xs
xsm
sm
md
lg

ชื่นชมพระสิริโฉม 2 พระราชอาคันตุกะวัยเยาว์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ในจำนวนพระราชอาคันตุกะจากทั้ง 25 ประเทศ ที่เสด็จฯ มาร่วมงานเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ 60ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ระหว่างวันที่ 12-13 มิถุนายน พ.ศ.2549 นั้น มีพระราชวงศ์ 2 พระองค์ที่ทรงพระชันษาน้อยที่สุด คือ “เจ้าหญิงลัลลา ซัลมา เบนนานี” พระมเหสีในสมเด็จพระราชาธิบดีโมฮัมเมดที่ 6 แห่งโมร็อกโก เสด็จฯแทนพระองค์สมเด็จพระราชาธิบดีโมฮัมเมดที่ 6 แห่งโมร็อกโก และ “มกุฎราชกุมารจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน” ซึ่งทรงเสด็จฯ แทนพระองค์สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก

“เจ้าหญิงลัลลา ซัลมา เบนนานี” พระชายาในสมเด็จพระราชาธิบดีโมฮัมเมดที่ 6 แห่งราชอาณาจักรโมร็อกโก ทรงมีพระชนมายุ 27 ชันษา มีพระนามเดิมว่า นางสาว ซัลมา เบนนานี ทรงเป็นธิดาของนายเอลฮัจ อับเดลฮามิด เบนนานี ทรงได้รับการสถาปนาพระอิสริยยศเป็นเจ้าหญิงลัลลา ซัลมา เมื่อปี 2546

เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ.2521 ที่เมืองเฟส ราชอาณาจักรโมร็อกโก ปัจจุบันมีพระชนมายุ 28 พรรษา ทรงอภิเษกสมรสเมื่อปี 2546 กับสมเด็จพระราชาธิบดีโมฮัมเหม็ดที่ 6 แห่งราชอาณาจักรโมร็อกโก มีพระราชโอรส 1 พระองค์ ทรงสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมศาสตร์ (คอมพิวเตอร์) เมื่อปี 2543 โดยทรงได้รับคะแนนสูงสุดในบรรดาผู้ที่สำเร็จการศึกษาในปีนั้น

เจ้าหญิงลัลลา ทรงเป็นพระชายาในสมเด็จพระราชาธิบดีพระองค์แรกในประวัติศาสตร์โมร็อกโก ที่ได้รับพระราชทานพระอิสริยยศ และทรงมีสิทธิ์ประกอบพระราชกรณียกิจต่างๆอย่างเป็นทางการ เมื่อกลางปี พ.ศ.2548 เจ้าหญิงลัลลา ทรงเคยเสด็จฯ เยือนประเทศไทยเป็นการส่วนพระองค์ โดยได้ทรงเรือหางยาวล่องแม่น้ำเจ้าพระยา

นอกเหนือจากพระชันษาที่ยังเยาว์อยู่นั้น เจ้าหญิงลัลลายังทรงเป็นเจ้าหญิงที่มีพระสิริโฉมงดงามเหมือนเจ้าหญิงในเทพนิยาย รวมทั้งยังทรงมีพระปรีชาสามารถ เสด็จฯประกอบพระราชกรณียกิจแบ่งเบาพระราชภาระของสมเด็จพระราชาธิบดีโมฮัมเหม็ดที่ 6 ได้เป็นอย่างมาก ทำให้เป็นที่ประทับใจแก่ผู้ที่ได้พบเห็นโดยทั่วไป






“มกุฎราชกุมารจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน” พระชนมายุ 26 ชันษา ทรงเป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก และสมเด็จพระราชินีอาชิ เธอริง ยังดอง วังชุก ทรงเสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2523 ปัจจุบันยังไม่ทรงอภิเษกสมรส

ทรงสำเร็จการศึกษาหลักสูตรการอบรมด้านการทูต ด้านรัฐศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จากมหาวิทยาลัย Oxford สหราชอาณาจักร และทรงสำเร็จหลักสูตรการป้องกันประเทศ จาก National Defence College สาธารณรัฐอินเดีย และหลักสูตร Innovations in Governance จากมหาวิทยาลัยสหรัฐอเมริกา เมื่อปีพุทธศักราช 2548

มกุฎราชกุมารจิกมี ทรงเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนภูฏานในการเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ และการประชุมองค์การสหประชาชาติ สมัยพิเศษว่าด้วยเรื่องเด็ก ใน พ.ศ.2545

ทรงเคยเสด็จฯ เยือนประเทศไทยเป็นการส่วนพระองค์หลายครั้ง โดยเมื่อครั้งวันที่ 14-22 มีนาคม พ.ศ.2546 ได้เสด็จฯทอดพระเนตรโครงการหลวงที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานพระราชวโรกาสให้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ที่พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

ด้วยความที่ มกุฎราชกุมารจิกมีทรงเป็นเจ้าชายหนุ่มรูปงาม มีพระพักตร์ละม้ายดาราเกาหลี รวมทั้งความเก่งกาจในหลายๆ ด้านของพระองค์ ทำให้เป็นที่ฮือฮาอย่างมากในกลุ่มสาววัยรุ่นไทย ซึ่งดูเหมือนว่าการเสด็จฯ เยือนไทยครั้งนี้จะเป็นการเปิดพระองค์ครั้งแรกต่อประชาคมโลกได้อย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งอนาคตเชื่อว่าพระนามของพระองค์จะติดหูผู้คน และอาจจะแซงหน้าเจ้าชายวิลเลียม แห่งสหราชอาณาจักร ขวัญใจสาวๆ ทั่วโลกคนเดิมได้ไม่ยากเลยทีเดียว






กำลังโหลดความคิดเห็น