“นิพนธ์ วิสิษฐยุทธศาสตร์” ขอร่วมขบวนขย่ม”ทักษิณ” แทรกแซงเลือกประธานวุฒิสภา เจาะจงให้ให้ “สุชน” นั่งเก้าอี้ แฉ “แม้ว” ส่งคนเจรจาให้ถอนตัวชิง ปธ.วุฒิฯ เมื่อ 2 ปีก่อน
ในระหว่างสัมมนาเรื่อง “เปิดพฤติกรรมและกระบวนการทุจริต”ของคณะกรรมาธิการวิสามัญสอบและศึกษาเรื่องเกี่ยวกับการทุจริต นายนิพนธ์ วิสิษฐยุทธศาสตร์ รองประธานวุฒิสภา ได้แฉถึงการล็อบบี้ให้ถอนตัวจากการชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภาแข่งกับนายสุชน ชาลีเครือ ประธานวุฒิสภา
นายนิพนธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการกล่าวหาว่าตนเป็นนินจา และรับเงินจาการถอนตัว 20 ล้าน ซึ่งตนไม่สะทกสะท้าน เพราะตลอดชีวิตการเป็นนักการเมืองตั้งแต่เป็น ส.ส. ไม่เคยรับเงินจากพรรคการเมืองหรือหัวหน้ากลุ่มใดๆ นอกจากเงินเดือน ส.ส. หรือแม้กระทั่ง เป็น ส.ว.ก็ไม่เคยรับเงินเดือนใคร ซึ่งในช่วงนั้นเพื่อน ส.ว.ก็ทราบว่าตนได้หาเสียงเพื่อลงชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภาไม่เคยคิดลงตำแหน่งรองประธาน และสาเหตุที่ตนต้องถอนตัวก็ถูกปิดเป็นความลับมานาน
“ความจริงก็ได้รับการทาบทามจากหลายคนให้ถอนตัว แต่ผมก็บอกว่าไม่ถอนตัว เพราะการแพ้ชนะก็เป็นเรื่องที่ ส.ว.จะตัดสินใจ แต่จู่ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์ให้มาพบกันหน่อย ขอร้องให้ผมถอนตัวจากการชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา จากการไปเจรจา โดยบุคคลคนนั้นบอกว่าได้รับการขอร้องมาจากนายกรัฐมนตรีว่าให้เจรจาให้ผมถอนตัวแล้วให้ไปลงรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 แทน ซึ่งผมก็ไม่ได้รับเงื่อนไขอะไร แต่ได้ใช้เวลาตรึกตรอง ซึ่งผมก็ถอนตัวเนื่องจากคนที่ถูกขอร้องสนิทผูกพันกับผมมาก และคงจะช่วยผมหาเสียงให้ลำบาก เพราะเขายังมีธุรกิจที่ต้องขอลายเซ็นจากรัฐบาล นอกจากนั้นกังวลว่าอำนาจรัฐบาลตอนนั้น ใครคงจะทานไม่ไหว เราเป็น ส.ว.ตัวเล็กๆ ก็ไม่มีทางสู้ เขาต้องใช้ทุกวิถีทาง แม้แต่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯยังยอมเป็นรองนายกฯ หรือแม้นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯยังสู้ไม่ไหว” นายนิพนธ์ กล่าว
นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า ตนได้ไตร่ตรองอยู่นาน ในที่สุดตนก็ถอนตัวเพราะเห็นปัญหาหลายอย่าง เมื่อคนระดับนั้นอยากให้ใครเป็นเราคงทานไม่ได้ และมีการเจาะจงตัวบุคคล ให้ นายสุชน เป็นประธานวุฒิสภา ถือเป็นการแทรกแซงวุฒิสภาโดยตรง ซึ่งเหตุที่ต้องการให้นายสุชนเป็น ตนฟังมาว่าไม่ต้องการให้ใครมาขัดขวาง อย่างตนคงสั่งไม่ได้ และที่สำคัญตนเป็นเพื่อนกับนายกฯชวน หลีกภัย
ในระหว่างสัมมนาเรื่อง “เปิดพฤติกรรมและกระบวนการทุจริต”ของคณะกรรมาธิการวิสามัญสอบและศึกษาเรื่องเกี่ยวกับการทุจริต นายนิพนธ์ วิสิษฐยุทธศาสตร์ รองประธานวุฒิสภา ได้แฉถึงการล็อบบี้ให้ถอนตัวจากการชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภาแข่งกับนายสุชน ชาลีเครือ ประธานวุฒิสภา
นายนิพนธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการกล่าวหาว่าตนเป็นนินจา และรับเงินจาการถอนตัว 20 ล้าน ซึ่งตนไม่สะทกสะท้าน เพราะตลอดชีวิตการเป็นนักการเมืองตั้งแต่เป็น ส.ส. ไม่เคยรับเงินจากพรรคการเมืองหรือหัวหน้ากลุ่มใดๆ นอกจากเงินเดือน ส.ส. หรือแม้กระทั่ง เป็น ส.ว.ก็ไม่เคยรับเงินเดือนใคร ซึ่งในช่วงนั้นเพื่อน ส.ว.ก็ทราบว่าตนได้หาเสียงเพื่อลงชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภาไม่เคยคิดลงตำแหน่งรองประธาน และสาเหตุที่ตนต้องถอนตัวก็ถูกปิดเป็นความลับมานาน
“ความจริงก็ได้รับการทาบทามจากหลายคนให้ถอนตัว แต่ผมก็บอกว่าไม่ถอนตัว เพราะการแพ้ชนะก็เป็นเรื่องที่ ส.ว.จะตัดสินใจ แต่จู่ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์ให้มาพบกันหน่อย ขอร้องให้ผมถอนตัวจากการชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา จากการไปเจรจา โดยบุคคลคนนั้นบอกว่าได้รับการขอร้องมาจากนายกรัฐมนตรีว่าให้เจรจาให้ผมถอนตัวแล้วให้ไปลงรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 แทน ซึ่งผมก็ไม่ได้รับเงื่อนไขอะไร แต่ได้ใช้เวลาตรึกตรอง ซึ่งผมก็ถอนตัวเนื่องจากคนที่ถูกขอร้องสนิทผูกพันกับผมมาก และคงจะช่วยผมหาเสียงให้ลำบาก เพราะเขายังมีธุรกิจที่ต้องขอลายเซ็นจากรัฐบาล นอกจากนั้นกังวลว่าอำนาจรัฐบาลตอนนั้น ใครคงจะทานไม่ไหว เราเป็น ส.ว.ตัวเล็กๆ ก็ไม่มีทางสู้ เขาต้องใช้ทุกวิถีทาง แม้แต่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯยังยอมเป็นรองนายกฯ หรือแม้นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯยังสู้ไม่ไหว” นายนิพนธ์ กล่าว
นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า ตนได้ไตร่ตรองอยู่นาน ในที่สุดตนก็ถอนตัวเพราะเห็นปัญหาหลายอย่าง เมื่อคนระดับนั้นอยากให้ใครเป็นเราคงทานไม่ได้ และมีการเจาะจงตัวบุคคล ให้ นายสุชน เป็นประธานวุฒิสภา ถือเป็นการแทรกแซงวุฒิสภาโดยตรง ซึ่งเหตุที่ต้องการให้นายสุชนเป็น ตนฟังมาว่าไม่ต้องการให้ใครมาขัดขวาง อย่างตนคงสั่งไม่ได้ และที่สำคัญตนเป็นเพื่อนกับนายกฯชวน หลีกภัย