วันที่ 9 มิ.ย. 2549
พระราชพิธีบวงสรวงสมเด็จพระบุรพมหากษัตริยาธิราช / เสด็จออกมหาสมาคม
เวลา 09.00 - 17.00 น. - ลงพระนาม และลงนามถวายพระพร และถวายบังคมบุรพมหากษัตริยาธิราชในพระบรมมหาราชวัง ปราสาทพระเทพบิดร
เวลา 10.00 น. - พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ณ พลับพลาพิธี พระที่นั่งอนันตสมาคม เพื่อประกอบพระราชพิธีบวงสรวงสมเด็จพระบุรพมหากษัตริยาธิราช
เวลา 11.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ ไปที่สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการและประชาชนได้ร่วมลงพระนามและลงนามถวายพระพร รวมทั้งถวายบังคมสมเด็จพระบุรพมหากษัตริยาธิราช ที่ประสาทพระเทพบิดรด้วย ซึ่งสำนักพระราชวังจะเปิดให้ร่วมลงนามได้ในช่วงบ่าย
หมายเหตุ - เวลาประมาณ 11.00 น. ในขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ออกที่สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ได้กำหนดให้มีการยิงสลุตหลวงของทหาร 3 เหล่าทัพ และตำรวจ พร้อมกันทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด ดังนี้
กองทัพบก 15 หน่วยยิง ได้แก่
- กองทัพภาคที่ 1 จุดที่ตั้งอยู่ที่ท้องสนามหลวง จังหวัดกาญจนบุรี และลพบุรี
- กองทัพภาคที่ 2 จุดที่ตั้งอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา อุบลราชธานี ขอนแก่น อุดรธานี และร้อยเอ็ด
- กองทัพภาคที่ 3 จุดที่ตั้งอยู่ที่จังหวัดพิษณุโลก เชียงใหม่ พะเยา อุตรดิตถ์ และเพชรบูรณ์
- กองทัพภาคที่ 4 จุดที่ตั้งอยู่ที่จังหวัดสงขลา และชุมพร
-กองทัพเรือ 9 หน่วยยิง จุดที่ตั้งอยู่ที่ป้อมวิชัยประสิทธิ์ (กรุงเทพมหานคร) จังหวัด สมุทรปราการ ชลบุรี (2 หน่วย) จันทบุรี ตราด ภูเก็ต สงขลา และนราธิวาส
กองทัพอากาศ 1 หน่วยยิง จุดที่ตั้งอยู่ที่โรงเรียนนายเรืออากาศ (กรุงเทพมหานคร)สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1 หน่วยยิง จุดที่ตั้งอยู่ที่กองบังคับการตำรวจน้ำ จังหวัดสมุทรปราการ
**ในวันนี้ตั้งแต่เวลา 13.00 - 18.00 น. สำนักพระราชวังจะได้จัดที่สำหรับลงพระนาม ลงนามถวายพระพรไว้ที่ในพระบรมมหาราชวัง และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปิดปราสาทพระเทพบิดร ณ วัดพระศรีรัตนศาดาราม ในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่เวลา 09.00 - 17.00 น. เพื่อให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ และประชาชนได้ถวายบังคมสมเด็จพระบุรพมหากษัตริยาธิราช
พิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล / งานมหรสพสมโภช
เวลา 19.19 น. - กำหนดจัดพิธีถวายเครื่องราชสักการะ และจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลที่ท้องสนามหลวง และทุกจังหวัด ซึ่งจัดพร้อมกันทั่วประเทศการจัดงานมหรสพสมโภช โดยในกรุงเทพมหานครจัดที่ท้องสนามหลวงและสวนสาธารณะ 16 แห่ง และในส่วนภูมิภาคจัดที่จังหวัด อำเภอ และกิ่งอำเภอ
วันที่ 10 มิ.ย. 2549
พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ณ พระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัย
เวลา 17.00 น. - พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อาลักษณ์ สำนักอาลักษณ์ และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี อ่านประกาศกระแสพระบรมราชโองการ มีการสถาปนาสมณศักดิ์พระสงฆ์ 69 รูป
- เจ้าพนักงานกองศาสนูปถัมภ์ กรมการศาสนานิมนต์พระสงฆ์ 99 รูปเจริญพระพุทธมนต์ แล้วพระบาทสมเด็จทรงประเคนพัดที่ระลึก
- ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พราหมณ์และโหรหลวงเบิกแว่นเวียนเทียนพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ ทหาร พลเรือน รับแว่นเวียนเทียน เวียนเทียน ครบ 3 รอบแล้ว พระราชครูวามเทพมุณี เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าถวายน้ำเทพมนตร์แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
วันที่ 12 มิ.ย. 2549
พิธีถวายพระพรชัยมงคล/พิธีเปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ และขบวนเรือพระราชพิธี
เวลา 14.00 น. - สมเด็จพระราชาธิบดี สมเด็จพระราชินี และผู้แทนพระองค์ประมุขต่างประเทศถวายพระพรชัยมงคล ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต
เวลา 16.00-16.30 น. - นายกรัฐมนตรีและผู้มีเกียรติที่ได้รับเชิญเดินทางถึงราชนาวิกสภา และเข้าสู่บริเวณห้องรับรองชั้นล่างเพื่อพักรอ
เวลา 17.00 น. - พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินถึงราชนาวิกสภา โดยมีนายกรัฐมนตรีและคุณหญิงรอรับเสด็จ ณ รถยนต์พระที่นั่ง
- จากนั้น เชิญเสด็จขึ้นสู่ห้องที่ประทับ (ชั้น2) ของอาคารราชนาวิกสภาหลังใหม่โดยลิฟต์ โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย) และท่านผู้หญิงตามเสด็จ
เวลา 17.03-17.12 น. - พระประมุขและพระราชวงศ์ต่างประเทศเสด็จพระราชดำเนินถึงราชนาวิกสภาโดยมีนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงรับเสด็จ จากนั้นเชิญเสด็จพระราชดำเนินขึ้นบันไดไปยังห้องที่ประทับ (ชั้น 2) ของอาคารราชนาวิกสภาหลังใหม่
- พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรอรับ (ระหว่างนั้น แขกผู้มีเกียรติที่ได้รับเชิญ เข้าสู่ชั้น 2 ของอาคารราชนาวิกสภาหลังเก่า-มีเส้นทางเชื่อมชั้น2 ระหว่างราชนาวิกสภาหลังใหม่และหลังเก่า)
เวลา 17.30 น. - ขบวนเรือพระราชพิธีเริ่มเข้าสู่พื้นที่ (เริ่มตั้งแต่อาคารราชนาวีสโมสร)
- ทอดพระเนตรขบวนเรือพระราชพิธี (มีบทเห่เฉลิมพระเกียรติ)
เวลา 18.00 น. - เสร็จสิ้นขบวนเรือพระราชพิธี
- หลังจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ ออกจากอาคารราชนาวิกสภาหลังใหม่ พร้อมด้วยพระประมุขและพระราชวงศ์ต่างประเทศ ไปยังหอประชุมกองทัพเรือ โดยรถไฟฟ้าพระที่นั่ง (รัฐบาลจัดรถไฟฟ้าพระที่นั่งไว้จำนวน 40 คัน)
- รถไฟฟ้าพระที่นั่งส่งเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ประตูด้านทิศใต้ โดยมีนายกรัฐมนตรีและคุณหญิง รอรับเสด็จ
- เสด็จฯ เข้าสู่ห้องที่ประทับ ชั้น 2 โดยลิฟต์
- รถไฟฟ้าพระที่นั่งของประมุขและพระราชวงศ์ต่างประเทศ ส่งเสด็จบริเวณประตูด้านทิศตะวันออก โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและรองผู้บัญชาการทหารเรือ รอรับเสด็จ
- พระประมุขและพระราชวงศ์ต่างประเทศ เสด็จขึ้นสู่ห้องที่ประทับ ชั้น 2 (โดยทางอัฒจันทร์)
** (แขกผู้มีเกียรติที่ได้รับเชิญบางส่วน ออกจากอาคารราชนาวิกสภาหลังเก่า เดินมายังหอประชุมกองทัพเรือและรอเสด็จ ณ ห้องนิทรรศการ)
- เมื่อพร้อม นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการเตรียมการเชิญและจัดกิจกรรมฯ กราบบังคมทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระประมุขและพระราชวงศ์ต่างประเทศ เสด็จฯ ออกจากห้องที่ประทับมายังห้องนิทรรศการ
- ประทับพระเก้าอี้บนเวที (เป็น platform ยกพื้นสูงประมาณ 15 ซ.ม.)
- นายกรัฐมนตรีกราบบังคมทูลรายงานการจัดนิทรรศการ (เป็นภาษาอังกฤษ) และกราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรนิทรรศการ
**(ทรงพระดำเนินไปยังฉากนิทรรศการ รวม 3 ฉาก แต่ละฉากใช้เวลาประมาณ 6 นาที)
- เมื่อทอดพระเนตรนิทรรศการเสร็จสิ้นแล้ว เสด็จฯ กลับเข้าสู่ห้องที่ประทับรัฐบาลจัดงานเลี้ยงรับรองถวาย (แขกอื่นๆ ร่วมงานเลี้ยงรับรองภายในห้องนิทรรศการ)
- ได้เวลาอันสมควร พระประมุขและพระราชวงศ์ต่างประเทศทูลลาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และเสด็จฯ กลับตามลำดับ (ครองราชย์มากที่สุด-น้อยที่สุด) โดยมีนายกรัฐมนตรีและคุณหญิงส่งเสด็จ ณ รถยนต์พระที่นั่ง (ใช้เส้นทางทิศตะวันออก)
- พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ กลับ โดยมีนายกรัฐมนตรีและคุณหญิงส่งเสด็จ (รถยนต์พระที่นั่งเทียบส่งเสด็จประตูด้านทิศใต้)
ขบวนเรือพระราชพิธี
ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ในปีพุทธศักราช 2549 กองทัพเรือ ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้เชิญขบวนเรือพระราชพิธี เส้นทางจากท่าวาสุกรี ถึงวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ในวันที่ 12 มิถุนายน 2549 เวลา 16.00–18.00 น. กำหนดใช้เรือพระราชพิธีทั้งหมด 52 ลำ ใช้กำลังพลจากหน่วยต่างๆ ในกองทัพเรือ จำนวน 2,082 นาย เป็นฝีพายเรือพระราชพิธี
นอกจากการเชิญขบวนเรือพระราชพิธีแล้ว กองทัพเรือยังได้รับมอบหมายให้จัดเตรียมหอประชุมกองทัพเรือ เพื่อจัดนิทรรศการพระราชกรณียกิจ และจัดเตรียมอาคารราชนาวิกสภา (หลังใหม่) เป็นสถานที่จัดถวายเลี้ยงรับรองและทอดพระเนตรขบวนเรือพระราชพิธี แด่สมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีจากประเทศต่างๆ
ประชาชนที่สนใจจะชมขบวนเรือพระราชพิธี ในวันที่ 12 มิ.ย.49 (เวลา 16.00-18.00 น.) สามารถรับชมได้บริเวณสถานที่สาธารณหรือร้านอาหารที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ ท่าวาสุกรี–วัดอรุณราชวราราม
การปิดการจราจรทางน้ำ
วันที่ 12 มิ.ย.49 เวลา 16.00 - 22.00 น. ห้ามเรือทุกชนิดสัญจรในแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงเรือข้ามฟาก ตั้งแต่สะพานกรุงธน ถึง สะพานพุทธยอดฟ้า โดยจะพิจารณาให้เรือรับ - ส่ง ผู้โดยสารข้ามฟากได้ ในกรณีที่ไม่กีดขวางและส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของกระบวนฯ ตามความเหมาะสม
วันที่ 13 มิ.ย. 2549
งานถวายเลี้ยงพระกระยาหารค่ำแด่สมเด็จพระราชาธิบดี และสมเด็จพระราชินีต่างประเทศ
เวลา 18.30 น. - แขกผู้มีเกียรติที่ได้รับเชิญถึงพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท (รถยนต์เข้าทาง ประตูพิมานไชยศรี ส่งแขกบริเวณหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาททางอัฒจันทร์ทิศตะวันตก) และเข้าสู่พระระเบียงภาพทิศตะวันออกและพระที่นั่ง มูลสถานบรมอาสน์ (รับพระราชทานเลี้ยงรับรอง - Reception)
เวลา 19.30 น. - พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งถึงพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท (รถยนต์พระที่นั่งจอดใกล้ประตูสนามราชกิจ)
- พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จออก ณ บริเวณ ท้องพระโรงกลาง (ทรงยืนหน้าพระที่นั่งพุดตานถมภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร)
- สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ บริเวณท้องพระโรงหน้า เพื่อทรงรอรับเสด็จพระประมุขและพระราชวงศ์ต่างประเทศ
- พระประมุขและพระราชวงศ์ต่างประเทศเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง ถึงพระที่นั่งจักรี มหาปราสาทตามลำดับ (รถยนต์พระที่นั่งส่งเสด็จที่อัฒจันทร์ด้านทิศตะวันออก)
- นายจิตรพัฒน์ ไกรฤกษ์ รองราชเลขาธิการ รอรับเสด็จที่รถยนต์พระที่นั่งพร้อมด้วยอดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำต่างประเทศที่โปรดเกล้าฯ ให้มาดูแลพระประมุขและพระราชวงศ์แต่ละประเทศ จำนวน 25 คน รอรับเสด็จ และนำเสด็จขึ้นสู่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
- เมื่อเสด็จถึงบริเวณท้องพระโรงหน้า ทรงสัมผัสพระหัตถ์กับสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
- อดีตเอกอัครราชทูตไทยฯ นำเสด็จเข้าสู่ท้องพระโรงกลางโดยมีนายเตช บุนนาค นายณรงค์ฤทธิ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รอรับเสด็จบริเวณพระทวารและนำเสด็จไปเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
- พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสขอบพระทัยพระประมุขและพระราชวงศ์ต่างประเทศ (วงดนตรีบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี)
- สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนดารุสซาลาม ในฐานะทรงเป็นผู้แทนประมุขและพระราชวงศ์ต่างประเทศถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (วงดนตรีบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี)
- เสร็จสิ้นงานถวายพระกระยาหารค่ำแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยพระประมุขและพระราชวงศ์ต่างประเทศเสด็จฯ กลับมายังพระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติเพื่อเสวยพระสุธารสกาแฟ
- แขกที่ได้รับเชิญ รับพระราชทานเลี้ยงกาแฟ ณ พระที่นั่งมูลสถานบรมอาสน์และพระระเบียงภาพทิศตะวันออก
- เมื่อได้เวลา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จออกมายังท้องพระโรงกลางทรงยืนหน้าพระที่นั่งพุดตานถมภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร
- พระประมุขและพระราชวงศ์ต่างประเทศเสด็จเข้ามาทูลลาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อเสด็จฯ กลับโรงแรมที่ประทับ (ตามลำดับอาวุโสการครองราชย์มาก-น้อย โดยมีสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงส่งเสด็จที่ท้องพระโรงหน้า)
- พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินกลับ
วันที่ 14 มิ.ย. 2549
งานสโมสรสันนิบาต และงานถวายพระกระยาหารค่ำ เฉลิมพระเกียรติ
เวลา 19.30 น. - งานสโมสรสันนิบาต และงานถวายพระกระยาหารค่ำ เนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี ณ ทำเนียบรัฐบาล
วันที่ 17 มิ.ย. 2549
งานแสดงมัลติมีเดีย และพลุเฉลิมพระเกียรติ 60 ปีครองราชย์ บริเวณทะเลสาบเมืองทองธานี ถ.แจ้งวัฒนะ จังหวัดกรุงเทพฯ
เวลา 17.00 - 20.10 น.
- มีการแสดงคอนเสิร์ตจากวงดุริยางค์ 3 เหล่าทัพ การแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินแกรมมี่
- การบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ การถวายราชสักการะ และการแสดงประกอบแสงเสียง
- ในชุด “ดวงประทีปแห่งความหวังและความจงรักภักดี”
หมายเหตุ - การแสดงประกอบแสงเสียง เป็นการแสดงที่นำเสนอผ่านม่านน้ำ ขนาดกว้าง 25 เมตร สูง 15 เมตร ขนาดใหญ่ 3 จอ สามารถนำเสนอผ่านวิดีโอคลิปและภาพนิ่งได้ กล่าวถึงเหตุการณ์ ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์จนเสด็จขึ้นครองราชย์ มาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 60 ปี ในพระราชกรณียกิจและพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อประชาชนชาวไทยและกองทัพไทย
ซึ่งการแสดงนี้มีเพียงรอบเดียวเท่านั้น และทางกองทัพไทยได้ดำเนินการถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ตั้งแต่เวลา 19.00 – 20.10 นาฬิกา โดยส่งสัญญาณ TGN ไปทั่วโลกกว่า 170 ประเทศ
กำหนดการจุดพลุและดอกไม้ไฟ เฉลิมพระเกียรติ
วันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน 2549
เวลา - ประมาณ 20.30 น.
สถานที่ - ณ สวนเบญจกิติ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
เป็นการแสดงพลุประกอบดนตรีวงดุริยางค์วงใหญ่โดยแบ่งการแสดงเป็น 5 ช่วง ดังนี้ ช่วงที่ 1 พระภูมินทร์แห่งสยาม ช่วงที่ 2 เถลิงราชย์ บาทบงกช ช่วงที่ 3 เย็นศิระเพราะพระบริบาล ช่วงที่ 4 พระบารมีจักรีเกริกฟ้า ช่วงที่ 5 สดุดีมหาราชารายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน
วันเสาร์ที่ 10 มิถุนายน 2549
เวลา - ประมาณ 20.30 น.
สถานที่ - จุดพลุกลางแม่น้ำเจ้าพระยาระหว่างสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้ากับสะพานพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
เป็นการจุดพลุขึ้นจากเรือขนส่งทหารบกจอดบริเวณกึ่งกลางแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 3 ลำ ที่กำหนดไว้ ตามขั้นตอน ใช้พลุที่มีขนาด 1 นิ้ว ไปจนถึง 4 นิ้ว จุดแสดงด้วยเทคโนโลยีการจุดพลุที่ทันสมัยที่สุดของโลก ซึ่งนำเข้ามาใช้ในไทยเป็นครั้งแรก ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จุดต่อเนื่องมากกว่า 60 ชุด รวมประมาณ 15,000 นัด
วันอาทิตย์ที่ 11 มิถุนายน 2549
เวลา - ประมาณ 20.30 น.
สถานที่ - ณ บริเวณกลางสนามราชตฤณมัยสมาคม
เป็นการรวบรวมดอกไม้ไฟที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการแข่งขันในประเทศญี่ปุ่น ได้รับการออกแบบและผลิตเป็นพิเศษเพื่อโอกาสนี้โดยเฉพาะ มีรายการแสดงต่างๆ ดังนี้ โหมโรง เชิดชูเกียรติสยามประเทศ เฉลิมฉลองครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ดอกไม้จากใจชาวญี่ปุ่น ทุ่งทองแห่งสวนสวรรค์ รอยยิ้มยามค่ำคืน สวนดอกไม้สีเหลืองแห่งการเฉลิมฉลอง ช่อดอกไม้มหัศจรรย์ มรกตตระการตา คาไลโดสโคปตระการตา มงกุฎทองแด่องค์ราชันย์ และรายการสุดท้ายฟินาเล่ (Finale)
วันเสาร์ที่ 17 มิถุนายน 2549
เวลา - 18.00-21.00 น.
สถานที่ - ริมทะเลสาบเมืองทองธานี ถนนแจ้งวัฒนะ
จุดพลุเฉลิมพระเกียรติโดยกองทัพไทย พร้อมการแสดงคอนเสิร์ตจากวงดุริยางค์ 3 เหล่าทัพ การแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินแกรมมี่ การบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ การถวายสักการะ และการแสดงประกอบแสงเสียง ขสมก. จัดรถบริการฟรีไปชมงาน บริเวณรับส่งมี 3 เส้นทาง คือ
1) อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ - เมืองทอง
2) อู่บางเขน - เมืองทอง
3) สถานีรถไฟฟ้าจตุจักร - เมืองทอง โดยเที่ยวแรกเริ่มเวลา 15.00 น. เที่ยวสุดท้ายจากต้นทาง เวลา 17.30 น. และเที่ยวกลับจากเมืองทองเที่ยวสุดท้าย เวลา 20.30 น.