xs
xsm
sm
md
lg

เมืองไทยรายสัปดาห์ (คอนเสิร์ตการเมือง) ครั้งที่ 1: อบอุ่น “สนธิ” เปิดโปง “ปฏิญญาฟินแลนด์” สุดอันตราย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เมืองไทยฯ คอนเสิร์ตการเมือง ครั้งที่ 1 ประเดิมอย่างอบอุ่น “สนธิ” เปิดโปง “ปฏิญญาฟินแลนด์” สุดอันตราย เป้าหมายครอบงำรากหญ้า-ลดความสำคัญสถาบันกษัตริย์เหลือแค่สัญลักษณ์ แฉพิรุธอนุมัติโครงการก่อสร้างศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะแสนล้านบาททิ้งทวน

คลิกที่นี่เพื่อชมวิดีโอคลิป เมืองไทยรายสัปดาห์ คอนเสิร์ตการเมือง ครั้งที่ 1 (ช่วง 2)(56k) | (256K)

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง เมืองไทยรายสัปดาห์ คอนเสิร์ตการเมือง ครั้งที่ 1

สโรชา - สวัสดีค่ะ ขอต้อนรับเข้าสู่รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ค่ะ วันนี้นะคะ บรรยากาศที่คุ้นเคย บรรยากาศที่อบอุ่น กลับมาอีกครั้งนะคะ กับเมืองไทยรายสัปดาห์ ก่อนที่เราจะเข้าเรื่องหลักๆ ที่เราจะคุยกันวันนี้ ซึ่งคงจะเป็นการมองภาพรวมสถานการณ์ปัจจุบัน อยากจะเรียนถามคุณสนธิสักนิดหนึ่ง และอยากจะเล่าให้หลายๆ ท่านฟังสักนิดหนึ่ง การที่ เรื่องสดๆ ร้อนๆ นะคะ ที่น้องๆ นักข่าวเข้ามาหลังเวทีเมื่อตอนช่วงหัวค่ำ แล้วก็เรียนถามคุณสนธิหลายประเด็น ประเด็นหนึ่งที่คงจะไม่พูดไม่ได้ คงจะเป็นเรื่องที่คุณทักษิณประกาศว่าจะกลับมาทำงานอีกครั้งหนึ่ง และคุณสนธิมีแง่คิดยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้

สนธิ - คือผม ผมบอกว่า คนที่เสียสัจจะบอกว่าเว้นวรรค วันดีคืนดีอยากจะเดินช็อปปิ้ง ก็ไปเดินช็อปปิ้ง อยากจะเข้าทำเนียบ ก็เข้าทำเนียบ คนประเภทนี้ปากพูดบอกว่าอยากจะกลับมาทำงานอีก เนี่ย ผมคิดว่าไม่ละอายแก่ใจหรือยังไง น้องๆ นักข่าวก็ถามผม บอกผมเห็นด้วยไหม ผมไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง และผมก็จะต้องประท้วง ผมก็คิดว่าพ่อแม่พี่น้องก็คงไม่เห็นด้วยใช่มั้ย

สโรชา - คงจะเห็นได้ชัดนะคะว่า ถ้าเกิดว่ากลับมาทำงานอย่างเป็นรูปธรรมอีกครั้งหนึ่งแล้ว จะเกิดอะไรขึ้น คุณทักษิณคงจะเดาออกไม่ยากนักนะคะ

สนธิ - ก็ต้องกราบเรียนพ่อแม่พี่น้องนิดหนึ่ง เรื่องคดีความ เล่าเบื้องหลังให้ฟังนิดหนึ่ง ตอนนี้ผมโดนคดีความอยู่ประมาณ 36 คดี

สโรชา - 36 เหรอคะ

สนธิ - ผมก็บอกพรรคพวกไป บอกว่าอย่าไปกังวล เพราะว่าในการต่อสู้นั้น เมื่อเราเริ่มแล้วเราต้องยอมรับความเสียหาย ต้องยอมรับความเจ็บปวด เพียงแต่อยากจะเล่าคดีความคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ที่วันนั้นกองปราบเขาส่งตัวผมไปที่อัยการ บรรยากาศในห้องประชุมอัยการนั้น มีอัยการอธิบดีวันชัย ท่านนั่งเป็นหัวโต๊ะ แล้วอัยการอาวุโส รวมทั้งอัยการระดับผู้ใหญ่อีกประมาณ 7-8 คน ตำรวจก็นั่งอีกฟากหนึ่ง ทันทีที่นั่ง อธิบดีอัยการก็ถามตำรวจทันทีเลย ถามว่า ขออนุญาตให้ประเด็นนี้กระจ่างก่อน คุณมีหมายจับเขาใช่ไหม ตำรวจบอก ใช่ครับ คุณมีบันทึกการจับกุมหรือเปล่า ตำรวจหาทั้งแฟ้ม

สโรชา - (หัวเราะ) ต้องหาเลยเหรอ

สนธิ - ตำรวจหา ปรากฏว่าไม่มี ท่านอัยการท่านก็บอกว่า ถ้าไม่มีแล้วตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ผมจะปล่อยตัวเขาไปโดยที่ไม่มีการประกันตัว ผมก็อดไม่ได้ ผมก็ยกมือขออนุญาตเสริมท่านอธิบดี ท่านก็น่ารัก ท่านบอก คุณสนธิเชิญพูด ผมบอกว่าผมเข้ามอบตัวกับเขาตอนเช้า ก่อนที่ศาลจะเซ็นหมายจับ แสดงว่าผมมอบตัวก่อนหมายจับจะออกมาเป็นทางการ แต่ตำรวจก็ยังทึกทักให้ผมประกันตัวด้วยเงินสด 300,000 บาท นะฮะ ตรงนี้เนี่ย ก็จะฟ้องตำรวจกลับในข้อหากลั่นแกล้ง ท่านอธิบดีกรมอัยการท่านก็น่ารัก

ท่านบอกว่า คุณสนธิยังไม่เป็นผู้ผิด จะอนุญาตให้สื่อมวลชนที่อยู่ข้างนอกเข้ามาทำข่าวในห้องประชุมไหม เป็นสิทธิของคุณสนธินะ ผมก็บอกว่า กราบขอบพระคุณท่านอธิบดีครับ มันเป็นแสงสว่างท่ามกลางความมืดมิดของกระบวนการยุติธรรม ที่ท่านอธิบดียังให้เกียรติ ให้สิทธิเสรีภาพกับผู้ต้องหา ผมไม่ต้องการให้ผู้สื่อข่าวมาทำข่าวในห้องประชุม มิใช่กลัว แต่ว่าไม่ต้องการจะให้รบกวนความสงบ ท่านอธิบดีถามต่อว่า แล้วถ้าผมจะต้องให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในคดีนี้ คุณสนธิจะอนุญาตมั้ย นี่นะฮะอธิบดีกรมอัยการ (ปรบมือ) ผมบอกว่า ในกระบวนการยุติธรรมนั้น ผมเชื่ออัยการและศาลเท่านั้น เพราะฉะนั้น ท่านอธิบดีให้สัมภาษณ์ได้เต็มที่ ผมเชื่อในเกียรติและศักดิ์ศรีของท่านอธิบดีที่เคารพในความเป็นมนุษย์ของผม ผมก็มองไปฝั่งตรงกันข้ามที่ตำรวจนั่งอยู่

สโรชา - จ๋อย

สนธิ - ผมไม่รู้ว่าจะเรียกว่าจ๋อยดี หรือว่าหน้าเหมีอนหมาดี วันจันทร์นี้ ที่ 22 บ่ายโมงครึ่ง ผมต้องไปศาลอาญา เพราะว่าผมฟ้อง พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้บังคับการกองปราบฯ ศาลท่านกรุณาไต่สวนมูลฟ้องวันจันทร์นี้ ข้อหาที่ผมฟ้องคือ มาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตรงไหนเหรอ ตรงที่ว่า เมื่อเขาสอบสวนคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่ผมเป็นผู้ต้องหานั้น เขาเพียงแต่สอบฝ่ายที่มากล่าวหาผม ยังไม่ทันสอบผม ยังไม่ทันส่งเรื่องไปที่อัยการ ศาลยังไม่ทันพิพากษา ความที่เขาเอาใจนายเขาเต็มที่ เขาออกมาให้สัมภาษณ์ บอกว่า คดีนี้นายสนธิผิดแน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์ แล้วพูดต่อๆ พูดบอกว่า ตั้งแต่ดูคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพแล้ว อันนี้ชัดที่สุด ปรากฏว่าวันนี้ ไม่รู้ว่ามีใครไม่รู้ใส่ชุดสีกากี วิ่งตีนขวิดที่ศาล ผมก็เรียนกับทนายความผม คุณสุวัตร อภัยภักดิ์ ผมบอกว่าเวลาซัก พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ให้ถามสิ ว่าคำพูดที่ผมพูดที่เขาว่าผมหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ กับคำพูดของ "พี่หนา" ของผม ที่พูดเรื่องในหลวงเนี่ย ใครหมิ่นมากกว่าใคร

สโรชา - มีเหตุผล เป็นข้อแนะนำที่มีเหตุผลนะคะ

สนธิ - เป็นการเปรียบเทียบ

สโรชา - ถูกต้อง

สนธิ - เป็นการเปรียบเทียบ

สโรชา - เดี๋ยวนี้เขาไม่เรียกพี่หนาเฉยๆ เขาเรียก "พี่น้า...หนา" วันนี้นะคะ ถ้าเกิดหลายๆ ท่านสังเกตนะคะ ทั้งคุณสนธิ ทั้งแอ้ม แล้วก็น้องๆ พี่ๆ ทีมงานเมืองไทยรายสัปดาห์ เนี่ย ใส่เสื้อ "เราจะสู้เพื่อในหลวง" นะคะ จริงๆ แล้วเราใส่มานานแล้ว คุณสนธิใส่ครั้งแรกเมื่อไรคะ

สนธิ - วันที่ พ่อแม่พี่น้อง วันที่ 15 กันยายน วันที่ผมแถลงข่าวที่บ้านพระอาทิตย์ หลังจากรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ถูกปิด

สโรชา - ค่ะ

สนธิ - วันนั้นไม่รู้อะไรดลใจผม

สโรชา - ขอภาพนะคะ 006 ด้วยนะคะ

สนธิ - ก็เกิดสั่งให้เลขาฯ ทำเสื้อ มีความรู้สึกลึกๆ ว่า ในหลวงกำลังโดนรัฐบาลชุดนี้รังแก ละเมิดพระราชอำนาจ มีความรู้สึก เมื่อ 15 กันยายน 2548 ว่า เฮ้ย เรานี่เป็นไพร่ฟ้าประชาราษฎร์เนี่ย เราต้องสู้เพื่อในหลวงสักครั้ง เรารักในหลวงอย่างเดียวไม่พอ เราต้องสู้ให้ท่านด้วย ก็เลยเป็นที่มาของเสื้อ "เราจะสู้เพื่อในหลวง"

สโรชา - วันนั้นเป็นวันที่ อสมทฯ เขาประกาศ แถลงข่าวปลดรายการ นี่นะคะภาพที่แถลงข่าว นั่นเป็นวันแรก เสื้อเพิ่งมาได้ไม่นานด้วย

สนธิ - 15 กันยายน นะฮะ แล้วก็ เราจำได้ว่าวันที่ 9 กันยายน ที่เป็นรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ที่ช่อง 9 อสมท ครั้งสุดท้ายที่ออก ถ้าพ่อแม่พี่น้องที่ดูรายการครั้งสุดท้ายจำได้ วันนั้นผมพูดถึงเรื่องสมเด็จพระสังฆราช 2 พระองค์ ผมพูดถึงเรื่องคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผมพูดถึงเรื่องการเป็นประธานพิธีในอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทั้งหมดผมโยงให้เห็นถึงการละเมิดพระราชอำนาจ

จำได้ใช่ไหมฮะวันนั้น แล้วมีอะไรดลใจไม่รู้ มีอะไรดลใจไม่รู้ที่ต้องสู้เรื่องพวกนี้ แล้วก็สู้มาตลอด สู้มาตลอดจนกระทั่งสู้มาจนถึงมาตรา 7 ซึ่งมาตรา 7 พระเจ้าอยู่หัว เนี่ย คือเรารู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ว่าไม่ใช่เราคนเดียว นักวิชาการอื่นๆ นักกฎหมาย ราชนิกุล ต่างก็ออกมาเรียกร้องเช่นกันในเรื่องนี้ พอวันนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัส วันที่ 25 เมษายน เรื่องว่าประเทศมีวิกฤต ขอให้ศาลออกมาช่วยกู้วิกฤต เราก็มีความรู้สึกว่าไม่ได้แล้วเนี่ย พระเจ้าอยู่หัวออกมาสู้แล้วนะเนี่ย เมื่อพระเจ้าอยู่หัวออกมาสู้แล้วเราก็ต้องสู้เพื่อพระเจ้าอยู่หัว เช่นกัน ใช่ ไม่ใช่ (((ปรบมือ)))

สโรชา - ไล่มาตั้งแต่วันที่ 15 กันยาฯ นะคะ แล้วเรามาที่นี่ในวันที่ 11 พฤศจิกาฯ ถ้าหลายๆ ท่านที่มาร่วมฟังกับเราในวันนั้นจะจำได้ว่ามีการถวายสัตย์ปฏิญาณกันด้วย

สนธิ - เรามีการถวายสัตย์ปฏิญาณ วันที่ 11 พฤศจิกาฯ จำได้ไหมพ่อแม่พี่น้อง เสร็จแล้วเรายังต่อไปด้วยวันที่

สโรชา - 18

สนธิ - 18 พฤศจิกาฯ หลังจากนั้น 7 วัน

สโรชา - เราเคลื่อนพลครั้งแรก

สนธิ - เราเคลื่อนพลครั้งแรก เราไปวางดอกกุหลาบ ที่พระบรมรูปรัชกาลที่ 6 จำได้ใช่มั้ยฮะ (((ได้))) เหมือนกับฟ้าสั่งมา เหมือนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้พวกเรามาชุมนุมกัน เป็นเทียนเล่มแรกๆ ที่พวกเราร่วมกันจุด ที่พ่อแม่พี่น้องร่วมกันจุดที่สวนลุมฯ ตรงนี้เนี่ย ที่นำพาต่อไปจนกระทั่งรัฐบาลชุดทักษิณ (ภาพวีทีอาร์) นั่นคือ ในภาพคือการถวายสัตย์ปฏิญาณ จำได้ใช่ไหมฮะ พวกเราอยู่นะฮะ จนกระทั่งต่อมาเรื่อยๆ ผมพูดมาตลอดว่า แล้วจำได้ไหมว่า วันที่เท่าไรนะ ถ้าเราจำไม่ผิดเนี่ย วันที่ ศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ่อแม่พี่น้องจำได้ไหม 16 ธันวาคม

สโรชา - เกิดอะไรขึ้น ในวันที่ 16

สนธิ - เกิดอะไรขึ้น จำได้รึเปล่า เราเป็นคนพูดคนแรกว่า “ท้ากกก ษิณ (((ออกไป)))” เราพูดกันในห้องนี้ใช่มั้ย จากนั้นเนี่ย กลายเป็นวลีฮิต ที่เป็นไปทั่วประเทศไทย แม้กระทั่งเด็กเล็ก 4 ขวบ 5 ขวบ ยังร้องเลยว่า “ทักษิณ” แล้วก็ “ออกไป”

สโรชา - ไปดูนิดหนึ่งได้ไหมคะ ไปดู 16 ธันวาคม 48

สนธิ - 16 ธันวาคม 48 นะฮะ

(((วีทีอาร์เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร 16 ธันวาคม 48)))

สโรชา - จนกลายเป็นที่เราคุ้นเคยกันมากแล้วเดี๋ยวนี้นะคะ

สนธิ - แต่พ่อแม่พี่น้องสังเกตไหมฮะ 16 ธันวาฯ ในรูปเนี่ย เพียงแค่ 5 เดือนที่ผ่านมาเนี่ย สมัยนั้นคุณสโรชาสาวกว่านี้เยอะเลยนะ แค่ 5 เดือนนะ

สโรชา - ใจร้าย ใจร้าย กำลังจะทักว่าคุณสนธิผแมลงตั้งเยอะ เชื่อไหมคะว่าตั้งแต่เริ่มเดินสายกู้ชาติมาเนี่ยนะคะ ฯพณฯ สนธิของเราเนี่ย หายไปเป็นสิบโลเลย ใช่ไหมคะ

สนธิ - 10 กิโลฯ ครับ พ่อแม่พี่น้อง ที่จะพูดเรื่อง เราจะสู้เพื่อในหลวง เนี่ย มันต่อเนื่องมาสิ่งที่ผมจะพูดวันนี้ ก็คือ “ปฏิญญาฟินแลนด์”

สโรชา - ค่ะ

สนธิ - วันพุธหน้าที่จะถึงนี้ บ่ายสองโมงเย็น ที่หอประชุมใหญ่ธรรมศาสตร์ ผม อาจารย์ชัยอนันต์ สมุทวณิช อาจารย์ปราโมทย์ นาคทรรพ และ ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง จะเป็นผู้ดำเนินการอภิปราย จะพูดรายละเอียดเรื่อง "ปฏิญญาฟินแลนด์" แต่วันนี้ผมจะให้เป็นออร์เดิร์ฟให้พ่อแม่พี่น้องได้เข้าใจก่อนว่าไอ้ที่มาที่ไปของปฏิญญาฟินแลนด์นั้นมันคืออะไร

สโรชา - นั่นสิคะ มีการพูดกันเยอะนะคะในหน้าหนังสือพิมพ์ในช่วงนี้ถึงปฏิญญาฟินแลนด์

สนธิ - คือ ผมอยากให้พ่อแม่พี่น้องเข้าใจการเมืองนิดหนึ่งนะฮะ เข้าใจการเมืองนิดหนึ่ง จุดกำเนิดของคำว่า "ปฏิญญาฟินแลนด์" นั้น มาจากคน 3 กลุ่ม 3 กลุ่มนี้คนละวัฒนธรรม คนละสันดาน คนละแบบ แต่ว่าเจตนา เป้าหมายอันเดียวกัน กลุ่มแรกคือกลุ่มที่ผมเรียกว่า "กลุ่มซ้ายอกหัก"

สโรชา - ซ้ายอกหัก อกหักยังไง

สนธิ - ซ้ายอกหักนี่ก็คือพวกคนที่เคยเข้าป่าไปร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย

สโรชา - นี่ในช่วง 19 ปี 19 ประมาณนั้น

สนธิ - 2519 ไปเพื่อไปขอปฏิวัติยึดอำนาจประเทศไทยมา แล้วก็ยึดไม่ได้ ในที่สุดก็กลับเข้ามาในเมือง หลายๆ คนตอนนี้อยู่ในรัฐบาลชุด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คนพวกนี้เนี่ย ไม่ใช่คนเลว แต่ว่ามีอุดมการณ์ทางการเมืองไปอีกรูปแบบหนึ่ง คนพวกนี้มีความเชื่อในการที่เข้าไปในป่าเพื่อต่อสู้ เพราะเขามีความรู้สึกว่า เขาต้องล้มล้างระบบทุนเก่า เขามองว่าทุนเก่าเนี่ยก็คือพวกข้าราชการ เขามองว่าทุนเก่านั้นก็คือพวกขุนนาง นะฮะ พวกชนชั้นเก่า หรือตลอดจนพวกใครก็ตามที่ยังยึดถือกรอบประเพณีเก่าๆ นี่เรียกว่าพวกซ้ายอกหัก

สโรชา - ค่ะ กลุ่มแรกนะคะ

สนธิ - กลุ่มแรก พวกนี้นะฮะ คนพวกนี้มีฮะ มีพวกกลุ่มพวกอย่างคุณภูมิธรรม เวชยชัย นี่ก็เป็นซ้ายเก่า หมอมิงค์เนี่ย พรหมินทร์ ก็ซ้ายเก่า นะฮะ พวกนี้ซ้ายเก่าทั้งนั้น ทีนี้พอมาพวก

สโรชา - กลุ่มที่ 2

สนธิ - กลุ่มที่ 2 เนี่ย กลุ่มแรก กลุ่มซ้ายเก่านี่เป็นกลุ่มใหญ่มากนะฮะ มีเครือข่ายโยงใยกันไป กลุ่มที่ 2 คือกลุ่มของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งในชีวิตไม่เคยร่วมต่อสู้ทางการเมืองกับชาวบ้านเขามาเลย ไม่เคย สนใจอยู่อย่างเดียว คือทำเงิน ขอให้ make money อย่างเดียว ขอให้ร่ำรวยอย่างเดียว ได้ทั้งนั้นนะฮะ ก็ หลังจากที่ไปซื้อ ไปจ่ายเงินค่าสัมปทาน เอาสัมปทานมาขายอากาศให้กับประชาชน คิดนาทีละ 3 บาท นาทีละ 5 บาท โทรเข้าก็เสีย โทรออกก็เสีย ตั้งแต่ไอ้สมัยโทรศัพท์ใหญ่เท่าสากกระเบือ จำได้ไหมฮะ ไอ้โมโตโรล่านั่นน่ะ

สโรชา - ตัวละเป็นแสน

สนธิ - ตัวละเป็นแสนนั่นนะฮะ ไล่มาเรื่อยๆ พอมีเงินก็อยากจะมีอำนาจทางการเมือง อยากจะเข้าสู่ทางการเมืองทางลัด ก็เลย ปรากฏว่า แหม พี่ลอง กราบขอประทานโทษ ก็พี่ลองเองนี่แหล่ะ เอาเข้ามา อยู่ที่พรรคพลังธรรมนะฮะ อกหักครั้งแรกก็คือพลังธรรมแตก พรรคพลังธรรมแตก จำได้ใช่ไหมฮะ ก็เลยต้องเว้นวรรคการเมืองไปในปี 2539 แล้วสมัคร ตลกมาก สมัครเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่เชียงใหม่

สโรชา - ไม่ได้

สนธิ - ไม่ได้ สอบตก อกหักครั้งที่ 2 ก็เลยกลับมาเป็นรองนายกรัฐมนตรีช่วงสั้นๆ ให้กับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ จำได้ไหมฮะ อกหักครั้งที่ 3 เมื่อรัฐบาลล้ม แต่ว่าอกหักครั้งที่ 3 ยังมี โชคดีที่มีกำไร ที่เป็นที่น่าสงสัยจากการลดค่าเงินบาท จำได้ใช่ไหมพ่อแม่พี่น้อง ที่นายทนง พิทยะ หรือนายทนง ลำไย นั่นน่ะ "ลำไยน่ะ" ลำไยเน่าๆ นั่นน่ะฮะ เป็นอดีตรัฐมนตรีคลังในตอนนั้น นี่คือกลุ่มที่ 2

สโรชา - คือสรุปแล้วเรามีกลุ่มซ้ายจัด

สนธิ - กลุ่มซ้ายจัด

สโรชา - กลุ่มนายทุน

สนธิ - กลุ่มนายทุนที่ขวนขวายหาแต่เงิน เป็นคนหน้าเงิน

สโรชา - แล้วมาแสวงอำนาจทีหลัง

สนธิ - แสวงอำนาจทีหลัง กลุ่ม 3 ก็คือนายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ คนที่ผูกโบว์หูกระต่ายน่ะ

สโรชา - ใส่แว่นใช่ไหมคะ

สนธิ - ฮะใส่แว่นกลมๆ น่ะ พูดไทยคำ ฝรั่งคำ นะฮะ

สโรชา - เอ๊ะๆ คุณพันศักดิ์นี่เคยทำงานกับคุณสนธิ

สนธิ - พันศักดิ์นี่เคยทำงานกับผม คนนี้อกหักจากไหน อกหักจากการที่เคยเป็นประธานที่ปรึกษา พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ

สโรชา - ใช่ค่ะ

สนธิ - แล้วพอ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ โดน รสช.ปฏิวัติ ก็ต้องกระเซอะกระเซิงไปอยู่อังกฤษ แล้วไอ้ความที่ผมเนี่ย เป็นเพื่อนผม ก็เลยเรียกกลับมา ทำงานกับผม เป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ ASIA TIMES นะฮะ นั่งฟังเพลงคลาสสิกอยู่ในห้อง พอหน้าร้อนทีก็ขอไปพักผ่อนหน้าร้อนที่อังกฤษ ขับรถสปอร์ต เอ็มจี ตาม เขาเรียกว่าคันทรี่ ตามชนบทอังกฤษ คือเป็นหนุ่มอังกฤษเต็มตัวนะฮะ

สโรชา - เป็นคนช่างฝันใช่ไหม

สนธิ - เป็นอะไรนะฮะ

สโรชา - คุณพันศักดิ์นี่เป็นนักฝัน

สนธิ - เป็นนักฝันนะฮะ เป็นนักฝันที่ค่อนข้างที่จะเลอะเทอะ ความฝันเขาต่างๆ เนี่ย เป็นความฝันซึ่งเข้ากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดีเลย คือ สองคนนี้พอผสมกันแล้ว กลายเป็นนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องทั้งคู่ ก็บังเอิญ 3 กลุ่มนี้ เป้าหมายตรงกัน ก็เลยมารวมตัวกันในช่วงก่อตั้งพรรคไทยรักไทย

คนที่แนะนำนายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ เข้าหา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คือ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นี่ก็น้องนุ่งเก่าผมเหมือนกัน เคยเป็นกรรมการของผมมา แล้วก็เผอิ๊ญ เผอิญ ไปรู้จัก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เนื่องจากว่าอยู่ในกรรมการบริษัทร่วมกัน ก็เลยถูกดึงตัวไป พอ พ.ต.ท.ทักษิณ อยากเล่นการเมือง ก็เลยมองว่า เอาสมคิดมาแล้วกัน สมคิดก็เลยมองว่า งั้นไปเอาพันศักดิ์มา เพราะพันศักดิ์ตอนนั้นเนี่ย จากพิษค่าเงินบาท 2540 ผมเนี่ยล้มละลายจากคุณธารินทร์ พันศักดิ์เนี่ยอยู่กับคนจนไม่เป็น ชอบตกถังข้าวสาร ก็เลยขอไปตกถังข้าวสาร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร 3 กลุ่มนี้ก็เลยมารวมกัน

พอรวมกันก็เลยคิดที่จะตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาพรรคหนึ่ง ก็เลยคิดที่จะไปกำหนดทิศทางของพรรคการเมืองอันนี้ ไปประชุมกันที่ประเทศฟินแลนด์ ที่ฟินแลนด์เนี่ย มันก็คือดินแดนของโทรศัพท์โนเกีย โนเกีย ผมไม่รู้ว่าโนเกียสปอนเซอร์ในการไปประชุมวางแผนทางการเมืองหรือเปล่านะฮะ ก็ไปประชุม เสร็จ พอประชุมเสร็จ เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังว่าปฏิญญาฟินแลนด์เนี่ย ที่เขาคิดอยู่เนี่ยมีกี่ข้อ มี 5 ข้อ

สโรชา - มีหลักการ

สนธิ - มีหลักการอยู่ 5 หลักการ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง แล้วเล่าให้ฟังแล้วพ่อแม่พี่น้องไปคิดดูดีๆ ว่าใน 4-5 ปีที่ผ่านมาเนี่ย หลักการอันเนี้ยเขาได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง ก็ปรากฏว่าพอประชุมเสร็จกลับมาก็เลยตัดสินใจตั้งพรรค เขาไปตอนต้นกรกฎาฯ กลับมาเขาก็ไปจดทะเบียนพรรคไทยรักไทย เขากำหนดวันจดทะเบียนคือวันที่ 14 กรกฎาคม

สโรชา - 14

สนธิ - 14 ปรากฏว่าอาจารย์ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ ตอนนั้นก็ยังเป็นที่ปรึกษาพรรคไทยรักไทย

สโรชา - คือหนึ่งในผู้ก่อตั้งด้วย

สนธิ - หนึ่งในผู้ก่อตั้ง ก็บอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ครับ เอาเหรอ วันที่ 14 กรกฎาฯ ไม่ดีนะ ไม่ดีตรงไหน เป็นวันที่มีการปฏิวัติฝรั่งเศส แล้วเขาล้มระบบกษัตริย์พระเจ้าหลุยส์ .ต.ท.ทักษิณ ก็บอกว่า เออ เดี๋ยว ขอไปปรึกษาหารือกันก่อน หายไปซักนิดหนึ่ง กลับมาแล้วก็บอกว่า เอาวันนี้ล่ะดีแล้ว ยืนยันวันที่ 14 ก็เลยไม่เข้าใจ จนกระทั่ง ผมก็คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญมั้ง

สโรชา - คือจริงๆ แล้ว คุณทักษิณก็ไม่ได้มีชื่อเสียงเรื่องประวัติศาสตร์ ไม่ได้เป็นคนสนใจเรื่องนี้

สนธิ - ไม่มี คือ คุณทักษิณเองเนี่ย อย่าว่าแต่มีชื่อเสียงเรื่องประวัติศาสตร์เลย เรื่องที่แกพูดเมื่อเช้านี้ บ่ายนี่ยังจำไม่ได้เล้ย แกจะไปจำประวัติศาสตร์อะไรได้

สโรชา - แล้วไปจำเรื่องคนอื่นได้ยังไง

สนธิ - ใช่ไหม มาเอาเรื่องประวัติศาสตร์อะไรกัน

สโรชา - จำเรื่องตัวเองยังไม่ได้เลย

สนธิ - นักประวัติศาสตร์เนี่ย นั่งอยู่นี่

สโรชา - ตัวจริงเสียงจริง

สนธิ - ตัวจริงเสียงจริง

สโรชา - 14 กรกฎาคม มีคนทักแล้วว่าไม่ดี เป็นวันล้มล้างระบอบกษัตริย์ของฝรั่งเศส

สนธิ - ของฝรั่งเศส

สโรชา - พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 นะคะ

สนธิ - มีคนเตือนแล้วนะ

สโรชา - แต่ก็ยังยืนยัน

สนธิ - มีคนเตือนแล้ว ผมก็คิดว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องบังเอิญ แต่เผอิญอาจารย์ธีรภัทร์ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ เมื่อ 10 กรกฎาคม 2548 เจ็ดปีให้หลัง ผมอ่านแล้วผมก็สะดุ้งทั้งตัวเลย

อาจารย์ธีรภัทร์พูดอย่างนี้ "ในที่สุด ถึงวันที่จะไปจดทะเบียน ก็มีการประชุมว่า ควรจะไปจดทะเบียนวันไหน คุณทักษิณกำหนดวันที่ 14 กรกฎาคม ผมไม่ได้แย้ง แต่บอกข้อมูลว่า วันที่ 14 กรกฎาคม เป็นวันชาติฝรั่งเศส เป็นวันปฏิวัติฝรั่งเศสที่ล้มล้างระบอบกษัตริย์ ก็ต้องระมัดระวังว่าคนอาจจะคิดไปในทิศทางนั้นได้ ท่านก็บอกว่า ข้อมูลนี้ผมต้องไปคิดดูใหม่ ก็ประมาณสัปดาห์หนึ่งกลับมา ท่านบอกว่า ดีแล้วล่ะ วันนี้เหมาะสมที่สุด" ก็ไม่เข้าใจว่าเป็นเรื่องบังเอิญ หรือเป็นเรื่องที่ไตร่ตรองไว้แล้ว ก็สุดแล้วแต่พ่อแม่พี่น้องจะคิดกันเอาเองนะครับ ทีนี้ก็เลยย้อนกลับมาถึง

สโรชา - หลักการ

สนธิ - หลักการนะฮะ

สโรชา - ขอปฏิญญาฟินแลนด์ มีอยู่ 5 หลักด้วยกัน

สนธิ - 5 ข้อ อย่าลืมนะพ่อแม่พี่น้องว่า กลุ่มคนอกหัก 3 กลุ่ม เข้ามาผสมกัน แล้วกำหนดทิศทาง หลักการข้อแรก เขาพูดอย่างนี้ หลักการข้อแรกเขาบอกว่า ประการแรกเขาต้องเอามวลชน

สโรชา - ใช่ค่ะ

สนธิ - ต้องเอามวลชนเป็นพวก ซึ่งการเอามวลชนเนี่ย มันก็ไม่ผิดหรอก แต่ว่าวิธีการเอามวลชนั้น มันผิด คือเอาเงินไปซื้อมวลชน นะฮะ เอาเงินไปซื้อมวลชน เมื่อเอาเงินไปซื้อมวลชนแล้ว วิธีการก็คือ ต้องให้ได้มาซึ่งอำนาจก่อน ถึงจะซื้อมวลชนได้ ใช่ไหมฮะ เพราะฉะนั้นแล้ว ยุทธศาสตร์มวลชนเนี่ย ใครล่ะชำนาญ ก็พวกซ้ายอกหักทั้งหลายเนี่ย ชำนาญ ก็ลงไปข้างล่าง ไปจัดตั้งมาเรียบร้อย ต้องเข้าถึงระบบรากหญ้าให้ทั่วถึง
วิธีเข้าถึงระบบรากหญ้าก็คือว่า ควบคุมสื่อมวลชน ให้สื่อรายงานเฉพาะสิ่งซึ่งตัวเองต้องการรายงาน ลงไปให้หัวหน้าชุมชน หัวหน้าชุมชนเอาไปกระจาย คุณสโรชา รายการอย่างพวกเราถึงถูกปิดไง รายการคุณเจิมศักดิ์ก็ถูกยกเลิก รายการคุณอัญชลี ไพรีรัก ถูกยกเลิก ใครที่ไม่เห็นด้วยกับเขาที่จะเอาความจริงอีกด้านหนึ่งไปเสนอให้ถึงมวลชน เขาปิดหมด เอาประตูปิดหมดเลย เอาเฉพาะพวกเขาเข้าไป นะฮะ เอาให้หัวหน้าชุมชนรับนโยบายรัฐบาล ถ่ายทอดไปสู่ระบบรากหญ้า ซึ่งเป็นมวลชนใหญ่ของประเทศเขา นะ อันนั้นข้อ 1 นะ

หลักการที่ 2 คือ ระบบพรรคเดียว ในทางปฏิบัติ ให้มีพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียวในการปกครองประเทศ ไม่สังเกตเหรอ พอเขาขึ้นมา พรรคไทยรักไทย ซื้อพรรคความหวังใหม่ ซื้อพรรคเอกภาพ ซื้อพรรคชาติพัฒนา ซื้อหมดเกือบจะทุกพรรค ซื้อจนกระทั่งได้ 300 กว่าเสียง และล่าสุดก็ได้ 377 เสียง และแม้กระทั่งการเลือกตั้งที่ไม่เป็นประชาธิปไตยในวันที่ 2 เมษาฯ ถ้าไม่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ออกมาแก้วิกฤติเนี่ย พรรคไทยรักไทยก็ยังคงหน้าด้านที่จะอยู่ต่อโดยมีเสียงถึง 490 กว่าเสียง นั่นคือระบบพรรคเดียว ใช่ ไม่ใช่

สาม หลักการที่สาม ระบบทุนนิยม คือต้องให้ประชาชนหัวดำๆ ที่นั่งอยู่เนี่ย รากหญ้าเนี่ย บริโภคมากๆ

สโรชา - ใช้เยอะๆ

สนธิ - ใช้เยอะ ให้เป็นหนี้เป็นสินเยอะๆ ให้ใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ของฟุ่มเฟือยต่างๆ เสมือนยกระดับชีวิต คุณภาพชีวิตประชาชน และลงทุนในโครงการใหญ่ๆ และนี่คือจุดเริ่มต้นของที่มาหมู่บ้านละล้านบาทไงล่ะ ให้ใช้กันแล้วเป็นหนี้กันไง เมื่อเป็นหนี้แล้ว ก็เริ่มเอสเอ็มแอลใส่เข้าไปอีก เพื่อให้เป็นหนี้ต่อ พอเป็นหนี้ปั๊บก็ใส่อีกโครงการหนึ่ง เพื่อเอาโครงการใหม่ไปจ่ายโครงการเก่า เข้าใจหรือยังพ่อแม่พี่น้อง ให้เป็นหนี้กันทั่วเลย

สี่ ให้สถาบันพระมหากษัตริย์ ให้เป็นเพียงสัญลักษณ์ ให้เป็นเพียงสัญลักษณ์ โดยที่เขาทำข้อห้า คือปฏิรูประบบราชการ การปฏิรูประบบราชการนั้น คือการทำลายรากฐาน โครงสร้างของระบบราชการซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ใช่ ไม่ใช่ ให้พังทลายไปหมด ให้พังทลายเพื่อให้มีแนวทางมอบนโยบายทุกส่วน การกำกับการทุกอย่าง ให้ขึ้นตรงกับใคร นายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีแต่ผู้เดียว เพราะฉะนั้นแล้ว ผู้ว่าฯ รายงานตรงนายกฯ นายกฯ ลงไป ไม่งั้นแล้วนายกฯ จะลงไปที่อาจสามารถทำไม ใช่ ไม่ใช่ ลงไปด่าแม่นายอำเภอ

แล้ววันนี้อาจสามารถล้มเหลวไหม ล้มเหลวหมด แล้ววันนี้ใครเป็นข้าราชการจะเห็นบัตรประจำตัว เขียนว่าอะไร เจ้าหน้าที่รัฐ เพลงชาติใหม่ที่แกรมมี่แต่ง เห็นไหม แต่ว่าโดนค้านก็เลยเงียบไป เห็นไหม กระบวนการต่างๆ ที่เราสู้เพื่อในหลวง จำได้ไหม วันที่ 9 กันยาฯ ที่ผมถูกปิดรายการ แล้วต่อมา เพื่อปิดปากผม แจ้งความจับข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จำได้เปล่า จนกระทั่งมีพระราชดำรัสวันที่ 4 ธันวาคม ออกมา ถึงถอนแจ้งความ แล้ววันนี้ก็กลับมาอีกครั้ง ใช่ ไม่ใช่ นี่ล่ะคือปฏิญญาฟินแลนด์

สโรชา - คือทั้งหมดที่กล่าวมาเนี่ย เราสามารถเห็นตัวอย่างแต่ละข้อๆ ถูกปฏิบัติทั้งนั้นเลย ทั้ง 5 ข้อเลย ถูกไหมคะ

สนธิ - ใช่ครับ

สโรชา - ในการบริหารประเทศภายใต้พรรคนี้

สนธิ - ถูกต้องฮะ

สโรชา - แสดงว่าเราก็มีเหตุที่จะเชื่อได้ว่า ปฏิญญาฟินแลนด์มีจริง

สนธิ - คือ จริงๆ ปฏิญญาฟินแลนด์คือ ไม่ใช่ข้อตกลงล่ะ เป็นคล้ายๆ ว่า เฮ้ย ถ้าจะทำพรรคการเมือง ต้องทำอย่างนี้ๆๆๆ โดยที่ไม่สนใจถึงโครงสร้างวัฒนธรรมเก่าๆ จารีตประเพณี เหมือนอย่างที่ผม เหตุผลที่รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ โดนปลดวันที่ 9 กันยาฯ ก็เพราะว่าเราไปแตะต้องเรื่องพวกนี้ไง ไปแตะต้องเรื่องพวกนี้ซึ่งประชาชนไม่เคยมีใครรับทราบมาก่อนเลย จำได้เปล่า ถ้าไม่ใช่เมืองไทยรายสัปดาห์เริ่มพูด จริงๆ วันที่ 26 สิงหาฯ กับ 9 กันยาฯ แล้วเนี่ย ก็ไม่มีวันนี้ใช่ไหม เพราะเขากลัวที่สุด กลัวที่ผมจะเอาจุดอ่อนที่เขาทำขึ้นมาเนี่ย มาเผยแพร่ เปิดเผย แล้วก็ คุณสโรชาอีกนิดหนึ่ง พ่อแม่พี่น้องนึกดูนะ ที่ผมพูดมาเนี่ย มีคำพูดของอดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย ที่ จ.อุดรธานี ผมไม่อยากเอ่ยชื่อให้เป็นเสนียดกับปากผม

เมื่อเร็วๆ นี้ ขออนุญาตใช้คำว่า "มัน" ได้มั้ย มันบอกผ่าน มันพูดผ่านหน้าหนังสือพิมพ์ว่ายังไง พ่อแม่พี่น้อง จำได้ไหม มันพูดอย่างนี้ "พวกเรามั่นใจในนโยบายและตัวหัวหน้าพรรค" รู้ไหมพ่อแม่พี่น้องประชาชนในภาคอีสาน เขาบอกว่ากูเป็นเจ้าของประเทศ กูจะเลือกใครมาเป็นนายกฯ ก็ได้ เรื่องของกู นี่ไง นี่คือคำพูดของอดีต ส.ส.จังหวัดอุดรฯ พูดออกมาในหน้าหนังสือพิมพ์เลย แสดงว่าเครือข่ายพวกนี้เขาวางไว้หมดแล้ว ใช่ ไม่ใช่ ผมก็อยากจะบอก ขออนุญาตพ่อแม่พี่น้อง "มัน" กลับไป ว่าเรื่องของมึง ที่มึงใฝ่ต่ำ ยอมเป็นทาสนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร แต่ แต่ แต่มึงอย่ามาบังอาจอ้างเสียงที่มึงได้จากการซื้อ ทั้งซื้อด้วยเงินและซื้อด้วยนโยบาย รวมทั้งซื้อ กกต. มาบิดเบือนแล้วทำให้กระบวนการแก้วิกฤติโดยศาลที่ได้รับสนองกระแสรับสั่งพระเจ้าอยู่หัวฯ ต้องล่าช้าออกไป พวกกูอยากจะบอกมึงว่า "ระวังจะไม่มีแผ่นดินจะให้พวกมึงอยู่"

คุณสโรชา พ่อแม่พี่น้อง ยังไงๆ เราต้องขอบคุณ ขอบใจกิเลสที่พวกมันมีอย่างแรงกล้า และความหน้าหนาของไอ้พวกสิ้นคิด ที่เผยธาตุแท้ออกมาให้รู้ว่าคิดอะไรกันอยู่ ใช่ ไม่ใช่

สโรชา - ตลอดเวลาเลย

สนธิ - ตลอดเวลาเลย

สโรชา - มีออกมาเป็นระยะๆ คุณสนธิคะ เมื่อปลายๆ เดือนเมษายน ถ้าเกิดเราย้อนกลับไป มติชนรายสัปดาห์ พาดหัวไว้ เป็นที่ฮือฮาพอสมควรนะคะ ซึ่งได้พูดถึงกษัตริย์ของเนปาล และการที่พระองค์ท่านคืนอำนาจให้แก่ประชาชน จริงๆ แล้วเป็นเรื่องสดๆ ร้อนๆ เลยนะคะที่เพิ่งเกิดขึ้น

สนธิ - คือ พ่อแม่พี่น้องฮะ ผมเนี่ย รักและเคารพพี่ขรรค์ชัย บุญปาน พี่ช้างของผม พี่ช้างไม่รู้เรื่องๆ นี้น่ะ คนที่เอาเรื่องนี้ขึ้นปกเนี่ย คนที่คุมเรื่องจากปก และคุมปกเนี่ย คือพี่เถียรของผม เสถียร จันทิมาทร นะฮะ คือพี่เถียรนี่เป็นนักหนังสือพิมพือาวุโส แล้วก็เป็นกลุ่มเพื่อนสนิทของพวกภูมิธรรม เวชยชัย สนิทกับหมอมิงค์ สนิทกับพวกเกรียงกมล เลาหไพโรจน์ คือที่ผมคิดว่าไม่เหมาะสม ตรงไหนรู้ไหม ตรงที่ว่า เขียนคำว่า Case Study

สโรชา - Case Study

สนธิ - กรณีศึกษา มาศึกษาอะไรกัน กษัตริย์เนปาล กับกษัตริย์ไทย คนละเรื่องกันเลย ใช่ ไม่ใช่ พ่อแม่พี่น้อง ประวัติศาสตร์ของกษัตริย์เนปาลนั้น เป็นการแย่งชิงอำนาจกันในราชวงศ์ และกับขุนนาง แล้วกษัตริย์เนปาลนี้ ดึงอำนาจกลับไป เพื่อให้ตัวเองอยู่ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช แต่กษัตริย์ไทย พูดชัดใช่ไหม ว่า มาตรา 7 จะไม่ใช้ เพราะไม่เป็นประชาธิปไตย แล้วพระองค์ท่านใช้มาตรา 3
ทุกวันนี้ตามรัฐธรรมนูญ ใช่ ไม่ใช่ มาตรา 3 ว่าไง อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นผู้ใช้ผ่านสภาผู้แทนราษฎร ผ่านคณะรัฐมนตรี และผ่านตุลาการ เมื่อสภาฯ ไม่มี คณะรัฐมนตรียังรักษาการอยู่ ก็เลยต้องใช้อำนาจตุลาการ ใช่ ไม่ใช่ พระองค์ท่านออกมาต่อสู้ให้ประชาชนชาวไทย เพื่อให้มีการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ใช่ ไม่ใช่ ไม่ใช่เลือกตั้งพรรคเดียว ใช่ ไม่ใช่ แล้วจะไปเปรียบได้ยังไงว่าเหมือนกษัตริย์เนปาล ไอ้บ้า!

คือผมเป็นห่วง ผมเป็นห่วง คือบางทีทำอย่างนี้ ไปเขียนว่าเป็นกรณีศึกษา กรณีศึกษาเพื่ออะไร เพื่ออะไรกรณีศึกษา แล้วข้างในเนี่ย ข้างในเนี่ย ผมไม่รู้นะ ผมเป็นห่วงพี่เถียรของผม เสถียร จันทิมาทร เรื่องนี้จำเป็นต้องพูดฮะ ไม่พูดไม่ได้ เรื่องอยู่ตรงไหนเนี่ย (หาในหนังสือ)

สโรชา - ภาพที่เราขึ้นเมื่อสักครู่นี้นะคะ เป็นภาพที่คุณสนธิกำลังจะเปิดในตัวหนังสือมติชนรายสัปดาห์ วันที่ 28 เมษาฯ ที่ผ่านมาเนี่ยนะคะ ภาพนี้ล่ะค่ะ คือสิ่งที่เกิดขึ้นที่เนปาล จริงๆ แล้วเริ่มตั้งแต่ช่วงต้นปี 2549 เริ่มรุนแรงขึ้น เราจะได้ยินข่าวอยู่ตลอดเวลาว่ามีการประท้วงกันครั้งใหญ่ พรรคฝ่ายค้านทั้งหมด 7 พรรค รวมตัวกันนำประชาชนออกมาชุมนุมประท้วงตามท้องถนน และเกิดเป็นเหตุรุนแรงขึ้น จนกระทั่งในที่สุดแล้วกษัตริย์ของเนปาลตัดสินพระหฤทัยที่จะมอบอำนาจคืนให้กับประชาชน
และเมื่อวานนี้สภาของเนปาลเอง คือมอบอำนาจคืนแก่ประชาชนและรัฐสภา รัฐสภาเปิดขึ้นมาใหม่ ได้ผ่านร่างกฎหมาย และทำเป็นประกาศออกมา ลดพระราชอำนาจของกษัตริย์เนปาล และราชวงศ์ทั้งหมด นี่คือความเคลื่อนไหวที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง นะคะ

สนธิ - คือ ในเนื้อเรื่องเขาบอก กรณีศึกษา เมื่อเนปาลคืนอำนาจให้ประชาชน กรณีศึกษาอะไร กษัตริย์เนปาลยึดอำนาจไปเป็นอำนาจเพื่ออยู่ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช เรามีรัฐธรรมนูญที่มีประชาธิปไตย ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เรามีจารีตประเพณีที่ให้อำนาจพระมหากษัตริย์เป็นข้อๆ บางข้อก็ไม่ให้ บางข้อก็ให้ ใช่ ไม่ใช่ พระองค์ไม่เคยใช้อำนาจ นอกเหนือไปกว่าอำนาจที่รัฐธรรมนูญได้มอบให้พระองค์ท่านเลย คือถ้าพระองค์ท่านไม่ใช่กษัตริย์ที่มีความเป็นประชาธิปไตย พระองค์ท่านจะออกมาพูดได้ยังไงว่า การเลือกตั้งเพียงพรรคเดียว ไม่เป็นประชาธิปไตย แล้วยังพูดบอกว่า การปกครองแบบมั่วๆ แล้วจะให้กษัตริย์มั่วด้วยได้ยังไง ใช่ ไม่ใช่

ทีนี้ ถ้าเราสังเกตให้ดีๆ เนี่ย เวลาเราชุมนุมกันเนี่ย มีที่ชุมนุมที่นี้ที่เดียว แล้วที่ชุมนุมกู้ชาติของพันธมิตรฯ เท่านั้นน่ะ ที่ประชาชนมาฟังแล้วเสียเงินจ่ายค่าจานดาวเทียมให้ชาวบ้านเขา 5,000 บ้าง 5,500 บ้าง บริจาคกัน แต่ว่าฝ่ายตรงกันข้าม คือรัฐบาลเนี่ย เที่ยวเอาเงินไปเรียกคนโน้นคนนี้มา เมื่อเรียกเอาเงินคนโน้นคนนี้มา ผมถามคำซิ ผมเคยพูดเรื่องนี้มาก่อนนานแล้ว คุณ สโรชา ถ้าใครก็ตามที่มันบ้า เพี้ยน แล้วมันเอาเงินซัก 5,000 ล้าน เอาไปจ้างชาวบ้านออกมา ชาวบ้านที่เข้าไม่ถึงข้อมูลข่าวสาร แล้วถูกไอ้พวกบ้าๆ บางคนเนี่ยไปจัดตั้ง ออกมาพร้อมกันทั่วประเทศไทย แล้วก็มาชูป้ายสนับสนุนใครสักคนให้เป็นประธานาธิบดี มันทำได้ไหม (((ได้)))
เห็นไหม ผมถึงบอกพ่อแม่พี่น้องไง บอกมาตลอดไง ว่าข่าวสารข้อมูลเนี่ยต้องถึงมือประชาชน จริงๆ แล้วรากหญ้ากับคนที่นั่งอยู่ในนี้ ไม่ได้โง่กว่ากันหรือฉลาดกว่ากัน แต่คนที่นี่เข้าถึงข่าวสารข้อมูลได้มากกว่ารากหญ้า ใช่ ไม่ใช่ เห็นหรือยังพ่อแม่พี่น้อง เขาถึงปิดกั้นข่าวสารข้อมูลไว้หมดเลย เผอิญพ่อแม่พี่น้องโชคดี ที่ถึงจะถูกปิดกั้น แต่ก็ขวนขวายแสวงหา ผมจะบอกอะไรให้ฟัง มีไอ้บ้าคนหนึ่งอยู่ในสนามกอล์ฟ อย่าให้ผมเอ่ยชื่อ ตีกอล์ฟกับอดีตพลเอกคนหนึ่ง ได้บ้าเหมือนกัน แล้วก็พลเอกอีกคนหนึ่ง ในราชการ ไอ้บ้าเช่นกัน ไอ้บ้าที่ไม่ได้เป็นพลเอก พูดบอกว่า ทำยังไงก็ได้ให้เหมือนเนปาลก็แล้วกัน อย่าให้ผมเอ่ยชื่อว่าใคร

สโรชา - นอกจากหลายๆ ข้อความที่เราเคยเห็นหรือว่าได้ยินพวกเขากล่าวกันมาแล้วเนี่ยนะคะ เขายังเคยกล่าวถึงคำวินิจฉัยส่วนตัว

สนธิ - แล้วผมจะบอกให้รู้ เรื่องนี้นะ พ่อแม่พี่น้อง เรื่องนี้เนี่ยมีคนๆ หนึ่งเนี่ย ก้าวก่อนกาลเวลาไป คนนั้นคือท่านประเสริฐ นาสกุล พ่อแม่พี่น้องจำได้ไหม ท่านประเสริฐ นาสกุล

สโรชา - อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ

สนธิ - ท่านประเสริฐ นาสกุล เป็นอดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ที่เป็นตุลาการเสียงข้างน้อย ที่ตัดสินให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผิดเรื่องซุกหุ้น ท่านประเสริฐ นาสกุล วินิจฉัยว่าอย่างไร พ่อแม่พี่น้อง อยากฟังไหม ผมจะอ่านให้ฟัง ผมจะอ่านเป็นตอนๆ นะฮะ ท่านประเสริฐ นาสกุล วินิจฉัยเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า
เพราะผู้นำเข้ามุ่งแต่การมีระเบียบแบบแผนกฎหมาย และหวังในความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ขาดประสบการณ์ ไม่ทราบหรือคาดคิดมาก่อนว่าความรู้ที่นำมานั้น อาจจะก่อให้เกิดปัญหาทางการเมืองและเศรษฐกิจ และสังคม และเตรียมการป้องกันไว้ด้วย เช่น การประกอบธุรกิจแบบครอบครัว ได้พัฒนาเป็นห้างหุ้นส่วน บริษัทเอกชน และต่อไปจะมีตลาดกลาง ต่อไปนะฮะ พ่อแม่พี่น้องฟังให้ดีๆ
ผู้ถูกร้อง คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกร้องจะทราบความจริงนี้หรือไม่ก็ตาม แต่ได้กล่าว คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้กล่าวอย่างภาคภูมิใจและชัดถ้อยชัดคำว่า การที่ผู้ถูกร้อง คือตัวเขา ทักษิณ ชินวัตร ประกอบธุรกิจประสบความสำเร็จจนมีบริษัทในเครือและทรัพย์สินมากมาย โอนลอยหุ้นและใช้ชื่อบุคคลอื่นถือหุ้นแทนนั้น เป็นการประกอบธุรกิจตามปกติธรรมดาที่ใครๆ ก็ทำอย่างนั้น ทั้งๆ ที่การทำธุรกิจในระบบนายทุนของต่างประเทศเป็นการกระทำที่มุ่งแสวงหากำไร เป็นความโลภ และความฟุ่มเฟือย ฟุ้งเฟ้อ ไม่คำนึงถึงศีลธรรมและวัฒนธรรมอันดีของประเทศไทย
ฟังให้ดีๆ พ่อแม่พี่น้อง การกระทำของผู้ถูกร้อง คือ นายทักษิณ ชินวัตร ดังกล่าวข้างต้น ย่อมแสดงให้เห็นว่าผู้ถูกร้อง คือนายทักษิณ ซึ่งเป็นผลของอดีต และยังคิดและทำเหมือนเดิม เหมือนนักธุรกิจคนอื่นในระบบทุนนิยมในประเทศไทย แต่ยังคงเข้าใจผิดว่าแนวความคิดที่จะบริหารประเทศของผู้ถูกร้อง คือนายทักษิณ เป็นการคิดใหม่ ทำใหม่ ไม่เข้าใจสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมของชาติ ซึ่งแก้ไขไม่ได้ด้วยเงินอย่างเดียว

พ่อแม่พี่น้อง ตรงนี้ คือคำวินิจฉัยของท่านประเสริฐ นาสกุล ปัญหาของบ้านเมืองบางอย่างอาจแก้ไขได้โดยไม่ต้องใช้เงินทองเลย เพียงแต่ผู้นำของประเทศต้องประพฤติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดี โดยการคิด พูด และทำตรงกัน ชี้นำประชาชนในชาติว่าปัญหาของชาตินั้นอยู่ที่ทุกคนจะต้องร่วมมือร่วมใจกันแก้ไขด้วยการลดละ และเลิก ความเห็นแก่ตัว เป็นอันดับแรก ยิ่งทำมากและรวดเร็วเท่าใด จะสามารถนำพาชาติบ้านเมืองให้รอดพ้นจากภาวะวิกฤติ สู่ความเป็นปกติรวดเร็วมากขึ้นเท่านั้น หากไม่แก้ไขความเห็นแก่ตัวก่อนแล้ว เห็นว่าหมดหวัง เพราะไม่มีทางอื่นที่จะแก้ไขปัญหาของชาติในขณะนี้ เห็นหรือยัง

สโรชา - เขียนไว้ตั้งแต่ 3 สิงหาฯ ปี 44 นะคะ

สนธิ - 2544 3 สิงหาฯ ท่านประเสริฐ นาสกุล วินิจฉัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตรงเป๊ะเลย

สโรชา - ตอนนั้นพวกเรายังมัวเมากับมายาภาพที่ดีของคุณทักษิณอยู่ เดี๋ยวอีกสักครู่หนึ่งเราจะมีเอ็มวีให้ทุกๆ ท่านได้ชมกัน เป็นเอ็มวีที่กล่าวถึงพี่น้า...หนา ของเรา นะคะ คงไม่มีไม่ได้ เพราะตอนนี้ท่านอยู่ในกระแสมากๆ แล้วก็ เอ็มวีที่ 1 ต่อด้วยเอ็มวีที่ 2 เลย ไม่ทราบทันหรือเปล่านะคะ ทีมงานผู้จัดกวนเขาฝากมา

(((เอ็มวี "พี่หนา" + ปตท.)))

สนธิ - พ่อแม่พี่น้องครับ ที่บ้านมีใครเลี้ยงหมาบ้าง ยกมือหน่อยซิ

สโรชา - ทำไมเหรอคะ

สนธิ - ทดลองดู ทดลองดู พ่อแม่พี่น้อง ทดลองดู เวลามันนอนอยู่นี่นะ ลองตะโกนซิ “ชู่ว ไปๆ” พนันกับผมได้ ไม่เกิน 3 ครั้ง มันจะลุกเดิน แล้วก็เดินไปเลย พูดแค่นี้พอแล้วใช่ไหมฮะ พ่อแม่พี่น้อง ไม่เชื่อทดลองดู ไม่เกิน 3 ครั้ง “ไปๆๆ” เดี๋ยวมันลุก แล้วมันหันมาค้อนแล้วมันก็เดินไป

สโรชา - แต่... ไม่พูดต่อ คงเข้าใจ ว่าคนบางคนไล่ยังไงก็ไม่ไป มีประเด็นสุดท้ายนะคะที่พูดคุยกัน จริงๆ แล้วเป็นประเด็นที่คุณสนธินำมาเปิดเผยให้พวกเราได้ฟังกัน หลายต่อหลายครั้ง ตั้งแต่ปีที่แล้ว จนกระทั่งมาถึงปลายปี มาถึงต้นปี 49 จนกระทั่งยุคที่น้ำมันเบนซิน 95 เฉียดๆ 30 บาทต่อลิตร ตอนนี้ใครไปเติมน้ำมันเต็มถึงทีก็เลือดซิบที ตอนนี้เรามีตัวเลขล่าสุดนะคะว่า ปตท.เขาฟันกำไรไตรมาสแรกไปเท่าไรแล้ว

สนธิ - เอาอย่างนี้ดีกว่าพ่อแม่พี่น้อง ประเด็น ปตท.เนี่ย ผมอยากจะฝากให้ประชาชน สภาทนายความ ลองพิจารณาฟ้องศาลปกครองซิว่า การแปรรูปนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะว่าอะไร รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่หน้าด้านที่สุด

ผมเคยถามคำถามนี้ เขาไม่เคยกล้าตอบสักคนหนึ่ง ผมบอกว่า คุณตอบให้ผมฟังหน่อยได้ไหม ว่าไอ้กำไร ปตท.เนี่ย จะกี่บาทก็ตาม ช่างมันเถอะ ทำไมเราต้องแบ่งกำไร ปตท.เนี่ย วันนี้เนี่ย 49 เปอร์เซ็นต์ ให้กับเอกชน ซึ่งในทางเบื้องหลังก็คือพวกมันทั้งหลาย ที่แอบไปใช้กองทุนสิงคโปร์มาถือหุ้น พ่อแม่พี่น้อง ปีที่แล้ว ปตท.กำไร 90,000 กว่าล้านบาท ปีที่แล้ว ปตท.กำไร 90,000 กว่าล้านบาท ในราคาน้ำมันที่ไม่แพงเท่าปีนี้ เพราะฉะนั้นแล้วปีนี้สิ้นปีนี้ ปตท.ต้องกำไรประมาณ 120,000 ล้านบาท 120,000 ล้านบาท ต้องจ่าย 60,000 ล้านบาท ไปให้ไอ้ผู้ถือหุ้นเอกชน

ผมถามเขาว่า ทำไมไม่เอาไอ้ 60,000 ล้านเนี่ย เอามาลดราคาน้ำมันให้ประชาชน ถ้ายังเป็นของประเทศไทย 100 เปอร์เซ็นต์ เหมือนเดิม ใช่ไหม แล้วผมก็ถามว่า แล้วมึงแปรรูป ปตท.ไปหาบิดามึงทำไม นอกจากแปรไปเพื่อเอาเข้ากระเป๋าพรรคพวกตัวเอง นี่คือการคอร์รัปชั่นที่ใหญ่หลวงมาก เอาล่ะ พ่อแม่พี่น้อง ไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องราคาน้ำมัน เอาง่ายๆ ปตท.สผ. กินค่าคอมมิชชั่นในการสั่งซื้อน้ำมัน ปตท.ได้น้ำมันมา ส่งไปให้ไทยออยล์กลั่น ไทยออยล์กินค่ากำไรจากการกลั่น ส่งมาให้ ปตท.ขาย ปตท.กินกำไรจากการขาย ไอ้ 3 บริษัทนี่มันผูกกันไปผูกกันมา เป็น 3 เด้ง เราเนี่ยจ่ายค่าน้ำมัน 3 เด้ง แล้วไอ้ทั้ง 3 บริษัทนั้น เอกชนคือพวกบิดามารดาเขาแอบถือหุ้นกันในนามของกองทุนจากไอ้สิงคโปร์โตก

สโรชา - จำได้ไหมเนี่ย ชื่อเนี้ย

สนธิ - พ่อแม่พี่น้อง ฟังให้ดีๆ 2547 ปตท.กำไรเฉพาะค่ากลั่นน้ำมันนะ 636 ล้านบาท 2547 , 2548 ที่เพิ่งปิดบัญชีไปเมื่อ 5 เดือนที่แล้ว ปตท.กำไรจากค่ากลั่น ทายสิเท่าไหร่ 13,000 ล้าน นายกำไรเพิ่มจากการกลั่น 600 กว่าล้าน มาเป็น 13,000 ล้าน ได้ยังไง ไปติดทองคำอยู่ในกระบวนการกลั่นหรือยังไง หรือว่าสร้างห้องประชุมทำด้วยทองคำทั้งหลัง มันเป็นไปไม่ได้ พ่อแม่พี่น้อง มันเป็นไปได้ก็คือว่าสูบส่วนต่างตรงนี้ เพื่อให้กำไรมากขึ้น เข้าใจหรือยังพ่อแม่พี่น้อง นั่นคือที่มาของการที่มันบอกมันต้องอิงราคาน้ำมันจากใคร

สโรชา - สิงคโปร์

สนธิ - สิงคโปร์ ผมก็ถามกลับไม่รู้กี่ครั้ง จำได้ไหม บอก สิงคโปร์เป็นพ่อมึงหรือยังไงที่ต้องไปอิง

พ่อแม่พี่น้องครับ เหตุการณ์จับครูที่ทางภาคใต้ ผมจะบอกความลับให้ก็ได้ เป็นการสร้างสถานการณ์ของคนบางคน เป็นการสร้างสถานการณ์ของคนบางคนในการจับครูทางภาคใต้ เพื่อให้เห็นว่าภาคใต้วิกฤติ จริงๆ วิกฤติมาตลอดแล้วแก้ไม่ได้เลย ข่าวล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แจ้งว่าจะเข้าทำเนียบฯ วันจันทร์ เข้าไปเพื่อแก้ปัญหาใต้!

สโรชา - จะไปประชุมหน่วยงานทางด้านความมั่นคงวันจันทร์เช้า

สนธิ - ยังหน้าไม่อายอีก ปัญหาใต้เกิดขึ้นตั้งแต่ 4 มกราคม 2547 ตัวเองประชุมเอย ลงไปเอย เปลี่ยนคนเอย ก็ยังเหมือนเดิม ยังหน้าไม่อายที่จะเข้าไปประชุมวันจันทร์อีก พ่อแม่พี่น้องเข้าใจคำพูดที่ผมพูดหรือเปล่าเมื่อกี้ว่า การจับครู 2 คนนั้น เป็นการสร้างสถานการณ์ของคนบางคน เข้าใจแล้วใช่ไหม พ่อแม่พี่น้อง เดี๋ยวนี้พูดต้องระวังหน่อย เดี๋ยวต้องขึ้นศาลเพิ่มอีกหลายคดี

สโรชา - 30 กว่าแล้วนี่คะ ทำสถิติ

สนธิ - อ้าว ก่อนจบๆ สุดท้ายแล้วกัน แถมพกให้หน่อย

สโรชา - ค่ะ เรื่องอะไรคะ

สนธิ - พ่อแม่พี่น้องอ่านหนังสือพิมพ์หรือเปล่า ศูนย์ราชการแสนล้านน่ะ อ่านมั้ย คืออย่างนี้ สั้นๆ มีความคิดที่จะทำศูนย์ราชการที่แจ้งวัฒนะ มูลค่าเกือบแสนล้าน แจ้งวัฒนะเนี่ยมีที่ดินคนเยอะแยะไปหมดเลย มีหลายหมู่บ้าน เอสซี แอสเซท ก็มีที่ดินอยู่แจ้งวัฒนะ หมู่บ้านชินิชา ของคุณเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ก็อยู่ที่แจ้งวัฒนะ เอาล่ะ จะถือว่าบังเอิญก็ถือว่าได้อานิสงส์ไปแล้วกัน ไม่เป็นไร เอาเป็นว่าเขาจะสร้างศูนย์ราชการ เป็นที่รวมหน่วยราชการทั้งหมดไว้ที่แจ้งวัฒนะ เดิมทีเขาจะสร้างที่ไหนพ่อแม่พี่น้องจำได้ไหม

สโรชา - ที่ไหนคะ

สนธิ - นครนายก จำได้ไหม ปรากฏว่า ไปปั่นที่ขายที่กันเรียบร้อยแล้วก็หยุดสร้าง แล้วต่อมาว่าจะทำเมืองอะไรจำได้เปล่า สุวรรณภูมิ จำได้มั้ย เพื่อผ่องที่ดินของพรรคพวกตัวเองให้ออกให้หมด พอจะไปสร้างที่แจ้งวัฒนะเนี่ย ต้องใช้เงินหลายหมื่นล้าน ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เมื่อไม่นานมานี้ พูดอย่างชัดเจน บอกว่าอะไร บอกว่างบประมาณการลงทุนขนาดนี้จะทิ้งเอาไว้ให้รัฐบาลหน้าเป็นคนตัดสินใจ จำได้เปล่า
แล้วพ่อแม่พี่น้อง เมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว คณะรัฐมนตรีรักษาการหน้าด้าน หน้าหนา อนุมัติให้มีการลงทุนการก่อสร้างศูนย์ราชการที่แจ้งวัฒนะ แล้วบริษัทไหนได้บ้าง 2 บริษัท ซิโนไทย เนี่ยของใคร อนุทิน ชาญวีรกูล ก็คือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข อิตาเลียน-ไทย ของใคร ของเจ้าของซีทีเอ็กซ์ไงเล่า พ่อแม่พี่น้องจำไม่ได้เหรอ อีซีทีเอ็กซ์น่ะ อย่าลืมสิ แหม ผิดหวังจริงๆ เป็นแฟนพันธุ์แท้กันมาตั้งกี่เดือนแล้ว อย่าไปลืม อิตาเลียน-ไทย ซีทีเอ็กซ์ กลัวว่ารัฐบาลชุดใหม่ถ้ามาแล้วจะอดรับประทานคอมมิชชั่น ใช่ ไม่ใช่ ก็เลยรีบอนุมัติกัน เห็นหรือยังพ่อแม่พี่น้อง มันไม่บันยะบันยังกันเลยนะแม้แต่นิดเดียว แม้แต่รักษาการก็ยังหน้าด้านที่จะทำอยู่ ใช่ ไม่ใช่ แล้วเอามันไว้ได้ไหมพ่อแม่พี่น้อง

สโรชา - ทิ้งท้ายกันเล็กน้อย เอ๊ะ กระซิบกันหลังเวทีว่า เสื้อ

สนธิ - เดี๋ยว คุณจะทำให้ผมโดนทึ้งเหรอ เดี๋ยวเถอะ

สโรชา - เดี๋ยว อาทิตย์หน้าแล้วกันนะคะ อาทิตย์หน้าแอ้มเสนอว่า ช่วงท้ายเรามาเล่นเกมกันดีกว่า

สนธิ - เกมอะไร

สโรชา - เกมอะไรก็ได้ เดี๋ยวเราคิดกันอีกทีหนึ่ง แล้วก็ รางวัลเนี่ยคือเสื้อที่คุณสนธิใส่ ดี ไม่ดี

สนธิ - ความจริงเสื้อตัวนี้ผมใส่วันนี้ ผมเซ็นชื่อไว้แล้วนะ ผมเขียนว่า 20 พฤษภาฯ 49 สวนลุมพินี แต่ผมเห็นหน้าตาพ่อแม่พี่น้องแล้วผมกลัว ผมไม่กล้าให้ ผมไม่รู้จะให้ใครดี เพราะเยอะเหลือเกิน นะฮะ ถ้าผมขว้างลงไปในหมู่เนี่ยจะมีการแย่งกันหรือเปล่าเนี่ย

สโรชา - แหม เหมือนเวทีคอนเสิร์ตเลย เดี๋ยวช่วงสุดท้ายเช่นเคยนะคะ เรามาร่วมกันขับร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีค่ะ เชิญค่ะ

สนธิ - ครับ เพลงสรรเสริญพระบารมี
กำลังโหลดความคิดเห็น