xs
xsm
sm
md
lg

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสขอบพระทัยพระราชอาคันตุกะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสขอบพระทัยสมเด็จพระราชาธิบดี และสมเด็จพระราชินีต่างประเทศ ในฐานะพระราชอาคันตุกะที่ทรงเสด็จมาร่วมงานเลี้ยงฉลองเนื่องในวโรกาสมหามงคล ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี

เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2549 เวลา 18.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง ไปยังพระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬาร ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อพระราชทานเลี้ยงพระกระยาหารค่ำแด่สมเด็จพระราชาธิบดี และสมเด็จพระราชินีต่างประเทศ ในฐานะพระราชอาคันตุกะที่ทรงเสด็จมาร่วมงานเลี้ยงฉลองเนื่องในวโรกาสมหามงคล ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี

ต่อมาเวลา 22.20 น. หลังจากพระประมุขและพระราชวงศ์ทุกประเทศที่ทรงเข้าร่วมงานถวายเลี้ยงพระกระยาหารค่ำ ได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ แล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสขอบพระทัยพระประมุข และพระราชวงศ์ต่างประเทศ ความว่า...

“ฝ่าพระบาท หม่อมฉัน และราชินี มีความปีติและภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้รับรองพระประมุข พร้อมทั้งพระราชวงศ์ จากนานาราชอาณาจักร ในงานเลี้ยงพระกระยาหารค่ำในวันนี้ ขอขอบพระทัยทุกๆ พระองค์เป็นอย่างมากที่ทรงพระอุตสาหะเสด็จฯ มาร่วมงานครั้งนี้ ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต หม่อมฉัน พร้อมทั้งรัฐบาล และประชาชนชาวไทย ถือว่าการเสด็จมาร่วมในงานครั้งนี้ เป็นศุภนิมิตแห่งไมตรีจิต มิตรภาพอันแท้จริง และมีความหมายสำคัญอันควรจะจารึกไว้ในประวัติศาสตร์

ด้วยเหตุว่า เป็นครั้งแรกที่พระประมุข และพระราชวงศ์จากราชอาณาจักรต่างๆ เสด็จมาประชุม ณ ราชอาณาจักรไทย โดยพร้อมเพรียงกัน สิ่งนั้นย่อมเป็นปัจจัยสำคัญอีกส่วนหนึ่งที่จะเกื้อกูลให้สัมพันธภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือระหว่างราชตระกูล และราชอาณาจักรทั้งปวง ดำรงมั่นคง ทั้งเจริญงอกงามและแน่นแฟ้นยิ่งๆ ขึ้นไป

ณ โอกาสนี้ ข้าพเจ้าขอเชิญชวนทุกๆ ท่านให้ร่วมกันกับข้าพเจ้า ดื่มถวายพระพรแด่พระประมุข และพระราชวงศ์ ผู้เสด็จฯ มาจากแดนไกล ให้ทรงเกษมสำราญ และทรงเจริญพระชนม์สิริสวัสดิ์ ทั้งในประชาชาติทุกราชอาณาจักร มีความวัฒนาผาสุกยิ่งยืนนานตลอดไป”

จากนั้น สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนดารุสซาลาม ในฐานะทรงเป็นผู้แทนประมุขและพระราชวงศ์ต่างประเทศ ถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีใจความว่า...

“พระองค์ องค์พระประมุข และพระราชอาคันตุกะทุกพระองค์ ได้มาพร้อมเพรียงกัน ณ ที่นี้ ก็เพื่อถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ผู้เป็นที่รักของพระองค์ด้วยความเคารพ ชื่นชมในพระบารมีเป็นล้นพ้น ตลอดจนเพื่อความปารถนาดีอย่างจริงใจ ให้แก่ปวงชนชาวไทยทุกคน

60 ปี ที่พระองค์ทรงครองสิริราชสมบัติ มิได้เป็นเพียง 60 ปี ในประวัติศาสตร์ของชาติไทย แต่เป็น 60 ปีที่ประวัติศาสตร์ของเราทุกคน เป็นประวัติศาสตร์ที่ประสบทั้งสิ่งดี และสิ่งร้าย ทั้งความปลื้มปีติ และความโศกเศร้า ทั้งเรื่องที่น่าตื่นเต้น ยินดี และเรื่องที่น่าสิ้นหวัง และทุกครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงใช้พระราชปรีชาญาณ พระสติปัญญา พระวิริยะ อุตสาหะ ตลอดจนความองอาจและกล้าหาญที่พระองค์ทรงมีอยู่อย่างท่วมท้น ในการนำประเทศให้พ้นภัย พระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นศูนย์รวมแห่งแรงบันดาลใจแก่ประชาชนของพระองค์ตลอดมา ไม่ว่าจะเป็นในด้านวิชาการ ศิลปะ วิทยาศาสตร์ หรือแม้แต่การที่ทรงเป็นแบบอย่างที่เรียบง่าย ของการเป็นพ่อผู้มีแต่ความรัก และความเสียสละเพื่อลูก

วันนี้ประชาคมโลกต่างตะหนักถึงความสำเร็จทั้งหลายทั้งปวงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หม่อมฉันองค์พระประมุข และพระราชอาคันตุกะทุกพระองค์ที่มาพร้อมเพรียงกัน ณ ที่นี้ จึงมีความปราบปลื้มปีติยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่องค์การสหประชาชาติได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัลความสำเร็จอันสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ แด่ฝ่าพระบาท แต่หม่อมฉันตลอดจนองค์พระประมุข และพระราชอาคันตุกะทุกพระองค์ ที่มีไมตรีจิตพรั่งพร้อมกันมาร่วมงานในวันนี้ ขอถวายพระราชสมัญญาที่เรียบง่าย แต่มีค่า และสะท้อนถึงความรู้สึกของหม่อมฉัน และทุกพระองค์ ณ ที่นี้ คือ ฝ่าพระบาททรงเป็นมิตรที่รัก และพึงเคารพอย่างที่สุดของพวกเรา”

ทั้งนี้ เมื่อสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนดารุสซาลาม กล่าวถวายพระพรเสร็จสิ้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยพระประมุขและพระราชวงศ์ต่างประเทศ เสด็จกลับมายังพระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติเพื่อเสวยพระสุธารสกาแฟ เมื่อได้เวลา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จออกมายังท้องพระโรงกลาง ทรงยืนหน้าพระที่นั่งพุดตานถมภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร พระประมุขและพระราชวงศ์ต่างประเทศเสด็จเข้ามาทูลลา เพื่อเสด็จฯ กลับโรงแรมที่ประทับ

กำลังโหลดความคิดเห็น