักบอก 50 กว่า คือจับต้นชนปลายกันแทบจะไม่ถูก วันนี้เกิดเรื่องอีกทั้งวัน จนไม่สามารถ ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าตกลงบาดเจ็บกี่ราย เสียชีวิตไปกี่ราย แต่ที่แน่ๆ เจ้าหน้าที่บาดเจ็บสาหัสหลายต่อหลายรายทีเดียว ระเบิดแม้กระทั่งในร้านส้มตำ จากเดิมที่เคยอยู่ตามหมู่บ้าน ตามชุมชนเล็กๆ ตอนนี้เข้ามาในเมือง ระเบิดร้านส้มตำแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้น กลับแปลกใจพอสมควร เพราะเมื่อวานนี้ท่านนายกฯ ท่านบอกว่า ท่านจะลงไปใต้ ไปดูสถานการณ์ด้วยตัวเอง ยังไม่ทราบกำหนดการว่าจะลงไปเมื่อไร จนกระทั่งในที่สุดแล้วก็บอกว่า มีกำหนดการเดิมที่จะต้องไปที่คาซัคสถาน ไปประชุมที่นั่น เป็นหมายที่กำหนด และไม่ไปไม่ได้ ก็เลยมอบหมายให้ท่านรองฯ ชิดชัย เป็นคนดูแลปัญหาภาคใต้ จนกระทั่งรัฐมนตรีหลายต่อหลายท่านก็มุ่งหน้าไปที่ 3 จังหวัด แต่ท่านนายกฯ ไม่ได้ไป เดินทางไปต่างประเทศ กว่าจะกลับก็พรุ่งนี้ วันที่ 17 มิถุนาฯ ก็ไม่ทราบอีกเหมือนกันว่าจะลงใต้หรือเปล่า

สนธิ - คุณสโรชา จนวันนี้คุณยังไม่รู้จักคนชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อีกเหรอ

สโรชา - ทำไมคะ

สนธิ - เดี๋ยวๆ พรุ่งนี้ผมจะลงไปใต้ ผมจะไปปักหลักภาคใต้สัก 6 เดือน ผมจะไปทำงานทางภาคใต้ เดี๋ยวมะรืนผมจะไป ผมฉุนมากเรื่องนี้ ผมจะต้องปรับยุทธการใหม่ ผมต้องโยกย้าย เดี๋ยวผมต้องลงไป ผมต้องลงไป ผมต้องลงไป ก็ขอให้ลงจริงๆ ก็คือลงไปเลย คือวันนี้เนี่ยนะ เราพูดกันอย่างเต็มปากเต็มคำได้ ว่าปัญหาภาคใต้ที่ลุกลามอย่างนี้เนี่ย เกิดขึ้นจากนโยบายและการกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่ผู้เดียว ถ้าคนๆ นี้ยังเป็นนายกฯ อยู่ต่อไป เราจะต้องสูญเสีย 3 จังหวัดภาคใต้อย่างแน่นอนที่สุดถ้าคนๆ นี้ยังอยู่ ยืนยันได้ คือพ่อแม่พี่น้อง คุณสโรชาต้องเข้าใจนะ เพียงแค่วันเดียวเท่านั้นเองที่พระราชพิธีจบ มีการระเบิดเลย แสดงว่าอะไร แสดงว่าอย่างน้อยที่สุดโจรใต้ยังเกรงพระบารมีของพระองค์ท่าน ใช่ไม่ใช่

สโรชา - ค่ะ ถูกต้อง

สนธิ - แต่พอหมดแล้ว กลับมาถึงนายกฯ รักษาการที่ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เขาก็เลยสั่งสอนให้เห็น เพราะว่าที่เขาทำร้ายก็คือศาลากลางจังหวัดทั้งหมด เพื่อให้เห็นว่า เขาปฏิเสธอำนาจรัฐ อำนาจรัฐคือ รัฐบาลชุด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เขาปฏิเสธหมดเลย ที่พูดไม่ได้หมายความว่าเราจะเห็นด้วยกับโจรใต้ เราต้องสู้กันจนถึงเป็นถึงตาย แต่ถ้าคนๆ นี้ยังอยู่ นโยบายการแก้ปัญหาภาคใต้จะแก้ไม่ได้ ไม่มีทางจะแก้ได้เด็ดขาดเลย

สโรชา - มีรายงานข่าวออกมาบอกว่า เจ้าหน้าที่เองยอมรับว่ามีข่าวกรองที่สังเกตได้

สนธิ - เอาอย่างนี้ดีกว่า คุณสโรชาอย่าพูดอย่างนั้น มีรายงานข่าวมา พ่อแม่พี่น้องจำคำพูดที่อมตะของพวกนี้ได้ไหม ข้อแรก รู้ล่วงหน้าแล้วต้องเกิดขึ้น ข้อที่ 2 มาถูกทางแล้ว ข้อที่ 3 เป็นการดิ้นรนเพื่อแสดงบทบาทของกองกำลังว่ายังมีอยู่ ข้อที่ 4 นี่แสดงว่าพวกเรากดดันได้ผล ยิ่งกดดันเท่าไหร่มันยิ่งวางระเบิดมากเท่านั้น นี่คือได้ผลของเขาไง แล้วทุกครั้งที่เกิดเหตุจะมีคนเสนอหน้าจะลงไปบัญชาการเอง ไปดูพื้นที่เอง แต่ไม่เคยไปซักที กระทั่งครูจูหลิง ที่ยังไม่รู้สึกตัว ตัวยังไม่เคยลงไปดูเลยแม้แต่นิดเดียว นาวิกโยธินที่เสียชีวิต ตัวเองก็ไม่ลงไปเป็นประธานในการเผาศพ ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น แต่จริงๆ แล้วคุณสโรชา พ่อแม่พี่น้องจะไปหรือไม่ไปไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ประเด็นสำคัญ คือ นโยบายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่มีต่อปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นผิดมาตั้งแต่ต้น ผิดอย่างไรเอาสั้นๆ ก็แล้วกัน สมัยก่อนเขามีทหารประจำอยู่ การตัดสินใจของการแก้ไขโจรก่อการร้ายทหารจะเป็นคนตัดสินใจ ทหารไม่ตัดสินใจได้อย่างไรเพราะทหารอยู่ในพื้นที่ เขาต้องสั่งเคลื่อนกำลังไปปะทะ เขาต้องสั่งเคลื่อนกำลังเพื่อไปล้อม เขาสามารถสั่งการได้เลย แต่พอ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้ามา พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ ตำรวจอีกเหมือนกัน ไปเสนอ พ.ต.ท.ทักษิณว่า ควรถอนทหารออกแล้วให้งานที่ทำนั้นให้ตำรวจทำ ทำรวจอีกแล้ว ให้ตำรวจทำ พอตำรวจเข้ามาปั๊บ เขาก็มีกระบวนการที่ขับไล่พวกสายทหาร ก็ไปฆ่าพวกสายทหารเอย บางคนเป็นพวกทหารที่ทำตัวเป็นสายก็ไปใส่ร้ายใส่ความเขาว่าเป็นสายโจร จนกระทั่งจะไปจับเขาเขาต้องหนีเข้าไปอยู่ค่ายทหาร ทหารต้องปกป้องเขาอยู่ ในที่สุดแล้วสายการบังคับบัญชาเรื่องข่าว คือการต่อสู้กับโจรก่อการร้ายข่าวสำคัญมาก

สโรชา - ข่าวกรอง

สนธิ - ทหารเขาฝังตัวมานานแล้ว ปรากฏว่า ฝังตัวเสร็จเรียบร้อยถูกถอนรากถอนโคนออกหมด ก็เอาตำรวจลงไปแทน พอตำรวจลงไป พ่อแม่พี่น้อง อย่าให้พูดนะ คือผมเนี่ยเคารพในตำรวจที่ดีๆ นะ แต่ตำรวจชั่วก็เยอะ พวกตำรวจพวกนี้ รู้ใช่ไหม รู้ฤทธิ์ตำรวจแล้วใช่ไหมว่าเป็นยังไงบ้าง แล้ว 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ทั้งยาเสพติด ทั้งพวกของเถื่อนทุกอย่าง พวกนี้ตำรวจทำทั้งนั้น ก็ปรากฏว่า ตำรวจก็เลยไปสวม เลยไปสร้างกระบวนการขึ้นมา ก็เลยทำให้การวิเคราะห์สถานการณ์ผิดตลอดเวลา แล้วก็มาต่อที่ผู้ว่าฯ ซีอีโอ ต้องพูดเรื่องผู้ว่าฯ ซีอีโอ นิดหนึ่ง ไม่พูดไม่ได้ เพราะว่าผู้ว่าฯ ซีอีโอ ก็ต้องไปที่นายอำเภอซีอีโอ ใช่ไหม ปรากฏว่านายอำเภอซีอีโอคือคนสั่งการ เท่ากับว่าทหารระดับนายพันนั้นต้องขึ้นอยู่กับนายอำเภอซีอีโอ เพราะฉะนั้นนายอำเภอสั่งให้ทหารไปจัดการตรงนั้น ทหารก็ไป สั่งให้ไปจัดการตรงนี้ก็ไป นายอำเภอจะรู้เรื่องอะไร เหมือนกับเอาหมูเนี่ยไปเป็นหัวหน้าราชสีห์ มันได้ยังไงเล่า มันเป็นสถานการณ์การสู้รบ แล้วผู้ว่าฯ ซีอีโอ เนี่ย ที่ตั้งขึ้นมาเนี่ยตั้งขึ้นเพื่ออะไรล่ะ คุณสโรชา ตั้งขึ้นเพื่อให้ ส.ส.พรรคไทยรักไทย คุมผู้ว่าฯ ซีอีโออีกทีหนึ่ง ใช่ ไม่ใช่

สโรชา - ถ้าทำงานไม่ดีก็อาจถูกย้ายได้

สนธิ - ทำงานไม่ดีก็ถูกย้าย คือต้องเอาใจ ส.ส.พรรคไทยรักไทย

สโรชา - ไม่มีผลงาน

สนธิ - เพราะฉะนั้นแล้ว พอคดีของผม กล่าวหาว่าผมหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ถึงสั่งพวกผู้ว่าฯ ซีอีโอ ให้แจ้งความผมทั่วประเทศไง เห็นหรือยัง นี่ไง นี่คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้ไง เพราะฉะนั้นแล้วนโยบายของนาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่มีต่อภาคใต้เนี่ย ผิดมาตลอด แล้วตากใบนี่ ที่เกิดขึ้นเนี่ย เกิดขึ้นเพราะฝีมือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่าไปโทษทหาร ใครที่ดูซีดีตากใบ นั่นฝีมือของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะผู้นำ เขาต้องรับรู้ เขาต้องสั่งการลงไป ถ้าเขาไม่สั่งการลงไปอย่างนี้ พวกนี้จะกล้าทำที่ไหน ฝีมือเขาทั้งนั้น เพราะฉะนั้นแล้วพ่อแม่พี่น้องเชื่อผมเถอะ ขอให้เชื่อเลย ถ้าอยากให้ใต้มีทางแก้ปัญหาได้ แล้วสงบ มีทางสมานฉันท์ได้เนี่ย ต้องเปลี่ยนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่าให้เป็นนายกฯ แล้วต้องไล่ไทยรักไทยออก ถึงจะแก้ได้ (((ทักษิณ ออกไปๆๆ))) เอ้าๆๆๆๆ อยากกันนัก อยากกันนัก ท้ากกก ษิณ (((ออกไป))) ท้ากกก ษิณ (((ออกไป))) ท้ากกก ษิณ (((ออกไป))) ค่อยยังชั่วยัง อ้าว โอเค อ้าว ต่อ

สโรชา - ตั้งใจจะไม่อยู่แล้วเชียว แต่ว่า เอาล่ะ หลายๆ ครั้งที่ผ่านมา เหตุการณ์หลายๆ ครั้ง ซ้ำไปซ้ำมา ซ้ำแล้วซ้ำเล่า มาถึงครั้งนี้ คุณสนธิ ทำไมเขาถึงได้ตัดสินใจไปต่างประเทศ แทนที่จะมา อย่างน้อยที่สุดไม่ลงภาคใต้ อย่างน้อยบัญชาการอยู่ในกรุงเทพฯ ก็ย่อมทำได้

สนธิ - คือ ปักษ์ใต้ถูกวางระเบิด 50 จุดใน 3 จังหวัด ทั้งวางระเบิด ทั้งขว้างระเบิด ทั้งยิงด้วยปืนเอ็ม-79 คนที่เป็นรักษาการนายกฯ ที่อ้าง มาอ้างว่าพระเจ้าอยู่หัวฯ อยากให้กลับมาทำงานอีก แล้วพอมีระเบิด 50 จุดแล้วดันทะลึ่งไปคาซัคสถาน คนๆ นี้เป็นคนประเภทไหน สมควรจะอยู่ไหม

สโรชา - ไปประชุม จริงๆ แล้วเขาบอกว่าเขาไปประชุม ประชุมที่ว่า ชื่อ ชื่ออย่างเป็นทางการก็คือ สุดยอดของการประชุมว่าด้วยการปฏิสัมพันธ์และการแสวงหามาตรการเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจในเอเชีย ครั้งที่ 2 นี่คือที่คุณทักษิณไปประชุม ที่เดินทางไป

สนธิ - สุดยอดของการประชุมว่าด้วยการปฏิสัมพันธ์และการแสวงหามาตรการเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจในเอเชีย ก่อนที่จะไปให้คนเอเชียเขาไว้ใจคนให้พวกเราไว้ใจคุณซะก่อนดีไหม อาจจะเป็นเพราะว่าอยู่ในที่นี้แล้วมีคนไม่ไว้ใจเขาเยอะเหลือเกินก็เลยต้องไปสร้างภาพ สร้างความไว้ใจในเอเชียที่คาซัคสถาน งานประเภทนี้ พ่อแม่พี่น้องผมจะบอกให้ มันไม่ใช่งานที่สำคัญหรอก เขาให้รัฐมนตรีต่างประเทศไปก็พอ รองนายกฯ ไปก็พอ หรือว่าที่ไป เหตุผลที่ไปเพราะว่าคาซัคสถานมันมีน้ำมัน ผมไม่แน่ใจ ผมไม่รู้ว่าคนบางคนอาจจะไปเจรจาหรือไปหาทางติดต่อคาซัคสถานตั้งนอมินีซื้อน้ำมันคาซัคสถานแล้วมาขายให้ปตท. ที่คนบางคนแอบถือหุ้นเป็นเจ้าของอยู่ ใช่ไหม (ใช่) นี่เราพูดถึงคนบางคนนะเราไม่ได้เอ่ยชื่อใครใช่ไม่ใช่ แต่ว่าพวกเราใจถึงใจรู้กันใช่ไหม คือ สมัยก่อนท่านนายกฯ ผมเป็นห่วง สมัยที่ท่านไปประเทศเม็กซิโก มีคนกล่าวหาท่านว่า แอบไปเจรจากับผู้นำเม็กซิโกเรื่องโทรศัพท์มือถือ พอท่านไปเยือนจีน กับข้อสงสัยว่า ไปหาจีนเพื่อให้จีนอย่ามาซื้อหุ้นทีพีไอที่รัฐบาลกับ ปตท.เข้ามา ไปเยือนออสเตรเลียก็เพื่อให้ออสเตรเลียเปิดเสรีในเรื่องดาวเทียมเพื่อให้กิจการดาวเทียมของตัวเองได้ประโยชน์ ไปเยือนรัสเซียก็เจรจาซื้อเครื่องบินรบ โดยมีส่วนต่างของราคาจำนวนมหาศาล ผมไม่เชื่อหรอกว่านายกฯ จะทำอย่างนั้น เพราะผมไม่เชื่อนายกฯ คนนี้จะเลวถึงขนาดนั้น

สโรชา - พูดถึงพฤติกรรมของผู้นำทั่วๆ ไป คุณสนธิกล่าวไว้ตอนช่วงต้นรายการว่า ถ้าเกิดย้อนกลับไปในช่วงอดีต คุณสนธิเป็นนักประวัติศาสตร์รู้ดีเรื่องนี้ ไปค้นไปหาไปเจอพฤติกรรมของผู้นำท่านหนึ่งในอดีต ซึ่งอ่านไล่เรียงมาแล้วพฤติกรรมคล้ายกับคนบางคน

สนธิ - คือมันเป็นอย่างนี้พ่อแม่พี่น้อง ผมว่าคนที่เพี้ยนๆ หรือคนจิตไม่ปกติ อย่างฮิตเลอร์ ฮิตเลอร์ ไปเอาตราสวัสติกะมาจากไหนรู้ไหม มาจากทิเบต เพราะฮิตเลอร์มีความเชื่อว่า ตราสวัสติกะนั้นทางพุทธศาสนาหมุนซ้าย เป็นเครื่องหมายของพลัง เพราะฉะนั้นเราเห็นพระพุทธรูปในทิเบตหลายๆ รูปมีตราสวัสติกะอยู่บนพระนลาฏ นั่นคือเครื่องหมายของพุทธศาสนาซึ่งมีมาเป็นพันๆ ปีแล้ว ฮิตเลอร์เนี่ย ไปค้นอีท่าไหนไม่รู้ เอาลามะจากทิเบตมาค้น จนกระทั่งรู้ว่า ตราสวัสติกะนั้นคือพลัง ฮิตเลอร์ก็เลยเอาตราสวัสติกะหมุนขวาแทน มาเป็นเครื่องหมายสวัสติกะของพรรคนาซี นั่นคือที่มา คนที่จิตไม่ปกติเนี่ย จะต้องแสวงหาเรื่องราวต่างๆ ที่มาเสริมกับสิ่งที่ตัวเองทำ บางครั้งถึงกับขี่ช้าง บางครั้งถึงกับไปทำพิธี คือคล้ายๆ ว่า เออ ถ้าได้ไปอยู่ปราสาทสูงๆ บนยอดเขาแล้วเนี่ย อาจจะตีเสมอเท่ากับพระเจ้าแผ่นดินได้ หรือถ้าไปทำพิธีอะไรที่ไหนสักอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ของพระเจ้าแผ่นดิน หรือคนที่อยู่ชั้นสูงทำ ตัวเองจะได้ถือเคล็ด มีคนบางประเภทเป็นอย่างนั้น เวลาเรา จำได้ไหม เวลาเราไปกราบพระกราบเจ้าเนี่ย เวลาเราไปทำบุญ จำได้ไหม เขาบอกว่าให้หล่อพระ เขาก็จะมีใบเงิน ใบนาก ใบทอง ใช่ไหมฮะ แล้วเราก็เขียนชื่อเรา เขียนชื่อใส่นามสกุลไป อ่ะ เขียนชื่อนายสนธิ ลิ้มทองกุล อายุเท่านี้ นะ ขอให้เกิดชาติหน้า ขอให้มั่งมีศรีสุข อ่ะ ใส่เข้าไป เสร็จเรียบร้อยแล้วตอนเททองเนี่ย บางคนก็มีความรู้สึกอยากได้บุญอยากได้กุศล ถอดสร้อยคอทองคำออก ถอดพระออก หยอดลงไปในที่เททอง เพื่อจะได้มีส่วนหนึ่งของการทำบุญทำกุศล แต่นั่นคือเรื่องบุญเรื่องกุศล แต่ที่มาของการเขียนชื่อแล้วก็หล่อพระ บางคนเขียนชื่อพร้อมดวง แล้วไว้ใต้ฐานพระ เพื่อที่จะให้พระเนี่ยมาส่งเสริมให้ตัวเองเจริญ แต่ตัวเองก็ทำ เอี้ยๆ ตลอดเวลา แต่ก็อยากจะให้พระทำให้เจริญ เหมือนกับนายแคล้ว นรปติ เอ๊ยไม่ใช่ นายแคล้ว นายแคล้ว นักเลงเก่า แคล้วนี่นะ ผมจะบอกให้รู้ ห้อยพระสมเด็จ องค์ละเกือบสิบล้าน แต่ไม่ได้อยู่ในศีล ไม่ได้อยู่ในธรรม ก็เลยโดนยิงตายอยู่ในรถ เพราะฉะนั้นแล้วเนี่ย การซึ่งเราจะมีพระบูชาที่มูลค่าเป็นสิบๆ ล้านอยู่ในบ้าน แต่เราไม่มีจริยธรรม เราไม่มีสัมมาทิฏฐิ เรามีแต่ความชั่ว เราไม่ละอายในชั่วกลัวในบาป ต่อให้พระราคาร้อยล้านก็ปกป้องเราไม่ได้ บางคนบ้าถึงขนาดไปทุบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านเขาบูชา จ้างคนไปทุบนะ จ้างคนไปทุบ แล้วก็สร้างขึ้นมาใหม่ แล้วก็เอาดวงตัวเองเนี่ยใส่ไว้หน้าอก แล้วก็กำหนดวันที่ทุบ วันที่สร้างดวง วันที่สร้างเสร็จ วางเสร็จวันนี้ วันรุ่งขึ้นก็เข้าไปทำงาน ใครก็ไม่รู้ ที่ทำงานที่ไหนก็ไม่รู้ แต่นี่กำลังพูดถึงความเชื่อไง ผมก็เลยมีความรู้สึกว่า เฮ้ย ไม่ได้แล้วเว้ย ชีวิตคนเราเนี่ย เรื่องของไสยศาสตร์ เรื่องความเชื่อ เรื่องการเลียนแบบเนี่ย มันเป็นไปได้ บางคนเนี่ยนะ โตขึ้นมา อ่านหนังสือประวัติศาสตร์ โตขึ้นผมอยากจะเป็นแบบเหมา เจ๋อ ตุง โตขึ้นผมอยากจะเป็นอับราฮัม ลินคอล์น แต่ไอ้ผมมันมักน้อย ผมบอกวันนี้ โตขึ้นอยากจะเป็นชาวบ้านบางระจันพอแล้ว อย่างอื่นไม่อยากเป็น ผมก็เลยไปค้น คือผมนี่จบประวัติศาสตร์ ปริญญาตรีและปริญญาโท นะฮะ ปริญญาโทนี่ผมเขียนวิทยานิพนธ์ทางประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับประเทศจีน แต่ว่าเป็นประเทศจีนร่วมสมัย ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Contemporary History Chinese History ทีนี้คนที่เรียนประวัติศาสตร์ตอนปริญญาตรีเนี่ย ต้องเรียนประวัติศาสตร์โลก แล้วก็ประวัติศาสตร์อเมริกา เพราะผมเรียนจบปริญญาตรีที่สหรัฐอเมริกา ก็ค่อนข้างจะพูดภาษาอังกฤษรู้เรื่องมากกว่าคนบางคน

สโรชา - กำลังจะแซวเรื่องนี้อยู่พอดีเลย

สนธิ - แต่ว่า แต่ว่า ก็ไม่ชอบพูดไทยคำภาษาอังกฤษคำเหมือนคนบางคน ผมก็เลยสงสัย ผมก็เลยไปค้นประวัติศาสตร์ คือผมค้น คือผมเป็นคนชอบอ่านประวัติศาสตร์ผู้นำมาตลอด ผมมาเจอคนๆ หนึ่ง ผมจะเล่า วันนี้ผมจะเล่าประวัติศาสตร์ของผู้นำคนหนึ่ง ชื่อ นโปเลียน นโปเลียน โบนาปาร์ต นโปเลียน โบนาปาร์ต ผมอ่านประวัติเขา คือผมไม่ได้อ่านประวัติศาสตร์แบบหนังสือที่นักประวัติศาสตร์ทั่วๆ ไปเขียน ผมอ่านนักวิเคราะห์ประวัติศาสตร์เขาเขียน ผมใช้เวลาอ่านเยอะเลย แล้วผมทำโน้ตออกมาเพื่อมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและความรู้ให้พ่อแม่พี่น้องที่นี่ คุ้มไม่คุ้มมาที่นี่ (คุ้ม) เดี๋ยวก่อนลืม พวกเราทำหนังสือภาพเฉลิมพระเกียรติในพระราชพิธีหมดเลย รวมทั้งพลุ รวมทั้ง อีกไม่เกิน 10 วันออกวางขายแล้ว แต่ว่าเราจะหักค่าใช้จ่ายแล้วเงินที่ได้ทั้งหมดเราจะถวายให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ หมดเลย หนังสือเล่มนี้ให้เก็บเอาไว้เป็นที่ระลึก และทุกคนที่ซื้อไปเท่ากับได้ร่วมพระราชกุศลกับองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ขายได้แสนเล่ม หักค่าใช้จ่ายแล้ว เล่มละ 40 บาท ได้ก็เป็น 4 ล้านบาท ถวายให้ เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้ามีเล่มไหนออกตอนนี้อย่าเพิ่งไปซื้อ เพราะว่าเล่มนี้ไม่หวังกำไรเลยแม้แต่นิดเดียว ลักษณะ ฟังให้ดีๆ พ่อแม่พี่น้อง คุณแอ้ม ลักษณะของนโปเลียนเป็นอย่างนี้ ลักษณะนะ ลักษณะเขานะ 1. ขาดสติปัญญา โง่เขลา 2.เป็นผู้บงการทหารอย่างผิดพลาด 3.เป็นทรราชที่หลงใหลในภาพลวงตาอย่างไม่รู้ประสีประสา 4. เป็นคนที่ขี้ฉ้อคอร์รัปชั่น 5. เป็นคนขี้ขลาดที่โยนความผิดให้คนอื่น 6. เป็นคนจิตใจไม่มั่นคงที่ไม่สามารถหาข้อสรุปในเรื่องต่างๆ ได้ และไม่สามารถรักษาคำพูดของตัวเองได้ 7. เป็นนักหลอกลวงตัวฉกรรจ์ที่ทั้งขี้โกหกและขี้โกง 8. เป็นฆาตกรเลือดเย็น คือนโปเลียน โบนาปาด พ่อแม่พี่น้อง เขาน่าประหลาดใจ เขาเกิดปีฉลู ราศีสิงห์ นี่เรื่องจริง ลองไปดูซิ คนบางคนเกิดปีฉลูและราศีสิงห์เหมือนกัน นี่เรื่องจริง ผมงง ผมตลกมากเลย ให้ตายไม่ได้พูดเล่นเลย มันเป๊ะจริงๆ เลย เขาเล่นการเมือง นโปเลียนเล่นการเมืองเหมือนเล่นหมากรุก หรือเล่นไพ่โป๊กเกอร์ ไม่มีใครรู้ว่านโปเลียนคิดอะไร มีแผนงานอะไร จะทำอะไร นอกจากตัวเขาเองคนเดียว เขารู้อยู่คนเดียว เขาแยกตัวออกไปวางแผนว่าตัวเองจะทำอะไรใช้กลยุทธ์อะไร ไม่เคยฟังความคิดเห็นของคนอื่นเลยแม้แต่น้อย เขาสามารถชนะศึกสงครามหลายต่อหลายครั้งได้เพราะเขามีความสามารถในการทำให้ศัตรูเข้าใจผิด ศัตรูฟังคำโกหกหลอกลวงของนโปเลียนแล้วหลงกลเข้าใจถึงเป้าหมาย แผนการและสิ่งที่เขาจะทำไปอย่างผิดๆ นโปเลียนทำให้ศัตรูสับสน ประหลาดใจในสิ่งที่เขาทำ ในการรบเขาจู่โจมรวดเร็วโดยศัตรูไม่ทันตั้งตัว เขาเลือกเดินในทิศทางตรงกันข้ามกับที่ศัตรูคาดหมายเอาไว้ เช่น เราคาดหมายว่า คนบางคนจะลาออกแต่ไม่ลาออก เราคาดหมายว่าคนบางคนไม่สู้แต่จะสู้ เขาใช้งบประมาณมากมาย และมีกำลังทหารมากกว่าฝ่ายศัตรู เหมือนคนบางคนใช้งบประมาณในทางที่ผิดๆ แล้วไปสร้างกลุ่มกองกำลังของตัวเองขึ้นมา เขาพัวพันในเรื่องสืบราชการลับ และนโปเลียนซื้อตัวข้าราชการกังฉิน พวกที่ยอมทรยศขายชาติขายแผ่นดิน เขาใช้สงครามจิตวิทยา เขาใช้การโฆษณาชวนเชื่อได้อย่างดีและแนบเนียนที่สุด อาจจะดูเหมือนเขาชนะสงครามแต่ความจริงแล้วเขาแพ้ ประชาชน นายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่ไม่ได้อยู่ร่วมในศึกสงครามต่างพากันหลงกล หลงเชื่อเขา ส่วนคนที่เหลือก็ปิดปากเงียบ หมายความว่าอย่างไร นโปเลียนตอนนั้นต้องการจะครองยุโรปก็บุกเข้าไปตีประเทศต่างๆ เขาโฆษณาชวนเชื่อว่าเขาชนะ เขาชนะ เขาชนะ แต่จริงๆ แล้วเขากำลังแพ้ เหมือนกับคนบางคนบอกว่า กำลังไปได้ดี ทุกอย่างดี แต่ว่าคนจนลง จนลง จนลง เหมือนกันเป๊ะเลยนะ บุคลิกภาพนโปเลียน 1. ขี้ขลาด ชอบโยนความผิดให้คนอื่น 2. มีชีวิตและการทำงานด้วยความหวาดระแวงว่าจะถูกเก็บ ก็เลยรายล้อมรอบตัวเองด้วยบอดี้การ์ดเต็มไปหมดเลย นโปเลียนนะ กลัวถูกวิพากษ์วิจารณ์ และกลัวการชุมนุมเรียกร้อง จริงๆ เพราะว่าในฝรั่งเศสตอนนั้นมีประชาชนชุมนุมเรียกร้องถึงความยากลำบาก เขาออกมายืนปากกล้าขาสั่นพูดต่อหน้าที่ชุมนุมแล้วเดินหนี้ไปเลย นี่คือนโปเลียน เป็นนักอ่าน ชอบอ่านหนังสือ

สโรชา - ชอบแนะนำหนังสือ

สนธิ - แล้วก็ อ่านซิเล่มนี้ อ่านซิเล่มนี้ ตลกมาก นโปเลียนชอบเข้าร้านกาแฟ

สโรชา - หา

สนธิ - ที่ฝรั่งเศสใครเคยไปฝรั่งเศสจะรู้ว่ามันมีเขาเรียกว่า Side walk cafe ไง ร้านกาแฟที่อยู่ริมทางเดินเนี่ย วิวัฒนาการมาจากสมัยโบราณทั้งสิ้นเลย ชอบเข้าร้านกาแฟ ชอบไปโรงละคร โรงละครสมัยก่อนที่ฝรั่งเศสยังไม่มีโรงหนัง เขาจะมีโรงละคร

สโรชา - ชอบดูคอนเสิร์ต

สนธิ - ชอบดูคอนเสิร์ต โรงละครแบบนั้น ทำงานมากเป็นเท่าตัว และนอนหลับพักผ่อนในตอนกลางคืนเพียงไม่กี่ชั่วโมง

สโรชา - ใต้ตาเลยไม่สวย

สนธิ - เป็นที่คลั่งไคล้ของประชาชน โอ้ ไปที่ไหนมีประชาชนออกมาต้อนรับ มีความจำเป็นเลิศ สามารถจำชื่อคนทุกคนที่เคยพบมาก่อนได้ทุกคน เป็นคนขี้แพ้ชวนตี เพราะเมื่อแพ้แล้วต้องแก้แค้นเอาคืนให้ได้ ดื้อรั้นไม่ยอมเลิกราง่ายๆ ไม่ฟังคำแนะนำจากใครทั้งสิ้น ควบคุมทุกคน และควบคุมทุกอย่าง นี่นโปเลียน ใช้คน 2 คน ทำงานอย่างเดียวกัน เพื่อให้ต่างคุมเชิงกันและกัน เป็นการช่วยเขาควบคุมคนทั้งคู่ ไม่เคยไว้ใจใคร หักหลังคนทุกคน โกหกหลอกลวงให้คนคิดว่า ถ้าไม่มีเขาแล้วจะมีชีวิตอยู่กันไม่ได้ ไม่เคยรักษาสัญญาและคำพูด ปล้นและฆ่าอย่างไร้ความปรานี ใช้ความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้หญิงจำนวนมากเพื่อปลดปล่อยความตึงเครียด ความกดดันและความกลัวของตัวเอง เกิดมาเป็นนักปฏิรูป ชอบบูรณาการเรื่องใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบการทหาร ซื้อทุกคนที่ซื้อได้เพื่อจะปิดปากคนเหล่านั้น เพราะเขาจะได้ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการได้ทุกอย่าง นโปเลียนหาเงินได้จากไหน น่าสนใจมาก 1. เก็งกำไร 2. ซื้อขายหุ้น 3. นโปเลียนหาเงินได้จากการขายสมบัติชาติ 4. ขายความลับของชาติ 5. ซื้อขายพันธบัตรรัฐบาล 6. เก็บภาษียาสูบและแอลกอฮอล์สูงๆ 7. กักตุนสินค้าเพื่อเก็งกำไร 8. ปล้นโบสถ์ เอาทั้งที่ดินและเงินจากโบสถ์ 9. ปล้นสะดมท่ามกลางศึกสงคราม ทั้งเงินทอง เพชรพลอย ศิลปวัตถุ 10. ชอบซื้อขายที่ดินแปลงใหญ่ 11. เปิดบัญชีพิเศษขึ้นมา 1 บัญชี เพื่อใช้ฝากเงินผิดกฎหมายของตัวเอง เงินหวยใต้ดิน อย่างเนี้ย 12. ซื้อและใช้คนที่ต้องพึ่งพิงอำนาจและยอมรับใช้เป็นข้าทาสบริวารของตน 13. ถ้าเอาชนะศัตรูไม่ได้แล้ว นโปเลียนจะเลือกทางสมานฉันท์ เดือนที่นโปเลียนโปรดปรานเป็นพิเศษคือ มีนาคม สิงหาคม และตุลาคม เขามีวิธียุยงสร้างความแตกแยกครั้งแล้วครั้งเล่า ดูถูกดูแคลนและทำลายศัตรูเขาในที่สุด เขาขาดความเมตตาต่อฝ่ายตรงกันข้าม เขาคิดว่าเขาคือพระเจ้า เขาคิดว่าตัวเองมีอำนาจเหนือกษัตริย์ และสมเด็จพระสันตะปาปา นี่คือนโปเลียน นะฮะ เขาไม่เคยศรัทธาในสิ่งไหนเลย ไม่มีศาสนา เมื่อพระสันตะปาปาอยู่ที่กรุงโรม ไม่ยอมทำตามที่เขาต้องการ เขาย้ายพระสันตะปาปาจากโรมมาที่กรุงปารีส แล้วเขาพยายามจะตั้งพระสันตะปาปาของเขาเองขึ้นมา นี่คือนโปเลียน นโปเลียนทำสงครามกับพระมหากษัตริย์ ทำให้พระองค์ท่านต้องอพยพลี้ภัยไปอยู่เมืองเล็กๆ ไม่มีอำนาจใดๆ นอกจากองค์พระปรมาภิไธย เขาเป็นหนึ่งเดียวเท่านั้นที่ปกครองบ้านเมืองนี้ เขากำหนดให้ประชาชนเลือก ระหว่างระบอบกษัตริย์ กับการปกครองแบบสาธารณรัฐ เขาสามารถเอาชนะการเลือกตั้งด้วยการซื้อเสียง นโปเลียนซื้อเสียงนะ และกลายเป็นประธานาธิบดีในระบบการปกครองแบบประธานาธิบดีไปตราบเท่านาน เขาใช้เงินซื้อเกษตรกรและคนว่างงานให้มาเป็นไพร่พลของตัวเอง นโปเลียน นี่คือเรื่องนโปเลียน เกษตรกรและคนว่างงานพวกนี้จะเป็นผู้สนับสนุนชั้นเยี่ยมของเขา ผลักดันให้เขาสามารถอยู่ในอำนาจได้เพราะเขาเป็นวีรบุรุษของคนพวกนี้ นี่เรื่องจริงตลกมาก นโปเลียนประชาสัมพันธ์โครงการเลี้ยงโคให้เกษตรกร ประวัติศาสตร์เป็นร้อยๆ ปี มันช่างน่าประหลาดใจ มหัศจรรย์มาก เดี๋ยวก่อนพ่อแม่พี่น้อง

สโรชา - มีอีก มีอีก

สนธิ - นโปเลียนเปิดศึกกับสื่อมวลชน นักวิชาการ นักเขียน นักหนังสือพิมพ์ที่วิพากษ์วิจารณ์เขา ด้วยจับเขาเข้าคุก ทำให้พวกเขาล้มละลาย นี่คือนโปเลียน ฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามนโปเลียนคือ สื่อ นักวิชาการ นักเขียน ผู้ที่มีความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ ราชวงศ์ ตลกมาก ตลกจริงๆ ในสมัยเป็นสาธารณรัฐ นโปเลียนแต่งตั้ง ส.ส. 500 คน และ ส.ว.200 คนเหมือนกัน แล้วต้องใช้เงินก้อนมหาศาลเพื่อหุบปากคนพวกนี้ เขาเอาใจนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ให้ตำแหน่ง เสนอเงิน ให้ที่ดิน พร้อมทั้งหาสาวๆ มาปรนเปรอ พวกนี้ต่างพากันโกงกินผ่านการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ผ่านกองทัพฝรั่งเศส ปิดปากเงียบ ยุคนโปเลียนโสเภณีเกลื่อนเมือง หากข้าราชการหรือผู้พิพากษาคนไหนไม่ทำตามคำสั่งจะถูกนโปเลียนย้าย เขาเอาใจผู้พิพากษาเสนอเงินให้พร้อทั้งขึ้นเงินเดือนให้ในอัตราที่สูงมาก พวกนี้จึงปิดปากเงียบ ปิดตามิดชิด เขาเป็นผู้บงการ เป็นคนออกคำสั่งโดยไม่ฟังใครทั้งสิ้น ถ้าเขาไม่เข้าใจทางเทคนิคเรื่องใดเรื่องหนึ่งเขาจะเรียกมืออาชีพเข้ามาพบอธิบายให้เขาฟังตั้งแต่เช้าจรดเย็น แล้วเขาก็ตัดสินใจทุกอย่างตามลำพัง แผนงานโฆษณาชวนเชื่อเขาทำได้สมบูรณ์แบบและแนบเนียนมาก นโปเลียนทำใบปลิวออกมาแจกไป อ้างว่า เขาเป็นรัฐบุรุษ เขาเป็นผู้กอบกู้ประเทศชาตินะ ผมเอาให้ชาติพ้นความล้มละลายนะ เขาเป็นผู้ปฏิรูปทางการทหาร เขาเป็นฝ่ายเดียวกับเกษตรกรและคนว่างงาน เขาเป็นวีรบุรุษ เขาเป็นผู้จัดระเบียบโดยเฉพาะทางการทหารและทางการเงิน นโปเลียนลงจากอำนาจในครั้งแรกหลังจากที่มีคนมาเปิดโปงนโปเลียนถึงความชั่วร้ายของนโปเลียนทำ คนๆ นั้น คือนโปเลียนต้องการทุกอย่าง รู้ทุกอย่าง สามารถทำได้ทุกอย่าง บงการได้ทุกอย่าง และซื้อได้ทุกอย่าง เขาเรียกร้องให้ทุกคนจงรักภักดี นโปเลียนเป็นคนที่ป่วยทั้งทางกายและทางจิต นโปเลียนเป็นคนตัวเตี้ยมาก เป็นคนมีปมด้อย เขามีปัญหาจากคู่ต่อต้าน เวลานโปเลียนตกที่นั่งลำบากเขาจะบีบน้ำตา ใช้วาจาหว่านล้อมเป็นอาวุธ นี่เรื่องจริง เรื่องจริงๆ จากประวัติศาสตร์พ่อแม่พี่น้อง ในก้าวแรกที่เขาต้องลงจากหน้าที่ ตำแหน่ง เพราะว่าเขาถูกเปิดโปงแล้วประชาชนขับไล่เขา คนที่ขับไล่เขาชื่อ นายชาโต บริยอง นายชาโต บริยอง คนนี้ พร้อมหรือยัง เป็นนักหนังสือพิมพ์ และเป็นเจ้าของโรงพิมพ์

สโรชา - ต้องถามต่อว่านักหนังสือพิมพ์ที่ว่าหน้ากลมๆ ใส่แว่นกรอบดำหรือเปล่า

สนธิ - สมัยนั้นไม่มีแว่น นโปเลียนจับนายชาโต บรียอง เข้าคุก นายชาโต บริยอง เขียนหนังสือในคุกออกไปแล้วปิดโรงพิมพ์นายชาโต บริยอง เสร็จเรียบร้อยแล้วหนังสือที่นายชาโต บริยอง เขียนถูกกระจายไปตามสังคมในปารีสจนกระทั่งประชาชนลุกฮือ คือทั้งหมดเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มาก ตลกมาก มันเหมือนประวัติศาสตร์กลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง วันที่นโปเลียนลงจากตำแหน่ง เขาพูดอำลาพร้อมน้ำตาไหลพรากกับนายทหารของเขา เขาบอกว่า ทุกอย่างที่เขาทำไปเขาทำไปเพื่อฝรั่งเศส นายทหารของเขารู้สึกประทับใจ ร้องไห้เสียน้ำตาไปกับเขาด้วย ตามประวัติไม่ได้บอกว่า มีคนวิ่งไปกอดเอวด้วยหรือเปล่า

สโรชา - ตามประวัติศาสตร์ไม่ได้เล่าว่ามีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจหรือเปล่า

สนธิ - ตามประวัติศาสตร์สมัยนั้นไม่มี 3 5 7 9 11 ไอทีวี ช่วงลงของนโปเลียนมี 2 ช่วง ช่วงแรกที่เขาก้าวลงจากอำนาจเพราะโดนไล่ เขามอบตัวกับกองทัพเพราะกองทัพปกป้องเขาได้ เนื่องจากว่าเขาซื้อนายพลไว้หมด กองทัพเลยส่งไปอยู่ที่เกาะจีบ้า ประเทศอิตาลี นโปเลียนอยู่ด้วยเงินบำนาญ ต้อนนั้นนโปเลียนต้องการจะยึดยุโรปหมด เริ่มมีสงครามและพ่ายแพ้ นโปเลียนแพ้สงครามที่วอเตอร์รู(***) กับอังกฤษ นโปเลียนอยู่ 1 ปีในคุก อยู่ 1 ปีนะ เหมือนคนบางคนที่เว้นวรรค แล้วจู่ๆ หลัง 1 ปี นโปเลียนบอกนายพลเขาว่าเขาต้องกลับมาแล้วเพราะประชาชนต้องการเขา นี่ ตลกมาก ตลกจริงๆ เกษตรกร ไพร่พลนะ เขาบอก เกษตรกร ไพร่พลทั้งหลายต้องการเขา ต้องการให้เขากลับเข้ามาสู่อำนาจอีก เขาก็เลยออกจากหมู่เกาะจีบา รวบรวมไพร่พลเกษตรกรของเขาและกลับมามีอำนาจอีกครั้งหนึ่ง แต่ตอนที่เขากลับมามีอำนาจนั้น ฝรั่งเศสกำลังประจันหน้ากับอังกฤษ เยอรมัน และออสเตรีย ทั้ง 3 ประเทศนี้ รวมพลแล้วก็บีบบังคับให้นโปเลียนลงจากอำนาจอีกครั้งหนึ่ง และจองจำเขาโดยส่งไปอยู่ที่เกาะเซนต์เฮเลนา นโปเลียนก็เลยใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายอยู่ที่เกาะเซนต์เฮเลนา ถูกวางยาพิษตาย นะฮะ นอนตายบนกองเยี่ยวและกองขี้ของตัวเอง นี่ พ่อแม่พี่น้อง มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์จริงๆ คือผมอ่านแล้วผมอึ้ง ผมอ่านแล้วผมอึ้ง ผมอึ้งว่ามันช่างเหมือนอะไรเช่นนี้ นโปเลียนนี่นะ เป็นคนที่ทำลายตัวเองเพราะ หนึ่ง แพ้สงคราม สอง สูญเสียเงินทอง เสียชื่อเสียง ไม่สามารถทำให้ประชาชนของตนเชื่อใจได้ นโปเลียนสูญเสียภรรยา 2 คน ให้นายทหารชั้นผู้ใหญ่ของตัวเอง ทุกอย่างเริ่มจากราคาสินค้าถีบตัวสูงขึ้นอย่างมาก และเกิดการภาวะการว่างงานอย่างหนัก ประชาชนไม่ไว้วางใจการทำงานของเขา เห็นได้จากวิถีชีวิตของพวกเขาไม่ดีขึ้น ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการให้กษัตริย์กลับคืนมา นี่คือประชาชนฝรั่งเศสในยุคนั้น กองทัพเบื่อหน่ายต่อเหล่าทรราชและจอมบงการ คลังฝรั่งเศสไม่มีอะไรเหลืออยู่แล้ว ไม่มีเลย ยุคนั้นโชคร้าย ฝรั่งเศสไม่มีหวยบนดิน การแพ้สงครามทำให้ฝรั่งเศสเป็นหนี้อย่างมหาศาล ในที่สุดสื่อได้รับอิสรภาพอีกครั้ง พวกเขาก็โจมตีนโปเลียนทุกวัน หัวหน้าตำรวจฝรั่งเศสหักหลังนโปเลียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศหักหลังนโปเลียน เหล่านายทหารหยุดให้การสนับสนุนเขา โบสถ์พระสันตะปาปาเป็นผู้ชนะในสงคราม ภรรยา 2 คน ทรยศเขาด้วยการเป็นชู้กับนายทหารของเขาเอง เหล่าเกษตรกรผู้ว่างงานเรียกร้องให้พระมหากษัตริย์กลับมาอีกครั้ง กลุ่มผู้จงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์และเหล่าราชวงศ์สามารถเดินทางกลับฝรั่งเศสได้ หลังจากนั้น นโปเลียนลงจากอำนาจแล้ว ฝรั่งเศสก็มีรัฐบาลรักษาการที่ประกอบด้วยฝ่ายจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ และฝ่ายที่สนับสนุนการปกครองในระบอบสาธารณรัฐ รัฐบาลรักษาการนี้ได้ทำการสะสางปัญหาต่างๆ นี่ พ่อแม่พี่น้อง นี่เป็นเรื่องของนโปเลียน โบนาปาร์ต และเป็นเรื่องของชาโต บริยอง ไม่ใช่เป็นเรื่องของทักษิณ ชินวัตร และสนธิ ลิ้มทองกุล

สโรชา - ไม่ใช่นะคะ

สนธิ - ไม่ใช่ แต่เล่าให้ฟัง ผมอ่านไป ผมงงเป็นไก่ตาแตก ไม่ได้กิน ไม่ได้นอน นึกไม่ถึง

สโรชา - ตกอกตกใจ

สนธิ - ผมเป็นนักประวัติศาสตร์ ขออนุญาตใช้ภาษาอังกฤษนิดหนึ่ง นักประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกคนหนึ่ง ชื่อนายจอร์จ ซานตาญานา นายจอร์จ ซานตาญานา พูดว่า ใครที่ไม่สามารถจำประวัติศาสตร์ได้ จดจำประวัติศาสตร์ไม่ได้จะต้องถูกประวัติศาสตร์กลับมาซ้ำเติม ในบางครั้ง ผมเชื่อในเรื่องของการเกิดใหม่ บางครั้งผมก็อดคิดไปไมได้ว่า ไอ้นี่มันเป็นวิญญาณนโปเลียนเกิดใหม่หรือเปล่านะ พ่อแม่พี่น้องครับ วันนี้เราสนุกสนานกัน

สโรชา - สนุกสนาน เฮฮามาก สัปดาห์หน้า ศุกร์หน้า

สนธิ - สัปดาห์หน้า วันศุกร์ ที่นี่นะ

สโรชา - ที่เดิม

สนธิ - เหมือนเดิม

สโรชา - เวลาเดิม ที่เก่าเวลาเดิม

สนธิ - ใครที่อยากกลับไปดูฮอลแลนด์ ยังดูทันอยู่

สโรชา - ยังทันค่ะ ยังทัน

สนธิ - กราบสวัสดีพ่อแม่พี่น้องที่ดู ASTV อยู่ทั่วประเทศ ที่สหรัฐอเมริกา แล้วกราบสวัสดี ขอบคุณพ่อแม่พี่น้อง แฟนพันธุ์แท้ที่นี่นะครับ

สโรชา - อย่าลืมนะคะ เรา

สนธิ - เดินทางโดยสวัสดิภาพ ขอบคุณมากครับสวัสดีครับ วันนี้เรามาบรรเลงเพลง มาร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีกันครับ






กำลังโหลดความคิดเห็น